CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คำแนะนำในการเลือกซื้อ++เลนส์แว่นตา++

    ความรู้เรื่องเลนส์แว่นตา

    เลนส์แว่นตาในปัจจุบัน มีหลากหลายชนิดและหลายราคา ทำให้ผู้บริโภคสับสนและไม่มั่นใจว่าจะได้เลนส์คุณภาพคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือไม่
    ตอนนี้เลนส์แว่นตาที่มีจำหน่ายในประเทศไทยจะมีทั้งเลนส์ที่มาจากจีนซึ่งมีราคาถูกมากแต่คุณภาพไม่ดีโดยเฉพาะเรื่องมัลติโค้ท
    อีกกลุ่มนึงคือ เลนส์จากเกาหลีซึ่งคุณภาพดีแต่ราคาจะสูงกว่า กลุ่มสุดท้ายคือเลนส์ที่ผลิตในประเทศคือเลนส์ของโฮย่า  ไทยออฟติคอลกรุ๊ป(TOG) Essilor และคริสตัลเลนส์ ซึ่งราคาของเลนส์ในประเทศนี้จะค่อนข้างแพงแต่คุณภาพจะดีกว่าเพราะใช้เทคโนโลยีที่ดีกว่าทุกกลุ่มเนื่องจากทำเลนส์ส่งขายประเทศทางยุโรปและอเมริกาด้วย

    เวลาเราไปซื้อเลนส์คู่ใหม่ ถ้าราคาถูกมาก ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นเลนส์คุณภาพไม่ดี ส่วนมากผลิตในจีน ซึ่งราคาจะอยู่ที่หลักร้อย เพราะเลนส์พวกนี้ต้นทุนถูกมาก แต่คุณภาพไม่ดี  บางท่านอาจจะแย้งว่ารู้ได้งัยว่าไม่ดี  เพราะใส่แล้วก็ชัดดีไม่เห็นเป็นงัยเลย  ที่ว่าไม่ดีคือเลนส์พวกนี้คุณภาพในการเคลือบมัลติโค้ทตัดแสงสะท้อนจะแย่มาก  ใส่ไปไม่กี่เดือนจะพบว่าโค้ทลอก  และบางครั้งเลนส์จะมีปริซึมเพราะผลิตไม่ได้มาตรฐาน...เน้นถูก  ใส่แล้วมองภาพชัดแต่ถ้าใส่ทำงานนานๆตาจะล้ากว่า ทำให้ปวดตา
    แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นทุกคู่นะ ถ้าท่านโชคดีก็อาจจะได้เลนส์ดีในราคาแสนถูกก็ได้... แล้วแต่ดวง

    ข้อแนะนำในการเลือกซื้อเลนส์แว่นตา
    เลนส์สายตาชั้นเดียว จะมีคุณสมบัติของเลนส์ดังนี้

    - ค่า index คือตัวเลขที่บอกว่าเลนส์จะหนาหรือบางกว่า  เริ่มตั้งแต่ 1.5  1.55  1.61  1.67   1.74  สำหรับเลนส์พลาสติก
     ถ้าเป็นเลนส์พลาสติกธรรมดาจะเรียกว่าเลนส์ CR Index 1.5  ซึ่งเหมาะกับเบอร์สายตาสั้นเอียงไม่เกิน -4.00 เพราะถ้าเกินกว่านี้เลนส์จะหนามาก
     ถ้าสั้นเกิน -4.00 แนะนำเลนส์ 1.55  1.61  1.67  ซึ่งจะบางกว่า 1.5 เยอะเลย  แต่ก็แพงกว่านะ  ยิ่งค่า index สูง ยิ่งบาง ยิ่งแพง
     ทีนี้เวลาเราไปซื้อตามร้านที่เค้าขายถูกๆ เช่นคู่ละ 300 400  500  บอกได้เลยว่าท่านจะได้เลนส์เลนส์ 1.5 หรือโชคดีก็ได้ 1.55 ซึ่งเป็น
     เลนส์พื้นฐาน เลยราคาถูก  แต่จะหนาถ้าเบอร์สายตาสูงๆ

    - เลนส์เหนียว เลนส์ไม่เหนียว  เลนส์พลาสติกจะมีเลนส์ธรรมดา กับเลนส์เหนียวเจาะรูได้สำหรับกรอบไม่มีขอบ(กรอบเจาะรู)
     เลนส์ธรรมดาคือ 1.5  1.55  สามารถเจาะรูได้ แต่จะแตกง่ายเวลาใช้งาน เพราะเนื้อเลนส์ไม่เหนียวพอ ส่วนมากจะแตกตามรูที่เจาะ บอกไม่ได้ว่าจะแตกเมื่อไร
     ส่วนเลนส์เหนียวคือ 1.61  1.67  1.74  จะทนแรงเฉือนได้ดี สามารถเจาะรูได้  ทนทานไม่แตกสำหรับการใช้งานปกติ(แตกได้เหมือนกันถ้าเหยียบหรือถูกกระแทกแรงๆ)
     ถ้าท่านซื้อเลนส์เพื่อใส่กรอบเจาะ ถ้าราคาต่ำกว่า 800 สันนิษฐานได้เลยว่าไม่ใช่เลนส์เหนียว ก็ต้องไปลุ้นเอาเองว่าจะแตกเมื่อไหร่ เวลาแตกมันจะร้าวจากรูที่เจาะ
     แต่ถ้าท่านเลือกเลนส์เหนียว ท่านจะได้เลนส์ที่ดีกว่า บางกว่า  ที่สำคัญคือกันรังสียูวีด้วย  เพราะเลนส์ 1.6  1.67  1.74 จะกันรังสียูวีในเนื้อเลนส์เลย

    - การเคลือบมัลติโค้ท เลนส์พลาสติกจะมีเงาสะท้อนบนผิวเลนส์ สามารถแก้ได้โดยการเคลือบผิวเลนส์เพื่อตัดแสงสะท้อนได้
     ข้อดีคือภาพที่มองผ่านเลนส์จะชัดเจน สดใส กว่าเลนส์พลาสติกธรรมดา คล้ายกับเลนส์กล้องถ่ายรูป ภาพที่ได้จะใสกว่า สบายตากว่า  แต่ก็แพงกว่าด้วยนะ
     ทีนี้ผิวโค้ทของเลนส์ที่มีขายในเมืองไทยก็มีหลายแบบดังนี้
     โค้ทสีฟ้า  จะคุณภาพแย่สุด  มักจะพบในเลนส์ราคาถูก  โค้ทแบบนี้จะลอกง่าย  เป็นรอยง่าย  ควรหลีกเลี่ยง
     โค้ทสีเขียว Hi vision coat  จะดีกว่าแบบแรก  แต่ก็ลอกได้เหมือนกันถ้าใช้ไม่ถูกวิธี
     โค้ทลื่น Double coat  VP Coat  แบบนี้จะดีสุด  ผิวเลนส์จะลื่นน้ำไม่เกาะ  เช็ดทำความสะอาดง่าย  โค้ทลอกยากสุด

     โดยทั่วไปท่านจะพบกับโค้ทเขียวซึ่งคุณภาพก็แตกต่างกันอีกแม้จะเป็นโค้ทเขียวเหมือนกัน โดยจะเรียงตามคุณภาพดังนี้
      - เลนส์โฮย่า กับ TOG ผิวโค้ทจะดีสุด มีทั้งโค้ทเขียวและโค้ทลื่น แต่ราคาก็จะแพงกว่าแบบอื่น
      - เลนส์เกาหลี  ถ้าเป็นโค้ทเขียวคุณภาพดี ราคาถูกกว่า
      - เลนส์จีนแดง ราคาถูกสุด แต่ไปลุ้นกันเอาเองนะ
     เหตุที่เลนส์เคลือบโค้ทแพงเพราะเครื่องมือในการเคลือบโค้ทมีราคาสูงมาก(เท่าที่ทราบราคาหลายสิบล้าน) อีกทั้งต้องใช้เวลาในการเคลือบหลายชั่วโมง

    - ป้องกันรังสียูวี  สำคัญนะเพราะแสงยูวีจะทำลายเลนส์ตาและจอประสาทตา หากเรารับในปริมาณมากและเป็นเวลานาน  สังเกตง่ายๆลองดูคนแก่รอบข้างที่เรารู้จัก ส่วนมากจะเป็นต้อกระจกกันเยอะ  โดยเฉพาะคนที่ทำงานอยู่กลางแจ้งบ่อยๆ  (แสงแดดเป็นสาเหตุนึงนะที่ทำให้เป็นต้อ ทั้งต้อกระจก  ต้อลม)
     ทีนี้เลนส์แว่นตาทุกคู่ที่เราใส่ควรจะกันรังสียูวีด้วยทั้ง UV A,B  400 นาโนเมตร
     เลนส์ 1.5   1.55   ต้องเคลือบสารกันยูวีเพิ่ม  ปกติจะไม่เคลือบมาให้ต้องสั่ง
     เลนส์ 1.61  1.67  1.74  กันยูวีในเนื้อเลนส์เลย สบายใจได้
     เลนส์มัลติโค้ทจะกันรังสียูวีได้เหมือนกัน แต่ไม่ 100%
     เลนส์ราคาถูก ส่วนมากจะไม่กันยูวี โดยเฉพาะเลนส์ 1.5  1.55  ถ้าท่านอยากรู้ว่าเลนส์ท่านกันยูวีหรือไม่  ให้ไปขอเช็คได้ที่ร้านแว่นตา  ถ้าร้านที่ได้มาตรฐานเค้าจะมีเครื่องเช็คยูวีอยู่แล้ว

    - ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  อันนี้ไม่รู้ว่ามีประโยชน์หรือไม่  แต่ก็กันได้จริง
     หลักการคือเค้าจะใช้ของเหลวที่เป็นโลหะใส  ซึ่งนำไฟฟ้า  เคลือบไว้ที่ผิวเลนส์   ทีนี้เวลามีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาที่ตาเรามันก็จะถูกเลนส์จับไว้เพราะมีสารโลหะเคลือบอยู่ จากนั้นก็จะไหลลงไปตามร่างกายเราไม่สามารถทะลุผ่านเลนส์มาเข้าตาเราได้
     แต่ก็ไม่รู้แน่ชัดว่าคลื่นมันมีผลเสียต่อตาเรามากน้อยแค่ไหน แต่กันไว้ก็ดี

    สรุป
    ถ้าท่านอยากได้เลนส์ราคาถูก ให้เลือกเลนส์พลาสติกธรรมดา ท่านก็จะได้เลนส์ 1.5  ไม่กันยูวี  เลนส์ไม่เหนียว ไม่โค้ท  และหนากว่า  ราคาประมาณ  200 - 400
    ถ้าเป็นเลนส์มัลติโค้ท ราคา 400-800  ก็เป็นเลนส์จีนแดง  เกาหลี  เลนส์ไม่เหนียว  ส่วนมากเป็นเลนส์ 1.5  1.55 ส่วนมากกันยูวีไม่ถึง 400 นาโนเมตร
    ถ้าเป็นเลนส์มัลติโค้ท ราคา  900 ขึ้นไป  ท่านอาจจะได้เลนส์ 1.61  ซึ่งเหนียว เจาะได้  บางกว่า  กันยูวี400  และผิวโค้ทคุณภาพดี  เป็นเลนส์เกาหลีคุณภาพดี
    ส่วนเลนส์ โฮย่า  และ TOG  ราคาจะแพงกว่าประมาณ 20-40% แต่คุณภาพผิวโค้ทดี เลนส์ไม่มีปริซึม คุณภาพได้มาตรฐาน

    ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วว่าจะเลือกใช้เลนส์แบบไหน   เพราะคุณภาพสายตาคือคุณภาพชีวิต

    ไว้คราวหน้าจะมาพูดเรื่องเลนส์ 2 ชั้น กะเลนส์ Progressive ให้อ่านกันนะ  หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับทุกท่านนะ จะได้ไม่โดนหลอกเวลาไปตัดแว่นใหม่
    ขอบคุณครับ

    แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 49 16:41:37

    จากคุณ : vanta dd - [ 28 ก.ค. 49 19:23:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com