CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    --[ใครเคยรู้สึกว่า ตัวเอง มีสภาพเหมือนกับเป็น "ศูนย์กลางจักรวาล" บ้างครับ .... อะไร ๆ ก็กรู ๆ!!!!! ]--

    สวัสดีครับ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่น่ารักทุกท่าน!!!!
    หลังจากกระทู้ที่แล้วโยนระเบิดให้เพื่อนสนิทสุด ๆ บ้านระเบิดไปแล้ว
    มาคราวนี้ เหมือนกรรมจะตามสนองอย่างรวดเร็ว ฉับไว โดนใจ ราวกับติดจรวด

    เมื่อวานโยนระเบิดให้ชาวบ้าน วันนี้ ระเบิดตกลงกลางกบาลตัวเอง T-T!!!!
    แล้วไม่ได้มาแค่ลูกเดียว มันมาเป็น ชุด!!!!

    เรื่องของเรื่องคืออย่างนี้ครับ มาเลย จะเล่าให้ฟังว่ามันเป็นยังไงมายังไง
    ก็หลังจากที่ว่าง ๆ อยู่หลายเพลา เพราะเคลียงานที่ค้าง ๆ คา ๆ ไปจนหมด
    อยู่ดี ๆ วันนี้ วันที่ผมคาดว่า มันก็จะว่าง ๆ อีกเหมือนกับวันที่ผ่าน ๆ มา แต่ว่า
    มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อกระผม นายสมันน้อย เบอร์ 14 แปลสภาพจากพนักงานต๊อกต๋อย
    กลายเป็น

    "ศูนย์กลางของจักรวาล!!!!!"

    เริ่มต้นจาก วันนี้ ผมมีโปรแกรมจะต้องแจกกุญแจล็อคเกอร์ให้กับพนักงานภายในบริษัทฯ
    เนื่องจากล็อคเกอร์ที่สั่งซื้อมาให้พนักงานใช้เก็บสัมภาระ มันดันเป็นล็อคเกอร์ที่มีประสิทธิภาพ

    "ดีที่สุดในโลก"

    มันดีอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟัง ว่ามันดีอย่างไร ????  
    มันจะไม่ดีได้ไงล่ะ  ก็ไอ้ลูกกุญแจที่เค้าให้มา 12 ล็อคนั่น ไม่ว่าจะดอกไหน แทนที่มันจะใช้ไขได้แต่ตู้ตัวเอง แต่นี่

    “มันเสือกใช้เอาไปไขตู้อื่นได้ด้วย”

    โอ้ย ขอบอกครับ ของหายกันระนาว แล้วบริษัทฯผม เค้ามีกฎอยู่ว่า ห้ามเก็บของมีค่าไว้ในตู้ล็อคเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งสิ้น ให้นำติดตัวไป    ก็แน่นอนครับ “กฎมีไว้แหก!!!!”    ไม่ค่อยมีใครเชื่อกัน ก็ยังเอามาเก็บกันอยู่นั่น ไม่ว่าจะมือถือ กระเป๋าเงิน ฯลฯ

    พอกุญแจมันไขกันได้ ความชิบหายก็บังเกิดขึ้นกับผมทันที ที่จะต้องสวมวิญญาณ คินดะอิจิ หรือฉายา  

    คินดะอีหมัน!!!   <<< คิดได้ไงวะ คินดะอีหมัน - -" !!!

    แปลงร่างเป็นนักสืบหาคนขโมยทันที!!  แล้วนักสืบอย่างผมซึ่งก็เปี่ยมไปด้วยความสามารถอันล้นเหลือ ด้วยที่เคยผ่านการอบรมหลักสูตร การสืบหาคนร้าย จากหน่วยงาน  FBI  มาก่อน เมื่อตอนศึกษาอยู่ที่   สหรัฐอเมริกาฬสินธุ์  T-T  ที่อยู่ติดกับมุกดาหารแอลเจอลิส นั่นแหล่ะครับ T-T

    แน่นอน... ผ่านการอบรมขั้นสูงมาแล้ว ของหายแค่นี้ จิ๊บจ๊อย ๆ ผมใช้เวลาสืบทั้งสิ้น 2 อาทิตย์ ปรากฏว่า





    “หาไม่เจอ T-T”




    โธ่ ............ ก็จะให้มันเจอได้ไงล่ะฟระ คนเป็นร้อย ๆ  ใครมันจะเอาของขโมยมาไว้กะตัว!!!!

    ส่วนงานผม เมื่อเห็นว่า พึ่ง "คินดะอีหมัน"  ไม่ได้แน่นอนแล้ว ก็เลยเรียกประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งผมรอเวลานี้มานานแล้ว  ผมเสนอทันที !!!    

    “ติดกล้องวงจรปิดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเฉพาะห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหญิง
    ต้องติดหลาย ๆ จุด จะได้เห็นชัด ๆ ทุกรูขุมขน .!!!...เฮ้ย จะได้รู้ว่าใครเป็นขโมย T_T ”

    แน่นอนครับ ไม่มีใครเห็นด้วยกะผม    (มันแน่อยู่แล้ว..... ใครมันจะเห็นด้วยกะเอ็งวะ!!!)
    ไป ๆ มา ๆ ก็ภาระก็มาตกที่ผมอยู่ดี ด้วยการสรุปที่ว่า จะซื้อแม่กุญแจมาแจกให้กับพนักงานทุกคน ล็อคตู้ อีกชั้นหนึ่ง  ซึ่งวันนี้แหล่ะที่เป็นวันแจก หลังจากนั่งทำโปรแกรมตู้ล็อคเกอร์เสร็จแล้ว เขียนเบอร์แม่กุญแจแล้ว ก็ถึงเวลาแจกซะที

    วิธีการแจกก็ง่าย ๆ  แค่กำหนดเวลาให้พนักงานทยอยมารับ ในช่วงเวลาว่าง ๆ ที่พนักงานพัก  ถามชื่อ ถามตู้ ถามล็อค แล้วก็แจกกุญแจไป เซนต์ชื่อ ลงชื่อในโปรแกรมที่เขียนขึ้นมา แค่นั้นเป็นอันเสร็จพิธี

    ดูเหมือนจะง่าย แต่มันไม่ง่ายน่ะสิครับ เมื่อ อยู่ดี ๆ วันนี้แทนที่ผมจะสวมวิญญาณพนักงานแจกกุญแจอย่างเดียว ผมดันต้องสวมวิญญาณ  เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความทุจริตในวงราชการ  และ เจ้าหน้าที่กงศุลสหรัฐประจำประเทศไทยไปในคราวเดียวกันด้วย

    เริ่มจาก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความทุจริตในวงราชการก่อนก็แล้วกันครับ คือว่าตอนนี้ ชมรมที่ผมทำงานให้กำลังถูกกลั่นแกล้งโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานหนึ่ง ในประเทศไทยนี่แหล่ะ อย่าให้เอ่ยเลยว่าหน่วยงานไหน

    เพราะว่า  ถ้าพูดไป ดีไม่ดี เดี๋ยวผมจะซวย ต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ในคุกซะก่อนเวลาอันควร T-T

    เอาเป็นว่าโดนกลั่นแกล้งก็แล้วกันครับ เพราะไม่ยอมจ่ายใต้โต๊ะนั่นแหล่ะ ทำไมต้องจ่ายมันด้วย เสียเวลาต้องก้มลงไปจ่ายอีก จ่ายบนโต๊ะไม่ได้หรือไง ทำไมต้องใต้โต๊ะ  ถ้ามันลำบากนักก็ไม่ต้องเอาแมร่ง สิ้นเรื่อง!!!!  

    แหม .... ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรนี่หว่า ทำตามขั้นตอนของราชการทุกอย่าง มันจะมาเอาอะไรกะตูนักหนา  แค่มรึงดึงเรื่องกรูไว้ตั้ง 4 เดือนนี่ก็เต็มทนแล้ว!!!

    หลังจากทนมานานหลายเดือน ก็ถึงเวลาสู้ซะที โดยการประชุมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 261 บริษัทฯ เพื่อเด็ดหัวเจ้าหน้าที่บางคนในหน่วยงานนี้ ระดมกำลัง เก็บรวบรวมหลักฐาน พร้อมทั้งทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานใหญ่ ทุกหน่วยงาน ส่งหมด ทั้ง ผู้อำนวยการระดับศูนย์ฯ / ผู้อำนวยการระดับจังหวัด / อธิบดีกรม / ไล่ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ ประมาณว่า "มรึงแกล้งกรู กรูร้องเรียนมรึง!!!"


    งานนี้ ถ้ามรึงไม่ตาย กรูก็ชิบหายทั้งชมรมแหล่ะวะ แลกกัน!!!!


    ผมเป็นคนพิมพ์จดหมายร้องเรียนทุกฉบับเองกะมือ  ผู้จัดการผมเป็นคนร่างหนังสือทุกฉบับเช่นเดียวกัน  พิมพ์เสร็จก็ส่ายหน้า เดินไปบอกแกว่า

    “พี่ครับ ถ้าพี่จะเอาจดหมายฉบับนี้ส่งไปจริง ๆ ละก็ ผมว่า พี่โทรไปเรียกมันมาต่อยกันเลยดีกว่า”
    “ทำไมล่ะ แรงไปเหรอ”

    “ไอ้แรงน่ะมันไม่แรงหรอกพี่ แต่มันออกแนว ชวนวิวาทมากกว่า!!!”
    "อ้าว เหรอ"

    ยังดีที่แกก็ยังฟังผมอยู่บ้างยอมปรับเปลี่ยนนั่นนิด นี่หน่อย  


    “เออ ค่อยใช้ได้ เหมาะกับเป็นหนังสือร้องเรียนขึ้นมาหน่อย... อันเก่ามันเหมือนสาส์นท้ารบมากกว่า T_T”

    แค่หนังสือยังไม่พอ เมื่อได้หลักฐานการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐกลุ่มนี้มาจำนวน 20 หลักฐานซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการทั้งหมด มีหัวครุฑติดอยู่ทุกแผ่น  ผู้จัดการผม ตอนนั้น เหมือนวิญญาณนักมวยเข้าสิง ที่พร้อมขึ้นชกอยู่ตลอดเวลา แกเอาเอกสารชุดนั้น มาโยนให้ผม

    “เฮ้ย สแกนทุกแผ่น เอาลงเวป ประจานแมร่ง”     ผมเอามาเปิด ๆ ดู

    “ชิบหายแล้ว มีหัวครุฑทุกอันเลย แถมชื่อคนเซนต์ก็ไม่ใช่เล็กๆ”

    เมื่อเห็นดังนั้นเห็นท่าว่าจะไม่ได้การ เพราะถ้าบ้าตามแกไปด้วย อาจจะไม่ได้แก่ตาย เลยบอกแกไปว่า

    “พี่ครับ ผมว่าพี่เพลา ๆ ลงหน่อยดีไหม นี่มันเอกสารราชการนะพี่ ชื่อคนไม่เกี่ยวก็มีอยู่เยอะ ถ้าขืนสแกนให้เอาลงเวป คนมันก็เห็นกันทั่วประเทศ ไอ้ดีมันก็ดีแหล่ะพี่ แต่เรื่องเรามันต้องรอสอบสวนก่อน ขืนเอาลงไปสุ่มสี่สุ่มห้า มันฟ้องกลับมาฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เราจะติดคุกกันหมด!!!  ไอ้พี่น่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผมดิ ซวยสุด เพราะเป็น Webmaster เป็นคนเอาลง จัดการทุกอย่าง   อ๋อ นี่พี่วางแผนให้ผมติดคุกใช่ไหม บอกมาตรง ๆ ดีกว่า อย่าคิดว่าผมโง่สิพี่ ผมไม่โง่นะ แค่ทำเงินหายไป 8000 บาทเอง ว่าแต่ พี่มีเงินให้ผมยืมไหมครับ T-T”


    ผลจากการชี้แจงอันนี้ของผม หรือไม่ผมก็รู้ทันแก ที่แกพยายามจะทำให้ผมเข้าไปนอนในคุกซะมั่ง ...  แกเลยเปลี่ยนใจ ควักเงินให้ เอ้ย!!! ระงับไว้ก่อนก็ถือเป็นโชคดีของผมไป

    เอาล่ะจบไปอีกเรื่อง  นั่นเป็นเรื่องที่ผมสวมวิญญาณเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความทุจริตในวงราชการ


    ต่อไป ผมสวมวิญญาณ เจ้าหน้าที่กงศุลสหรัฐประจำประเทศไทย!!!!


    มันก็เนื่องมาจากว่า บริษัทผม จะซื้อเครื่องจักรใหม่ ใหญ่โคตร ๆ มาจากอเมริกาในอีกไม่นานนี้ ดังนั้นทางอเมริกาเอง จึงเชิญให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทผม ไปศึกษาดูงาน และฝึกงานกับเครื่องจักรจริง ๆ ที่ประเทศเค้า

    จริง ๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรกับเค้าหรอกครับ ไม่ได้เกี่ยวด้วยซ้ำ จะไปก็ไป ไม่เกี่ยวกับผม  แต่ว่า อยู่ดี ๆ เจ้าหน้าที่ ๆ เค้าจะไปดันเอาเอกสารมาโยนให้ผม พร้อมบอกให้ช่วยกรอกเอกสารเหล่านี้ผ่านอินเตอร์เนทให้หน่อย

    ผมเอามาเปิด ๆ ดู  

    “อะโห!!!!!!   อังกฤษล้วน.............. แล้วกรูจะอ่านออกไหมเนี่ย”

    ผมหันไป

    “เฮ้ยๆ พี่ จะไปไหนมานั่งนี่เลย ผมอ่านไม่ออก แล้วจะให้ผมกรอกยังไงล่ะ”
    “เออ ๆ หมันกรอกไปก่อนเลย เดี๋ยวมา”

    “พี่จะไปไหน”
    “กลับบ้าน!!!”

    "แสรดดด กลับบ้าน!!!!!!"
    "เออ จะรีบไปรับเมีย เดี๋ยวแมร่งด่า"

    “เวรกรรม ตกลงพี่กลัวเมียด่า มากกว่ากลัวไม่ได้เข้าประเทศใช่ไหมเนี่ย”
    “เออน่ะ กรอก ๆ ไปเหอะ พี่เขียนไว้ให้แล้ว”

    แล้วพี่แกก็ไม่ฟังเลย รีบออกไป  แสดงว่ากลัวเมียโคตร ๆ แล้วไอ้เอกสารนี่มันต้องกรอกผ่านเวปของกงสุลสหรัฐ ซึ่งขอบอกว่า ผมเปิดไปแล้วหัวแทบระเบิด เพราะมีแต่ภาษาอังกฤษล้วนๆ  ประมาณว่า ขอวีซ่าอะไรประเภทนี้แหล่ะมั้งนะ แล้วต้องกรอกขอนัดหมายวันสัมภาษณ์อีกต่อนึงด้วย   มันต้องกรอกเอกสารหมายเลข 157 หรือ 156  อะไรผมจำไม่ได้แล้ว ซึ่งมีตั้งเกือบ ๆ 40 ข้อได้ โห!!!

    คือผมจะไม่เคืองแกเลย ถ้าแกเขียนมาให้ผมอ่านออก แต่นี่ ไม่รู้จบปริญญาโทมาได้ไง พี่แกเขียนหนังสือแบบว่า ตามประสาพวกเราที่เรียกว่า


    “ไก่เขี่ย!!!!”   แล้วไม่ได้เขี่ยธรรมดา มันเขี่ยแบบ  “เขี๊ย เขี่ย!!!”

    "พี่ครับ ทำไมพี่ไม่ลากเป็นเส้นมาเลยล่ะครับพี่ พี่ยึก ๆ ยือ ๆ จะ R ก็ไม่ R จะ X ก็ไม่ X!!!!"  เอ่อ นั่นมันหนังสารคดีแล้ว T_T

    โอ้ย อ่านไม่ออกเลย คุณคิดดูขนาดคำว่า Engineer ผมยังสะกดอยู่ตั้งนาน เพราะพี่แกเขียนแค่ตัว En มาแค่นั้น แล้วก็ลากกกกกกพรึดดดด  โห!! พี่ แล้วผมจะรู้ไหม ว่าไอ้พรึดดดดดดดด ของพี่เนี่ย มันตัวอะไร T_T

    ไป ๆ มา ๆ ผมก็กรอกไปจนได้ แต่ข้อมูลที่ผมกรอกไปก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือเปล่านะ เอาวะ แค่หมายเลข Passport กับชื่อ นามสกุล ถูกก็คงโอเคแล้วล่ะมั้ง อันอื่นก็มั่ว ๆ ไปตามประสา เค้าไม่ให้เข้าประเทศ ก็ไปแก้ปัญหากันเอาเองแล้วกัน  ช่วยไม่ได้ เสือกมาโยนให้แล้วหนีกลับบ้าน!!!

    นั่นยังไม่พอครับ ผมยังต้องกรอกเอกสารฉบับนี้ให้กับ “ลุง”  ย้ำครับ ว่า “ลุง เพราะแกอายุเกือบ ๆ จะเกษียณอยู่แล้ว”  อีกคนหนึ่ง
    ลุงคนนี้ อย่าว่าแต่อเมริกาเลย แค่ฟิวเจอร์แกยังไปไม่ถูก!!! แล้วนี่จะไปอเมริกา โอว พูดไทยยังต้องแปลไทยเป็นไทย แล้วนี่ แกต้องไปสื่อสารกับฝรั่ง อะไรจะเกิดขึ้น คุณคิดดู ถ้าเจ้าหน้าที่ ตม.ของอเมริกาเค้าถามนะ ว่า


    "เฮ้ ยูพกยาเสพติดมาด้วยหรือเปล่า"

    แล้วแกตอบ

    "โอเค!!! ชัวร์"   อะไรมันจะเกิดขึ้น...........


    คือ  แกก็ไม่รู้ภาษาอังกฤษเหมือนกับผม จริง ๆ แล้ว แกไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นอะไร รู้แค่ A-Z แค่นั้นเอง อย่าให้พูด เพราะพูดไม่เป็น ก็ขนาดผมถามชื่อแกเป็นภาษาอังกฤษ แกยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าชื่อแกเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่ายังไง

    “ลุง แล้วพูดฝรั่งไม่ได้อย่างนี้ จะไปสื่อสารกับเค้าได้ไง”
    “ไม่รู้เหมือนกัน”

    “อ้าว!!! แล้วกัน เอางี้ลุง ผมสอนลุงคำเดียว ใช้ได้ทั่วโลก”
    “คำว่าอะไร”  แกทำท่าสนใจ

    “จำไว้เลยนะลุง  คำว่า   UP TO YOU!!” << จำอุดม แต้พานิช มาใช้ครับ
    “อะไรวะ อัพ ทู ยู”

    “มันแปลว่า  แล้วแต่มรึงเถอะ  พอมันถามอะไรมา เราก็บอก แล้วแต่มรึง มรึงจะทำอะไรก็แล้วแต่มรึง ไม่ต้องมาถามกรูให้เสียเวลา เพราะกรูฟังไม่รุ้เรื่อง!!!”
    “ไอ้เวร”

    ผมถามแกมาก ๆ เข้า ว่า เกิดวันไหน ที่ไหน ยังไง อายุ  ถามแกบ่อย ๆ แกคงรำคาญ เลยหนีความจริงโดยการโยน Passport และ บัตรประชาชนไว้ให้ผม แล้วก็เดินหนีไปเลย ประมาณว่า ฝากชีวิตไว้กับไอ้หมันโดยแท้!!! ทั้ง 2 คนเลย T_T

    เอาล่ะ จะไม่ได้เข้าประเทศกันก็คราวนี้แหล่ะวะ   เพราะกรูมั่ว!!!!! มั่วทั้งหมด!!!!
    เปิด Dictionary ทุกข้อ ทุกตัวอักษร ขนาดคำว่า Date Of Birth ผมยังเปิด Dict ฯ เลย

    ครือ อารมณ์นั้นแล้วอ่ะครับ คิดอะไรไม่ออก เปิดแมร่งทุกตัวอักษร ทั้ง ๆ ที่บางอันผมก็อ่านออกนะ แต่มันมึนอ่ะ เลยเปิดมันทุกตัวเลย!!!!

    กรอกเอกสาร 40 ข้อ ผมใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง!!!!   ก็ไม่รู้ว่าจะได้เข้าประเทศเค้าหรือเปล่านะ เอาเหอะ จะมาโทษกันไม่ได้นะ เพราะว่า


    “กรูก็พยายามเต็มทีแล้วโว้ย!!!”


    นั่นเป็นตอนที่ผมสวมวิญญาณ เจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐ ประจำประเทศไทยครับ

    เอาล่ะทีนี้ ทำไมผมถึงบอกว่า ผมมีสภาพเปรียบเสมือน  “ศูนย์กลางของจักรวาล”  
    ก็เพราะว่า ทุกอย่างที่ผมเล่ามาทั้งหมดข้างบนนี้ มันเกิดขึ้นมาให้เวลาเดียวกัน!!!!!!!!

    ผมต้องสวมวิญญาณหลาย ๆ อันสลับกันไปเรื่อย ๆ ฮ่ะๆๆๆ

    โอ้ย คุณคิดดูว่าหัวมันจะหมุนขนาดไหน  
    เดี๋ยวพนักงานก็มาเบิกกุญแจ
    ระหว่างที่ผมพิมพ์เอกสารร้องเรียนอยู่นั่น ผมก็ต้องเปิดโปรแกรมรับกุญแจไปด้วย !!!
    กำลังแจกกุญแจอยู่ ก็เอาเอกสารมาให้สแกน
    โอ้ย เดี๋ยวก่อนพี่ เดี๋ยวก่อน เอาทีละอย่าง  
    เอาล่ะ ๆ แจกเสร็จ กำลังจะสแกน
    เอกสารขอวีซ่าก็มา  อะโห อันนี้งานยักษ์ เพราะต้องเปิดเอกสารคู่กันหลายเล่ม กำลังเปิด ๆ อยู่

    โทรศัพท์ดัง   เพื่อนห้องบาสโทรมา

    "ฮัลโหล พี่หมันเหรอ"
    "เออ ๆ เฮ้ย เดี๋ยวพี่โทรกลับ โครม!!!!"  << จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่ได้โทรหามันเลย T-T

    วางโทรศัพท์ปุ๊ป!!!  พนักงานมาเบิกกุญแจอีกแล้ว  
    โอ้ย  จะเอารูปที่มาฝากสแกน  
    เฮ้ย จะให้เอาลงเวป  
    โว้ย จะให้แกะตัวอักษรภาษาอังกฤษ  

    แสรดดด โทรศัพท์ดังอีกแล้ว แม่โทรมา

    "ฮัลโหล หมันเหรอ"
    "แม่ งานยุ่ง เดี๋ยวโทรกลับ โครม!!!"

    วางโทรศัพท์แม่ไป
    จ๊ากกกก มาเบิกกุญแจอีกแล้ว  
    เว้ย เอาเอกสารร้องเรียนมาให้แก้อีกแล้ว  

    โทรศัพท์ดังอีกคำรบ  แม่โทรมาอีกแล้ว

    "ฮัลโหล แม่ งานยุ่ง เดี๋ยวโทรกลับได้ไหม"
    "หมัน แม่มีเรื่องปรึกษา"  << ไม่ได้ฟังเล้ย ว่าลูกตัวเองยุ่งขนาดไหน

    "เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ"
    "เนี่ย แม่เอาเครื่องซักผ้าไปซ่อม แล้วเค้านัดไปเอาวันนี้"  << ก็ยังไม่ฟังอยู่ดี T-T

    "แม่ ให้ผมทำงานก่อนไม่ได้เหรอ"
    "แป๊ปเดียวเอง คุยกับแม่ก่อน" << คือ เจ๊จะคุยให้ได้

    "อ่ะ ทำไม เร็ว ๆ นะ"
    "แม่เบิกเงินค่าซ่อมเครื่องซักผ้า!!!!"

    " T-T "

    "กรู ไม่น่าคุยด้วยเลย เสียเงินอีก T-T"




    ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ  ถ้าใครมาเห็นผมวันนี้ อาจจะเห็นผมในร่างนารายณ์อวตาล  มี 4 กร    มือเป็นระวิง ปากงี้ไม่ได้หยุดพูด
    เพราะฉะนั้นก็อย่าแปลกใจ ที่อยู่ดี ๆ เอกสารขอวีซ่าชั่วคราวจะมีการร้องเรียนข้าราชการไทยบวกไปด้วย หรือไม่เอกสารร้องเรียน ก็จะมีเบอร์แม่กุญแจติดไปด้วยเหมือนกัน  




    สมันน้อย อวตาล เบอร์ 14   UP TO GRUUUUUUU!!!!  แล้วแต่กรู.......



    **เว้ณวรรคใหม่ และแก้ไขคำผิดครับผม

    แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 01:46:09

    แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 01:26:11

     
     

    จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 - [ 31 พ.ค. 49 00:56:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป