CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สวยใสไร้สิว ภาค 2

    เหมือนเป็นหนังเลยเนอะ 5555 หาข้อมูลเพิ่มค่ะ
    ไอออนโต
    ปัจจุบันเทคนิคการเสริมความงามที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้ก็คือเครื่องไอออนโตโฟเรซิส (iontophoresis) และโฟโนโฟเรซิส (phonophoresis) นิยมนำมาใช้ในการรักษาแผลเป็นจากสิวและฝ้า โดยจะใช้เครื่องมือนี้ควบคู่กับวิตามินเอ นำมาแก้ไขปัญหาสิวอุดตัน ลบรอยแผลเป็นหรือรอยหลุม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับวิตามินซี นำมาแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ ฟอกสีผิวให้ขาวขึ้น บางแห่งใช้สารอัลบูตินแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ ฟอกสีผิวให้ขาวขึ้น aloe vera หรือ hyaluronic acid นำมาช่วยรักษาปัญหารูขุมขนกว้าง ช่วยทำให้ผิวหน้ากระชับ และใช้สาร azeleic Acid นำมารักษาปัญหาฝ้าและรอยดำ

    หลักการทำไอออนโตฟอเรซิส (ionotophoresis) เดิมเป็นวิธีการชุบโลหะ โดยแช่โลหะ 2 ขั้วในสารละลาย เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าตรงผ่านขั้วทั้งสองจะมีการแตกตัวของสารละลายเป็นอิออน สารซึ่งแตกตัวจะถูกผลักไปเกาะกับโลหะที่ต้องการชุบ จึงใช้หลักการนี้กับยาทาผิวหนัง โดยหวังว่ากระแสที่ผ่านวงจรจะทำให้สารละลายซึ่งเป็นยาถูกผลักเข้าไปในชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้น ด้วยหลักการดังกล่าวเชื่อว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาให้ดูดซึมและออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น

    จึงได้มีการนำไอออนโตฟอเรซิสมารักษาผิวหน้ากันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการทำไอออนโตด้วยวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ เพื่อช่วยรักษาฝ้าหรือลดริ้วรอย ซึ่งโดยทั่วไปวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ดีโดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการผลักยาด้วยไอออนโต และเมื่อใช้ไอออนโตวิตามินดังกล่าวก็ไม่สามารถถูกผลักเข้าไปได้จริง อีกทั้งไม่มีผลงานการศึกษาวิจัยยืนยันแต่อย่างใด นอกจากนี้การทำไอออนโตด้วยวิตามินซีกระแสไฟฟ้าจะต้องผ่านเข้าไปในสารละลายวิตามินซีซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของวิตามินซีเสื่อมลงเช่นกัน ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าการทำไอออนโตและโฟโนเพื่อผลักวิตามินต่างๆสู่ผิวหน้านั้นเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน ซึ่งเป็นข้อสรุปจากการประชุมเรื่องมาตรฐานการใช้เครื่องมือไอออนโต-โฟโน ที่กระทรวงสาธารณสุข จัดโดยสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

    สำหรับโฟโนโฟเรซิส (phonophoresis) เป็นวิธีการเพิ่มการดูดซึมของยาโดยใช้อัลตราซาวด์ช่วย แต่จากการศึกษาการใช้ โฟโนกับยา xylocaine, fluocinolone acetonide และ amphoterin B พบว่าไม่ได้เพิ่มการดูดซึม ดังนั้นโฟโนจึงยังไม่สามารถทำได้จริงอย่างคำโฆษณา การทำโฟโนในปัจจุบันก็คือการรักษาด้วยอัลตราซาวด์ธรรมดา อัลตราซาวด์เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งหูมนุษย์ไม่ได้ยิน และที่นำมาใช้รักษาในเวชศาสตร์ฟื้นฟูจะใช้คลื่นเสียงความถี่ 0.8-1 เมกกะเฮิร์ต เครื่องอัลตราซาวด์จะให้ความร้อนกับเนื้อเยื่อซึ่งอยู่ในชั้นลึก เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นมากกว่าเนื้อเยื่อผิวหนังซึ่งอยู่ตื้น จึงใช้อัลตราซาวด์รักษาโรคกระดูก โรคกล้ามเนื้ออักเสบ หรือเส้นเอ็นอักเสบได้ผลดี และไม่นิยมใช้รักษาการอักเสบในชั้นผิวหนัง

    กฏหมายของไทยบังคับให้ผู้ใช้เครื่องอัลตราซาวน์จะต้องผ่านการอบรม คือเป็นแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเท่านั้น เพราะถ้าใช้ผิดวัตถุประสงค์จะเกิดอันตรายกับผู้ป่วยได้ เช่นการใช้ความเข้มของคลื่นสูงไปหรือการแช่หัวอัลตราซาวด์บริเวณจุดเดียวจะทำให้เกิดโพรงอากาศในเซลล์ทำลายเนื้อเยื่อได้ และยังมีข้อห้ามใช้ในผู้ตั้งครรภ์และเด็กเล็ก หรือใช้ในบริเวณใกล้กระดูกไขสันหลัง เป็นต้น

    การนำอัลตราซาวด์มาใช้รักษาผิวพรรณโดยอ้างว่าช่วยเพิ่มการดูดซึมของยาและช่วยลดริ้วรอยจากการเสื่อมของผิวหนัง ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือผิดหลัก เพราะอัลตราซาวด์จะมีผลต่อเนื้อเยื่อลึกกว่าผิวหนังจึงไม่ช่วยเพิ่มการดูดซึมของยาแต่อย่างใด เนื่องจากการสั่นของอัลตราซาวด์จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของส่วนประกอบภายในเซลล์ได้ จึงมีผู้นำคลื่นอัลตราซาวด์มากระตุ้นเซลล์ผิวหนังซึ่งเสื่อมตามธรรมชาติ โดยหวังว่าคลื่นอาจช่วยปลุกเซลล์ให้ฟื้นตัวกลับมาทำงานเหมือนเดิม แต่การเสื่อมของเซลล์ผิวหนังตามวัย ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าเป็นจากเหตุใด การรักษาด้วยอัลตราซาวด์ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุจึงไม่ได้ผล

    เครื่องไอออนโตและโฟโนไม่ใช่เครื่องมือชนิดใหม่ แต่เป็นเครื่องมือมาตรฐานซึ่งเวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้มานานหลายสิบปี การใช้ไอออนโตเพื่อเพิ่มการดูดซึมของยาก็เป็นเรื่องล้าสมัยเพราะเสียเวลาผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่แน่นอนและระคายผิวหนัง ส่วนเครื่องโฟโนจะมีประโยชน์ในการรักษาการอักเสบของเนื้อเยื่อซึ่งอยู่ชั้นลึกกว่าผิวหนัง การนำมาใช้ในผิวหนังปกติและสร้างกระแสว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคเอาเปรียบตักตวงผลประโยชน์โดยปล่อยผู้บริโภคให้หลงงมงาย

    สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยได้เคยออกหนังสือเตือนทั้งในวารสารสมาคม และวารสารการแพทย์อื่นๆ ว่าการนำเครื่องไอออนโตและโฟโนเข้ามาใช้ในสถานความงามเป็นเรื่องที่ผิดทั้งกฎหมายและผิดทั้งจริยธรรม ขณะที่สำนักมาตรฐานสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (กองโรคศิลปะ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้ออกหนังสือแจ้งให้คลินิคและสถานเสริมความงามที่ใช้เครื่องไอออนโตและโฟโน ซึ่งมีกว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศว่าไอออนโตและโฟโนเป็นเครื่องมือแพทย์ ส่วนใหญ่ใช้ในทางกายภาพบำบัด จึงควรทำโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเท่านั้น หากมีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการเข้าไปใช้บริการในสถานที่ให้บริการด้วยเครื่องดังกล่าวผู้ประกอบการอาจจะถูกถอนใบอนุญาต เช่นเดียวกับคณะกรรมการแพทยสภา ที่ได้ออกหนังสือเตือนคลินิคที่ใช้เครื่องมือดังกล่าวตามมติในการประชุมครั้งที่ 2/2545 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2545 ว่าด้วยการกระทำด้วยเทคนิคไอออนโต มีลักษณะเป็นการโอ้อวดสรรพคุณของเครื่องมือเครื่องใช้โดยไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานของวิชาชีพเวชกรรม และอาจทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังในสรรพคุณเกินความเป็นจริงเข้าข่ายขัดต่อข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2526 หมวด 7 ข้อ 2 เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 คือการใช้เทคนิคไอออนโตและโฟโน ต้องเป็นแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเท่านั้น ไม่ควรทำบริเวณผิวหนังที่อักเสบและติดเชื้อ บริเวณผิวหนังที่มีการไหลเวียนของโลหิต และมีความรู้สึกน้อยกว่าปกติ, ไม่ควรทำที่อวัยวะสืบพันธุ์ เหนือดวงตา ตำแหน่งหัวใจ กระโหลกศีรษะ ไขสันหลัง หน้าท้องของหญิงมีครรภ์ ตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง ตำแหน่งที่หัวกระดูกในเด็กที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และในผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ

    เอกสารอ้างอิง

    1. Sens, D.A, Simmons, M.A., and Spicer, S.S., The analysis of human sweat proteins by isoelectric focusing. I. sweat collection utilizing the Macroduct system demonstrates the presence of previously unrecognized sex-related proteins, Pediatr Res., 19, 8, 873-878, 1985.

    2. J. Micheal Maloney, MD, J.L. Bezzant, MD, R.L. Stephen, MD, T. Petelenz, MD, Iontophoretic Administration of Local Anesthesia in Office Practice, J Dermatol Surg Oncol, 18, 937-940, 1992.

    3. L.P. Gangarosa, Defining a practical solution for iontophoretic local anesthesia of skin, Clinical Pharmacology, 3, (2), 83, 1981.



    จาก BangkokHealth  เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน. 46 เวลา 2:17:00 PM  
    http://www.bangkokhealth.com/consult_htdoc/Question.asp?GID=4055

    จากคุณ : NIIIM - [ 7 มิ.ย. 49 11:29:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com