CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยิ้มไว้...เมื่อภัย(มะเร็ง)มา ตอน 6 เล่าจากเรื่องจริง

    ฉันเก็บของใส่กระเป๋าเหลือบไปเห็นการ์ดที่ชอนเอามาให้ที่เขามาเยี่ยม ตอนนั้นยังเจ็บแผลอยู่ก็ไม่ได้ตั้งใจอ่าน เหลือบไปเห็นวันที่ที่เขาลงท้าย 14 กุมพา จริงสินะ ฉันผ่าตัดในวันวาเลนไทน์ โห...ปีนี้ ทำไมถึงโหดร้ายกับฉันเหลือเกินนะ เค้กในวันเกิดก็ไม่มี วันวาเลนไทน์หมอยังแจกแผลเพื่อแสดงความรักให้ฉันอีก ไม่รู้ว่าไปทำกรรมอะไรไว้นะ ตอนที่ไปหามิสเตอร์เบลมมี่บอกกับฉันว่า จริงๆ โรคมะเร็งในลำใส้ หรือว่า Bowel Cancer หรือ Colorectal Cancer เนี้ยะนะ จะเป็นโรคที่คนในรัฐวิคตอเรีย ของออสเตรเลีย เป็นกันเสียส่วนใหญ่ แต่มักจะเกิดกับ
      * คนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
      * คนที่สูบบุหรี่จัด
      * คนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือคนอ้วนนั่นเอง
      * กรรมพันธ์
    คิดดูสิ ฉันยังไม่ถึง 30 เลย ไม่เคยดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินของเผ็ด ไม่มีใครในครอบครัวเป็นโรคนี้ แต่ก็เป็นไปซะแล้ว เขาเลยบอกว่าเป็นเพราะฉันโชคร้าย Bad luck แต่ปัจจุบันนี้เขาได้วิจัยออกมาแล้วว่า ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นพวกที่กินเจ หรือกินมังสาวิรัต ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ คุณก็มีสิทธ์เป็นมะเร็งในลำใส้ บางทีมันเกิดจากในร่างกายของคุณไม่สามารถจัดการกับเซลล์ร้ายได้ มันเลยขยายตัวเพิ่ม เอาเพิ่มเอา จนเป็นมะเร็งเนื้อร้าย แล้วพวกที่ดื่มเหล้าจัด สูบบุหรี่จัด จะขนาดไหน คิดดูละกัน ฉันหละหนาว!!!

    นางพยาบาลก็เอาเอกสารมาให้กรอก เหมือนกับการเช็คเอาท์ออกจากโรงพยาบาล เขาจะบอกว่าเราจะต้องจ่ายเพิ่มไหม มียาอะไรบ้าง หรือต้องไปซื้อยาอะไร แล้วก็จะมีเอกสารว่าควรกินอาหารประเภทไหน ออกกำลังกายแบบเบาๆ ไม่ควรยกของหนัก เป็นต้น พอดีชอนมารับแต่เช้า เราเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ข้างล่าง ฉันได้แค่ยาแก้ปวดพานาดอล ก็เหมือนยาพาราบ้านเรา โชคดีที่ฉันไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่ค่าโทรศัพท์ เพราะว่าฉันโทรทางใกล้ เลยไม่ต้องเสียตังค์ รู้งี้โทรหาเพื่อนๆ บ่อยๆก็ดี เพราะเหงามาก เขาจะส่งบิลมาให้ฉันอีกทีแล้วฉันก็เอาไปให้ Medibank แล้วเขาก็จะออกเป็นเช็คให้ ฉันก็ส่งไปจ่ายให้ทางโรงพยาบาล ก็สบายไปอีกแบบ

    เขามาส่งฉันที่บ้านแล้วเขาก็เลยไปทำงาน ดีนะที่เขาทำงานวิจัย ไม่ต้องไปทำงานเช้าก็ได้ ส่วนน้องนิคกี้ นั้นทำงานเป็นฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่บริษัทการพิมพ์แห่งหนึ่ง เธอต้องไปทำงานแต่เช้าเลย นิคกี้เป็นคนที่แข็งแรงชอบไปยิมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ชอบปีนเขา ชอบเส่นสกีบอร์ด ชอบอะไรที่เป็น outdoor แต่ว่าเธอจะเห็นเลือดไม่ได้ ตอนนั้นคุณพ่อเฮนรี่มีดบาดมือเลือดไหลไม่หยุด โครม นิคกี้เป็นลมล้ม หน้าฟาดฟื้น ฟันหน้าหัก 2 ซี่ ต้องเสียเงินทำฟันเป็นพันๆ เหรียญ ส่วนชอนนิสัยตรงกันข้ามกับน้องสาวแทบทุกอย่าง ไม่ชอบออกกำลังกาย ชอบกินขนมหวานๆ ชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ชอบเล่นบอร์ดเกมส์ ชอบ indoor ชอบอยู่บ้าน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ (สเป็คฉันเลยค่ะ) ไม่ชอบแดด เพราะแสงแดดจะทำให้แก่เร็ว ผิวของเขาจึงขาวใส ยิ่งกว่าผู้หญิง ถ้าไม่มีแฟนหลายคนคงคิดว่าเป็นสาวไปแล้ว

    ฉันอยู่บ้านของชอนแถวฟอร์เรส ฮิลล์ ดีหน่อยที่ใกล้คลีนิคหมอลี ไม่ไกลจากมิสเตอร์เบลมมี่และหมอเชา ทำเลดีมากเป็นบ้านจัดสรรค์ที่มีสวนเอาไว้เดินเล่น มีที่จอดรถ บ้านเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมี 3 ห้องนอน 3ห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นห้องครัวและห้องรับแขก ชอนกับฉันอยู่ห้องใหญ่ทะลุห้องจะมีห้องเก็บเสื้อผ้าตรงกลางแล้วต่อไปมีห้องน้ำ มีประตูเลื่อนปิดเปิด 2 ที่ กั้นห้องน้ำที่นึง และกันห้องเก็บเสื้อผ้าที่นึง ก่อนย้ายออกมาจากบ้านตุ๊กติ๊กฉันก็ให้นิดหนึ่งญาติของฉันที่มาเรียนที่นี่ไปอยู่แทน ตุ๊กติ๊กจะได้มีเพื่อนและนิดหนึ่งจะได้ไม่เหงา แล้วฉันก็แนะนำให้น้องแอ๊ปเปิ้ล ไปเช่าอีกห้องนึงในบ้านนั้นจะได้อยู่ด้วยกัน คุณแม่ของน้องแอ๊ปเปิ้ลเป็นเพื่อนของคุณน้าฉัน ที่บ้านฉันก็เลยมีน้องเขาเป็นสายสืบสายสะดือให้ พวกเขาจะได้วางใจ ตอนหลังน้องเขาก็แต่งงานกับหนุ่มออสซี่ เป็นคุณนายมีความสุขไปละ

    วันๆนึงฉันไม่ได้ไปไหน เพราะไปไหนไม่ได้ ได้แต่นอนอยู่บ้าน ฉันยังเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ไอ้โรคถ่ายไม่สุดยังไม่หมด เพราะยังไม่ได้เริ่มรักษาเลย นึกถึงตอนที่ผ่าตัดใหม่ๆ ฉันไม่ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำนะ เพราะเขาจะมีสายยางต่อท่อจากรูปัสสาวะแล้ว ก็ต่อใส่คล้ายๆ กับถุงพลาสติก นางพยาบาลก็จะคอยมาดูถ้าเต็มเขาก็จะเทออกไปทิ้ง แล้วฉันก็ฉี่ในนั้นเลย สบายไปอีกแบบนึง ไปต้องลุกไปฉี่ให้เจ็บแผล ทำให้เกิดเป็นโรคขี้เกียจได้นะคะ เสียดายจริงๆ ฉันยังอยากจะให้เขาต่อท่อ ไปนานๆหน่อย สบายดี

    ก่อนออกจากโรงพยาบาลหมอก็เอาผ้าปิดแผลออกแล้วเขาก็เอาพลาสเตอร์สีขาวแผ่นเล็กๆ ยาวๆ ติดที่แผลฉัน 6-7 อัน ติดเป็นเหมือนรางรถไฟเล็กๆหนะค่ะ ยังมองเห็นแผลที่มีเลือดแห้งๆติดอยู่ ฉันไม่ค่อยไปยุ่งกับแผลหรอกค่ะ เห็นแล้วก็อดกลัวไม่ได้ จะเดินจะเหินก็ต้องช้าๆ เวลาดูทีวีจะหัวเราะมากๆ ก็ไม่ได้เจ็บแผล ที่เจ็บสุดๆคือเวลาจาม ฮัดเช้ย!! โอ้โห เจ็บมั่กๆๆ

    อยู่บ้านคนเดียวฉันต้องทำกับข้าวกินเอง ฉันก็ทำอาหารอ่อนๆ พวกข้าวต้ม โจ๊กคนอร์ บางทีหิวๆก็มีมาม่าน้ำใสบ้าง หรือข้าวแล้วก็ผัดผักใส่บ้าง ไม่มีพริกหรอกค่ะ ฉันไม่กินเผ็ดอยู่แล้ว คิดแล้วสงสารตัวเองถ้าอยู่เมืองไทยคงมีแต่คนคอยทำกับข้าวให้กินนะคะ พอตกเย็นชอนกับนิคกี้ก็กลับบ้านเขาก็ช่วยทำอาหารให้ฉันแต่ฉันไม่ค่อยจะชอบอาหารฝรั่งเท่าไหร่ ฉันติดอาหารไทย ติดข้าวมากกว่าพาสต้าหรือสปาเกตตี้

    ฉันอยู่บ้านได้สัก 2 อาทิตย์ก็มีโทรศัพท์มาฉันคิดว่าเป็นมิสเตอร์เบลมมี่นะ เพราะเขาถามฉันเรื่องผ่าตัด แล้วเขาก็นัดให้ฉันไปพบเขาที่โรงพยาบาลเวฟเวอร์รี่ ฉันก็พาชอนไปส่งแต่เช้า แล้วฉันก็จำไม่ได้ว่าเขาให้ไปหาที่ไหน พอไปถึงโรงพยาบาลฉันก็ให้เจ้าหน้าที่เพจเรียก มิสเตอร์เบลลมี่ก็มาหาฉันแล้วบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนนัดนะ คนที่นัดคือคุณหมอเบรดดี้ Brady อ้าว ฉันก็ไม่รู้ชื่อมันคล้าายๆ กัน ฉันละ อายมาก เขาก็หัวเราะ บอกว่าไม่เป็นไร คนเราผิดกันได้เขาก็ไม่ได้บอกฉันว่าเขาจะส่งฉันไปหาหมอเบรดดี้ และหมอเบรดดี้ก็อยู่คลีนิคหน้าโรงพยาบาลเอง เดินไป 2-3 นาทีก็ถึง

    พอไปถึงคลีนิกฉันก็รอสักพัก หมอเบรดดี้ก็เดินมาหา "คุณแพลล่าใช่ไหม หวัดดีครับผมชื่อเบรดดี้ เรียกว่าเบน ก็ได้" เขาแนะนำตัว เขาเรียกฉันว่าแพลล่า เพราะมันเรียกง่ายดี เขาก็ติดมาจนทุกวันนี้ แพลล่า ยอมให้เขาสักคน ฉันเรียกเขาว่าหมอเบนละกัน หมอเบนจะหน้าตาคล้ายๆกับ Mr. Bean ตัวตลกดาราหนังของอังกฤษ แต่หมอเบนจะหล่อกว่า ตอนหลังมาเขาคือหมอที่สนิทที่สุดของฉันและชอน เพราะเราผ่านสมรภูมิรบมะเร็งร้าย มาด้วยกันนับไม่ถ้วน เขาดีกับฉันมาก ช่วยฉันทุกอย่าง ในเรื่องการแพทย์นะ อย่างอื่นไม่เกี่ยว อิอิอิ

    เขาให้ฉันกับชอนไปที่ห้อง แล้วเขาก็อธิบายว่าฉันจะต้องทำ Chemotherapy คือการทำเคมีบำบัด เขาจะใส่สารเคมีเข้าไปในร่างกายฉัน แล้วสารนั้นจะไปฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ก็จะมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์ดีๆในร่างกายอย่างเซลล์เม็ดเลือดขาวด้วย ฉันตกใจ มันดูน่ากลัวมาก ...โปรดติดตามตอนต่อไป

    จากคุณ : Summer_scent - [ 28 ก.ย. 49 17:33:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com