ความคิดเห็นที่ 314
ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันมาจนจบนะคะ ถ้างงๆวันที่ก็อ่านหลายๆรอบเวลาว่างๆก็ได้ค่ะ นี่ก็เป็นข้อเตือนใจอีกอย่างว่าจริงๆการเขียนไดอารี่ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะคะ ปกตินิ้งเองเขียนไดอารี่มาตั้งแต่ปอหก จนถึงทุกวันนี้ค่ะ เริ่มนอกเรื่องแล้ว ตอนนี้จะเห็นได้บ้างว่าความเครียดของพวกเรามันอาจจะค่อยๆหายไปเพราะได้รับวัคซีนเพิ่มภูมิต้านทาน หรือไม่ก็จากเครียดสุดๆเป็นงงสุดๆ และกลายเป็นคำที่ต้องบอกว่าคิดออกมาได้ยังไงเนี่ยค่ะ น้ำผึ้งก็เสียความรู้สึกมากเข้าไปอีกเพราะบอกไปจนเหนื่อยแล้วว่าเหตุผลที่ไม่ย้ายไปจัดห้องอื่นคืออะไร จนนิ้งเองก็คิดว่าเพื่อนๆที่ได้ติดตามมาตลอดก็คงจำกันได้หมดแล้ว แล้วสาเหตุที่ไม่ใช้ห้องแกลอรี่ไม่ใช่เพราะเรื่องมากหรือห้องไม่สวย ห้องสวยค่ะ แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเค้ามีธีมที่ชัดเจนเหมาะกับห้องบอลรูม หลักฐานก็มี เงินก็จ่ายแล้ว เรียกเข้าไปเจรจาจับมือกันก็แล้ว โรงแรมใหม่ก็ได้แล้ว เตรียมการณ์ไปเยอะแล้ว ทำไมมาจบตรงที่ส่งใบเสนอราคาห้องอีกห้องมาให้ พร้อมทั้งให้เซ็นต์กลับไม่งั้นมาเอามัดจำคืนไป ก็ที่เค้าจะทำตั้งแต่แรกก็ไปเอามัดจำของเค้าคืน แล้วก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แล้วจะเรียกเค้าเข้าไปเจรจาทำไม เนี่ยแหละค่ะเป็นสาเหตุที่ นิ้งไม่อยากโพสต์ความคืบหน้าวันต่อวัน รอให้โรงแรมสรุปก่อนดีกว่า
สรุปว่าโรงแรมสรุปแบบที่เล่าไปค่ะ ในจดหมายขอโทษณัฐมีขอให้ระบุชื่อผู้ที่มาจองซ้อนและได้สิทธิ์ในการใช้ห้องไปด้วย แต่ทางโรงแรมไม่ยอมทำจดหมายขอโทษนี่คะ ณัฐพยายามถามคุณบัวว่าทำไมโรงแรมถึงออกจดหมายขอโทษให้ไม่ได้ทั้งที่ใจความทุกอย่างมันเป็นความจริง และโรงแรมก็บอกอยู่ว่าผิด ก็เข้าใจคุณบัวค่ะ เพราะณัฐจะติดต่อกับคุณบัวคนเดียว คุณบัวก็บอกได้แค่ว่าผู้ใหญ่อ่านจดหมายแล้ว แต่ออกให้ไม่ได้จริงๆ ถึงจะถามไปอีกกี่ครั้งก็คงได้คำตอบเดิมค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะมีใครขอดูหลักฐานหรือเปล่านะคะ ตอบเผื่อไว้ก่อนเลยว่ามีหลักฐานครบทุกอย่างค่ะ แม้กระทั่งจดหมายขอโทษที่ณัฐขอให้โรงแรมเขียนได้ส่งให้คุณบัวทางอีเมล์และก็ให้นิ้งด้วยก็มีอยู่ครบค่ะ จะว่าไปอีกทีการเข้าไปเจรจาวันที่ 30 นี่ไม่ทราบจะเชิญไปทำไมเหมือนกันค่ะ เพราะผลตอบกลับมาเหมือนไม่เคยมีวันนั้นเกิดขึ้น กลายเป็นว่าเสียเวลา และความรู้สึกไปอีก
ตอนนี้ได้แต่บทสรุปของโรงแรมนะคะ กับของนิ้ง อย่างน้อยมองในแง่ดีว่า นิ้งจะได้มีกรณีศึกษาไปสอนนักศึกษาที่ต่อมาจะมาเป็นผู้ใหญ่ เป็นนักธุรกิจ เป็นอะไรอีกหลายๆอย่างในอนาคต อย่างน้อยก็ให้นึกถึงจรรยาบรรณและศีลธรรมเวลาที่ได้ไปอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจอะไรต่างๆ ส่วนข้อสรุปรวมของเรา จริงๆก็ยังสรุปไม่ได้หรอกค่ะ นิ้งแอบสรุปอยู่ หลายคนบอกว่าฟ้องได้ไม่คุ้มเสีย เอ แต่ถ้าเราไม่ได้ต้องการจะได้อะไรอยู่แล้วล่ะคะ แล้วเราก็เสียไปมากแล้ว มันก็คงจะไม่ต่างกันซิ่นะ ถึงเรื่องมันจะนาน แต่เราก็ไม่ได้รีบไปไหนอยู่ดี แล้วถ้าคิดแบบเป็นกลาง อย่างน้อยไม่ว่ากฎหมายจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เราก็ได้ทำหน้าที่คนไทยที่อยู่รวมกันในสังคมควรจะมีสิทธิ์ทำ ถึงโรงแรมนี้จะสนใจหรือไม่สนใจ อย่างไรก็คงมีซักโรงแรมที่หันมามองระบบบริการของตัวเองให้มากขึ้น เพื่อจะได้เป็นผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์กับเค้าบ้าง แต่ที่บอกมานี่ จริงๆยังไม่ทันถามณัฐกับน้ำผึ้งเลยนะคะ ไม่อยากปลุกน้ำผึ้งมาถามเรื่องเครียดๆ เพราะน้ำผึ้งก็งานหนักจะแย่อยู่แล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานอีก ให้นอนไปก่อนแล้วค่อยมาสารภาพว่าคิดคนเดียวดังไปหน่อย เผลอพิมพ์ไปซะด้วยเลย
เหมือนเดิมค่ะเพื่อนๆ นิ้งและพวกเราขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ ถ้าท่านใดมีข้อสงสัยหรืออยากบอกเล่าอะไรเป็นการส่วนตัว นิ้งยินดีและรับรองว่าจะตอบทุกเมล์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น yahoo, hotmail, Pm, หลังไมค์ นิ้งอ่านทุกวัน และขอบคุณกับน้ำใจของเพื่อนๆทุกคนค่ะ
สรุปจริงๆแล้วนะคะ จะว่าเป็นการปิดกระทู้คงไม่ใช่ เรียกว่าเป็นบทสรุปของโรงแรม แต่ถ้ายังมีเพื่อนๆคนไหนแสดงความคิดเห็น แนะนำใดๆ นิ้งก็ยังคงเข้ามาอ่านทุกวันเหมือนเดิมค่ะ ถ้าต้องการความคืบหน้าก็เขียนกันไปจนกว่าจะได้บทสรุปที่แน่นอนกับทุกฝ่ายค่ะ ก่อนที่นิ้งจะไปตอบกระทู้อื่นต่อนะคะ ถึงเรื่องยังไม่จบดี แต่นิ้งและเพื่อนๆก็ได้บทเรียนที่เผื่อเพื่อนคนไหนอาจจะเอาไปใช้เป็นประโยชน์ได้ในอนาคตนะคะ ทบทวนสัญญาให้รอบคอบ, เพิ่มเติมให้รัดกุม, เผื่อใจไว้บ้างเพราะเรื่องไม่คาดคิดเกิดได้เสมอ, จรรยาบรรณ-ศีลธรรม-อำนาจ-เงินทอง-สติ ต้องมาเป็นกลุ่มกันไว้, ไดอารี่ก็มีประโยชน์นะ, ถึงข่าวจะนำเสนอแต่เรื่องที่น่ากลัวของอินเตอร์เน็ท แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นจริงเสมอไป กำลังใจและความเป็นเพื่อนบางทีก็อยู่รอบตัวเรานี่เอง เนี่ยค่ะเป็นเรื่องที่นิ้งบอกตัวเองจากเรื่องนี้ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ --- ขอบคุณที่อดทนอ่านนะคะ T____T ---
จากคุณ :
ning (Princess Amidara)
- [
9 ก.ค. 49 01:26:10
]
|
|
|