CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    มีเรื่องอยากมาเล่าให้ฟังค่ะ..ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างก็บอกกันหน่อยนะคะ..

    เรามีเพื่อนผู้หญิงอยู่คนหนึ่งค่ะ มองภายนอกนั้น
    เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่ดูดีคนหนึ่ง ไม่สวยมาก
    แต่ก็หน้าตาใช้ได้..

    เธอเป็นคนชอบแต่งตัวมากๆตามแบบฉับบ
    ของผู้หญิงโดยแท้..ที่ต้องรักสวยรักงาม

    วันที่ 28 เม.ย. 49 ที่ผ่านมา
    เราได้ไปเที่ยวบ้านเธอที่ต่างจังหวัดมาค่ะ
    ไปกัน 5 คน มีพ่อแม่ของเธอ ตัวเธอ
    เพื่อนผู้หญิงอีกคน แล้วก้อเรา

    ตอนที่เรียนหนังสืออยู่ด้วยกัน เราเคยได้ยิน
    เพื่อนๆพูดกันว่าพ่อกับแม่ของเธอคนนี้ไม่ธรรมดานะ
    ค่อนข้างเจ้าระเบียบมากๆ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร
    เพราะเราเองไม่เคยเจอกับตัวเองนี่

    ก่อนจะไปต่างจังหวัด เพื่อนเจ้าของบ้านบอกว่า
    ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะก็ได้ บ้านเรามีเครื่องซักผ้า
    มีเตารีด..ไปรีดบ้านเราก็ได้ แต่เราก็เตรยมไปพอสมควร
    เพราะไปอยู่หลายวัน

    และบอกเรากับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่จะไปด้วยกันว่า
    พวกเธอเสียแค่ค่าตั๋วรถไฟไป - กลับก็พอ
    เรื่องกิน - เที่ยว และที่พักฟรีหมด..
    ( พวกเราก็ดีใจกันสิคะ)

    พอไปถึงวันแรก พ่อกับแม่เขาก็พาเราไปไหว้พระ
    2 - 3วัด จากนั้นก็พาไปกินข้าวที่ห้างแห่งหนึ่งในตัวเมือง
    ด้วยความที่เป็นตอนเที่ยงพอดี คนเลยเยอะมากๆ
    และเรากับเพื่อนก็หิวมากด้วย
    เนื่องจากตอนเช้ากินแค่ขนมปังกับนมเท่านั้น

    แม่เพื่อนเราเห็นคนเยอะเลยพูดประมาณว่า
    " คนเยอะมากๆ เราไปยืนหลบตรงนั้นก่อนดีกว่า
    รอให้คนน้อยๆก่อนแล้วค่อยเดินมานั่งกินกัน"

    เราได้ยินแล้วเรางงมากๆ เพราะถ้ารอให้คนน้อย
    เมื่อไหร่จะได้กิน ถ้าไม่มองหาโต๊ะไว้ก่อนก็ไม่มีโอกาส
    จะได้กินหรอก
    เราเลยเดินไปรอบๆดูว่าโต๊ะไหนคนกินเสร็จแล้วบ้าง

    พอเราหาที่นั่งได้ เราก็ส่งเสียงเรียกพวกเขาให้มานั่งตรงนี้
    แม่เค้าก็ทำท่าไม่พอใจเรา ที่เราพูดเสียงดัง
    เราก็งงๆว่าทำไมต้องไม่พอใจ..เสร็จแล้ว
    เราก็ไปซื้อข้าวคนแรก..ในใจเราคิดว่าเออ
    เราออกค่าข้าวไปก่อนแล้วกัน..
    เดี๋ยวแม่เค้าคงให้เงินเราเอง
    เพื่อนที่ไปด้วยกัน บอกว่า
    " ทำไมไม่ให้แม่เค้าออกให้ล่ะ" เราบอกว่า
    " ออกไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวแม่เค้าคงให้เงินทีหลังมั้ง"
    ปรากฏว่าแม่เค้าก็ไม่ได้ให้ค่ะ
    เพื่อนเราที่เป็นเจ้าบ้านก็ไม่เอ่ยปากอะไรเลย
    โชคดีที่อาหารราคาไม่แพงมาก
    เราเองก็ไม่อยากคิดไรมาก..ถือว่าเล็กน้อย

    หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็พาไปที่ห้วยแห่งหนึ่ง
    ซึ่งเรากับเพื่อนเห็นแล้วอยากเล่นน้ำมากๆ
    แต่แม่เพื่อนเจ้าบ้านบอกว่า
    "คราวนี้อย่าเพิ่งเล่นเลย ไว้คราวหลังค่อยมาเล่น
    แล้วบอกว่า จะเล่นทำไม เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้"

    เพื่อนเราที่ไปด้วยกันคนหนึ่งบอกเราว่า
    " จะบ้าเหรอ ถ้าไม่เล่นคราวนี้จะให้เล่นคราวไหน
    พามาเที่ยวแล้วไม่ให้เล่นได้ไงวะ เสียอารมณ์หมด"

    เพื่อนเราที่เป็นลูกเค้า มันไม่เล่นอยู่แล้ว
    เพราะมันไหว้น้ำไม่เป็น แม่มันก็ด่ามัน
    เหมือนด่าเรากับเพื่อนอีกคนนั่นแหละว่า
    เล่นอะไรเป็นเด็กๆ

    แต่เราเพื่อนเราคนที่อยากเล่นมันก็พาเราลงเล่นน้ำจนได้
    เพราะความที่มันอยากเล่นจัด
    มันเลยขอพ่อเพื่อนเรา..เขาเลยบอกว่า
    เออ ให้เล่นได้แป๊บนึง วันนั้นก็สนุกสนานไปจนหมดวัน

    พอกลับมาถึงบ้าน แม่เค้าก็บังคับให้พวกเรา 3 คน
    กินยาพารา กับยาแก้แพ้อากาศ เพื่อนเราเจ้าของบ้าน
    ยอมกินโดยดี เพื่อนอีกคนกินแต่ยาแก้แพ้อากาศ
    เพราะมันบอกว่ามันกินยาพาราแล้ว..ส่วนเรา
    ไม่กินค่ะ แม่ก็บังคับอยู่นั่นแหละ ว่าให้กินไป
    เดี๋ยวไม่สบาย หึ .. ก้ให้เราไม่สบายก่อนสิ ค่อยให้กิน
    นี่เราไม่ได้เป็นไรซะหน่อยอ่ะ..ทำไมต้องมาให้เรากิน

    มีวันนึง เราเกิดไม่สบาย ตอนประมาณตี 2
    ตัวเราชาไปหมด..เหมือนเป็นเหน็บชา
    เราตกใจมากๆ..ก็ปลุกเพื่อนเรา..พอปลุกเสร็จ
    เราก็วิ่งลงมาข้างล่าง มาปลุกพ่อเพื่อน ว่าเราแย่แล้ว
    เป็นไรไม่รู้ตัวชาไปหมดเลย..
    เพื่อนก็ไปปลุกเพื่อนเจ้าของบ้านแล้วก็ลงมาข้าง
    มาเรียกรถไปโรงบาลให้ คุยกันเสียงดังมากๆ ทุกคน
    ในบ้านตื่นกันหมด ยกเว้น แม่เพื่อนเรา ไม่ตื่น

    เราไปโรงบาล หมอเจาะเลือดเราไปตรวจ
    เค้าก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าเราเป็นอะไร
    ให้ยาบำรุงประสาทมากิน แต่เราไม่กินนะ
    เพราะหมอยังระบุโรคเราไม่ได้เลย จะกินได้ไง
    เรากลัวอ่ะ

    จนเย็นของอีกวันเราเพิ่งจะพบหน้าแม่ของเพื่อนเรา
    เพราะตอนเช้า แม่เข้าไปเที่ยวกับลูกเค้า
    ซึ่งก็คือเพื่อนเรานั่นแหละ...ไม่ถามเราซักคำว่าหายยัง
    เป็นไงมั่ง ทั้งแม่ทั้งลูกเลย

    ( เราเลคุยกับเพื่อนเราว่า แหม..แม่เค้าห่วงใยเราเหลือเกิน
    ดูแลกรูอย่างดีเลยอ่ะ  ทราบซึ้งมาก ทำเหมือนกรูไม่มีชีวิต
    จิตใจเลยเนอะ ดูแลเพื่อนลูกดีจริงๆ)

    เปล่าหรอก ที่จริงเราร้องไห้เลย รู้สึกอัดอั้น
    เราป่วยอยู่เราต้องการกำลังใจ
    ทำไมเค้าไม่กระตือรือร้นพาเราไปโรงบาล
    ถ้าเราไม่ได้เพื่อนที่ไปด้วยกันจะทำไง

    พ่อเพื่อนเราแกเป็นโรคหัวใจ พอเราบอกแก
    แกก็หายใจเร็ว ตัดสินใจไม่ถูก เพื่อนเราที่เป็นเจ้าของบ้าน
    ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  แม่ก็ไม่โผล่ออกมาดูเลย

    เราอยากกลับบ้านมากเที่ยวไม่สนุกเลย

    มีวันหนึ่ง พี่น้องของแม่เพื่อนจะมาเยี่ยมบ้าน
    จะมาทานข้าวด้วย แม่เพื่อนเราไปไหนก็ไม่รู้
    ปล่อยให้ พ่อเค้า กับลูก และเพื่อนลูกรับหน้าแขกกัน

    พอแขกมาถึง ก็เอามะม่วงสุกมาให้ปอก
    เอาไก่ทอดมาให้สับ เรียกร้องจะเอาจาน
    เอาชาม เอาแก้ว อะไรต่ออะไร

    พ่อก็เอามะม่วงมาปอก แล้วบอกว่า " สับไก่ได้มั้ยลูก"
    " เราบอกได้ค่ะ"  เราก็บอกเพื่อนว่า " เขียงอยู่ไหน"
    " ไม่รู้" เพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านตอบ"
    " มีดล่ะ"  
    " ไม่รู้" คนเดิมตอบ พ่อก็เลยเป็นคนมาหยิบให้
    พอเราลงสมือสับ เพื่อนก็บอกว่า ระวังมือนะ
    ยืนให้กำลังใจเรานั่นเอง เสร็จ แขกต้องการ จานชามเพิ่ม
    เราบอว่า ไปหยิบให้เขาสิ มันบอกว่า " ไม่รู้อยู่ไหน"
    " เราก็เลยเดินหา พอเจอเราก้เลยเอามาล้าง
    เพราะฝุ่นติดเต็มเลย ล้างเสร็จก็ให้เขาไป

    เพื่อนเราอีกคนพอมันช่วยพ่อปอกมะม่วงเสร็จ
    ก็เดินมาหามเราบอกว่า
    "กรูไม่ใช่คนรับใช้นะ มันมากเกินไปแล้ว"
    เราเลยบอกว่า
    "ช่างมันเหอะ ทำเพื่อป๋า(พ่อเพื่อนเรา)ไปเหอะน่าสงสาร
    แกออก เมียก็ไม่รู้อยู่ไหน ลูกก็ทำอะไรไม่เป็นเลย
    ปอกมะม่วงไม่เป็น สับไก่ก็ไม่ได้ ล้างจานก็ไม่เคยจะล้าง
    ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ ยังไม่เคยเห็นมันล้างจานเลย สักครั้งเดียว

    ของอะไรอยู่ไหนบ้างยังไม่รู้เลย
    พวกแขกที่มาก็ไม่ช่วยอะไรเลย
    รอจะกินอย่างเดียว พอพอกินเสร็จ
    ยายเพื่อนเราก็บอกเราว่า หยิบกระดาษ
    ทิชชู่ให้หน่อยสิ น้ำด้วยนะ เราก็เดินไปหยิบมา

    ยายบอกว่า " เอ้า แกแจกให้ทุกคนเขาสิ"
    " เราเลยบอกว่า ฉีกกันเองเถอะค่ะ
    หนูไม่รู้ว่าใครต้องการเท่าไหน"
    ญาติเค้าที่มากินข้าวก็ทำหน้าไม่พอใจ
    ดึงกระดาษทิชชู่จากเราไปเลย
    เราก็สะใจเลยค่ะ...แหม อุตส่าห์เอามาให้แล้วยัง
    ต้องดึงกระดาษให้ด้วยเหรอ...

    อีกวันหนึ่งเราต้องการซักผ้า เราก็บอกแม่เค้าว่า
    "หนูจะซักผ้าค่ะ" แม่เค้าก็ทำหน้าไม่พอใจ
    แต่ก็บอกว่า อะไรอยู่ตรงไหนให้เราทำเอง
    เราซักผ้า ส่วนเพื่อนเจ้าของบ้านไปขี่จักรยานเล่น

    ซักเสร็จ อีกวันหนึ่งเราเก็บผ้ามาจะรีด แม่เค้าก็บอกว่า
    จะรีดทำไม รีดอะไรนักหนา อ้าว มาอยู่ตั้ง 7 วันนะคะ
    จะไม่ให้รีดเลยเหรอ เรางงเลย แต่เค้าก็ทำหน้าไม่พอใจ
    เราเลยค่ะ เราเลยงงว่า เราขอรีดผ้านี่เราผิดมากเหรอ
    เพื่อนเราเจ้าของบ้านก็ไม่บริการเลย
    ไม่ช่วยเหลือเลยด้วย ให้เราช่วยเหลือตัวเองตลอด

    เพื่อนเราอีกคนที่ไปด้วยกันพูดถึงเพื่อนคนนั้น
    กับเราว่า
    " กรูเห็นมันแต่งตัวสวยๆแล้วก็ปลงว่ะ ดีแต่แต่งตัว
    แต่ไม่เคยทำอะไรเลยสักอย่าง เป็นที่พึ่งพาให้เพื่อนก็ไม่ได้ บ้านตัวเองแท้ๆ ทำไมไม่รู้เรื่องอะไรเลย"

    อีกวันเค้าก็พาไปเที่ยวนะ พอเที่ยง
    เราก็ถามแม่ว่า
    " แม่คะ เราจะกินข้าวกันเมื่อไหร่ หนูหิวข้าวแล้ว"
    แม่เค้าบอกว่า
    " อย่าเพิ่งกินเลย เดี๋ยวเดินดูที่นี่ก่อนสักแป๊บนึง"
    เค้าทำหน้าไม่พอใจเรามากๆ เพื่อนเราที่เป็นลูกเค้า
    บอกว่า " แม่..หนูก็หิวแล้ว เรากินข้าวก่อนเหอะ"

    เท่านั้นแหละแม่ถึงพาไปกิน เราเดินเข้าร้าน
    นำลิ่วเลยเพราะว่าหิวมากๆ แล้วก็ส่งเสียงเรียก
    พี่นักงาน " พี่คะ ขอเมนูหน่อย"
    แม่เค้าก็ทำหน้าไม่พอใจเราอีก

    เสร็จแล้วเราก็สั่งอาหารที่เราอยากกิน
    พอสั่งเสร็จ เราก็ถามแม่เพื่อนว่า จะทานอะไรคะ
    แม่เค้าก้อบอกว่า เดี๋ยวก่อน
    เราก็หันไปหาเพื่อนบอกว่าจะสั่งอะไร เพื่อนก็บอก
    ขอข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ แล้วก็อาหารอีกสอง - สามอย่าง
    เราก็หันไปหาแม่อีกครั้ง ถามว่าจะเอาอะไร
    แม่เค้าก็ พูดประมาณว่า
    " ก็สั่งข้าวเหนียวมาแล้ว ตั้ง 2 กระติ๊บ จะให้เอาอะไรอีก"
    (ขึ้นเสียงนิดๆ ไม่พอใจเราอีกแล้ว) จนบัดนี้เรายังไม่รู้เลยว่า เราทำอะไรผิดนักหนา...

    พอลงมือกินสักพัก.. เราก้ตะโกนเรียกพี่พนักงาน
    บอกว่า " พี่คะ ขอน้ำแข็งเพิ่มหน่อยนะคะ"
    " พี่คะ ของถ้วยใส่น้ำจิ้มด้วย"
    " ขอกระดาษทิชชูด้วยนะคะ"

    เสร็จแม่เค้าก็บอกว่า
    " ทีหลังจะเอาอะไร ไม่ต้องเรียกเขาหรอก เดินไปหยิบเองเลย พูดมากจัง" (แป่ว) ว่าเราพูดมากอีก
    แล้วเราจะรู้ไหมว่าเดินไปเอาที่ไหนบ้าง

    กินเสร็จจะเก็บตังค์...แม่เค้าบอกว่า
    ไม่ต้องเรียกพี่เค้านะ ให้เค้าหันหน้ามาก่อน
    แล้วค่อยกวักมือเรียก เชื่อป่ะ
    เรารอนานมากๆ เพราะพนักงาน ไม่มีใคร
    หันหน้ามาสบตาสักคน..เขาทำงานกันทุกคน
    เราเลยตัดสินใจเรียก.." พี่ค่ะ เก็บตังค์ด้วย"

    นั่นแหละ ถึงไปออกจากร้านได้
    ไม่งั้นเราตั้องนั่งในร้านไปอีกนานแค่ไหนยังไม่รู้

    สาวน้อยปะแป้ง
    มีเรื่องอีกเยอะเลยอ่ะ..แต่เราขี้เกียจเล่าและ

    สรุปว่า เราไปเที่ยวหรือเราไปเป็นคนรับใช้เค้าก็ไม่รู้
    เที่ยวไม่สนุกเลยจริงๆ

    ฟังแล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ อยากมีเพื่อน
    แบบเพื่อนเรามั้ย..??

    เล่าให้ฟังเฉยๆนะคะ..
    บางครั้งเราคิดว่าการกระทำเราแปลก
    หรือว่าการกระทำของแม่เพื่อนที่แปลก
    เรื่องไปเที่ยวครั้งนี้ จะอยู่ในความทรงจำเรา
    ไปอีกนานแน่ๆ อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้คน
    มากขึ้นนั่นแหละเนอะ

    ** ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เค้ามาอ่านค่ะ
    อ่านแล้วไม่เขียนอะไรเราก็ไม่ว่าหรอกค่ะ
    แต่ถ้าเขียนหน่อย..จะดีมากเลยค่ะสาวน้อยปะแป้ง
    แล้วจะเข้ามาอ่านค่ะ

    จากคุณ : kanomping - [ 7 พ.ค. 49 12:07:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป