CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เอาบทความสุขภาพมาฝากค่ะ เกี่ยวกับเรื่องยา

    เมื่อดิฉันตัดสินใจมาเปิดร้านยาเล็กๆ ที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง
    ไกลออกไปจากอ. เมือง 60 กิโลเมตรกว่าๆ
    ก็พบว่า
    การเป็นเภสัชกรร้านยาไม่ง่ายอย่างที่คิด
    ท้าวความไปถึงอดีตกาลอันแสนนาน....


    ก่อนที่จะมารู้จักวิชาชีพเภสัชกร
    ดิฉันเข้าใจว่า
    เภสัชกร ก็คือคนขายยาในร้านยา
    เหมือนพ่อค้าทั่วไปนั่นเอง นั่งในร้านยา ขายยาตามที่ลูกค้าต้องการ
    ทว่า ไม่ใช่แค่นั้น
    ไม่ใช่แค่นั้นจริงๆค่ะ ท่านผู้อ่าน มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ
    เอาเฉพาะแค่เภสัชร้านยาก่อน หรืออีกชื่อเก๋ๆว่า เภสัชกรชุมชน (เพราะจริงๆแล้วมีเภสัชกรในโรงพยาบาล เภสัชกรการตลาด และอีกสารพัดเภสัชค่ะ)

    ยกตัวอย่างเล็กๆเช่น

    คุณลุงA เดินมาซื้อยาทิฟฟี่ (ที่เป็นทิฟฟี่เพราะคิดว่าคนรู้จักกันดีค่ะ)
    เภสัชกร : คุณลุงมีอาการอะไรบ้างคะ ปวดหัว ? ตัวร้อน ? มีน้ำมูกไหมคะ ?
    ลุง A : เปล่าจ้ะ ลุงเจ็บคอน่ะ

    เอาล่ะค่ะ ต่อไปนี้ ขอตัดมายังทิฟฟี่สักแป๊บนึง
    ทิฟฟี่ ประกอบด้วยยาพาราเซตามอล ซึ่งมีสรรพคุณ ลดไข้ ปวดศรีษะ และมียาลดน้ำมูก
    เพราะฉะนั้น หากคุณลุงเจ็บคอ ทานแต่ทิฟฟี่ ท่านผู้อ่านคิดว่า คุณลุงจะหายไหมคะ?

    เภสัชกร : กลืนน้ำลายเจ็บคอไหมคะ
    ลุง A : เจ็บคอแล้ว เนี่ย เป็นมาสองสามวันละ

    และเมื่อซักประวัติคุณลุงแล้ว พบว่า คุณลุงมีเพียงอาการเจ็บคอเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของการติดเชื้อหวัด (ดิฉันขอไม่เขียนศัพท์ทางวิชาการมากนะคะ ถ้าสงสัยอะไร ถามได้ค่ะ) ซึ่งการติดเชื้อหวัดนี่ ก็มีทั้งจาก 1.เชื้อไวรัส และ 2.แบคทีเรีย


    เราเลยอธิบายให้คุณลุงทราบว่า ถ้าเจ็บคอ ควรจะทานยาปฎิชีวะนะ หรือภาษาชาวบ้านคือ ยาแก้อักเสบค่ะ ทิฟฟี่เป็นยาแก้ไข้ ตัวร้อน ลดน้ำมูก ไม่ได้แก้เจ็บคอ

    และถ้าจะทานยาแก้อักเสบ ก็ควรทานให้ครบตามจำนวน (dose) เพื่อป้องกันการดื้อยาภายหลัง

    สุดท้าย ก็ถามว่าคุณลุงมีประวัติแพ้ยาอะไรรึเปล่า
    เมื่อไม่มีประวัติแพ้ยา เราจึงจ่าย Amoxy 500 mg ทานวันละ 4 เวลาไป 3 วัน (จริงๆต้อง 5 วันคะ แต่ว่าแถวๆร้านเรา ไม่สิ คงหลายที่ค่ะ เภสัชด้วยกันจะรู้ดีว่า ชาวบ้านมักจะขี้เกียจทานยาค่ะ ทานได้ 1-2 วันก็หยุดยา เพราะไม่มีอาการเจ็บคอแล้ว)  
    ย้ำให้คุณลุงทานให้ครบ 3 วัน ขู่ว่า หายแล้วก็ต้องทานนะ ไม่งั้นเชื้อโรคดื้อยานะ วันหลังถ้าเป็นอีกจะทานยาแล้วไม่หาย
    พร้อมกับให้ดื่มน้ำอุ่นๆ งดน้ำเย็น

    สรุปสั้นๆอีกทีนะคะ
    เภสัชกรชุมชนก็คือ ผู้ให้คำแนะนำการใช้ยานั่นเองค่ะ
    ไม่ใช่แค่บอกวิธีรับประทานยาตามฉลากเหมือนนกแก้ว นกขุนทอง เพราะยาแค่ตัวเดียว ก็มีวิธีทานหลายวิธีค่ะ
    แต่เภสัชกรจะเป็นผู้เลือกยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย (อย่างถ้าคุณลุงแพ้ยา penicilin จะทาน Amoxy ไม่ได้ เพราะยาตัวนี้จัดอยู่ในกลุ่ม penicilin เราก็จะจ่ายยาตัวอื่น)
    ถ้าหากว่าเภสัชกรไม่ซักประวัติผู้ป่วย แล้วจ่ายยาทิฟฟี่ไปให้คุณลุง คุณลุงอาจจะเจ็บคออีก 2-3 วัน (เพราะถ้ารักษาตัวเองดีๆ ก็หายได้ค่ะ) หรือหลายวัน หากคุณลุงไม่ดูแลตัวเอง
    แถมต้องเสียเงินเปล่าๆ จากการทานยาไม่ถูกโรคอีกด้วยค่ะ

    อ้อ ที่สำคัญ เภสัชกรไม่ใช่แพทย์ค่ะ เพราะฉะนั้น จะจ่ายยาเฉพาะในขอบเขตที่สามารถวินิจฉัยโรคได้ค่ะ ถ้าเป็นโรคที่รุนแรง ก็ย่อมส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญค่ะ

    ยา Amoxy เราให้คุณลุงทานหลังอาหาร ซึ่งจริงๆ การทานก่อนอาหาร ยาจะดูดซึมได้ดีกว่า แต่ว่า คุณลุงท่าทางขี้ลืม เพราะฉะนั้น ให้คุณลุงทานหลังอาหาร น่าจะดีกว่าค่ะ

    จะเห็นว่า แค่ทิฟฟี่ 1 ซอง ก็ยังมีเรื่องเขียนได้ยาวขนาดนี้
    แล้วยาอย่างอื่น เรื่องสุขภาพอย่างอื่นอีก ยิ่งมีเรื่องเขียนเยอะค่ะ  
    เจอกันตอนที่ 2 นะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะคะ

    อ่านแล้วเป็นยังไง กรุณาช่วยกัน comment ด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ

    ที่มา...
    http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=4502988594999f12e5ec393ef00948b9&bookID=67&pageid=1&read=true&count=true

    จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 1 ต.ค. 49 20:40:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com