นาย A ไปหาที่ร้านยา
"น้อง พี่เจ็บคอ จัดยาแก้อักเสบให้พี่ชุดนึงสิ"
พอจัดให้เสร็จ ก็มีคำแนะนำให้ ทานยาติดต่อกันจนหมดนะครับพี่
อีก 2 วัน นาย A ไปร้านยาเดิม
"น้อง พี่ปวดกล้ามเนื้อ จัดยาแก้อักเสบให้ชุดนึงสิ"
พอจัดยาเสร็จ คราวนี้ก็ให้คำแนะนำว่าทานยาหลังอาหารทันทีนะครับ นาย A ก็เกิดความสงสัย แล้วต้องกินยาให้หมดเหมือนกับยาแก้อักเสบชุดแรกหรือเปล่า
คุณคิดว่า คน 2 คน จะได้รับยาตัวเดียวกันหรือไม่
"ยาแก้อักเสบ" คำ ๆ นี้ ในเมืองไทยใช้เรียกยาที่ใช้รักษาพวกโรคเจ็บคอ เจ็บกล้ามเนื้อ ขอให้เจ็บไว้ก่อน ก็เรียกอักเสบทุกอย่าง
แต่ความจริงแล้ว ยาแก้อักเสบที่พวกเราเรียก ๆ กันนั้น มันเป็นยา 2 กลุ่ม ซึ่งมีตัวยาที่เรียกถูกต้องตัวนึง และเรียกผิดตัวนึง
ยาตัวแรก คือ ตัวที่เรียกกันผิด ๆ คือ ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ (Antibiotic) ซึ่งยาตัวนี้จะใช้สำหรับการติดเชื้อ ซึ่งจะเป็นเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัส สำหรับยาในกลุ่มนี้ วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ต้องรับประทานยาติดต่อกันจนหมด แม้ว่าอาการจะหายไปแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา
ยาตัวที่ 2 คือ ยาแก้อักเสบตัวจริง (Anti-Inflammatory)
เป็นยาที่ลดอาการอักเสบ ซึ่งได้แก่ อาการ ปวด บวม แดง ร้อน ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะเรียกว่ายากลุ่ม NSAIDs (เอ็นเสด) ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะมีลักษณะเด่น คือ ต้องกินยาหลังอาหารทันที เพราะยาระคายเคืองกระเพาะ และไม่จำเป็นต้องกินยาจนหมด เพราะถ้าทานยานาน ๆ อาจมีปัญหาเป็นโรคกระเพาะตามมา
ดังนั้นการเรียกชื่อกลุ่มยาของคนไทยในปัจจุบันยังมีความคลาดเคลื่อนเยอะมาก โดยเฉพาะเมื่อไปซื้อยา บอกจะซื้อยาแก้อักเสบ ก็จะไม่รู้ว่าเอาตัว Antibiotic หรือ Anti-inflammatory ดังนั้นเราน่าจะทำความเข้าใจในการเรียกชื่อยาให้ถูกต้องนะครับ
แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 22:22:59
จากคุณ :
beverage144
- [
14 พ.ย. 49 20:18:04
]