CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยิ้มไว้...เมื่อภัย(มะเร็ง)มา ตอน 1

    “แพรว ไปหาหมอมา เป็นไงมั่งลูก” ป้าส้มเดินมาถามด้วยความเป็นห่วง ป้าส้มรูปร่างท้วมๆ ชอบใส่เสื้อเชิตสายสีดำตัวใหญ่ๆ ใส่กางเกงสีดำดูทะมัดทะแมง เป็นเพราะว่ารูปร่างท้วมของป้า จึงทำให้เดินค่อยไม่ถนัดนัก บวกกับป้าอายุห้าสิบกว่าๆ แล้วแต่ว่าป้าก็ยังแข็งแรง ทำงานได้สบายๆ

    ป้าส้มกับลุงม้วนเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย เทคอะเวย์ แห่งหนึ่ง ย่านมิชแชม ที่เมืองเมลเบริ์น ประเทศออสเตรเลีย เป็นร้านอาหารเล็กๆ ทำกันแบบครอบครัว มีโต๊ะให้แขกนั่ง ประมาณ 3 โต๊ะ ร้านอาหารเทคอะเวย์ จะไม่เน้นเรื่องที่นั่งในร้าน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะโทรมาสั่ง หรือว่าเข้ามาสั่ง แล้วออกไปทำอย่างอื่น หรือรออยู่ เพื่อนำอาหารไปทานที่บ้าน ก็เลยไม่เน้นเรื่องการบริการ

    ร้านนี้เป็นห้องเล็กๆ 1 คูหา เป็นร้านอาหารไทยแห่งเดียวในย่านนี้ ใช้เวลาเดินจากบ้านฉันประมาณ 5 นาทีก็ถึง “อ๋อ หมอนัดไปฟังผลอีกทีวันอังคารค่ะ เมื่อวานแค่ไปตรวจเลือดเฉยๆค่ะ” ฉันตอบด้วยสีหน้ากังวลนิดๆ “พี่แพรวเป็นอะไรคะ ถึงไปหาหมอ” น้องหนิง น้องใหม่เพิ่งจะเข้ามาทำในร้านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถามอย่างสงสัย “โห ถ้ารู้แล้วน้องหนิงจะหนาว ว่าพี่เป็นอะไร”
    ฉันตอบพลางหัวเราะกับชีวิตที่ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ทำให้น้องหนิงงงไปกันใหญ่ “พี่เป็นมะเร็งจ๊ะ”ฉันพูดเหมือนเป็นเรื่องปรกติ ไม่มีอะไรร้ายแรง “หาอะไรนะคะ เป็นมะเร็ง” หนิงตกใจ อ้าปากค้าง “แต่ว่าพี่แพรวดูสดใส แข็งแรง สุขภาพดี เหมือนคนไม่เป็นอะไรเลยนะ” หนิงพูดเหมือนกับจะไม่เชื่อหูตัวเอง

    “อ๋อ พี่เคยเป็นมะเร็งในล้ำใส้จ้า แต่ผ่าตัดแล้ว แต่ว่ามันแพร่ไปที่ตับ เลยต้องตัดตับบางส่วนกับถุงน้ำดีออกไปจ๊ะ” ฉันอธิบายหน้าตาเฉย พลางเปิดท้องให้หมิงดู เป็นแผลยาวจากใต้หน้าอก ไปจนถึงหน้าท้อง แล้วยังมีแผลตามขวางยาวจากสะดือด้านขวาไปจนถึงเอว    หนิงมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “โห พี่รอดมาได้ยังไงเนี่ย” หนิงนึกในใจ ฉันหัวเราะเมื่อเห็นอาการตกตะลึงของหนิง “พี่ทำการรักษาที่ออสเตรเลียค่ะ ฉายรังสี แล้วทำคีโม (เคมีบำบัด) ที่นี่ค่ะ แต่ตอนนี้ต้องรอผลว่า ถ้าภายใน 5 ปีนี้มะเร็งไม่กลับมาแสดงว่ารักษาได้หายขาด ร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ”

    “แล้วไปทำอะไรมาถึงได้เป็นคะ” หนิงสงสัย “เป็นเพราะโชคร้ายค่ะ” ฉันตอบ “พี่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินอาหารเผ็ด ครอบครัวพี่ก็ไม่มีใครเป็น สรุปหมอบอกว่า bad luck โชคร้ายค่ะ” ฉันพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าชีวิตแพรวผ่านเรื่องร้ายๆ มานับไม่ถ้วน แทบจะเอาชีวิตไม่รอด มาถึงตอนนี้จิตใจมันด้านชาไปแล้ว ก็ว่าได้ต่อให้ผลตรวจออกมาจะร้ายแรงแค่ไหน ก็ชินแล้วหละ
    หลายคนมักจะสงสัยว่า หญิงเก่ง คล่องแคล่ว ฉลาดรอบรู้อย่างฉัน แถมยังจบปริญญาโท ด้านการศีกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เมลเบิร์น แถมยังมีคู่ชีวิตอย่างชอน ทำไมมีทำงานอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ

    ชอนเป็นหนุ่มออสซี่ที่มีเชื้อสายเลือดผสมอังกฤษกับไอร์ริช เขาเป็นหนุ่มหล่อ ผิวขาว มีดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มจมูกโด่งเป็นสัน สูงประมาณ 180 กว่าๆ เอาเป็นว่าหล่อแกมน่ารักมั่กๆๆ ในสายตาของคนไทย แต่จะท้วมไปนิดๆ เพราะชอบกินแหลก อะไรๆ ชอนก็กินได้หมด ไม่มีเหลือ ด้วยความที่เป็นคนอัจฉริยะ ชอนจบปริญญาเอกทางด้านวิศวะกรรม ตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนที่จบเขาอายุประมาณ 26 ปี คิดดูสิ แพรวการศีกษาก็ดี สามีก็ดี มีรถ แถมมีบ้านเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้นราคาเกือบ 10 ล้านบาท (แต่ก็ยังผ่อนธนาคารอยู่นะ อิอิอิ) ชีวิตที่เหมือนจะเพียบพร้อม
    แล้วทำไม เกิดอะไรขี้นกับฉันกันแน่ คนเราถ้าชีวิตมันเพอร์เฟคเกินไปมันก็ไม่มีรสชาติ ไม่งั้นฉันก็ไม่มีเรื่องตื่นเต้นๆ มาเล่าให้ผู้อ่านนะสิ

    ขอย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นฉันมาเรียนต่อที่ออสเตรเลียได้ ประมาณ 2 ปีแล้ว ด้วยความที่อยากมีเพื่อนเป็นคนออสซี่ แต่ไม่รู้ว่าจะเจอกันได้ยังไง เพราะว่าเด็กไทยที่มาเรียนที่นี่ถ้าไม่ได้เป็นคุณหนู คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ก็ต้องทำงานร้านอาหารไทยกับแทบทั้งนั้น แต่ว่าคุณหนูไทยๆบางคนก็น่านับถือนะ ทำงานหนักได้ เก่งอีกต่างหาก นั่นคุณพ่อคุณแม่สอนมาดีมาก ด้วยความที่บ้านก็ไม่ได้เป็นคุณหนูอะไร ออกจะเป็นคุณหมูเสียมากกว่า ตอนนี้ฉันผอมแล้ว ก็เลยมาสมัครทำงานร้านอาหารไทยในตัวเมือง ทำงานงกๆ แล้วจะเจอมีเพื่อนหนุ่มๆ ได้ยังไงนะ แถมเหล้าก็ไม่ดื่ม เทค หรือผับก็ไม่เคยเข้า เต้นก็ไม่เป็น ไม่กินเหล้า ไม่เข้าสังคม ช่างเป็นคนที่น่าเบื่อเสียนี่กระไร ชีวิตนี้มีแต่เรียนกับร้านอาหาร

    และแล้วเพื่อนสุดหล่อมาดแมน แต่ชอบไม้ป่าเดียวกันกันอย่างคุณหนึ่ง เลยแนะนำให้เอารูปไปลงใน ninemsn ซึ่งเป็นเวปไซด์หาเพื่อนกันทางอินเตอร์เนท ด้วยความที่เอารูปตอนที่ไปทำงานฟาร์มอยู่ที่ Queensland อยู่เมืองไทยไม่เคยทำไร่ ทำนา แต่พอมาอยู่ออสเตรเลียช่วงปิดเทอมดันอยากไปทำงานฟาร์ม โห น-รกชัดๆเลยค่ะ ลำบากมาก ขอแนะนำนะคะว่าถ้าไม่ชอบงานหนักอย่าไปทำเลยค่ะ เหนื่อยมาก ร้อนก็ร้อน แต่ตอนนั้นก็มีความสุขไปอีกแบบ เอาเป็นว่าผิวเงี้ยสีน้ำผึ้งเลย รูปร่างแข็งแร็ง healthy มั่กๆๆ หนุ่มเห็นเลยชอบ ด้วยความที่ชอนเป็นเด็กเรียน ไม่เคยมีแฟนมาก่อน เวอร์จิ้นๆ ก็เนอะ อายุแค่ 26 จบปริญญาเอกแล้ว จะเอาเวลาไหนไปมีแฟน ประจวบกับน้ำหวานสาวไทยที่เคยเป็นเพื่อนทำงานวิจัยด้วยกันที่สถาบันวิทยศาสร์แห่งหนึ่งของที่นี่ และเป็นคนที่ชอนแอบชอบอยู่ แต่น้ำหวานรักชอนแบบเพื่อน เลยไปแต่งงานกับไมเคิลหนุ่มออสซี่เชื้อสายสิงคโปร์

    เนี่ยนะถือว่าเป็นบุญของฉันต้องขอบคุณน้ำหวานนะเนี่ย แต่ตอนหลังเขาเลิกกับไมเคิลก็ร้องให้มาให้ชอนปลอบใจ แต่ตอนนั้นชอนไม่ว่างแล้วค่ะเพราะมีฉันมาช่วยดามอกแล้ว แถมน้ำหวานยังยืมเงินชอนไป ไม่คืนอีกต่างหาก แบบยืมลืมหน่ะนะ แล้วก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย นึกถีงตอนนั้นทีไรเจ็บใจทุกที เงินมันไม่ได้หามาง่ายๆนะ ก็เลยถือว่าทำบุญทำทานไปซะ    

    พอชอนเห็นรูปของฉันก็เลย email มาหาแล้วบอกว่าอยากรู้จัก ด้วยความที่เรายังไม่เห็นรูปชอบก็เลยเรียกเขาว่า invisible man เพราะเราไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง เขาเลยแสกนรูปใบขับขี่กับรูปบัตรพนักงานมาให้ฉันดู “ก็น่ารักดีนะ แถมยังอ่อนกว่าเรา 1 ปี ไม่เป็นไรหรอก”ฉันนึกในใจ เลยมีนัดบอด blind date กันที่ร้านอาหารในเมืองย่านถนนไลกอนที่ฉันเคยทำงานอยู่ พอเจอชอนครั้งแรก เขามารออยู่หน้าร้าน ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน มีตัวหนังเลข 8 สีส้ม ติดอยู่ด้านหน้า เขาบอกว่าเสื้อตัวเก่งของเขา ชอนชอบใส่ยีนส์สีวายส์สีน้ำเงิน เขาแต่ตัวง่ายๆ เจอกันครั้งแรกก็ประทับใจ ฉันใส่เสื้อกับกางเกงสีดำ แต่มีผ้าพันคอสีฟ้าสดใส ชอน
    บอกว่าน่ารักดี เล่นเอาฉันยิ้มไม่หุบ

    ตอนนั้นชอนอยู่บ้านเช่ากับน้องสาว ฉันเลยซื้อขนมเอแคล ให้ชอนไปฝากน้องสาวเขาด้วย มารู้ตอนหลังว่าน้องสาวเขาไม่เคยได้กินเลย ชอนบอกว่าก็มันอร่อยนิ เผลอแป๊บเดียวไม่เหลือหลอ

    หลังจากนั้นก็ชอนจะโทรมาคุยกับฉันก่อนนอนทุกวัน จนเรานัดกันไปดูหนัง ต่อจากนั้นก็ไปทานข้าว แล้วชอบก็พามาส่งที่บ้านก่อนลงจากรถฉันเห็นเขายื่นหน้ามา ฉันจึงหลับตาแล้วชอนก็จุมพิตที่ปาก หน้าตาทั้งคู่แดงซ่าน แก้มฉันแดงด้วยความอาย ชอนก็ยิ้มอย่างอายๆ นั่นเป็นเฟิร์สคิสที่ไม่มีวันลืม และแล้วเราก็แฟนกันในเวลาต่อมา...โปรดติดตามตอนต่อไป

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 19:27:58

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 19:25:37

    จากคุณ : Summer_scent - [ 27 ก.ย. 49 19:24:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com