ใครก็ได้ช่วยบอกผมด้วย ผมรักแม่ผมมาก รักมากกว่าอะไรในโลก ถ้าแม่ผมต้องมาตายตอนนี้ผมไม่รู้จะใช้ชีวิตของผมต่อไปได้ยังไง ที่ผ่านมาเคยได้ยินทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีมากๆ เคยได้ยินว่าคนเป็นแล้วหาย แต่ที่ผมไม่สบายใจมากๆก็คือได้ยินมาว่าคนที่เป็นระยะแรกก็ตายได้ ผมไม่รู้จะถามอะไรบ้างเพราะในใจคิดแต่ว่า "นี่แม่เราจะจากเราไปแล้วจริงๆเหรอ"
ขอเล่าอย่างละเอียดเท่าที่รู้นะครับ ที่ผ่านมาแม่ผมเป็นหลายโรคมาก แม่ผมอายุ 58
1. แม่ผมเป็นเหมือนกับโรคภูมิแพ้หรือโรคภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือที่หมอเขาเรียกว่า ลูปูด (เขาบอกมาอย่างนี้ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) อาการคือมีเม็ดขึ้นที่แขนเหมือนกับอีสุกอีใส แต่ตอนนี้หายแล้ว หมอบอกว่าเป็นโรคแพ้แดด
2. ขอบตาแม่ผมจะแดงมาก รักษาที่ไหนหมอก็บอกไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร สุดท้ายแม่คิดไปเองว่าตอนสาวๆแม่ไปทำขอบตาถาวรมา สงสัยจะแพ้เพราะไปทำมา
3. แม่ผมช่วงนี้จะความดันสูงมาก ไม่รู้ทำไม
4. แม่ผมจะปวดขากับแขน ไม่ใช่ปวดธรรมดา แต่จะปวดที่กระดูก และที่น่าแปลกมากคือจะปวดเฉพาะข้างซ้าย ข้างขวาไม่ปวด และจะปวดเฉพาะก่อนนอน ตอนกลางวันไม่ปวด ผมต้องคอยนวดขาให้แม่ทุกวัน ในใจก็สงสัยว่ามันคือโรคอะไร
คือไหนๆผมก็ถามแล้วนะ ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับว่า 4 โรคที่บอกมามันกิดจากอะไร แล้วควรจะรักษายังไงดี เพื่อว่าถ้าแม่หายดีจะได้ไปรักษาได้ถูกต้อง
ต่อไปเป็นอาการที่น่าสงสัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้
--แม่ผมจะอืดท้องมากๆสลับกับท้องผูกบ่อยๆ คือนั่งห้องน้ำตั้งนานก็ถ่ายไม่ออก เป็นอย่างนี้ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว
--อาการที่ผมต้องไปหาหมอคือ ถ่ายเป็นเลือด ไปตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐ ไปเจอหมอมั่วคนหนึ่ง อย่าหาว่าผมด่านะ แต่ต้องบอกว่าไปเจอหมอเลวๆคนหนึ่ง ขนาดผมไปหาหมอนอกเวลาตอนเย็นซึ่งต้องจ่ายค่าหมอแพงกว่าปกติ แต่มันกลับไม่ตรวจอะไรเลย แล้วบอกมั่วๆมาว่าเป็นริดสีดวงมั้ง แล้วให้ยาเหน็บกับยากินมา แม่ผมก็บอกว่าเป็นริดสีดวงเม็ดใหญ่ตั้งนานแล้วแต่ไม่เคยถ่ายเป็นเลือดเลย ก็เลยทุกคนคิดว่าไม่เป็นไร และที่สำคัญเคยไปตรวจสุขภาพหามะเร็งที่สถาบันมะเร็งแล้วเมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่เป็นอะไรเลย
แต่ที่คิดว่าไม่ไหวแล้วต้องไปโรงพยาบาลเอกชนก็คือคราวนี้ถ่ายเป็นเลือดเยอะกว่าปกตินิดหน่อย และปวดท้องจี๊ดๆแป๊บหนึ่ง ทุกคนเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมริดสีดวงไม่หายซะที ก็เลยส่งไปนอนโรงพยาบาลเอกชน แล้วไปส่องกล้องดูลำไส้ ปรากฎว่ามีเนื้องอกในลำไส้ หมอบอกว่ายาวประมาณ 4 ซม. ขั้นต่อไปหมอสะกิดเอาเนื้องอกไปตรวจ 3 อัน ปรากฎว่าไม่เป็นเนื้อร้าย
ตอนนี้ทุกคนสบายใจว่าไม่มีอะไร แต่ถึงยังไงก็ต้องผ่าออก แต่กะจะไปผ่าที่สถาบันมะเร็งที่ถูกกว่า แต่กลับเจอการปฎิบัติตัวกับแม่ผมไม่ดีเลย คือที่โรงพยาบาลเอกชนเขาจะวางยาสลบก่อนเอากล้องสอดเข้าไป แต่ที่นี่อยู่ดีๆกลับยัดเข้าไปเลย ก็เจ็บมากหน่ะซิ แล้วยังไม่พอเครื่องมือไม่ดีพออีกคือส่องไปไม่ลึกพอ ก็เลยไม่เห็นอะไรเลย พอกันทียอมเสียเงินก็ได้ กลับไปโรงพยาบาลเอกชนทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ขั้นต่อไปคือเอาเนื้องอกทั้งชิ้นไปตรวจว่าเป็นเนื้อมะเร็งหรือเปล่า ตอนนั้นในใจผมยังคิดว่าตอนสะกิดเอาไปตรวจแล้วไม่เจอก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว มันคงไม่บังเอิญขนาดว่าไปเจอเนื้อดีที่ไม่ใช่เนื้อร้ายหรอกน่า
แต่ผลเพิ่งออกมาวันนี้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สอง ไปสวนแป้งและเอกซ์เรย์ว่ามันลามไปตับหรือกระเพาะหรือยัง ปรากฏว่ายังไม่ไปถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังใจผมเริ่มเสียแล้ว คือที่ผมเคยเห็นในทีวีหรืออ่านในเน็ตมีแต่คนบอกว่าเป็นระยะที่สองสามารถรักษาหายได้ นี่เป็นกำลังใจที่ดี แต่ยิ่งเวลาผ่านไป กลับมีคนมาพูดว่าพี่ที่ทำงานเป็นแค่ระยะแรก และกำลังใจดีมากกลับตายภายใน 1 เดือน
ถึงตรงนี้ ถึงวินาทีนี้ มีแต่คำถามในใจว่า เรายังอยู่กับแม่ไม่เต็มที่เลย ต่อไปแม่เราจะไม่มีชีวิตอยู่ให้เรากอดอีกแล้วเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงต้องมาเป็นโรคนี้ ชาติก่อนแม่เราไปทำอะไรไม่ดีขนาดไหนเหรอถึงจะมีชีวิตอยู่แค่นี้ ขอถามเลยนะครับ เป็นคำถามเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้แล้ว
5. มะเร็งลำไส้ระยะที่สองมีโอกาสเสียชีวิตกี่เปอร์เซ็นต์ทั้งที่ได้รับการรักษาแล้ว หรือสามารถมีชีวิตได้อีกนานแค่ไหนทั้งที่ได้รับการรักษาแล้ว
6. จากกรณีแม่ผม ตรวจแล้วไม่ได้ลุกลามไปไหน ยังต้องใช้เคมีบำบัดหรือฉายแสงอีกเหรอครับ หรือถามว่าถ้าตรวจแล้วพบว่ามะเร็งไม่ได้ลุกลามไปไหน จะมีวิธีการรักษาขั้นต่อไปยังไงครับ
7. เป็นไปได้เหรอครับว่ามะเร็งลำไส้ระยะที่หนึ่งสามารถเสียชีวิตได้ ทั้งๆที่ได้รับการรักษาที่ๆคิดว่าตรงที่สุดคือสถาบันมะเร็งแล้ว และมันน่าจะมาจากสาเหตุอะไร ( จะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้ ผมไม่ได้มากล่าวหาใครที่ไหน ผมได้ยินมาแบบนี้จริงๆ)
8. ได้ยินมาว่าการทำคีโมทำให้ผู้ป่วยทรมานมาก อยากถามผู้ที่เคยรับการรักษาว่าอาการอะไรที่คุณคิดว่าหนักและทรมานที่สุด เผื่อผมจะได้ดูแลแม่ของผมได้ถูกต้อง
9. คำถามนี้ยังคาใจผมอยู่เลย คุณอภิวัฒน์พิธีการรายการคนค้นคนที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ เนื้อข่าวเป็นแบบนี้ครับ
ผมเริ่มเข้าตรวจรักษาตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2547 หลังจากทราบแน่ชัดว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอให้การรักษาแบบฉับพลันทันที คือวันที่ 11 สิงหาฯ ผ่าตัดเนื้อร้าย และลำไส้ใหญ่ส่วนหนึ่งออกแต่หลังจากนั้นอีก 1 เดือน ก็พบก้อนเนื้อ 2-3 ก้อนที่ตับ หมอจึงวางแผนรักษาด้วยการใช้เคมีบำบัด โดยใช้ทั้งยาฉีด และยารับประทานสมัยใหม่ที่ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก มีเพียงผิวคล้ำลง และอ่อนเพลีย รับเคมีอยู่นาน 5 เดือน ก้อนเนื้อเหล่านั้นเล็กลง หมอจึงใช้วิธีการผ่าตัดย่อย โดยอัลตราซาวนด์ดูว่าก้อนเนื้ออยู่ตรงไหนแล้วใช้เข็มแทงเข้าไป และปล่อยคลื่นวิทยุทำลายก้อนเนื้อนั้นให้หมดหายไป ซึ่งทุกอย่างจบสิ้นลงแล้วเมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา
แล้วอยู่ดีๆเขาก็เข้าห้องไอซียูทั้งๆที่บอกว่าก้อนเนื้อหายหมดแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ เป็นไปได้ไหมครับว่าเขาไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องต่อไปโดยคิดว่าตัวเองหายแล้วก็เลยไม่ไปตรวจสม่ำเสมอ ทั้งๆที่ผ่านไปแค่ 3 เดือน จากคำพูดที่ว่าหายแล้วกลับเป็นเสียชีวิต เกิดจากอะไรเหรอครับ
10. อิทธิ พลางกูล เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้เหมือนกัน เขาเป็นระยะที่สี่เหรอครับ หรือว่าเกิดจากอะไรครับ
11. ต้องทำยังไงบ้างถึงจะรักษาหายได้ ถึงจะไม่เสียชีวิต ตอนนี้กะว่าจะกลับมาพักที่บ้านซักพัก แล้วจะไปรัษาต่อที่โรงพยาบาลรามา
ผมไหว้หล่ะครับ ท่านผู้รู้ช่วยตอบคำถามทั้ง 11 ข้ออย่างละเอียดได้ไหมครับ ทุกวันนี้เวลาผมไหว้พระที่ไหนผมจะอธิฐานว่า ถ้าสิ่งศักดิ์มีจริง ขอให้ผลของกรรมดีที่แม่ผมทำไว้ขอให้แม่ผมมีชีวิต มีลมหายใจ ให้ผมได้จับมืออุ่นๆตลอดไปด้วยเถอะครับ.
มีคำพูดที่ทำลายความรู้สึกของผมอีกอย่างคือ ช่างมันเถอะ ทำใจซะเถอะ ยังไงคนเราก็ต้องตายอยู่ดี ไม่นะ ผมไม่ยอม ยังไงผมก็ยังคิดว่ามันต้องหาย มันต้องไม่ตาย แม่ผมเป็นแค่ระยะที่สอง แม่ผมต้องไม่เป็นอะไร ผมจะพยายามทุกวิธีทางให้แม่ผมอยู่กับผมต่อไปให้ได้ ทุกวันนี้คล้ายกับว่าจะมีแต่ผมคนเดียวในบ้านที่มีกำลังใจดีที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะลดลงทุกวินาทีที่ผ่านไป
ถ้าแลกได้ ผมขอแลกให้ผมเป็นมะเร็งแทนแม่ของผม ผมขอตายแทนแม่ของผมดีกว่า เพราะผมไม่รู้จะดำเนินชีวิตแต่ละวันต่อไปได้ยังไง ถ้าแม่ผมไม่อยู่กับผมแล้ว
จากคุณ :
nuie
- [
วันเข้าพรรษา 19:44:08
A:10.122.33.28 X:203.155.94.129
]