ความคิดเห็นที่ 2 รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ยาคุมบางยี่ห้อก็ชูจุดขายเรื่องความงามแล้วนะครับ อย่าง Yasmin เนี่ย ตอนแรกเห็นป้ายโฆษณา นึกว่าผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จากคุณ : ชาเขียว - [ 6 ก.ย. 49 20:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แปลกครับ ไม่ใช่เฉพาะในไทยที่ใช้ยาคุมเพราะเรื่องนี้ ผลข้างเคียงในกล่องยาคุม ก็มีเหมือนๆ กันหมดครับ แต่ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่โดดเด่นหรือว่ารุนแรง ในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ยาหลายๆ ชนิดก็มีเช่นเดียวกัน ใบแนบ (leaflet) ที่มีในกล่องอาจจะทำให้คุณไม่กล้ากินทีเดียว ที่พูดไม่ได้ส่งเสริมให้ใช้ครับ แต่ว่ามันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น สำหรับที่บอกว่าให้เขียนไปเลยว่าทำให้อึ๋มและรักษาสิว คงจะไม่ได้ครับ เพราะยาคุมคือยาคุม แต่ในทางการแพทย์แล้ว ยาคุมบางตัวจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Acne Preparation ครับ... จากคุณ : Epinephrine - [ 6 ก.ย. 49 21:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ระวังโยโย่นะคะ หยุดมะไหร่สิวมามากกว่าเดิมอีก จากคุณ : คนหวังดี - [ 6 ก.ย. 49 22:15:33 A:58.136.203.108 X: TicketID:118986 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เสียดายบัตรผ่านไม่ได้โหวต ตามคห.คุณชาเขียว เดี๋ยวนี้ยาคุมกลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมความงามไปแล้วจริงๆ จากคุณ : (T T) - [ 6 ก.ย. 49 22:24:05 A:58.9.39.243 X: TicketID:106496 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยอย่างยิ่ง นับวันเห็นกระทู้ถามเรื่องกินยาคุมเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก กับทำให้หน้าใสเยอะขึ้น ไม่คุ้มกันนะคะ โอเคมันอาจช่วยเรื่องพวกนั้น แล้วถ้าตอนหลังมาพบว่าเกิดอาการข้างเคียง อย่างblood clot หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็  deep vein thrombosis(อันนี้ถึงตายได้นะคะ) หรือ มะเร็งเต้านม แล้วมันไม่แย่กว่า หน้าอกเล็ก หรือเป็นสิวเหรอคะ หน้าอกเล็กจริงๆแล้วก็สวยsexyได้ หาbraดีๆหน่อยก็ช่วยได้ เป็นสิวก็หาหมอผิวหนังได้ หน้าไม่ใสก็เดี๋ยวนี้เค้ามีตั้งหลายวิธีที่ทำให้ใสได้ ไม่ว่าจะเป็นlaser, IPL, microdermabrasion, etc. ควรระวังให้มากๆ ก่อนใช้ยาคุมนะคะ จากคุณ : kanu_memphis - [ 6 ก.ย. 49 23:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ คห 4  เคยเป็นมาก่อน :) แต่เรากินยาคุมเพื่อคุมกำเนิดค่ะ มันได้ของแถมมาคือหน้าใส (แต่ไม่อึ๋มนะ) พอเลิกโอ้โห หน้าพังไปเลยค่ะ ยาคุมไดแอนเนี่ย ที่อเมริกาไม่มีขายนะคะ เข้าข่ายยาอันตราย ใครอยู่อเมริกาต้องแอบซื้อจาก แคนาดาหรือเมืองไทย จากคุณ : yinnerella - [ 7 ก.ย. 49 00:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รู้สึกกินมากๆมดลูกแห้งค่ะ  แล้วอีกอย่างถ้าถึงเวลาที่อยากมีลูกแล้วมีย๊ากยาก สุดแสนจะยากเลยค่ะ  ตอนนี้เลยหยุดกินแทบจะถาวรแล้ว กินเพราะคุมกำเนิดอ่ะค่ะ ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ถุงยางแทน แล้วก็กำลังจะเปลี่ยนเป็นไม่มีอะไรแทนแล้ว ขี้เกียจสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (( แอบนอกเรื่องนิดนึง แห่ะๆๆ )) จากคุณ : มิสพรหล้า - [ 7 ก.ย. 49 00:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาตราฐานเมืองไทยก้อย่างนี้แหละต้องทำใจ ต้องเฝ้าระวังด้วยตัวเอง ระบบที่จะมาคุ้มครองเรานั้นยังด้อย อย่าว่าอะไรเลย ยาคุมเห็นร้านชำมีขายเยอะแยะไป ถ้ายังไงซะ การที่จะใช้ยาอะไรสักอย่างก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสักนิดก่อนเหอะครับ พี่น้อง จากคุณ : ไซโคแมน - [ 7 ก.ย. 49 02:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...ตอนอยู่เมืองนอก (เยอรมัน) ไปหาหมอสิว เขาสั่งยาคุมมาให้กินเลยค่ะ กินกันทั่วไปมากๆ (ทั้งกินเพื่อคุมจริงๆด้วย) แม้แต่น้องๆวัยรุ่นก็กินเพื่อรักษาสิว (ตามหมอสั่งให้) จากคุณ : ไม่ใช่แค่เมืองไทยหรอก - [ 7 ก.ย. 49 02:58:12 A:58.64.126.55 X: TicketID:125931 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรากินไม่ได้ค่ะ เวียนหัวมากๆๆ เเล้วอ้วนขึ้นทันตาเห็น ยาสมินก็ยาสมินเถอะ ตาเเทบจะไม่มี จากคุณ : มาสคาร่า - [ 7 ก.ย. 49 07:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันอยู่ที่ความพร้อมหลาย ๆด้านค่ะ  การศึกษา , สังคม, วัฒนธรรม และอื่น ๆ  ซึ่งประเทศเรายังพัฒนาไปไม่ครอบคลุมทั้งหมด แบบความคิดเห็นที่ 9 ว่า "ขนาดร้านขายของชำยังมีเลย"  พูดง่าย ๆยาคุมแทบจะจ่อปากอยู่แล้ว แต่ก็มีแอบทำแท้งเป็นข่าวอยู่เรื่อย ๆ     เอาเป็นว่า เราควรศึกษาผลดี-เสีย ให้มาก ๆก่อนที่จะตัดสินใจใช้ยาคุม จากคุณ : not found - [ 7 ก.ย. 49 09:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แรกๆเราก็เคยเตือนแบบที่จขกท.เตือนนี่แหละค่ะ เพราะหวังดี แต่กระทู้ประเภทกินยาคุมรักษาสิวหรือให้อึ๋มก็ไม่ได้น้อยลง แถมเตือนแล้วโดนด่าอีก หลังๆเลยเลิก ปล่อยผ่านไป ร่างกายก็ของเค้า เตือนแล้ว แต่เค้าเลือกเอง เป็นไรขึ้นมา เราก็ไม่ได้เดือดร้อนด้วย อย่างว่าแหละค่ะ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซื้อยาคุมยากมาก ถ้ายาที่ซื้อไม่ได้ต้องใช้ใบสั่งแพทย์อย่างยาคุม ก็น่าจะบอกโดยคอมมอนเซนส์ได้ว่ามันยาอันตราย มีผลข้างเคียง จะมากจะน้อย แต่เราว่าได้ไม่คุ้มเสียแน่ๆ  ไม่รู้มันมีผลอะไรกับร่างกายเรา หรือระบบสืบพันธุ์ของเรา สำหรับเรา เราว่าน่ากลัวออก ที่ต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ยาคุมนะ แต่ยา antibiotics หรือยาปฏิชีวนะทั้งหลาย หลังจากหมอสั่งไปแล้ว ต้องย้ำแล้วย้ำอีกว่ากินให้หมด แล้วมาตรวจใหม่  ไม่เหมือนเมืองไทยที่ไม่ซีเรียสกันเลย  เลยว่ากันว่า ประเทศโลกที่สามที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้นี่แหละ เป็นตัวแพร่เชื้อโรคที่มิวเตทเพราะการดื้อยา เนื่องมาจากกินยากันแค่หาย ไม่กินฆ่าเชื้อให้หมดตามแพทย์สั่ง จากคุณ : Queen of hearts - [ 7 ก.ย. 49 15:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอกดโหวตให้แล้วกันค่ะ  ถือว่ามีประโยชน์ ต่อหลาย ๆ คนที่เข้าใจผิด ๆ กันอยู่ จากคุณ : Blubber - [ 7 ก.ย. 49 15:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จริงค่ะ บอกไปหลายรายแล้วค่ะ ว่ายาคุมไม่ได้ทำให้ผอมนะค่ะ ที่เค้าโฆษณาว่าไม่อ้วน นั่นคือไม่ทำให้อ้วนจากเดิมค่ะ จากคุณ : PikKa - [ 7 ก.ย. 49 16:03:43 A:203.150.118.48 X: TicketID:113530 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่าไม่ใข่การเข้าใจผิดหรอกค่ะ เพราะหลังจากปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็ได้รับการแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวด้วยเช่นกันส่วนผลเสียที่ว่ามานั้น เป็นผลข้างเคียงที่เกิดน้อยมาก และที่สำคัญมันไม่อันตรายขนาดนั้นค่ะ จากคุณ : นิดนึง (NewPOP) - [ 7 ก.ย. 49 16:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราฮอร์โมนผิดปกติค่ะ  เลยต้องกินยาคุมเพื่อรักษาระดับฮอร์โมน หมอบอกว่าจริงๆแล้วยาคุมถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรักษาคนอย่างเราคะ แต่ปรากฏว่ามันใช้คุมกำเนิดได้ด้วย เลยมีการมาใช้เพื่อคุมกำเนิด ส่วนเรื่องการมีลูกยาก หมอบอกว่า มันไม่ได้ทำให้มีลูกยากขึ้น ถ้าร่างกายคนนั้นมีลูกง่ายก็ยังคงมีลูกง่ายเหมือนเดิม แต่ถ้าเกิดมีลูกยากแสดงว่าเดิมร่างกายคนนั้นมีลูกยากอยู่แล้ว (มีเพศสัมพันธ์กันเป็นระยะ 1 ปีแล้วไม่มีลูกถือว่ามีลูกยากคะ) เพราะโรคของเราทำให้ต้องอัลตร้าซาวทุก 2 ปี ตั้งแต่อายุ 20 แต่ยังไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับรังไข่และมดลูก ซึ่งเราเคยลองยาคุมมาแล้วหลายยี่ห้อ มีทั้งแบบฉีดและกิน(ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของหมอ) ปัจจุบันกินไดแอนประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว และไม่เกิดผลข้างเคียงหมอเลยให้กินต่อไปเรื่อยๆคะ นี่เป็นความคิดเห็นของเรานะคะ ขนาดตอนแรก ยาไม่ได้ผลิตขึ้นมาใช้เพื่อคุมกำเนิดตอนนี้ยังใช้คุมกัน  ก็น่าจะใช้รักษาสิวได้เหมือนกัน แต่เราไม่ได้สนับสนุนให้ไปหาซื้อกินกันเองนะคะ  ไปหาหมอแค่ไม่กี่ครั้ง เพื่อดูว่าเราถูกกับยายี่ห้อไหน เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ยาแต่ละยี่ห้อฮอร์โมนก็ไม่เท่ากัน (อาจจะเป็นหมอคนละคนเพื่อ double check) จากนั้นก็ค่อยซื้อยากินเองก็ได้ ...ยานี้ถูกสั่งจ่ายให้ท่านโดยเฉพาะ  ท่านไม่ควรมอบให้ผู้อื่น เพราะอาจเป็นอันตรายได้  แม้ว่าผู้นั้นจะมีอาการเหมือนท่าน...ในเอกสารกำกับยาไดแอนมีบอกไว้ ใครซื้อยามากินเอง อย่าลืมอ่านเอกสารกำกับยาให้ละเอียดนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 49 16:53:59 จากคุณ : My Dearest Radar - [ 7 ก.ย. 49 16:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้นี้มีข้อเท็จจริงอื่นๆ  นอกจากที่ จขกท. บอกด้วยนะคะ อยากให้เพื่อนๆ อ่านให้ชัดเจนค่ะ  จะได้ความรู้มาก จากคุณ : นางมาร"ตัวน้อยๆ" - [ 7 ก.ย. 49 17:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จริงๆ ยาคุมก็ไม่ได้อันตรายขนาดที่คุณ จขกท. บอกหรอกค่ะ แต่อาจจะมีผลข้างเคียงบ้างกับบางคน ซึ่งระดับผลข้างเคียงอาจต่างกันค่ะ ดิฉันมีเพื่อนที่กินยาคุมเป็นประจำค่ะ เพราะประจำเดือนมาไม่ปกติ ปีนึงมาสักครั้ง หรือ สองครั้งค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าแปลกๆ  แต่เจอเพื่อนที่เป็นแบบเดียวกันนี้ถึง 3 คนเลย(ตอนนี้คิดว่าตัวเองแปลกกว่า ที่มีเพื่อนแบบนี้ถึง 3 คน) หมอก็แนะนำให้กินยาคุมค่ะ  เพราะการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติก็ทำให้เป็นสิวเยอะเหมือนกัน ไปรักษาก็หลายที่ หมดเงินไปเยอะ ยาที่หมอรักษาหน้าให้มากินก็ไม่รู้ว่ายาอะไร แต่ราคาก็แพงมากๆ  แต่ก็ให้ผลแบบเดียวกับกินยาคุมเลย คือ "สิวหาย"  แต่ก็ไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ทุกวันนี้ก็เห็นเพื่อนเป็นปกติดีทุกอย่าง ถ้าไม่กินก็ประจำเดือนไม่มา แค่นั้น ส่วนเรื่อง โยโย่ ก็ไม่มีนะคะ ปล. ดิฉันเห็นด้วยกับคุณ My Dearest Radar ค่ะ จากคุณ : ขนมสด - [ 7 ก.ย. 49 17:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้อเท็จจริงจาก Standard Textbook (Bolognia) ค่ะ It is important to note that hormonal therapy can be very effective in female patients with acne, whether or not their serum androgens are abnormal. Although women and girls with acne may have higher serum levels of androgens than those without acne, these levels are often still within the normal range. Hormonal therapies seem to work best in adult women with persistent inflammatory papules and nodules that commonly involve the lower face and neck. Often these women report that their acne flares prior to their menstrual periods and consists of a few tender deep-seated inflammatory papules and nodules. The skin may or may not be oily, and comedones are often present on the forehead and chin. These patients often note little improvement in their acne despite multiple courses of various antibiotics.   In cases such as this, oral antibiotics can be discontinued and hormonal therapy initiated with oral contraceptives because they block both ovarian and adrenal production of androgens. The use of oral contraceptives is also recommended if treatment with spironolactone is anticipated (see below). Because of the potential risks associated with oral contraceptive use and the need for breast and pelvic examinations, consultation with a gynecologist is recommended.   Most formulations combine an estrogen with a progestin in order to minimize the risk of endometrial cancer that is known to occur with unopposed estrogens. Because progestins have intrinsic androgenic activity, oral contraceptive formulations were designed that contained second-generation low-androgenic progestins, e.g. ethynodiol diacetate, norethindrone and levonorgestrel. The newer third-generation progestins, desogestrel, norgestimate and gestodene, have even less activity than their predecessors54. Gestodene is currently only available in Europe.   Two oral contraceptives are currently FDA-approved for the treatment of acne, Ortho Tri-Cyclen® and Estrostep®. The former is a triphasic oral contraceptive comprised of a norgestimate-ethinyl estradiol (35 μg) combination, whereas the latter contains a graduated dose of ethinyl estradiol (20-35 μg) in combination with norethindrone acetate. Side effects from oral contraceptives include nausea, vomiting, abnormal menses, weight gain and breast tenderness. Rare but more serious complications include thrombophlebitis, pulmonary embolism and hypertension.   สรุปง่ายๆก็คือว่า - สิวบางประเภท ก็เหมาะที่จะใช้ocpในการรักษา - แต่ก่อนทาน ควรปรึกษาแพทย์โดยเฉพาะสูติแพทย์ก่อน - ผลข้างเคียงมี แต่ผลข้างเคียงที่อันตรายจริงๆพบได้ไม่บ่อย - ยาและการรักษาทุกอย่าง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ควรปรึกษาแพทย์+พิจารณาตัดสินใจให้ถี่ถ้วนค่ะ อย่าเชื่อในสิ่งที่เพื่อนบอก อย่าเชื่อในกระทู้ อย่าเชื่อในฟอร์เวิร์ดเมล์ ค้นหาข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 49 18:49:37 จากคุณ : Cafe_noir - [ 7 ก.ย. 49 18:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คล้ายๆ #17 หมอเคยสั่งยาคุมให้กินเพราะเราฮอร์โมนผิดปกติ (ตอนนั้นประจำเดือนมา 15 วัน) แต่เราดันแพ้ยาคุมอ่ะ กินแล้วจะอาเจียน - -" แต่ตอนนี้ประจำเดือนก็ไมได้มาเยอะเหมือนก่อนแล้ว แถมบางเดือนก็ไม่มาด้วย - -" จากคุณ : SFFC - [ 7 ก.ย. 49 18:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ให้ความรู้ดีค่ะ โหวตๆ จากคุณ : ~z@Hun~ - [ 7 ก.ย. 49 19:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยได้ยินมาเหมือนกันนะว่า กินยาคุมกำเนิดช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ เคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ เป็นการวิจัยงาน คอลัมภ์เกี่ยวกับความรู้ เรื่องน่ารู้ ทางการแพทย์ ต้องถามผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยยืนยันอีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : buafah555 - [ 7 ก.ย. 49 20:16:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาโหวตด้วยค่ะ ฮอร์โมนไม่ปกติเหมือนกัน ประจำเดือนมามั่งไม่มามั่ง ... จะอันตรายในระยะยาวป่าวคะ ไม่เคยไปหาหมอเลย อายุ 22 แล้ว ควรไปหาได้แล้วป่าวคะ (นอกเรื่องไปปะคะ แต่เห็นมีเคสนี้เยอะ เผื่อมีคนช่วยตอบได้ค่ะ) จากคุณ : แพนด้า (dekhype) - [ 7 ก.ย. 49 20:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ครับ. จากคุณ : dualspiner - [ 7 ก.ย. 49 21:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราเป็นสิวมาเกือบสิบปีไม่เคยหาย ทุกข์ใจมาก ชีวิตไม่มีความสุขเลย หมอเลยสั่งให้กินยาคุมตอนนี้แทบไม่มีสิว มีความสุขมากใช้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ บางคนอาจมองว่า โหกินยาคุมรักษาสิว เวอร์ ใช้ไม่ตรงจุดประสงค์ ขอเน้นน้ำว่า "หมอสั่ง" เพราะถ้าอยู่ๆให้ไปซื้อกินเองไม่มีทางหรอก "ถามหมอแล้ว" ซึ่งก็เป็นหมอที่สนิทมาก อะไรดีไม่มีเค้าก็บอกตามตรง หมอก็บอกว่าไม่เป็นไร ปลอดภัยกว่าไปกินพวกโรแอคอีก โชคดีที่เป็นผู้หญิงเลยกินได้   ไม่มีไรมากแค่อยากเล่าเรื่องเราให้ฟังนิดๆ จากคุณ : PuppyOnTheRock - [ 7 ก.ย. 49 22:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ เราเคยกินตอนกินหน้าใสสุดๆ ผิวดีมากๆ กินมาได้ 4 ปีกว่าๆ พอหยุดได้สัก 1 ปี เริ่มเข้าสู่สภาพเดิม แถมสิวเกิดโยโย่กลับมาเป็นมากกว่าเดิมอีกค่ะ มาคิดดูแล้วมันไม่ยั่งยืน ยังส่งผลเล็กๆน้อยๆอีกเยอะ เลยเลิกกินแล้วอ่ะ จากคุณ : คุณแม่วัย 30 - [ 7 ก.ย. 49 22:36:06 A:58.136.203.127 X: TicketID:118986 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรากินยาคุม(ไดแอน)ไม่ได้เลยอ่ะ กินแล้วอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ทะเลาะกะเขาไปทั่ว.... บางวันนั่งร้องไห้ซึมเศร้า ไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำไม..... ปวดหัวด้วย.... ผลข้างเคียงเพียบ จากคุณ : Be my dEstiNy (itims) - [ 7 ก.ย. 49 23:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาเพิ่มเติมนะคะ  เรื่องฮอร์โมนผิดปกติ เคสเราจะไม่เหมือนคนอื่นค่ะ คือเรามามากผิดปกติ  เช่น มา 2 สัปดาห์ติดกัน หายไป 1 สัปดาห์ก็มาอีกแล้ว  เป็นแบบนี้ตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรก(ตอนม.1)  ช่วงม.ปลายเคยมีติดต่อกัน 30 วัน มีทีไม่ใช่น้อย  ต้องเปลี่ยนผ้าทุก 3 ชม.(ผู้หญิงคงนึกออกนะคะ) ปริมาณไม่เคยลดลง  แต่อาการปวดท้องปวดหลังมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรียนมหาลัย บางวันไม่สามารถไปเรียนได้ เลยต้องไปหาหมอ (ตอนม.2ก็เคยไปหนนึงแต่หมอบอกว่าเป็นปกติของวัยรุ่น) ส่วนคนที่กินแล้วมีอาการคลื่นไส้ หรืออารมณ์แปรปรวน เราได้บอกในกระทู้ข้างต้นแล้วว่า แท้จริง ยาคุมถูกผลิตขึ้นมาเพื่อปรับระดับฮอร์โมน และคนแต่ละคน ยาคุมแต่ละยี่ห้อก็มีปริมาณฮอร์โมนไม่เท่ากัน  เราเองก็เคยใช้มาหลายแบบหลายยี่ห้อ  เปลี่ยนรพ.มา 2 แห่ง เปลี่ยนหมอ 3 คน หมอคนปัจจุบันที่รักษาเราถึงกับเจาะเลือดเพื่อตรวจดูระดับฮอร์โมนของเราด้วยซ้ำ   อยากเตือนว่า  เภสัชบางคน(บางคนเท่านั้น) ก็เห็นแก่การขายของ  ถ้าอยากรักษาสิวควรไปหาหมอ(ตามรพ.)ดีกว่า เพราะถ้าสาเหตุของการเกิดสิวไม่ใช่ฮอร์โมน  กินยาคุมไปก็แค่นั้น ยกตัวอย่างเรานี่แหละ ใกล้ตัวดี กินยาคุมมามากกว่า 5 ปี สิวก็ยังเยอะเหมือนเดิม เพิ่งมารู้ไม่กี่เดือนก่อน ว่าที่เราสิวขึ้นน่ะ เพราะเราเป็น Seborrheic dermatitis ปล.ตอนนี้ชีวิตเหมือนคนปกติแล้วคะ มีประจำเดือน เดือนละครั้ง ครั้งละ 3-4 วัน ปวดท้องวันแรกนิดหน่อย มีความสุขกว่าเดิมเยอะ ถึงแม้ต้องกินยาคุมแทบทุกวันก็ตาม จากคุณ : My Dearest Radar - [ 8 ก.ย. 49 00:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตอบคุณแพนด้านะคะ  ถ้าไม่เดือนร้อนเรื่องเงิน ถ้ามีเวลาพอ ก็ไปเถอะค่ะ อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจ จะได้รู้ว่าเกิดจากอะไร ตอนเราไปหาหมอ(อีกที)ก็อายุประมาณ 20 ค่ะ เห็นเรามีเมนส์มหาโหดแบบนี้ เคยมีอยู่ 2 เดือนที่มันไม่มา หมอบอกว่า ถ้าเครียดมากๆ ฮอร์โมนก็รวนได้ (ตอนนั้นอยู่ปี4 กลัวเรียนไม่จบง่ะ) หมอที่ดีจะเอาใจใส่และวินิจฉัยค่อนข้างแม่นค่ะ ไม่ใช่เห็นเมนส์ไม่มาก็หาว่าตรูท้อง (ยังไม่มีแฟนจะท้องได้ไงฟ่ะ บอกแล้วยังไม่เชื่ออีก นี่คือสาเหตุที่เปลี่ยนหมอ 1 คน) จากคุณ : My Dearest Radar - [ 8 ก.ย. 49 01:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เมนส์มาไม่ปกติเหมือนกันค่ะ (มาไม่แน่นอน เฉลี่ยสองเดือนครั้ง) เคยปรึกษาหมอ หมอบอกว่าถ้าฮอร์โมนไม่ปรกติ ก็จำเป็นจะต้องใช้ตัวช่วยปรับฮอร์โมน ซึ่งก็คือยาคุมนั่นเอง ได้ลองกินไปประมาณ 2-3 เดือน ทานไดแอนค่ะ ตอนทานก็ไม่ปวดหัว ไม่อึ๋ม อาการเป็นปกติทุกอย่างเหมือนตอนไม่ทานยา ตอนนี้ไม่ได้ทานแล้วก็เมนส์มาไม่ปกติเหมือนเดิม (ไม่มีอาการปวดท้องนะคะ) ถามว่าเราต้องทานยาคุมไปตลอดหรือเปล่าเพื่อให้เมนส์จะมาตามปกติ อ้อ เรามีปัญหาหน้าเป็นสิวด้วยอะ ขนาดไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แม่มดจี๊ดจี๊ด - [ 8 ก.ย. 49 02:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นด้วยกับคุณ : Queen of hearts จากคุณ : ตาน - [ 8 ก.ย. 49 03:26:27 A:84.197.56.156 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เราไม่อยากกินใจจะขาด  แต่ก็ต้องกินเพราะใช้รักษาโรค หมอสูติฯจัดให้   ทำไมชั้นต้องป่วยด้วยเนี่ย จากคุณ : *~~nOnGtEErAk~~* - [ 8 ก.ย. 49 09:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มายืนยันค่ะว่าอย่ากินเลย เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่เคยกินไดแอนเพื่อรักษาสิว ยอมรับว่าช่วงแรกสิวหาย หน้าเนียน อึ๋มไม่แน่ใจเพราะเรายังแบนเหมือนเดิม แต่พอกินไปหลายแผงหยุดกินตามที่เค้าบอกไม่ไน่ใน 1 เดือน หรือ1 อาทิตย์ เลือดประจำเดือนออกมาไม่หยุด ทั้งเดือน จนซีด ที่บ้านทักว่าเป็นดีซ่านเหรอ อ่อนเพลียมาก โทรม จนคิดว่าต้องไปหาหมอแล้ว แต่โชคดี มันหยุด ตั้งแต่นั้นมาหยุดกินเลย อย่ากินเลยน้า อันตราย ไม่มีใครรับรองได้ว่ามันจะร้ายแรงกว่าที่บอกรึเปล่า จากคุณ : nakaenamee - [ 8 ก.ย. 49 09:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นเหมือน 35 เลยค่ะ กินแล้วหน้าใสจริงๆ พอหยุดปุ๊บ เ้ดือนต่อมา เลือดไหลไม่หยุดเลยทั้งเดือน จนเราต้องไปหาหมอ หมอให้ยาแก้อักเสบมา เพราะเลือดออก จนปากมดลูกอักเสบ เราเลยหยุดตั้งแต่นั้นเลย แถมสิวที่ไม่ขึ้นมานาน ก็มากระหน่ำกันขึ้นตรงคางเต็มไปหมด ตรงคางเท่านั้นนะคะ ไปถามหมอ หมอบอกว่า เป็นสิวปรับฮอร์โมน ที่เกิดจากการหยุดยาคุม... ตอนนี้เลิกเด็กขาดดดดดด จากคุณ : Race Me - [ 8 ก.ย. 49 11:33:55 A:221.128.103.26 X: TicketID:124710 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ประเด็นที่ จขกท เตือนน่าจะเกี่ยวกับคนที่อยากสวย อึ๋ม หน้าใส เเล้วไปซื้อยากินเองนะคะ เค้าเตือนว่าผลข้างเคียงที่อาจจะได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่มีน่ะ เเล้วกระทู้พวกนี้ก็มีให้เห็นบ่อยๆในสวนลุม นี่เเหละ ส่วนคุณๆที่ฮอร์โมนเเปรปรวน ต้องพบหมอ เเละจำเป็นต้องพึ่งยานี้ก็ไม่น่าจะอยู่ในประเด็นนะ คนปกติที่ฮอร์โมนปกติ เเต่อยากใช้เพื่อจุดประสงค์ อื่น ผลข้างเคียงที่เพื่อนๆว่ามาเนี่ยก็มีจริงๆ คนที่ไม่เกิด กับตัวเองก็โชคดีไป เเต่คุณจะรู้ได้ไงว่าไม่เกิดกับคนอื่น คนเราอยากจะใช้ อยากจะสวยก็รับฟังเเต่ข้อดีทั้งนั้น โดยเฉพาะโยโย่เนี่ย เตือนกันหลายๆกระทู้มาก เเต่เค้ายืนยันอยากลอง เราก็ขี้เกียจจะโดนด่าอ่ะ ว่าเจือก ^^ ที่เจออีกบ่อยๆก็คือ โรเเอค มาถามเพราะอยากซื้อ กินเองกันเป็นว่าเล่น บางคนเห็นหมอจ่ายให้ทานง่ายๆ ผลข้างเคียงต่างๆนานาเกิดกับตัวเองยังไม่รู้ ว่าเพราะสาเหตุใด มาตั้งกระทู้ถาม เเสดงว่าหมอไม่ได้ให้คำอธิบายคนไข้เลย หรือให้เเล้วไม่ได้สนใจรับฟังก็ไม่รู้ เราก็งงๆว่า ยาอันตรายขนาดนั้น ทำไมจ่ายง่ายจัง บางทีคนไข้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายาอะไร เอารูปเเคปซูลมาโพสถามว่ายาอะไร ปากเเห้ง ตาเเห้ง เลือดออกซิบๆยังไม่รู้ว่าเกี่ยวกับยา ไม่อยากจะคิดว่าหากท้องด้วยเเล้วจะเป็นยังไง ที่เมืองนอกหมอผิวหนังจ่ายยาเลยไม่ได้ คนไข้ต้องนัดหมอคุมกำเนิดอีกคน ต้องตรวจเลือดทั้งก่อนเเละระหว่างรับยา ต้องเซ็นใบรับรู้ถึงผลข้างเคียงของยา ก่อนที่หมอจะยอมจ่ายให้ ซึ่งไม่ง่ายเลย คุณ จขกท ตั้งข้อสังเกตมาเรื่องนี้ เราขอโหวต อึดอัดมานานมากเหมือนกัน จากคุณ : Syrup On Ice - [ 8 ก.ย. 49 13:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตๆ จากคุณ : แพนด้าหน้าแป้น - [ 8 ก.ย. 49 14:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ที่จริงสาเหตุของสิวมีได้จากหลายสาเหตุนะคะ  สำหรับบางคนที่ใช้ยาคุมกำเนิดในการรักษาสิวนั้นสามารถทำได้ ถ้าสิวนั้นมีความสัมพันธ์ในการเกิดจากฮอร์โมน  โดยจะใช้ยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำๆ  ซึ่งจะไปลด androgenic effect เช่น หน้ามันมาก  ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้เช่นกัน  ยาคุมที่ใช้จะเป็นยาคุมรุ่นๆใหม่ๆค่ะ เช่น ยี่ห้อ yasmin, oiless พวกนี้จะลดอาการข้างเคียงต่างๆลง  น้อยกว่าของยาคุมรุ่นเก่า เช่นยี่ห้อ magaret ,anna จึงไม่ทำให้อ้วน(กว่าเดิม ) ซึ่งเมื่อคนไข้ต้องการยาคุมกำเนิดนั้น  แพทย์หรือเภสัชกรนั้นจะต้องดูหลายๆก่อนถึงตัดสินใจจ่ายออกไป  เช่น - จุดประสงค์ในการใช้  คุมกำเนิด/รักษาสิว/ปรับฮอร์โมน/เลื่อนประจำเดือน - รอบเดือนมีกี่วัน - ประจำเดือนแต่ละครั้งมากี่วัน - เคยใช้ยาคุมมาก่อนไหม/ ใช้ย่างไร - เป็นลักษณะร่างกายแบบไหน      estrogen type  / progerterone type เพราะความ sense ต่อยาฮอร์โมนแต่ละตัวไม่เท่ากัน - และอื่นๆ ดังนั้นก่อนที่ใช้ยาคุมกำเนิดควรจะปรึกษา แพทย์ หรือ เภสัชกร  ก่อนใช้ยาทุกครั้ง  เพื่อความเหมาะสม และปลอดภัยค่ะ  เพราะคนละคนมี สภาพร่างกายที่งกันออกไปจะได้ใช่ยาเท่าที่จำเป็น แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 49 15:28:19 จากคุณ : นู๋ตาโต๊โต - [ 8 ก.ย. 49 15:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สรุปคือไม่ควรซื้อยาคุมกินเอง(ถ้าไม่รู้จริง) นะคะสาวๆ จากคุณ : นู๋ตาโต๊โต - [ 8 ก.ย. 49 15:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ได้ใช้ยาคุมแต่เพื่อนเภสัชบอกว่ายาคุมมีหลายราคาตั้งแต่แผงละ ไม่กี่  10  บาทถึงร้อยกว่าบาท  บางทีก็หลายร้อยก็มี เพราะว่า  ของถูกๆหน่อยกินแล้วอ้วน  ของแพงกินแล้วไม่อ้วน  (ไม่อ้วนขึ้นเท่านั้นไม่ได้ใช้ลดความอ้วน)   ไม่รู้ว่าจริงรึป่าว  แต่ฮอร์โมนทั้งของถูกของแพงก็เหมือนๆกัน  แต่เขาบอกว่าตัวแพงมีโครงสร้างพิเศษอะไรก็ไม่รู้ทำให้กินแล้วไม่อ้วนขึ้น จากคุณ : bubblebaba - [ 8 ก.ย. 49 15:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยจ้ะ..เรายังไม่กล้ากินเลยนะ...กลัวแพ้แล้วเป็นฝ้า คุณสาวๆ คุมความประพฤติให้ดีๆ น่าจะมีคนรักมากกว่า มีผิวหน้าใส หน้าใจอึ๋มเพราะยาคุมแต่ความประพฤติ ยอดแย่นะ :) จากคุณ : kwancheewaa - [ 8 ก.ย. 49 15:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ......กินเพื่อคุม ไม่ใช่เพื่อเพิ่มหรือลด จากคุณ : bootsarin (bootsarin) - [ 8 ก.ย. 49 18:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กระทู้นี้ได้ความรู้มากเลยค่ะ ส่วนตัวแล้่วไม่เห็นด้วยกับสาว ๆ ที่อยากให้หน้าใส แล้วไปหาซื้อยาคุมมากินเอง "โดยไม่ปรึกษาหมอ" เพราะผลข้างเคียงมันมีเยอะมาก *** แต่ก็คิดว่ายาคุมก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการรักษาสิวเหมือนกัน ยืนยันเหมือนคุณ#10 ที่เยอรมันเวลาไปหาหมอผิวหนังรักษาสิว ส่วนมากหมอจะบอกว่าิสิวเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgene)ในร่างกาย วิธีการรักษาสิวที่ดีทีุ่สุด ก็คือการควบคุมฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งก็คือการใช้ยาคุม(ฮอร์โมน) ซึ่งก็คือ ยาคุมกำเนิดนั่นเอง โดยหมอจะให้ไปตรวจภายในก่อน เพื่อดูว่าเราไม่มีปัญหา อะไรที่จะใช้ยาคุม แล้วถึงจะออกใบสั่งยาให้ไปซื้อยาคุม แล้วระหว่างที่ใช้ยาคุม ก็ต้องไปตรวจภายในเป็นประจำ เพื่อดูว่าไม่มีผลข้างเคียง เพื่อนสนิทรักษาสิวด้วยการกินยาคุมมาจะสองปีแล้วหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ตรงกับที่หมอด้านผิวหนังบอกว่า ต้องกินยาคุมอย่างน้อยปีครึ่งถึงจะเห็นผล เคยอ่านในใบแนะนำการใช้ยาคุม ยาตัวที่เพื่อนใช้ ในนั้นก็เขียนบอกชัดเจนว่า ใช้เพื่อรักษาสิว ใช้ควบคุมฮอร์โมน จากคุณ : ชิวเทียน - [ 8 ก.ย. 49 18:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สำหรับคนที่บอกว่าหมอสั่ง นั่นคือไปหาหมอแล้ว หมอตรวจแล้ว หมอถึงได้สั่ง แต่ที่จขกทมาพูดถึงนี่คือพวกที่สนใจอยากซื้อหามากิน โดยไม่ได้ปรึกษาหมอนี่คะ เห็นหลายคนเลยเหมือนจะหลงประเด็นว่าหมอสั่งให้กินบ้าง จำเป็นต้องกินเพราะเป็นโรคนั้นโรคนี้บ้าง ประเด็นจขกท เราเห็นด้วย อยู่เมืองนอกหมอต้องตรวจแล้วตรวจอีก (อ้อ ข้างบนคนไหนไม่รู้ที่บอกว่ายาคุมไดแอนมาแอบซื้อที่แคนาดา คือขอบอกว่าเค้าแอบซื้อกันไม่ได้หรอกถ่ช้าไม่ปรึกษาหมอก่อน) แต่ไปเมืองไทย ไปเดินวัตสัน หยิบยาเม็ดขึ้นมาดู ว่าอะไรเนี่ย พอรู้ว่ามันคือยาคุมก็ตกใจเหมือนกันว่าซื้อกันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ ไอ้ประเด็นที่ว่ากินยาคุมเพื่อช่วยลดสิวมันมีจริง แต่ควรจะให้หมอเป็นคนรับรองจะดีกว่าไหม? จากคุณ : {P}a{T}t{Y} - [ 9 ก.ย. 49 00:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีคะ จขกท เองคะพึ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ตกใจที่กระทู้กลายเป็นกระทู้นำไปซะแล้ว ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้าใจจุดที่เราต้องการจะบอกนะคะ เราอาจจะพูดกำกวมไปหน่อยหลายท่านเลยเข้าใจผิด ประเด็นที่เราต้องการจำนำเสนอคือ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาคุม อย่าซื้อมากินเองเพราะอยากอึ๋มหรือป้องกันสิว ผลได้อาจจะไม่คุมเสียคะ  ส่วนท่านที่ท่านยาคุมเพราะหมอสั่งนั่นคือสิ่งที่เหมาะสมแล้วคะ ส่วนตัวเราเองก็กินยาคุมมา 3 ปีแล้ว สาเหตุที่กินเพราะเป็นซีสที่รังไข่คะทั้ง 2 ข้างเลย ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นซีสคะ ธรรมดาประจำเดือนมาเยอะถึงเยอะมากอยู่แล้ว เราตัวเล็กและผอมด้วย แต่เป็นทีเดือนละ 7 วัน เยอะขนาดเรียกได้ว่า วิสเปอร์แมกซี่ยาวที่สุดตอนนอนเอาไม่อยู่ (น่าจะมีผ้าอนามัยแบบผ้าอ้อมเด็กไว้ใส่ตอนนอนเนอะ ฮิฮิ)   แล้วปวดท้องมาก แบบสลบเพราะปวดท้องทุกเดือน สนิทกะพยาบาลที่ฉีดยาให้เลยแบบแม่ต้องขับรถไปทุกเดือน (เวอร์ไหมแต่เรื่องจริงนะ) ที่ทำงานจะรู้เลยว่าเราต้องหยุดอย่างน้อย 1 วันทุกเดือน หลังๆปวดท้องน้อยตุ๋ยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีประจำเดือน (เพื่อนคะใครมีอาการแบบเราไปหาหมอตรวจภายใน และสงสัยได้เลยว่าคุณจะเป็นซีส) สุดท้ายก็ไปตรวจก็อย่างที่บอกคะเป็นซีสที่รังไข่ทั้งซ้ายและขวา หมอไม่ได้แนะนำให้ผ่าคะเพราะยังเด็ก(หมอบอกนะ)และให้กินยาคุม แต่ยาคุมที่หมดจ่ายให้เราเองไม่ถูกกะเรา เพราะเรากินแล้วเลือดออกกระปิดกระปอยตลอดเวลาที่เรากินยา ช่วงเวลาที่เรากินยาคุมเรารู้สึกเหมือนว่าเราป่วย ต้องกินยาทุกวัน อาการเปลี่ยนทุก 2 วัน คลื่นไส้ เวียนหัว บ้างวันหิวกินดะกินทุกอย่าง(เหมือนปอบ) บ้างวันไม่อยากกินเลย เหม็นไปหมด (แฟนบ่นเอาใจลำบากจริงๆ)   อ้อ....รู้ไหมคะหมอจ่ายยาอะไรให้เราเวลาเราปวดท้อง พอนล์สเตน ให้กิน 3 เวลาหลังอาหาร (พอนล์สเตนเป็นยาอักเสบที่กินได้แบบนั้นเลยหรือคะ ผู้รู้ช่วยตอบที ) แต่ตอนนี้..... เราเข้าออกโรงพยาบาลที่นี่เป็นว่าเล่นเพราะเรื่องซีสนิแหละคะ เราเจาะเลือดไปทั้งหมด 4 รอบ รวมแล้ว 16 หลอด (ยิ่งแห้งๆอยู่เหี่ยวหมดแขนพรุนด้วย) อัตตราซาวน์เรียบร้อย หมอบอกว่าข้างซ้ายเป็นซีสนะส่วนข้างขวาเป็นก้อนเนื้อ ช๊อกคะเกือบลมทั้งยืนกลัวจะได้ตัดมดลูกทิ้ง กลัวที่จะต้องผ่าตัดตอนอยู่เมืองนอกคนเดียว กลัวเข็ม กลัวมีด กลัวผีฝรั่ง โอ๊ยยย กลัวไปหมด  กลับไปบ้านเราเอาฟิลม์เก่าที่ถ่าย 3 ปีก่อนไปเทียบกะผลอันใหม่ดูข้างซ้ายลดไป 2 มิล (โถ่กินมา 3ปีหลังจากที่เปลียนยาแล้ว ลดได้แค่เนี้ย) ข้างขวาเพิ่มขึ้นมาเกือบเซนต์ (แย่มาก) แต่ยังไม่มีผลสรุปสำหรับเรื่องนี้คะ อาทิตย์หน้านี้แหละคะ จะไปหาหมออีกที ว่าจะต้องผ่าหรือเปล่า ใจที่จริงแล้วอยากให้ผ่าเพราะไม่อยากกินยาคุมไปตลอด รู้สึกเหมือนตัวเองป่วยจริงๆ โหเล่าชีวะประวัติมาซะยาว ถือว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันนะคะ   มีบ้างท่านบอกว่ามาตรฐานเมืองนอกกะเมืองไทยไม่เหมือนกัน อยู่เมืองนอกอาจจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า  แต่เราอยากจะบอกว่า เราเลือกบริโภคได้คะ เราเลือกที่ใช้ เราคิดก่อนทำได้คะ จากคุณ : หรือว่าเพียง..ใบไผ่กะยอดกอหญ้า - [ 9 ก.ย. 49 04:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้...สู้ๆๆๆๆๆนะค่ะ.... จากคุณ : เด็กพี่เบ็ค - [ 9 ก.ย. 49 08:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นที่วัตสันเค้าวางไดแอนให้หยิบได้บนเคาน์เตอร์เลยนะ น่าเกลียดมาก ถึงแม้ไม่มีกฎหมายห้ามก็น่าจะมีจรรยาบรรณกันบ้าง จากคุณ : apotheker - [ 9 ก.ย. 49 11:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กรณีของการให้ยาคุมกำเนิดเป็น prescription drug อย่างที่จขกท ว่า ผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่ต้องตามแบบเมืองนอก คือให้แยก อำนาจในการprescription ออกจาก dispensing คือหมอสั่งจ่ายยา แล้วเภสัชกร เป็นผู้จ่ายยา เพราะถ้าเป็นแบบเมืองไทย ก็จะไม่ต่างอะไรจากปัจจุบันคือก็จะมีแพทย์บางคนจ่ายยาเป็นว่าเล่นเพราะได้กำไรจากการขายยาด้วย การใช้ยาก็คงยังฟุ่มเฟือยอยู่เหมือนเดิม  ไม่เฉพาะยาคุมนะครับ ผมหมายรวมถึงยาอันตรายอื่นๆด้วย การให้ยาคุมเป็นprescription drug ในเมืองไทย ต้องมองให้รอบคอบนะครับ ตราบใดที่ค่านิยมในการใช้ถุงยางอนามัย ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างที่เป็นอยู่นี้ หากการให้ยาคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยาก ก็จะทำให้การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เพิ่มมากขึ้นแน่นอน และที่แย่ก็คือการทำแท้งเถื่อนก็จะมีมากตามมา เท่าที่ทราบในหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้วก็เริ่มมีการหยิบยกเรื่องนี้มาถกกัน ใหม่อีกนะครับ ว่าผลดีผลเสียแบบไหนมากกว่ากัน จากคุณ : apotheker - [ 9 ก.ย. 49 11:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เรากินเพื่อต้องการคุมกำเนิดเป็นหลัก แต่ผลพลอยได้คือ ไม่มีสิว ปวดประจำเดือนน้อยลงมาก ๆ หน้าอกไม่ได้เพิ่มมาก (ปกติมีอยู่แล้ว 5555) ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เวลาเพื่อนมาถาม ว่าจะกินยี่ห้อไหนดี จะเอาแบบรักษาสิว เราว่ามันผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย จากคุณ : MiCkEy..BoY - [ 9 ก.ย. 49 13:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โหวตค่ะ... กระทู้ดีดี อย่างนี้ ต้องโหวตค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 49 20:36:00 จากคุณ : อสูรหัวโต - [ 9 ก.ย. 49 20:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ที่อเมริกาที่ต้องตรวจกันละเอียดยิบ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก แต่เพื่อป้องกันการฟ้องร้องกันในกรณีที่เกิดผิดพลาดขึ้น หมอก็จะได้บอกว่า ตอนที่สั่งยาให้ ตรวจไม่พบความผิดปกติอะไร ที่อเมริกามันฟ้องกันแหลก ไม่เหมือนเมืองไทย จากคุณ : ม้าหงอย - [ 9 ก.ย. 49 22:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เราก็เป็นคนหนึ่งค่ะ ที่ทานยาเพื่อปรับฮอร์โมนเหมือนกัน แต่อ่านแล้ว อาการคุณจขกท.คล้ายเรามากๆ เลย ตอนเป็นเมนส์ คือเมนส์มาเยอะมากๆ (เราเคยนั่งทำงานเพลินๆ ลุกขึ้นมาอีกที เมนส์ไหลลงมาตามขา สยองมาก) แถมมานานอีกต่างหาก 7 วันขึ้นไป ปวดท้องสุดๆ แต่ไม่ถึงกับต้องฉีดยาค่ะ อย่างมากก็แค่อาเจียน ขาสั่น เท่านั้นเอง อ้อ เคยถึงกับเป็นลมแค่ครั้งเดียวค่ะ เมื่อปีที่แล้ว ลองไปตรวจภายในมา โชคดี ที่ไม่เจออะไรแบบคุณใบไผ่ แต่คุณหมอ(สูตินารี)ก็สั่งยาปรับฮอร์โมนมาให้ทาน พอยาหมด คุณพ่อ(ซึ่งเป็นอายุรแพทย์) ก็เลยให้ทานเป็นยาคุมแทน อาการต่างๆ เมนส์มาปรกติขึ้น ไม่เยอะ ไม่ปวดท้อง พอนสแตนที่คุณหมอเคยให้ไว้ ก็ไม่ต้องทานแล้ว เพราะไม่ปวด ผลข้างเคียงก็ แบบคนอื่นค่ะ หน้าใส หน้าอกขยาย แต่ถ้าให้เลือกได้ ขอร่างกายปรกติ ไม่ต้องทานยาอะไร เพื่อปรับ จะมีความสุขกว่าค่ะ ปล.พอนแสตน เป็นยาแก้ปวดค่ะ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ ทานขณะมีอาการ แต่ไม่ควรบ่อยกว่า 4 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการ ไม่ต้องทานก็ได้ค่ะ ^^ จากคุณ : :+:+: ลู ก แ ม่ บ๊ ว ย :+:+: - [ 11 ก.ย. 49 02:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เราก็เป็นคนนึงที่ทานยาคมกำเนิดไดแอน  แต่ก็ด้วยความไม่ตั้งใจหรอกนะ เราแต่งงานเมื่อปีที่แล้วก็เลยไปตรวจเลือดและตรวจภายในกับหมอสูติ  ระหว่างหมอบันทึกก็มองหน้าเราและถามว่าปกติสิวขึ้นเยอะแบบนี้เหรอ???  เราตอบว่าใช่ค่ะ ก็เครียดๆเหมือนกัน แม่และพี่สาวน้องสาวก็เป็นกันทั้งบ้าน   หมอเลยแนะนำว่าถ้ายังไม่คิดจะตั้งครรภ์ก็ให้ทานยาคุมซิ(แต่งแล้วคิดว่าจะใช้ถุงยางเพราะกลัวผลข้างเคียงจากการทานยาคุม)  ปกติหมอก็เป็นสิวนะหมอทานยาคุมก็เลยดีขึ้น  จากไม่เคยคิดก็คิดเลยซิ เช้าวันรุ่งขึ้นไปหาเภสัชกรเลย ขอยาคุมแบบรักษาสิวน่ะค่ะ  เภสัชหยิบให้ทันที..ไดแอน แถมบอกว่านักศึกษาที่นี่เค้าทานนี่กันทั้งนั้นหน้าถึงใสกิ๊กกัน ยิ่งกะเทยนะยิ่งชอบเพราะทานแล้วหน้าใสแถมอึ๋มด้วย ( ร้านเภสัชอยู่ในมหาลัยค่ะ )   เดือนแรกผ่านไปหน้าก้ยังมีสิวอยู่ แต่พแดอนที่2-3 หน้าเด้งมากกกกกกกกกก  เด้งจนไม่หน้าเชื่อ  อึ๋มขึ้นอีกต่างหาก  ทานได้สัก6เดือนเลยหยุด เพราะอยากมีลูกแล้ว  สิวนี่กลับมาอื้อเลย  พอท้องได้2เดือนแท้ง  ก็กลับมากินใหม่อีก  ตอนนี้หน้าก็เริ่มกลับมาเด้งอีกรอบแต่ยังไม่เท่ารอบแรก  คนเป็นสิวเท่านั้นถึงเข้าใจ....เพราะมันเรียกความมั่นใจกลับมาได้  แต่ก็คิดไว้ว่าคงไม่ทานตลอดไปหรอก ถ้ามีลูกครบ พร้อมปิดอู่ก็คงหมันไปเลย (แอบทาบทามสามีไว้แล้ว)  กินตามคำแนะนำของแพทย์ดีกว่านะค่ะ จากคุณ : far (ปลายสายน้ำ) - [ 11 ก.ย. 49 12:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอาบทความเรื่องยาคุมกำเนิดมาฝากค่ะ เห็นว่ามีประโยชน์ดีที่นี่  http://www.clinicrak.com/birthcontrol/lady_pills11.html จากคุณ : พูดจริง - [ 11 ก.ย. 49 14:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 จขกท ยังดีที่หาหมอทีได้ยาคุม 12 แผง เบลเยี่ยมได้แค่ทีละ 3 แผงเองค่ะ เราว่าทางที่ดีใครอยากทาน ไม่ว่าจะคุมกำเนิด คุมสิว ความอ้วนอะไรก็ช่าง ให้หาหมอเช็คร่างกายให้ดีซะก่อนดีกว่าค่ะ เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน จากคุณ : bellemaman - [ 11 ก.ย. 49 19:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กินยาคุมฯ เพราะต้องคุมก้อนเนื้อนอกในมดลูก และยับยั้งการมีประจำเดือน ผลที่ได้คือ น้ำหนักลดลงเล็กน้อย อึ๋มขึ้นมากๆ ( เบื่อสุดๆ เพราะไม่ชอบหน้าอกใหญ่ ) หมอที่แคนาดา แจกยาคุมยาสมิน ทีละ 12 แผงค่ะ แต่กว่าจะได้มาก็ต้องไปตรวจภายใน ทั้งเจาะเลือด สอบถามประวัติคนในครอบครัวสารพัด เฮ้อ... จากคุณ : beemi - [ 12 ก.ย. 49 06:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โหวตด้วยดิ เคยกินเหมือนกัน แต่พอซักพักรู้เลยว่ามีผลข้างเคียง แฟนบอกให้เลิกกินไปเลย เค้ากลัวมีอันตรายกะเรามั้ง จากคุณ : ขนุนหน้าบ้าน - [ 12 ก.ย. 49 17:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จริงๆแล้ว ยาคุมฯแบบรับประทาน ในปัจจุบันมีการพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก มีผลข้างเคียงน้อยลง   หน้าที่อย่างหนึ่งคือ  ควบคุมฮอร์โมนให้หลั่งสมดุลกันมากขึ้น   เพราะผู้หญิงบางคน  มีฮอร์โมนผู้ชายมากกว่าฮอร์โมนผู้หญิง   เช่น  มีขนยาวดกดำ  หน้ามัน  สิวขึ้นง่าย ตรงนี้เองที่ทำให้บางคนกินยาคุมฯ เพราะสาเหตุนี้ ***----  ที่อยากแนะนำคือ  ----***   ก่อนรับประทานยาคุม   คุณต้องพ บ แ พ ท ย์   เพื่อ ต ร ว จ ภ า ย ใ น   ซึ่งจะเวอร์จิ้น ไม่จิ้น ก็ต้องทำค่ะ   คิดซะว่า ไม่ถึง 15 นาทีเอง  ส่วนหมอเนี่ย  เดี๋ยวเดิน ออกจากห้อง  ก็ไม่เจอกันแล้ว  แล้วจะไปอายทำไม เอาสุขภาพเป็นสำคัญดีกว่า ปล.  มะเร็งปากมดลูก  เป็นมะเร็งอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตหญิงไทย  ซึ่งจริงๆแล้วถ้าตรวจพบขั้นแรก สามารถรักษาให้หายได้   ดังนั้นอย่าใช้ชีวิตแบบประมาทกันเลย จากคุณ : Wendy Darling - [ 13 ก.ย. 49 11:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เคยกินยาคุมเหมือนกันค่ะ แต่กินเพื่อคุมกำเนิดนะคะ แต่ผลพลอยได้คือหน้าใสมาก แล้วก็อึ๋มด้วย อ้อยาคุมที่กินก็ยี่ห้อไดแอนค่ะ แต่พอกินมาได้ 4 ปี แล้วก็นึกอยากจะมีลูกเลยเลิกกิน พอเลิกกินได้สัก 1 เดือนก็กลับมาเป็นสิวอีก เป็นสิวเยอะมาก ๆ และเวลาเป็นประจำเดือนวันแรกที่เป็นก็จะปวดท้องมาก ๆ ถึงขั้นทำงานไม่ได้เลยล่ะ  ตอนนี้ก็เลิกกินยาคุมมาได้ 9 เดือนแล้ว ยังไม่มีลูกเลย จากคุณ : เล่าสู่กันฟัง (DNAngel) - [ 13 ก.ย. 49 17:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ควรกินยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวหรือไม่  คลิกเข้าไปที่ http://www.fda.moph.go.th/1556/menu2.asp?tid=0821จะมีข้อมูลว่าการกินยาเม็ดคุมกำเนิดจะรักษาสิวได้ในกรณีที่สาเหตุของการเกิดสิวมาจากความผิดปกติของระดับฮอร์โมนเพศเท่านั้น  ถ้าเป็นสิวจากสาเหตุอื่นกินยาเม็ดคุมกำเนิดไปก็ไม่ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก ซึ่งอาการข้างเคียง หรือข้อควรระวังจากการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวนั้นไม่แตกต่างจากการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อการคุมกำเนิดตามปกติ จากคุณ : การะเวกน้อย - [ 14 ก.ย. 49 03:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 Thank you Khun "หรือว่าเพียง..ใบไผ่กะยอดกอหญ้า". I have been annoyed by B-control for acne. I am in the US. I have been used B-control pills for a while for both contraceptive and adjusting hormone reasons. The most dangerour is "blood clot" especially SMOKER. So if you are smoking cigarette and you want to take B-Control for whatever reasons, PLEASE see a doctor before you take it. The doctors in the US take this very seriously. จากคุณ : Sorry I can't type thai ka (It is a life) - [ 14 ก.ย. 49 05:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เคยใช้ยาคุมฯไดแอนเหมือนกัน เพราะซื้อมาจากเมืองไทย ตั้งครึ่งโหล จุดประสงค์เพื่อคุมกำเนิด แต่ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีหรือไม่มีสิวเพราะปกติหน้าก็ไม่มีสิวอยู่แล้ว แต่ที่ซื้อเพราะมันคงชื่อติดหูน่ะค่ะ หาซื้อง่าย(ที่เมืองไทย) แต่พอยาหมด ต้องไปหาหมอเพื่อขอใบสั่งยา พอหมอซักประวัติ ก็เปลียนยาตัวใหม่ให้เลย คือมันมีตัวยาอื่น ๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ และคงมีผลข้างเคียงด้วย จากคุณ : Rosa Rossa - [ 14 ก.ย. 49 19:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถามหน่อยค่ะ กินยาคุมแล้ว ผมร่วงหรือเปล่าคะ? จากคุณ : bg - [ 15 ก.ย. 49 05:25:11 A:66.8.150.101 X: TicketID:116331 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งเห็นกระทู้นี้ โหวตให้ด้วยคนค่ะ เราว่าอะไรที่มันมากไป มันก็ไม่ดีนะ ไม่ว่าจะกินด้วยสาเหตุใด ถ้าหากว่ากินติดต่อกันนาน ๆ มันก็เหมือนไปฝืนธรรมชาติอ่ะ ตอนช่วงที่เรากินยาคุม เรากินอยู่เป็นปีเหมือนกัน ช่วงนั้นเวลาไปตรวจภายใน หมอบอกว่าปากมดลูกเราจะเป็นสีออกแดง เหมือนอักเสบอยู่เรื่อย แถมติดเชื้อง่ายด้วยค่ะ พอหยุดยาคุมก็ไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไหร่ ส่วนคนที่กินแล้วอึ๋มนี่ เราว่าม้นบวมไปหมดทั้งตัวอ่ะ คงไม่ได้อึ๋มเฉพาะส่วนนั้นหรอกค่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน - [ 15 ก.ย. 49 23:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 66 หมอคนนึง ดังมากๆๆๆ บอกเราว่าอย่าไปกินยาคุม เพราะมันจะทำให้เป็นฝ้า หมอบอกว่า อยากจะแช่งให้บ.ยาคุมพวกนี้ เจ๊งๆไปเลย เพราะแบบหลอกลวง อะไรประมาณนี้อ่ะ เราว่านะ ในเรื่อง ของ ความสวยงาม มันก็อาจจะเป็นไปได้ แต่มันคงเป็นแค่ผลพลอยได้มากกว่า จะเป็นยาแก้สิว หรือ อื่นๆ พวกนี้โดยตรงอ่ะค่ะ จากคุณ : สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาสุดๆ - [ 16 ก.ย. 49 22:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ประเภทให้แต่คุณไม่มีโทษน่ะไม่มีในโลกหรอกค่า สาวๆระวังกันก็ดีนะคะ ปรึกษาแพทย์ดีที่สุด ที่น่ากลัวคือ ตอนนี้วิทยาการยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ แต่อีกหน่อย...อาจะจะสิบปียี่สิบปี...วิทยาการดีขึ้น แถมมีตัวอย่างจากการใช้ จึงบอกเราได้ว่ากินแล้วมีโทษ...แค่อาจจะนะคะ...ถึงวันนั้น เราจะทำยังไงล่ะคะ ยาในอดีตที่ปัจจุบันสั่งห้ามแล้วก็มีอยู่หลายตัว เป็นห่วงสาวๆจริงๆนะ จากคุณ : หมีอ้วนนอนกลางวัน (หมีอ้วนนอนกลางวัน) - [ 17 ก.ย. 49 08:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 68 โหวตให้ค่ะ เคยเรียนมาเหมือนกัน อาจารย์บอกว่า บางคนทานยาคุมแล้วทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติอ่ะ จนมีลูกไม่ได้ เพราะมันไปควบคุมฮอร์โมนของเรา พอเลิกทานแล้วมันก็กลับมาเป็นปกติไม่ได้ แต่มันก้อไม่ได้เกิดแบบนี้กับทุกคน มันอาจจะเกิดน้อยมากกกก  แต่ถ้ามาเกิดกับตัวเราเองนี่ก้อแย่เลยนะคะ บางคนทานเพื่อให้หน้าใส เราว่าควรปรึกษาคุณหมอสักหน่อยก้อดีนะ  ระวังไว้หน่อยก้อดีค่ะ จากคุณ : Ja-E'Jr - [ 17 ก.ย. 49 14:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ร่างกายของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จะกินยาชนิดใด ก็ควรที่จะปรึกษาหมอเสียก่อน กินสุ่มสี่สุ่มห้าอาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ ทุกวันนี้ก็เสพยาคุมเหมือนกัน ต้องใช้คำนี้เพราะต้องกินทุกวันเป็นเวลาถึง21 วันต่อเดือน วันไหนเหนื่อยๆลืมกิน ต้องตะเกียกตะกายงัวเงีย ขึ้นมากินกลางดึกกลางดื่น เบื่อสุดๆ แต่ก็ทนเพราะยังไม่อยากมีลูก ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไรจะอยากมีเหมือนกันนี่ก็ปาเข้าไป 32 แล้ว แต่งงานมาก็ 6 ปีแล้ว สรุปง่ายๆได้ว่า กินยาคุมมา 14 ปีเต็มแบบมาราธอน แถมยังรักเดียวใจเดียวกินแต่ ไดแอน ไม่เคยเปลี่ยน แรกๆก็กินเพี่อคุมความแรดของตัวเอง เพราะมีแฟนตั้งแต่สมัยเรียน พ่อแม่รู้แต่ก็ว่าอะไรไม่ได้เพราะตามใจจนเคยตัว เพียงแต่ขอร้องว่าห้ามป่อง และต้องเรียนให้ได้เกรดดีๆ กินแค่แผงแรกก็ต้องเปลี่ยนเสื้อในเลย มันอึ๋มแบบไม่เกรงใจเจ้าของ ตอนนั้นปวดนมมากเลยน้องๆ สามเดือนต่อมาหน้าจากที่เป็นสิว ก็หายไปแบบไร้ร่องรอย หน้าเด้งยิ่งกว่านางเบบ นี่คือผลดีที่ได้รับ ส่วนผลเสียคือ ผอมลงทุกวันเพราะกินยาไม่ตรงเวลา ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เวียนหัว กินไรไม่ได้ จะอ้วก กลับไปถามหมอเค้าบอกว่าให้พยายามกินเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อรักษาระดับของฮอร์โมน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีปัญหาอีกเลย จนมาอยู่ต่างประเทศไปหาหมอที่คลินิกเพี่อขอใบสั่งยา ซึ่งที่นี่ตามกฎหมายจะซื้อยาบางชนิดต้องตามใบสั่งเท่านั้น หลังจากวัดความดันกับซักประวัติ พ่อแม่ และปู่ย่าตายายเราเสร็จแล้ว หมอถามว่ากินตัวนี้มากี่ปีแล้ว พอรู้ว่ากินมาหลายปี หมอฝรั่งตกใจ บอกว่ายามันแรงและมีผลข้างเคียงเยอะ อย่ากินเลย ปกติแล้วไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 2 ปี ว่าแล้วก็ออกใบสั่งยาตัวอื่นที่เราไม่รู้จักมาให้ ที่เค้าเห็นว่าเหมาะสม ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธมากถึงมากที่สุด อยากตบหมอมากที่บังอาจ มาพราก ไดแอน สุดที่รักไปจากเรา กรี๊ดๆๆๆๆ สุดท้ายต้องยอมจำนน เดินคอตกไปรับยาที่ Boots ที่หมอให้ฟรีมา 6 เดือน กินๆๆไปได้ 3 เดือนก็เกิดอาการ เหมือนโรคพิษสุนัขบ้า คือขี้โมโหมากเห็นใครทำไรไม่ถูกใจนิดหน่อย จะกัดเค้าท่าเดียว นิสัยเปลี่ยนจากนางฟ้าเป็นหมาจรจัดหื่นกาม โดยจะเป็น step เริ่มจากหงุดหงิดเล็กน้อยก่อน แล้วตามด้วยโมโหด่ากราด กระแทกกระทั้น ขว้างปาสิ่งของ พอไม่มีใครสนใจต่อปากต่อคำด้วยยิ่งโมโหหนัก เพื่อนร่วมงานฝรั่งมันจะรู้แกวพากันหลบฉาก ปล่อยให้บ้าอยู่คนเดียวจนเหนื่อย ทีนี้จะเริ่มร้องให้ ด้วยความน้อยใจที่ไม่มีใครรักและเข้าใจเราซะเลย ซึ่งถ้าเป็นหมาก็คงจะเห่าหอนแบบได้ยินไปสามบ้านเจ็ดบ้าน    ไม่นานสามีทนความระห่ำไม่ไหวรวบรวมความกล้ามากระซิบว่า  ให้รีบไปเปลี่ยนยาคุมโดยด่วน อาการแย่ลงทุกวันจนนึกแล้วเสียดายมากที่ โรควัวบ้า ( Mad Cow Desease) มีคนจองแล้ว ไม่งั้นจะนำมาตั้งชี่อโรคให้ดิฉัน ที่ปกติฝรั่งที่นี่จะเรียกผู้หญิงที่นิสัยไม่ค่อยดีและงี่เง่าว่า Cow ที่แปลว่าวัว สุดท้ายก็วนกลับไปหา ไดแอน แฟนเก่า ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีไม่มีปัญหาอะไร หน้าใส นมใหญ่ นิสัยดี เหมีอนเดิม  ภายใต้ความควบคุมของหมอ ไม่มี่ปัญหาค่ะ จากคุณ : Gisele - [ 19 ก.ย. 49 02:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ได้รับความรู้เยอะมากๆเลยค่ะ  เราเองเข้าข่ายประจำเดือนมาไม่ปกติ  ขาดไป 3-4 เดือน  แต่เวลาเป็นก็จะเป็นถึง 10 วัน  ไปตรวจภายในมาแล้ว  คุณหมอให้กินฮอร์โมน กับยาคุม  ตอนนี้เรากินyasmin อยู่นะ  ไม่มีอาการเวียนหัวเหมือนกินไดแอน  เภสัชแนะนำว่า yasmin เอสโตรเจนน้อยสุด กินแล้วไม่อ้วน รักษาสิวด้วย  แต่ทำไมตอนนี้เราสิวอักเสบเต็มหน้าเลยก็ไม่รู้  เยิกว่าตอนที่ไม่ได้กินอีกน่ะ จากคุณ : The Invisible girl - [ 19 ก.ย. 49 11:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยาคุมกลุ่มที่ช่วยรักษาสิว คือจะยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ต้นเหตุของสิว แต่สิวอักเสบติดเชื้อนี่ มีเชื้อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ ดูแลความสะอาด ทายา  ไม่งั้นยาคุมไม่ช่วยหรอก ดูแลไม่ดีก็ลามต่อละครับ จากคุณ : ZtahC - [ 19 ก.ย. 49 12:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แต่ตอนที่ยังไม่กินยาคุม เราไม่มีสิวเลยอ่ะค่ะ  ก็เลยงงว่า เป็นเพราะฮอร์โมนเพศชายในตัวมากเกินไปรึป่าว จากคุณ : The Invisible girl - [ 19 ก.ย. 49 13:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เราก็เคยกิน(เพราะคุมนะ)มีผลข้างเคียง คือ เป็นกระเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมมมมมม  ตอนนี้ไม่ได้กินมาเป็นปีกระก็ยังไม่ลดเลย ต้องไปหาหมอ+ทายาเอา ก็ไม่หายสนิทซะที จากคุณ : โมโมจิ จัง - [ 19 ก.ย. 49 17:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 74 บางคนเข้าใจว่ากินแล้วอ้วนเลยไม่ยอมกิน ถุงก็ไม่ยอมใช้ พอสิ้นเดือนก็มานั่งเครียด น่าเป็นห่วงพอๆกับคนที่เข้าใจว่า ยาคุมเป็นเครื่องสำอางอย่างหนึ่งนั่นแหล่ะ  ที่บ้านเราหาซื้อง่ายจริงๆ  ดิฉันอยู่ต่างแดนก็เหมือนที่เพื่อนๆบอกล่ะค่ะ กว่าจะหายาคุมมากินได้นี่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอนะคะ  และคุณหมอไม่ออกมั่วซั่วให้เด็ดขาดจนกว่าจะผ่านการตรวจ ยาคุมที่นี่ค่อนข้างแพง  เคยบอกแฟนว่าให้ที่บ้านส่งมาให้ก็ได้ถูกกว่าตั้งเยอะ ผลก็คือโดนดุ  สุขภาพเราสำคัญกว่า  ถ้าไม่จำเป็นอย่ากินยาอะไรเข้าไปเลยค่ะ  โดยเฉพาะยาที่นอกเหนือจากการดูแลของหมอ บางทีความเข้าใจผิดๆของเราอาจจะมีโทษตามมาทีหลังนะคะ ไม่คุ้มกันหรอก จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล - [ 22 ก.ย. 49 04:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ยังอานไม่จบค่ะ แต่ขอโพสท์บ้าง น่ากลัวจริงๆเลย เราเป็นคนนึงที่ไม่อยากทานยาคุมค่ะ แต่ว่าต้องทานเพราะหมอสั่ง กำลังจะเริ่มหลังจากทานฮอร์โมนอีกตัวให้หมดก่อน อาการเราคือ ไม่มีประจำเดือนค่ะ ไม่มีมา 5 เดือนละ ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีมาประมาณ 5เดือนเหมือนกัน งงมั๊ยคะ คือมันโผล่มาครั้งนึงตรงกลางระหว่าง 5 เดือนอ่ะค่ะ จริงๆก็ชอบนะทีไม่มีเนี่ย แต่ว่ามันไม่ปกตินี่นะสิ ก็เลยไปหาหมอค่ะ เค้าก็จับตรวจหลายๆอย่าง มะเร็งด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไร หมอเลยให้เริ่มปรับฮอร์โมนเลย ได้ใบสั่งให้รีฟิลยาคุมได้ 13 ครั้งค่ะ หมดก็ต้องไปหาหมดใหม่ล่ะ แพงจริงๆค่ะ มีประกันยังต้องจ่ายค่ายาคุม 30 เหรียญเลยอ่ะ หมอสั่ง YAZ รู้สึกว่าเป็นบริษัทเดียวกับ YAZMIN แต่ว่าตัวนี้โดสยาต่ำกว่านิดหน่อยค่ะ มีคำถามอยากถามคนที่ทานยาคุมกันอยู่นะคะ เพราะอ่านแล้วกลัว เราเป็นคนหน้าใสอยู่แล้ว นานๆๆมากถึงจะมีสิวซะที แล้วทีนี้พอทานยาคุมหน้าจะใสใช่มั๊ยคะ แล้ววันนึงถ้าเราหยุดยาคุม เราจะได้สิวมาเป็นของแถมมั๊ยเนี่ย แล้วกินยาคุมอ้วนขึ้นกันเยอะมั๊ยคะ กลัวอ้วนมากไปกว่านี้.... ปล การกินยาคุมเพื่อปรับระดับฮอร์โมนนี้ หมอบอกเราเหมือนกันค่ะว่า ถ้าเราหยุดยาคุม ประจำเดือนมันก็ไม่มาอีก เหมือนที่เคยเป็น จะให้หยุดก็ต่อเมื่อเราอยากจะมีบุตร ถามหมอเรื่องผลข้างเคียงเวลาทานยาคุมระยะยาว เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร อยากฟังจากคนที่ทานจริงๆ เคสคล้ายๆเรา (หรือไม่คล้ายก็ได้) ดูบ้างว่ามีผลทางปฏิบัติจริงอย่างไรกันบ้างคะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 49 19:56:36 จากคุณ : punky girl - [ วันมหิดล 19:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอถามหน่อยค่ะ คือ กินยาสมิน เพื่อควบคุมสิว หมอสั่งให้ทานแต่ไม่ได้บอกให้ทานยังไง ต้องกินต่อเนื่องไปเลยโดยไม่ต้องหยุด หรือว่าหยุดให้มีประจำเดือนแล้วค่อยขึ้นแผงใหม่ ถ้าไม่หยุดจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ จากคุณ : กระแต - [ 3 ต.ค. 49 08:56:52 A:10.90.5.182 X:202.28.181.10 TicketID:126460 ]