วันนี้อู้งาน (2วัน เหอๆๆ) แปลสรุปบทความอันนึงมาให้อ่านประดับความรู้ ในการเลือกซื้อ skin care นะครับ ไม่ได้แปลละเอียดนะครับ ขี้เกียจพิมพ์อ่ะครับ เหอๆๆ เลยเอาแบบสรุปใจความเอาแล้วกันนะครับ ส่วนคนที่สนใจจะอ่านเต็มๆ ก็ตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ http://www.findarticles.com/p/articles/mi_m0NAH/is_10_34/ai_n6261118?pi=cal
เขื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนในห้องนี่ ก็คงต้องการที่จะมีผิวสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ไปตลอดเท่าที่จะทำได้ใช่มั้ยครับ (ไม่งั้นคงไม่เข้ามาห้องนี้แล้วติดงอมแงมแบบผมใช่ป่าวครับ) ทีนี้เราจะทำอย่างไรหล่ะครับที่จะบรรลุ "ความฝันอันสูงสุด" 555+ ว่าไปนั้น
จริงๆ แล้วการพักผ่อนให้เพียงพอ และการได้กินของดีมีประโยชน์เป็นทางหนึ่งในการบำรุงสุขภาพจากภายในไม่เฉพาะผิวพรรณเท่านั้น แต่ทั้งๆรู้ก็ใช่ว่าใครทุกคนจะทำสิ่งเหล่านั้นได้ดีใช่มั้ยครับ ฉะนั้นการบำรุงจากนอกก็เป็นอีกทางนึงที่จำเป็นและดูจะตรงจุดกว่า คือจะบำรุงอะไรตรงไหนก็ทามันไปตรงนั้น แล้วอีกอย่างการกินวิตามินเข้าโดยตรงก้ยังไม่มีการศึกษาใดมายืนยันได้ว่าสิ่งที่เรากินเข้าไปจะไปถึงผิวพรรรสิ่งที่เราต้องการบำรุง เพราะมันอาจจะถูกใช้ไปโดยอวัยวะต่างๆในร่างกายไปซะเยอะแล้ว กว่าจะส่งผลถึงผิวพรรรณเป้าหมายของเรา
???? แล้วอะไรหล่ะครับ ที่เราจะเอามาทามาบำรุง เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ต้องการ หลักๆ มีวิตามินอยู่ 5 อย่าง ครับ A B C E และ K
*** วิตามิน A***
หน้าที่ของวิตามิน A ----ฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดและจากการที่ร่วงโรยไปตามวัย
ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น และจากการทำร้ายจากรังสี UV คอลลาเจนในผิวของเราก็ลดและถูกทำลายไปด้วย ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนยานต่างๆ ของผิวพรรณ
Retiniods อนุพันธ์หนึ่งของ วิตามิน A เป็นสารตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด ในการช่วยยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจนได้ แต่ด้วยที่อนุพันธ์ของ วิตามิน A ชนิดนี้มีความ "แรง" มาก ใช้ไม่ดีพาลจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี จึงต้องสั่งและอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนัง เราจึงไม่พบสารนี้เป้นตัวประกอบในผลิตภัณฑ์ที่มีวางจำหน่ายทั่วไป
Retinol เป็นอีกอนุพันธ์หนึ่งของ วิตามิน A และมีความอ่อนโยนกว่า Retiniods และพบได้ในผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาด (อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่มี Retinol ในปริมาณที่สูงมากพอที่จะส่งผลอย่างชัดเจนต่อผิวของเราก็มักจะมีจำหน่ายหรือใช้ภายในคลิคนิคผิวหนังต่างๆเท่านั้น)
ข้อควรระวังในการใช้ วิตามิน A: เนื่องจากทั้ง Retiniods และRetinol สามารถต่อให้เกิดระคายเคืองได้ง่าย ในการใช้ครั้งแรกๆควรใช้ปริมาณนิดหน่อย แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นเมื่อผิวของเราสามารถรับได้ และควรใช้ควบคุ๋กับmoisturizer ที่มีประสิทธิภาพด้วย
แนะนำผลิตภัณฑ์กันหน่อย.... (อันนี้ไม่ใช่หน้าม้าแต่อย่างใดนะครับ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนะนำไว้ในบทความครับ)
Retiniods ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ Tretinoin (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Retin-A และ Renova)
Tazarotene (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Tazorac)
Adapalene (ใช้ชื่อทางการค้าว่า Differin)
ส่วนผลิตภัณฑ์ ที่มี retinol ที่น่าลอง ก็อย่างเช่น
- Dr. Brandt "A" cream เป็นไนท์ครีมที่มีretinol และสารให้ความชุมชื่นจาก shea butter และสารสกัดจากส้มและลาเวนเดอร์
- Roc Retinol Correxion Deep Wrinkle Night Cream ครีมตัวนี้มีผลทดสอบจากห้องทดลองว่าสามารถลดริ้วรอยได้ภายใน 12 สัปดาห์ จากการใช้เป็นประจำทุกคืนติดต่อกัน (ตัวนี้ผมเพิ่งซื้อมาลองใช้ดูครับ ได้ผลยังไงจะมารายงานนะครับ)
- Neutrogena Advanced Solutions Nightly Renewal Cream ครีมตัวนี้ก็มีผลทดสอบจากห้องทดลองว่าสามารถลดริ้วรอยใต้ดวงตาได้ภายใน 4 สัปดาห์ และลดริ้วรอยบนหน้าผากได้ภายใน 1 สัปดาห์
Tip ส่งท้าย....แม้ว่ายังไม่มีรายงานทางวิชาการใดๆสามารถพิสูจน์ได้ว่าการใช้วิตามิน A จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น แต่ผู้ใช้ควรอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ "กันได้ครบ" และมีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย (และจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครับ จะด้วยความงก (ก็ซื้อมาแพงง่ะ) หรือความไม่รู้ก็แล้วแต่ เราๆ มักจะไม่ทาครีมกันแดดในปริมาณที่มากพอที่จะได้รับการปกป้องถึงระดับที่ระบุไว้ข้างขวด ฉะนั้นเราก็ควรจะหาที่มีspf สูงกว่านี้ซักหน่อยก็ดีครับ...เอ่อ เพื่อนๆสามารถหาความรู้เรื่องครีมกันแดดเพิ่มเติมได้ที่เวบคุณรำเพยนะคร้าบบบ)
จากคุณ :
MyLoveMyBabe
- [
30 พ.ค. 49 15:22:38
]