ความคิดเห็นที่ 1 มาพูดถึงความหมายกันก่อน Kefir (kĕ-fîr') คีเฟอร์ หรืออ่านให้เดิ้นขึ้นนิดว่า  เคะ-เฟียร์ นิยามความหมายตามพจนานุกรมว่า เป็นนมข้นๆที่ได้จากการหมัก โดยมีรากศัพท์มาจากภาษาTurkish ว่า keif ซึ่งแปลว่า โอ้วว คิมูจิ้ รู้สึกดีจัง อะไรประมาณนั้น (บางตำราคาดว่ามาจากคำ köpür (ภาษา Turkic) ที่แปลว่า ฟองนม หรือนมที่เป็นฟอง) โดยต้นกำเนิดของคีเฟอร์นั้นเชื่อว่ามาจากเทือกเขาCaucasus ตอนเหนือ (แถวๆรัสเซีย จอร์เจีย ตุรกี) โดยชาวมุสลิมเชื่อว่าเป็นของขวัญจากอัลลอะห์ และเม็ดคีเฟอร์นั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามาก รวมทั้งกระบวนการหมัก ซึ่งต้องเก็บเป็นความลับมาหลายชั่วอายุคน แต่ช่วงต้นของยุค 1900 รัสเซียก้อล้วงความลับนี้ออกมาจนได้ (ล้วงออกมาได้ยังงัยอ่านเองละกันนะครับ เดี๋ยวทิ้งลิ้งค์ไว้ให้ด้านล่าง) จนหลังจากนั้น คีเฟอร์ก้อเริ่มแพร่หลายออกไปในวงกว้าง ในขณะที่ชาวCaucasian นั้นส่วนนึงก้อกลายมาเป็นชาวตุรกี จึงไม่แปลกที่นมเปรี้ยว หรือคีเฟอร์ จะเป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่ จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทีนี้มารู้จักคีเฟอร์กัน (ขออธิบายแบบบ้านๆนะครับ - -") ไอ้เจ้าก้อนกลมๆขาวๆนั้นประกอบด้วยจุลินทรีย์หลายชนิด โดยแบ่งใหญ่ๆเป็น 2 พวกคือ Lactic acid bacteria  (แบคทีเรียที่หมักน้ำตาล แล้วได้กรดแลคติก) กะ yeasts (หมักน้ำตาล ได้แอลกอฮอล์กะCO2) ที่อยู่ร่วมกันแบบเกื้อกูลโดยไม่ต้องมีศาลรัฐธรรมนูญมาไกล่เกลี่ย (พูดง่ายก้อประมาณ ไลเคน น่ะครับ) นอกนั้นก้อมีโปรตีน -ไขมัน และเครือข่ายของpolysaccharide ชื่อ Kefiran แต่กระนั้น ปัจจุบันนักวิทยาศาตร์ก้อยังไม่สามารถอธิบายถึงส่วนประกอบ ทั้งหมดที่มีในคีเฟอร์ได้ครับ มีผลจากห้องทดลองครับ ..พบว่าKefiran สามารถลดขนาด ของเนื้องอกในหนูทดลองได้ โดยเกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันบางชนิดในตัวหนูเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลการทดลองที่ประเมินว่า คีเฟอร์มีคุณสมบัติในการระงับการอักเสบ แต่ผมไม่ได้ทดลองเองนะครับ เดี๋ยวทิ้งลิ้งค์ไว้ให้กดอ่านครับ จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทีนี้มาถึงคุณค่าทางอาหารของมันกันแบบเต็มๆดีกว่าครับ ผมจะไม่พูดถึงความเชื่อนะครับ ที่ว่ารักษาโรคนั้นโรคนี้ ขอพูดถึงเฉพาะสารอาหารที่คีเฟอร์มีครับ โดยถ้าดื่มนมคีเฟอร์ที่หมักแล้วเรียบร้อย นี่คือสารอาหารเด่นๆที่จะได้ครับ โปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินBs ฟอสฟอรัส กรดแพนโธทินิค กรดโฟลิค (อืม.. ส่วนนึงก้อจากน้ำนมเองล่ะนะ) หาได้จากไหน? ในเวบต่างประเทศมีขายครับ ราคาแพงเอาเรื่องอยู่ ยังงัยโพสขอในนี้ ก้อน่ามีอีกหลายคนทีมีและพร้อมจะแบ่งครับ (ส่วนของผมเอง ขอซัก 2 อาทิตย์คงแบ่งได้อีกทีครับ) เพราะคีเฟอร์จะเจริญเป็น 2 เท่า เมื่อเวลา 18 วัน ได้มาแล้ว ดูแลยังงัย? อันนี้ผมขอก้อปมาแล้วแก้ไขนะครับ ใส่รายละเอียดจากที่ผมค้นจากหลายๆที่มาปนกัน ใช้นมสดรสจืด 1 กล่อง ยี่ห้ออะไรก้อได้ตามสะดวก แต่อย่าเอาพร่องไขมัน พี่ Pheonixนิลมังกร แนะนำนมหนองโพ แต่บางคนก้อแนะนำไทยเดนมาร์ค บ้างก็บอกว่า นมแพะดีสุด  (แต่อย่ากระนั้นเลยครับ) โดยใส่ประมาณ 250 c.c (8 1/2 ออนซ์) ไม่ต้องแช่ตู้เย็น 1.แช่คีเฟอร์ไว้ในนมสด  นานประมาณ 24 ชั่วโมง คีเฟอร์จะเปลี่ยนนมสดให้เป็นโยเกิร์ต - ระยะเวลานี่ตามสะดวกเช่นกันครับ ความเปรี้ยวแปรผันตรงกะระยะเวลาครับ แต่ 24 ชม. นี่กำลังดีที่สุดแล้ว แรกๆอาจเริ่มที่ 12 ชม.ก้อได้ครับ 2.ใช้กระชอนกรองน้ำนมนั้นมาดื่ม (ควรดื่มทันที ไม่ควรตั้งทิ้งไว้นาน) - กระชอนพลาสติกนะครับ (กระชอนช้อนปลาก้อได้) 3.ดื่มก่อนนอนขณะท้องว่าง โดย ไม่ดื่มรวมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ให้ดื่มติดต่อกันนาน 20 วัน แล้วให้หยุดพัก 10 วัน - ดื่มรวมได้นะครับ มีเมนูอาหารที่ใช้นมคีเฟอร์เป็นส่วนประกอบด้วยซ้ำครับ และดื่มทุกวันได้ครับ 4.ล้างคีเฟอร์ด้วยน้ำสะอาดเบาๆ จนสะอาด (หากจำเป็นอาจใช้มือสัมผัสเบาๆได้) แล้วเทคืนสู่ภาชนะเดิม แช่ด้วยนมสดใหม่ 250 c.c ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง - พี่Pheonixนิลมังกร ล้างอาทิตย์ละครั้งครับ ระหว่างนั้นก้อเปลี่ยนนมเฉยๆ คีเฟอร์จะได้ไม่เฉาครับ (เพราะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปๆมาๆ) 5.ระหว่างพัก 10 วัน ให้ล้างคีเฟอร์ทุกคืน เติมนมสดรสจืดฯ ทุกครั้ง (ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 4.) - ถ้าพักก้อทำตามนั้นครับ แต่ถ้าต้องการพักแบบไม่อยู่บ้านหลายวัน สามารถเก็บในตู้เย็นได้ครับ โดยล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แช่ห้องฟรีส เป็นการระงับการเจริญเติบโต อยู่ได้หลายวันมากๆครับ เมื่อจะนำกลับมาเลี้ยงก้อนำมาล้างน้ำจนเท่าอุณหภูมิห้อง จึงนำไปใช้ตามปกติ 6.ให้เลี้ยงคีเฟอร์ในภาชนะแก้ว หรือพลาสติกเท่านั้น ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะทุกชนิด เก็บในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ ห้ามเก็บในอุณหภูมิที่เย็นจัด เพราะนมจะมีรสเปรี้ยวมาก -เรื่องโลหะไม่โลหะ ผมไม่เห็นหลักฐานทางวิทยาศาสร์อะครับว่าเพราะอะไร เอาเป็นว่าทำๆตามเค้าไปเถอะครับ 7.คีเฟอร์จะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 18 วัน (ประมาณที่พอเหมาะคือ สองช้อนครึ่ง) - เพราะเยอะมากก้อเปรี้ยวมากนะครับ จะพาลทานไม่ได้เอา จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ได้นมคีเฟอร์มาแล้ว..? ดื่มสิครับ กินเข้าไปเลย อ้าว เปรี้ยวไปเหรอครับ? ปรุงได้ครับ เอารสตามใจชอบ แนะนำตามที่พี่ Pheonix นิลมังกรบอกเลยครับ ว่าให้ใส่น้ำผึ้ง มีประโยชน์ด้วย หรือใครใคร่อยากใส่เฮลบลูบอย หรือเจือจางกับนม ก้อตามใจครับ อ้อ.. กินไม่หมดอย่าทิ้งนะครับ เสียดาย เก็บใส่ขวดปิดฝาสนิทแช่ในตู้เย็นอยู่ได้ 2-3 วันครับ แต่ถ้ายังเหลือ มีเยอะ ก็ลองพลิกแพลงเอามาทำเป็นขนมได้ตามความสร้างสรรค์ (ขอเพียงอย่าให้สัมผัสความร้อนสูงๆก้อพอครับ) ทำชีสก้อได้ครับ เก็บได้นานกันเข้าไปใหญ่ ในต่างประเทศมีชีสKefir ขายด้วยซ้ำ ส่วนคราบที่เหลือติดภาชนะที่เลี้ยง เอานิ้วปาดมาครับ เอามาทาหน้า ทิ้งไว้ซัก 30 นาที แล้วล้างครับ (แน่ล่ะ จะทิ้งไว้ทั้งวันเหรอ) ประสบการณ์ตรงเลยนะครับ  นิ่มขึ้นทันทีครับ คนในบ้านยังทักเลย ว่าหนังหน้าที่เคยด้านแข็ง กลับนิ่มและเกลี้ยงขึ้นในครึ่งชม. - -" FAQ ครับ ไม่มีใครถามหรอกครับ ผมถามเองตอบเอง Q. เอาภาชนะแบบไหนดี? A. จากประสบการณ์ของพี่ Pheonix นิลมังกร แนะนำว่าควรใช้กระปุกปากกว้างๆ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดภายใน หรือเช็ดเม็ดน้ำนมที่กระเด็นติดขอบ ทั้งนี้ยังเพิ่มผิวสัมผัสกับอากาศอีกด้วย  ส่วนฝาปิดนั้น อย่าปิดมิด ให้มีอากาศถ่ายเทบ้างก้อดี ปิดให้ฝุ่นผงไม่ลงไปก้อเพียงพอครับ Q. ใช้นมอะไรหมักดี? A. แล้วแต่ครับ มีนมยี่ห้อที่มีผู้แนะนำด้านบน นมแพะ นมถั่วเหลือง นมบลาๆๆๆๆๆ เพียงช่วงเปลี่ยนประเภทนม อาจต้องให้เวลาคีเฟอร์ปรับตัวบ้างครับ Q. เป็นคนแหวกแนวอะ จะใช้อย่างอื่นหมักได้มะเพ่? A. ได้ครับ ใช้น้ำผลไม้ บอกแล้วว่ามันเปลี่ยนน้ำตาลครับ ฉะนั้นผลไม้อะไรที่ประกอบด้วยน้ำตาลที่ละลายในน้ำได้ ส่วนใหญ่จะนำมาหมักได้ครับ โดยเรียกเครื่องดื่มที่ไม่ได้มาจากการหมักนมนี่ว่า KEFIR D'ACQUA และชื่อของจุลินทรีย์ในคีเฟอร์ก้อจะเปลี่ยนไปด้วย ใครเพาะคีเฟอร์ได้เยอะๆแล้ว ลองแบ่งออกมาทำมั่งสิครับ ได้ผลยังงัยบอกด้วยนะครับ (นมถั่วเหลืองก้อจัดอยู่ในหมวดนี้ครับ) Q. ยังไม่กล้ากินอะ.. เหมือนกินนมบูดเลยอะ กลัวเชื้อ A. มีวิธีพาสเจอร์ไรซ์นมคีเฟอร์มาฝากครับ หลังจากกรองเอาเม็ดคีเฟอร์ออกไปแล้วนะครับ นำน้ำนมคีเฟอร์ใส่เหยือกแช่ในน้ำร้อนประมาณ  161F นำเทอร์โมมิเตอร์ใส่ในน้ำนมคีเฟอร์ คนน้ำนมไปเรื่อยๆจนอุณหภูมิของน้ำนมเป็น 161F ให้ได้อย่างต่ำ 15 วินาที เสร็จแล้วนำมาใส่อ่างน้ำเย็น และใส่เข้าตู้เย็นทันทีครับ ทำแบบนี้จะเก็บน้ำนมคีเฟอร์ได้นานขึ้น และดีกว่า สำหรับผู้รับประทานที่อาจมีภูมิคุ้มกันต่ำครับ Q. ตอนกรองคีเฟอร์.. ข้นเหนียวมากๆ หาเม็ดคีเฟอร์ไม่เจอ A. เขย่าที่กรอง หรือใช้มือตบให้ค่อยๆนมคีเฟอร์ที่ค้นนั้นลงไปในภาชนะด้านล่าง ขั้นตอนนี้ต้องใจเย็นมากครับ  หรือเอานมมาเทล้างที่กรองก้อได้ครับ (แต่มีผู้แนะนำว่าให้มีนมข้นๆติดอยู่บ้างก้อดี) Q. คีเฟอร์จะตายด้วยสาเหตุใดบ้าง A. -ไม่เปลี่ยนน้ำนมของคีเฟอร์นานกว่า 10ถึง14 วัน ในอุณหภูมิปกติ - คีเฟอร์สัมผัสความร้อนสูงโดยตรง - ในกรณีที่ทำ KEFIR D'ACQUA แล้วใส่น้ำที่คีเฟอร์ไม่สามารถเติบโตได้ - มีใครมาหวังดีรินคีเฟอร์ทิ้ง - -" ฉะนั้นช่วยบอกที่บ้านด้วยว่าสิ่งนี้คืออะไร จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลอ้างอิงครับ http://users.sa.chariot.net.au/~dna/kefirpage.html    >>สุดยอดที่สุดแล้ว http://www.kefir.net http://pharm.kku.ac.th/herbal/rqa.asp?pos=176 http://en.wikipedia.org/wiki/Kefir http://www.uga.edu/nchfp/publications/nchfp/factsheets/kefir.html http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=30332&page=1 http://www.answers.com/topic/kefir จบครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ ^^ ขอบคุณพี่ Pheonix นิลมังกร ด้วยครับ สำหรับ คีเฟอร์ จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพโครงสร้างของ Kefiran เป็น polysaccharide ที่สำคัญใน Kefir ครับ จะต่อกันไปเรื่อยๆ จากคุณ : Dnice - [ 11 พ.ค. 49 22:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีแบ่งให้บ้างไหมคะ เพิ่งตั้งกระทู้ถามหาอยู่เหมือนกัน อยากได้บ้างค่ะ นะๆๆๆๆ อยากได้มานานแล้วค่ะ จากคุณ : catzilla_girl - [ 11 พ.ค. 49 23:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มันมีประโยชน์มากเลย ขอบคุณที่เอามาฝากนะคะ แต่คำเตือนอย่างเดียวจากคนเคยเลี้ยงอย่างเราคือ กลิ่นคะ โอ้วววว มะไหวแล้วกลิ่นมันอะ ทำให้เราต้องมีอันเลิกเลี้ยงไปคะ ตอนแรกจะให้แม่ทานเพราะท่านสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ท่านไม่ยอมทานเพราะกลิ่นนี่แหละคะ เวลาล้างต้องล้างให้สะอาดนะคะ ประมาณ10น้ำ ล้างจนกว่าน้ำจะใสคะ แล้วจะโตเร็วมากๆ จากคุณ : petapla - [ 11 พ.ค. 49 23:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใครมีแบ่งให้บ้างคะ อยากได้ๆๆๆ จะลองให้แฟนกินด้วย จากคุณ : catzilla_girl - [ 11 พ.ค. 49 23:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านไม่ไหวอะค่ะ อาจารย์  เหมือนเรียนเคมีเลย แหะๆ ขอบคุณนะคะ จะค่อยๆอ่านไปจ้า จากคุณ : รักนี้หวานบาดใจ - [ 11 พ.ค. 49 23:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรามีอ่ะ ตอนนี้กำลังขี้เกียจเลี้ยงเลยค่ะ ต้องล้างเปลี่ยนนมทุกวันอ่ะ แต่กลิ่นมันแรงไปหน่อยอ่ะ เราเอาไว้ทาหน้า&ตัวค่ะ ผิวก้อดีขึ้นนะ ทั้งที่ช่วงนี้ไม่ได้ทาครีมรัยเลย จากคุณ : หนึ่ง (Ja-E'Jr) - [ วันวิสาขบูชา 00:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณหนึ่ง Ja-E'Jr อยู่แถวไหนคะ เดี๋ยวเราขอเลี้ยงต่อเองค่ะ จากคุณ : catzilla_girl - [ วันวิสาขบูชา 01:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากได้มั่งเหมือนกันค่ะ  ใครมีช่วยแนะนำเราหน่อยได้ป่ะคะ จากคุณ : kapooktang - [ วันวิสาขบูชา 01:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ครีมบัวหิมะ ก้อทำมาจากน้องบัวหิมะที่เลี้ยงกะนมนี่ล่ะค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกเลี้ยง ก้อซื้อเป็นครีมมาใช้ได้เรยค่ะ เราเคยเลี้ยงเมื่อสองปีก่อน แต่ทนไม่ค่อยไหวค่ะ เหม็นเกินไปอ่ะ ต้องเลี้ยงดีๆด้วย เราขี้ลืมอ่ะ น้องบัวเลยมีแมงไปกัดกิน ตายไปซะงั้น เรยหมดอารมณ์เลี้ยงต่ออ่ะค่ะ ใช้เป็นกระปุกเอาละกัน เย็นดีด้วย จากคุณ : wu-noofah - [ วันวิสาขบูชา 01:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราเลี้ยงอยู่ เคยกินทีนึงแหวะๆอะ เลยเอามาทาหน้าอย่างเดียวคันยิบๆๆๆๆๆ สะจายดี พอหลังๆเริ่มขี้เกียจเปลี่ยนนททุกวัน เลย เปลี่ยน 3 วันครั้ง   ไม่ตายนะ รู้สึกจะโตเร็วด้วย อยากถาม จขกท. นิดนึงว่า เวลากรองมันจะมีส่วนใสๆกับข้นๆ อยากรู้ว่าส่วนไหนคือส่วนที่ effective อะ จากคุณ : หมูย่างจัง - [ วันวิสาขบูชา 02:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 .. ยังงัยรอกันหน่อยนะครับ ถ้าผมเพาะจนระดับนึงแล้ว แบ่งแน่ๆครับ แล้วจะตั้งกระทู้แจกอีกที ตอบ #15 ส่วนข้นๆครับ  ส่วนข้นๆที่อยู่ใกล้ๆเม็ดคีเฟอร์เลยล่ะครับ แต่ส่วนใสๆก้อมีผลดีบ้าง แต่จะไม่เท่าครับ #เพิ่มเติมครับ ผมเพิ่งทำการทดลองเมื่อคืน พบว่าถ้าล้างเม็ดคีเฟอร์ด้วยน้ำจนเหลือแต่เม็ด แล้วนำไปใส่นมใหม่ คีเฟอร์จะเปลี่ยนสภาพนมช้าครับ แต่ถ้าใส่คีเฟอร์พร้อมส่วนข้นๆไปในนมใหม่เลย นมจะเปลี่ยนสภาพเร็วมากๆครับ ซึ่งผมอ่านแล้วเข้าใจว่า บริเวณแถวข้นๆนั้น จะมีส่วนประกอบพวกแอลกอฮอล์และสารที่จำเป็นต่างๆ ต่อการ ferment ทำให้คีเฟอร์ไม่ต้องมาสร้างส่วนตรงนี้ใหม่ นมจึงเปลี่ยนสภาพไวกว่าครับ จากคุณ : Dnice - [ วันวิสาขบูชา 07:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใครมีเหลือพอแบ่งบ้างค่ะ  ..... จะให้ แม่(เป็นนิ่วในถุงน้ำดี)กับหลาน(เป็นภูมิแพ้)  ทานค่ะ จากคุณ : not found - [ วันวิสาขบูชา 09:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บ้านเราอยู่แถวสำโรงค่ะ ใครอยากได้แบ่งให้ได้ค่ะ จากคุณ : Ja-E'Jr - [ วันวิสาขบูชา 10:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยากได้ค่ะ รอได้ค่ะ  แจกเมื่อไหร่ก็อย่าลืมคิดถึงหนูด้วยนะเคอะ จากคุณ : Lucky in Love - Lucky in Game - [ วันวิสาขบูชา 13:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยู่พระโขนงค่ะ ผ่านไหมเอ่ยคุณหนึ่ง ติดต่อไงเอ่ย จากคุณ : catzilla_girl - [ วันวิสาขบูชา 13:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก้อผ่านค่ะยังไงหลังไมค์มาก้อได้ค่ะ จากคุณ : Ja-E'Jr - [ วันวิสาขบูชา 14:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้......ข้อมูลแน่นมั่กๆ (เหมือนเรียนวิทย์เลยอ่ะ ผมเด็กสายศิลป์ อิๆ) ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันนะครับคุณ Dnice จากคุณ : Trai_chun - [ วันวิสาขบูชา 16:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อมูลแน่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย เพิ่งรู้ด้วยว่า มันคนละอย่างกันกับบัวหิมะจีน ^^" ขอบคุณนะคะ ^-^ จากคุณ : hareluya la miserable - [ 13 พ.ค. 49 20:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยู่แถวห้วยขวาง ใครอยากได้ก็เมล์มา kanyarach@hotmail.com จากคุณ : - - [ 14 พ.ค. 49 14:09:35 A:61.47.119.7 X: TicketID:045360 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ฮ่า ๆ ๆ ยินดีครับ...  อะไรแบ่งกันได้...   ก็แบ่งกันไป และ ขอบคุณ น้อง Dnice ที่กระซิบ ลิ้งค์มาให้ด้วย ใครจะเอา ก็ติดต่อมาได้ครับ... ผมยังมีพอแบ่งได้อีกสามสี่คน... บ้านผมอยู่แถวรัตนาธิเบศร์... เมลมาคุยกันก่อนก็ได้... blue_wings999@ ย๊าาาา  ฮู่   ด็อทคอม ปล. วันนี้เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด เหนื่อยๆนิดหน่อย ( ว่ายน้ำมาด้วย ) แค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ แล้วไว้ค่อยคุยกันใหม่... สังคมดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... จากคุณ : Phoenixนิลมังกร - [ 14 พ.ค. 49 21:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยากได้ค่ะ พอจะแบ่งมั่งได้คะ สะดวกรถไฟฟ้าค่ะ n_nattna@hotmail.com จากคุณ : ใบไผ่ สีเขียว - [ 18 พ.ค. 49 01:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ใครผ่านแถวบางนาบ้างคะ ขอด้วยคนค่ะ ซื้อกับคนอื่นราคาแพงมานานแล้ว สมควรเพาะเองซะทีค่ะ จากคุณ : RBZ - [ 21 พ.ค. 49 03:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จากประสบการณ์ในเลี้ยงนะคะ เคยลองเปลี่ยนจากนมสดเป็น..... น้ำนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้นั่นแหละค่ะ ผลผลิตออกมาก็ได้น้ำนมถั่วเหลืองเปรี้ยว คุณภาพขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำนมค่ะ แต่ดูอาการของเจ้าคีเฟอร์ไม่ค่อยสดชื่น เลยเปลี่ยนกลับมาเป็นน้ำนมเหมือนเดิมค่ะ ลองอีกค่ะ... คราวนี้เป็นน้ำฝรั่งค่ะ ได้น้ำฝรั่งเปรี้ยว กลิ่นก็ไม่แตกต่างจากน้ำฝรั่งเดิมเท่าไหร่ แต่เจ้าคีเฟอร์ตัวเขียวเลยค่ะ เห็นท่าไม่ดี เลยให้เค้าอยู่กับน้ำนมเหมือนเดิมดี่ที่สุดค่ะ จากคุณ : ห้าวโฮ่ง - [ 21 พ.ค. 49 16:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เขาไม่ขายกันนะคะ ส่วนมากพอมีเยอะก็จะแจกๆ แบ่งๆกันไปค่ะ เหมือนเป็นข้อห้ามประมาณนั้น แล้วถ้าให้ก็ได้บุญเหมือนกันนิ บุญส่งให้สวยๆ กันทุกคนค่ะ อือ..ว่าแต่ใครพอมีจะแบ่งให้ได้บ้างคะ? เราเองก็ยังไม่มีเช่นกันค่ะ อยู่แถวบางนาเหมือนกันอ่ะ รบกวนสาวสวยใจดีด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : zzelda zaya - [ 23 พ.ค. 49 03:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อยากได้ครับ แฟนเป็นมะเร็งครับ มัน ช่วยไหมครับ ใครมีผม ขอเถอะครับ จากคุณ : Mr.Vip - [ 6 มิ.ย. 49 19:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แหม น้องบัวหิมะของคุณห้าวโฮ่งนี่ได้เปลี่ยนบ้านใหม่หลายหลังเลยนะคะ ^_^ เราเองก็มีค่ะ แต่ก็อยู่ระหว่างเพิ่มปริมาณ ถ้าไว้มีพอแจกจ่ายได้ยังไง จะตั้งกระทู้บอกนะคะ จากคุณ : lollilily - [ 8 มิ.ย. 49 10:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อยากได้บัวหิมะ นี้มั่งอ่ะค่ะ ไม่รู้จะไปขอใคร มีแบ่งให้เรามั่งรึเปล่า ตอบเราด้วยน๊า >>>khanara@hotmail.com<<< จากคุณ : AOMAAM - [ 15 มิ.ย. 49 17:10:40 A:124.121.188.99 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 รบกวนด้วยคนค่ะ อยากรู้ว่าซื้อได้ที่ไหนอ่ะค่ะ หรือถ้าไม่ขายมีใครใจดีจะแบ่งให้หนูบ้างอ่ะค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ saiy_dee@hotmail.com จากคุณ : saiy (saiy) - [ 15 มิ.ย. 49 22:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและลิงค์นะคะ เข้าไปอ่านแล้ว ยาวมาก ๆ ก็เลยยังอ่านได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เดี๋ยวถ้าไม่ง่วงมากพรุ่งนี้จะเข้าไปอ่านต่อให้ละเอียด เราเพิ่งได้มาเมื่อวานนี้วันนี้ก็เลยยังเงอะๆ งะๆ อยู่ เผลอใช้ช้อนสแตนเลสคน Kefir ด้วย เมื่อวานลองชิมที่บ้านเพื่อนไปหน่อย  กลิ่นน่าดูเหมือนกัน แต่ก็พอกลั้นใจได้น่ะ จากคุณ : มือใหม่หัดเลี้ยง (bungo) - [ 25 ก.ค. 49 00:46:53 ]