CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ขอบคุณจากใจจริง ที่คุณทิ้งฉันไป{แตกประเด็นจาก L4627402}

    สืบเนื่องจากกระทู้ "เหลืออีกสามอาทิตย์จะแต่งงานแล้ว... แต่(เจ้าบ่าว)ไม่อยากแต่ง จะเลี่ยงยังไงดี" ของคุณ nouvo

    ********************************************

    ก่อนอื่น พูดถึงฝ่ายที่ไม่อยากแต่งก่อน  

    ถ้าคุณไม่อยากแต่งเพราะแค่เกิด"กลัว"ขึ้นมาเฉยๆ อย่างที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Cold Feet อันนี้ต้องลองไปคุยกับจิตแพทย์ดู  เคยอ่านเจอว่าหลายคนมีอาการนี้เพราะเกิดอาการเครียดก่อนแต่ง(ไม่ใช่ไม่รักแฟนแล้ว)  เป็นเรื่องธรรมดานะ ไปรับการบำบัดแต่เนิ่นๆ น่าจะหายเป็นปกติ
    >
    >
    >
    >
    >
    ทีนี้มาพูดถึงฝ่ายที่อยากแต่ง แต่ถูกอีกฝ่ายปฎิเสธ


    เราเองก็เคยเป็นม่ายขันหมากเหมือนกัน

    หมั้นมาสองปี พอก่อนแต่งไม่ถึงเดือน บอกเพื่อนฝูงญาติพี่น้องไว้หมดแล้ว พ่อมาบอกเลิกกลางอากาศซะงั้น

    เหตุผลที่เขาให้คือไม่อยากรับผิดชอบลูกของเรา(ม่ายลูกสอง) เพิ่งคิดได้ในนาทีสุดท้าย

    ก่อนหน้านั้นคือเพราะรักมันบังตา เขาก็เลยคิดว่าจะทำใจได้  พอจวนจะแต่งอยู่รอมร่อแล้วนั่นแหละ ถึงตัดสินใจได้ว่าตัวต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไรในชีวิต

    ม่ายขันหมากโดยเฉพาะสังคมบ้านเรา  แน่นอนอยู่แล้ว  ทั้งเจ็บปวด ทั้งอาย ตอนนั้นซึ้งจริงๆกับวลีที่ว่า "แทบจะเอาปี๊บคลุมหัวเดิน"  ไปไหนมีแต่คนถามเรื่องแต่งงาน

    ตอนนั้นได้แต่พยายามหาเหตุผลดีๆมาคอยปลอบใจตัวเอง  คนเราถ้าไม่ใช่เนื้อคู่ ต่อให้ขันหมากมาจ่อหัวบันไดบ้านแล้ว มันก็มีเหตุให้ต้องคลาดแคล้วกันไปจนได้(ล่ะวะ)
    >
    >
    >
    >
    >
    >
    >
    สี่ปีผ่านไป  เราได้พบรักและแต่งงานกับคนที่รักเราและลูกเรามาก เราก็รักเขามากเช่นเดียวกัน  ไอ้ที่บอกตัวเองตอนอกหักใหม่ๆว่าฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว(โว้ย) ก็กลืนน้ำลายตัวเองไปนมนานแล้ว

    ทุกวันนี้ชีวิตแฮปปี้มากๆ นึกขอบคุณอดีตคู่หมั้นเสมอที่เดินออกไปจากชีวิตของเราในตอนนั้น  ทำให้เราได้มาเจอคนที่รักเราทั้งแพ็คเกจ(เพราะแพครวมมากับลูก)ไม่ได้รักแต่ตัวเรา แถมคนนี้ยัง หนุ่มกว่า หล่อกว่า แข็งแรงกว่า(สุขภาพน่ะ อย่าคิดมากกก) โรแมนติกกว่า ฯลฯ

    โบราณเค้าถึงว่าไว้ว่า คนเรา ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน  เศร้าแล้วเดี๋ยวก็สุขได้อีกแหละ


    ส่วนเขาคนนั้น ก็ได้ข่าวว่าเขาแต่งงานไปกับสาวใหญ่อายุใกล้เคียงกัน สดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เดาเอาว่าสาวเจ้าคงไม่มีเรือพ่วงแน่ๆ

    ได้ยินมาว่าครอบครัวเขาก็มีความสุขกันดี เราก็ดีใจด้วยจากใจจริง  ไม่รู้จะไปเก็บความโกรธเคียดแค้นไปทำไม  อยู่บนโลกใบเดียวกันอีกไม่กี่สิบปีก็ต่างคนต่างตายจากกันไปแล้ว

    เมื่อตอนที่เขาทิ้งเราไปแรกๆน่ะแค้นหรอก แน่นอนอยู่แล้ว  ไม่ใช่แม่พระนี่หว่า  

    แต่เมื่อดำรงชีวิตต่อมาได้ จนมาเจอคนที่"ใช่"  ตอนนี้กลับมาสำนึกเสมอว่า โห เรานี่โชคดีมากๆ ถ้าเขาไม่ออกไปจากชีวิตเราในตอนนั้น เราก็คงไม่ได้เจอผู้ชายประเสริฐๆที่เราได้ร่วมชีวิตด้วยทุกวันนี้หรอก

    ตอนที่อกหักจริงๆมันก็เจ็บแป๊บเดียวเอง  มันอยู่ที่ตัวเราทำตัวเองด้วยนะว่าจะรู้จักมองโลกในแง่ไหน พอเลิกร้องห่มร้องไห้แล้วก็ลุกมาแต่งตัวสวยๆ นัดกินข้าว ช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ เเรกๆก็ยากหน่อย พอวัน เดือน ปี มันเคลื่อนคล้อยไปเรื่อยๆ ความเจ็บมันก็ละลายไปเรื่อยๆ  จากก้อนเท่ามะพร้าว สามปีผ่านไปเหลือเล็กเท่าเม็ดพริกไท

    ถ้าตอนนั้นเกิดได้แต่งกับคนเก่า  คงได้ทะเลาะกันเป็นกิจวัตร ไม่รู้จะทนอยู่ด้วยกันนานไหม  เผลอๆถ้าอึดทั้งคู่อาจตะบอยทนอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ เด็กๆคงพลอยไม่มีความสุขไปด้วย ถ้าได้แต่งสมใจแต่ต้องมีชีวิตสมรสแบบนั้น ก็ไม่รู้จะอยากแต่งไปหาอะไร

    ยิ่งนึกก็ยิ่งดีใจจริงๆ และขอบใจจริงๆที่เขาทิ้งเราไป
    >
    >
    >
    >
    >
    ใครก็ตามที่กำลังอกหัก ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ  ^^

    จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 17 ส.ค. 49 11:02:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com