CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    :+:+: เรื่องลดความอ้วน ขออนุญาตแตกจากกระทู้ L4599478 ค่ะ :+:+:

    อ่านเรื่องเทคนิคการลดความอ้วนแบบสุขภาพดีๆ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4599478/L4599478.html ของคุณ Niceink ไปแล้ว ก็ย้อนกลับมานึกถึงตัวเองค่ะ เราก็เคยเป็นคนหนึ่งที่คิดลดความอ้วน แต่ใช้วิธีผิดๆ โดยการทานยาลดความอ้วน เลยอยากจะขอเล่าประสบการณ์อันเลวร้ายของตัวเอง จากมุมกลับกันให้เพื่อนๆอ่านเป็นอุทาหรณ์สอนใจกันบ้างดีกว่า

    ส่วนตัวเรา เราก็เคยอ้วนกว่านี้ค่ะ คือจริงๆ มันก็ไม่อ้วนนะ แต่ตามความคิดของตัวเองตอนนั้น คือต้องผอมเข้าไว้ ถึงจะดี คือตอนประมาณ ม.6 หนัก 62 กก.(เราสูง 171 ค่ะ) พอจะเข้ามหาวิทยาลัย จะต้องใช่ชุดนักศึกษาสวยๆ กระโปรงสั้น เสื้อพอดีตัว(ตอนนั้นยังไม่ปลิ้นขนาดตอนนี้นะคะ แต่พอดีตัว)ก็เลยมีแรงฮึด ตอนแรกก็ลดลงมาเหลือ 58 ก่อน ก่อนที่จะพยายามทานให้น้อยๆ จนสุดท้าย ลดลงเหลือประมาณ 54 ก็พอใจ แต่ใช้เวลาเกือบปี กว่าจะลดได้ขนาดนั้น

    แต่พอเริ่มผอม ก็เลยได้ใจ เริ่มกลับมาทานเยอะอีก น้ำหนักขึ้นไปเป็น 57 ทำไงล่ะ พอมันผอมลงมาแล้ว แค่ขึ้นไปนิดเดียว ก็ไม่อยากแล้ว ทีนี้ เห็นเพื่อนทานยาลดความอ้วนแล้วผอม เราก็เลยลองดูบ้าง ได้ผลนะ 2 อาทิตย์ ลดลงไปเหลือแค่ 52 กำลังสวยเลย ก็เลยทานไปเรื่อยๆ พอผอมก็หยุด พออ้วนขึ้นอีกหน่อยก็กลับไปทานอีก ยาลดความอ้วนที่ไหนที่ว่าดัง เราลองทานมาหมดแล้ว ทานอยู่อย่างนี้หลายปี

    จนถึงตอนประมาณปี 4 น้ำหนักลดลงไปจนเหลือแค่ 45 ผอมมากๆ เอวเหลือ 22 นิ้ว เหมือนศพเดินได้มากๆ โทรม หมอง ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง เหมือนคนไม่สบายตลอดเวลา เหนื่อยง่าย จิตตก ฉุนเฉียว ร่างกายย่ำแย่ไปหมด แต่ตอนนั้นก็ยังเข้าใจอยู่นะว่า ผอมน่ะ มันสวยแล้ว จนสุดท้าย ถึงกับไม่สบายมาก ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะร่างกายขาดสารอาหาร ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่ 4-5 วัน ให้น้ำเกลือตลอด แล้วหมอยังต้องฉีดกลูโคสเข้าสายน้ำเกลือ เป็นอะไรที่ทรมานที่สุดแล้ว เหมือนใครเอาเครื่องอะไรมาบีบแขนเรา มันปวดร้าวไปหมดจริงๆ

    หลังจากออกจากโรงพยาบาลคราวนั้น ก็รู้ซึ้งเลย ถึงผลร้ายของไอ้ยาลดความอ้วน มันคือปิศาจ ที่มาหลอกล่อพวกคนอย่างเรา ให้หลงคิดไปตามแฟชั่น ว่า ยิ่งผอมยิ่งดี คนผอมเท่านั้น ถึงจะสวย คนผอมเท่านั้น ถึงจะอยู่อย่างมีความสุขและสุขสบาย ทั้งๆที่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่เลย ถึงเราจะอ้วน เราก็สามารถอยู่อย่างมีความสุขได้ คนผอม ไม่ได้อยู่อย่างมีความสุขเสมอไปสักหน่อย เพราะตอนเราผอม เราไม่มีความสุขเลยสักนิด ผอมจนต้องเข้าโรงพยาบาล พ่อกับแม่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจ  ที่ลูกที่ตัวเองรักมากกว่าชีวิต แต่ตัวลูกเองกลับทำลายชีวิตตัวเอง และไม่รักตัวเองขนาดนั้น

    ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากออกจากโรงพยาบาล เรายังต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิดอะไรหลายๆอย่างของเราอีก และที่สำคัญ ตั้งแต่ทานยาลดความอ้วน เรายิ่งรู้สึกว่า เราคิดอะไรช้าลง เข้าใจอะไรยากขึ้น จากที่เคยเป็นคนจำเก่ง เป็นคนอ่านหนังสือแป๊บเดียวก็เข้าใจ แต่ตอนนี้ เรียนอะไรก็ไม่ค่อยเข้าหัว ความคิดอะไรต่างๆก็ไม่ค่อยโลดแล่นเหมือนเดิม แสดงว่า มันไม่ได้ทำร้ายแค่ร่างกายเราเท่านั้น มันยังทำลายสมอง ทำลายประสาทของเราอีกด้วย

    คิดได้ก็เลยเลิกดีกว่า เลิกเด็ดขาดเลย ไม่เอาอีกแล้วยาลดความอ้วน แต่เราอาจจะถือว่า เป็นคนหนึ่ง ที่โชคดี(หรือเปล่า) เพราะเกิดอาการโยโย่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะหลังจากเลิกทานยาลดความอ้วนแล้ว เราก็พยายามควบคุมอาหารอยู่ด้วย ไม่พยายามตามใจปากมาก น้ำหนักก็ขึ้นจากเดิมมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ น้ำหนักมาลงตัว พอดีอยู่ที่ประมาณ 53 จริงๆก็ถือว่าน้ำหนักน้อยนะ ถ้าเทียบกับความสูง แต่เราสบายใจที่จะน้ำหนักเท่านี้ ไม่อยากผอมไปกว่านี้ แต่ถ้าอ้วนมากกว่านี้ก็ไม่ได้รู้สึกผิดแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว

    เราเลือกใช้วิธีง่ายๆ ไม่ต้องออกกำลังกายอะไรมากมาย แค่วันไหนที่รู้สึกว่าทานเยอะแล้ว อีกวันก็จะทานน้อยๆ ชดเชยกัน ออกกำลังกายบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปสมัครฟิตเนสอะไรกับเค้าหรอก แค่พยายามทำตัวให้กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ ทำอะไรด้วยความรวดเร็ว ว่องไว บางทีอยู่บ้านเฉยๆ ก็ลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้น ร้องเพลง เต้นระบำไปตามเรื่อง

    จนตอนนี้ เราอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ผอมหุ่นดีเหมือนนางแบบในนิตยสาร แต่เราเลือกที่จะเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีหัวสมองโปร่งใส มากกว่าคนผอม ที่สุขภาพย่ำแย่ จิตตก และไม่มีความสุขค่ะ

    ^^

    จากคุณ : :+:+: ลู ก แ ม่ บ๊ ว ย :+:+: - [ 7 ส.ค. 49 00:59:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com