CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ชีวิตรันทด...เรื่องจริงผ่านคอมพ์ ตอนที่สาม(ต่อ)

    สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่าน..

    วันนี้เข้าพันทิบ ตกใจ ปลื้มใจ ดีใจ มีความสุขล้นเหลือ love

    ชื่อ แอร์กี่ อยู่อันดับที่ 1 ในการค้นหาข้อมูลของเว็บพันทิบ

    กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม ดิฉันยังเขียนเรื่องไม่จบเลยค่ะ

    แต่ขอเอาตอนที่สาม(ต่อ) และ ตอนที่สี่ มาลงให้อ่านก่อนน้า

    ติดตามได้เลยค่ะ....


    คืนนั้น หลังจากการไกล่เกลี่ยของหนุ่ย บวกกับความเพลียของทุกคนในเหตุการณ์ จึงต่างแยกย้ายกันไปนอน
    แน่นอนว่าพี่หนิงต้องมาอยู่ห้องเดียวกับฉัน คุณจิ๋มอยู่กับพี่อิน

    ทันทีที่อยู่กันสองคน พี่หนิงแสดงอาการโมโหจัดขึ้นมาอีก

    "เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆหรอกนะเธอ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอโกหกฉันหรือเปล่า"

    พี่หนิงเริ่มใช้สรรพนาม "ฉัน กับ "เธอ" อีกแล้ว

    เรื่องพี่หนิงว่าฉันโกหกเขานี่เป็นเรื่องที่เขาพูดบ่อยมาก ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในภายหลัง เขาจะต้องหาว่าฉันน่ะ "โกหก" เสียทุกที

    ทั้งที่เขานั่นเองเป็นคนที่ "โกหก" ฉันตลอดมา

    เรื่องพี่หนิงกับคุณจิ๋มมาถึงนูเมียได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เดาได้ง่าย ทันทีที่พี่หนิงรู้ว่าพี่อินอยู่ในห้องฉัน พี่หนิงโทร.ไปบ้านพี่อิน และคุยกับคุณจิ๋ม ทั้งสองคนตกลงว่าตอนเช้าต้องรีบไปจัดการเรื่องการเดินทางไปนูเมีย พี่หนิงเป็นนักบิน ไม่ยากที่จะหาข้อมูลสายการบินต่างๆจากแผนก operation ส่วนคุณจิ๋มมีเพื่อนสนิททำงานสถานทูตฝรั่งเศส
    ช่วยเร่งให้วีซ่าของทั้งสองคนเสร็จภายในวันเดียวเพื่อจะออกเดินทางมานูเมียโดยสายการบินอื่น

    ระหว่างที่พี่หนิงและคุณจิ๋มเดินทางมา ต่างคนต่างหาข้อมูลอีกฝ่าย พี่หนิงบอกฉันว่า คุณจิ๋มสังเกตว่าพี่อินเปลี่ยนไปมากหลังจากที่สารภาพกับเธอว่าชอบฉัน

    และคุณจิ๋มซึ่งป็นแอร์เก่ามีเพื่อนทำงานใน OB (แผนกจัดตารางบิน) ทำหน้าที่เป็นสายลับคอยแจ้งว่าพี่อินไปบินกับแอร์คนไหนบ้าง

    เรื่องพี่อินไปนูเมียกับฉัน คุณจิ๋มรู้ช้าไป สายลับของเธอลาพักร้อนไปหลายวัน กว่าจะมารู้ว่าฉันบินกับพี่อินเลยสายไป บังคับให้พี่อินเปลี่ยนตารางบินไม่ทัน รวมทั้งพี่อินบอกเธอว่า ฉันเป็นแฟนพี่หนิงไปแล้ว พี่อินไม่เกี่ยว

    แต่คุณจิ๋มอดไม่ได้ที่จะมาปรามฉันไว้ก่อนในวันเดินทาง คุณจิ๋มคงลืมไปว่าคนเรานั้นถ้ายังไม่มีวุฒิภาวะพอ การมาดักด่าว่าฉันนั้นมันเปรียบเสมือน "ยิ่งว่าก็ยิ่งยุ"

    ตอนนั้นฉันเป็นแค่เด็กสาวเพิ่งพ้นรั้วมหาวิทยาลัย จะให้คิดอะไรออกมากมายเหมือนตอนนี้เล่า

    สองวันต่อมาที่นูเมียทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงที่เค้าพูดกันว่า นับวินาทีรอ ฉันรอนาทีที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯอย่างใจจดใจจ่อ

    พี่หนิงอารมณ์กลับไปกลับมา แต่ฉันไม่เฉลียวใจว่านั่นคือตัวตนแท้จริงของเค้า กลับคิดไปว่าพี่หนิงโมโหหึง

    ฉันมาสรุปรวมอุปนิสัยทั้งหมดของพี่หนิงได้ทั้งหมด หลังจากวันนั้นอีกหลายปี

    ซึ่งทุกอย่างมันสายไปหมดแล้ว

    ความรู้สึกของฉันตอนนั้นคือ ฉันเป็นของพี่หนิง ฉันต้องแต่งงานกับพี่หนิง อารมณ์บรรเจิดที่พี่หนิงสร้างให้เกิดกับตัวฉันยามอยู่บนเตียงด้วยกัน ทำให้ฉันติดพี่หนิง พอหายโกรธก็ดีกัน จบลงบนเตียง

    ฉันลืมวิจารณญาณในการเลือกคู่ไปสนิท

    วันเดินทางกลับ พี่หนิงกับคุณจิ๋มเปลี่ยนมานั่งเครื่องเดียวกับที่พี่อินและฉันทำงาน ด้วยหน้าที่ ฉันต้องบริการคุณจิ๋ม ซึ่งนั่งเป็นผู้โดยสาร คุณจิ๋มยังคงทำหน้าเครียด เค็ม แบบเดิม เมื่อฉันเอาอะไรไปเสิร์ฟ เธอเพียงแต่ปรายตามอง

    ฉันหมั่นไส้คุณจิ๋มมาก

    นานต่อมาฉันจึงเข้าใจความรู้สึกคุณจิ๋มในวันนั้น

    หากฉันได้มีโอกาสพบเธออีก ฉันจะเข้าไปกราบขอโทษเธอที่ฉันทำให้เธอรู้สึกแย่ปานนั้น

    พี่หนิงนั่งเป็นผู้โดยสารเช่นเดียวกัน แต่คนละที่นั่งกับคุณจิ๋ม ผู้โดยสารไม่มากนัก

    รักสามเส้าสี่เส้าของพวกเราสี่คน โดนเม้าท์ลับหลังตามเคย

    "ยัยริน ชั้นมีข่าวจะมาบอก" หนุ่ยบอกฉันระหว่างที่เราทำงานเสร็จแล้ว กำลังทานอาหารกัน
    ฉันยังไม่ทันพูดต่อ หนุ่ยแทรกขึ้นมาอีก
    "อู๊ยยย พี่ปิ๋มให้อาหารกัปตันมา ชั้นอุบอิ๊บอั๊บกินละนะ สเต๊กๆๆๆ เนื้อหนุ่มฝรั่งเศสป่าวหว่า วุ้ยๆ เพิ่มพลังๆนังหนุ่ย"

    อาหารสำหรับลูกเรือบนเครื่องจะถูกจัดมาต่างหาก ไม่ปะปนกับผู้โดยสาร และต่างจากอาหารผู้โดยสารอย่างสิ้นเชิง และบุคคลพิเศษที่ต้องทานอาหารไม่เหมือนใครเลยบนเครื่องคือนักบินที่หนึ่ง หรือกัปตัน นั่นเอง

    อาหารของกัปตันทุกอย่าง จะมีฉลากกำกับมาว่า "CAPT"
    นั่นคืออาหารเฉพาะที่กัปตันต้องทาน ทำไมหรือจึงต้องทานอาหารแตกต่างจากคนอื่นๆ

    นั่นคือหากเกิดกรณีที่กัปตันทานอาหารเข้าไปแล้วอาหารเป็นพิษ ท้องเดิน หรืออะไรก็ตามอันเป็นผลมาจากอาหาร
    นักบินคนอื่นๆ จะไม่เป็นไปด้วย เพราะทานอาหารต่างกัน จะทำหน้าที่แทนกัปตันได้พอสมควร

    ในทางกลับกัน หากนักบินคนอื่นได้รับผลกระทบจากอาหารที่ทาน ก็ยังมีกัปตันดูแลเครื่องได้

    เป็นนโยบายเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดนั่นเอง

    แต่นั่นแหละ กฎย่อมมีข้อยกเว้น แอร์ที่เสิร์ฟอาหารให้นักบินจึงมักถูกถามบ่อยๆจากกัปตันทั้งหลายว่า

    "อาหารคนอื่นมีอะไรมั่ง ผมเอียนสเต๊กจะแย่แล้ว กินมาตั้งแต่ฟันดีๆจนจะใส่ฟันปลอมอยู่แล้ว..."

    แอร์ที่ชำนาญงานและมีประสบการณ์มานาน (โดยมากคือแอร์ชั้นหนึ่ง หรือแอร์ชั้นนักธุรกิจ) จะบรรยายเมนูอื่นๆให้นักบินฟังจนเกิดอาการอยากทานอาหารไปตามๆกัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่หิว

    "ที่เฟิร์สคลาสมีคาร์เวียร์ แซลมอน เบาๆดี กัปตันรับมั้ยคะ เดี๋ยวหนูเอามาให้ หรือว่าพ้อร์กช้อปดีคะ มีซ้อสสองอย่าง......ฯลฯ "

    แล้วนักบินทั้งหมดก็อิ่มท้อง อิ่มใจกันไป

    หนุ่ยพูดต่อ "QUICHE นี่ก้อหร่อยนะ ฮ้อม หอมเนยฝรั่งเศส เออ ริน กินๆเข้าไป ไม่ต้องกลัวหรอก เรื่องของเธอน่ะ ขึ้นหน้าหนึ่งวันเดียว เดี๋ยวก็มีข่าวพี่ปิ๋มกลบ ฮ่าๆๆๆ"

    หนุ่ยหันไปแซวพี่ปิ๋ม แอร์เฟิร์สคลาสที่หนุ่ยสนิทด้วย ว่าไปแล้ว ไม่เห็นหนุ่ยจะไม่สนิทกับใคร หนุ่ยเป็นคนที่มีน้ำใจดีอย่างที่ฉันเคยบอก ใครๆจึงไม่รังเกียจที่จะคบหนุ่ย แต่หนุ่ยมักจะบอกทุกคนว่า อย่าบอกความลับกับหนุ่ย เพราะหนุ่ยเป็นพวกฆ้องปากแตก มีเพื่อนสนิทเยอะนับร้อย และเพื่อนสนิททั้งหลายของหนุ่ยต่างมีเพื่อนสนิทอีกนับเป็นร้อยๆเช่นกัน

    "ช่ายมะ พี่ปิ๋ม เรื่องพี่ปิ๋มมันช่างแสบสันต์หรรษาขาเม้าท์กว่าเรื่องรินอีก ใจเย็นๆเหอะโยม"

    หนุ่ยคะยั้นคะยอให้ฉันทานอาหารชนิดนั้นชนิดนี้ ซึ่งไม่ไช่อาหารลูกเรือสักอย่าง

    ทานกันไปโดยได้รู้เรื่องพี่ปิ๋มเป็นกับแกล้ม ว่าพี่ปิ๋มโดนเพื่อนสนิทที่เป็นแอร์ด้วยกันสอยเอาสามีไปแล้ว หลังจากแต่งงานได้ไม่กี่ปี สามีพี่ปิ๋มเป็นนายตำรวจหน้าตาดีมีอนาคต แถมมาด้วยอุปนิสัยพิเศษของผู้ชายหน้าตาดีมีอนาคตส่วนใหญ่ คือ "ความเจ้าชู้"

    พี่ปิ๋มบอกฉันว่าเพิ่งจับได้สดๆร้อนๆก่อนเธอมาบินไฟลท์นี้ และเธอตัดสินใจว่า ยอมร้องไห้ตอนนั้น ดีกว่ายื้อเขาเอาไว้ และเจ็บเป็นพักๆไปเรื่อยตลอดชีวิต

    ฟังเรื่องพี่ปิ๋มแล้วนึกถึงยุ้ย นี่ฉันแย่งพี่หนิงมาจากยุ้ยจริงๆหรือเปล่า เปล่าน่า เค้ายังไม่ได้แต่งงานนี่นา คนเราหนอ(นึกได้ทีหลังตามเคยว่าฉันนี่) คิดเข้าข้างตัวเองไปได้เรื่อยๆ

    "หนุ่ย ไอ้ที่บอกว่ามีรัยจะมาบอกรินน่ะ บอกมาซะทีสิ มัววกไปเรื่องคนนู้นคนนี้ ลืมเหรอที่ว่าจะบอกอะไรรินน่ะ"
    ฉันถามหนุ่ยตอนที่นึกขึ้นได้ว่า หนุ่ยบอกว่ามีอะไรจะมาบอกแต่ยังไม่ทันบอก เพราะเฉไฉไปเรื่องพี่ปิ๋มเสียก่อน

    "น่านดิ ชั้นก็เป็นแบบนี้แหละริน คิดรัยได้ก็พูด สมองมันแล่นเร็ว "

    "จ้า รินรู้ว่าหนุ่ยน่ะพหูสูต เอ้า บอกมาเรื่องรัย"

    หนุ่ยลดเสียงลง

    "พี่อินฝาก จอ มอ รอ ให้รินน่ะดี๊"

    "อารัยนะหนุ่ย จอ มอ รอ" ฉันงงกับอักษรย่อของหนุ่ย นึกว่าหนุ่ยมาอำอีกแล้ว

    "โฮ้ยยย คุณนู๋ริ้น ...ช่างอินโนเซ้นส์ซะ..จอ มอ รอ ก้อ love letter งัยยะ ฮี่ๆๆๆ ขออ่านด้วยคนน้า"

    "ไหนล่ะจดหมาย ฝากมากะใคร อย่าบอกพี่หนิงนะ" ฉันรับจดหมายที่หนุ่ยหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงมาส่งให้

    เป็นเวลาเดียวกับที่พี่หนิงโผล่หน้าเข้ามาใน galley
    (แกลลี่ คือชื่อเรียกบริเวณที่เป็นส่วนทำงานของลูกเรือ จะกั้นม่านไว้หากไม่ใช่เวลาให้บริการผู้โดยสารทั้งเครื่อง)

    หนุ่ยตาไว รีบเอาจดหมายใส่กลับคืนไว้ในกระเป๋ากางเกง โดยที่พี่อินยังไม่ทันเห็น ไม่งั้นฉันคงโดนหนักอีก..เฮ้อ

    ฉันได้อ่านจดหมายพี่อินก่อนเครื่องลง โดยเอาไปอ่านในห้องน้ำ ขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดไทยเป็นยูนิฟอร์มของบริษัท

    (ต่อตอนที่สี่ค่ะ)

    จากคุณ : แอร์กี่ - [ 29 ก.ค. 49 15:00:34 A:202.57.173.36 X: TicketID:117784 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com