ความคิดเห็นที่ 31
ช่วงออกเชียร์นั้นเป็นช่วงสิงหา 43 การเรียนทั่วไปก้ไม่มีปัญหาอะไรมาก ฉันยังหวังว่าจะพยายามคว้าเกียรตินิยมอันดับสองให้ได้ แต่วิชาในคณะนั้นมันค่อนข้างยากสำหรับฉัน เพราะฉันไม่ค่อยมีพื้นฐานทางนี้เท่าไหร่ วาดรูปก็ไม่เก่ง มันก็ยังดันมีวิชาที่ต้องวาดๆๆๆทุกวิชาเลยสิเนี่ย ทั้ง drawing, องค์ประกอบศิลป์, โฆษณา, ศิลปะการสื่อความหมาย, และเปอร์สเปคทีฟ ที่ไม่ได้ A เลยซักตัว
วิชาองค์ประกอบศิลป์นั้นเป็นวิชาที่ไม่จำกัดเทคนิคและขนาดของงาน จึงทำให้ส่วนใหญ่ก็จะสร้างงานที่อลังการไป พรีเซนท์อาจารย์ ยิ่งพวกจิตกามนี่มันยกไม้อัดแผ่นใหญ่สุดๆมากันซะ โหหห อะไรจะขนาดนั้นฟะ ส่วนของนิเทศก็ จะประมาณ A0 ก็พอแล้ว (หนังสือพิมพ์กางออกนี่คือ size A1 ส่วน A0 ก็คือใหญ่เป็น 2 เท่าของหนังสือพิมพ์) แต่หอในที่ฉันและเพื่อนๆอยู่นี่ไม่ค่อยอำนวยในการทำงานเลยค่ะ
เพื่อนบางคนก็ไปทำที่คณะ แต่ฉันไม่ค่อยชอบ เพราะมันมักจะมาออกความเห็นโน่นนี่อยู่เสมอทำให้งานของเรา เหมือนโดนวิจารณ์ก่อนจะส่งซะอีก แล้วคณะก็อยู่ไกลหอฉันด้วย ขี้เกียจหอบหิ้วอุปกรณ์ไปมาค่ะ เลยคุยกับไอ้หมิง และไอ้ขวัญ (ในตอนแรกจะสนิทกัน 3 คน) ว่าฉันจะหาหอนอกอยู่เอาไว้ทำงาน มันสองคนจะหารด้วยหรือปล่าว มันก็โอเค
ฉันย้ายออกมาอยู่ประจำ แต่พวกมันจะมาอาศัยกาง A0 ทำงาน และมาค้างด้วยเป็นบางครั้งเท่านั้น ฉันจึงไปหาเช่าห้องเล็กๆแถวหลังมออยู่
จริงๆแล้วฉันก็เตรียมไว้เผื่อพี่กิ๊ฟมานั่นแหละค่ะ แต่ยังไม่บอกทางบ้านว่าจะออกมาอยู่ข้างนอกได้เพราะมันดูไม่ จำเป็นเท่าไหร่ จะอ้างอารมณ์ติสท์รักสันโดษ พ่อแม่ก็คงไม่เข้าใจ เลยต้องอุบไว้แล้วก็ประหยัดให้มากขึ้นเพื่อเก็บ เป็นค่าหอ
ฉันได้ห้องราคา 1500 เป็นห้องเล็กๆที่อยู่ในบริเวณบ้านของเจ้าของหอ มีทั้งหมดแค่ 5 ห้อง ดูแล้วก็พออยู่ได้ค่ะ แถมยังใกล้ศูนย์อาหาร u-center และตลาดเจ้พรอีก สะดวกดีค่ะ หารสามก็ตกคนละ 500 แต่ฉันบอกว่าฉันจะจ่ายมากกว่าเพราะอยู่ประจำ มันบอกไม่เป้นไร ฉันจึงขอเป็นคนจ่ายค่าน้ำค่าไฟเองคนเดียวแล้วกัน (มันก็ต้องเป็นฉันจ่ายอยู่แล้วนี่นา)
ในที่สุดพวกเราสามคนก็มีแหล่งส่องสุมเป็นของตัวเอง บางครั้งก้จะมีเพื่อนคนอื่นมาแจมๆด้วย สนุกดีค่ะ ฉันมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อก้อย เป็นทอมสไตล์เดียวกันกับฉันเลยค่ะ แต่มันอยู่หอไฮโซ 26 ดีอยู่แล้ว มันก็มาเล่นด้วยเป็นบางทีเท่านั้น เพราะมันติดเพื่อนคณะอื่นมากกว่า (มาจาก รร.เดียวกัน) ไอ้ก้อยนะไอ้ก้อย......
และแล้วพี่กิ๊ฟก้มาอยู่กับฉันโดยถาวรค่ะ พี่กิ๊ฟบอกว่าเฮียไปติดผู้หญิงอื่นทั้งๆที่เงินเลี้ยงลูกก็แทบจะไม่มี แล้วก็ยังไม่ยอมให้พี่กิ๊ฟไปทำงานช่วยหาตังค์อีก พี่กิ๊ฟพูดกับแม่แกแล้วว่ามันไม่ไหวจริงๆ เลยต้องฝากลูกไว้กับแม่แล้วตัวเองก้จะมาหางานทำที่นี่ แต่ก็ต้องโกหกแม่ว่าอยู่กับเพื่อนคนอื่น ไม่งั้นมีวีนอีกแน่ๆ
เมื่อพี่กิ๊ฟมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ทำงานอะไรค่ะ เป็นลูกน้องคนอื่นคุณเธอก็ไม่ทำค่ะ อยากเป็นผู้จัดการ(ไม่ดูวุฒิตัวเองเล้ยย) หรือเจ้าของกิจการ (อันนี้ไม่ต้องวุฒิแต่ใช้เงินทุน ซึ่งคุณเธอก็ไม่มีทั้งสองอย่าง) ฉันก็ตามใจค่ะ ก็บอกไปว่าฉันได้ตังค์แค่เดือนละสามพันเองนะ ทางบ้านไม่รู้ว่าออกมาอยู่หอนอกแล้ว ค่าใช้จ่ายก็ต้องเยอะขึ้น แต่ฉันมีอยู่แค่นี้แหละ
พี่กิ๊ฟเค้าบอกว่าพอมีตังค์เก็บอยู่หลายพัน คงอยู่ได้หลายเดือน ช่วงนี้ก้หางานทำไปเรื่อยๆ คงจะได้ที่ถูกใจซักที่ เรื่องอื่นก็แล้วแต่แกแล้วกัน ขอให้ฉันแค่อย่างเดียวก็พอ หุๆๆ(อยู่ใกล้พี่กิ๊ฟแล้วออกแนวกามทู้กทีเลยเนอะ)
พี่กิ๊ฟดูท่าทางเค้ามีความสุขที่ได้ทำเหมือนเป็นนักศึกษาคนนึงที่แต่งตัวไปเรียนที่คณะอื่นกับฉัน บางวันก็ไปนั่งรอ ที่คณะ จนรุ่นพี่ปล่อยงูออกมาแข่งกันเลยเชียว พอพี่กิ๊ฟบอกว่าเป็นแฟนฉันเท่านั้นแหละ ม่ายมีใครเชื่อเลยอ่ะ ทั้งอีพี่นายกสโมฯที่มาม่อฉันไว้ แล้วมาม่อพี่กิ๊ฟไว้ด้วย อึ้งรับทานไปเลยค่ะ
แรกๆก็มีแต่คนที่ไม่เชื่อค่ะ พอไม่เชื่อพี่กิ๊ฟก็แสดงให้ดู ทั้งกอดทั้งหอมฉันต่อหน้าคนอื่นๆ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ฉันก็อายค่ะ นี่มันสถานศึกษานา..ไม่เชื่อก็ช่างเค้าเหอะ
แต่พอพี่แกมาบ่อยๆเค้าก็ชินตาและเชื่อไปเองแหละค่ะ แต่ก็มีรุ่นพี่บางคนรวมทั้งอาจารย์บางคนบ่อยั่นค่ะ พยายามจะแสดงให้เห็นว่าผู้ชายยังไงก็เหนือกว่าทอมวันยังค่ำ...เป็นธรรมดาของผู้ชายแหละน๊าาาา แต่เคสนี้พี่กิ๊ฟเลือกฉันอยู่แล้ว
พอตอนเย็นฉันก็ออกไปนั่งร้านนมตามประสาเด็กปีหนึ่ง ร้านข้างๆเป็นร้านเหล้า พวกผู้ชายที่อยู่ร้านเหล้า พอเห็นพี่กิ๊ฟก็เกิดอาการหน้าม่อตามัว ต่อคิวกันมาจีบจัง พี่กิ๊ฟนี่ก็หลอกรับประทานไปซะ บอกว่าฉันเป็นน้องสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เพราะไม่หึงพี่กิ๊ฟกับผู้ชายอยู่แล้ว เค้าอยากทำไรก็ทำไป แต่อย่าให้มันเกินไปมาก พวกผู้ชายก็เสนอเลี้ยงนมและเลี้ยงเหล้าต่อถ้าไปนั่งกับพวกเค้า พี่กิ๊ฟก็ไปค่ะ คือฉันเองรู้มาก่อนอยู่แล้วว่าแกเป็นพวกชอบหลอกแ..ดกผู้ชาย เลยเฉยๆ
เวลาพี่แกไปกินกับคนโน้นคนนี้ฉันก็ไปด้วย แต่ไม่ได้กินด้วยหรอกค่ะ ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร ไปนั่งเป็นไม้กันหมาเฉยๆ พอกลับห้องพี่กิ๊ฟก็มีรางวัลให้ตลอด บางวันพี่แกอยู่ห้องไม่ได้ไปไหน ฉันก็จะแวะกลับมาหาและทานข้าวต้มกลางวัน หุๆๆ
มีวันนึงไอ้หมิงกับไอ้ขวัญมาทำงานที่ห้อง พี่กิ๊ฟก็ขอออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อน (มาอยู่แป๊บเดียวนี่รู้จักคนเยอะกว่าฉันอีกแฮะ) ฉันก็ให้ไปและคงไปด้วยไม่ได้เพราะต้องทำงานเหมือนกัน ดึกๆโน่นแกถึงกลับมา
ปกติพวกฉันมักจะโต้รุ่งกันเสมอเวลาต้องส่งงาน แต่วันนี้พากันง่วงค่ะ เลยคิดว่าจะตื่นมาทำต่อช่วงเช้า(หลบเรียน eng กันค่ะ) และเข้าส่งงานตอนบ่าย พวกเราก็นอนกองๆกันอยู่ในห้องนั่นแหละ แต่ฉันกับพี่กิ๊ฟจะนอนฟูก ไอ้ขวัญปูผ้านอนข้างๆกับไอ้หมิง
วันนั้นพี่กิ๊ฟเมาค่ะ ตอนนอนก็มานัวเนียๆอีกแระ เพื่อนก็อยู่ตั้งสองคน และมันนอนอยู่ตรงนี้แค่เอื้อมมือ เกรงใจเพื่อนจะตาย แต่คนเมาอ่ะนะ คงไม่มีอะไรหยุดคุณเธออยู่แล้ว ถ้าฉันไม่ทำก็คงไม่ได้นอนแน่ๆ เลยต้องทำแบบเงียบๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนตื่น
เราทำเหมือนนอนกอดก่ายกัน(ท่านี้เพื่อนเห็นจนชิน) แต่จริงๆแล้วใต้ผ้าห่มมันมากกว่านั้น พี่กิ๊ฟหันหลังให้เพื่อนฉัน ส่วนฉันก็ต้องเงยหน้าคอยสอดแนมว่าเพื่อนมันจะรู้สึกตัวตื่นหรือปล่าว ทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น อีกแล้วหนอ
พี่กิ๊ฟคงไม่สะใจค่ะที่ทำได้ไม่เต็มที่ เลยกระซิบชวนฉันไปต่อในห้องน้ำ!!! หุๆๆ
จากคุณ :
i am yadamon
- [
6 ส.ค. 49 03:35:16
]
|
|
|