ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังคำตอบด้วยคนนะค่ะ ^_^ จากคุณ : Too63 - [ 7 พ.ย. 49 12:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผิวชั้นบนเีรียก epidermis ห่อหุ้มผิวชั้นกลางที่เรียกว่า dermis เป็นชั้นที่มี elastin and collagen จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติผิวชั้นนอก (epidermis) จะมีการผลัดเซลล์ผิว ... โดยที่ด้านนอกสุดของผิวชั้นนอก (epidermis) จะค่อยๆ ตายลง ... และผิวหนังข้างใต้ (ยังพูดถึง epidermis)จะค่อยๆ ขยับตัวออกมาสู่ภายนอกแทนที่ผิวที่ตายไป ... และ จะมีการสร้างขึ้นใหม่มาทดแทน (ด้านใน) ... ขั้นตอนนี้ขอเรียกว่า "cell turnover" ... กระบวนการ turnover จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ... ผิวเก่าหลุดไป ผิวใหม่เผยออกมา ทีนี้พออายุเริ่มมากขึ้น (ประมาณ 20 ขึ้นไป) ... ขบวนการ turnover จะช้าลง ... เมื่ออายุไปถึงวัยกลางคนก็จะช้าไปอีก 10 วัน โดยประมาณ ... ดังนั้นผิวที่ค่อยๆ ตายลงจะอยู่บนผิวหน้าเรานานขึ้น ... และเมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นสภาพผิวที่โทรม ไม่เปล่งปลั่งสดใส ผิวแห้ง กร้าน ไม่มีน้ำมีนวล มีสิวอุดตันรูขุมขน ดังนั้นการขจัดเซลล์ผิวตายแล้วที่กองทับถมอยู่บนผิวหน้าเราจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ ... นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นแล้วยังเป็นการช่วยส่งเสริมการ deliver ส่วนผสมต่างๆ จากพวกครีมและซีรั่มเข้าสู่ผิวได้ดีอีกด้วย ... เมื่อผิวชั้นที่ตายแล้ว หลุดออกไป (จากการ exfoliation ไม่ว่าจะเป็น mechanical or chemical) ผิวหนัง epidermis ด้านใต้ก็จะสร้างขึ้นมาใหม่เร็วขึ้น สดใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การใช้ mechanical exfoliant อาจจะทำทำร้ายเซลล์ผิวที่ดี (หากใช้รุนแรงเกินไป) ดังนั้นการใช้ chemical exfoliant จึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า ... ตัว chemical exfoliant ที่ว่าก็พวก alpha hydroxy acids ซึ่งได้แก่ lactic acid (from milk) เคล็ดลับความงามของ Cleopatra, malic acid (from apple), tartaric (grape), glycolic acid (sugar cane) เหตุผลที่ glycolic acid เป็นที่นิยม ก็เนื่องจากว่า glycolic acid มี molecule ที่เล็กที่สุดในบรรดา alpha hydroxy acids ทั้งหมด ... ซึ่งทางการแพทย์เชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด ... และหน่วยงานวิจัยบางแห่งยังวิจัยพบว่าด้วยความที่ glycolic acid มีขนาด molecule ที่เล็ก จึงสามารถซึมเข้าไปถึงผิวหนังชั้นกลาง (dermis) ซึ่งจะไปช่วยในการสร้าง collagen ด้วย จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฟังดูอาจจะงง ... ถ้าดูจากรูปด้านบน ... epidermis จะแบ่งเป็นสองส่วน ... ส่วนบนคือส่วนที่ตายแล้ว (ซึ่งมันไปทับถมทำให้ผิวหน้าหนา) และส่วนล่างคือส่วนหนังเรา ... การใช้ aha จะไปผลัดส่วนบนสุดออก ... เผยผิวใส (epidermis ตัวจริง) ออกมา ... การผลัดเซลล์ผิว ... จะทำให้ผิวที่ตายแล้วบางลง (ชั้นบนสุด) ... ก็เหมือนกันเอาปัดฝุ่นสิ่งสกปรกออกไปน่ะค่ะ ... และ ... จะทำให้ผิวหนังชั้น epidermis หนาขึ้น ... ฟังไม่ผิดค่ะ หนาขึ้น ... ส่วนล่างของ epidermis จะหนาขึ้น ... แต่เรารู้สึกว่ามันบางลง เพราะเราปัด "ฝุ่น" หรือ สิ่งสกปรก ออกไปน่ะค่ะ ... เอาเป็นว่า ... เมื่อเราใช้ AHA ไปกระตุ้นกระบวนการ cell-turnover ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ... จะทำให้ผิวชั้น epidermis หนาขี้นและมีสุขภาพดีขึ้น ... ดังนั้น การผลัดเซลล์ผิวแล้วทำให้ผิวบางขึ้น ไม่จริงค่ะ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 *** ทีนี้ก็สรุปคือว่า *** Glycolic acid (รวมไปถึง AHAs ตัวอื่นๆ) จะไปกระตุ้นกระบวนการ cell-turnover ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ส่วน Salicylic acid ... จะเอาไว้ "ผลัด" เซลล์ผิวโดยตรง เลยค่ะ ... หากใช้ที่ความเข้มข้นเพียงพอ ... มันจะไปลอก (ออกเป็นขุยๆ เหมือนผิวแห้งเป็นขุยๆ) ผิวที่ตายแล้ว (ที่อยู่ด้านบนสุดของ epidermis ออกค่ะ) ... แต่ ไม่ได้ไปกระตุ้นกระบวนการ cell-turnover ... นึกออกมั๊ยคะ ... คือถ้าไม่มีเซลล์ที่ตายบนผิว salicylic acid ก็ทำอะไรไม่ได้ พอจะนึกออกมั๊ยคะ ^_^ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองดูภาพนี้อีกนิด เผื่อยังงง จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 15:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากคำอธิบายนี้ คงตอบคำถาม 1 และ 2 ได้นะคะ ... พวก scurb ก็เป็นการขัดผิวที่ตายแล้วชั้นนอกสุดออก คือไปขูดๆ ออกน่ะค่ะ ... ถ้าหากทำรุนแรงเกินไป ... ก็จะไปทำร้ายผิวที่ยังดีอยู่ได้ค่ะ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ส่วนคำตอบที่ 3 เวลาผิวมีความชุ่มชื้นสูง ก็ดูดซึมได้ดี ทำงานได้ดีกว่าผิวแห้งๆ ค่ะ ... หลังล้างหน้า (ผิวหน้าเปียกแฉะ) ก็ช่วยได้ระดับนึง ... หรือการใช้ sodium pca ช่วยให้ผิวชั้นนอก (epidermis) ชุ่มชื้นมาก (ซึมง่าย) ... หรือการใช้ sodium hyaluronate ก็ช่วยไปได้ถึงผิวชั้นกลาง (dermis) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ skincare ที่เราต้องการให้ซึมไปถึงส่วน dermis เช่น vitamin c ค่ะ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 16:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่มเติมอีกนิด ... glycolic acid เป็น AHA ชนิดนึง ที่มีขนาดโมเลคุลเล็กที่สุดค่ะ (ตอนนี้นะ) ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 7 พ.ย. 49 16:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากครับผม พอดีว่าตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอา salicylic acid ของ(Clinique Total Turnaround) กับ Glycolic Acid 10% ของ (Neostrata) ครับ อย่างนี้สงสัยต้องเลือก Neostrata แล้วครับ จากคุณ : จอมโจรในเงาจันทร์ - [ 7 พ.ย. 49 16:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 WoW~~~ เคลียร์มากๆเลยค่ะ ได้ความรู้เพียบเลย ขอบคุณมากค่ะ ^^ จากคุณ : mighty panda - [ 7 พ.ย. 49 19:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้โห ชัดเจนมาก  คุณ Phoebe Buffay ใส่ไว้ใน blog ด้วยก็ดีค่ะ  เด็กๆมาทีหลังจะได้รู้เรื่อง จากคุณ : DKW - [ 7 พ.ย. 49 20:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วเซฟเก็บอย่างรวดเร็ว เห็นด้วยกับคุณ DKW จ้า อย่าลืมใส่ไว้ในบ๊อกนะ ตัว Glycolic Acid ในเมืองไทยนอกจาก Neostrata จะมียี่ห้ออื่นไหมนี่ เพราะทั้งตัว Neutrogena ที่คุณฟีบี้แนะนำไว้ก็ไม่มีขาย ตัว Alpha hydrox ก็ไม่มี หาใช้ยากจริงจริ๊งงง จากคุณ : ningpotter - [ 7 พ.ย. 49 21:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Glycolic Acid  ใน Maxkin 7% 10% ก็มีค่ะ จากคุณ : Ausary - [ 8 พ.ย. 49 13:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุด ๆ แล้วเนี่ย จากคุณ : ป้าจะอิ๊บ (jipnaja) - [ 9 พ.ย. 49 09:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สงสัยนิดนึงคับ หลังล้างหน้า (ผิวหน้าเปียกแฉะ) ก็ช่วยได้ระดับนึง ... หรือการใช้ sodium pca ช่วยให้ผิวชั้นนอก (epidermis) ชุ่มชื้นมาก (ซึมง่าย) ... หรือการใช้ sodium hyaluronate มีผลิตภัณฑ์ของอะไร บ้างครับ จากคุณ : กอล์ฟ (Jookamoo) - [ 9 พ.ย. 49 11:53:04 ]