CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    --[โอ้ย ตกลงว่านี่ผมอยู่ในนรก หรือ บนสวรรค์กันแน่วะ!!!]--

    โอ้ย ๆ ๆ ร้อน ๆ  ร้อนโว้ย!!!!

    นี่ตกลงว่าผมนั่งอยู่ในห้องแอร์แน่ ๆ ใช่ไหมเนี่ย!!!
    แล้วทำไมเหงื่อมันออกเยอะขนาดนี้ล่ะ โห... เสื้อเปียกเหงื่อหมดแล้ว!!!!
    เมื่อเช้ามันยังเย็น ๆ ครึ้ม ๆ อยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้มันร้อนตับแตกอย่างนี้

    แล้วตกลงว่าที่ออฟฟิตนี่เค้าติดแอร์ไว้ทำไมฟระเนี่ย แสดดดด...
    เหลือบไปดูอุณหภูมิบนรีโมทที่ติดอยู่บนผนังห้อง

    พระเจ้า....... 32 องศาเซลเซียส!!!!!

    นี่มันแอร์หรือเครื่องทำความร้อนวะ สั่งมาผิดหรือเปล่า T_T

    "กรูสั่งให้เอาแอร์มาติดนะโว้ย ไม่ใช่ฮิตเตอร์"

    สงสัยช่างจะเข้าใจผิด คิดว่าออฟฟิตเป็นขั้วโลกเหนือ หนาวตลอด 24 ชั่วโมง
    มันเลยเปลี่ยนใจ หยิบ ฮิตเตอร์ มาติดซะงั้น แสดดดดด


    "ทำไมมรึงไม่มาก่อกองไฟให้กรูซะเลยล่ะ"


    ร้อนชิบเป๋ง ร้อนจนจะถอดผ้าทำงานแล้วเนี่ย นี่ก็กำลังลุ้นให้มันร้อนกว่านี้
    เพื่อที่ว่า สาว ๆ จะได้ทนไม่ไหว "ถอดเสื้อผ้าทำงานบ้าง!!!"
    อะหะ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นได้จริง เดี๋ยวผมเดินไปปิดแอร์ให้มันรู้แล้วรู้แรดไปเลย

    ให้มันร้อนกันให้ตาย!!!


    แต่คิดไปคิดมา อย่าดีกว่าว่ะ เพราะที่ออฟฟิตมีแต่ระดับ 40 UP!!!!! ขืนแกถอดจริง
    ผมจะช็อคตายซะก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า ผมกำลังเห็นอะไรกันแน่ T_T


    แย่ครับ ร้อนอย่างนี้บ่อย ๆ ผมแย่แน่ ๆ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ผมมันมีเลือดเมืองหนาวมาตั้งแต่เกิด เลยชินกับอากาศหนาวมากกว่าอากาศร้อน (แสดดด เลือดเมืองหนาว พูดมาได้ไงวะ)

    ก็ตั้งแต่ผมกลับมาจาก ALASKA เนี่ย ผมแย่เลยครับ  มาอยู่เมืองไทยได้หลายปีแล้ว
    ที่ผมตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย ก็เพราะได้ยินข่าวมาว่า เค้าขนานนามกรุงเทพว่า

    "กรุงเทพ เมืองสวรรค์"

    แต่ที่ไหนได้ "นรกชัด ๆ !!!"

    มาตั้งนานแล้วก็นึกว่าจะเริ่มชินกับอากาศร้อน ๆ ของเมืองไทยบ้าง แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่ชินซักที
    แย่นะครับ คนเมืองหนาวอย่างผมเนี่ย ต้องมาอยู่ที่ร้อน ๆ อย่างนี้ สุขภาพจิตผมเสียหมด!!!

    เมื่อก่อนนี่ ตอนที่อยู่ ALASKA อุณหภูมิติดลบนะครับ ที่นั่นถ้าขึ้นมากกว่า 1 องศา ถือว่าร้อนตับแลบแล้ว!!!
    ผมยังจำได้ ตอนที่ผมออกไปเดินเล่นที่ลานน้ำแข็งหน้าบ้าน ตอนนั้นอุณหภูมิน่าจะซัก -10 องศาได้แหล่ะ
    ผมยังไม่สะทกสะท้านเลย แทบจะถอดเสื้อเดินตากหิมะ!!!

    ก็บอกแล้ว ผมมันคนเมืองหนาว!!!!!
    (:-)กันหน้าด้านมาก ๆ เลยไอ้หมัน)


    มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เดิน ๆ เล่นอยู่ ไม่รู้ "ไอ้จัมโบ้" มันโผล่มาจากไหน แตกตื่นกันทั้งเมือง ผมต้องไปดึงมันกับบ้าน
    ไอ้จัมโบ้คือใคร  ไอ้จัมโบ้คือ หมีขาวครับ เป็นหมีขาวที่ผมเลี้ยงไว้เอง
    (เอ้า เอาเข้าไปมรึง คนบ้าที่ไหนเค้าเลี้ยงหมีขาวกันวะ ขืนเลี้ยงมันมันได้ตบกบาลแหก!!)


    ผมไปขอมาจากแม่มัน คือ

    "อีจิ๋มโบ๋"  <<< แค่ชื่อก็กินขาดแล้ว


    อีจิ๋มโบ๋ เป็นหมีขาวยักษ์ตัวเมีย สนิทกับผมมากเลย เล่นหัวกันบ่อยจนมันมีสามีเป็นหมีขาวตัวผู้ ตัวใหญ่กว่ามันอีก ตอนมันคลอดไอ้จัมโบ้ออกมา  ผมทำหน้าที่ต้มน้ำร้อนเองแหล่ะ เพราะพ่อมันมัวแต่ยืนให้กำลังใจทำอะไรไม่ถูก

    แหม แล้วคุณ ๆ ก็รู้อยู่ว่า การต้มน้ำให้มันร้อน ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบอย่างนั้นน่ะ มันเป็นเรื่องยากลำบากขนาดไหน ไป ๆ มา ๆ คนที่ลำบากกับการคลอดไอ้จัมโบ้มากที่สุด ก็กลายเป็นผมไป เพราะกว่าจะเดือด ไอ้จัมโบ้ ก็คลอดแล้ว

    อีจิ๋มโบ๋ เห็นถึงความทุ่มเทของผม จึงยกไอ้จัมโบ้มาให้ผมเป็นคนเลี้ยงมันตั้งแต่ตัวน้อย ๆ

    ตอนที่ผมจากมันมา ผมอยากจะเอามันมาด้วย แต่ก็ติดที่ว่า ถ้าผมเอามันมาด้วย ผมจะเอามันไปไว้ที่ไหนที่อุณหภูมิติดลบอย่างนั้น มันหาได้ที่ไหนล่ะในเมืองไทยเนี่ย

    ก็เลยต้องจำใจ ลาจากมันมา ผมคิดถึงมันครับ ไอ้จัมโบ้

    มันชอบเล่นกับคน ชอบตบ ๆ ตามประสาหมีขั้วโลกอย่างมัน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีคนทะลึ่งอยากมาเล่นกับมัน เข้ามาดึงหูมันให้มันเล่นด้วย  มันก็เล่นด้วยนะ ด้วยความสงสารคน คนนั้น มันก็ตบ ๆ ตามประสา  

    ปรากฎว่า หัวหลุดตายห่าไปเลย T_T!!!!

    เดือดร้อนผมต้องเดินตามเก็บหัวที่หลุดไปของ คน ๆ นั้นอีก หลัง ๆ ผมเลยต้องกำชับจัมโบ้ว่า ทีหลังห้ามตบอีก
    จัมโบ้มันเชื่อฟังผมครับ เพราะหลังจากนั้น มันไม่ตบใครอีกเลย




    "มันเปลี่ยนมากัดแทน T_T"



    ก็ดีไปอย่าง ที่มันกัด เพราะถึงจัมโบ้ จะเป็นมังสะวิรัติ แต่เนื้อมันก็กิน พอมันกัดเสร็จ มันก็กินเลย ซากเลยไม่ค่อยมีให้ผมตามเก็บเท่าไหร่นัก!!!!

    ตอนนี้ที่ผมนั่งเหงื่อแตกเป็นน้ำตกไนแองการ่าอยู่เนี่ย ผมกำลังคิดถึงอะไรอยู่รู้ไหมครับ นั่นแน่ อยากรู้ล่ะสิว่าผมกำลังคิดถึงอะไรอยู่  ผมคิดถึง

    "หิมะ"  

    ใช่แล้วครับ ผมคิดถึงหิมะ คิดถึงปุยขาว ๆ เบา ๆ เย็น ๆ ของมันที่ตกลงมาตลอดทุกฤดูในเมืองที่ผมอยู่ ผมชอบที่จะไปปั้นตุ๊กตาหิมะ ขึ้นมา 3 ตัว แล้วตั้งชื่อให้มัน

    ตัวแรกให้ชื่อว่า

    "หิมะ"

    ตัวที่สองให้ชื่อว่า

    "หิโม๊ะ"

    ตัวที่สามชื่อ

    "หิมิ"

    ทั้งสามตัวมีความเกี่ยวพันกันทางเครือญาติ กล่าวคือ  หิโม๊ะ มีศักดิ์เป็น ป้าของ หิมะ
    หิโม๊ะ เป็นคนเลี้ยง หิมะ มาตั้งแต่หิมะเกิด ด้วยเนื่องจาก พ่อและแม่ของหิมะ ได้รับอุบัติเหตุหัวกระแทกพื้นตายคาที่ทั้งคู่!!!
    นั่นทำให้หิมะกลายเป็นเด็กกำพร้า  หิโม๊ะสงสาร เลยเอามาเลี้ยงไว้ซะเอง

    ซึ่งต่อมา หิมะ แอบได้เสีย กับ หิมิ สาวข้างหมู่บ้าน
    ด้วยที่ว่าครอบครัวของ หิมิ มีฐานะร่ำรวย แต่ตัวหิมะเองยากจนข้นแค้น อดมื้อกินมื้อ
    นั่นทำให้ครอบครัวของ หิมิ ไม่ชอบ หิมะ ซักเท่าไหร่ พยายามกีดกัน หิมะตลอด

    แต่ว่า ความรักชนะทุกสิ่ง เมื่อหิมะ ได้เสีย กับ หิมิ
    หิมิ รัก หิมะมาก จึงยอมขัดใจกับที่บ้าน หนีตามมากัดก้อนน้ำแข็งกิน ที่บ้านของหิมะ
    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    โอ้ยร้อน ร้อน ร้อนโว้ย!!!!!!!!!!
    ใครมีอะไรเย็น ๆ มั่งวะ ร้อนตัวจะแตกอยู่แล้ว..........


    สมัน หิโม๊ะ เบอร์ 14    บ้าไปแล้ว!!!!!!!

    จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 - [ 19 พ.ค. 49 14:52:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป