ความคิดเห็นที่ 1 มีปัญหาคล้ายๆกัน ผมลองไปซื้อ Loreal Men Expert Oil Control มาใช้ ผมว่ามันก็ได้ผลดีระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนัก คือหน้าจะมันน้อยลงเล็กน้อย และจะใช้เวลานานขึ้นกว่ามันจะมันเต็มที่เหมือนกับไม่ได้ทาอะไร พอจะหมดขวด ก็อ่านเจอว่า มีคนใช้ Nivea for MEN Oil Control แล้วได้ผลดีกว่าของ Loreal ก็เลยลองเปลี่ยนดู ขวดละตั้งกว่า 240 บาท พอทาดูแรกๆ ก็เหมือนว่าจะดีกว่า มันทำให้หน้าดูแห้งลง ดูสดใสขึ้น แต่แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น มันก็จะกลายเป็นฟิล์ม มันๆ เหนียวๆ เคลือบหน้าอยู่ ทำให้หน้าดูมันยิ่งกว่าไม่ได้ทาอะไรเลย และเวลาเอามือไปแตะที่ใบหน้ามันจะเหนียวๆ ลองใช้ได้สองวันก็ทิ้งเลยครับ เสียดายเงินมากๆ ตัวที่ใช้ได้ผลดีที่สุดก็ OC8 Oil Control ขายที่ Boots ในอังกฤษ น้องเคยซื้อมาฝาก ใช้ดีสุดๆ ทำให้หน้าแห้งได้เกือบทั้งวัน แต่เสียดาย พอหมดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้อีกยังไง Boots ที่เมืองไทยก็ไม่นำเข้ามาขาย จากคุณ : Kasteo - [ 22 ก.ย. 49 21:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จริง ๆ แล้วปัญหาผิวมัน แก้ที่ครีมบำรุงอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ เหมือนกับเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สาเหตุที่แท้จริงของผิวมัน มาจากภายใน เช่นพันธุกรรม และการขาดสารอาหารบางชนิด รวมถึงฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของวัยรุ่นอีกด้วย โปรดสังเกตว่า เมื่ออายุมากขึ้นความมันก็จะลดลงไปตามค่ะ คราวนี้การแก้ปัญหาของผู้ชายทำอย่างไรได้บ้าง แนะนำให้เฉพาะสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย หรือไม่ต้องให้แพทย์จัดการนะคะ ก็คือการทานอาหารเสริม หรือวิตตามินต่าง ๆ อาหารเสริมที่แนะนำให้ทานเลยเร่งด่วนก็คือ Zinc หรือสังกะสีค่ะ ยี่ห้อที่แนะนำคือ ของ Blackmore รุ่น Bio Zinc เพราะจะมีสารนำพาที่ดี และให้ผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ เวลาเลือกซื้ออาหารเสริมนั้น บางครั้งเราอาจเลือกทานเป็นพวกวิตตามินรวมเกลือแร่ก็ได้ค่ะ อาจทานเป็นรุ่น Exec B's เพราะจะมีวิตตามิน B รวมที่บำรุงปลายประสาทไปในตัว แต่อาจมีผลทำให้เจริญอาหารตามไปด้วย ตัวนี้จะมีประโยชน์ในเรื่องของสังกะสีด้วยค่ะ แนะสักนิดนะคะ เวลาเลือกซื้ออาหารเสริม โดยเฉพาะกลุ่มเกลือแร่นั้น โดยมากข้างขวดจะเขียนปริมาณให้อยู่แล้ว โปรดอย่าเห็นเพียงว่า จำนวน Mg มาก แล้วจะได้ปริมาณมาก แท้จริงไม่ใช่ เพราะปริมาณที่เขียนจะเป็นปริมาณที่รวมเอาสารประกอบอื่นที่ไม่ใช่แร่ธาตุไว้ด้วย (มันเป็นเคมีมากน่ะค่ะ ผู้ที่ไม่ได้เรียนอาจไม่เข้าใจ) ตัวอย่างเช่น ยี่ห้อหนึ่งจะเขียนบอกว่า เป็นสังกะสี จากสังกะสีออกไซด์  แต่อีกยี่ห้อ จะเขียนบอกว่าเป็นสังกะสี จากสังกะสีซัลเฟต แค่นี้ 2 ยี่ห้อนี้ก็เปรียบเทียบกันไม่ได้แล้ว แนะว่าง่ายที่สุด ได้พิจารณาจาก % RDA จะง่ายสุดก่อนตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ คราวนี้ทานนานแค่ไหน คำตอบคือ ทานไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะเป็นอาหารเสริม แต่ควรหยุดบ้างอาจจะ 2 เดือนเว้นเสีย 2 สัปดาห์ก่อนกลับมาทานใหม่ แต่คราวนี้ก็เกิดคำถามที่ว่า เมื่อไหร่จะเห็นผล ขอบอกว่าต้องใช้เวลาค่ะ แต่เมื่อเห็นผลแล้วจะเห็นผลในระยะยาว เรียกว่าต้องใช้เวลา เพราะผลลัพท์จะดีจากภายในปรากฎสู่ภายนอก แล้วจะจีรังยั่งยืนค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ (ตอนนี้กำลังเขียน Blog เกี่ยวกับสุขภาพและความงามอยู่ค่ะ แต่งานยุ่งเหลือเกิน ยังไม่เสร็จสักที ไว้เสร็จแล้ว จะรวบรวมงานเขียนของตัวเองเกี่ยวกับสุขภาพและความงามนะคะ ไม่รู้จะมีท่านใดสนใจบ้างหรือเปล่า) จากคุณ : บัวหลวง_ - [ 22 ก.ย. 49 22:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อกันดีกว่าค่ะ สำหรับเรื่องครีมบำรุงควบคุมความมันนั้น จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือกลุ่มปรับสภาพความมันเลย พวกนี้จะเป็นกลุ่มที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ เช่นสังกะสี แมกนีเซียม เป็นต้น อีกกลุ่มคือ เป็นการพลางความมันค่ะ หรือเป็นตัวดูดซับ (absorber) ซึ่งกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมของพวก Talc และ Silica ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับความมันได้ดี และมักทำเป็นเนื้อเจลปราศจากไขมัน เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่า กลุ่มแรกเน้นการบำรุง และปรับโครงสร้างผิว และหลายท่านเข้าใจผิด ๆ ว่า ผิวมันไม่ควรบำรุง เป็นการเข้าใจที่ผิดค่ะ ผิวมัน ไม่ได้หมายถึงผิวมีความชุ่มชื่นนะคะ ในทางกลับกัน ผิวที่ขาดมอยเจอร์ไรเซอร์อาจสร้างความมันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ดังนั้นการบำรุงจึงขาดไม่ได้ แต่กลุ่มที่ 2 เน้นที่การอำพราง โดยมากผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะเน้นทาเฉพาะบริเวณ T-Zone จะไม่ทำออกมาในรูปของมอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อที่มีผลิตภัณฑ์ควบคุมความมันออกมาแล้วได้ผลดี (ดิฉันซื้อเผื่อสามีค่ะ เพราะสามีเป็นคนผิวมัน) ที่เคยเห็นจากสามีนะคะ 1. รุ่น Lab Series ของ อลามิสค่ะ เคาเตอร์เดียวกับน้ำหอม DKNY น่ะล่ะค่ะ บริษัทนำเข้าเดียวกัน ราคาไม่สูงมาก คุณผู้หญิงไม่แนะค่ะ เคยลองแล้ว เย็นแสบหน้าไปหมด แต่สามีชอบ บอกว่าสบายผิวดี สำหรับคุณผู้ชาย ดิฉันทราบแค่นี้ คราวนี้ สำหรับทุกท่านบ้าง (ไม่เฉพาะผู้ชาย) สมัยเรียน ดิฉันเป็นผู้หญิงผิวธรรมดา-ผสม ค่ะ เลยเคยสลับใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ควบคุมความมันอยู่บ้าง ที่ชอบมีดังนี้ค่ะ 1. Clarin สมัยก่อนเรียกว่ารุ่น Say no to shine แต่เดี๋ยวนี้ไม่ทราบชื่อเดิมรึเปล่า เพราะไม่ได้ใช้ 4-5 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ออกมาใหม่ ๆ 2. Helena rubinstien ชอบตัว T-Zone มากค่ะ ทาแล้วแห้งทันที ท่านใดแต่หน้า แต่ไม่ชอบซับมันบ่อย ๆ ล่ะก็ ทาตัวนี้ที่ T-Zone ได้เลยค่ะ รับรองเบาสบายตลอดวัน เคยซื้อตัวมอยเจอร์ให้สามีค่ะ เคยลองทาดิฉันว่าเนียนเบาสบาย หน้าไม่มันตลอดวัน แต่สามีชอบ Lab Series มากกว่าค่ะ แกบอกว่าเย็นดี อันนี้ไม่เย็น สังเกตุมั้ยคะ ว่าผิวมันจะไม่มีผลิตภัณฑ์ประเภท เอสเซ้น หรือเซรั่มออกมา หรือมีก็น้อย เพราะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย ในทางกลับกันผู้มีผิวมัน จะมีปัญหาเรื่องผิวค่อนข้างน้อย (ยกเว้นเรื่องสิว ที่เกิดจากความสกปรก ไม่ล้างหน้า สิ่งสกปรกก็เลยผสมไขมันทำปฎิกิริยากับอากาศ แบคทีเรียตัวน้อยก็มา เป็นบ่อเกิดสิว) ริ้วรอยไม่ค่อยมี แต่ข้อเสียของหนุ่ม/สาวผิวมันก็คือ ผิวหน้าจะแลดูหมองคล้ำ เพราะน้ำมันในใบหน้าไปอำพรางแสงสะท้อน ดูดซับแสงมาก หน้าเลยหมอง และปัญหาเรื่องผิวพรรณ ดังนั้น ผู้มีผิวมัน แล้วอยากรักษาจริงจัง จึงแนะนำว่า ต้องทานอาหารเสริม (อย่าท้อค่ะ ผลจะเห็นประมาณ 2 เดือน) และครีมบำรุงควบคู่ไปตาม ๆ กัน มีอะไรสงสัยอีก ถามได้นะคะ ปล. ทั้งนีเวีย และลอริอัล ไม่เคยซื้อให้สามีของใช้สักทีค่ะ ตัวเองยิ่งไม่เคยลองไปใหญ่ เลยขอไม่ตอบว่าอะไรดีกว่ากันนะคะ จากคุณ : บัวหลวง_ - [ 22 ก.ย. 49 22:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนี้ได้เทสเตอร์ Oil Block Gel ของ Ettusais มาลองค่ะ ก็พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน จากคุณ : *~~nOnGtEErAk~~* - [ 22 ก.ย. 49 22:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สุดยอดเลยครับคุณบัวหลวง แต่ขอถามเพิ่มหน่อยนะครับ 1. ตัว Lab Serie ราคาประมาณเท่าไหร่หรอครับ 2. ตัว Carin กับ Helena rubinstien  อยู่กลุ่มอำพรางหรือเปล่าครับ 3. ตัว Helena rubinstien นี้เป็นชื่อยี่ห้อ หรือว่ารุ่นหรอครับ แล้วราคาประมาณเท่าไหรครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Esprite - [ 23 ก.ย. 49 09:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช้ครีมกันแดดที่ควบคุมความมันก็okแล้วนะครับ ผมใช้แล้วมันน้อยลงจริงๆ จากคุณ : detune - [ 23 ก.ย. 49 14:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Helena Rubinstien เป็นชื่อยี่ห้อค่ะ รุ่นสำหรับควบคุมความมัน รู้สึกจะชื่อว่ารุ่น "แมท สเปเชี่ยลลิสต์" นะคะ ถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้เคาเตอร์จะมีอยู่แค่ที่ห้าง 3 ห้างเท่านั้น คือที่ ชิดลม พารากอน และ เอ็มโพเรียม (ปิดเคาเตอร์ห้างระดับ B หมดไปเมื่อกลางปีที่แล้วค่ะ เห็นว่าต้องการยกระดับแบรนดนะคะ) สำหรับไลน์นี้ของเฮเลน่า มีทั้งตัวบำรุง(พร้อมปรับสภาพผิว) และกลุ่มอำพราง ดูดซับความมัน หรือตัวที่ดิฉันแนะนำคือ T-Zone นั่นล่ะค่ะ สำหรับเรื่องราคา ดูเหมือน Lab จะราคาย่อมเยาสุดนะคะ ราคาส่วนมากจะไม่เกิน 2,000 ถ้าจำไม่ผิด รองลงมาคงเป็น คาแรงค์ และสูงสุดคงเป็นเฮเลน่า ค่ะ แต่เรื่องราคาสำหรับไลน์ควบคุมความมันเป็นราคาที่ไม่แพงมากเกินไปค่ะ เมื่อเทียบกับสกอนแคร์กลุ่มอื่นเช่น ไวท์เทนนิ่งจะแพงกว่าเยอะค่ะ ฝากไว้นิดนะคะ ผู้มีปัญหาผิวมัน และสิวที่เกิดจากความมัน แนะให้รักษาเรื่องามดุลของน้ำมันหรือซีบั้มใต้ผิวให้หมดไปก่อน (ทั้งการทานอาหารเสริม และการใช้สกินแคร์ควบคู่กัน อย่างที่แนะนำล่ะค่ะ) แล้วเมื่อสมดุลน้ำมันดีแล้ว จึงจะเริ่มบำรุงด้านอื่นอีกที เช่นไวท์เทนนิ่ง ริ้วรอย เพราะชาวผิวมันจะประสบปัญหาใช้อะไรก็อุดตัน ใช้อะไรก็คอมมิโดนถามหา ดังนั้นหากไม่รักษาสมดุลผิวให้ดีก่อนใช้อะไรก็จะเห็นผลยาก หรือเจอกับผลที่ไม่ตั้งใจได้ค่ะ จากคุณ : บัวหลวง_ - [ วันมหิดล 15:56:53 ]