CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยิ้มไว้...เมื่อภัย(มะเร็ง)มา ตอน 22 เล่าจากเรื่องจริง

    พอรุ่งเช้าเขาก็ย้ายให้ฉันมาอยู่อีกห้องนึง เป็นห้องรวมซะด้วยสิ ซึ่งจะมี 4 เตียงในห้องเดียวกัน ก็คิดดูละกันว่าฉันจะหาความเป็นส่วนตัวได้มั้ยละเนี่ย พอมาถึงที่ห้องก็ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านคุยกัน เหมือนนกกระจอกแตกรังเลย ฉันได้นอนร่วมห้องกับผู้ชายด้วยนะ โห มีวัยกลางคนกันทั้งๆนั้นเลย ชายสอง หญิงสอง ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาน่าจะแยกหญิงชายหน่อยนะ ไม่ใช่อะไรหรอกกลัวเขามาลักหลับตอนกลางคืนหน่ะ ไอ้เรามันยิ่งสวยๆอยู่ด้วย แต่ก็สวยแบบไม่เกรงใจเพื่อนบ้านเลย เฮ้อ ....ฉันก็บ้าแต่เช้าเลย เป็นอันว่าฉันก็ต้องอยู่ร่วมกันฉันท์มิตรกับเพื่อนบ้าน มีแต่ฉันเป็นเอเชียหัวดำอยู่คนเดียว  สักพักนึงคุณหมอแบรรี่ก็มาหา "หวัดดีจ้าแพรว คุณทำได้ดีมากเลยนะ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี" ฉันยิ้ม พลางคิดในใจว่าฉันไม่เห็นได้ทำอะไรเลย ได้แต่นอนหลับเป็นตายเลย "เราได้ตัดตับของคุณออกไป 8 เซนต์ พร้อมทั้งเอาถุงน้ำดีออกด้วย เพราะมันอยู่ใกล้กัน ผมเห็นว่ามันท่าจะไม่ดี ก็เลยตัดเอาออกมาด้วย" โห ตอนนี้ฉันก็ไม่ครบ 32 แล้วหล่ะสิ ฉันกรีดร้องอยู่ในใจ "แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณอยู่ได้อย่างสบายโดยที่ไม่มีถุงน้ำดี สบายใจได้" คุณหมอแบรรี่พยายามปลอบประโลม ไม่ให้ฉันกลัว แล้วเขาก็เปิดดูแผล ฉันก็แอบดูด้วยใจระทึก โห อย่างที่บอกค่ะว่า มันเป็นเส้นยาวลงไปจากกลางหน้าอกยาวไปจนถึงสะดือ แล้วก็เป็นแนวนอนไปจนถึงเอวเลย เป็นเหมือนเส้นตั้งฉากอะค่ะ แบบนั้นเลย เพราะเขาต้องผ่าตัดเปิดท้องแล้วเอาเครื่องเอ๊กซ์เรย์ส่องดูที่ตับ แล้วก็ตัดเอาส่วนที่เป็นเนื้อร้ายออกไป ซึ่งตอนนี้เขาก็ตัดออกไปได้หมดแล้ว ก็เท่ากับว่าไม่มีเจ้ามะเร็งที่มองเห็นได้แล้ว แต่ไอ้ที่มองไม่เห็นเราไม่รู้ ต้องให้คีโมจัดการกับมันอีกทีนึง ฉันก็ต้องทำใจว่าจะต้องเจอกับเจ้าคีโมอีกแล้ว ฉันเบื่อมันเหลือเกิน แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเพราะมันจะช่วยยืดอายุฉันไปได้อีกนาน


    ผ่าตัดครั้งนี้ฉันไม่ได้นึกมาก่อนเลยว่าแผลมันจะใหญ่ขนาดนี้ เห็นแล้วก็แทบจะเป็นลม เพราะยังมีเลือดแห้งๆติดอยู่ แถมยังมีท่อต่อมาจากจมูกอีก ทำให้กลืนน้ำลายลำบากมาก แต่ก็ยังดีที่มีท่อฉี่ ฉันก็ไม่ต้องไปห้องน้ำให้เสียเวลา แต่ว่าช่วงแรกๆ ฉันก็มักจะอึใส่กระโถน หรือเขาเรียกว่าเบด แพน (Bed pan) ฉันไปไหนไม่ค่อยได้เพราะมีสายอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ทั้งยังมีแผลเล็กๆอยู่ด้านซ้ายมือ อยู่เกือบติดขอบกางเกงในแล้วก็มีท่อต่อจากแผลนั้นเป็นท่อใสๆ มองเห็นเลือดสีแดงๆ อยู่ในท่อนั้นด้วย ซึ่งเป็นท่อดูดของเสียออกมาจากในท้องของฉัน แล้วมันก็มีสายต่อออกมาเขาก็วางไว้ไกล้ถุงฉี่เลย หมอโรเจอร์ก็บอกว่าแผลสวยดี ไม่มีการติดเชื้อ ตรวจเสร็จแล้วเขาจากไป ปล่อยให้ฉันนอนหิวข้าวอยู่คนเดียว ซึ่งฉันก็รู้ว่าตอนนี้ก็กินน้ำเกลือจากสายที่เสียบอยู่ที่แขนไปก่อน เพราะฉันเพิ่งผ่าตัดจะยังกินอะไรไม่ได้ แม้แต่อาหารอ่อนๆก็ตาม


    ช่วงตี 4 ของวันที่ 3 ฉันรู้สึกเจ็บแผลมาก แล้วก็ขยับไปไหนก็เจ็บทั้งตัวเลย ฉันก็เลยเรียกพยาบาล กว่าเขาจะมาดูฉันได้ก็ใช้เวลาเกือบ 10 นาที ฉันก็บอกให้เขามาดูว่าฉันเจ็บแผล เขาก็ไปเอายาแก้ปวดมาให้ฉันกิน แต่เขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ เลยไปเรียกหมอใหญ่มาดู เขาก็มาดูที่หลังของฉัน สักพักนึงมันก็ทำงาน ไม่เจ็บละ ฉันก็ค่อยนอนได้หน่อย  พอตอนสายๆ ชอนก็มาหาแล้วฉันก็ฟ้องเขาว่าเมื่อเช้าตรู่สงสัยได้เจ้าบล็อคหลังไม่ทำงาน และแล้วหมอวางยากับพวกนางพยาบาลก็มาหาฉัน เขาบอกว่าจะต้องเอาไอ้ที่บล็อคหลังออก เพราะว่ามันเอาไว้นานไม่ได้มันจะเกิดการติดเชื้อ ซึ่งต่อไปนี้ฉันก็ต้องใช้ยาแก้ปวดแบบกินเอา  โห ฉันเพิ่งรู้ว่าคิดผิดถนัดที่ใช้แบบบล็อคหลัง มันไม่เจ็บตอนแรกๆ แต่พอเอามันออกไปแล้วพวกยาแก้ปวดมันช่วยอะไรไม่ได้เลย ก่อนที่เขาจะเอาออกไปเขาก็ให้ฉันกินยาแก้ปวดไว้ก่อน หลังจากนั้นเขาก็ให้ฉันนั่งที่เตียงแล้วก็ดึงเอาเข็มออกมาเลย โห ฉันเห็นเข็มแล้ว มันเล็กแต่ยาวมั่กมากเลย แทบจะเป็นลม แล้วมันก็เป็นเรื่องอีกละ ไอ้หลังฉันมันก็แพ้พลาสติก ซึ่งมันเป็นผื่นแดงๆ ขี้นเต็ม ตามรอยของพลาสเตอร์ใสเลย นางพยาบาลก็ต้องเอายามาใส่ให้ ดีนะที่มันไม่ติดเชื้อที่เข็ม ไม่งั้นฉันแย่แน่ๆๆเลย


    ต่อจากนั้นเขาก็ทิ้งฉันไว้กับชอน แต่ผลปรากฏว่าเขาอาเข็มออกเร็วเกินไป ไอ้ยาแก้ปวดที่ให้ไว้มันไม่ทำงาน ฉันปวดแผล ปวดมากๆ ปวดแบบ ปวดแสบ ปวดร้อน เหมือนใครเอาน้ำร้อนมาราดเลย ฉันกดเรียกพยาบาล แต่เขาก็ไม่ยอมมาสักที ฉันนอนเกลือกกลิ้งอยู่ที่เตียง ชอนเขาก็นั่งอยู่ข้างๆ "เบบี้ เป็นอะไรหรือปล่าว เจ็บมากไหม" ฉันหงุดหงิดมาก ปวดก็ปวด "คุณช่วยไปเรียกพยาบาลมาให้หน่อยได้ไหม ฉันเจ็บแผลมาก ทนไม่ไหวแล้ว" ฉันร้องครวญคราง ไม่สนใจว่าเตียงข้างๆเขาจะคิดยังไง ฉันร้องไห้ออกมาดังๆเลย เพราะมันปวดมาก กดปุ่มแล้วกดปุ่มเล่า นางพยาบาลก็ไม่มาสักที ชอนก็ไม่กล้าไปเรียกนางพยาบาลเพราะเขาเป็นคนขึ้เกรงใจ ก็เลยนั่งมองดูฉันเจ็บอยู่นั่นแหละ เหมือนเขาจะทำท่าร้องไห้ ฉันก็หยุดหงิด เพราะเขาช่วยอะไรไม่ได้เลย ฉันเริ่มรู้สึกว่าคิดผิดเสียแล้วที่เลือกแบบบล็อคหลัง เพราะถ้าเป็นแบบเจ็บเมื่อไหร่ก็กด ฉันก็คงไม่ต้องทนทรมานอยู่อย่างนี้ ฉันร้องครวญครางอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง แล้วนางพยาบาลก็มา "โอยๆ ไปไหนมา ฉันกดเรียกอยู่ตั้งนาน ฉันปวดมากเลย ไม่ไหวแล้วนะ โอยๆ" ฉันครางไป ต่อว่าเขาไป "ฉันไปเบรคแป๊บเดียวเอง ไม่ถึง 10 นาที คุณก็มาเรียกฉันละ" เขายังจะมาเถียงอีก "ฉันกดเรียกคุณนานแล้วนะ โอยๆๆ ขอยาหน่อยได้ไหม ฉันปวดมาก" ฉันเถียงต่อ แล้วเขาก็เดินหายไป สัก 10 นาทีก็ไปเอายาอะไรไม่รู้มา มันก็ยังไม่หาย ฉันก็ร้องไห้ครวญคราง "Kill me! Kill Me! (ช่วยฆ่าฉันทีเถอะ ได้โปรดเถอะ ช่วยฆ่าฉันที)" ฉันไม่ไหวแล้ว ตะโกนบอกชอน บอกทุกคนที่ได้ยินว่าช่วยฆ่าฉันที มันปวดเหลือเกิน ฉันก็ร้องโอดโอย ชอนก็ตาแดงเหมือนจะร้องไห้


    ฉันคงจะรบกวนคนเตียงข้างๆมาก แล้วนางพยาบาลก็มาย้ายฉันไปห้องพิเศษ ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ อยู่อีกฝั่งนึง แต่ฉันก็ยังร้องโอยๆๆ อยู่ในห้อง เขาก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้เพราะเขาบอกว่ายาแก้ปวดที่ให้มันดีที่สุดแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงไม่ได้ผล ฉันร้องอยู่อย่างนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง และแล้วฉันก็หายปวดเป็นปลิดทิ้ง อาจจะเป็นเพราะว่ายาออกฤทธิ์แล้วเป็นแน่ น่าจะออกฤทธิ์นานแล้ว ปล่อยให้ฉันร้องครวญครางรบกวนคนอื่นอยู่ได้

    เมื่อฉันดีขึ้นฉันก็โทรไปบอกทุกคนที่บ้าน เขาก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันเพิ่งร้องให้คนอื่นช่วยฆ่าฉันหน่อย เพราะตอนนั้นมันปวด แต่ตอนนี้มันหายแล้ว ก็พยายามหาเรื่องสนุกคุยกับแม่และน้าๆเพื่อที่เขาจะได้สบายใจ หลังจากนั้นน้าสุดาซึ่งเป็นน้าสาวคนรองก็ได้ให้สายสืบประจำตัวของเขา คือน้องแอ๊ปเปิ้ล น้องเขาก็มาเรียนที่นี่ ซึ่งตอนนั้นมีแฟนเป็นคนออสซี่ (ตอนนี้เขาแต่งงานกันแล้ว)ด้วย  ชื่อไรอัน ซึ่งเขาก็พยายามโทรมาจะถามว่าฉันโรงพยาบาลที่ฉันพักอยู่นี้ มันอยู่แถวไหน พวกเขาจะได้มาเยี่ยมถูก ตอนนั้นชอนกลับบ้านไปแล้ว ฉันก็เลยบอกทางไม่ได้เพราะฉันขับรถก็ไม่เป็น ถ้าจะถามทางละก้อ ฝันไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ที่ไหน ก็เลยบอกพวกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง ฉันสบายดี เอาไว้ให้กลับบ้านแล้วค่อยมาเยี่ยม เพราะเกรงใจคนเขากับน้องแอ๊ปเปิ้ล

    ฉันพักอยู่ได้ 4-5 วันนางพยาบาลก็มาเอาท่อที่จมูกออก ก็ดีเหมือนกันจะได้หายใจสะดวก กลืนอะไรได้หน่อย เขาบอกว่ามันจะขยะแขยงหน่อยนะ เพราะมันออกมาจากท้องแล้วผ่านมารูจมูก พอชักออกมาก็ยังมีพวกคราบเลือดของเหลวติดมาเลอะรูจมูกหมดเลย ก็ต้องรีบเช็ดเป็นการใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็เอาถุงฉี่ออก อันนี้แทบไม่รู้สึกอะไร แต่รู้สึกเสียดายที่จะต้องไปฉี่เองละ เพราะมีท่อนี้แล้วฉันสบายมากไม่ต้องลุกไปฉี่ให้เจ็บแผล หลังจากนั้นเขาก็มาดึงเจ้าท่อดูดของเสียที่อยู่เหนือขอบกางเกงในด้านซ้ายมาหน่อยนึง เจ็บเหมือนกันนะ มันเป็นรูเลย มีเลือดออกมาด้วย แต่เขาก็เอาแค่ผ้าก๊อดสี่เหลี่ยมปิดไว้ แล้วก็เอาพลาสเตอร์มาแปะ แค่นั้นเอง ซึ่งเมื่อกลับมาบ้านแล้วไอ้แผลนี้มันเกิดเป็นหนองขึ้นมา (ค่อยพูดถึงมันทีหลัง ตอนกลับบ้านดีก่า) เขาก็ไม่ได้ใส่ยาอะไร พอมาถึงตอนนี้ฉันก็โล่งเลย  จะขยับไปไหน มาไหนก็สบายหน่อย ไม่ต้องมีสายอะไร นอกจากสายน้ำเกลือ

    แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 49 16:44:40

    จากคุณ : Summer_scent - [ 21 ต.ค. 49 15:35:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com