CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยิ้มไว้...เมื่อภัย(มะเร็ง)มา ตอน 3 ... เล่าจากเรื่องจริง

    ฉันงงไปหมดแล้ว นึกอะไรไม่ออก นี่เพิ่งผ่านวันเกิดไปหมาดๆ ของขวัญวันเกิดที่ฉันได้รับปีนี้คือมะเร็ง ในหัวคิดแต่ ทำไม่ต้องเป็นฉัน นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม อยากจะตื่นออกจากความฝัน แต่มันใช่ใช่ นี่คือความจริง เราเป็นมะเร็ง "ทำใจดีๆ ไว้นะคะ" หมอลีปลอบ "แล้วจะทำไงดีคะ" ฉันรวบรวมความกล้าถาม "เราจะส่งคุณไปทำ CT-Scan ก่อนเพื่อดูว่ามะเร็งได้แพร่ไปที่ไหนบ้าง" หมอลีแนะนำ "หลังจากนั้นก็จะส่งคุณไปหาMr. Blamey ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดลำใส้ เขาอาจะจะช่วยคุณได้" หมอลีให้ความหวัง "รีบติดต่อเลยครับ จะได้แก้ไขได้ทัน" ชอนเร่ง "งั้นไปที่ CT-Scan ที่ Mayne Health แถวๆ ฟอร์เรส ฮิลล์เลยนะคะ นี่ค่ะใบส่งตัว" หมอลีรีบยื่นไปส่งตัว ให้ฉันแล้วพูดว่า "ขอให้โชคดีนะ All the best" ฉันกล่าวขอบคุณ ชอนรีบพาไป

    พวกเรานั่งอยู่ในรถ ไม่มีใครพูดอะไร ฉันน้ำตาคลออยากจะร้องไห้ ชอนยื่นมือมาบีบมือฉันแน่น "ทำใจดีๆ ไว้นะ ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ" ชอนปลอบโยน "ทำไมต้องเป็นฉันด้วยนะ" ฉันกล่าวอย่างตัดพ้อ ขับรถไปไม่ถึง 5 นาทีเราก็มาถึงหน้าตึก Mayne Health ฉันรีบเดินไปที่เคาท์เตอร์ Mayne Health เป็นสถานที่ ที่มีบริการต่างๆ เหมือนเป็นโรงพยาบาลเล็กๆ แต่รับบริการ ตรวจเลือด ทำ
    CT-Scan หรือ X-ray โดยที่เราไม่ต้องไปทำที่โรงพยาบาลใหญ่ให้เสียเวลา โดยเขาจะมีสาขาต่างๆ อยู่ใกล้บ้าน ฉันรีบยื่นใบส่งตัวให้ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้กรอกแบบฟอร์มก่อนที่จะให้เราทำ Scan เขาจะถามว่าเราแพ้อะไรไหม เราเป็นอะไรมา เคยผ่าตัดไหม เราตั้งครรรภ์หรือปล่าว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ตัวเรา เขาจำเป็นต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราให้มากที่สุด

    หลังจากนั้นเขาก็ให้ฉันดื่มผงที่ต้องชงกับน้ำอีกเป็นสีเขียวอ่อน คิดว่าคนละอันกับตอนที่ทำ Colonoscopy แต่ว่าก็ทำหน้าที่คล้ายๆ กัน ฉันจะต้องดื่ม 3 แก้ว ในทุกๆ ครึ่งชั่วโมง เมื่อดื่มเสร็จ ฉันก็ถ่ายท้องบ่อยมาก แต่มันก็ออกเป็นน้ำหมดเลย เหมือนเป็นการถ่ายของเสียออกมาจากร่างกายให้หมด ก่อนที่จะทำการตรวจ CT Scan มาจากคำว่า Computed Tomography Imaging ซึ่งจะทำการถ่ายภาพภายในร่างกายของเราแล้วแต่ว่าเราจะให้เครื่องถ่ายส่วนใหนของร่างกาย ไม่จำเป็นว่าคนที่ถ่ายจะเป็นมะเร็ง ถ้าเราเกิดอุบัติเหตุ เราก็ทำได้ CT Scan จะเหมือนเครื่อง X-Ray แต่ว่าจะได้ความละเอียดและมีความชัดเจนมากกว่า สามารถเห็นเนื่อเยื่อ กระดูก ต่างๆ และจะเห็นพวกก้อนเนื้อที่ผิดปรกติต่างๆ ซึ่งได้ผลแม่นยำกว่า X-Ray ธรรมดา

    หลังจากนั้นฉันก็เปลี่ยนใส่ชุดกาวน์สีขาว เขาให้ถอดเสื้อชั้นในออก ข้างในให้เหลือแต่กางเกงใน แต่เราสามารถใส่ถุงเท้าได้ ไม่เกี่ยวกัน เขาให้ฉันเขาไปในห้อง ตัวเครื่อง CT Scan จะเป็นครึ่งวงกลมสีขาว เหมือนโดนัท บางคนจะเรียกว่าเครื่องโดนัท เหมือนเราตั้งโดนัทไว้ แล้วเราก็เข้าไปในรูตรงกลางของมัน โดยจะมีเตียงเล็กๆ ที่ขยับได้เข้าไปในรูนั้น ขอบอกว่าคนที่อ้วนมากๆ จะไม่สามารถใช้เครื่องนี้ได้ค่ะ เครื่องนี้ไม่ได้สร้างมาให้คนอ้วน ถ้าเกิดคุณมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เขาจะให้คุณไปที่สวนสัตว์ค่ะ ไปใช้เครื่องที่เขาใช้ถ่ายเวลาสัตว์ป่วย อันนี้ไม่ได้ว่าให้คนอ้วนนะคะ แต่อยากจะบอกว่ามันเป็นความจริงค่ะ ถ้าคุณตัวใหญ่มากเกินไปก็ต้องไปที่นั่นค่ะ

    ก่อนที่เราจะทำการ scan เขาจะฉีดสารชนิดหนึ่งที่แขนของฉันเป็นสารเรืองแสงสีเขียว จะทำให้ช่วยให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น เมื่อฉีดเข้าไปฉันรู้สึกอุ่นที่ริมฝีปาก ลงไปจนถึงท้องจนไปถึงบริเวณแพรวน้อย อิอิอิ และรูทวาร เขาต้องการดูทั่วร่างกายว่ามะเร็งจะแพร่ไปที่ไหนบ้าง เครื่องจะบอกเราว่าหายใจเข้า กลั้นหาย หายใจปรกติ เราทำตามเครื่องบอก ประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จ เป็นอันว่าฉันเสียค่าทำไป 390 เหรียญ แล้วเบิกได้ประมาณ 350 เหรียญ ก็เสียเงินจริงๆ ประมาณ 40 เหรียญ เพิ่งจะเห็นความดีของประกันสุขภาพก็คราวนี้แหละ ไม่งั้นเราจ่ายเองบานเลย

    โชคดีที่ผลตรวจออกมามะเร็งไม่ได้แพร่ไปที่ไหน ยังอยู่ในลำใส้เท่านั้น เลยทำให้ฉันสบายใจขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบอกทางบ้านยังไงดี ฉันร้องให้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่ก็ต้องโทรบอกทางบ้านให้คุณแม่ และญาติๆ รู้ ต้องพยายามกลั้นน้ำตา ไม่อยากให้หลายท่านเป็นห่วง ก็บอกทุกคนว่ามันไม่ได้แพร่ไปไหน คงไม่เป็นอะไรมาก แต่ในใจฉันมันอ่อนล้าไปหมด แต่ฉันจำเป็นต้องเข้มแข็งไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง ทางบ้านฉันไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้ เขาก็อยากมาดูอาการของฉัน แต่ว่าฉันไม่อยากให้มา ถึงมาก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ให้ปล่อยเป็นหน้าที่หมอดีกว่า แล้วฉันก็คอยโทรไปหา แล้วบางทีท่านๆ ก็โทรมาถามไถ่อย่างเป็นห่วง

    หลังจากนั้นฉันก็ไปพบคุณ Blamey ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ให้เรียกว่าคุณหมอ ทั้งๆที่เขาเป็นมือผ่าตัด อันดับต้นๆของเมืองนี้ มิสเตอร์เบลมมี่ เป็นคุณหมอที่ใจดีมาก เขาแนะนำให้ฉันดรอบพักการเรียนเอาไว้ก่อนเพราะว่าเราจะต้องทำการรักษา ทั้งผ่าตัด ฉายรังสี และทำคีโมบำบัดต่างๆ เขาบอกว่าฉันป่วยอย่างงี้ทาง Immigration คงไม่กล้าไล่ฉันออกไปจากประเทศนี้หรอก

    เขาก็ขอให้ฉันนอนตะแคงแล้วเขาก็บอกทำใจดีๆนะ เขาจะให้วิธี Digital Examination
    ฉันก็ไม่แน่ใจว่าอะไร ฟังดูหรูๆ แต่ที่ไหนได้ ฉันร้องลั่นด้วยความเจ็บ Digital Examination ก็คือการใช้นิ้วของคุณหมอ จิ้มเข้าไปในรูก้นของฉันเพื่อเข้าไปดูว่าเนื้อร้ายมันยาวแค่ไหน มันแข็งไหม เจ็บมักๆๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆที่เป็นเกย์ทนได้ยังไง ไม่ได้ว่านะคะ จะให้ช่วยแนะนำให้ฉันหน่อย แต่ฉันไม่กล้าถามว่าทำยังไงไม่ให้เจ็บ จริงแล้วมันเจ็บมาก แทบร้องให้ออกมาเลยค่ะ หมอบอกว่าเนื้อร้ายห่างจากรูทวารประมาณ 12 เซนต์ และก็เป็นก้อนแข็งมาก ฉันต้องทำการฉายรังสีเพื่อให้ก้อนมันเล็กลง ก่อนทำการผ่าตัด จะผ่าซี้ซั้วไม่ได้ค่ะ

    มารู้อีกทำว่าตอนที่ฉันทำ colonoscopy นั้นที่จริงเขาไม่ได้ส่องกล้องเข้าไปดูข้างในลำใส้ฉันเลย เพราะพอเขาส่องเข้าไปจากก้นสัก 12 เซนต์ ก็เข้าไม่ได้เพราะเนื้อร้ายมันขยายไปอุดรูทวาร เลยทำให้กล้องไม่สามารถส่องเข้าไปในลำใส้ของฉันได้ เขาก็เลยตัดเอาบางส่วนออกมาตรวจ ผลออกมาก็เป็นมะเร็งนี่เอง

    มิสเตอร์เบลมมี่เลยส่งตัวฉันไปพบกับคุณหมอเชา Chao เพื่อทำการฉายรังสี .....โปรดติดตามตอนต่อไป

    จากคุณ : Summer_scent - [ 28 ก.ย. 49 08:21:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com