ถึงรอบที่ต้องไปขยายม่านตา ตวรจดูว่า เจ้าเชื้อ CMV ขึ้นตารึเปล่าอีกแล้วค่ะ
เนื่องด้วยภูมิคุ้มกันต่ำมาก เพราะเจ้า HIV หม่ำไปเยอะ จนเหลือล่าสุด 23 ตัว คิดเป็น 2% ก็เลยมีโอกาสที่จะตาบอด จากเชื้อ CMV ได้ คุณหมอเลยนัดให้ไปขยายม่านตา ส่องไฟ ทุกๆ 2 เดือน
ครั้งก่อนที่ไปแล้ว ดันไปไอค๊อกแค๊ก ในห้องตรวจ จนโดนแจกหน้ากากสีเขียวๆ ของโรงพยาบาลให้คาด ทั้งอายคนอื่น และ น้อยใจ จนน้ำตาคลอมาแล้ว
คราวนี้เลยเตรียมตัวให้พร้อม ระมัดระวังไม่ให้อาการแพ้อากาศ กำเริบมาก มันจะได้ไม่คันคอ ไม่ไอ เตรียมลูกอมไปอมตลอด ไม่ให้คอแห้ง
ไปถึงก็มีคนมารอตรวจตาเยอะเลย นั่งมองๆอยู่ มีคนไออีกแล้ว ลุ้นๆๆว่าจะโดนแจกหน้ากากมั้ยนะ แต่คุณพยาบาลไม่เห็นแจกหน้ากากเลย เลยเดาเอาเองว่า คนที่ไอไม่ได้ติดเชื้อ HIV เค้าเลยไม่กลัวว่าจะแพร่เชื้อวัณโรค
ไปครั้งนี้ ได้เจอพี่คนนึงด้วย เค้าเป็น กระเทยเฒ่า ที่เราเจอตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปตรวจตา จำเจ๊แกได้แม่น เพราะเมื่อ 8 เดือนก่อน เจ๊แกดำ กรอบเกรียม ผมแห้งกรอบสีโคลน ผอมมากๆๆๆๆ แต่ ใส่เสื้อแบบกระเทยอาวุโสชอบใส่ ที่มันเป็นผ้าพริ้วๆ แขนยาว แถมลายดอกทั้งตัว
นอกจากนั้น เราจำได้ว่า หมอบอกว่า CMV เริ่มขึ้นตาแล้ว ให้มาฉีดยาเข้าจอตา แล้วพี่เค้าบอกว่า เค้าอยู่ต่างจังหวัด ไกลพอควร เค้าไม่มีเงินเข้ามาบ่อยๆ เค้าเข้ามารับยาต้านเดือนละครั้ง แล้วค่อยหาหมอตอนนั้นได้มั้ย หมอเลยเขียนใบสั่งยา ให้พี่เค้าไปฉีดยาเข้าตาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด
และอีกอย่างที่เราจำพี่เค้าได้แม่น คือ พอพี่เค้าลืมกระเป๋าหนีบๆ ไว้ในห้องตรวจ แล้วเราวิ่งเอาไปคืนให้ แต่พี่เค้าคงจำเราไม่ได้หรอก
เจอกันครั้งนี้ดีใจมากๆๆๆๆ เลย พี่เค้าอ้วนขึ้นเยอะ ดูแข็งแรง ผิวยังคล้ำอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับกรอบเกรียมแล้ว ผมก็กลับมาเป็นสีดำ ไม่ใช่สีโคลนแล้ว เจ๊แกยังแต่งตัวจ๊าบเหมือนเดิมด้วย ใส่เสื้อแบบเดิมแต่สีบานเย็นเลย หิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆมาเหมือนเดิม
พี่เค้าคงถูกกะยาต้านไวรัสดี ก็เลยแข็งแรงขึ้นมาก คนเราอ่ะนะ มันยังไม่ถึงที่ตาย ยังงัยๆ มันก็ไม่ตายหรอก
เรากะเจ๊คนนี้ นั่งหยอดตา เพื่อขยายม่านตาอยู่ข้างๆกัน ถัดไปอีกแถวก็เป็นพวกคุณลุง คุณป้า มาตรวจตาที่เป็นต้อ
นั่งๆอยู่ ก็มีเสียงไอจากคนโน้นคนนี้มาเป็นระยะ เราก็คอยแอบมองคุณพยาบาล ก็เฉยวุ้ย
และแล้ว............. คุณเจ๊ข้างๆเรา ก็ไอขึ้นมา แค๊กๆๆ โอ้ววววววววววว พี่ขา อย่าไอดิ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค๊กๆๆ พี่เค้าไอเบาๆอีกเล็กน้อย
นั่น เสร็จแระ คุณพยาบาลเดินมาพร้อมหน้ากากสีเขียว ยื่นให้พี่เค้า เราก็เลยได้ข้อสรุปว่า คนปกติ มีสิทธิ์ไอได้ แต่ ผู้ติดเชื้อ HIV ไม่มีสิทธิ์ไอในที่สาธารณะ
แต่เราชอบเจ๊คนนี้มากๆเลยนะ เพราะเหตุการณ์นี้ที่เราเจอเมื่อครั้งก่อน เราอายคนอื่นมาก จ๋อย น้ำตาคลอ แล้วก็ไม่ยอมคาดหน้ากาก แต่เอามาถือไว้กับผ้าเช็ดหน้าแทน แต่เจ๊มั่นคนนี้ พอรับหน้ากากมา แกก็ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ยืดหลังตรง แล้ว เอาหน้ากากมาคาดหน้า ลอยหน้าลอยตา ไม่มีจ๋อยเลย
ว้าว..................เจ๊ขา เจ๊มั่นมาก หนูประทับใจจริงๆ
สักพักคุณพยาบาลเอาไฟฉายมาส่องตา เรา 2 คน แล้วบอกว่า ม่านตาขยายแล้ว ไปนอนรอได้ เราก็หันไปบอกเจ๊เค้าให้ไปตรวจก่อน เผื่อเค้าต้องรีบกลับต่างจังหวัด แต่เจ๊แกบอกว่า น้องตรวจก่อนเถอะจ๊ะ
เราก็เลยไปนอนรอหมอบนเตียง หมอส่องไฟเข้าตา แสบตาสุดๆ ส่องกันอยู่นาน แล้วหมอก็สรุปว่า ตาใส ปลอดภัยดี ไม่มีเชื้ออะไรมารุกราน
เสร็จก็คลำทางลงจากเตียง หน้ามืด มองอะไรไม่เห็นเลย เดินเตาะแตะไปโต๊ะหมอ ก็ส่องไฟกับเครื่องอีกที หมอชมว่า เราดูแลตัวเองได้ดีมากๆ แข็งแรง และ มีสุขภาพดี สุขภาพตาก็ดี มีแค่อาการภูมิแพ้ที่ตานิดหน่อยก็ให้ยามาไว้หยอด เพื่อไม่ให้คันตา
หมอยังเลื่อนนัดให้จาก 2 เดือนครั้ง เป็น 3 เดือนครั้ง เพราะว่าเชื่อมั่นว่าเราดูแลตัวเองได้ดี แต่หมอก็บอกว่า ถ้ามีอะไรผิดปกติก็ให้มาหาก่อนเลย
หมอถามถึงวิธีการดูแลตัวเอง แล้วชมว่า ทำได้ดีแล้ว พร้อมกับย้ำว่า อย่าลืมสวดมนต์ และ นั่งสมาธิทุกวัน และ อย่าทำงานหนักมากนัก
แต่คุณหมอไม่รู้ว่า ช่วงนี้ เรามีงานเยอะมาก เดี๋ยววันพรุ่งนี้ เราก็ไปบ้านเด็กแกร์ด้า กับเพื่อนๆในเว็บอีก 40 คน ไปทำกิจกรรมกับเด็กๆ และเราอยู่ค้างต่อ อีก 3-4 วัน เพื่อวางแผนงานที่นั่น พอกลับมาก็ต้องมาลุยเรื่องจัดสัมมนา "น้องเอช มือใหม่" ที่ทางเว็บแก้วจะจัดให้ความรู้เกี่ยวกับ HIV ในวันที่ 16 - 17 กันยาอีก
งานนี้เป็นงานใหญ่ ที่เหนื่อยสาหัสเลยหล่ะคะ เป็นงานที่ตั้งใจทำมากๆๆ หวังเอาไว้เยอะ ก็คงต้องทุ่มเทหน่อย พอเสร็จจากการจัดสัมมนา เราก็จะได้พักแล้ว วันที่ 19 - 25 กันยา เราไปฝึกวิปัสสนา ถือศลี 8 ซึ่งไปเป็นประจำทุกปีอ่ะคะ
ช่วงนี้ก็อดทน ลุยงานหน่อย เดี๋ยวก็ไปไปสงบจิตใจแล้ว
จากคุณ :
++MooKaew++
- [
2 ก.ย. 49 22:17:02
]