ความคิดเห็นที่ 1 ตอนจบของภาค 1 เนี่ย เราเกริ่นไว้ว่า ไว้ว่างๆ จะเล่าเหตุการณ์ตอนครบรอบ 1 เดือนให้ฟัง เพราะโรแมนติกไม่แพ้กัน งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ หลังจากที่ตกลงเป็นแฟน ไอ้เราก็ออกจะ งงๆ ตัวเองเล็กๆ ว่า เฮ้ย...เอาแน่เหรอ...คนนี้แน่เหรอ ถามตัวเองดีๆ นะเฟ้ย เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนา เพราะเพิ่งตกลงปลงใจไปไม่ถึงอาทิตย์ บอกตรงๆ ว่าคิดหนักมาก ไม่แน่ใจตัวเองว่า ที่คบเค้าเนี่ย เพราะอะไร มันไม่ใช่รักอ่ะแน่ๆ อยู่แล้น แต่ชอบก็คงไม่ผิดหรอก ก็เลยเอาเป็นว่า ไม่เปลี่ยนใจ เดินหน้าแล้ว เราไม่ถอยหลัง เด็ดๆๆ จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 17:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่อ จำกระทู้นี้ได้ก่ะ อ่านทีไร ตาร้อนเป็นลาวาทุกทีเลย อ่า ปูเสื่อรอ   จากคุณ : หัวโต๊ะโต่ะ~ - [ 5 มิ.ย. 49 17:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เค้าก็รับรู้ได้นะว่า เราอ่ะใจยังไม่ไปเต็มร้อย ส่วนเค้าอ่ะเกินร้อยไปแล้ว มหาลัยเค้า กะมหาลัยเราเนี่ย มันคนละที่เลยอ่ะ เราเรียนในเมือง เค้าเรียนนอกเมือง แต่ถ้านั่งรถไฟไปก็ไม่ไกลเลยนะ เราสองคนจะมี class ตอนกลางคืนซะส่วนใหญ่ เพราะทางมหาลัยเค้าจัด class กลางวันให้เด็ก ป.ตรี (อันนั้นโมโหมากเลย เพราะเราลงเรียน full time อ่ะ จ่ายตังค์ค่าเรียนก็แพงกว่าเด็ก local ตั้งเยอะ ยังจัด class กลางคืนให้อีก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหาตังค์ล่ะ) บ่อยครั้งที่เค้าจะนั่งรถไฟไปรอเราหน้าห้องเรียนมั่ง รอนั่งที่สถานีรถไฟมั่ง แต่อย่างนึงที่เค้าเสมอต้นเสมอปลายมากก็คือ เค้าไม่เคยให้เราเดินกลับบ้านคนเดียวเลย (เพราะจากสถานีรถไฟ เดินกลับ apartment นี่ไกลใช่เล่น แล้วอีกอย่างมันหนาววววว....ขอมีไออุ่นนิดนึง) หลังจากเลิก class เค้าก็จะมานั่งที่ apartment เรารอทำกับข้าวให้กิน แล้วเพี่อนๆ ที่รู้จักกันจากที่ร้านอาหารไทยด้วยกัน ก็จะมาร่วมวงกันด้วยบ่อยๆ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย ตอนนั้นน้องสาวเราไปเรียนภาษาด้วยประมาณ 2 เดือนกว่าๆ เราก็ต้องทำข้าวกลางวันให้น้องไปกินที่โรงเรียนด้วย เพราะ เพื่อนๆ เค้าไม่มีใครออกไปกินข้างนอกกันเลย ตอนนั้นนะ ถ้าต้มบอระเพ็ด (เขียนถูกป่าวเนี่ย) เค้าก็คงว่าหวานแหละมั้ง อย่างโบราณว่า น้ำต้มผักยังว่าหวานใช่มะ อาหารอร่อยทุกอย่าง หุหุหุ ข้าวเละๆ ยังว่าอร่อยเล๊ย จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 17:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากคบกันได้ประมาณสองอาทิตย์ เราก็วางแผนกันไปเที่ยวนอกเมือง ขับรถไปกันประมาณ 3 คันได้ นับว่าบรรยากาศเป็นใจ ตอนนั้นต้องเรียกว่าเป็นช่วงทองของผู้หญิงเรา คือช่วง 3 เดือนแรก ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก (หุหุหุ ตอนนี้ก็ยังงั้นอยู่นา เพียงแต่ตอนนั้น ได้รับการเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ จนเคยตัว ติดเป็นนิสัย แก้ไม่ให้จนถึงทุกวันนี้) พวกเราจองคาราวานนอนกัน ฝรั่งเค้าเอาตู้คอนเทนเนอร์มันดัดแปลงเป็นห้องพักอ่ะค่ะ จะมีเครื่องครัวให้พร้อมสรรพ แต่เราต้องเตรียมเครื่องนอนไปกันเอง ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แต่เที่ยวแบบพวกเราไม่จำเป็นต้องเอาหรูหรา ให้สนุกสนาน เฮฮา อิ่มท้องก็พอแล้ว รู้สึกว่า trip นั้นจะถ่ายรูปกันเป็นร้อยๆ เลย วิวสวยมาก และบรรยากาศดีมากจริงๆ ตอนกลางคืน ออกมานั่งเล่นกีตาร์ ร้องเพลงกัน ดาวเต็มท้องฟ้ามากกกกกกกกก ไม่เคยเห็นดาวที่ไหนเยอะเท่านี้กันมาก่อน สวยมากๆ ชายหนุ่มของดิชั้นก็ต้องทำโรแมนติกนึดนึงนะคะ โดยการเล่นกีตาร์เพลงซึ้งๆ ให้ฟัง นั่งกันเป็นสิบ แต่เราสองคนทำเปรียบเสมือน โลกนี้มีเราแค่สองคนได้ ดิชั้นสามารถฮ่ะ จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จำได้ว่า คืนนั้นง่วงนอนมากๆ เลย เพราะกินยาลดน้ำมูกเข้าไป แล้วเพื่อนๆ เราก็นั่งกันซะดึก เราน่ะต้องนอนกะน้องสาวเรา แต่น้องเราอ่ะยังไม่ง่วง คุณแฟนก็เลยเดินไปส่งให้นอนก่อน เราก็ไปนอนแต่โดยดี เค้าก็จัดแจงห่มผ้าให้แล้วก็เดินออกไป เรากำลังจะเคลิ้มหลับ ใครเปิดประตูเข้ามาวะ นึกว่าน้องสาวก็เลยขี้เกียจลืมตา ฮั่นแน่ มีหนุ่มบุกเข้าห้องโว้ย....ทำไงดีเนี่ย....แหน่...ไม่ต้องคิดกันไกล เพิ่งคบกันได้ 2 อาทิตย์นะยะ ไม่ใจเร็วด่วนได้ขนาดนั้น เค้าแค่เข้ามาจุ๊บแก้มเบา แล้วก็บอกว่า ฝันดีนะ เพราะเค้าคิดว่าเราหลับไปแล้น ที่ไหนได้ หุหุหุ ได้ยินและรู้หมดแหละว่าทำอะไร จนถึงทุกวันนี้ยังไม่เคยบอกเค้าเลยนะว่าคืนนั้นมาแอบขโมยหอมแก้มเราไป เพื่อนๆ เราเล่าให้ฟังตอนเช้าว่า คืนนั้นเค้าก็เดินเข้าๆ ออกๆ ที่ห้องหลายรอบ เพราะกลัวเราไม่สบายมากกว่าเดิม อากาศมันหนาวนี่นา ยิ่งออกนอกเมืองไม่ต้องพูดถึง หนาวกว่าตัวเมืองไม่รุ้เท่าไร แล้วเงี้ยจะไม่รักได้ไงใช่ป่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 49 18:15:07 จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วันครบรอบ 1 เดือนเนี่ย ไม่มีปัญญานัดกันไปไหนเลย ให้ตายเถอะโรบิ้น assignment กองท่วมหัวอยู่ ตัวนั้นก็ due ตัวนี้ก็ต้อง present เหล่าบรรดาอาจารย์กะเอากันให้ตายไปข้าง แล้วเป็นเด็กกะเหรี่ยงอย่างพวกเราไปเรียนบ้านเมืองเค้า ก็ต้องขยันหนักกว่าเป็นสองเท่า เราก็ไม่รู้นะว่า เรียนรอดมาได้ไง แต่เชื่อว่าสัญชาตญาณมนุษย์ต้องเอาตัวรอดเสมอ ยังไงก็ต้องเสร็จ ยังไงก็ต้องมีส่ง จำได้ว่า คืนนั้นจะทำ assignment บ้านเพื่อน กลับบ้านค่อนข้างดึก คุณแฟนก็เลยอาสาไปรับ (ก็บอกแล้วว่า เค้าอ่ะน่ารัก ใส่ใจเสมอเรื่องกลับบ้านกลับช่องเนี่ย) เราก็คุยกันนะว่า เออ วันนี้ครบรอบ 1 เดือน (อุ้ย..ตอนนั้นนับกันทุกเดือน เดี๋ยวนี้เหรอ....อิอิอิ....เริ่มนับกันเป็นปีแระ) เร็วจัง เวลามันผ่านไปเร็วจังเลยอ่ะ พอถึงหน้าบ้านก็แค่บอก ฝันดี ขับรถดีๆ นะ แล้วก็เข้าบ้าน ไม่ได้มีดอกมง ดอกไม้หรือของขวัญอะไร แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้ด้วย คืนวันนั้นมีเพื่อนไปนอนที่บ้านด้วย มันไปนั่งรอตั้งนานแล้วแหละ ก็เลยคุยกะน้องสาวเราไปเรื่อยๆ พอเราเข้าบ้าน ยังไม่ทันได้เอ่ยปากคุยอะไรกะเพื่อนเลย ก็มีโทรศัพท์เข้ามา คุณแฟนค่ะ โทรมาบอกว่า เนี่ย เอาของวางไว้ที่ตู้จดหมาย ให้ลงไปเอาด้วย เค้าไปแล้ว กลัวมีคนมาหยิบไป แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 49 18:52:25 จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บอกได้คำเดียวค่ะว่า..งง..ก็เมื่อกี้อยู่บนรถอ่ะ ทำไมไม่ให้ ทำไมต้องให้เสียเวลาลงไปเอา คือ apartment เนี่ยมันมีหลายส่วน กว่าจากที่ห้องจะเดินไปถึงตู้จดหมายริมถนนเนี่ย มันก็ต้องเดินไกล หนาวอีกต่างหาก แม้...เมื่อกี้ไม่รู้จักให้ แต่ถามว่าลงไปเอาของมั้ย ลงค่ะลง บ่นไปงั้นแหละ ต้องอธิบายก่อนว่า ทางเข้า apartment มันจะมี 3 ทางด้านหน้า และ 1 ทางด้านหลัง ด้านหน้าเนี่ยจะมีประตูใหญ่ประตูเดียวสำหรับรถเข้าออก แล้วจะมีประตูเล็กๆ สำหรับให้คนเดินเข้ามาได้อยู่ 2 ฝั่งของ apartment ซึ่ง aparment อันนี้มันค่อนข้างใหญ่ มีหลายตึก กินบริเวณประมาณ blcok นึงเลยอ่ะ ตู้จดหมายกะทางเดินเล็กจะอยู่ในส่วนเดียวกัน ตึกเราไม่ได้อยู่ติดกะถนนใหญ่ เวลาเรากลับบ้านก็ต้องเข้าทางประตูเล็กซึ่งซอกเล็กๆ หลบมุมอยู่ ให้พอคนเดินสวนกันเท่านั้น พอเราเดินลงมาจากห้อง แล้วเดินเข้าซอกเล็กๆ นี่แหละ โอ้แม่เจ้า....ทางเดินสองฝั่งของซอกเล็กๆ นี้ มีเทียนวางไว้สองข้างทางค่ะ ยาวไปจนถึงตู้จดหมาย แล้วไอ้ของที่เค้าว่ามันยัดใส่ตู้จดหมายไม่ได้ กลัวมีคนมาหยิบไปก็คือ ช่อกุหลาบสีชมพูขาว ช่อเท่าบ้าน วางอยู่บนตู้จดหมายซึ่งเป็นหมายเลขของห้องดิชั้นเองค่ะ ตอนนั้น งง ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า เอ๊ะ...ของชั้นแน่ป่าววะ ใช่เหรอวะ แต่มองๆ ดูแล้ว ดึกขนาดนี้ มีคนเรียกลงมาให้ไปรับของ ก็คงจะชั้นคนเดียวแล้วเนี่ยแหละ และแล้ว สายตาเหลือบไปเห็น แหนะ รถจำเลยจอดอยู่ ฮั่นแน่ กลับไม่จริงหว่า พ่อตัวดีอยู่ไหน ออกมาซะดีๆ นะ เรียกอยู่ตั้งนาน กลัวชาวบ้านลุกขึ้นมาด่าเหมือนกันว่า ดึกป่านนี้แล้วยังมาตะโกนเรียกหาพระแสงอะไรอยู่ได้ ที่ไหนได้ เค้าก็ไปแอบอยู่ตรงที่ทิ้งขยะอ่ะ (คือมันไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดนะคะ ฝรั่งเค้าทำเป็นสัดเป็นส่วน ไม่เหม็นด้วย) ไปแอบดูปฎิกิริยาดิชั้นอ่ะค่ะ ว่าทำให้ขนาดนี้เนี่ย จะรู้สึกอะไรบ้างมั้น แหม...ไม่รู้สึกก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะเนี่ย ไปเปิดประตูที่เก็บขยะถึงเจอตัว ปลื้มซะ กอดกันอยู่พักใหญ่ (มันหนาวค่ะมันหนาว) จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณแฟนชวนขึ้นรถ ป่าวหรอก ไม่ได้จะขับไปไหน จอดมันอยู่หน้า apartment นี่แหละ เข้าไปในรถทำไมเหรอคะ เพราะต้องเปิดเพลงให้ดิชั้นฟังด้วยไง เดี๋ยวจะไม่ครบสูตร กลิ่นดอกไม้นี่ก็ตลบอบอวลเต็มรถไปหมด เค้าบอกว่า ที่เค้าเลือกจุดเทียนตรงทางเดินนี้ เพราะเป็นทางที่เราเดินเข้าออกทุกวันเลย เวลาไปไหนมาไหน จะได้นึกถึงเค้า ว่าเค้าเคยทำสิ่งดีๆ ไว้ให้เราตรงนี้ ซึ้งอ่ะซึ้ง ถ้ามีโอกาสได้กลับไปเที่ยว เราจะกลับไปเดินเล่นแถวๆ aparment นั้นอีก พอฟังเพลงจบ ต้องลงจากรถมาช่วยกันดับไฟ เพราะกลัวไฟจะไหม้ apartment เดี๋ยวจะไม่มีที่ซุกหัวนอน เค้าก็เดินไปส่งหน้าห้อง แล้วก็กลับบ้านไป พอเข้าห้องเท่านั้นแหละ น้องสาวกะเพื่อนดิชั้นเห็น โฮะๆๆๆ แซวกันไม่หยุดปาก เพื่อนตัวแสบมันก็บอกว่า งี้แหละ เดือนแรกก็งี้แหละ ทำเป็นหวาน เดี๋ยวจะคอยดูปีหน้า....ขอโทษ เดือนที่ 2 ดิชั้นก็ยังได้อยู่ และหลังจากนั้น นึกอยากจะให้ก็ให้อ่ะ เห็นมันสวยเลยซื้อมาให้ไรเงี้ย ส่วนวาเลนไทน์เนี่ย ได้เป็นกระถางอ่ะ ไม่ใช่ว่าซื้อใส่กระถางมาให้นะ แต่ทางร้านเค้าจัดใหญ่มาก เหมือนเป็นกระถางใส่กุหลาบ 12 ดอกอ่ะ ทุกวาเลนไทน์ ร้านอาหารที่เราทำงานอยู่จะต้องขอยืมช่อดอกไม้ของเราไปแต่งหน้าร้านอ่ะ เพราะมันใหญ่มากจริงๆ ตอนนั้นทำงานได้เงินดอลล์มันก็ซื้อหาอะไรได้ไม่ยาก คิดเป็นเงินไทย ราคาก็ไม่แตกต่างกันเลยนะ สำหรับดอกไม้ช่วงเทศกาล แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 49 18:59:58 จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:43:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รออ่านครับ แต่ภาค 2กลับมาไทยแล้วจะแต่งแล้วนิครับ ทำเหมือน 2 คน 2คม ใช่มะนี่ ภาค 3ย้อนกลับไปกลับมา (แซวเล่นนะครับ) จากคุณ : Take - [ 5 มิ.ย. 49 18:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าได้อ่านภาค 2 มาแล้น ก็จะรู้ว่า เรากำลังจะแต่งงานกัน แต่เราไม่ได้บอกแหละว่า จะแต่งเมื่อไร อาทิตย์หน้า เราจะแต่งงานกันแระนะ อวยพรให้พวกเราสองคนด้วยนะ ที่อุตส่าห์ผ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน จนจะมีวันในอีกไม่ถึง 1 อาทิตย์ข้างหน้านี้ หลังจากแต่ง คงต้องมาเริ่มนับ 1 กันใหม่ ปรับตัวเข้าหากันใหม่ ส่วนภาค 4 ภาค 5 จะตามมามั้ยนี่ คงต้องติดตามกันนะคะ ภาค 4 นี่คงจะเป็นภาค Honeymoon อ่ะค่ะ ไว้ว่างๆ เมื่อไร (อีกแระ ว่างๆ เมื่อไรอีกแระ) จะมาเล่าให้ฟังพร้อมรูปประกอบสถานที่ honeymoon นะคะ จากคุณ : + + W I N C H Y + + - [ 5 มิ.ย. 49 18:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีด้วยครับคุณ  + + W I N C H Y + + จากคุณ : Take - [ 5 มิ.ย. 49 18:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เชิญห้อง ถนนนักเขียนครับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 5 มิ.ย. 49 19:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หาให้เราคนนึงสิ อิอิ จากคุณ : noon and vanness - [ 5 มิ.ย. 49 22:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รักกันตลอดไปนะคะ หวานมั่กๆๆ อยากให้แฟนเราโรแมนติกอย่างนี้บ้างจัง เฮ้อ.... จากคุณ : ttlucky - [ 6 มิ.ย. 49 15:37:19 ]