สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันอีกแล้วครือว่า เมื่อเช้านี้ ผมนั่งแท็กซี่มาทำงานครับ
เมื่อเช้าตื่นสายครับ เนื่องจากผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในมือถือตอนก่อนจะนอน
ผมทำถูกทุกอย่าง แต่ที่ผิดอยู่อย่างเดียว คือ ผมดันเปิดสั่นไว้ T_T
ครับ ให้สั่นให้ตาย ผมก็ไม่ตื่นหรอก!!! สะดุ้งตื่นขึ้นมา มองดูเวลาพร้อมอุทานเป็นภาษาพม่าว่า!!!
ชิ หา แร๊ ชิ หา แร๊ โก ตา แน่ หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ชิบหายแล้ว ชิบหายแล้ว กรูตายแน่!!!"
ผมแทบจะกระโดดจากชั้น 2 ลงไปชั้น 1 เลย อาบน้ำ แปรงฟัน ด้วยความลำบาก เพราะต้องยกตรีนข้างหนึ่ง
แต่ผมสามารถทำเสร็จ ภายในเวลา 5 นาที!!!! ออกมาตัวแห้งเลย เพราะแทบจะไม่โดนน้ำ T_T
ใส่กางเกง เอาเสื้อพาดไหล่ไว้ จูงจักรยานออกจากบ้าน เสื้อเอาไว้ไปใส่ระหว่างทาง
เพื่อน ๆ คิดดู ผมปั่นจักรยาน สะพายเป้ข้างหลัง ใส่กางเกง รองเท้ากีฬา (กันฝนตก)
แต่ไม่ได้ใส่เสื้อ!!!!!
หมาเห็น หมาเห่าอ่ะครับ จริง ๆ นะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อหยิบมา รีดหรือเปล่าก็ไม่รู้
คนที่เห็น เค้าคงนึกว่า ผีเปรตปั่นจักรยานแน่ ๆ - -
ออกมาถึงหน้าหมู่บ้าน จอดจักรยานโดยไม่ต้องล็อค อารมณ์นั้น ใครจะขโมยก็เอาเหอะ
ล้อก็เบี้ยว ยางก็แบน (ไม่มีเวลาสูบ) แถมแฮนด์ยังไม่ตรงอีก เอาไปก็บ้าแล้ว ผมออกไปยืนริมถนน
คิดดู ผมยืนใส่เสื้อริมถนนนั่นแหล่ะ ช่างกล้าเสียนี่กระไร
อารมณ์นั้น คำว่า อาย สะกดยังไง ผมไม่รู้ล่ะ ในสมองมีแต่คำว่า สาย เต็มไปหมด!!!
มีอยู่แค่ 2 อย่างในโลก ที่จะทำให้ผมไปทำงานทันได้ นั่นคือ
1. ประตูวิเศษของโดเรม่อน กับ
2. แท็กซี่!!!
แน่นอน ผมไม่สามารถไปสรรหาประตูวิเศษมาไว้ประดับบารมีได้
เมื่อไม่มีประตูวิเศษผมจึงต้องพึ่งแท็กซี่มีเธอ!!!!
และก็นะ คนอย่างผม อะไรที่จะได้มาง่าย ๆ ไม่เคยปรากฎขึ้นมาในสารระบบชีวิต
มันต้องมีอุปสรรคขัดขวางอยู่ตลอดเวลา
ผมไปยืนรอแท็กซี่ตั้งแต่ประมาณ 07.10 น.
แต่เชื่อไหมครับ มีรถแท็กซี่ประมาณ 100 กว่าคันที่วิ่งผ่านหน้าผมไป
แต่ผมไม่ยอมโบก เพราะว่า สภาพมัน "โคตรเก่า!!!!"
ผมมีประสบการณ์ไม่ค่อยจะดีกับรถแท็กซี่เก่า ๆ น่ะครับ ทำให้ไม่กล้าโบก
เพราะกลัวจะต้องลงมาเข็นกันกลางทางด่วน!!!
ยืนรอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ หวังว่าจะมีแท็กซี่ใหม่ ๆ ผ่านมาซักคัน
แต่ว่า ไม่มีเลย ไอ้ที่มีก็มีคนนั่งมาแล้ว ไม่มีว่าง เหลือบดูเวลา มันก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ
พร้อมรำพึงรำพันในใจว่า
"กรูจะไปทันไหมเนี่ย!!!!"
แต่แล้ว เหมือนฟ้าประทานแท็กซี่สีฟ้า ใหม่เอี่ยมมาให้ผม
เมื่อรถแท็กซี่คันนั้น โผล่ออกมาจากโค้ง ผมรีบโบกทันที
แท็กซี่คันนั้น ห่างจากผมประมาณ 200 เมตร!!!!
ยกมือขึ้นเรียก โดยที่คิดว่าเค้าจะเห็น
แท็กซี่เหมือนจะเห็นผมนะ เค้าจอดทันที................แต่ขอโทษครับ!!!!
เค้าไม่ได้จอดรับผม T_T เค้าจอดรับคนอื่น ที่ยืนอยู่ก่อนผมประมาณ 100 เมตร
ครับ โดนตัดหน้า หน้าแหกไปเลย ฮือๆๆ กรูโบกก่อนนะ ถึงกรูจะยืนไกลกว่าก็เหอะ แต่กรูโบกก่อน!!
แต่ว่า หลังจากคันนั้นผ่านหน้าผมไปก็มีอีกคันหนึ่งโผล่มา ทีนี้ล่ะ ต้องมาถึงผมแน่ ๆ
แล้วก็มาถึงจริง ๆ ผมโบกจนแทบจะลงไปนอนขวางถนนอยู่แล้ว กลัวจะไม่จอด
รถแท็กซี่คันนั้น ค่อย ๆ จอดตรงหน้าผม ผมเดินกระเผลก ๆ เนื่องจากซ่นตรีนของตัวเองยังเดี้ยงอยู่
ผมเดินไปเปิดประตูรถทันที!!! พร้อมยื่นหน้าเข้าไป บอกคนขับรถว่า
"ไปนวนคร ครับ!!!"
พูดเสร็จก็ทำท่าจะเข้าไปนั่ง แต่แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังมาจากคนขับรถว่า
"ขอโทษครับ ไม่ไปครับ ผมจะรีบเอารถไปคืน!!!"
ป๊าดดดดดดด เอารถไปคืนแล้วเสือกจอดรับกรูทำไมวะ!!!
ตรูดที่กำลังจะหย่อนลงไปนั่ง ก็ต้องยกออกมาพร้อมหน้าที่แหก แตกละเอียด....
ปิดประตูด้วยความโมโห "เป้ง!!!!" (ปิดประตูบ้านเอ็งดิดังเป้ง!!)
คนขับรถหันมามองหน้า กดกระจกลง พร้อมตะโกนออกมาว่า "ปิดเบา ๆ ก็ได้ ....ประตูพังขึ้นมาจะว่ายังไง!!!"
ด้วยความโมโห ที่โดนว่า ผมควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ เลือดขึ้นหน้า ผมยืนกำหมัดแน่น
ตะโกนด่าตอบกลับไปว่า
"ขอโทษครับพี่ ผมกลัวมันไม่สนิท......T_T"
พูดพร้อมกับยกมือที่กำแน่นนั่นขึ้นมาประกบกัน ประมาณว่า ไหว้มันนั่นแหล่ะ (ขอโทษคร้าบบบบ)
เมื่อผมตอบไป เหมือนคนขับรถคนนั้นจะกลัวผม เค้ากดกระจกขึ้น ส่ายหัว แล้วก็ขับรถจากไป..........
ผมนึกในใจพร้อมพูดออกมาเบา ๆ (กลัวเค้าจะได้ยินว่า)
"โธ่ นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็กลัวนี่หว่า 5555"
เป็นไงล่ะ ให้มันรู้ซะมั่ง ว่าใครเป็นใคร ตรูข้า สมันน้อย เบอร์ 14 โว้ย!!!
ไม่เคยกลัวใครในตองอู ยกเว้นแม่ตัวเอง T_T
เอาล่ะ เมื่อพลาดจากคันนั้นไปแล้ว ผมเหลือบตามองดูเวลาอีกครั้ง พระเจ้า 07.30 น.!!!!!
รำพึงรำพันออกมาอีกครั้งว่า
"กรูสายแน่ ๆ T_T"
แต่เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง จะยังไม่ทอดทิ้งผม เมื่อผมเหลือบไปเห็น
แท็กซี่สีชมพูอีกคันหนึ่ง สภาพใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งถอยมาจากโชว์รูมยังไงยังงั้น
กำลังวิ่งตรงมา พร้อมป้ายไฟที่ติดอยู่หน้ารถว่า "ว่าง"
ผมโบกทันที!!!!!!!!!! "จอดด้วยคร้าบ ๆ" จะพูดทำไมก็ไม่รู้ เพราะพูดไปเค้าก็ไม่ได้ยินหรอก
แท็กซี่สีชมพูคันนั้นจอดตรงหน้าผม ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งทันที กันการปฏิเสธเหมือนคันที่แล้ว
พร้อมปิดประตู
..หันหน้าไปบอกคนขับว่า
"ไปนวนครครับ!!!!"
พูดเสร็จก็เบือนหน้าหนี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เผื่อเค้าจะอ้าปากบอกว่าไม่ไป เค้าจะได้เกรงใจไม่กล้าพูด!!!
ได้ยินเสียงกดมิเตอร์ดัง ปี๊ป!!!
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก "รอดแล้วกรู"
แต่ว่า ด้วยเวลาที่จำกัดขนาดนี้ มีทางเดียวที่จะไปทันคือ
"ขึ้นทางด่วน....."
ผมบอกคนขับรถทันทีว่า "พี่ครับ เดี๋ยวขึ้นทางด่วนไปลงธรรมศาสตร์เลยนะครับ"
คนขับพยักหน้า "โอเค ..... รีบเหรอครับ"
ผมบอก "ก็รีบอ่ะครับ เร็ว ๆ หน่อยก็ดี"
ในใจก็คิด "ถ้ากรูไม่รีบ กรูจะให้ขึ้นทางด่วนเร๊อะ!!!"
คนขับเร่งเครื่องทันที เอี๊ยดดดด ออกตัวล้อฟรี ล้อหน้ายก ท้ายปัดพรืดดด เหมือนในหนังเรื่อง
The Fast And The Furious
. Tokyo Drift!!! (อันนี้ก็เวอร์)
พร้อมหันมาบอกว่า "เนี่ย ผมเพิ่งเอารถออกมาจากอู่ เอาไปเปลี่ยนไส้กรองมา"
"เอ่อ ครับ" ในใจก็คิด "จะบอกทำไม ต่อให้ไปเปลี่ยนเครื่องยนต์มา กรูก็ไม่สนใจหรอก กรูสนใจอย่างเดียวว่า กรูจะไปทำงานทันหรือเปล่า"
แต่อีกใจหนึงก็คิด "เออ ก็ดีเหมือนกัน เพิ่งออกมาจากอู่ แสดงว่า รถคันนี้ผ่านการซ่อมมาแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกลางทาง"
แต่ว่า ผมคิดยังไม่ทันขาดห้วง เมื่อตัวเลขเข็มไมล์ไต่ระดับไปสู่เลข 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!!
กำลังออกขวาเพื่อจะแซงรถคันหน้าที่ขับช้าเป็นเต่า
"ปุ้ง!!!!"
เสียงดังมาจากใต้ฝากระโปรงหน้า ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเสียงมันเหมือนกับ รถวิ่งไปเหยียบอะไรแล้วกระเด็นเข้ามาใต้ท้องรถมากกว่า
คนขับรถก็ไม่ได้สนในอะไรเหมือนกัน!!!!
แต่เมื่อ เข็มไปแตะอยู่ที่เลข 120 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง
เสียงนั่นก็ดังขึ้นอีก
"ปุ้ง!!!!!"
ทั้งผมและคนขับหันหน้ามองกัน ผมไม่ได้พูดอะไร แต่คนขับหันมาหาผมพร้อมพูดออกมาว่า
"เสียงอะไร"
ป๊าดดดดดดด กรูจะรู้ไหม!!!
"เอ่อ ไม่รู้ครับ รถพี่ไม่ใช่เหรอ"
เค้ากดโทรศัพท์ไปหาอู่ทันที เล่าอาการให้ฟัง ในขณะที่ความเร็วรถลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เค้าเล่าอาการให้อู่ฟัง พร้อมหันมาสรุปให้ผมฟังว่า
"เป็นที่กรองที่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ มันยังไม่เข้าที่ ต้องวิ่งไปซักพัก มันถึงจะเข้าที่"
ผมก็วางใจ เมื่อเห็นคนขับไม่ได้วิตกอะไรยังขับไปตามปกติ แต่แล้ว เมื่อเดินทางมาจนถึงภายในนวนคร
ซึ่งรถติดมาก และรถที่ผมนั่งมาก็ติดอยู่เช่นเดียวกัน
ในขณะที่รถติดอยู่นั่นเอง ............ เสียงนั่นก็ดังขึ้นอีก ทั้ง ๆ ที่รถจอดอยู่เฉย ๆ
ดังทีเดียวยังพอทน แต่นี่ ดังเป็นชุด!!!!!!!
"ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!!!!!!"
ผมถามทันที
"พี่ ทำไมมันดังถี่ยังงั้นล่ะ"
คนขับหันมาบอก
"มันเป็นอย่างนี้แหล่ะ ต้องรอซักพัก เดี๋ยวมันก็หาย"
แต่ว่ามันไม่หายน่ะสิครับ เสียงที่เคยดัง มันดังขึ้นมาอีก แล้วทีนี้ ดังยิ่งกว่าเดิม ดังจนรถสะเทือนเลย
"ปุ้ง ปุ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ "
เอ้ย เอาล่ะสิ แมร่งดังไม่หยุดเลยทีนี้ รถข้าง ๆ หันมามองกันหมดเลย เพราะมันดังมาก
"ปุ้ง ๆ ๆ ๆ "
เหมือนรถมันจะระเบิด ผมบอกคนขับรถว่า พี่รีบกลับไปซ่อมเหอะ เดี๋ยวมันระเบิดนะ ผมก็พูดไปตามประสาคนไม่รู้ แต่คนขับหันมาบอกด้วยสีหน้าเป็นวิตกกังวลเหมือนกันว่า
"ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นอย่างนี้แหล่ะ"
พี่ครับ แล้วทำไมหน้าตาพี่ ไม่เหมือนคนที่กำลังบอกว่า ไม่เป็นไรเลยล่ะครับ
คิ้วนี่แทบจะมาผูกกันอยู่แล้ว!!!!
ผมเหลือบไปมองรถคันข้าง ๆ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ เป็นรถพ่วงครับ ไม่ได้พ่วงธรรมดา มีป้ายติดข้างหลังว่า
"วัตถุไวไฟ!!!!!"
พระเจ้า!!! พี่เลือกจอดได้ถูกที่มากเลยครับ พี่มาจอดข้าง ๆ รถแก๊ส พี่เล่นจอดงี้ ทำไมพี่ไม่ขับชนแมร่งไปเลยล่ะ อาการรถพี่นี่ .... ดีหรือร้ายก็ไม่รู้ มีประกายไฟหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วดันมาจอดข้างรถแก๊สอีก T_T
ผมไม่ไว้ใจอะไรทั้งสิ้น ผมต้องห่วงชีวิตผมไว้ก่อนล่ะ บอกพี่คนขับรถทันทีว่า
"พี่ครับ จอดตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมนั่งรถต่อไปเอง"
คนขับหันมาบอกว่า
"ยังไม่ถึงไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
"เอ่อ ไม่ต้องครับพี่ ขอผมลงตรงนี้ก็แล้วกัน แล้วพี่ก็รีบเอารถไปซ่อมเหอะนะ"
"ตามใจ"
ป๊าดดดด ยังบอกว่าตามใจอีก ผมไม่ได้ห่วงพี่หรอกครับ แต่ผมห่วงตัวเอง กลัวรถพี่มันจะระเบิดมากกว่า!!!
ผมจ่ายเงิน ก้าวลงจากรถ พร้อมโบกรถกระป๋องที่วิ่งผ่านมา แล้วกระโดดขึ้นไปยืนอย่างเร็วที่สุดในชีวิต
ขึ้นไปทั้ง ๆ ที่ที่ยืนมันก็แทบจะไม่มีแล้ว ผมยืนโดยเอาปลายเท้าไปเหยียบไว้ตรงที่ว่างประมาณ ไม่ถึงคืบ
พร้อมจับราวที่เค้าทำไว้ด้วยแขนข้างเดียว
ประมาณว่า กรูยอมตกรถกระป๋องตาย ดีกว่าโดนรถแก๊สระเบิดตายละวะ
ผมไม่รู้ว่าพี่เค้าจะเอารถไปได้จนถึงอู่หรือเปล่า รู้แต่ว่า ผมจากมา ห่างเกือบ ๆ 100 เมตร ผมยังได้ยินเสียง
ปุ้ง ๆ ๆ อยู่เลย ผมว่า ไอ้คนขับรถแก๊สนั่น เค้าก็คงเสียว ๆ เหมือนกันแหล่ะ
สมันน้อย เบอร์ 14
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 49 01:48:24
จากคุณ :
สมันน้อย เบอร์ 14
- [
3 ก.ค. 49 23:20:33
]