ความคิดเห็นที่ 93
โอ...ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เข้ามาอ่านกันเยอะขนาดนี้ เรื่องที่เรามาเล่านี่เป็นผลมาจากการนั่งเฝ้าหอทั้งวันนั่นแหละค่ะ ได้เห็น/ได้ยินอะไรก็จดๆ เอาไว้ เขียนอะไรเล่นๆ กันนั่งหลับน่ะค่ะ
๓ เรื่องที่มาเล่านี้เป็น ๓ เรื่องที่ฝังใจเราที่สุด คือ เห็นแล้วก็เสียดายค่ะ
๑) เสียดายความรักของพ่อแม่พ่อแม่อุตส่าห์ประหยัดเงินมาให้ลูกสาว ตัวเองลำบากไม่เป็นไร ให้ลูกได้สบายเป็นพอ,
๒) เสียดายอนาคตของเด็กสาวคนหนึ่งที่อาจมีทางชีวิตที่ดีกว่า หากเธอได้เรียนตามความสามารถที่มี โดยไม่ต้องมีภาระทางบ้านมาเป็นอุปสรรค,
๓) เสียดายความหวังดีข่องพ่อแม่ เสียดายความเอาใจใส่จากพ่อแม่ และเสียดายคำสั่งสอนดีๆ จากพ่อแม่ ที่ลูกสาวบางคนไม่ใส่ใจเลย
เราแค่อยากให้เด็กสาวๆ ที่เพิ่งจากบ้านมาได้อ่านเรื่องเหล่านี้แล้วลองมองชีวิตในแบบของบุคคลที่สามบ้าง ทั้งในมุมมองของพ่อแม่ มุมมองของบุคคลอื่น แล้วทบทวนมุมมองของตัวเองให้ดีอีกครั้ง
เพราะด้วยวัยเพียง ๑๙-๒๐ ปี, ด้วยสติปัญญาที่มีอยู่, ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้น เด็กสาวเหล่านั้นอาจตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย แต่คนที่จะเสียใจและได้รับผลจากความผิดพลาดนั้นก็ไม่ได้มีตัวเด็กเพียงคนเดียวแน่นอน
ส่วนคำว่า "ความเชื่อและศรัทธาของฉันเริ่มสั่นคลอน" นี่เราหมายถึง "ความสั่นคลอนทางจิตใจ" ค่ะ เราไม่เลิกทำหอหญิงไปง่ายๆ หรอก จนกว่าจะไม่มีค่างวดแล้วแบงค์จะมายึดไปนั่นแหละ...เราถึงจะเลิกกิจการไปเป็นลูกจ้างเค้าตามเดิม
จากคุณ :
ขอให้ฉันได้มีส่วนร่วมสักนิด...
- [
11 มิ.ย. 49 15:51:29
]
|
|
|