ความคิดเห็นที่ 1 มารออ่านค่ะ จากคุณ : Jessi - [ 2 ส.ค. 49 13:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มารอด้วยคน....... จากคุณ : สาวแก่บ้านนอก - [ 2 ส.ค. 49 13:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ...ง่ายนิดเดียว....เลื่อนการแต่งงาน... แล้วก็ช่วยกันเก็บเงินครับ.... การแต่งงานไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก..พร้อมเมื่อรัยค่อยจัดงาน.. 2 แรง ช่วยกันคงไม่นานเกินรอ... ...อ่านต่อตามหลัง..มึนหนักเลย.. . แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 14:28:56 จากคุณ : atom240 - [ 2 ส.ค. 49 14:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็หัวหมุนไปพักหนึ่งเหมือนกัน เพราะว่าที่บ้านดิฉันก็มีปัญหาเรื่องเงินเหมือนกัน (เศรษฐกิจดาวน์ประมาณปี 41 ที่บ้านมีกิจการเป็นของตัวเอง ก็แย่ไปด้วย แต่งงานประมาณปี 42) พอดีเพื่อนชวนเล่นแชร์ ดิฉันก็เลยเล่นแชร์เพื่อจะได้เก็บเงินแต่งงาน เปียแชร์ได้ประมาณ 1 แสน (2 มือ) ส่วนแฟนเขาก็เก็บเหมือนกัน แต่มารู้ทีหลังว่าการเก็บเงินของเขาก็คือการไปเล่นพนันบอล ให้ทายว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากพนันบอลไปสักพัก แทนที่จะมีเงินเก็บ เป็นหนี้ค่ะเป็นหนี้ (มาทราบก่อนแต่งสัก 2 เดือน) ประมาณเดือนกรกฎาคมปีนั้น มีการอบรมเรียน Visual Basic ที่ม.ธรรมศาสตร์ อบรมฟรีแต่ต้องไปกินนอนที่นั่นประมาณ 2 เดือน แฟนเขาก็มาขอค่ะ ว่าจะไปเรียน ดิฉันก็ไม่อยากให้ไปอ่ะ เพราะจะเจอกันประมาณอาทิตย์ละครั้งเอง แล้วเขาก็ต้องเข้าไปคุมก่อสร้างห้องหอด้วย (ห้องค่ะ ไม่ใช่เรือนหอ เพราะแค่ห้องเดียว คือว่า แต่งเข้าบ้านผุ้ชายค่ะ แล้วพ่อเขานอนข้างล่าง เนื่องจากว่าเป็นเบาหวานค่ะ เราก็เลยไม่นอนข้างบน มาอยู่ข้างล่าง ดังนั้นจึงต้องทำห้องใหม่ เงินตรงนี้พ่อเขาออกให้ค่ะ) เขาก็บอกว่าเขาขอไปเรียนนะ ไม่ต้องกังวล พอว่างเขาก็จะไปคุมงาน ไม่ต้องห่วงเรื่องจะไปจีบสาวนะ ไปเรียนไม่ได้ไปหาแฟน ดิฉันก็อนุญาติให้ไปเรียน หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน เขาก็เรียนจะจบ (ประมาณต้นเดือนต.ค.) ดิฉันก็โทรติดต่อหาตลอดนะคะ ไม่ได้เจอก็โทรทุกคืน ระหว่างนั้นก็ไปถ่ายรูป เตรียมแต่งงาน (รูดบัตรเครดิต) เตรียมของชำร่วย พิมพ์การ์ด เตรียมรายชื่อจะส่งการ์ด แต่คืนสุดท้ายก่อนเขาจะเรียนจบ ดิฉันโทรหาเขา ดิฉันรู้สึกว่าแปลก ๆ อ่ะ เหมือนเขาเปลี่ยนไปค่ะ พอวันสุดท้ายเขาต้องกลับมาแล้ว ดิฉันก็นัดเจอเขา แต่เขาก็ไม่เจออ่ะค่ะ ดิฉันก็ยิ่งสงสัย เอ้ เป็นอะไรเนี่ย ทำไมแปลก ๆ พิกล ได้ยินเสียงผู้หญิงหลายเสียงในรถเขาด้วย เขาก็บอกว่าเขาจะไปเลี้ยงกัน เลยเจอไม่ได้ ดิฉันก็บอกงั้นพรุ่งนี้เจอกัน เขาก็อิดออดไม่ตกปากรับคำ และก็ตัดบทว่าแค่นี้ก่อน พอวันรุ่งขึ้นก็ไม่ยอมเจอ จนอีกวันถึงยอมเจอ พอเจอกันดิฉันก็ถามว่าเป็นอะไร ทำไมแปลก ๆ ไป เขาก็นิ่งไป แล้วก็สารภาพว่าเขามีผู้หญิงใหม่ เขาไม่แต่งงานได้ไหม ดิฉันก็อึ้ง อึ้งไปเลย เหมือนฟ้าผ่าน่ะค่ะ ทำไมทำกันอย่างนี้ล่ะคะ ดิฉันก็ไม่ยอมค่ะ ก็ทะเลาะกัน หลังจากนั้น เขาก็ปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งเขามาบอกว่าจะมาขอขมากับแม่ว่าไม่สามารถแต่งงานกับดิฉันได้แล้ว ครอบครัวดิฉันไม่ยอมค่ะ ก็เลยไปเคลียร์กับพ่อแม่เขา ซึ่งพ่อแม่เขาก็บอกให้ลูกเขารับผิดชอบน่ะค่ะ และต้องแต่งงานกับดิฉันด้วย เขาก็จำใจแต่งนะคะ มาขอดิฉันว่าเขาขอติดต่อกับผู้หญิงคนนี้จนกว่าจะแต่งงานนะ ดิฉันก็ให้ค่ะ ไม่เป็นไรหลังแต่งห้ามคบแล้วกัน เขาก็ตกลง ก็เป็นอันว่าดิฉันได้แต่งงานนะคะ เกือบแจกการ์ดไม่ทันแน่ะค่ะ ตอนแจกเนี่ย เฉียดฉิวมากค่ะ ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนแต่งเองค่ะ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 14:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มากินหนมรอจ้า......... จากคุณ : ปรายปราง - [ 2 ส.ค. 49 14:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้มข้น จากคุณ : babyhoney - [ 2 ส.ค. 49 14:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนั้น เพื่อนสนิทบางคนรู้เรื่อง ก็ด่าเหมือนกันว่าเป็นอย่างนี้จะแต่งทำไมอีก เลิกไปเลย ไอ้เราก็อยากแต่งอ่ะ ก็รักมากอ่ะ ก็แต่งงาน ได้สินสอดมา 1 แสนกับทอง 4 บาทนะ (ไอ้ทองเนี้ย แม่เราขอ 10 บาท แต่แม่เขาบอกว่าให้ได้แค่ 4 บาท ไอ้เราก็บอกแม่ว่าไม่เป็นไรแม่ ช่างมันเถอะ ขอให้ได้แต่งพอ) ต้องไปอยู่บ้านผู้ชายใช่ม้า ปรากฏว่าที่บ้านผู้ชายเขาเค็มอ่ะ เขาขอติดมอเตอร์ไฟหน้าห้องนอนเรากับแฟน ให้จ่ายตามจริงค่ะ เก็บค่าน้ำประปาเดือนละ 150 บาท (ใช้น้อย ใช้มากไม่สนใจ) เก็บค่าน้ำโพลาริสกระป๋องละ 50  3 กระป๋อง เป็น 150 บาท ต้องจ่ายทุกเดือนค่ะ เราก็ได้แต่ทำใจ เออ ไม่เป็นไร ๆ ทน คราวนี้มาถึงเรื่องเงินนะคะ ค่าแชร์ที่เราเปียร์ได้มาก็มารวมกับค่าซองและค่ารับไหว้ ปรากฏว่าเหลือเงินค่ะ เหลือมาก็ไปฮันนีมูนกันที่สิงคโปร์ อ้อ ยังจ่ายหนี้พนันบอลเขาได้ด้วยค่ะ (เพิ่งรู้ก่อนแต่งได้ 1 เดือน ตอนเขามาขอเลิก ก็บอกว่าไม่มีเงินแต่งด้วย เพราะเสียบอลหมด) ก็เคลียร์หนี้สินหมด คราวนี้ก็มาเหลือเรื่องเรียนป.โทของเขา ก็อยู่กินกันมาประมาณปีกว่า ๆ เขาก็จบป.โท (เรียนเก่งมากนะ 6 ปีแน่ะกว่าจะจบอ้อ จบทรัพยากรแหล่งน้ำ ม.ส้มเขียวหวาน) หลังจากนั้นบริษัทเขาคงเห็นว่าแฟนเนี่ยทำงานเก่งมาก (ไปสาย กลับดึก เบิกโอทีด้วย) ก็เลยให้เขาออกจากงาน แต่อาจารย์เขาให้ไปเป็นอาจารย์สอนที่ม.แถวหนองแขม ก็เลยได้ไปเป็นอาจารย์ที่นั่ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 15:08:20 จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 14:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่คะ มาต่อเร็วๆนา   เจ้านายไปประชุม  โล่งค่ะโล่ง จากคุณ : Gigolina - [ 2 ส.ค. 49 14:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตีตั๋วปูเสื่อรอค้า ^_^ จากคุณ : *~Mayple Girl~* - [ 2 ส.ค. 49 14:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผลจากการดันทุรังใช่ไหมนี่ จากคุณ : Death_13 - [ 2 ส.ค. 49 14:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปูเสื่อ จากคุณ : เด็กน้อย (drphuket) - [ 2 ส.ค. 49 14:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เฮ้อ อ่านแล้ว หวาดเสียวแทนเจ้าของกระทู้ คนเราเป็นไปได้เนอะ ... แล้วเจ้าผู้ ช. จะเอาตัวรอดมั๊ยนั่นเฮ้อ จะลากผู้ ญ ลงเหวไปด้วยอ่ะดิ จากคุณ : .NetMagic - [ 2 ส.ค. 49 14:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นใจจริง ๆ ครับ กระทู้ให้ข้อคิดกับผู้หญิงได้เลยนะ จากคุณ : kaneshiro - [ 2 ส.ค. 49 14:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มานั่งเฝ้ารอตอนต่อไปด้วยคน จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 14:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โชคดีจัง ที่คุณเลิกกะเขาได้ก่อน บอลโลกที่ผ่านมาหมาด ๆ จากคุณ : โย โย (--^ไชโย^--) - [ 2 ส.ค. 49 14:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รวมแล้วก็ประมาณ 2 ปีที่แต่งงานกัน เราก็อยากมีลูกอ่ะ พอดีตอนแต่งเนี้ย เราไม่ได้จดทะเบียนเพราะว่าเราทำงานเป็นโปรเจค ก็เลยยังไม่อยากเป็นนาง เพราะกลัวหางานใหม่ทำยาก ก็เลยกะว่ามีลูกค่อยจดทะเบียน คราวนี้ก็อยากมีนะ แต่เขาก็บอกว่าไว้ให้ได้งานประจำก่อนค่อยมีลูก  พอปี 2546 เราก็เปลี่ยนงานใหม่ ก็ยังได้งานโปรเจคอีกอ่ะ คราวนี้เขาอยากเรียนด็อกเตอร์ขึ้นมาบ้าง ก็ไปสอบ ก็ติดที่ม.ดังแถวบางเขน ซึ่งเขาก็บอกเราว่าเขาต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ 1 ปีด้วย เพราะในหลักสูตรต้องไปทำวิจัยที่นั่น แต่เรารุ้นี่ว่าภูมิปัญญาภาษาอังกฤษของแฟนเราไม่ดีอ่ะ สงสัยต้องใช้เวลาสัก 2 ปีแน่ ๆ เราก็ขอเขามีลูก แต่เขาก็ยังไม่ยอมมี ก่อนหน้าจะเรียนด็อกเตอร์ได้สักปี ก็มาเปิดบริษัทรับงานนอกด้วย (รวมกับเพื่อน ๆ ) คราวนี้ทุนน้อย เงินหมุนไม่คล่อง พอดีช่วงนั้นจบงานโปรเจค ได้เงินออกมาประมาณแสนห้า เขาก็ขอยืมมาหมุนในกิจการ จากนั้นเขาก็ไปเปิดออฟฟิศเพื่อทำงานอยู่แถวคลองเตย และบอกกับเราว่าบางทีต้องนอนที่ออฟฟิศนะ เพราะว่าเคลียร์งานไม่เสร็จ และต้องอ่านหนังสือด้วย เพราะว่าเรียนด็อกเนียมันยาก เขาไม่เข้าใจ เราก็ใจดีนะ อนุญาติให้ไปนอน ตามไปดูก่อนด้วยแหละว่านอนจริงอ่ะเปล่า ก็เห็นว่าไปนอน ตอนที่เขาไปนอนเราก็โทรไปหานะ (มีประสบการณ์มาแล้วนี่ ก็ต้องระวังกันหน่อยนะ) ส่วนตัวเราก็กลับไปนอนบ้านแม่เรา ไม่กล้านอนที่บ้านเขาคนเดียว เหตุการณ์ก็ดำเนินอย่างนี้มาเรื่อย ประมาณปีกว่า (2546 - 2548) พอมากลาง ๆ ปี 2548 จากที่เคยนอนอาทิตย์ละ 1-2 วัน ก็มาขอเพิ่มเป็นอาทิตย์ละ 3-4 วัน บางอาทิตย์เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่กลับ เราก็ใจดี ปล่อยให้อีก เพราะเขามาบอกว่าเรียนคอร์สเวิร์คจบแล้ว ต้องเตรียมตัวไปเรียนเมืองนอกแล้ว เราก็เลยให้ไป พอประมาณเดือนต.ค. เราอยากได้รถใหม่ นายเราเขามีส่วนลดให้ถ้าออกรถใหม่ เราก็เลยบอกเขาว่าขอเงินเราคืน เราจะไปออกรถ ซึ่งก็ทะเลาะกัน เขาก็บอกว่าทำไมจะต้องออกรถใหม่ รถที่เราขับก็ขับได้นี่นา เราก็บอกว่าก็เราจะเอาไปให้น้องขับนี่ เขาก็บอกทำไมน้องสาวเราไม่ซื้อเองล่ะ ทำไมเราต้องให้น้อง เราก็บอกว่าน้องเรา ๆ จะให้อ่ะ ทำไมล่ะ ก็ทะเลาะกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทะเลาะกันเรื่องซื้อรถคันนี้ไปแล้ว ตอนนั้นจะกู้ซื้อรถ (ลำบากมาก เพราะว่าอยู่ในไซท์งานไม่มีรถแล้วไปมาไม่สะดวก รถเมล์ก็ไม่ผ่านด้วย) เขาก็ไม่เห็นด้วย จนตอนหลังแม่เขาให้ยืมเงินไปซื้อก่อนแล้วผ่อนทีหลัง ประมาณ 1 แสน (เราซื้อรถมิร่านะ) เชือ่ไหมว่าเงินที่เราผ่อนคืนแม่เขา เราออกคนเดียวทุกบาทเลย เขาไม่เคยช่วยเราออกเลย  ทำงานเงินเดือนใคร เงินเดือนมัน เขาออกค่าน้ำ ค่าไฟ (ที่ที่บ้านเขาให้ออก) ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้าน เช่น สบู่ ยาสีฟัน อะไรเนี่ย ส่วนมาก เราเป็นคนซื้อ แล้วเราบ้าซื้อด้วย ถ้าลดราคาเยอะ ๆ เราจะซื้อสัก 3-6 อัน เผื่อไว้ตอนที่ไม่ลดราคา ในส่วนของเสื้อผ้าของเขา เราก็ซื้อให้แม้กระทั่งกางเกงในและถุงเท้า เราก็ซื้อให้ ไม่รวมผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนู ฯลฯ เราออกหมด ไปกินข้าวนอกบ้าน เขาออกบ้าง เราออกบ้าง เขาไม่เคยให้เงินเราใช้เลย ตกลงว่าเราก็ได้ซื้อรถ (ก็เงินเรานี่) เขาก็ถอนเงินมาให้เราไปออกรถ ด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีหรอก  ขอบอกก่อนนะว่าเงินที่ต้องผ่อนรถเนี่ย ก็เป็นเงินเราเองอีกด้วย ไม่ใช่เงินเขานะ แต่ตอนที่ได้รถมาใช้เนี่ย ให้ทายว่าใครเป็นคนใข้เอ่ย ใข่แล้ว เขาเอารถเราไปใช้ พาพ่อแม่เขาไปเชงเม้ง พาไปทานข้าวข้างนอก โดยที่ค่าน้ำมันเราก็เป็นคนออก ผ่อนก็เป็นคนผ่อน แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 15:31:29 จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 14:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเสียว่าคุณมีกรรมที่ต้องชดใช้กัน ยังไงก็ขอบคุณที่เล่าเรื่องคุณเป็นอุทาหรณ์ให้น้อง ๆ ได้ระแวดระวังไว้นะคะ จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย - [ 2 ส.ค. 49 14:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อืม รอ.... อ่านต่อ อยู่คะ ยังไงต่อละคะ จากคุณ : *-*topiw*-* - [ 2 ส.ค. 49 14:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาเร็ว ๆ นะคะ ติดตามอยู่จ๊ะ จากคุณ : นางงามจักรยาน - [ 2 ส.ค. 49 14:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่คือรูปหน้าห้องนอนที่ติดมอเตอร์จ้า จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 14:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มิเตอร์นะ มิเตอร์ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 14:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถึงขนาดติดมิเตอร์ไฟหน้าห้อง ภายในบ้านเอง ก็เต็มที่แล้วละ ทำอย่างกะเป็นห้องแบ่งเช่า(หรือใช่หว่า) จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 14:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รอด้วยคน ติดหมอนมาอีกใบ จากคุณ : girlleries - [ 2 ส.ค. 49 14:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ^ เรามีเสื่อเดี๋ยวแบ่งให้นะ จากคุณ : *~Mayple Girl~* - [ 2 ส.ค. 49 14:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หมดรักแล้วจะอยู่กันทำไม มีอะไรดีขึ้นมา ต่างคนต่างไปไม่ดีกว่า หรือ... จากคุณ : drphuket - [ 2 ส.ค. 49 14:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พี่คะ หนูคิดถึงแฟนค่ะ รู้สึกรักแฟนขึ้นมาเป็นกองเลย พี่ทนได้ยังไงค่ะ  กินข้าวกับอะไรอ่ะ จากคุณ : juranjor - [ 2 ส.ค. 49 14:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พกเป๊ปซี่มารอตอนต่อไป จากคุณ : Gigolina - [ 2 ส.ค. 49 15:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รออยู่นะคะ จากคุณ : *-*topiw*-* - [ 2 ส.ค. 49 15:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เลิกเหอะค่ะ จากคุณ : แอน (akeann) - [ 2 ส.ค. 49 15:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ออกไปซื้อป๊อบคอร์นมาแระ โหลุกเสียม้าเลยอะ นั่งชะเง้อก็ได้ จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 15:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รออ่านด้วย จากคุณ : นะจังงัง (Mpum) - [ 2 ส.ค. 49 15:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มีเรื่องท้าวความนิดหนึ่ง ประมาณปลายปี 2547 บ้านเรามีปัญาเรื่องการเงินมาก เนื่องจากแม่เอาบ้านไปทำโอดีไว้ คราวนี้บ้านก็จะโดนยึด เราก็เลยต้องไปทำเรื่องขอผ่อนชำระ ปรากฏว่าแบงค์บอกว่าดอกเบี้ยที่ต้องชำระประมาณ ร้อยละ 10 กว่าบาท (ในขณะนั้นซื้อบ้านใหม่ ดอกจะประมาณร้อยละ 3 บาท) เราก็ถามว่าทำไมต้องผ่อนที่ร้อยละ 10 กว่าบาท เขาก็บอกว่าเนื่องจากเป็นการกู้หนี้เพื่อธุรกิจ ก็ลดดอกไม่ได้ เราก็เลยมาปรึกษากับว่าที่ด๊อกว่าจะทำยังไงดี เขาก็คิดไม่ออก เราก็บอกว่างั้นเราจะทำเรื่องมาเป็นชื่อเรา จะได้ผ่อนดอกประมาณร้อยละ 3 ก็ทะเลาะกันอีก กว่าจะยอมเราได้ เราก็ไปทำเรื่อง ปรากฏว่ากู้ไม่ผ่านเพราะว่าเราทำงานเป็นคอนแทค เราก็เลยขอร้องให้เขากู้ให้แต่เราผ่อนเองนะ พอดีเขาได้สวัสดิการของอาจารย์ เราก็เลยทำเรื่องโอนให้เป็นชื่อเขา ตัดบัญชีชื่อเขา แต่เราเป็นคนส่งเงินให้เขากับมือเราทุกเดือน คราวนี้ประมาณสงกรานต์ 2548  เขาก็บอกว่าเขาต้องไปเก็บตัวอย่างที่ขอนแก่น ก็จะไม่อยู่ 1 อาทิตย์ ไอ้เราก็ใจดี ให้ไป (จนตอนหลัง เลิกกันแล้ว แม่กับเพื่อนมาบอกว่าที่อีสานน่ะ เขาปิดสงกรานต์กัน เพราะฉะนั้นที่เขาบอกว่าต้องไปเก็บข้อมูลที่ประตูน้ำในขอนแก่นน่ะ ไม่จริง เพราะไม่มีคนเปิดระดับน้ำให้วัด) อีกเดือนต่อมาเราก็อยากไปบวชชีพราหมณ์ (พอดีเป็นวันวิสาขบูชา) เราก็ไปกับพี่ที่ทำงาน พอกลับมาเราก็โทรหาเขาบอกว่าจะกลับบ้าน เขาก็บอกว่าวันนี้งานเยอะให้เรากลับไปนอนบ้านเรา เราก็อึ้งนะ (ผ้าก็เยอะ เหนื่อยก็เหนื่อย ยังไม่ยอมกลับบ้านอีก) ก็โกรธนะ แต่เราก็กลับบ้านเขา แต่ไม่บอกเขาหรอก พอวันรุ่งขึ้นเขาโทรมาจะให้เรากลับบ้าน แต่เราก็ไม่รับโทรศัพท์ ปิดเครื่องเลย พอวันพุธ เขาก็โทรมา เราก็ไม่อยากคุยหรอก เขาก็บอกว่าทำไมไม่กลับบ้าน เราก็บอกว่าไม่อยากกลับ ก็เฮียยังไม่กลับเลย เราก็ไม่กลับสิ เขาบอกว่าทีเขากลับเราไม่ยอมกลับเองนี่ เราก็โกรธก็บอกเขาว่างั้นแยกกันอยู่ดีไหม เขาบอกว่าดี เราก็โกรธอีก ถามว่างั้นเลิกกันเลยไหม เขาก็บอกว่าเลิกก็เลิก อ้าว เอาแล้วไง เราก็เลยบอกว่างั้นเรามาเคลียร์กันดีกว่า ก็จะกลับบ้าน เขาบอกว่าไม่ได้หรอก ให้ไปคุยกันข้างนอก เดี๋ยวเขาต้องเข้าออฟฟิศอีก เราก็ตามใจนะ ก็ไปคุยกันที่ร้านอาหาร พอเจอหน้ากัน เราก็ถามว่าเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเขาอยากเลิกกับเรา เราก็ถามว่าทำไม เพราะอะไร เฮียมีคนใหม่หรือไง เขาบอกว่าเขาไม่มีหรอก แต่เราเป็นผู้หญิงที่ไม่ควรเดินเคียงคู๋เขาไปในอนาคตอีกแล้ว และเขาไม่รักเราอีกต่อไปแล้ว เขาบอกว่า รู้ไหมว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา 5 ปีเนี่ย เวลาให้เขาบอกรักเรา (วันเกิดเรา วันเกิดเขา วันวาเลนไทน์ วันครบรอบแต่งงาน) เขาไม่อยากพูดเลย เพราะว่าเขาไม่รักเรามาตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้นเขาเลยพูดไม่ออก เราได้ยินเขาพูดเรางี้อึ้งเลยอ่ะ อ้าวที่ผ่านมาคืออะไรล่ะ ฉันแต่งงานกับใครวะเนี่ย เนี่ยนะคนที่เรารักมาประมาณ 7 ปี เคยคิดว่ารู้จักนิสัยแล้ว แต่เฮ้ย ไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่แฟนเราอ่ะ คนคนนี้เป็นใครอ่ะ หลังจากตั้งสติไปพักหนึ่ง (ยังไม่กลับมาเต็มที่หรอกนะ ยังเหวออยู่) ก็บอกเขาไปว่าไม่เลิก ยังไงก็ไม่เลิกแน่นอน เขาก็บอกว่างั้นเขามีทางให้เลือก 2 ทาง คือ 1.  ตอนนี้ไม่เลิกก็ได้ แต่ถ้าเขาไปเมืองนอกเมื่อไรค่อยมาคุยอีกทีว่าเลิกหรือไม่ 2.  เลิกตอนนี้ คุยให้ผู้ใหญ่รับทราบ แล้วจะช่วยผ่อนบ้านให้ 1 ปี ย้อนไปนิดนะคะ ตอนที่ออกรถมาแล้วประมาณ 2 เดือนแล้วเขาใจดีช่วยเราใช้รถ เราก็คิดว่าอะไรวะ ตอนออกก็ด่า ตอนผ่อนเราก็ผ่อน แล้วเงี้ยทำไมมาช่วยใช้ล่ะ) เราก็เลยไปอ้อนกับเขาให้ช่วยเราผ่อนรถ ก็ช่วยมาประมาณ 6 เดือนนะ เราฟังแล้วเราก็บอกว่าเราไม่เลือกข้อไหนทั้งนั้นแหละ ต่อไปก็จะไม่เห็นหน้าเราอีกแล้ว ส่วนเสื้อผ้าข้าวของเรา ๆ จะให้น้องเราไปขนเอง (ตอนนั้นยอมรับว่าขาดสติมาก ก็เลยคิดสั้นๆ ว่าเดี๋ยวจะกลับบ้านไปกินยาตายแล้วล่ะ ไม่อยากอยู่แล้ว มันงงกับคำว่าไม่เคยรักเราเลย) พอเราบอกเสร็จแล้วเราก็ลุกวิ่งไปที่รถเลย เขาก็ตามมาและก็คุยกับเรา ปลอบเรา แต่เราจำไม่ได้ว่าเขาว่ายังไง จำได้ว่าสติแตก ร้องไห้มาก มากจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไ) ก็เราโกรธน่ะ โกรธมากก็เลยตะคอกเขาว่าไปให้พ้นหน้าเราเลย เราไม่อยากเห็นแล้ว ออกไปจากชีวิตเราเลย เราก็จะไปให้พ้นจากชีวิตเขาเหมือนกัน แล้วเราก็ไล่เขาลงจากรถเรา จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 15:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มีเรื่องท้าวความนิดหนึ่ง ประมาณปลายปี 2547 บ้านเรามีปัญาเรื่องการเงินมาก เนื่องจากแม่เอาบ้านไปทำโอดีไว้ คราวนี้บ้านก็จะโดนยึด เราก็เลยต้องไปทำเรื่องขอผ่อนชำระ ปรากฏว่าแบงค์บอกว่าดอกเบี้ยที่ต้องชำระประมาณ ร้อยละ 10 กว่าบาท (ในขณะนั้นซื้อบ้านใหม่ ดอกจะประมาณร้อยละ 3 บาท) เราก็ถามว่าทำไมต้องผ่อนที่ร้อยละ 10 กว่าบาท เขาก็บอกว่าเนื่องจากเป็นการกู้หนี้เพื่อธุรกิจ ก็ลดดอกไม่ได้ เราก็เลยมาปรึกษากับว่าที่ด๊อกว่าจะทำยังไงดี เขาก็คิดไม่ออก เราก็บอกว่างั้นเราจะทำเรื่องมาเป็นชื่อเรา จะได้ผ่อนดอกประมาณร้อยละ 3 ก็ทะเลาะกันอีก กว่าจะยอมเราได้ เราก็ไปทำเรื่อง ปรากฏว่ากู้ไม่ผ่านเพราะว่าเราทำงานเป็นคอนแทค เราก็เลยขอร้องให้เขากู้ให้แต่เราผ่อนเองนะ พอดีเขาได้สวัสดิการของอาจารย์ เราก็เลยทำเรื่องโอนให้เป็นชื่อเขา ตัดบัญชีชื่อเขา แต่เราเป็นคนส่งเงินให้เขากับมือเราทุกเดือน คราวนี้ประมาณสงกรานต์ 2548  เขาก็บอกว่าเขาต้องไปเก็บตัวอย่างที่ขอนแก่น ก็จะไม่อยู่ 1 อาทิตย์ ไอ้เราก็ใจดี ให้ไป (จนตอนหลัง เลิกกันแล้ว แม่กับเพื่อนมาบอกว่าที่อีสานน่ะ เขาปิดสงกรานต์กัน เพราะฉะนั้นที่เขาบอกว่าต้องไปเก็บข้อมูลที่ประตูน้ำในขอนแก่นน่ะ ไม่จริง เพราะไม่มีคนเปิดระดับน้ำให้วัด) อีกเดือนต่อมาเราก็อยากไปบวชชีพราหมณ์ (พอดีเป็นวันวิสาขบูชา) เราก็ไปกับพี่ที่ทำงาน พอกลับมาเราก็โทรหาเขาบอกว่าจะกลับบ้าน เขาก็บอกว่าวันนี้งานเยอะให้เรากลับไปนอนบ้านเรา เราก็อึ้งนะ (ผ้าก็เยอะ เหนื่อยก็เหนื่อย ยังไม่ยอมกลับบ้านอีก) ก็โกรธนะ แต่เราก็กลับบ้านเขา แต่ไม่บอกเขาหรอก พอวันรุ่งขึ้นเขาโทรมาจะให้เรากลับบ้าน แต่เราก็ไม่รับโทรศัพท์ ปิดเครื่องเลย พอวันพุธ เขาก็โทรมา เราก็ไม่อยากคุยหรอก เขาก็บอกว่าทำไมไม่กลับบ้าน เราก็บอกว่าไม่อยากกลับ ก็เฮียยังไม่กลับเลย เราก็ไม่กลับสิ เขาบอกว่าทีเขากลับเราไม่ยอมกลับเองนี่ เราก็โกรธก็บอกเขาว่างั้นแยกกันอยู่ดีไหม เขาบอกว่าดี เราก็โกรธอีก ถามว่างั้นเลิกกันเลยไหม เขาก็บอกว่าเลิกก็เลิก อ้าว เอาแล้วไง เราก็เลยบอกว่างั้นเรามาเคลียร์กันดีกว่า ก็จะกลับบ้าน เขาบอกว่าไม่ได้หรอก ให้ไปคุยกันข้างนอก เดี๋ยวเขาต้องเข้าออฟฟิศอีก เราก็ตามใจนะ ก็ไปคุยกันที่ร้านอาหาร พอเจอหน้ากัน เราก็ถามว่าเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเขาอยากเลิกกับเรา เราก็ถามว่าทำไม เพราะอะไร เฮียมีคนใหม่หรือไง เขาบอกว่าเขาไม่มีหรอก แต่เราเป็นผู้หญิงที่ไม่ควรเดินเคียงคู๋เขาไปในอนาคตอีกแล้ว และเขาไม่รักเราอีกต่อไปแล้ว เขาบอกว่า รู้ไหมว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา 5 ปีเนี่ย เวลาให้เขาบอกรักเรา (วันเกิดเรา วันเกิดเขา วันวาเลนไทน์ วันครบรอบแต่งงาน) เขาไม่อยากพูดเลย เพราะว่าเขาไม่รักเรามาตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้นเขาเลยพูดไม่ออก เราได้ยินเขาพูดเรางี้อึ้งเลยอ่ะ อ้าวที่ผ่านมาคืออะไรล่ะ ฉันแต่งงานกับใครวะเนี่ย เนี่ยนะคนที่เรารักมาประมาณ 7 ปี เคยคิดว่ารู้จักนิสัยแล้ว แต่เฮ้ย ไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่แฟนเราอ่ะ คนคนนี้เป็นใครอ่ะ หลังจากตั้งสติไปพักหนึ่ง (ยังไม่กลับมาเต็มที่หรอกนะ ยังเหวออยู่) ก็บอกเขาไปว่าไม่เลิก ยังไงก็ไม่เลิกแน่นอน เขาก็บอกว่างั้นเขามีทางให้เลือก 2 ทาง คือ 1.  ตอนนี้ไม่เลิกก็ได้ แต่ถ้าเขาไปเมืองนอกเมื่อไรค่อยมาคุยอีกทีว่าเลิกหรือไม่ 2.  เลิกตอนนี้ คุยให้ผู้ใหญ่รับทราบ แล้วจะช่วยผ่อนบ้านให้ 1 ปี ย้อนไปนิดนะคะ ตอนที่ออกรถมาแล้วประมาณ 2 เดือนแล้วเขาใจดีช่วยเราใช้รถ เราก็คิดว่าอะไรวะ ตอนออกก็ด่า ตอนผ่อนเราก็ผ่อน แล้วเงี้ยทำไมมาช่วยใช้ล่ะ) เราก็เลยไปอ้อนกับเขาให้ช่วยเราผ่อนรถ ก็ช่วยมาประมาณ 6 เดือนนะ เราฟังแล้วเราก็บอกว่าเราไม่เลือกข้อไหนทั้งนั้นแหละ ต่อไปก็จะไม่เห็นหน้าเราอีกแล้ว ส่วนเสื้อผ้าข้าวของเรา ๆ จะให้น้องเราไปขนเอง (ตอนนั้นยอมรับว่าขาดสติมาก ก็เลยคิดสั้นๆ ว่าเดี๋ยวจะกลับบ้านไปกินยาตายแล้วล่ะ ไม่อยากอยู่แล้ว มันงงกับคำว่าไม่เคยรักเราเลย) พอเราบอกเสร็จแล้วเราก็ลุกวิ่งไปที่รถเลย เขาก็ตามมาและก็คุยกับเรา ปลอบเรา แต่เราจำไม่ได้ว่าเขาว่ายังไง จำได้ว่าสติแตก ร้องไห้มาก มากจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไ) ก็เราโกรธน่ะ โกรธมากก็เลยตะคอกเขาว่าไปให้พ้นหน้าเราเลย เราไม่อยากเห็นแล้ว ออกไปจากชีวิตเราเลย เราก็จะไปให้พ้นจากชีวิตเขาเหมือนกัน แล้วเราก็ไล่เขาลงจากรถเรา จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 15:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอโทษทีค่ะ ข้อความซ้ำเลยอ่ะ นึกว่ามันไม่ไปอ่ะ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 15:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอ่อ เหมือนสวรรค์ชี้ทางให้แล้ว แต่เลือกไปลงนรก จริงๆนะเนี่ยะ   ชดใช้กรรมกันต่อไป จากคุณ : Scooterella - [ 2 ส.ค. 49 15:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ทางออกอยู่ร่ำๆๆครับ เอาใจช่วยกะปัญหาทุกอย่าง จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 15:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อืม อืม นั่งลุ้นพร้อมกับเขี้ยวป๊อบคอร์นไปด้วย อ้าวลืมซื้อน้ำเดี๊ยววิ่งไปซื้อน้ำก่อน จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 15:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เราก็ขับรถกลับมาบ้านนะ หัวใจสลายแล้ว แวะซื้อยาที่ 7-11 กลับมาด้วย กินไปประมาณ 40 เม็ดมั้ง เราก็นึกว่าจะไม่ต้องตื่นมาเจออะไรที่โหดร้ายแล้วหล่ะ (เสียใจจังที่ทำแบบนั้น ไม่คิดถึงแม่ถึงคนที่เขายังรักเราอยู่เลยอ่ะ ดีนะที่ไม่ตายวันนั้นน่ะ) แต่เราก็ไม่ตายนะ มันคงแรงมั้ง ทำให้เรานอนไม่หลับ เรานอนหลับ ๆ ตื่น ๆ พอตอนเช้าเราก็โทรศัพท์ไปหาเขา เขาไม่ถามเลยนะว่าเราเป็นยังไง เขาถามว่าโทรมาทำไม เราก็บอกว่าเฮียเราลุกไม่ไหว พาเราไปหาหมอหน่อย เขาก็บอกว่าให้น้องเราพาไปสิ เราก็บอกว่าน้องเราไปทำงานแล้ว เขาก็บอกว่างั้นก็รอตอนเย็นแล้วกัน เขาไม่ว่างหรอก เดี๋ยวต้องไปทำงานอีก แล้วเขาก็บอกว่าเขามาคิดอะไร ๆ แล้ว ตอนนี้อย่าเพิ่งเจอกันเลย ห้ามโทรมาด้วย เขาขอเวลา 7 วัน แล้วเขาจะโทรหาเองว่าจะเอายังไงกันดี  เราก็ไม่ยอม เราบอกว่าไม่เอา จะโทรหา เขาก็บอกว่าเขาไม่รับหรอก แล้วเขาก็วางสายไป เราโทรไปหาเขา เขาก็ไม่รับ โทรตลอด ไม่รับตลอด จนเย็นน้องเรากลับมา เราก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ ก็เลยไม่ได้ไปหาหมอ เราก็ยังไม่ได้เล่าให้น้องเราฟัง พอวันรุ่งขึ้นเราก็ไปหาเขาที่บ้าน (โทรเข้าเบอร์บ้านแล้วเขารับ รับเสร็จเขาก็วาง) เราก็เลยรีบไป พอไปถึงเขาก็ถามว่าเรามาทำไม ก็เขาขอเวลา 7 วันไง เราร้องไห้ บอกว่ายังไงก็ไม่เลิก เขาก็บอกว่าช้าไปแล้วล่ะ แล้วไม่ต้องมาทำมารยา เสแสร้งอีกด้วย แล้วเขาก็เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไป เราออกมา แม่เขาก็มาถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมให้แฟนเราเซ็นหนังสือว่าไม่มีสิทธิในบ้าน (เราให้เขาเซ็นไว้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ในบ้าน ก็เราเป็นคนผ่อนนี่นา แล้วบ้านแม่กะน้องสาวเรานี่ ไม่ใช่บ้านเขา ยืมชื่อมาใช้อย่างเดียวเอง) เราก็งงว่าทำไมเขาเล่าให้แม่เขาฟังเรื่องบ้านล่ะเนี่ย  แม่เขายังว่าเราอีกว่าทำไมเราไม่กลับบ้าน แฟนเราก็บอกว่าบ้านสกปรก ทำไมเราไม่กลับมาทำบ้าน เราก็บอกว่าก็แฟนเราไม่ให้กลับ ถ้าเขาไม่กลับก็ให้ไปนอนที่บ้านเรา แม่เขาก็บอกว่านี่บ้านเรา เขาไม่กลับเราก็ต้องกลับมา เราก็เลยอึ้ง ก็ถามไปว่า "ม้ารู้สึกว่าเฮียเปลี่ยนไป ไม่รุ้ว่าเฮียมีเมียน้อยหรือเปลา" แม่เขาด่ากลับมาว่า "เธอเห็นกับตาหรือว่า ลูกเขามีเมียน้อย" เราก็อึ้งไปเลย แล้วแม่เขายังด่าเราอีกว่า "ทำไมแม่เธอไม่มีปัญญามีบ้านให้ลูกอยู่เลยหรือเนี่ย ต้องให้ลูกเขามาผ่อนบ้านให้อีก ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่มีปัญญาก็ไม่ต้องอยู่ ไปเช่าที่อื่นอยู่" เราก็อึ้ง อ้าวทำไมแฟนเราไปบอกแม่เขาว่าเขาผ่อนบ้านล่ะ เราก็งง งงมาก เราก็เลยบอกว่างั้นเราไปทำงานก่อนแล้วกัน แล้วคืนนี้เราค่อยกลับบ้าน พอเราออกจากบ้านเขา เราก็โทรบอกน้องสาวเรื่องบ้าน น้องสาวเราก็โทรบอกแม่ แม่เราก็งงนะ แล้วแม่เราก็ไปดูหมอดู สักพักแม่ก็โทรบอกเราว่าในดวงเราเนี่ยบอกว่าสามีมีเมียน้อย และมีเคราะห์ด้วย ให้เราไปสะเดาะเคราะห์ด่วน เราก็ตามไปดูหมอนะ แล้วซักเขาจนได้ความว่าแฟนเรามีเมียน้อย เราก็ถามว่าอยู่แถวไหน เขาบอกทิศมา เราบอกแม่ว่าเขามีทาวน์เฮ้าส์อยู่แถวนั้น (ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเรียนป.ตรี แต่ไม่ได้ไปอยู่) คืนนั้น เรากะแม่ก็เลยไป ให้ทายว่าเจอหรือไม่  ปรากฏว่าเจอค่ะ เราเห็นรถเขาอยู่ในรั้วบ้าน เราก็อึ้ง โกรธธธธธธ แม่ก็ชวนกลับ ดึกแล้วล่ะ ประมาณตี 1 ละ (เพิ่งนึกได้ตอนเย็น กว่าจะขับรถเข้ากรุงเทพ ก็เลยดึก) เราหันไปเห็นบ้านข้าง ๆ เขาเป็นร้านเน็ท เราก็เลยเดินไปถาม "พี่คะ ขอถามหน่อยนะ ไอ้บ้านนั้นนะ อยู่กันกี่คนคะ" "สองคนครับ ผัวกะเมียอยู่ด้วยกัน" "มันมาอยู่กันนานหรือยังคะพี่" "หลายเดือนแล้วครับ" "แล้วไอ้รถคันนั้น มันมาจอดที่บ้านนี้บ่อยไหมคะ" "มาจอดทุกคืนแหละครับ เช้าก็ออกไปด้วยกัน เย็นก็กลับด้วยกัน" ได้ยินดังนั้น เลือดลมแตกพล่าน บอกแม่ว่าไม่กลับแล้ว ยังไงก็ต้องรู้เรื่องให้ได้แหละคืนนี้น่ะ  เราก็ไปกดออด แฟนเรามันก็มาตะโกนถามว่า "ใครน่ะ" "เฮีย เราเอง" "มาทำไม กลับไป" "มาดูไงว่าเอาเมียน้อยมาซ่อน" เขาออกจากบ้าน เปิดประตูออกมา หน้าบ้าน แต่ยังอยู่ในรั้วนะ "ไม่มี มาทำงาน" "มาทำงานอะไร ไม่เห็นเคยบอกว่ามาทำงานที่นี้" "มาทำงาน ไม่มีใคร" "ไม่มีใคร ก็เปิดบ้านให้เข้าไปดูสิ" "ไม่เปิด มาทำงาน" "อ้าว ไม่มีก็เปิดสิ มาทำงานอะไรล่ะ" "ไปเลยนะ xxxไปให้ไกลจากชีวิตxxxเลยนะ เพราะxxxทำให้ชีวิตxxxเป็นอย่างนี้" "อ้อ แม่ ขอบคุณนะที่อุตส่าห์พามันมาหาถึงที่นี้ "เฮีย ขึ้นxxxขึ้นxxxเลยเหรอ อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยขึ้นเลยนะ" "ทำไม xxxจะขึ้นไม่ได้ xxxไปเลยนะ ไปจากชีวิตxxxเลย" "ไม่ไป จะไปบอกป๊ากะม๊าให้มาดู" (xxx คือภาษาใช้แทนตนเองแบบพ่อขุนค่ะ เขาไม่ให้พิมพ์อ่ะ) " จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 15:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ได้มาซ้ำเติมนะครับ แต่ผมว่าพี่คิดผิดตั้งแต่ตอนจะแต่งแล้วล่ะ จากคุณ : amigo - [ 2 ส.ค. 49 15:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โอ๊ยเหนื่อย เกือบกลับมาไม่ทัน ใกล้ไคลแมกซ์ละ นั่งดูต่อ จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 15:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรารักเขา กับเขารักเรามันต่างกันนะ จากคุณ : พี่หน้าเดียว - [ 2 ส.ค. 49 15:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หนูเกลียดผู้ชายแบบนี้  แฟนเก่าหนู ก็เอี้ย แบบนี้  ทำไมผู้ชายอย่างนี้ ถึงมีแต่คนมารัก  เกลียดดดดดดดดดดด จากคุณ : หลง เปิ่น เอ๋อ - [ 2 ส.ค. 49 15:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ปูเสื่อด้วยคนค่ะ จากคุณ : pearlily - [ 2 ส.ค. 49 15:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เศร้าจัง รออ่านต่อค่ะ จากคุณ : มิกาซ่า (Mikaza_Za) - [ 2 ส.ค. 49 15:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผู้ชายคนนี้มัน อา เฮีย จริง ๆ เลย ออกไปซื้อปอบคอร์นก่อน เดี๋ยวเย็น ๆ เข้ามาดูใหม่ จากคุณ : kaneshiro - [ 2 ส.ค. 49 15:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รออ่านต่อครับ เอาใจช่วยอีกแรงน่ะ จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 15:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราก็ขับรถไปหาพ่อกะแม่เขานะ จริงๆ จะไปชวนม้ามาดูแหละ ก็ม้ามาว่าเราว่าเห็นกับตาเหรอว่าเฮียมีเมียน้อย เราก็เลยกะจะพาไปให้ดูว่าที่เมียน้อยซะหน่อย พอไปถึงม้าเขาก็ไม่ไป และปลุกป้า ให้คุยกะแม่เรา ป๊าก็ถามว่าถ้าเฮียจะเลิก จะทำยังไง เราก็บอกว่าไม่เลิกอ่ะ ยังไงก็ไม่เลิก ม้าก็จับมือแม่เรา แล้วบอกว่าคุณแม่ถ้าจะให้รับลูกสาวกลับไปเนี้ย จะเลี้ยงได้ไหม แม่เราก็บอกว่าเลี้ยงได้ ลูกฉัน ๆ เลี้ยงได้ เราเห็นสถานะการณ์ไม่ดีอ่ะ ทำไมม้าพูดงี้ล่ะ สงสัยรู้กันแหง ๆ กับลูกเขาเนี่ย เราก็บอกว่างั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวค่อยให้เฮียมาเคลียร์แล่วกัน ตอนนี้ดึกแล้ว จะพาแม่กล้บบ้านก่อน เราก็พาแม่เรากลับบ้าน แล้วเราคุยกัน แม่ก็บอกว่าสงสัยเขารู้กันทั้งบ้านแล้วว่าเฮียมีเมียใหม่ แล้วหาวิธีให้เลิกกะเราอยู่ เราก็มึนนะ ปวดหัวมากด้วย ทำงัยล่ะเนี่ย ก็นอนอยู่บ้าน รอทั้งวัน (วันอาทิตย์) ก็ไม่เห็นเขาโทรมา พอเช้าวันจันทร์เราไปทำงาน เราโทรหาเขานะ แต่เขาไม่รับสายเลย โทรเข้าบ้านก็ไม่รับ ก็เลยโทรหาพ่อเขาตอนเย็น บอกว่าจะกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน หลังจากนั้น เขาโทรหาเรา แล้วบอกว่า "ไม่ต้องกลับมาบ้านแล้วนะ เปลี่ยนกุญแจบ้านแล้ว ถ้ามาจะให้ตำรวจจับฐานบุกรุก" "อ้าว ทำไมล่ะ ทำอย่างนี้ได้ไงล่ะเฮีย" "ก็เลิกกันแล้วนี้ คืนนั้นที่เธอกะแม่ไปโวยวาย ก็แจ้งตำรวจแล้วด้วย บอกให้เข้ามาคุยก็ไม่เข้า" "อ้าว เฮีย ทำไมพูดงั้นล่ะ ขอเข้าไปแล้ว ไม่ให้เข้าทำไมกลายเป็นว่าเรียกเข้าแล้วไม่เข้าล่ะ ทำไมพูดสะตรอล่ะ" "ไม่รู้ เราเลิกกันแล้วนี้นา อย่ามาเหยียบที่นี่ล่ะ" "อ้าว แล้วข้างของของเราล่ะ" "เดี่ยวจะให้เขาขนใส่รถ ส่งกลับไปให้" "อ้าว แล้วของอย่างอื่นล่ะ" "อะไร ก็ทอง เงินสินสอดก็เอาไปแล้วนี่ จะมาเอาอะไรอีก" "อ้าว จะไม่ให้ค่าเลี้ยงดูเลยหรือ" "ทะเบียนก็ไม่ได้จดนะน้อง จะเอาค่าเลี้ยงดูอะไรล่ะ" "เออ ถ้าเฮียทำอย่างน้ได้ก็ลองดูแล้วกัน ยังไงก็ไม่ยอมหรอก" "ตามใจ ก็เลิกกันแล้วนี่" หลังจากนั้น เราไม่เชื่อว่าพ่อแม่เขาจะทำได้ เราก็เลยไปพิสูจน์ พอไปถึงพ่อแม่เขาไม่ให้เราเข้าบ้านอ่ะ แล้วเขาเปลี่ยนกุญแจใหม่แล้วด้วย แม่เขาเห็นเรา เขาก็บอกว่าเอาเสื้อผ้าไปบางส่วนแล้วกัน เราก็ขอเขาเข้าบ้าน เขาบอกว่าแฟนเราไม่ให้เข้า ถ้าเขาไม่อยู่ ไม่ให้เราเข้าบ้าน พ่อเขาก็บอกว่าแล้วมีเรื่องอะไรกัน เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย ลูกเขามาบอกว่าผ่อนบ้านให้เราเป็นแสน ๆ แล้ว เราก็บอกว่าไม่จริงหรอก บ้านเรา เราเป็นคนผ่อนเอง เขาไม่เคยผ่อนเลย พ่อเขาก็บอกว่าก็ไม่รู้ ลูกเขาบอก แล้วบอกว่าลูกจะเลิกด้วย แต่ก็ไม่ให้เราเข้าบ้าน   เราก็เลยโทรหาแม่เรา แม่ก็บอกให้ไปแจ้งความ เราก็ไป คุณตำรวจก็บอกว่าเขาทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะว่าเราแต่งงานมีหน้ามีตา แล้วมาอยู่หลายปีแล้ว ให้ติดต่อแฟนเรา เราก็เลยโทรไปบอกเขา พอเขารู้ว่าเรามาแจ้งความ เขาก็กลับกลายเป็นคนดีเลย ถามว่าแล้วจะเอายังไง อยากได้อะไรอีก อยากได้อะไรจะยกให้  เราก็บอกว่าเราอยากได้บ้านเราคืน เขาก็บอกว่าเรื่องบ้านเป็นเรื่องลึกซึ้ง ต้องให้เราทำเรื่องโอนเป็นชื่อเราก่อน แล้วเขาจะโอนคืนให้ ส่วนข้าวของอะไรเนี้ย ถือว่าที่เขาผ่อนบ้านให้เรา (กลับคำจากที่ช่วยเราผ่อนรถ เป็นช่วยเราผ่อนบ้าน) ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูแล้วกัน และเป็นค่าข้าวของที่เขาไม่ให้เรา เช่น โทรทัศน์ วีดีโอ วีซีดี กล้อง ฯลฯ เราก็บอกว่าเราไม่เชื่อที่เขาพูดหรอก ยังไงก็ต้องมาที่สถานีตำรวจมาลงบันทึกแจ้งความกันก่อน แล้วจะทำยังไงก็ได้ ไม่อย่างนั้นไม่ยอม เขาก็บอกว่าก็ได้ เขาจะมาลงบันทึกแจ้งความให้ เราก็นัดกันว่าวันเสาร์จะมา และจะให้ตำรวจไปเป็นพยานตอนที่ขนของออกจากบ้านด้วย ก่อนหน้าวันเสาร์ เย็นวันศุกร์โทรมาบอกว่าม้าบอกว่าทองสินสอดต้องแบ่งกันคนละครึ่ง เราก็บอกว่าเหลือแค่ 2 บาท 50 สตางค์เนี่ยนะ เขาบอกว่าม้าบอกว่ามี 8 บาท เราก็เลยว่าไป 8 บาทอะไรล่ะ ในรูปก็มี ให้สินสอดมา 4 บาท จะเอาที่ไหนไปมี 8 บาทล่ะ อย่าให้เราด่าคนแก่เลยนะว่าสะตรอน่ะ แล้วอยู่กินกันมาก็ขายทองไปแล้วบาทห้าสิบ แล้วจะมาแบ่งอีกเหรอ  เขาบอกว่าแล้วเงินสินสอดล่ะ เราก็บอกว่าความจำสั้นเหรอไง ก็ใช้หนี้งานแต่ง ใช้หนี้พนันบอลให้หมดแล้วน่ะ แถมไปฮันนีมูนอีก จะเอาที่ไหนมาเหลือ  เขาก็บอกว่าม้าอยากได้ตุ้มหูรับไหว้ของเราคืน เราก็เลยบอกว่าอ้าว ไม่คืน อยากได้เอาเงินมาซื้อคืนไป ให้แล้วให้เลยสิ เขาก็บอกว่างั้นไม่เป็นไร ไม่ติดใจ ไม่เอาก็ได้ คืนนั้น แม่เรากะเรานัดทนายความไว้ กะว่าถ้าเขาคุยไม่รู้เรื่อง (เกี่ยวกับบ้าน) จะได้ตั้งตัวถูก วันรุ่งขึ้น นัดเจอกัน ทนายไปด้วย (ขอเข้าห้องน้ำแป้บนะ) จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 15:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไปซื้อเสบียงแป๊บนึงค่ะ จากคุณ : pearlily - [ 2 ส.ค. 49 15:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มันก็ดีแรกๆแหละหลังๆมันไม่เสมอต้นเสมอปลายคุณก็ต้องมองให้ออก อยู่ที่คุณใจแข็งพอจะออกไปได้หรือไม่ ถ้าออกไม่ได้ก็อยู่แบบ จขกท แหละครับ ผมจะทำอะไรต้องเกรงใจพ่อแม่ฝ่ายผู้ ญ ก่อนเสมอ ลูกเค้านะครับไม่ใช้หมาแมว ปล.ทำอะไรก็ตามอย่าต้องให้พ่อแม่มาเดือนร้อนด้วยสิ ไมใช่เด็กๆกันแล้ว พ่อแม่ก็แก่ต้องมานั่งเครียด (ผมคิดแค่เนี้ยเป็นห่วงพ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายมากกว่าครับ) จากคุณ : MySql - [ 2 ส.ค. 49 15:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เฮ้อออออออออออออออออออออออออ แทรกนิดนะ เป็นอิชั้นอ่ะไม่แต่งตั้งกะตอนแรกแล้ว เค้าปฎิเสธมาจะยื้อทำไม แต่ก็ดีใจกับ จขกท ที่ผ่านมาได้  เข้มแข็งไว้ เด๋วก็ปีใหม่แล้ว จากคุณ : กระบุงกระหนุงกระหนิง - [ 2 ส.ค. 49 16:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มานเปงคนป่าวหว่า จากคุณ : @FURBY@ - [ 2 ส.ค. 49 16:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไอ้ผู้ชาย ซงทีน อ้ายเหี้............  จะแต่งงานต้องให้เมียหาเงินเอง   อ้ายสาด  เห็นแก่ตัวไอ้ตัวไถนา จากคุณ : amhol - [ 2 ส.ค. 49 16:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความรักทำให้คนตาบอดนี่มันจริงแท้ ๆ เลยนะ ขอบคุณที่อุตส่าห์เล่าเพื่อเป็นอุธาหรณ์กับคนอื่นค่ะ จากคุณ : sleepycatty - [ 2 ส.ค. 49 16:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่น่าเชื่อว่าคุณทนเค้าได้ แม้ว่าเค้าจะด่ายังไงก็ยังไม่ยอมเลิก แต่ความรักความโกรธบังตาก็คงคิดอะไรไม่ค่อยอกอย่างนี้มั้งคะ อ่านแล้วเศร้าใจคะ จากคุณ : redruby - [ 2 ส.ค. 49 16:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เครียดจนดูดน้ำหมดกระป๋องเลย วิ่งไปซื้อใหม่ระหว่างรอ.....มีใครจะฝากซื้ออะไรมะ จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 16:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เอา ไส้กรอกสองอันครับคุณหงส์ น้ำแข็งยูนิตอีกถุงน่ะ จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 16:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พอร้อยเวรถามว่าพร้อมไหม เราก็บอกว่ารอทนายแป้บหนึ่ง (ให้ทนายแอบอยู่ยังไม่ให้เขาเห็นอ่ะ) พอเขารู้ว่าเราเอาทนายมาด้วย หน้าตาเปลี่ยนสีเลยอ่ะ เขาก็บอกว่าเขาเตรียมหนังสือสำคัญการหย่ามาด้วย (ดูสิ ไม่ได้จดทะเบียนทำไมมีหนังสือหย่าด้วยล่ะ เศร้าเนอะ) ในสาระสำคัญนะคะ 1.  นายกับนางสาวได้แต่งงานอยู่กินกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียน ณ วันทีxxxxx 2.  วันที่ xxxxx ได้ยินยอมที่แยกทางกันโดยที่ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายยินยอม 3.  มิได้มีบุตรด้วยกัน     เราถามตำรวจว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ยังทำอะไรกันอยู่เลยอ่ะ ถ้ามีลูกจะว่างัย  (เขาก็หน้าซีดเลยล่ะ สะใจมาก) ตำรวจบอกว่าอยู่ใน 90 วันถือว่าเขาต้องรับผิดชอบ 4. เรื่องบ้าน เขาก็ท้าวความตั้งแต่ต้น (เหมือนข้างบนค่ะ) และบอกว่าภายใน 2 เดือนนับจากนี้ ขอให้เราและน้องโอนกลับมาเป็นของเรา ถ้าไม่ทัน เขาจะขอยึดครองตามสิทธิ์ของเขา (ดูสิ มันจะโกงบ้านเราอ่ะ)     เราบอกทนายว่าไม่ได้ ข้อนี้เราไม่ยอม ไม่งั้นไม่เซ็น ทนายเลยบอกว่าถ้าอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ได้ว่าเรากู้อยู่ ก็ให้เลื่อนกำหนดออกไป     เขาบอกว่าเขากลัวว่าจะยืดเยื้อ และกลัวว่าถ้าเราทำเพิกเฉยไม่กู้จะทำยังไง     ทนายบอกว่าไม่เป็นไร สามารถพิสูจน์ได้ว่าขั้นตอนการกู้ถึงไหน    เขาบอกว่าเขาต้องรีบทำเรื่อง เพราะจะเอาเงินไปโปะกับที่มหาลัย เนื่องจากเขาต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ ในเดือนสิงหาคม (ตอนนี้ประมาณต้นเดือนมิถุนายน) เราอึ้ง นึกไปถึงตัวเลือกคืนนั้น ที่ข้อ 1 เขาบอกว่าให้อยู่อย่างนี้ แล้วตอนไปเมืองนอกค่อยคุยกัน อ้าว หลอกเรานี่หว่า โอ้ย จี๊ดมากกก 5.  ไปรษณียและพัสดุต่าง ๆ ให้เราทำการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ไม่งั้นเขาจะไม่รับผิดชอบ 6.  หุ้นที่เรามีอยู่ในบริษัทของเขา (ที่ยืมเงินเราไป) เราไม่มีสิทธิ์ทั้งสิ้น เป็นยังงัยล่ะ แสบไหม อดีตสามีเรา ตกลงเราเซ็นนะ เพราะถ้าไม่เซ็นเนี่ย เราอาจจะต้องเสียบ้าน ถ้าเขาไม่เซ็นโอนบ้านให้เราไง ซึ่งเรามันโง่เองที่ให้บ้านมาเป็นเครื่องได้เปรียบ (ถามทนายแล้วว่าถ้าฟ้องร้องจะได้ไหม ทนายบอกว่าบ้านเป็นชื่อเขา ถึงแม้จะสืบเรื่องได้ ก็ต้องแบ่งกับเขาคนละครึ่ง  อะไรเนี่ย พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ผ่อนก็ไม่ได้ผ่อน แถมยังมีสิทธิ์ได้ตั้งครึ่งอีก โอ้ ข้าน้อยทำอะไรผิดเนี่ย) พอทำเรื่องเสร็จ ต้องรอให้ตำรวจลงบันทึกแจ้งความ (สาระทั้งหมดเหมือนกับหนังสือสำคัญการหย่า อยู่ที่สน. จักรวรรดิ์จ้า) ระหว่างนั้นร้อยเวรมองหน้าเรานะ แล้วก็ยิ้มให้เรา สงสัยเขาจะเห็นใจแหละ เราก็ยิ้มและบอกว่าถ้าผู้กองมีน้องสาวหรือแฟนก็อย่าทำอย่างนี้นะ สงสารผู้หญิงอ่ะ หลังจากลงบันทึกแจ้วความเสร็จแล้ว เราก็ไปขนของที่บ้านเขา ตอนขนเนี่ย เราก็เก็บของของเรา เราหยิบเครื่องเขียน เขาก็บอกว่าจะไม่เก็บไว้ให้เขาใช้เลยหรือ เราก็บอกว่าก็เราเป็นคนซื้อนี่ แล้วติดชื่อ ก็ชื่อเรา เขาก็เลยให้เรา พอเราถามถึงเครื่องดูดฝุ่น (พลังเสือด้วย ตั้ง 3 พันแน่ะ) เขาก็บอกว่าอยู่ที่ออฟฟิศ เราก็บอกว่าของเรานะ เราเป็นคนซื้อ เราจะเอาคืน เขาตอบว่าพิสูจน์ได้ไหมว่าเราเป็นคนซื้อ โอ้ย แม่เจ้า อยากกระตื้บคนจังเลย อ้าว ไม่เอาก็ได้ ไปห้องนอน เราก็จะเอาพวกผ้าปูที่นอนที่เราซื้อกลับทุกชุด (ไม่เอาไปใช้หรอก จะเอาไปบริจาคให้คนที่ไม่มีใช้ ไม่อยากเอาเสนียดกลับมาหรอก อี๋ ใช้ไม่ลงแล้ว) เขาก็บอกว่าเขาขอชุดปิกัสโซ๋นะ (เอาของแพงด้วย) เราก็บอกว่าไม่ให้ เขาก็บอกว่าเขาขอเถอะ เขาชอบ มันนิ่ม เราก็คิดในใจเออ อยากได้เสนียดเราก็เอาสิ ก็ให้เขาไว้ (ใจดีไหมเนี่ย)  แล้วก็เก็บข้าวของทุกอย่างออกมาจากบ้านเขา ตอนขนของเที่ยวสุดท้าย เราก็มาบอกลาพ่อแม่เขา เราก็บอกว่าขอบคุณนะคะ สำหรับที่ผ่าน ๆ มา  พ่อเขาตะโกนมาบอกว่า เออ ไปเลย ไปไหนก็ไป  เราก็อึ้ง โอ้โหแหะ ทำไมใจร้ายกันอย่างนี้เนี่ย ทนมาได้ไงวะตั้ง 5 ปี มาอยู่กับครอบครัวมารเนี่ย  โอ้ยโคตระดีใจเลยที่หลุดออกไปได้ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รูปตอนย้ายบ้านค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอให้คุณหายไวๆนะคะ ถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกันคะ เรามาเริ่มชีวิตใหม่ดีกว่าคะ จากคุณ : รอแค่ใครบางคน - [ 2 ส.ค. 49 16:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แว่บ กลับมาทันพอดี คนอารายจะร้ายเหลือได้ปานนั้น ทนอยู่มาได้ตั้ง 5-6 ปี เก่งจริงๆเลย นับถือน้ำใจ ปล.คุณพ่อบีเกิ้ล ไส้กรอกได้อันเดียวนะ แม่ค้าบอกวันนี้ลูกค้าเยอะ สงสัยจะมาจากการรออ่านเรื่องนี้อะนะ จากคุณ : น้องหงส์ - [ 2 ส.ค. 49 16:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ดีใจค่ะที่หลุดพ้น  ขอให้บ้านกลับมาไว ไว นะคะ จากคุณ : Nu_Nano - [ 2 ส.ค. 49 16:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ยินดีด้วยครับ แต่เก่งจังอยู่ได้นานมาก รู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนดีขึ้นจริงๆ จากคุณ : yepmann - [ 2 ส.ค. 49 16:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มีจุดจบ ของไอ้ครอบครัวเลวนี้บ้างไม๊ค่ะ อยากจะสะใจคนเลวๆ บ้าง จากคุณ : น้องมะลิ - [ 2 ส.ค. 49 16:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พ้นซะที.....ดีใจด้วยที่หลุดมาได้ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นบทเรียน(ราคาแพง) ช่าง... ถือว่าทำบุญทำทานนะกับสิ่งที่เสียไป จะได้สบายใจ เดี๋ยวนี้กรรม Online แล้ว ไม่นานกรรมต้องตามสนอง ต่อจากนี้ไปก็ขอให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีนะค่ะ จากคุณ : นะจังงัง (Mpum) - [ 2 ส.ค. 49 16:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ง่าน้ำแข็งยูนิตล่ะ ว้า เทโค้กรอแล้วอ่ะ ครับ จบยังอ่ะครับ นับถือน้ำใจ มากเปงผมน่ะ แหกดักตีห้วแล้ว จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 16:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เมียน้อยเค้าจะเจอชะตากรรมเดียวกับคุณพี่มั้ยคะเนี่ย...เหอ เหอ จากคุณ : pearlily - [ 2 ส.ค. 49 16:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 พอเลิกกันได้สัก 1 อาทิตย์ เราก็โทรไปลาญาติเขาที่เราสนิทมาก ๆ (อยู่มา 5 ปีนะ ก็ต้องสนิทบ้างแหละ) เขาก็เล่าให้ฟังว่า ม้าโทรไปบอกญาติ ๆ ว่าอย่าให้เรายืมเงินนะ ประมาณ 5 แสนบาท เพราะว่าแม่เราเล่นการพนัน เราจะไปใช้หนี้ให้แม่  เรางี้ จี๊ดเลยอ่ะ ทำไมยังมาใส่ร้ายอีกเนี่ย  แล้วเขาบอกว่าลูกเขาไม่ได้มีเมียใหม่นะ แต่ว่าที่เลิกกันน่ะเพราะว่าแม่เราเป็นหนี้เยอะ เขากลัวว่าลูกเขาต้องมาร่วมใช้หนี้แทนแม่เรา  เป็นงัยเนี่ย คนแก่ ไหงสะตรอได้ขนาดนี้  โห ม้าร้ายมากเลย ไม่น่าเชื่อ เรางี้น้ำตาไหลเลยนะ โห ยังไม่หมดค่ะ ยังไม่หมด แฟนเราไปบอกกับญาติ ๆ ว่าที่เลิกกันเนี่ย จับได้ค่ะว่าเราคบชู้ เขาจับได้ว่าเราเขียนจดหมายหาชู้ค่ะ (งงค่ะ ภูมิปัญญาด็อกเตอร์เนี่ย สมัยเนี้ยโลกสื่อสารแล้วนะ เน็ทก็มี MSN ก็มี ทำไมเราต้องใช้ส่งสารแบบยุคโบราณอีกเนี่ย) บอกเพื่อนเขาทุกคนว่าเรามีคนอื่น แต่ทุกวันเนี้ย ยังไม่มีใครเลยอ่ะ เลิกมาตั้งแต่มิ.ย. 2548 แล้วอ่ะ หลังจากนั้น ต้องมาโอนบ้านอีก ต้องมาเจอหน้าเขาอีกแล้วแหละ ไม่อยากมองเลยอ่ะ แม่เราก็ไปบอกเขาว่าขอโทรทัศน์กับตู้เย็นคืน (คือว่า ตู้เย็นบ้านเรามันเก่า เราก็ซื้อใหม่เปลี่ยนแล้วเอาของเก่ามาไว้บ้านแฟน  โทรทัศน์เราซื้อ 29 นิ้วให้แม่ แล้วเอา 21 นิ้วไปให้แฟนดูที่ออฟฟิศ) เขาก็บอกว่าจะเอาคืนให้ หายจ้อยค่ะ ไม่คืนค่ะ จนแม่ให้เราทวง เราก็ทวง เขาก็บอกว่าจะส่งให้แต่ตู้เย็นแล้วกัน ไอ้โทรทัศน์เนี่ยขี้เกียจไปเอาที่ออฟฟิศ เขาบอกว่าไม่กี่พัน จะเอาทำไม ซื้อใหม่สิ  เราก็เลยตอกไปว่าแล้วไม่กี่พัน แกจะมาเอาทำไม แกก็ไปซื้อใหม่สิ เขาก็เลยบอกว่างั้นให้เราไปขนเองละกัน เขาจะให้คนไปเปิดประตูให้ เราก็เลยบอกว่าดีแล้ว อย่ามาเองนะ เพราะฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าแกเช่นกัน ตกลงก็เลยได้ตู้เย็นกะโทรทัศน์คืนมาค่ะ เนี่ยค่ะ อดีตอันแสนขมขื่นกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีค่ะ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกนะคะ (ญาติเขาโทรมาเล่าให้ฟัง) ก็ดีใจค่ะ ที่หลุดจากครอบครัวแบบนี้ไปแล้วน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 15:36:50 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 16:33:13 จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ฟาดเคราะห์ เริ่มต้นชีวิตใหม่ จากคุณ : babyhoney - [ 2 ส.ค. 49 16:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดีแล้วครับ ผ่านไปแล้วจบ เริ่มต้นใหม่หาคนดีๆๆ สักคน ว่าแต่โค้กผมอ่ะใครแอบกินไป น้องหงส์ น้ำแข็งอ่ะได้ยัง โหให้เงินไปห้าร้อยได้ไส้กรอกอันเดียว จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 16:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สน จักรวรรดิ แถวบ้านเราเองเลยนะนี่ เหตุเกิดแถวบ้านเราเหรอ โหๆๆ  จขกท สู้ๆนะ คนบ้านเดียวกัน จากคุณ : ซามาร่า (ซามาร่า-ไม่เคยหลับ) - [ 2 ส.ค. 49 16:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หมดเวรหมดกรรมกันไป ก็ขอให้ชีวิตใหม่ไม่ต้องเจอกับคนอย่างนี้อีกครับ จากคุณ : kaneshiro - [ 2 ส.ค. 49 16:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริงๆค่ะ ไม่มีความละอายแก่ใจเลยแม้แต่น้อย น่าให้นุ่งกระโปรงดีนัก เป็นแมงดาไม่มีหัวคิด แถมยังชอบแต่งเรื่องเล่าให้คนอื่นฟังอย่างไม่อายปาก ไม่แปลกใจว่าทำไมเค้าเป็นคนแบบนี้ เพราะพ่อแม่เค้าเป็นแบบนี้นี่เอง เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ ที่หลุดพ้นบ่วงกรรมนั้นมาได้ ยังไงก็หมั่นทำบุญเยอะๆ อุทิศส่วนกุศลให้เค้าไป เผื่อผลบุญจะทำให้คุณไม่ต้องมาพบกับผูชายเ_วๆ แบบนี้อีก จากคุณ : Trippy - [ 2 ส.ค. 49 16:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เลวได้ใจมาก ทิ้งแล้วยังใส่ร้ายสารพัด คุณพ้นมาได้อ่ะดีแล้ว  แล้วคุณก็ดีมาก เป็นเรานะ  ขอตบหน้ามันซักทีสองทีเหอะ ตบให้สุดแรงเลย   เ ล ว ไม่มีที่ติเลย   การศึกษาไม่ช่วยทำให้จิตใจสูงขึ้นเลย จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 2 ส.ค. 49 16:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอให้คุณมีชีวิตใหม่ที่สดใสนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^_^ จากคุณ : puengrain - [ 2 ส.ค. 49 16:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เรามีประสบการณ์อย่างนี้ เรามาอ่านกระทู้ของคนอื่น ๆ ที่นี้แล้ว ก็เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันบ้าง บางคนเจอสามีเลวนะคะ แต่ครอบครัวสามีก็ดี แต่ทำไมเราเจอไม่ดีทั้งครอบครัวเลยก็ไม่รู้ค่ะ สงสัยเวรกรรมมีจริงนะ เราเองก็ผิดค่ะ ที่ไม่ตัดใจซะตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วน่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยังตกลงใจแต่งงานกับเขาอีกเนี่ย แต่ยังดีนะคะ ที่เขาเลิกก่อนที่จะได้ไปเมืองนอก คิดว่าถ้าเขาไปเมืองนอก ถ้าเงินหมดเนี่ย เราก็คงต้องขายรถส่งสามีเรียนด็อกต่อแหละค่ะ ดีด้วยที่ไม่มีลูก ไม่งั้น ไม่รู้ว่าใครจะเลี้ยงลูกเลย (เราแหง ๆ ) โชคดีสุด ๆ ที่เขาทิ้งเราตอนนี้นะ ซึ่งเรายังพอตั้งตัวได้ ยังทำงานเก็บเงินได้อีกหลายปีก่อนจะแก่ ไม่งั้นถ้าทิ้งเราตอนเราสัก 40 กว่า ๆ เนี่ย จะทำไงดีหละ ไม่รู้ตอนนั้นเงินเก็บถ้ามีอาจจะเป็นชื่อเขา เขาก็คงไม่ให้เราอยู่แล้วเนอะ ตอนนั้น ชีวิตคงมืดมนไปแน่ ๆ เลยนะคะ ตอนนี้ ชีวิตผ่านมาได้แล้วค่ะ เนื่องจากปีที่แล้ว ดิฉันก็ได้ทำบุญ ไปบวชชีพราหมณ์ทุกเทศกาลเลยค่ะ จนต้นปีนี้ก็ยังบวชอยู่ ทานมังสวิรัติ ถือศีลทุกวันพระด้วย แผ่ส่วนกุศลให้เขาค่ะ เผื่อกุศลที่ทำจะได้ทำให้หมดเวรกรรมกับเขาในทุก ๆ ชาติไปอีกค่ะ ยังไงขอขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่อ่านแล้วคิดว่าน่าจะไม่แต่งตั้งแต่ต้นนะคะ เข้าใจค่ะ แต่ว่าความรักนะคะ ไม่เข้าใครออกใครหรอกค่ะ แล้วถ้าคุณเชื่อเรื่องกรรม คุณก็ต้องรู้ว่าหนี้กรรมต้องชดใช้ค่ะ เลี่ยงไม่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าชดใช้หมดแล้ว ก็จะหลุดพ้นค่ะ ส่วนเขาและครอบครัวที่ทำอะไรกับดิฉันไว้ก้ช่างเขาค่ะ อันนี้นเป็นกรรมของเขาเอง ไม่ได้แช่งอะไรทั้งสิ้นค่ะ กรรมใดใครก่อกรรมนั้นก็รับไปเองแหละค่ะ   ดิฉันไม่ทราบด้วยว่าตอนนี้ครอบครัวเขาเป็นยังไง เพราะว่าญาติเขาจะเล่าอะไรอีก ดิฉันก็ไม่ฟังแล้วค่ะ บอกเธอว่าตัดขาดกันแล้ว ไม่อยากฟังอีก เขาจะเป็นตายร้ายดียังไง ก็ช่างเขาเถอะ ส่วนคุณภรรยาน้อยเนี่ย ใคร ๆ ก็ถามว่าสวยไหม สวยกว่าดิฉันไหม ทำงานอะไร เป็นอาจารย์ด้วยกันมั้ง ดิฉันก็บอกว่าไม่สนใจค่ะ ไม่อยากรู้ว่าสวยกว่าไหม ถ้าสวยกว่า เจ็บใจไหมคะ  และถ้าสวยน้อยกว่า เจ็บใจกว่าไหมคะ ดังนั้น ไม่อยากทราบค่ะ อ่านแล้วให้ถือเป็นประสบการณ์นะคะ สำรวจให้ดีก่อนนะคะว่าเจอครอบครัวมารอย่างครอบครัวอดีตสามีของดิฉันหรือไม่ (ถ้าแยกบ้านได้จะดีมาก ขอบอก ไม่งั้นไม่ได้ไล่ดิฉันออกจากบ้านแน่ ๆ) ไปละค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ และขอบคุณสำหรับทุก comment ค่ะ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ดีใจด้วยคับ  เริ่มชีวิตใหม่ คิดว่ามันเปนแมรงดาละกัน ทำบุญให้ จากคุณ : tiss - [ 2 ส.ค. 49 16:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สู้ๆๆ  ครับ จากคุณ : Mr.Ouddy - [ 2 ส.ค. 49 16:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อ่ะ แถมให้อีกรูปค่ะ หรืออยากดูหน้าอดีตสามีด้วยคะ จะขอหลังไมค์ก็ได้นะคะ ป.โท  -  ทรัพย์น้ำ ม.ส้มเขียวหวาน ป.เอก - ทรัพย์น้ำ ม.ดังแถวบางเขน เป็นอาจารย์สอนวิศวะ แหล่งน้ำ ม. แถวหนองแขม โห ถ้าเป็นเพื่อนใครเข้าเนี่ย อย่ามาฟ้องดิฉันนะ ก็มันเรื่องจริงอ่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 15:39:25 จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก......ไม่ได้อ่าน  มินิซีรี่ย์อย่างนี้นานแล้ว........น่าสงสารจัง,บ้านผู้ชายก้อทำซะติดมิเตอร์ไว้หน้าห้องด้วยโหน่าสงสารคุณจิงๆทนมาได้ตั้งนานเป็นกำลังใจให้นี่ก้อใกล้วันแม่แล้วเอามะลิให้แม่ดีกว่า จากคุณ : "ก้อมีแต่ใจให้ไปไม่คิดอะไร" (bangalow) - [ 2 ส.ค. 49 16:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านมานานครับจบสักทีสรุป ความคิดเห็นส่วนตัวครับ ผมเองก็แต่งงานแล้วยอมรับว่าไม่ใช่คนดีเท่าไร แต่สิ่งที่ผมรู้อยู่ตอนนี้ ผมรัก ภรรยาคนนี้มากๆ ยิ่งได้ดูหนังเรื่อง mygirl & i ทำให้รู้ว่าผมรักเค้าแค่ไหน แต่ไม่เคยบอกอ่ะมันเขินครับ ทำไรก็ได้ทีทำให้ภรรยามีความสุข แต่ก็มีบ้างอ่ะครับทะเลาะกัน แต่ ยอมอ่ะ ก็ดันไปรักเค้าแล้วนี่ จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล - [ 2 ส.ค. 49 16:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 81 โชคดีนะคะ!!!! จากคุณ : khoonchin - [ 2 ส.ค. 49 16:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาอ่านแล้วเครียดเลยคะ  แต่ถือว่าโชคดีที่คุณเจ้าของกระทู้หลุดจากคนไม่ดีพวกนั้นมาได้ ขอบคุณคะสำหรับเรื่องราวที่เอาไว้ให้คิดว่าให้ระวังตัว แต่เรื่องของแอนเองยังโชคดีที่แฟนเค้าเป็นคนดี(หวังว่าคงจะมองเค้าไม่ผิดนะคะ.....) จากคุณ : แอน - มามี๊โรดดี้ - [ 2 ส.ค. 49 16:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 83 โชคดีนะคะ!!!! จากคุณ : khoonchin - [ 2 ส.ค. 49 16:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ่านข้างบนๆ ก็จำใจแต่ง เราก็อยากได้เขา โดยไม่ได้มองอะไรนี่นา มันก็เลยไม่มีความผูกพันธ์เท่าไร ลางไม่ดีตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว น่าจะรอบคอบได้นิ...แต่ก็ดีใจด้วยที่ตัดสินใจได้ดี จากคุณ : ผ่านมา - [ 2 ส.ค. 49 16:51:49 A:124.121.61.141 X: TicketID:124114 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ยังดี ที่ญาติฝ่ายนั้นไม่เข้าใจผิด จะเกลียดกันก็อยู่แค่นี้สิ จะเอาให้คนอื่นเข้าใจเราผิดด้วยนี่ ทุเรศมากๆ พวกที่ทำแบบนี้เหมือนกับพวกไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเลว ไม่มีเกียรติ จากคุณ : หมีมุง .. หมูมิง - [ 2 ส.ค. 49 16:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 86 แล้วจะสแกนหนังสือสำคัญการหย่ามาให้ดูนะคะ พอดีวันนี้ไม่ได้เอามาจากบ้านค่ะ จากคุณ : pukkapaopla - [ 2 ส.ค. 49 16:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เราเข้าใจคุณเลยค่ะ เห็นภาพเลย พี่สาวเราเองโดนแบบนี้ร้ายกว่านี้อีก พี่สาวเรามีลูกด้วย ทุกวันนี้มันยังตามรังควานอยู่เลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้นะค่ะ จากคุณ : แวร์ซาย - [ 2 ส.ค. 49 16:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เฮ้อ! ชีวิต คนไม่มีมันก็อยากจะมีส่วนคนที่มีก็มีเลิกลากันไป จากคุณ : thekop10 - [ 2 ส.ค. 49 17:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อืม.... จากคุณ : โทรจัน - [ 2 ส.ค. 49 17:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 90 จากนี้ไปก็ขอให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆนะครับ จากคุณ : yai-cho - [ 2 ส.ค. 49 17:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 91 คนเลวๆ กรรมมันตามทันค่ะ อ่านแล้วโกรธแทนจริงๆ ถือซะว่าหมดเวรหมดกรรม ขอให้มีความสุขกับชีวิตใหม่นะคะ จากคุณ : น้องแกะย่าง - [ 2 ส.ค. 49 17:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อืมม จขกท เข้มแข็งดี สู้ๆค่ะ หลุดจากผู้ชายเลวๆได้ก็ดีแล้ว เริ่มต้นใหม่นะคะ จุ๊บ จุ๊บ จากคุณ : เคยเป็น...และ...อาจเป็นอยู่ - [ 2 ส.ค. 49 17:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ลืมบอกค่ะ อย่าลืมไปปัดรังควาน ล้างซวย นะค่ะ จากคุณ : แวร์ซาย - [ 2 ส.ค. 49 17:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โชคดีแล้วค่ะที่หลุดออกมาจากตรงนั้นได้ จากคุณ : *~Mayple Girl~* - [ 2 ส.ค. 49 17:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เฮ้ออ...ชีวิตยิ่งกว่าละคร จากคุณ : มะลินี (มะลินี) - [ 2 ส.ค. 49 17:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่น่าไปยุ่งกะมันตั้งแต่ มันให้ไปนอนห้องเดียวกับญาติฯ.....มันแล้ว? เขาไม่ให้เกรียติ ตั้งแต่ทีเเรกแล้ว.........?? จากคุณ : ก (dokaki) - [ 2 ส.ค. 49 17:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ดีใจด้วยค่ะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนทุกข์จนถึงวันนี้.... จากคุณ : ปรายปราง - [ 2 ส.ค. 49 17:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณ pukkapaopla ตัดสินใจได้ดีมากๆ ขอให้มีความสุขกับชีวิตที่เริ่มต้นใหม่นะคะ จากคุณ : Idle life - [ 2 ส.ค. 49 17:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สู้ ๆ ครับ คุณเข้มแข็งมากเลย สำหรับผู้ชายด้วยกันนี่บอกได้คำเดียวผู้ชายคนนั้นโคตรจะสาระเลว จากคุณ : DraGo - [ 2 ส.ค. 49 18:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ตั้งแต่นี้ไปขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ นะครับ เห็นรูปของที่ขนมาแล้วหดหู่มากๆ ครับ คุณเข้มแข็งกว่าผมอีกครับ จากคุณ : เก่งแต่ฟิสิกส์ - [ 2 ส.ค. 49 18:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 101 คุณจขกท.โชคดีมากเลยค่ะที่รอดจากวิกฤตเลวร้ายมาได้ จากคุณ : angkaloong - [ 2 ส.ค. 49 18:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ยินดีด้วยที่หลุดพ้นมาได้ถึงจะใช้เวลานานก็ตาม อยู่กับคนพรรค์นี้มีแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำและแย่ลง ขอให้พี่พบเจอแต่สิ่งดี ๆ นะคะ เวลาจะรักใครก็รักด้วยสติ อย่ารักเพราะอารมณ์นะคะ จากคุณ : ขอให้มีความสุขตลอดไปนะ - [ 2 ส.ค. 49 18:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ ^ จากคุณ : ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ - [ 2 ส.ค. 49 19:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ลืมสิ่งร้ายๆซะ แล้วยิ้มรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิตนะคะ จากคุณ : สาวแก่บ้านนอก - [ 2 ส.ค. 49 19:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณนะคะ ที่มาเล่าให้อ่าน ต่อไปขอให้คุณพบแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะคะ จากคุณ : ปลาสีแสด - [ 2 ส.ค. 49 19:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ...เป็นกำลังใจให้นะครับ....หลังพายุฝน...ฟ้าจะแจ่มใสเสมอครับ... จากคุณ : หมี่สดล้วน - [ 2 ส.ค. 49 20:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เย้...จบแล้ว ... พ้น ๆ มันไปเสียทีเนอะ... แหม... น่าจะแจ้งตำรวจเรื่องม้าหมิ่นประมาทใส่ร้ายแม่คุณนะ.. คนอะไรฟระ... เลวได้ที่จริงๆ (ทั้งครอบครัวเลย).. เฮ้อ... เอาเถอะ..พ้นมาแล้วนี่นา... ทำบุญเยอะ ๆ นะ... จะได้ไม่ต้องเจอคนแบบนี้อีก... เย้ เย้.. @^____^@ จากคุณ : มารุจัง - [ 2 ส.ค. 49 21:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ดีใจด้วยค่ะ ที่หลุดพ้นมันมาได้ ที่เสียๆไปแล้วก็คิดว่าทำบุญให้มันไปล่ะกัน สู้ต่อไป อิอิ จากคุณ : ohhioh - [ 2 ส.ค. 49 21:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 109 โชคดีนะค่ะไม่มีลูก ดีใจด้วยนะค่ะ ที่หลุดพ้นจากนรก จากคุณ : ปิซ่า - [ 2 ส.ค. 49 21:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อ่านหมดแล้ว ติดใจหมอดูคนนั้นมากเลยครับ แม่นจริงๆ จากคุณ : ขุนมิได้สึก - [ 2 ส.ค. 49 21:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 111 สุดยอดค่ะ จากคุณ : MaRiMeKKo - [ 2 ส.ค. 49 21:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ดีใจด้วยนะคะ ที่เลิกมาได้ เราเองก้อมีปัญหากับสามี หนักพอกัน ยังไม่รู้จะทำไงเลย เพราะลูกเราเล็กมาก เลี้ยงน่ะเราเลี้ยงได้จ้างคนมาเลี้ยง แต่เค้าไม่ยอมนี่ซิ เค้าก้ออ้างว่าลูกเค้าเหมือนกัน เค้าไม่ไว้ใจให้คนอื่นเลี้ยง เราก้อไม่รู้จะทำไง พ่อแม่เราก้อเสียไปนานแล้ว สรุปก้อต้องให้ทางเค้าเลี้ยงกัน ส่วนเราก้อไม่อยากจะจากลูกไปไหน อยากเห็นหน้าลูกทุกวัน งานเราก้อต้องทำ เพราะเค้าก้อเลี้ยงเราไม่ได้ ให้เงินเราไม่ได้ เพราะมีภาระภรรยาเก่า ลูกเก่า ซึ่งหนักมาก ภรรยาเก่าเป็นโรคร้ายอีกต่างหาก อืมมม ผู้หญิงสมัยนี้ก้อเก่งๆ กันทั้งนั้นแหละเนอะ คิดอีกทีไม่รู้จะมีสามีไปทำไมเนี่ย แต่มันก้อคิดช้าไปซะแล้ว สรุปเคสเราเค้าทำได้แค่เป็นพ่อของลูกเองนะ เราน่ะผิดเองทีไปเลือกเค้า สามีเราก้อมีคุณสมบัติไม่ต่างไปจากอดีตสามีคุณเลย ลูกจีน ตี๋ ขาว, ตรี โทวิศวะ ม.ก้อไม่อยากจะบอกเลยว่ามีใน list ของคุณ ส่วนเราก้อไม่ได้น้อยหน้าเค้าหรอก แต่การศึกษาที่ดี บางทีมันก้อไม่ได้ช่วยอะไรเลย ดีนะที่คุณยังไม่โดนทำร้าย เราน่ะโดน อยู่ต่อไปเนี่ยเราอาจจะตายได้ จากใจจริง... ขอให้คุณมีความสุขมากๆนะคะ ทำงาน ช๊อปปิ้ง เที่ยวให้สบายใจไปเลย ไปดูต้นไม้ใบหญ้า ศึกษาศาสนา ลองฝึกปฏิบัติธรรม (เนี่ยมันคืออดีตที่แสนหวานของเรานะเนี่ย เราชอบไปโน่นไปนี่) แล้ววันนึงเค้าจะรู้สึกผิด เค้าจะผิดหวัง เค้าจะเสียใจ ทีเลิกกับคนดีๆอย่างคุณ สมน้ำหน้าเค้าเนอะ จากคุณ : PINKSNOW - [ 2 ส.ค. 49 21:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ดีใจด้วยจริงๆครับ เพราะว่าคุณจะเจอความสุขแน่นอนครับ ผมหายอึดอัดเลยเพราะอ่านแล้วผมอึดอัดจริงๆ ปล.ขอให้ชีวิตคุณเจอสิ่งดีๆแล้วมีความสุขมากๆครับ จากคุณ : MySql - [ 2 ส.ค. 49 22:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เลวได้ใจจังเลยคะ ดีใจด้วยคะ ที่ออกมาจากบ้านนั้นได้ ต่อไปขอให้จขกท.มีแต่เรื่องดีๆในชีวิตนะคะ จากคุณ : ชอง อึน - [ 2 ส.ค. 49 22:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 115 นับถือ จขกท. กล้าเล่า ผมก็มีเรื่องเศร้า ยังไม่กล้าเล่าเลย จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 2 ส.ค. 49 22:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 116 คนอย่างนี้ก็มีด้วย... จากคุณ : wb_kate - [ 2 ส.ค. 49 22:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ร้ายทั้งครอบครัวเลยนะ  แย่จริงๆ  แถมเค็มสุดๆโชคไม่ดีเลยอ่ะ  น่ากลัวจังค่ะ จากคุณ : paine - [ 2 ส.ค. 49 22:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ดีใจด้วยนะคะ ที่หลุดจากคนเลวๆ แบบนั้นได้ บุญของเราค่ะ จากคุณ : อาซิ่ม - [ 2 ส.ค. 49 23:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องราวต่าง ๆ เป็นสิ่งสอนใจได้อย่างดีเลย คนเลว ๆ ในสังคมนี้มันมีเยอะจริง ๆ จากคุณ : Meif - [ 2 ส.ค. 49 23:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 120 อ่านแล้ว ไม่อยากแต่งเลยวุ้ย หวังว่าแฟนเราจะไม่เป็นอย่างนี้นะ จากคุณ : ด้วยรักและปลาทู - [ 2 ส.ค. 49 23:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ผมว่าหน้าจะบอกมันว่าอย่าไปเรียนด็อกเตอร์เลย ไปเป็นควายดีกว่า จากคุณ : pop (boondin) - [ 3 ส.ค. 49 00:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 122 แย่ทั้งครอบครัวเลยอ่ะ ดีแล้วที่ไม่มีลูกด้วยกันอ่ะ จะได้ไม่ต้องมีเชื้อคนแบบนั้น จากคุณ : ไม่กินถั่วงอก - [ 3 ส.ค. 49 01:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ยินดีด้วยค่ะ ที่หลุดจากนรกได้นะค่ะ ผู้ชายคนนี้เลวมาก น่ากระทีบให้จมดินเลย เวง จากคุณ : แมวพะโล้ (inosun) - [ 3 ส.ค. 49 01:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอยกย่องคนที่เป็นป้า กับม้า ในเรื่อง เลี้ยงลูกให้ไปไกลถึงด๊อกเิตอร์ และชั่วได้ใจ จริงๆ . จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 3 ส.ค. 49 01:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ยินดีกับคุณจขกท.ด้วยนะครับ อย่างที่คุณว่าแหละครับ ดีที่สุดแล้วที่คุณยังไม่มีลูกด้วยกัน ผมเชื่อว่ากรรมใดก่อกรรมนั้นย่อมสนองผู้นั้น แม้ผมจะเห็นว่าคุณน่าจะหลีกเลี่ยงกรรมนี้ได้โดยการไม่แต่งงาน เพราะเค้าคง "ไม่เคยรัก" คุณตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ผมก็ขอชื่นชมคุณจริงๆครับที่ยังคงให้อภัย "และแผ่ส่วนบุญไปให้เค้าอีก" จากนี้ไปก็ขอให้โชคดีตลอดไปนะครับ //yellowroe จากคุณ : Top27 - [ 3 ส.ค. 49 04:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 126 อยากเอากะทู้นี้ให้ ว่าที่ Dogเตอร์ อ่านจังครับ  Dog เตอร์ Dog เตอร์ Dog เตอร์ Dog เตอร์ จากคุณ : 20somethings - [ 3 ส.ค. 49 04:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ผู้ชายเฮง ซวย แบบนี้ ไปเป็นครูบาอาจารย์ได้อย่างไรคะนี่ พ่อกะแม่ฝ่ายชายเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ที่ไหนเนี่ย ทำไมจึงเข้าข้างลูกชาย โดนลูกชายจูงจมูกเอาเสียปานนั้น คุณน่าจะเขียนเรื่องนี้แล้วเอาไปแปะหน้าบ้านเขานะคะ เอามันทั้งหน้าบ้านและที่ทำงาน พ่อและแม่ฝ่ายชายจะได้ตาสว่างว่าลูกเขาเป็นอย่างไร และคุณจะได้ไม่เสื่อมเสียต่อหน้าคนอื่นๆอีก ถ้าเกิดเป็นผู้ชาย มีเมียแล้วเลี้ยงเมียไม่ได้ก็อย่าเบียดเบียนกันสิคะ ฟังเรื่องคุณแล้วนี่อยากตอกอะไรกลับไปบ้างเสียจริง ไม่ต้องหันหลังกลับไปมองแล้วค่ะ ลาขาดไปเลยดีกว่าค่ะ ผู้ชายเลวๆ แบบนี้ เรื่องความเค็ม ของบ้านเขานี่สุดยอดจริงๆค่ะ เพิ่งเคยเห็นบ้านแรกนี่แหล่ะค่ะ ส่วนเรื่องเครื่องดูดฝุ่นไม่น่าให้เขาเลยนะคะ ถ้าจะหน้าด้านจะเอาขนาดนั้นก็ให้มันรู้ไปสิคะว่าใครจ่ายเงิน ยังจะหน้าด้านไปอีกนานไหม น่าจะเอารูปมาประจานเสียเลย (อ่า ผิดกฏหมายไหมคะ? ใครรู้วานบอกหน่อย) เอาแบบคาดแถบดำอะไรแบบนี้ จากคุณ : just.a.girl (just.a.girl) - [ 3 ส.ค. 49 06:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 128 นิทานสอนหญิงเลยครับ ถ้าผู้ชายมาบอกเลิกก่อนแต่งก็ไม่ควรไปยื้อ สันดานคนน่ะแก้ยาก อย่างน้อยเราก็ได้ค่าสินสอดมาใช้ และก็พลาดมากๆด้วยที่ไม่จดทะเบียน จากคุณ : Tales of - [ 3 ส.ค. 49 08:30:16 A:125.24.88.47 X: TicketID:122996 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ยินดีด้วยค่ะที่พ้นมาได้ ประสบการณ์นี้คงทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น โชคดีค่ะ จากคุณ : ม่ายค่ะ - [ 3 ส.ค. 49 09:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เอาเงินมาดูแลครอบครัว เรา ดีกว่านะคะ คุณพ่อคุณแม่เรา แนะนำว่า ไปเที่ยวสักพัก พักผ่อนสมอง ที่ไหนก็ได้ ตจว ไกลๆหน่อย  ต่างประเทศ ใกล้ๆ ก็ได้  ต้องไปล้างใจสักหน่อยค่ะ จากคุณ : babyhoney - [ 3 ส.ค. 49 09:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 131 จขกท. มาตอบแล้วค่ะ ขอบคุณทุก ๆ comment นะคะ อ้อ มีหลังไมค์มาให้กำลังใจและขอรูปเพียบเลยอ่ะ เดี๋ยวจัดให้ค่ะ   คุณ Tale of คะ เข้าใจผิดนะคะที่บอกว่าได้ใช้เงินสินสอดน่ะค่ะ หมดตั้งแต่งานแต่งไงคะ ค่าจัดงาน ค่าถ่ายรูปในงาน ค่าหนี้บอล ค่าฮันนี้มุน จะเหลืออะไรคะ ได้สินสอดมาแสนเดียวนี่นะ ที่ได้มาจริง ๆ น่ะ ทองค่ะ 2 บาท 50 สตางค์ และตุ้มหูเพชรรับไหว้ราคา 2 หมื่นมา 1 คู่ค่ะ นอกนั้นเสื้อผ้า ข้าวของของดิฉันทั้งนั้นค่ะ ไม่มีเงินหรือทรัพย์สินอื่น ๆ เลยนะคะ คุณ pinsnow คะ ได้อ่านเรื่องของคุณแล้วนะคะ ยังไงขอให้กำลังใจค่ะ ขอให้ผ่านคืนวันอันเลวร้ายให้ได้นะคะ เราต้องสู้ค่ะ ไม่อย่างงั้นเราจะถูกเหยียบค่ะ อ้อ ที่แฟนดิฉันไม่กล้าทำร้ายดิฉันน่ะค่ะ ดิฉันสู้ค่ะ เคยทะเลาะกันดิฉันทั้งตบ ทั้งชกค่ะ กะว่าถ้าเขาทำร้ายดิฉันแรง ๆ ดิฉันก็จะจิ้มพุงเขาสักหลายแผลค่ะ เพราะฉะนั้นเขากลัวดิฉันทำร้ายเขาคะ ทราบไหมคะตั้งแต่เกิดเรื่อง เขาไม่เคยกล้าเข้าใกล้ดิฉันเลยค่ะ คงกลัวดิฉันทำร้ายเขาน่ะสิ อยากทำเหมือนกันค่ะ แต่มาคิดได้ว่าถ้ามันไม่ตาย แต่เราติดคุกนี่ ใครจะลำบากกว่ากัน ก็เลยไม่เอาค่ะ คิดว่าให้กรรมตามมันเองดีกว่าค่ะ อ้อ นึกพฤติกรรมได้อีก 3 เรื่อง คือ 1.  ตอนที่เก็บของที่บ้านเขานะคะ เขาถามถึงสมุดเงินฝากค่ะ เมื่อตอนที่แต่งงานกันต้องเปิดบัญชีคู่ค่ะ เพราะมีผู้ใหญ่บางท่านให้เป็นเช็คมาค่ะ คราวนีดิฉันบอกให้พนักงานทำเป็นแบบใครถอนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถอนทั้งคู่ (สมุดอยู่กับดิฉัน เพราะฉะนั้นดิฉันก็ถอนได้คนเดียว) เขาก็มาถามว่าสมุดอยู่ไหน มีเงินเท่าไร  ดิฉันก็บอกว่าดิฉันถอนไปแล้ว เขาบอกว่าถอนได้ยังไง ดิฉันก็บอกว่าทำไมถอนไม่ได้ มีอยู่ 4 พันเท่านั้นแหละ แล้วเอาไปจ่ายค่าทนายแล้วไง ไม่อย่างงั้นจะเอาอะไรไปสู้กับคุณล่ะ เขาก็เลยอึ้ง ๆ ไปค่ะ 2.  ตอนที่เขาบอกว่าดิฉันมีคนอื่นน่ะ โดยจับได้เพราะดิฉันเขียนจดหมายน่ะค่ะ เขาบอกว่าเขาเจอถุงยางเจาะรูด้วย เขาเลยขอเลิกเพราะไม่รู้ว่าจะต้องรับเป็นพ่อให้ลูกคนอื่นหรือเปล่า อันนี้ ขออธิบายนะคะ คือว่าตอนหลัง ๆ ที่จะเลิก หลังสงกรานต์ที่เขาไม่ค่อยกลับบ้านน่ะค่ะ และเขาบอกว่าเขาใกล้จะไปตปท. แล้ว ดิฉันก็กลัวว่าเขาจะไปนาน แล้วไม่แน่ใจว่าจะกลัยมาคนเดียวหรือไม่ กลัวเหมือนกัน ก็เลยอยากมีลูก อย่างน้อย ครอบครัวเขาก็คงไม่น่าจะ ไม่ดูดำดูดีกับหลานหรอก (ลองเชื่อใจดู) ก็เลยอยากมีลูก จะทำยังไงล่ะทีนี้ เพราะว่าเวลาคุมเขาจะใส่ถุงยางอนามัยค่ะ เพราะว่าดิฉันแพ้ยาคุม ทานไม่ได้เลย แล้วดิฉันจะท้องยังไงล่ะเนี่ย ดิฉันก็เลยแอบไปซื้อถุงยางแล้วเจาะไว้ เวลาใช้ (มันปิดไฟอ่ะ) เขาก็ไม่รู้ไงคะ  คราวนี้เมื่อตอนที่เขาเก็บของให้ดิฉันเนี่ย เขาก็ไปเจอเข้า ก็เลยปรักปรำใหญ่เลย แต่ดิฉันขอถามทุกคนนะคะว่าถ้าดิฉันมีคนอื่นเนี่ย ดิฉันจะเจาะถุงยางทำไมอ่ะ ยังไงถ้าท้อง เขาเป็นสามีดิฉันอยู่นะ ตอนนั้นน่ะ เขาก็ต้องเป็นพ่อเด็กอยู่แล้ว แล้วถ้าไม่เชื่อ สมัยนี้ก็ตรวจดีเอ็นเอได้นี่ค่ะ แล้วที่เจาะถุงยางน่ะ เพราะอยากมีลูกนะคะ และถ้าท้องกับคนอื่นไม่ใช่ท้องกับเขา ดิฉันจะต้องไปเจาะถุงยางเขาทำไมล่ะ ยังไงเขาก็ต้องเป็นพ่ออ่ะ งงมากเลย ตกลงว่าดิฉันโง่หรือว่าเขาฉลาดคะ ช่วยตอบทีเถอะค่ะ 3.  มาถึงเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวค่ะ ที่บ้านเขาอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ คราวนี้จะมีที่ให้ออกไปนั่งกินลมชมวิวข้างนอก เราก็ตกลงซื้อเก้าอี้ปีกไม้มานั่งเล่นกันค่ะ ตอนซื้อเนี่ย ประมาณสัก 3 พันกว่า ๆ ค่ะ แม่เขาเห็นว่าเราออกค่าอะไรเยอะแล้ว ก็เลยไปบอกพี่สาวเขาให้ช่วยออกค่าเก้าอี้ค่ะ เธอตอบว่าไงรู้ไหมคะ (ยืนอยู่ข้างหลังเธอค่ะ เธอไม่เห็นดิฉันค่ะ) เธอตอบว่าเขาซื้อมากันเอง ก็ให้เขาจ่ายเองสิ ทำไมต้องไปจ่ายให้เขาล่ะ  นี่เธอตอบอย่างนี้ค่ะ เจ็บใจไม่เท่าไรหรอก แต่ต่อมาเจ็บใจกว่านี้เพราะว่าหลังจากนั้นเธอไปซื้อร่มค่ะ ร่มผ้าป่านสีขาว ๆ น่ะค่ะ ที่กางแถวชายทะเลน่ะค่ะ เธอมากางตอนที่เธอออกไปนั่งบนเก้าอี้ของเราค่ะ พอเธอไม่นั่งเธอก็เก็บร่มเธอไปนะคะ เธอไม่เคยชวนสักคำว่าให้เราใช้ร่มของเธอได้ เป็นไงคะ เงินค่าเก้าอี้ไม่ออก แถมยังเอาร่มมากางอีก เจ็บใจไหมคะ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 15:45:21 จากคุณ : pukkapaopla - [ 3 ส.ค. 49 09:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ช่วยด้วยค่ะ ฟีดแบคของการมาเล่าอดีตอันขมขื่นจากคนที่ได้ชื่อว่าสามี จากคุณ : pukkapaopla - [ 3 ส.ค. 49 10:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ถ้าจริงแล้วคนเลวขนาดนี้เป็นอาจารย์ ผมว่ามันไม่คู่ควรกับหน้าที่จริงๆ จากคุณ : nut0123 - [ 3 ส.ค. 49 10:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ฮืมมม   ผู้ชายคนนี้เลวกว่าหมาจิงๆๆ   โอ้ Dogเตอร์   Dogเตอร์   Dogเตอร์ จากคุณ : LadyYuna - [ 3 ส.ค. 49 10:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 135 อ่านจนตาลาย คิดว่าตั้งแต่ต้น คุณพลาดเองนะ เพราะเค้าก็ไม่อยากแต่งตั้งแต่แรกแล้วไง อันนี้ไม่ได้ซ้ำเติมนะ แต่มันคล้ายๆเป็นลางบอกเหตุบางอย่างอยู่แล้วแหละ ว่าแต่งไปแล้วไม่แคล้วเจอปัญหา จากคุณ : ซกเฮี้ยง - [ 3 ส.ค. 49 11:39:38 A:202.183.215.219 X: TicketID:073171 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เรารู้ความรู้สึกคุณค่ะ เราไม่อยากมาย้ำอดีตคุณ แต่คุณหลุดมาได้เนี่ยก็เป็นบุญแล้วละคะ เราขอให้คุณเจอคนที่เขารักคุณดีกว่าค่ะ จากคุณ : จ๋า (iamwuthipreecha) - [ 3 ส.ค. 49 13:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 137 อ่านแล้วรู้สึก "ยินดี" ที่คุณเป็นอิสระจากครอบครัวนี้นะคะ ถือว่าใช้กรรมให้เขาก็ละกัน ขอให้คุณเข้มแข็งนะคะ!! จากคุณ : Clever Katz (Clever Katz) - [ 3 ส.ค. 49 15:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ฝากบอกสามีเก่าคุณด้วยนะค่ะว่า  ของที่เอาไปนะ ฝากทำบุญด้วย เค้าจะได้ไม่กล้าใช้ 555 จากคุณ : vedas - [ 3 ส.ค. 49 16:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ต่อไปก็ขอให้เจอแต่สิ่งดีงามนะคะ  แล้วอยากให้ใช้เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนนะคะ จะว่าไปคุณเป็นฝ่ายตื้อเค้าเองทั้งหมดนะคะ ตั้งแต่เรื่องแต่งงานแล้ว  แต่ก็เอาเหอะ  ผ่านแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ  เริ่มใหม่ยังไม่สายคะ สู้ ๆ ๆๆๆๆ นะคะ จากคุณ : kungkaew - [ 3 ส.ค. 49 18:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 140 อ่านแล้วคิดตาม จะแต่งงานต้องให้รอบคอบ เช็คภูมิหลังกันชัวร์ๆเลยดีกว่า ... สู้ๆนะคะ จากคุณ : Extremely Chocolate - [ 3 ส.ค. 49 22:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 141 อืม ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆเลยค่ะ จริงอย่างที่มีคนบอกไว้ว่าเลิกกันแล้วก็เป็นคนอื่น ... (น่ากลัวจังค่ะ) จากคุณ : แกงส้มผักบุ้ง - [ 4 ส.ค. 49 00:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 142 #131 ผมบอกแล้วงัย ให้สรรเสริญ ป้ากับม้า สุดยอดกุนซือ จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 5 ส.ค. 49 03:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 143 อยากถามว่า!...ดูหมอดูที่ไหนค่ะ แม่นจัง พอดีว่าช่วงนี้มีเรื่องกลุ้มใจอยู่ ไม่ได้เชื่อมากหรอกค่ะ แต่ชอบดู ก็เชื่อในส่วนที่ทำให้เราสบายใจ จากคุณ : ตาปลา - [ 6 ส.ค. 49 08:18:54 A:221.128.109.178 X: TicketID:124829 ]

ความคิดเห็นที่ 144 พูดไม่ออกเลยค่ะ ยิ่งเห็นภาพข้าวของที่กองอยู่หลังรถแบบนั้น เฮ้อ..นึกเสียว่าหมดกรรมแล้วก็แล้วกันนะคะ ขืนอยู่ต่อไปก็คงไม่ต่างอะไรกับอยู่ในนรกเลยนะคะ ส่งกำลังใจมาให้ด้วยค่ะ จากคุณ : เห็นใจมากมาย (BePride) - [ 7 ส.ค. 49 12:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 145 อยากเห็นหน้ามากเลยอยากรู้ว่าจะใช่คนที่เราเจอตอนนี้รึเปล่า...ขอรูปได้มั้ยคะส่งมาที่ fogus29@hotmail.com จากคุณ : fogus - [ 20 ส.ค. 49 10:12:54 A:202.28.124.35 X: TicketID:125774 ]