เนื่องจากเห็นกระทู้หลายกระทู้ ตั้งคำถามหากลิ่นน้ำหอมที่หอมโดนใจ หรือหาน้ำหอมที่อยากนำไปใช้ในวาระต่าง ๆ เช่น ไปออกเดทกับแฟน หรือไปเที่ยวกลางคืน เป็นอาทิ ก็เลยคิดว่าเอามาเขียนตอบในกระทู้นี้เลยดีกว่า
ผมรู้สึกว่าการใช้น้ำหอมอาจจะเป็นเรื่องของรสนิยมมากกว่าสิ่งอื่นครับ จริงอยู่ที่อาจจะต้องนึกถึงกาละเทศะด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ หรืออาจจะต้องนึกถึงคุณสมบัติบางประการของน้ำหอมกลิ่นนั้น ๆ ด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์เราก็มักจะเลือกอะไรที่เข้ากับความชอบของตัวเองเป็นหลักแหละครับ มันเลยป็นอะไรที่ตอบยากเหมือนกันว่าน้ำหอมอะไรที่ควรใส่ไปออกเดทกับแฟน เพราะถ้าถามผม ผมก็อาจจะให้ความเห็นว่า ถ้าคุณชอบน้ำหอมกลิ่นไหน ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ ก็ใส่กลิ่นนั้นไปหาแฟนแหละครับ
ถ้าอยากได้น้ำหอมกลิ่นที่โดนใจสักขวดหรืออยากจะหาน้ำหอมที่นำไปใช้ในวาระต่าง ๆ ก็อาจจะต้องใจเย็น ๆ และใช้เวลานิดนึงครับ เพราะวิธีที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อน้ำหอมก็คือต้องไปลองน้ำหอมกลิ่นนั้น ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ควรซื้อน้ำหอมเพราะโฆษณาหรือได้รับแรงผลักดันจากคนรอบข้าง สิ่งที่งดงามที่สุดของน้ำหอมคือลักษณะกลิ่นที่เราได้รับเวลาที่กลิ่นนั้นติดอยู่บนผิวกายของเราหลาย ๆ ชั่วโมง เพราะน้ำหอมอาจจะหลอมรวมทำปฏิกิริยากับสารเคมีตามธรรมชาติบนผิวกายของแต่ละคนได้แตกต่างกัน น้ำหอมที่สร้างความน่าประทับใจบนผิวกายผู้อื่น อาจจะขาดความสามารถในการรวมตัวกับสารเคมีบนผิวของเรา ผลกระทบทางกลิ่นบนผิวของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไป
น้ำหอมที่ดีที่สุดในโลก (หรือน้ำหอมที่เหมาะที่จะใส่ไปออกเดทกับแฟน) ก็คือน้ำหอมที่สามารถทำปฏิกิริยากับกลิ่นกายเฉพาะตัวของเรา และส่งผลต่ออารมณ์และความพึงพอใจในทางบวกสำหรับผู้ใช้และบรรดาคนที่อยู่รอบข้าง ทั้งนี้อาจจะรวมถึงการไม่แพ้น้ำหอมกลิ่นนั้น และมีความสามารถในการจ่ายโดยไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น องค์ประกอบเหล่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้น้ำหอมกลิ่นนั้นเป็นน้ำหอมที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเรา
แล้วเราจะมีวิธีการเลือกน้ำหอมยังไงครับ?
วิธีการที่ดีที่สุดในการเลือกกลิ่นน้ำหอมคือการลองสเปรย์น้ำหอมกลิ่นนั้นลงบนผิวกายครับ แต่น้ำหอมตามเคาท์เตอร์ในห้างสรรพสินค้ามีมากมายหลายร้อยกลิ่น การทดลองพรมน้ำหอมทุกกลิ่นลงบนผิวจึงเป็นเรื่องลำบาก ดังนั้นการเทสต์กลิ่นน้ำหอมบนกระดาษจึงอาจจะเป็นวิธีเบื้องต้นที่เราจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ความหอมของน้ำหอมกลิ่นนั้นได้
ให้เริ่มต้นจากการเทสต์น้ำหอมบนกระดาษ โดยขณะที่ลองเทสต์กลิ่น ให้พยายามตอบตัวเองไปในใจด้วยว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ กลิ่นนั้น โดยใช้อารมณ์และความรู้สึกของตัวเราเองเป็นหลักครับ ไม่ต้องสนใจสิ่งอื่น แค่ถามตัวเองว่าเรา ชอบ หรือ ไม่ชอบ วิธีการนี้จะช่วยให้เราสามารถคัดน้ำหอมที่เราไม่ชอบออกไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังอาจจะไม่เพียงพอ เพราะเราอาจจะชอบน้ำหอมพร้อมกัน 10 กลิ่นจากการเทสต์ครั้งแรกก็ได้ วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราแยกแยะน้ำหอมได้ดีมากขึ้นก็คือ ให้พยายามจินตนาการอารมณ์และความรู้สึกของเราที่มีต่อกลิ่นนั้นไปพร้อม ๆ กันด้วยว่าเรามีปฏิกิริยาต่อกลิ่นนั้นอย่างไร เช่น
-เซ็กซี่ เร้าความรู้สึก ปลุกปรารถนา
-อบอุ่น อยากเข้าไปซุกในวงแขน
-กร้าวร้าว แหวกกฎเกณฑ์ของสังคม
-ประณีประนอม เป็นมิตรกับคนหมู่มาก
-ปลอดโปร่ง สดชื่น โล่งสบาย
-เบาสบายเหมือนไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด
-สลับซับซ้อนเหมือนความวุ่นวายในเมืองหลวง
-หอมหวานเหมือนความรักที่กำลังผลิบาน
-หอมสะพรั่งเหมือนดอกไม้ในสวน
-ใส ฉ่ำ บริสุทธิ์
-หนักแน่น เข้มแข็ง
-หรูหรา ล้ำเลอค่า
-ง่าย ๆ ติดดิน เป็นกันเอง
-สนุกสนาน เบิกบาน เป็นตัวของตัวเอง
-หอมกรุ่น สง่างาม คลาสสิค
-ทันสมัย หนุ่มสาวรุ่นใหม่
ฯลฯ
การจินตนาการอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดจากการสูดรับกลิ่นแบบนี้ จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะน้ำหอมให้ตรงกับบุคลิกและความต้องการของเราได้ดีมากขึ้น ช่วยให้เรารู้ว่าอยากได้น้ำหอมแบบไหนมาใช้ เช่นถ้าสมมติว่าเราเป็นคนง่าย ๆ ติดดิน อายุยี่สิบต้น ๆ และอยากได้น้ำหอมไว้ใส่ไปทำงานในออฟฟิสในบรรยากาศสบาย ๆ เราก็อาจจะตัดกลิ่นที่ให้ความรู้สึกกร้าวร้าว / หรูหรา ล้ำเลอค่า / พักผ่อนต่างจังหวัด / คลาสสิค ฯลฯ ออกไป เป็นต้น
หลังจากที่ตัดน้ำหอมที่ไม่ชอบหรือไม่ต้องการออกไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว ก็จะเหลือกลิ่นที่เราชอบอยู่กลุ่มหนึ่ง ขั้นตอนถัดมาของการเลือกน้ำหอมกลุ่มนี้ก็คือการสเปรย์น้ำหอมลงบนผิวกาย จำเอาไว้เป็นหลักเลยว่า ก่อนจะซื้อน้ำหอมกลิ่นใด จะต้องลองสเปรย์น้ำหอมกลิ่นนั้นลงบนผิวกายของเราก่อนเสมอ เพราะกลิ่นที่ได้รับจากการทดสอบบนกระดาษและผิวกายจะมีความแตกต่างกันได้ โดยจุดที่เหมาะสมในการทดสอบก็คือบริเวณข้อมือด้านในตรงจุดชีพจร ให้สเปรย์น้ำหอมลงบนจุดนี้ แต่หลังจากสเปรย์แล้วอย่าเพิ่งรีบดมกลิ่นทันทีนะครับ เพราะจมูกของเราอาจจะแสบเพราะแอลกอฮอล์ในน้ำหอมได้ ให้ทิ้งไว้ชั่วอึดใจนึง ให้น้ำหอมได้ทำปฏิกิริยากับสารเคมีบนผิวกายสักครู่แล้วค่อยลองดมกลิ่น
ทีนี้ปัญหาก็มีอยู่ว่า ร่างกายของคนเรามีข้อมืออยู่แค่ 2 ข้อเท่านั้นเอง คือข้อมือซ้ายและข้อมือขวา เท่ากับว่าเราจะสามารถทดสอบน้ำหอมได้เพียงครั้งละ 2 กลิ่นเท่านั้น แต่อันนี้ก็อาจจะอนุโลมได้ครับ ในกรณีที่อยากจะทดสอบน้ำหอมมากกว่า 2 กลิ่นจริง ๆ ก็ให้สเปรย์น้ำหอมที่เหลือลงบนผิวบริเวณแขนด้านในใกล้กับข้อพับแขน ไม่ควรสเปรย์น้ำหอมเกินข้างละ 2 กลิ่นครับ คือสเปรย์ที่บริเวณชีพจรจุดนึงและบริเวณใกล้ข้อพับแขนอีกจุดนึง แค่นี้ก็พอแล้วครับ แขนนึงได้ 2 กลิ่น รวมแขนสองข้างก็ได้ 4 กลิ่นแล้ว ถ้าสเปรย์เกินกว่านี้จะงงได้ครับว่ากลิ่นไหนเป็นกลิ่นไหน
กลิ่น TOP NOTES อาจจะอยู่ได้นานราว 5-10 นาที เพราะฉะนั้นหลังจากสเปรย์น้ำหอมเสร็จ เราก็ไปเดินเล่นสัก 10-15 นาทีแล้วก็ลองดมกลิ่นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็จะได้กลิ่น MIDDLE NOTES ซึ่งอาจจะเปิดเผยเรื่องราวของน้ำหอมได้ถึง 70% แล้ว MIDDLE NOTES อาจจะอยู่ได้นานราว 1 ชั่วโมงหลังจากที่เราสเปรย์น้ำหอม ดังนั้นเมื่อครบ 1 ชั่วโมงหลังจากที่เราสเปรย์น้ำหอมก็ให้ลองดมกลิ่นดูอีกครั้งเพื่อทดสอบ BASE NOTES ซึ่งเป็นจิ๊กซอร์ชิ้นสุดท้ายของน้ำหอมกลิ่นนั้น
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าถ้าอยากได้น้ำหอมที่ถูกใจก็ต้องใจเย็น ๆ นิดนึงครับ บางทีเราอาจจะต้องใช้เวลามาทดสอบน้ำหอมแบบนี้สัก 1 วัน, 1 อาทิตย์, หรือ 1 เดือน ก็ได้ กว่าจะเจอน้ำหอมที่ถูกใจ บางครั้งอาจจะต้องกลับมาทดสอบน้ำหอมกลิ่นเดิม มากกว่า 2 หรือ 3 รอบขึ้นไปเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหอมกลิ่นนั้นถูกใจเราจริง ๆ
ไม่มีสูตรสำเร็จใด ๆ ในการได้มาซึ่งน้ำหอมที่ถูกใจ และผมก็ตอบแบบชัดเจนไม่ได้เหมือนกันว่าน้ำหอมแบบไหนเหมาะที่จะใส่ไปทำงาน, ไปออกเดท, หรือไปเที่ยวกลางคืน ฯลฯ สำหรับผม ไม่มีคำว่ากลิ่นไหนดี หรือไม่ดี เหมาะ หรือไม่เหมาะ มีแต่ว่ากลิ่นนี้เราชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นเคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมก็คือ เลือกกลิ่นที่คุณชอบ กลิ่นที่ทำให้คุณมั่นใจ กลิ่นที่คุณดมแล้วรู้สึก หอมหวนรัญจวนจิตสุดถวิลหา กลิ่นที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณได้มากที่สุด นั่นแหละครับ น้ำหอมที่เหมาะที่สุดที่คุณจะใส่ไปออกเดท
จากคุณ :
paul_pipat
- [
24 ส.ค. 49 02:50:42
]