CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    --[คุณผู้หญิงทั้งหลายครับ สำหรับผู้ชายอย่างพวกผมแล้ว "ผมรักคุณนะครับ"]--

    --[กระทู้นี้ยาวพอสมควรนะครับ แต่รับประกันว่า]--

    ได้ทั้งความสนุก และ สาระแน่นอนครับผม!!!!



    สวัสดีตอนดึก ๆ ครับ เพื่อน ๆ ชาวสวนลุมพินีวันทุกท่าน

    เมื่อวันเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีนัดกับเพื่อน ๆ ในห้องบาสฯ ไปทำบุญ ล้างบาป 9 วัดกันที่จังหวัดอยุธยา!!!

    แต่เปล่าครับ ผมไม่ได้มาเล่าเรื่องอิ่มบุญให้เพื่อน ๆ ฟังแต่อย่างใด เรื่องที่ผมจะเล่าก็คือ เรื่องก่อนวันที่จะไปทำบุญต่างหาก

    ผมไปถึงที่พัก เอ่อ ขอบอกหน่อยนะครับ ว่าที่พักที่ผมไปเนี่ย ดีมากเลยครับ บรรยากาศดี๊ดี บ้านพักสุดหรูหรา ในราคา 0 บาท อ่ะ ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเจ้าของบ้านพักเป็นเพื่อนสนิทผมเอง  หรูขนาดไหนน่ะเหรอ ก็ประมาณว่าโบรชัวร์ที่เพื่อนผมเอามาให้ดูเป็นตัวอย่างนั่น มีโฆษณาติดอยู่ ว่าบ้านหลังนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์มาก่อน

    ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ภาพยนต์เรื่อง











    "แม่นาค พระโขนง!!!!"



    แสรดดดดดดดด หรูโคตร ๆ หรูมาก ๆ เลย หรูจนขนหัวลุกกันเป็นแถบ!!!!!
    ถือเป็นการตัดสินใจอันผิดพลาดอย่างมหันต์สำหรับคณะเดินทางในครั้งนี้
    เพราะว่า กว่าจะไปถึงที่พักก็ปาเข้าไปเกือบ ๆ 5 ทุ่ม!!!!

    โอ้ย ขอบอก ๆ ตอนที่ขบวนรถทั้งหมด 5 คัน ไปจอดอยู่หน้าบ้านหลังนี้นะ ผมหันไปคุยกับเพื่อนที่ไปด้วยกันว่า

    "โห แมร่งบ้านผีสิงชัดๆ!!!!"
    "เออว่ะ"


    คุณหนุ่ม No.7 คือผู้กล้าเดินไปไขประตูรั้ว บ้านผีสิงหลังนี้!!!! ด้วยที่ว่า ดันเป็นคนแรกที่ขับรถไปจอดหน้าประตูรั้ว ที่ลึกเข้ามาจากปากทาง ที่ไม่มีไฟเลยแม้แต่ดวงเดียว ประมาณ 200 เมตร มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถคันที่ผมนั่งอยู่ และคันของคุณหนุ่มเท่านั้น ที่ส่องประตูรั้วบ้านหลังนี้อยู่

    แล้วคุณคิดดูสิว่า บรรยากาศมันจะวิเวกวิเหวงโหวงขนาดไหน ขนาดผมนั่งอยู่บนรถยังหนาว ๆ ร้อน ๆ เลย - -"

    แล้วตอนที่คุณหนุ่ม ลงมาจากรถเพื่อจะเอากุญแจไปไขประตูรั้วนั่น  พี่แกหันมามองพวกผมที่นั่งอยู่บนรถคันต่อจากแก แล้วทำหน้าขอกำลังใจประมาณว่า

    "เฮ้ย เพื่อนรัก.... ลงมาเป็นเพื่อนกรูหน่อย!!!!"

    และด้วยความที่เพื่อนรักกำลังเผชิญกับสิ่งที่เค้าคิดว่ามันมีอยู่แถวนั้นเพียงลำพัง คนเป็นเพื่อนสนิทอย่างผม จะปล่อยให้เพื่อนไปหลอนอยู่คนเดียวได้ยังไง  ผมก็เลยช่วยให้กำลังใจโดยการ



    "ส่ายหัว!!!!"  ในใจคิด  "ฝันไปเหอะเพื่อน กรูจะลงไปให้ผีหลอกกรูเร๊อะ!!!"

    รักกันมากเลยครับ สนิทกันโคตร ๆ T_T

    เมื่อเห็นว่า คงจะพึ่งพาอะไรเพื่อนรักอย่างผมไม่ได้ซะแล้ว ตกลงคุณหนุ่มก็เลยต้องเดินไปแบบกล้า ๆ กลัว ๆ มองซ้าย มองขวาเผื่อจะเห็นในสิ่งที่เค้า ไม่ต้องการเห็นยืนอยู่แถวนั้น!!!!

    คุณหนุ่มเอาตัวรอดมาขึ้นรถขับเข้าบ้านจนได้

    2 ข้างทาง อุดมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ครึ้มไปหมด

    นี่ถ้าเป็นตอนเช้านะ บรรยากาศสุดยอด!!! ดอกไม้บานสะพรั่ง ลมโชยเอื่อย ๆ  มันก็คงสุขดีพิลึก และก็คงสวยงามอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!!!   แต่ขอโทษ..... ตอนที่ผมไปถึงนั่น มันไม่ใช่ 6 โมงเช้านี่หว่า  ผมไปถึงตอน 5 ทุ่มครึ่ง!!!!

    แสรดดดดดด น่ากลัวชิบเป๋ง

    พอเอารถเข้ามาจอดในบ้านกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ตรงไปที่โต๊ะรับแขกที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา
    (ตามคำบอกเล่าของเจ้าของบ้าน ทั้ง ๆ ที่ตัวมันเองก็ไม่รู้ว่าแม่น้ำที่ไหลอยู่หน้าบ้านมันน่ะ มันแม่น้ำอะไร เอะอะมันก็บอก เจ้าพระยาไว้ก่อน)

    ไปนั่งรวมกลุ่ม ทำทีเป็นรักกัน ชมบรรยากาศ แต่จริง ๆ แล้วกลัวกันมากกว่า เลยต้องเกาะกลุ่มกันไว้ ไฟเฟยก็ไม่มี เพราะเจ้าของบ้านเอง ก็ไม่รู้ว่าสวิทซ์เปิดปิดมันอยู่ตรงไหน เดินหาอยู่รอบบ้านคนเดียว โดยไม่มีเพื่อนรักไปช่วยเลยแม้แต่คนเดียว T_T

    บรรยากาศตอนนั้น ผมจะบอกให้ ว่า

    ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่ง เสือกทะลึงร้องว๊าก หรือทำตัวแข็ง ตาเหลือก เอามือชี้ ๆ ไปในที่ ๆ ไม่ควรชี้ขึ้นมาละก็ รับรองว่า ผมโกยแน่ไม่ว่ามันจะแกล้ง หรือจะจริงก็เหอะ กรูขอไปก่อนล่ะ แล้วค่อยมาเคลียกันทีหลัง

    แล้วในขณะที่นั่งรวมกลุ่มอยู่นั่นเอง คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันสนุกสนาน ไอ้เพื่อนผมคนหนึ่งมันก็เสือกพูดขึ้นมาว่า

    "บ้านหลังนี้ ไม่ธรรมดา มันต้องมี .... อยู่แน่ ๆ ผมรู้สึกได้"

    ผมงี้แทบจะเอาส้นตรีนถีบมันตกน้ำไปให้รู้แล้วรู้รอด

    "นี่มรึง ถ้ามรึงไม่พูดออกมา ก็ไม่มีใครเค้าว่ามรึงเป็นใบ้หรอกนะ!!!"

    และก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต กลายเป็นจับกลุ่มเล่าเรื่องผี ในบ้านที่ใช้ถ่ายหนังผีไปซะก่อน เทพบุตรของเราก็มาช่วยชีวิตไว้ได้อย่างทันท่วงที

    ก็จะใครซะอีกล่ะ ก็พ่อเจ้าประคุณ หนุ่ม No.7 ของเรานี่เอง

    "เฮ้ย กินเบียร์ดีกว่า"

    ทุกคนในที่นั้น ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า
    "กินเบียร์กันดีกว่า ดีๆ ดีกว่าจะมานั่งหลอนกันเองอยู่อย่างนี้"

    ระหว่างนั้น ไฟก็ติดขึ้นมาเพิ่มความอบอุ่นให้กับบรรดานักแสวงบุญทั้ง เอ่อ ทั้ง ทั้ง ทั้ง 7 คน!!!!  เฮ้ออออ เกือบไปแล้วววว

    พอแอลกอฮอล์เข้าปาก เรื่องราวสนุก ๆ ก็เกิดทันที และแน่นอนที่ คนที่ไปในวันนั้นทุกคนมีแฟน!!!
    เรื่องราวที่จะหยิบยกมาพูดถึงก็คงไม่พ้นเรื่อง “แฟน” ของตัวเอง

    มีอยู่ 2 คนที่ถูกตราหน้าจากบรรดาเพื่อน ๆ ว่า “กลัว (เมีย) แฟน”  จัดอยู่ในขั้นที่เรียกว่า “หัวหด!!!”
    และไอ้ 2 ตัวนี่ มันก็เป็นคนที่กินหนักที่สุดในวันนั้น เช่นเดียวกัน  
    นั่น ทำให้สิ่งต่าง ๆ พรั่งพรูออกมาจากปากของพวกมันทั้ง 2 คนที่บังเอิญว่า เรื่องที่มันทั้ง 2 เล่าออกมานั้น
    99.99 เปอร์เซ็นต์ เจอมาเหมือน ๆ กัน!!!!

    ผมขอยกตัวอย่างแค่คนเดียวก่อนก็แล้วกันครับว่า

    มันกลัวแฟนขนาดไหน.... ก็ขนาดที่ว่า พอโทรศัพท์ดังทำให้มันสะดุ้งได้นั่นแหล่ะพร้อมเอามือจุ๊ปาก

    “จุ๊ ๆ ๆ”
    “พร่อมรึงเป็นจิ้งจกเหรอ จุ๊ ๆ”

    “เปล่าน้า เงียบๆ ก่อน อย่าเพิ่งพูด เงียบนะทุกคน”
    “ทำไมต้องเงียบด้วยล่ะ”

    “ก็ผมโกหกแฟนว่า ติดธุระที่ชลบุรี ต้องพาลูกค้าไปดูงาน”
    “อ้อ!!!!!”

    พวกผมทุกคน กลัวเพื่อนจะเสียชีวิตเมื่อกลับไปถึงบ้าน เพราะมันอยากมาทำบุญกับพวกผม ก็เลยไปโกหกแฟนตัวเองว่า พาลูกค้าไปดูงานที่ชลบุรี ทั้ง ๆ ที่ตัวมัน นั่งอยู่กับพวกผมที่ อยุธยา!!!!

    “ฮัลโหล ว่าไงจ๊ะที่รัก”
    “..................................”

    “อืมมม เนี่ย อยู่ชลบุรี อยู่บนรถ”
    “..................................”

    “ก็เสร็จแล้ว แต่ต้องไปส่งลูกค้าที่โรงแรมก่อนแหล่ะ”
    “.................................”

    “วันนี้คงต้องนอนบนรถ นี่พี่ก็ขับรถอยู่”

    แล้วขณะนั้นเอง ที่พัดลมที่พวกกระผมใช้เป่าไล่ยุง มันก็หมุนมาหามันพอดี เป่าเข้าโทรศัพท์แบบเต็ม ๆ !!!!

    ฟู่!!!!!!!!!!!!!!!!!  ก็แน่นอน โดนจู่โจมด้วยพัดลมขนาดนี้ เมื่อตะกี๊โกหกว่าขับรถอยู่ แล้วรถตัวเองก็รถเก๋งติดแอร์เย็นเฉียบ มันจะมีเสียงลมขนาดนั้นได้ยังไง  ฮ่ะ ๆ ๆ พวกผมคิดยังไม่ทันขาดคำ

    “#%##(%&^#^%$@(*#&#@”

    ผมไม่รู้ว่าปลายสายพูดมาว่ายังไง รู้แต่ว่า เพื่อนผมทำหน้าย่น หัวแทบจะมุดลงไปอยู่ใต้โต๊ะ ตัวมันเองก็คงหาคำตอบไม่ถูกว่าจะตอบแฟนว่ายังไง  ก็คาดว่าแฟนน่าจะถามอย่างที่พวกผมคิดนั่นแหล่ะว่า อยู่บนรถแล้วทำไมมีลมพัด!!!!

    ทีนี้ พอสติมันหลุดออกจากร่างไปแล้ว มันก็คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะบอกแฟนว่ายังไง ทำท่าจะจำนนด้วยเหตุผลอยู่นั่นเอง พวกผมก็เลยให้ความช่วยเหลือโดยการ กระซิบ โดยทำปากขมุบขมิบว่า

    “บอกไปว่า เปิดกระจกขับรถ!!!!”  (เสียงกระซิบกระซาบนะครับ)

    “อ้อ พี่เปิดกระจกรถน่ะจ้ะ ขี้เกียจเปิดแอร์ ลมมันเย็นดี”  แสรดดด พูดเป็นต่อยหอยเลยนะมรึง!!! ซึ่งมันก็ได้ผล ดูจากท่าทางผ่อนคลายของมัน คาดว่า แฟนคงเชื่อแน่ๆ  แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิด และ พวกผมก็จนใจที่จะหาข้อแก้ตัวให้มันก็เกิดขึ้นเมื่อ

    ตุ๊กแกเวรตัวหนึ่ง ที่มันเกาะอยู่บนต้นไม้ข้าง ๆ ม้านั่งที่พวกผมนั่งอยู่นั่น มันเสือกร้องขึ้นมา


    “ตั๊บแก..แอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ........ตั๊บแก!!!!!”

    แสรดดดดดด อยู่ตั้งนานเสือกไม่ร้อง มาร้องอะไรตอนนี้วะ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตะกี๊โกหกแฟนว่าขับรถเปิดกระจกอยู่ ลมพัดอื้ออึง มันจะมีตุ๊กแกได้ยังไง  

    ตุ๊กแกบ้าที่ไหนมันจะมาร้องอยู่ในรถ!!!!!!

    พวกผมจนด้วยปัญญา ไม่รู้จะช่วยมันได้ยังไง พากันสลายตัวมายืนหัวเราะอยู่ห่าง ๆ ให้กับความซวยของมัน!!
    “ไอ้เวร เสือกร้องมาได้ “ตั๊บแก” แมร่ง จะกลายเป็น “ต๊ายแหน่!!!” กันก็คราวนี้แหล่ะวะ”

    หลังจากที่พวกผมพากันหนีความจริงมายืนหัวเราะอยู่ห่าง ๆ ได้ซักพักก็เห็นมันวางหู นั่งคอตก หูตก หางตก น้ำลายยืด เทเบียร์ใส่แก้วจนเต็ม พร้อมเทลงคอไปจนหมด พวกผมเลยเข้าไปนั่งปลอบใจกันตามประสา

    --[มีต่อนะครับ]--

    แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 49 00:16:50

    แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 49 22:53:51

     
     

    จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 - [ 6 มิ.ย. 49 22:53:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com