ความคิดเห็นที่ 1 มาปูเสื่อรอค่ะ จากคุณ : ฮิปโปกระโดด - [ 24 พ.ย. 49 19:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปูเสื่อรอเหมือนกัน จากคุณ : *..Dora_Mashi..* - [ 25 พ.ย. 49 09:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาเล่าต่อจ้ะ เมื่อวานต๊กกะใจแทบแย่ นึกว่าแฟนจะมาเห็นที่ฉันพิมพ์เสียแล้ว .................................................... วันนั้นแม่ของฉันกำลังพับผ้าเพื่อเก็บใส่ตู้ ฉันก็วิ่งเล่นไปตรงที่แม่นั่งอยู่ ตาก็เหลือบไปเห็นชุดของแม่ชุดหนึ่งแขวนอยู่ ซึ่งชุดนั้นเป็นชุดเสื้อ-กระโปรงติดกัน เป็นผ้าบางๆสีฟ้า ฉันก็บอกว่าเสื้อแม่เหรอ สวยจัง แม่ก็ถามกลับมาว่าอยากลองใส่มั้ย แล้วแม่ก็จัดการแต่งตัวให้ ฉันก็รู้สึกว่าชอบมากเลย ผ้ามันนิ่มๆลื่นๆำพริ้ว สวย ก็วิ่งออกมาหาพ่อ พ่อฉันเองก็คงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอก แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรฉัน แต่หันไปพูดอะไรกับแม่ก็ไม่รู้ ฉันก็ใส่ชุดนั้นนั่งๆนอนๆเล่นอยู่นานเหมือนกัน จนฉันเบื่อก็เลยถอดแล้วก็เอาไปคืนแม่ เรื่องราวในวันนั้นฉันจำได้จนถึงปัจจุบันนี้ ฉันเพิ่งมานั่งคิดได้เมื่อตอนที่โตขึ้นแล้วว่า แม่ฉันคงอยากได้ลูกสาวมาช่วยงานบ้านของท่าน ท่านก็คงคิดว่าถ้าฉันเป็นลูกสาวก็คงดี ต่อมาเมื่อฉันเรียนมาจนถึงระดับป.4 ฉันได้ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวกินที่ร้านค้าข้างโรงเรียน ฉันเห็นหนังสือวางอยู่เล่มหนึ่ง ฉันจึงไปหยิบมาดู เพราะฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือ หนังสือเล่มนั้นไม่มีปกคาดว่าจะโดนฉีกออกไป แต่เนื้อหาที่อยู่ภายในนั้นทำให้ฉันรู้สึกใจหวิวๆอย่างไรบอกไม่ถูก เนื่องจากเป็นรูปผู้หญิงในชุดชั้นในแบบบางๆมองเห็นข้างในหมดเลย แล้วมีข้อความบรรยายเป็นเรื่องแบบสยิวๆ ฉันอ่านก็ไม่เข้าใจหรอกว่าหมายถึงอะไร แต่รูปนั้นทำให้ใจฉันหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เนื่องจากฉันชอบอ่านหนังสือ เวลาที่ฉันได้เข้าไปในตลาด ฉันจะซื้อหนังสือทุกประเภทที่ดูน่าปกแล้วน่าสนใจ ฉันได้ซื้อการ์ตูนญี่ปุ่นมาเล่มหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว ภายในเป็นการ์ตูนหลายๆเรื่อง แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันยังจำได้ เรื่องแรกในนั้นจะเป็นเรื่องของนักเรียนหญิงญี่ปุ่นจะไปขอความช่วยเหลือเรื่องการบ้านกับเพื่อนชายของเธอ เธอจึงได้ปีนข้ามหน้าต่างเข้าไปหาเพื่อนของเธอ แต่เธอไปเห็นว่าเพื่อนของเธอกำลังดูหนังสือโป๊และช่วยตัวเองอยู่ เธอจึงต่อรองว่าให้ทำการบ้านให้เธอ แล้วเธอจะไม่เอาเรื่องไปบอกใคร ภาพของการ์ตูนนั้นยังอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่เสมอ เป็นภาพของเด็กผู้หญิง ใส่กระโปรงบานๆสั้นๆ นั่งแบบไม่ระวังเห็นกางเกงใน แล้วในฉากต่อมาเธอไปเป็นนักดนตรี แต่งตัวแบบแปลก(ในสายตาของฉันตอนนั้น) และในฉากต่อมาเป็นฉากที่เสื้อผ้าเธอหลุดลุ่ย เห็นหน้าอก และมีคนยืนล้อมอยู่ พร้อมกับมีน้ำเปียกเป็นหย่อมๆทั่วตัวเธอ ในตอนนั้นฉันคิดว่าฉันอยากเป็นผู้หญิงคนนั้นจัง ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน เมื่อฉันเริ่มเข้าเรียนในชั้น ป.6 ฉันได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวในกรุงเทพเป็นครั้งแรก มันช่างน่าตื่นตาอะไรเช่นนี้ แต่สิ่งที่สะกิดใจฉันก็คือ ฉันเห็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าแต่งตัวใส่เสื้อ-กระโปรง-ถุงน่อง ฉันรู้สึกชอบมาก ฉันว่าพวกเขาดูสวย ฉันอยากลองแต่งตัวแบบเขาบ้างจัง ฉันก็ได้แต่คิดหวังไว้แค่นั้น แต่แล้วโชคชะตาก็พาเริ่มเล่นตลกกับฉัน ฉันต้องมาเรียนที่กรุงเทพโดยมาอาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงสาว จากนี้เองที่ชีวิตฉันเริ่มเปลี่ยนแปลง ฉันเห็นญาติของฉันนั้นแต่งตัวสวย สวมชุดเสื้อ-กระโปรง ลักษณะเดียวกับพนักงานขายของในห้าง ฉันเริ่มสงสัยว่าผู้หญิงเขารู้สึกกันอย่างไร เพราะได้ได้รับรู้มาว่าการที่ผู้หญิงจะท้องนั้นเกิดจากการได้นอนกับผู้ชาย ฉันก็สงสัยว่าเขานอนกันเฉยๆแล้วก็ท้องเลยเหรอ ถ้าอย่างนั้นทำไมฉันนอนกับญาติของฉัน เขาไม่เห็นท้องสักที จากคุณ : Crossdress - [ 25 พ.ย. 49 09:34:24 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาจองที่ค่ะ จากคุณ : AlwaysSmiles - [ 25 พ.ย. 49 09:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จองที่ถัดมาคะ จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 10:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Crossdress หยุดเสาร์-อาทิตย์ป่าว จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 10:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในระหว่างที่อยู่กับญาติผู้หญิงนั้น ฉันเองก็เห็นเขาแต่งตัวอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการกระโจมอกอาบน้ำ เห็นเขาใส่ผ้าอนามัย เห็นเขาใส่ถุงน่อง เห็นเขาใส่เสื้อชั้นใน เห็นเขาใส่ต่างหู เห็นเขาแต่งหน้า ฉันก็เลยรู้ว่าของแต่ละอย่างนั้นเขาเก็บไว้ที่ไหนกันบ้าง วันหนึ่งเพื่อนชายของญาติฉันได้มาเที่ยวหาที่บ้าน เขาเอาม้วนวีดีโอมาให้ญาติของฉันดู ซึ่งเขาก็จะเปิดม้วนพวกคาราโอเกะที่มีสาวใส่ชุดวับๆแวมๆ แต่ภาพเหล่านั้นไม่เกิดความรู้สึกอะไรกับฉัน แต่แล้ววันหนึ่งมันคงจะถึงเวลาแล้วที่ฉันจะค้นพบอะไรบางอย่างที่\"แอบ\"อยู่ในตัวฉัน วันนั้นญาติของฉันไปงานที่ต่างจังหวัดไปค้างคืน จะกลับอีกวันตอนค่ำๆ บอกให้ฉันอยู่บ้านคนเดียว ฉันก็แอบดีใจว่าวันนี้จะได้นอนดูหนังวีดีโอ เพราะว่ามีอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่เปิดดูกัน ฉันจึงลองไปหยิบม้วนหนึ่งเอามาเปิด มันเป็นชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ ฉันอ่านออกแต่แปลไม่ออก ก็เลยลองเปิดดู ในหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวประมาณว่าสามีแอบติดกล้องไว้ที่บ้านตัวเองเพื่อจับผิดภรรยาตัวเองที่มีชู้ แต่มันเป็นหนังอาร์แหล่ะ ผู้หญิงแต่งตัวสวยมากในความรู้สึกฉัน เวลาที่มีผู้ชายมาลูบไล้ ผู้หญิงจะทำหน้าตามีความสุขมาก ฉันเลยตัดสินใจว่าลองดูซิถ้าฉันแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้ว ฉันจะมีความสุขแบบนักแสดงในหนังหรือเปล่า ฉันจึงไปค้นตู้เสื้อผ้าของญาติ ก็ได้กางเกงในผ้าลูกไม้สีเหลืองมา 1 ตัว แล้วเจอถุงน่องสีเนื้อแบบเต็มตัวอีก 1 คู่ ฉันก็สวมถุงน่องเข้าไปก่อน (ตามวิธีที่ฉันเห็นจากญาติของฉัน) ในความรู้สึกมันนิ่มมาก ลองลูบขาตัวเองดู นุ่มลื่นดีจัง แล้วฉันก็ใส่กกน. อันนี้ยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปใหญ่ลื่นๆกระชับ ไม่เห็นเหมือนกกน.ของฉันเองเลยที่หลวมๆยังไงไม่รู้ แล้วฉันก็ไปค้นเจอเสื้อในเสริมโครงสีขาวเป็นลูกไม้แบบถอดสายได้ของวาโก้ ฉันก็เอามาใส่ ด้วยความที่เป็นเด็กตัวเล็ก ใส่แล้วก็หลวม ฉันก็เอาคลิบหนีบแฟ้มมาหนีบไม่ให้มันหลวม แล้วฉันก็ไปค้นเอากระโปรงมาใส่ เป็นกระโปรงแบบที่ตอนนี้สาวๆนิยมใส่กันน่ะ (เป็นแบบบานๆผ้าย่นๆแบบพวกโบฮีเมียน) พอใส่ไปแล้วก็จะรู้สึกว่ามันปกคลุมแต่ว่าโล่งๆ แล้วฉันก็เอาเสื้อมาใส่ เป็นผ้ามันๆแบบคอถ่วง ฉันไปเอารองเท้าส้นสูงสีขาวมาใส่ แล้วฉันก็ไปยืนมองในกระจก อืม ดูดีเหมือนผู้หญิงเลย (ยกเว้นหน้าก็ยังเป็นเด็กผู้ชายอยู่) จากนั้นฉันก็ลองไปแต่งหน้าดูบ้าง เพราะในหนังเขาแต่งหน้าแล้วสวยดี ฉันก็ทาแป้ง ทาปาก เอาดินสอมาเขียนคิ้ว (ทำเหมือนกับญาติของฉันทำ) ฉันใส่ตุ้มหูแบบหนีบ ฉันกลับไปดูตัวเองในกระจกอีกครั้ง ทุเรศจิ๊บหาย ไม่ต้องแต่งหน้าซะยังดูดีกว่า (จนปัจจุบันฉันก็ไม่แต่งหน้าเลย) แล้วฉันก็เดินไปเดินมา รู้สึกว่าไม่เห็นเป็นยังไงเลย หรือว่าเขาต้องใส่ผ้าอนามัยด้วย ฉันก็ไปค้นเอาผ้าอนามัยมาใส่ ตอนนี้แหล่ะที่เริ่มมีความรู้สึกแล้ว [ถ้าคุณผู้ชายอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ลองไปเอามาใส่ดูแล้วจะรู้] แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนฉันง่วงนอน ฉันก็คิดไปว่าลองนอนดูซิเผื่อจะท้องได้มั่ง ฉันก็นอนทั้งๆที่ใส่ชุดอยู่นั่นแหล่ะ ไม่รู้ว่ามันถึงวัยแล้วหรือว่าเกิดจากชุดที่ฉันใส่อยู่ ในคืนนั้นฉันก็ฝันต่างๆนาๆกระสับกระส่าย แล้วฉันก็ฝันว่าฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวกับในการ์ตูนที่ฉันเคยอ่าน แล้วฉันก็รู้สึกเสียวสุดๆตรงนั้น ฉันสะดุ้งตื่นโอยฉันฉี่รดที่นอนหรือนี่ ชุดญาติฉันด้วย เมื่อฉันลองล้วงๆเข้าไปในเป้ากางเกงในก็พบว่าเป็นน้ำเหนียวๆ ไม่เยอะเท่าไหร่ ในความที่ง่วง เพลีย ฉันก็หลับต่อ มาตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว น้ำที่ว่านั้นก็แห้งไป ฉันก็ถอดชุดของญาติฉันออก ก็ไม่เห็นท้องนี่นา แล้วผู้หญิงกับผู้ชายเขานอนกันยังไงนะถึงได้ท้อง แต่ในใจลึกๆก็ชอบที่ได้แต่งชุดของญาติฉัน มันให้ความรู้สึกที่นุ่มกระชับอบอุ่นสบาย หลังจากวันนั้นถ้าญาติฉันไม่อยู่ฉันก็จะแอบเอาชุดของญาติมาแต่งอีก โดยจะเปลี่ยนชุดไปเรื่อยๆ แต่ฉันจะติดใจชุดแรกที่ฉันเคยใส่มากที่สุด ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าญาติฉันรู้หรือเปล่าในตอนนั้นจนถึงตอนนี้ จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 10:07:56 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดีใจจังที่มีคนอ่านแล้วไม่โดนด่า ขอบคุณจากใจจริง เราจะเล่าเรื่องของเราไว้ให้เป็นอุทาหรณ์กับคนรุ่นหลังๆ ตอบคุณ mazzygeeds เราหยุดเสาร์อาทิตย์จ้ะ จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 10:20:57 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม..... แล้ววันนี้จะมาเล่าทั้งวันป่าวอ่ะ อยากอ่าน น่าติดตามดีนะ เอ๊ะ....นี่เราอยากรู้เรื่องชาวบ้านขนาดนี้เลยหรือ  อิ อิ อิ จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 10:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ระหว่างที่ฉันอาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องของฉันนั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คิดว่าลูกพี่ลูกน้องของฉันคนนี้คงรู้อะไรลางๆแล้ว คือว่าในช่วงที่ฉันแอบเอาเครื่องแต่งตัวของเขามาใส่นั้น เมื่อฉันถอดแล้วก็จะเอาไปเก็บไว้ที่เดิม รวมทั้งผ้าอนามัยด้วย แล้วมันมีอยู่วันนึงที่ผู้หญิงคนที่เป็นเจ้าของผ้าอนามัยนี้จะหยิบมาใส่ เขาก็เห็นว่ามันเปื้อนๆ เขาก็บ่นว่ามันเปื้อนอะไร ญาติผู้หญิงอีกคนก็บอกว่ามันเปื้อนทิ้งไปเหอะ แล้วมองๆมาทางฉัน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาจับได้หรือเปล่า เขาอาจจะรู้แต่ยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา เพราะฉันเองก็ทำอะไรที่ผิดสังเกตุหลายอย่าง เพราะว่าในเวลาที่ฉันจะแต่งตัวเป็นหญิงนั้นฉันจะปิดบ้านล๊อกกลอนทั้งหมด แล้วมันจะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ญาติฉันกลับเร็วกว่าปกติ ในตอนนั้นฉันก็แต่งตัวอยู่ครบชุดเหมือนเดิม เพิียงแต่ว่าถุงน่องเป็นแบบแค่โคนขา ญาติมาเคาะประตู ฉันถอดชุดแทบไม่ทัน เสื้อผ้าจับยัดใส่ตู้ ถุงน่องม้วนๆลงมาจนเป็นบ่วงกลมๆแล้วยัดใส่ตู้ กางเกงในของเขาฉันถอดไม่ทันก็เอากางเกงขาสั้นของฉันมาสวมทับไปเลย แล้วฉันก็ไปเปิดประตูให้เขา เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ฉันก็ลืมไปเลยว่าถุงน่องของเขานั้นแรกเริ่มเดิมทีไม่ได้เป็นบ่วงอย่างนั้น เขาพับไว้อย่างดี ฉันมานึกได้อีกทีก็ตอนเช้าแล้ว เมื่อไปดูมันก็ยังอยู่ที่เดิม แต่ว่าในตอนกลางคืนและตอนเช้านั้นญาติสาวๆฉันต้องเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่แล้ว ฉันว่าเขาต้องสังเกตุเห็นความผิดปกติมั่งแหล่ะ จากนั้นฉันต้องกลับไปอยู่กับพ่อแม่อีกครั้ง ก่อนที่จะไปฉันเริ่มติดใจการแต่งตัวเป็นหญิงแล้ว เป็นครั้งแรกที่ฉันจะซื้อของใช้ของผู้หญิง ฉันจึงได้ทำตัวใจกล้าหน้าด้านไปซื้อถุงน่องมา 2 คู่ ในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเขาซื้อกันยังไง ฉันก็บอกคนขายไปว่าซื้อถุงน่อง 2 คู่เขาก็ถามว่าเอาเบอร์อะไร ฉันก็ไม่รู้ [ใจเต้นตูมๆเหมือนดั่งกลองเพล] ฉันบอกเขาไปว่าพี่สาวฝากมาซื้อ เอาเบอร์อะไรก็ได้ คนขายถามว่าทำไมพี่สาวไม่มาเอง แล้วถามฉันอีกว่าพี่สาวผิวขาวมั้ย ฉันก็บอกว่าไม่ขาวหรอกเหมือนฉันนี่แหล่ะ เขาก็จัดถุงน่องมาให้ 2 คู่สีเนื้อกับสีควันบุหรี่ ความรู้สึกตอนนั้นคือ เลือดสูบฉีดทั้งตัว ร้อนผ่าวๆที่ใบหน้า ไม่รู้ว่าหัวใจเต้นดังขนาดคนข้างๆยังได้ยินเลยมั้ง เมื่อฉันกลับไปอยู่กับพ่อแม่ ฉันก็ต้องแอบๆเอาถุงน่องซ่อนไว้ และเมื่อมีโอกาสพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ฉันก็จะเอาถุงน่องมาใส่ และเอาชุดของแม่มาใส่ อยู่ในบ้านนั่นแหล่ะ แต่ไม่ค่อยบ่อยเพราะพ่อแม่มักจะไม่ออกไปข้างนอกพร้อมกัน มีอยู่วันหนึ่งฉันได้ไปนอนค้างคืนที่บ้านญาติผู้ใหญ่ของฉันอีกคนหนึ่ง ในบ้านนั้นจะมีคนอาศัยอยู่หลายคน มี 2 คนเป็นญาติผู้ชายรุ่นๆเดียวกับฉัน และก็มีญาติสาวๆที่โตกว่าฉันหน่อยอีก 2 คน ตกตอนกลางคืนฉันเดินผ่านตู้เสื้อผ้าของญาติผู้หญิง 2 คนนั่น มันเป็นตู้ไม้แล้วมีกระจกใส ฉันมองเห็นผ่านกระจกว่ามีผ้าอนามัยอยู่ 2-3 ห่อ ฉันจึงแอบจิ๊กเอามาอันหนึ่ง เอามาใส่ แล้วฉันก็นอนหลับไป ในช่วงนั้นเป็นหน้าหนาวตอนเช้าๆก็จะออกมานั่งผิงไฟ เผามันกินกัน ฉันเองเมื่อตื่นมาแล้วก็ยังไม่ได้ถอดเอาผ้าอนามัยออกไปทิ้ง ก็วิ่งไปนั่งรวมกลุ่มกับญาติผู้ชาย 2 คนนั่น ฉันก็นั่งยองๆคุยกันไปโดยลืมไปว่าตัวเองใส่ผ้าอนามัยอยู่และกางเกงในเด็กมันก็ตัวเล็กๆน่ะ แต่กางเกงบอลมันขาบาน ฉะนั้นไอ้ญาติ 2 คนนั่งก็เลยทักขึ้นมาว่า \\\"เฮ้ย ไอ้เบิ้มเมิงใส่ผ้าอนามัยด้วยเหรอ ใส่ทำไมวะ\\\" ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ตอนนั้นหัวใจฉันตกลงไปอยู่ในกองไฟเรียบร้อยแล้ว คิดว่าหน้าตัวเองคงจะซีดเหมือนผีซาตาโกะเลย เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้ว \\\"กูลองใส่ดูเฉยๆ\\\" พวกมัน 2 ตัวก็หัวเราะกันใหญ่เลย วันนั้นยังโชคดีนะที่ผู้ใหญ่ไม่มานั่งอยู่ด้วย ไม่งั้นฉันคงแย่กว่านี้ความแตกแน่เลย แต่ก็ต้องขอบคุณญาติที่แสนดีของฉันทั้งสองคนนั้น พวกมันไม่เคยปริปากให้ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย มันอาจจะเข้าใจอะไรดีกว่าฉัน หรือไม่ก็มันยังเด็กอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมาก ป่านนี้คงลืมไปหมดแล้ว แต่สำหรับฉันแล้วนั่นเป็นครั้งแรกที่โดนจับได้ว่าเป็นคนที่ผิดมนุษย์มนา จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 10:58:29 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ติดตาม  ตามติดจ๊ะ ว่าแต่รู้สึกยังงัยอ่ะเวลาใส่ผ้าอนามัย เพราะเรารู้สึกว่ามันเกะกะน่ารำคาญอ่ะ จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 11:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในระหว่างที่ฉันอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ฉันนั้น ก็ไม่ค่อยได้แต่งหญิงบ่อยนัก ในช่วงที่ฉันไม่ค่อยไ้ด้แต่ง มันก็เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง หลังจากฉันเรียนจบม.3 ฉันก็มีความจำเป็นต้องไปอาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องของฉันอีกครั้ง ฉันดีใจมากที่จะได้แต่งตัวอีกครั้ง ญาติของฉันมีชุดเยอะเนื่องจากเธอทั้งสองทำงานเป็นสาวออฟฟิต เธอจึงมีชุดที่เป็นเสื้อ-กระโปรงเยอะมาก เธอจะตัดใหม่เกือบทุกเดือน ฉันเข้ามากรุงเทพแล้วกลับมาใส่ชุดเดิมอีก ฉันดีใจมาก ช่วงนี้ฉันเริ่มหลงไหลที่จะใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่ขึ้นมาอีกหน่อย จำพวกเสื้อกล้ามสายเดี่ยว กระโปรงสั้น ถุงน่องดำ และโชค(ดีหรือเปล่า)ก็เข้าข้างฉันอีกครั้ง ญาติฉันซื้อบ้านใหม่แต่ยังไม่เข้าไปอยู่ แต่ว่าเอาเสื้อผ้าไปไว้บ้างแล้ว ให้ฉันไปนอนที่บ้านนั้น ฉันจึงได้มีเวลาที่จะแต่งตัวได้บ่อยครั้งขึ้น จนแทบจะทุกวัน บางครั้งฉันก็ใส่นอนหลับไปทั้งชุดนั้นเลย ฉันมีความรู้สึกว่าทำไมผู้หญิงถึงได้โชคดีอย่างนี้ มีเสื้อผ้าให้ใส่สวยๆมากมาย ผ้าก็นิ่มๆลื่นๆน่าสัมผัส แต่ของผู้ชายมีแต่ยีนส์ๆ ในเวลานี้เองฉันก็เจอเพื่อนที่เป็นกระเทย ฉันลองคิดย้อนไปถึงคำพูดของพวกญาติผู้ใหญ่ของฉันที่มักจะบอกว่าฉัน รูปร่างสูง ผอม แขนขาเล็กเหมือนผู้หญิง นิ้วเรียว ขนตายาว และเสียงเล็กแบบผู้หญิง ฉันเริ่มคิดว่าฉันคงเป็นกระเทยแบบเพื่อนแน่ๆเลย แต่อีกใจฉันก็ว่าไม่ใช่หรอก ทำไมเราไม่มีความรู้สึกกับผู้ชายเลยนะ แต่ถ้าเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยๆ แล้วเราจะมีความรู้สึก รู้สึกว่าอยากเป็นผู้หญิงคนนั้น อยากแต่งตัว อยากแต่งหน้า อยากทำผม อยากเดินเหมือนอย่างผู้หญิงคนนั้นๆ ตอนนั้นฉันก็เริ่มรู้จักว่าเกย์เป็นอย่างไรแล้ว ฉันก็มาคิดอีกว่าฉันเป็นเกย์หรือเปล่าเนี่ย แต่เขาว่าเกย์จะทำตัวแบบผู้ชายแต่รักผู้ชายด้วยกัน แล้วฉันเป็นเกย์หรือเปล่านี่? แต่คงไม่ใช่แน่เลย ฉันไม่ได้รักผู้ชาย ฉันรักผู้หญิง แต่ฉันก็อยากแต่งตัวเป็นผู้หญิง สรุปแล้วคิดไปคิดมา ฉันว่าฉันคงเป็นแบบนี้คนเดียวในโลกแน่ๆเลย ฉันเป็นโรคจิตแน่ๆเลย จนวันหนึ่งฉันได้ไปพบหนังสือเกี่ยวกับสุขศึกษาเล่มหนึ่งเขาให้ชื่อของโรคที่ฉันเป็นว่า \"ลักเพศ\" ก็คือคนที่หลงไหลในสิ่งตัวแทนของเพศตรงข้าม บางคนหลงไหลในกลิ่น หลงไหลรองเท้าส้นสูง หลงไหลชุดชั้นในที่ใช้แล้ว ฯลฯ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ฉันเริ่มแน่ใจแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นโรคประหลาดนี้คนเดียวในโลกอย่างแน่แท้ ฉันก็เอาเสื้อผ้าของญาติมาใส่อยู่บ่อยๆ โดยในตอนนี้ฉันเริ่มใจกล้าไปซื้อถุงน่องมาอีกหลายคู่ แต่แล้ววันที่ความ(เกือบ)แตกก็มาถึง ญาติของฉันได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ฉันเองก็ตื่นเต้น เพราะว่าต้่องมีชุดอีกมายมายหลายชุดแน่ๆเลย แล้ววันที่เขาขนของมาแล้วย้อนกลับไปเอาของที่เหลือจากบ้านเก่า วันนั้นก็เหลือฉันอยู่บ้าน ฉันก็แอบเข้าไปในห้องของญาติเปิดตู้้เสื้อผ้าดู โห มีเสื้อผ้าใหม่ๆสวยๆเพียบเลย ว่าแล้วฉันก็เริ่มเลือก ฉันได้เอาชุดกระโปรงบานยาวลายดอกไม้ เสื้อคอปกแขนจัมป์ลายเดียวกันมาใส่ ฉันมองตัวเองในกระจก ในเวลานั้นฉันเริ่มตัวใหญ่ขึ้นมาพอๆกับญาติแล้วจึงใส่ชุดได้พอดี ฉันหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจก เริ่มหลงรักตัวเองเข้าแล้ว ทำไมผู้หญิงคนที่อยู่ในกระจกสวยจัง สักพักฉันก็ถอดชุดนั้นออก แล้วก็ลองชุดอื่นอีก โดยลืมเอาชุดแรกนั้่นวางไว้บนเตียง จากนั้นฉันก็เลิกใส่แล้วกลับลงมาข้างล่าง เมื่อญาติฉันขนของกลับมา เขาขึ้นไปเห็นว่าเสื้อผ้่าของเขาชุดนั้นทำไมวางอยู่บนเตียง เขาเรียกฉันขึ้นไปเลยว่าได้เอาออกมาเล่นหรือเปล่า ฉันใจเสียมากๆเลยไม่รู้หน้าซีดขนาดไหนแล้ว ก็โกหกทั้งเสียงสั่นๆไปว่าไม่รู้ พี่ลืมเก็บเองหรือเปล่า เขาก็ว่าเขาไม่ลืมหรอก แล้วเขาก็หันไปถามญาติอีกคน รายนั้นก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็มาคาดคั้นกับฉัน ฉันก็ปากแข็งยืนยันไปว่าไม่ใช่ จะเอาออกมาทำไมล่ะ ฉันก็มั่วไปเลยว่าผีหลอกมั้ง ญาติฉันก็คงเห็นว่ายังไงฉันก็ไม่ยอมรับ เขาก็เลย เออๆ ช่างมันเหอะ แต่ฉันรู้ว่าเขาต้องสงสัยว่าเป็นฉันแน่ๆเลย ต่อจากนั้นฉันกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำไปเลย เพราะเวลาแต่งตัวเสร็จแล้วถอดเก็บทีไร ฉันต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะต้องเหมือนเดิม ไม่งั้นเขาต้องจับฉันได้แน่เลย จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 11:47:15 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากนั้นฉันก็\"แอบ\"แต่งอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ฉันมีถุงน่องประจำตัวของฉันแล้ว ผ้าอนามัยก็มีประจำตัวแล้ว [ใส่ซ้ำไปซ้ามา สกปรกจริงๆ] ฉันก็ได้ซ่อนของเหล่านี้ไว้ในกองขยะ[ของส่วนตัว]ของฉัน จนมาวันหนึ่งเป็นวันที่ทำให้ผู้ที่มีพระคุณล้นเหลือของฉันต้องร้องไห้ ฉันนี่บาปจริงๆ วันนั้นแม่ฉันมาหาฉัน ฉันก็ไม่คิดว่าแม่จะรู้หรอก แต่แล้วเมื่อฉันไปเรียนกลับมา ญาติฉันยังไม่กลับมา เจอแม่นั่งหน้าเครียดอยู่ พอไปถึงแม่ก็เรียกฉันไปคุยเลย ว่าของพวกนี้ไปเอามาจากไหน แม่พูดพร้อมกับหยิบถุงน่องกับผ้าอนามัยที่ฉันซ่อนไว้ออกมา หัวใจฉันหยุดเต้นไปนานเท่่าไรไม่รู้ ฉันนิ่งเงียบ แม่ฉันถามอีกด้วยน้ำเสียงสั่นว่าฉันไปเอามาจากไหน เอามาทำไม เอามาดมหรือ มันของต่ำของสกปรก ทำไมลูกแม่ทำอย่างนี้ ฉันร้องไห้แม่ฉันก็ร้องไห้่ ฉันบอกแม่้ไปว่าฉันไม่ได้เอามาดม ฉันอยากรู้เฉยๆว่ามันเป็นอย่างไร แม่ก็ถามฉันอีกว่าไปขโมยใครมา นี่มันของใช้แล้วนี่ ฉันบอกว่าถุงน่ิองน่ะเก็บได้ แต่ผ้าอนามัยซื้อมา แม่ก็ว่าทำไมมันเก่า ฉันบอกว่ามันคงเปื้อนเวลาฉันเอาไปซ่อนนั่นแหล่ะ แม่ก็ว่าถ้าบอกว่าเป็นของเพื่อนของแฟนสักคำแม่จะำไม่ว่าเลย [แล้วทำไมฉันไม่บอกว่าเป็นของเพื่อนวะ โง่จิ๊บ] แม่ก็บอกว่าอย่าไปเอามาอีกนะของพวกนี้เป็นของต่ำ ของสกปรก ฉันก็รับปากแม่ ฉันรู้ว่าแม่เสียใจมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่แม่ร้องไห้ให้ฉันเห็น และเป็นเรื่องของฉันเสียด้วย เพราะปกติแม่เป็นคนเข้มแข็งมาก ไปกินข้าวก่อนนะเดี๋ยวมาต่อ จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 11:58:47 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จ้า................. จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 13:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จากวันนั้นฉันคาดว่าแม่จับตาดูฉันตลอด และไม่แน่ใจว่าแม่ฉันได้ไปเล่าให้ลูกพี่ลูกน้องของฉันฟังหรือเปล่า หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็กลับบ้าน ฉันก็อยู่กับญาติต่อไป ฉันก็เลยไม่ได้แต่งหญิงไปนานเลย แต่แล้วก็คงเพราะว่าของมันเคยๆกันอยู่ เหมือนการติดยาเสพติด ฉันก็แอบไปซื้อถุงน่องมาอีก คราวนี้ไปซ่อนไว้ให้ลึกลับกว่าเดิม กะเอาว่าคงไม่มีใครหาเจอ ฉันก็ได้แอบแต่งหญิงมาเรื่อย ตอนนั้นชุดโปรดของฉันก็คือเสื้อแขนสั้นที่เป็นผ้ามันๆแบบสาวห้าง พร้อมกับกระโปรงจีบใหญ่รอบสั้นสีม่วง เสื้อผ้าของญาติฉันจะสวมได้เกือบพอดี แต่กระโปรงจะหลวมนิดหน่อย ตอนนั้นเอวฉันมีขนาดประมาณ 26-27 แต่ของญาติน่าจะเป็น 29 มันจึงหลวมนิดๆ ส่วนรองเท้าส้นสูงก็จะใส่ได้หลวมนิดหน่อย ฉันจะแอบแต่งตอนที่ญาติฉันออกไปทำงานและฉันเลิกเรียนกลับบ้านมาเร็ว ชีวิตก็ต้องดำเนินไปอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆมาตลอด ในใจฉันก็ฝันว่าฉันอยากใส่ชุดแบบนั้น ใส่ชุดแบบนี้ ความฝันที่ฉันยังอยากทำแต่ยังทำไม่ได้มาจนถึงตอนนี้ก็คือ การได้ใส่ชุดเจ้าสาวแบบสุ่มใหญ่ๆ มันคงจะทำให้ฉันดูสวยมากเลย[คิดไปเอง] ในช่วงที่นั้นฉันเคยลองโกนขนหน้าแข้งดูครั้งนึง เผื่อว่าใส่ถุงน่องแล้วขาจะเนียนเหมือนผู้หญิง แต่ก็ได้ไม่นานหรอกมันก็ขึ้นมายาวเหมือนเดิม ญาติๆก็สงสัยว่าจะโกนทำไม เลยบอกไปว่าโกนเล่นๆมีอะไรหรือเปล่า วันหนึ่งแม่มาหาฉันอีกแล้ว (ปีนึงแม่จะมาสักครั้งนึง) มาคราวนี้แม่ไม่พูดอะไร แต่เมื่อฉันไปดูของที่ฉันซ่อนไว้ มันก็อันตรธานหายไปแล้ว แสดงว่าแม่คงค้นของฉันทุกอย่าง พอเจอท่านก็เอาไปทิ้ง แต่ท่านไม่พูด หลังจากนั้นฉันไม่เคยซื้อถุงน่องมาอีกเลย ใช้แต่ของญาติแทน[ทำไปได้] เพราะกลัวว่าถ้าเกิดแม่มาเห็นอีก แม่คงรับไม่ได้แน่ๆ จนมาเมื่อฉันอายุได้ประมาณ 24-25 ปี ฉันก็ได้มีแฟน ฉันแยกตัวออกไปอยู่กับแฟน ไปเช่าห้องอยู่ด้วยกัน ฉันดีใจที่ได้ไปอยู่กับแฟน ฉันก็คิดว่าฉันคงไม่ต้องแต่งหญิงแล้ว เพราะฉันมีแฟนแล้ว ฉันจะเลิก ฉันจะให้แฟนแต่งตัวให้ดูแทน แต่แล้วพระเจ้าก็ไม่เข้าข้างคนบาปอย่างฉัน แฟนฉันกลับไม่ชอบแต่งตัว ช่วงนั้นฉันทำงานแล้วแต่แฟนฉันยังเรียนอยู่ ฉันเริ่มเห็นช่องทางแล้วว่าฉันต้องกลับมาแต่งตัวอีกแน่ๆ และชุดที่ฉันจะหามาแต่งได้ก็คือชุดนักศึกษาของแฟนนั่นเอง ในตอนนั้นฉันเริ่มไปซื้อถุงน่องมาอีกแล้ว ฉันเริ่มมีความกล้ามากขึ้น ฉันกล้าไปซื้อถุงน่องเชอรีร่อนแบบตาข่ายถี่ๆในห้าง ส่วนของอย่างอื่นที่ฉันใช้ฉันก็จะเอาของแฟนฉันทั้งหมด แต่ว่าฉันจะไม่ใส่กกน.ของแฟน มันแหยงๆยังไงไม่รู้ ฉันพยายามใช้ของฉันเอง ในเวลานั้นสมบัติส่วนตัวของฉันก็จะมีุถุงน่องเพียงอย่างเดียว[แต่มีหลายคู่แล้ว] ฉันเริ่มเล่นอินเตอร์เน็ต แล้วฉันก็ไปพบเวบไซต์ที่มีคนที่เป็นแบบฉัน ฉันเริ่มอยากประกาศตัวให้โลกรู้ว่า ยังมีอยู่ตรงนี้อีกคน ฉันจึงเริ่มถ่ายรูป ฉันมีความสุขมากที่ได้แต่งตัวเป็นหญิงแล้วถ่ายรูป แล้วโพสท์ให้คนในกลุ่มดู แต่ฉันก็ไม่ได้ลืมการทำหน้าที่ของผู้ชายที่ดี ฉันอยู่กับแฟนฉันก็จะเป็นผู้ชายซกมกธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็คงไม่ระแคะระคายอะไร เมื่อแฟนฉันเริ่มทำงาน เธอก็มีชุดทำงานเพิ่มมากขึ้น ก็เหมือนของหวานสำหรับฉัน ทุกชุดจะต้องผ่านฉันหมด ฉันกับแฟนตัวพอๆกัน ฉันจึงใส่ชุดของแฟนได้ทั้งหมด ฉันอยากใส่ชุดไหนฉันก็จะซื้อชุดนั้นให้แฟน พอแฟนไม่อยู่ฉันก็เอามาใส่เอง ฉันกล้าเข้าไปซื้อของแล้ว ฉันไปซื้อเสื้อ/กระโปรงมือสอง ฉันไปซื้อเสื้อชั้นในสีแดงแป้ด ฉันไปซื้อรองเท้าส้นสูง ฉันไปซื้อวิกผมยาว ในตอนนี้เองฉันเริ่มอยากลองแต่งหน้าดูอีกครั้ง เพราะตอนที่ฉันใส่วิกแล้วดูตัวเองในกระจก ฉันคิดไปว่าฉันก็ดูเหมือนผู้หญิงนี่หว่า แต่เมื่อฉันลองแต่งหน้าดู โธ่เอ้ย กระเทยควายยังสวยกว่าอีก อาจจะเป็นเพราะฉันแต่งหน้าไม่เป็น แต่จริงแล้วเพราะโครงหน้าของฉันไม่เหมือนผู้หญิงซักนิด ปากใหญ่หนา จมูกใหญ่ หน้าผากกว้่าง หน้าเหลี่ยม[อุ๊ย] แต่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ครั้งหนึ่งคือ วันนั้นแฟนฉันไปทำธุรข้างนอกบ้านแล้วบอกว่าจะกลับค่ำๆ กลางวันฉันก็เอาชุดที่ฉันซื้อมา[ซ่อนไว้ กะใส่ก่อนแล้วค่อยให้แฟน] มาใส่ ฉันก็แต่งแล้วก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ โพสท์ท่าโน้นท่านี้ แต่แล้วแฟนมาเคาะประตูห้อง จะทำอย่างไรดี !?! ฉันถอดชุดแทบไม่ทัน หาที่ซ่อนของ ยิ่งรีบเหมือนยิ่งช้า ฉันคิดว่าวันนี้ต้องความแตกแน่แล้ว ยิ่งฉันล๊อกกลอนด้านใน แฟนไขกุญแจแล้วติดกลอน ก็ว่าทำอะไรอยู่ล๊อกห้องทำไม ฉันก็ตะโกนบอกไปว่าเข้าห้องน้ำอยู่ เมื่อเห็นว่าเก็บซ่อนได้พ้นตาแฟนแล้ว ฉันก็ไปเปิดประตูให้แฟนเข้ามา แฟนก็สงสัยใหญ่ว่าทำอะไรอยู่ กล้องก็ยังตั้งอยู่เลย ฉันก็แก้ตัวไปต่างๆนาๆ ว่าเอากล้องมาถ่ายเล่นมั่ง บลาๆๆๆ ก็แค่นั้น พอแฟนเผลอฉันก็เก็บของไปซ่อนในที่ของมันที่ควรจะเป็น นับว่าโชคดีมากที่แฟนไม่ใช่เป็นคนช่างสังเกต ฉันมานั่งคิดดูว่าถ้าแฟนรู้ว่าฉันเป็นโรคจิตแบบนี้ แฟนคงรับไม่ได้และเราคงต้องแยกทางกัน ฉันอ้อนแฟนอยู่บ่อยๆว่าใส่ถุงน่องไปทำงานสิฉันชอบ แต่แฟนก็บอกว่าอึดอัด เธอ[หมายถึงฉัน]ลองใส่ไปทำงานดูสิ แล้วจะรู้ว่าอึดอัดมั้ย ฉันนึกในใจทำไมฉันจะไม่เคย ฉันใส่ไปทำงานตั้งหลายทีแล้ว เธอไม่รู้เองแหล่ะ ฉันก็เลยแกล้งบอกว่าจะใส่ไปยังไงเล่า แฟนฉันบอกว่าก็ใส่แล้วก็ใส่กางเกงทับไปสิ แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าฉันเคยแต่งตัวเป็นผู้หญิงออกไปนอกบ้านแล้วครั้งหนึ่ง จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 13:22:50 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โห กล้านะคะ แล้วมีคนทราบไม๊คะ แต่เรา...เข้าใจคุณนะคะ จากคุณ : พีน่า - [ 25 พ.ย. 49 13:42:15 A:58.10.33.118 X: TicketID:130681 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ว้าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว เคยแต่งไปข้างนอกด้วยหรือ  ว้าววววววววววววววววววววว น่ารักดีเนอะ  ถ้าเรามีแฟนแบบคุณนะเราจะจับแต่งตัวแล้วไปเดินห้างด้วยกันเลย   หนุกดีออก จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 13:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฉันได้เป็นสมาชิกอยู่กับคนกลุ่มนึงในเวบแห่งหนึ่ง ที่เริ่มแรกก็เป็นแบบเดียวกับฉัน ฉันได้พบผู้คนมากมาย[ในเน็ต] มีแค่บางคนเท่านั้นที่เป็นแบบฉัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกแปลกๆที่คุณผู้อ่านทั้งหลายอาจยังไม่เคยรู้จัก ยกตัวอย่างเช่น บางคนก็ชวนฉันไปแต่งตัวกับเขาจะได้ถ่ายรูปกัน แต่เท่าที่ฉันสังเกตพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ ปากก็บอกว่าชอบแต่งหญิง แต่พอเอาเข้าจริงแล้วพวกจ้องจะกินถั่วดำกับพวกเดียวกัน บางคนก็ไม่ได้ชอบแต่งหญิงอย่างเดียวแต่อยากกลายเป็นหญิงจริงๆไปด้วย พวกนี้ก็จะกิน/ฉีดฮอร์โมน[ยาคุม] เพื่อให้มีหน้าอก,สะโพกเหมือนผู้หญิงจริงๆ ส่วนใหญ่พวกนี้จะเรียกว่าพวกกลายพันธ์จาก CD ไปเป็นกระเทย บางพวกก็จะเป็นประเภทแต่งแล้วอยากโดนทางประตูหลัง เขาว่ามันรู้สึกว่าเป็นหญิงจริงๆ บางพวกจะเป็นประเภทได้ทั้งรุกและรับ บางพวกชอบเอาถุงน่องมาคลุมหัว บางพวกก็ชอบของที่ผู้หญิงใส่จริงๆแต่ยังไม่ซักเอามาดมกันมั้ง ส่วนพวกที่คล้ายๆกับฉันก็มี แต่บางคนจะชอบแค่สิ่งของบางอย่าง เช่น บางคนชอบถุงน่องอย่างเดียว บางคนชอบชุดนอน บางคนชอบชุดนักเรียน บางคนชอบเข็มขัดก็ยังมี แต่สำหรับฉันแล้วคือชอบแต่งให้่ครบทั้งชุด ในเวบเขาก็จะมีการโชว์กันว่าแต่งไปไหนมาแล้วบ้าง แต่ละคนก็กล้ากันเสียจริง เช่น แต่งไปเดินห้าง, แต่งไปมีอะไรกับรปภ., แต่งไปยั่วตามสวนสาธารณะ ฉันก็เกิดความอยากอยู่ในใจ ทำอย่างไรฉันถึงจะแต่งออกไปข้างนอกได้บ้าง แล้วก็มาถึงวันหนึ่งวันที่ฉันตัดสินใจว่า \"ตายเป็นตาย\" ต้องแต่งออกไปข้างนอกมั่งให้ได้ [ทำเหมือนทะลุขีดจำกัดของตัวเอง] วันนั้นเป็นวันที่แฟนฉันไม่อยู่ แฟนฉันไปสัมนาค้างคืนที่ต่างจังหวัด ฉันจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งช่วงนั้นเป็นวันเทศกาลอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ คนไม่ค่อยอยู่บ้านกัน ส่วนใหญ่จะกลับต่างจังหวัด ฉันตัดสินใจว่าฉันจะแต่งตัวออกจากบ้านไปเลย ซึ่งจะไม่ค่อยเหมือนกับคนในเน็ต เพราะว่าคนในเน็ตส่วนใหญ่จะเอาชุดไปเปลี่ยนกันข้างนอก เริ่มจากฉันรอเวลาให้ถึงประมาณเที่ยงคืนฉันก็เริ่มแต่งตัว ถุงน่องสีเนื้อ กระโปรงชั้นๆสีดำ เสื้อสายเดี่ยวสีเขียว ใส่วิกผมยาว แต่งหน้าอ่อนๆไม่เข้มมาก ใส่เครื่องประดับ ใส่รองเท้าส้นเปิดส้นสีดำ แล้วฉันก็ใส่เสื้อคลุมทับเพื่อไม่ให้คนแถวบ้านสังเกตุว่าฉันเป็นใคร ในใจฉันคืนนั้นมันตื่นเต้นมากมาย ทั้งอยากออกไป แต่ก็กลัวคนจะมาเห็น กลัวคนจำได้ กลัวตำรวจจับ กลัวไปหมด มีความกล้าอยู่ข้อเดียว แต่ถึงอย่างไรคืนนี้ก็ต้องไป ฉันตัดสินใจไปแล้ว ฉันก็ใส่หมวกกันน๊อคแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปจากบ้านเลย ณ วินาทีที่ฉันพ้นออกจากบ้านไปยังถนน มันรู้สึกเหมือนความกลัวเมื่อสักครู่นี้มันหายไปหมดแล้ว ฉันได้แต่ปิติยินดีที่ฉันสามารถเอาชนะความกลัวได้ ฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปช้าๆ ในตอนนั้นบ้านก็ปิดไฟนอนกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ร่างกายมันรู้สึกเย็นๆ อาจจะเป็นเพราะดึกแล้วและฉันใส่กระโปรงสั้นด้วย ฉันขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านขี้เมากลุ่มหนึ่ง ฉันอยากลองเช็คเรทติ้งดูฉันเลยแกล้งขี่ช้าๆ้ผ่านกลุ่มนั้น เมื่อคนพวกนั้นเห็นฉัน[แต่เห็นหน้าฉันไม่ชัดหรอก เพราะฉันสวมหมวกกันน๊อครึ่งใบ] ก็ทำเป็นเป่าปากและออกมาโบกให้จอด แต่ฉันก็ไม่จอดฉันขี่ผ่านเลยไป นึกในใจว่าถ้าเกิดเขาเห็นหน้าขึ้นมาสงสัยจะโดนรุมตื้บ ฉันขี่รถไปเรื่อยๆ พอห่างบ้านมามากๆฉันชักเริ่มกลัว ถ้าเกิดฉันเจอตำรวจสายตรวจ ฉันจะทำอย่างไร ฉันจะต้องบอกว่าฉันเป็นกระเทยมาขี่รถหาเหยื่อ เขาจะฟังฉันไหมนี่ ฉันกะว่าจะไปเปลี่ยนชุดเป็นชายในปั๊มน้ำมัน แต่คนเต็มปั๊มเลย ฉันเลยต้องจำใจกลับเข้าบ้านทั้งๆที่ใส่ชุดหญิงอยู่อย่างนั้น ฉันกลับมาถึงห้องของฉัน ฉันนอนแทบไม่หลับตื่นเต้นไปหมดว่าทำไปได้อย่างไรนี่ แล้วฉันก็หลับไปทั้งชุดอย่างนั้น จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 14:05:08 A:213.186.33.52 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเป็นผู้ชายธรรมดานะ แต่เคยโดนแฟนจับแต่งหน้า ตลกหน้าตัวเองง่า ล้างหน้าเดินออกไปเซเว่นขนตายังงอนอยู่เลยมีแต่คนมอง   - -'' จากคุณ : Kato_nd - [ 25 พ.ย. 49 14:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่ารักดีนะ เราก็เคยจับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มแต่งหน้านะ เพื่อนมันก็ยอมนะ ก็เล่นกันอ่ะ  ขำ ขำ ตอนนี้มีแฟน(เป็นผู้ชาย)ก็อยากจับแต่งเหมือนกันอ่ะ ไม่รู้โรคจิตป่าว แต่ชอบ จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 14:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ฉันเองจะชอบแต่งตัวครบชุด[ยกเว้นกกน.ใช้ของผู้ชาย] ฉันสะสมถุงน่องไว้หลายคู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบเต็มตัว โคนขา แบบตาข่าย และแบบที่เป็นสายรัด ส่วนของอย่างอื่นจะ[แอบ]ใช้ร่วมกับแฟน จนมาถึงปัจจุบันฉันเริ่มมีพุงเนื่องจากกินเบียร์มากไปหน่อยและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ตอนนี้ก็เลยแต่งตัวไม่ค่อยสวยแล้ว และแฟนก็ไม่ค่อยไปไหนเลยไม่ได้แต่งบ่อย เดือนนึงบางครั้งยังไม่ได้แต่งเลย แต่ฉันก็ไม่เป็นไร มีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ฉันจะเล่าเรื่องตลกๆให้ฟัง ฉันต้องคอยหลบไอ้พวกตุรกีเวลาออนเอ็มทุกครั้ง เพราะไม่รู้พวกนี้มันมาจากไหน เปิดมาก็อยากจะ... จะขอดูกล้องอย่างเดียวเลย มันคงนึกว่าฉันเป็นผู้หญิงมั้ง อีกอย่างฉันก็เข้าใจว่าคนที่เป็นแบบนี้สังคมคงรับไม่ได้หรอก เพราะมันดูน่าทุเรศกว่าพวกตุ้ดพวกเกย์เยอะ พวกตุ้ดพวกเกย์สังคมยังเริ่มยอมรับกันได้บ้าง แต่พวกคนที่เป็นอย่างฉันก็คงยังต้องหลบอยู่ด้านหลังต่อไปเรื่อยๆ ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งสังคมคงพอจะยอมรับคนอย่างพวกฉันได้บ้าง ฉันเคยเปิดเข้าไปดูในเวบของพวกฝรั่ง แขก ญี่ปุ่น เขาจะมีการรวมกลุ่มกันแล้วก็แต่งหญิงไปเที่ยว ไปถ่ายรูปกัน ดูสนุกสนานดี แต่ถ้าเป็นคนไทยทำฉันว่าคงสลบคาตีนพวกคนที่ไม่ชอบเลยล่ะ เพราะขนาดในเวบของกลุ่มคนที่เป็นแบบฉันยังโดนคนที่ไม่ชอบเข้าไปด่าอย่างเสียๆหายๆ จนบางคนไม่กล้าโพสท์อีกเลยก็มี ฉันก็เข้าใจเขานะว่าเขาไม่ชอบ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วไม่ควรจะมาก้าวก่ายกันก็ตาม ตามความคิดของฉันคนไทยที่เป็นแบบฉันคงมีอีกเยอะ เพียงแต่ว่าตัวเองยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกระเทย เลยทำตัวเป็นกระเทยไปเลย กินฮอร์โมนอะไรไปโน่น บางคนก็คิดว่าตัวเองเป็นเกย์ก็เลยไปมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันไปโน่น ส่วนใหญ่แล้วคิดว่ายังคงไม่รู้จักตัวเองมากกว่า ฉันว่าผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชอบมองผู้หญิงแต่งตัว ต้องมีบ้างแหล่ะที่เป็นแบบฉันแต่ไม่รู้ตัวเองหรือไม่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์จริง บางคนก็บอกว่าเกลียดๆไปอย่างนั้นแหล่ะ แต่ในเบื้องลึกแล้วอาจจะมีความต้องการอยากปลดปล่อยความเป็นหญิงออกมาก็เป็นได้ จึงอยากจะฝากเตือนมายังทุกท่านว่า ควรดูแลลูกหลานของท่านให้ดี อย่าเลี้ยงให้ผิดเพศ อย่าใช้คำชมผิดๆ และเมื่อถึงเวลาควรให้เขาได้รู้เรื่องเพศศึกษา ถ้าปล่อยให้เขาไปเรียนรู้เองเขาอาจจะเรียนรู้ผิดๆแบบฉันก็ได้ ฉันไม่ได้โทษผู้ใหญ่ที่เลี้ยงฉันมาหรอกเพราะพวกท่านเป็นคนรุ่นเก่า มองเรื่องเพศเป็นเรื่องสกปรกน่ารังเกียจที่จะพูดถึง แต่ท่านผู้อ่านทั้งหลายเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ควรจะสอนเรื่องเพศให้ถูกวิธี สำหรับความตั้งใจของตัวฉัน ฉันยังอยากลองแต่งอยู่อีกสองชุดคือชุดไทย สไบเฉียง กับชุดแต่งงานฝรั่งแบบวิคตอเรีย ถ้าได้แต่งก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันก็มีความสุขที่เป็นอยู่อย่างนี้อยู่แล้ว ความตั้งใจของฉันอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าฉันมีลูกฉันจะเลิกเด็ดขาดในเรื่องนี้[ไม่รู้จะทำได้จริงมั้ย แต่ตั้งใจเป็นที่สุด] ฉันกลัวว่าลูกของฉันจะได้รับผลจากการกระทำของฉัน ฉันกลัวว่าลูกฉันจะเป็นตุ้ดเป็นเกย์หรือเป็นเหมือนฉัน[แต่ถ้ามันจะเอาจริงก็ช่างมัน] ฉันเคยคิดว่าจะไปรักษากับจิตแพทย์เหมือนกัน แต่ลองคิดไปคิดมาแล้วคงไม่หายหรอก และฉันก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ฉันไม่ไปลักขโมยกางเกงในใคร ฉันซื้อของฉันเอง อีกอย่างคนที่เป็นประเภทแบบเดียวกับฉันนี้ ปกติจะมองไม่ออกหรอก ไม่มีความเป็นตุ้ดเป็นแต๋วแสดงออกมาแม้แต่นิดเดียว ดำเนินชีวิตตามปกติ แต่จะมีจุดให้สังเกตุอยู่อย่างหนึ่งคือชอบมองผู้หญิงแต่งตัว สำหรับเรื่องของฉันคงจบเรื่องเล่าแต่เพียงเท่านี้ จากนี้ไปฉันก็คงจะแต่งตัวเพื่อถ่ายรูปไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงเวลาที่ฉันบอกไว้ข้างบน ฉันต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ และขอให้พระเจ้าจงอวยพรท่านให้ไม่ต้องเจอกับคนอย่างผม แต่ถ้าเจอก็อย่ารังเกียจเขาเลยนะ T_T จากคุณ : CrossDress - [ 25 พ.ย. 49 14:55:49 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณนะ อยากบอกว่าไม่เคยนึกรังเกียจอะไรเลย ก็คิดอย่างจขกท.คิดน่ะแหละ ทำแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเถอะ ขอให้มีความสุขมากๆน้า.... จากคุณ : mazzygeeds - [ 25 พ.ย. 49 15:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นความผิดปกติทางเพศแบบหนึ่ง  สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงแต่เราเปิดใจ และกล้าไปพบจิตแพทย์ ร่วมกันหาทางรักษา โดยกลไกของจิตแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะรู้สึกเบื่อกับการทำซ้ำซาก จนต้องหาวิธีทางออกอย่างอื่น เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสุขในแบบของคุณ  ซึ่งในตอนนั้นอาจจะรุนแรง (ขอย้ำว่าอาจจะนะครับ) ตามความคิดของผม ถ้าคุณยอมรับตัวเองได้ น่าจะเริ่มทำการรักษานะครับ ขอให้คุณโชคดีครับ จากคุณ : eurasianbrown - [ 25 พ.ย. 49 23:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เคยเจอเหมือนกันคับแบบนี้ รับไม่ได้อะ จากคุณ : pick_nicky - [ 26 พ.ย. 49 01:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อืมมมม เห็นด้วยกะคุณ mazzygeeds นะคะ น่ารักดีออกค่ะ  เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่เนาะ แต่ถ้าคุณ CrossDress อยากเลิกได้จริงๆ ก็น่าจะลองรักษาดูนะคะ การไปพบจิตแพทย์ สำหรับเราแล้วไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลย แต่คนส่วนมากมักมองว่าคนที่ไปพบน่ะ......มันเป็นอคติ ที่คงแก้ได้ยากแล้วล่ะ ปล.ได้ความรู้ใหม่ด้วย  ขอบคุณนะคะที่มาเล่ามาให้ ^^ จากคุณ : pimuchan - [ 26 พ.ย. 49 01:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รังเกียจ น่าจะเห็นใจมากว่า ในต่างประเทศพบว่าเป็นเยอะแต่งออกไปนอกบ้านก็เยอะ ถ้าเจอภรรยาที่เข้าใจก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ว่าก็ต้องยอมรับว่ายังไม่เหมาะสม แต่งในบ้านจะปลอดภัยกว่า..... จากคุณ : law of nature - [ 26 พ.ย. 49 04:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วนึกถึงผุ้กำกับดังของฮอลลีวุ๊ดท่านนึง ทิม เบอร์ตันเคยเอามาทำเป็นหนังด้วย ป๋าเดปป์เป็นตัวเอก เค้าไม่์ใช่กระเทย เพียงแต่ชอบใส่ชุดผุ้หญิง .......................................... คุณจขกทไปหาหมอเถอะค่ะ จะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ถ้าสามารถเปิดใจคุยกะแฟนได้ อาจเพิ่มความสุขในความสัมพันธ์ได้นะคะ ตอนสามีภรรยากัน อาจให้เค้าแต่งเป็นชาย คุณเป็นหญิง น่ารักกันในห้อง สนุกดีออก จากคุณ : jeji o - [ 26 พ.ย. 49 06:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องราวค่อนข้างน่ากลัวมากๆ ชีวิตของคนที่อยู่ในสังคม แม้สังคมบอกว่ายอมรับ แท้จริงแล้วจะมีจริงหรือ จากคุณ : blueboyhub - [ 26 พ.ย. 49 22:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวจาก ฉัน เป็น ผม ผมจะคิดห่างจากคำว่า กระเทย มากกว่านี้ครับ ถึงคุณจะเป็นอย่างไร ขอให้เป็นคนดีของสังคมก็พอครับ จากคุณ : prapasawat - [ วันสาธารณสุขแห่งชาติ 10:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบกระทู้ครับผม ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ทั้งรับได้และรับไม่ได้ ผมทำใจอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะกล้ามาโพสท์ ความคิดเห็นที่ 23: ผมอ่านคำแนะนำของคุณแล้วทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเลย กินไม่หลับนอนไม่ได้ไปเป็นวันๆเลย กลัวในเรื่องของพัฒนาการทางจิตนี่แหล่ะ มันเหมือนกับความต้องการของมนุษย์ใช่ป่ะครับ แบบว่าพอทำอันนี้ได้ก็จะอยากทำอันต่อๆไป ผมคงต้องพิจารณาการเข้าหาจิตแพทย์มั่งแล้ว โดยพัฒนาการล่าสุดของผมก็คือเมื่อก่อนมองสาวๆที่แต่งตัวสวยๆแล้วจะอยากแต่งแบบนั้น แต่ตอนนี้พอเห็นสาวๆแต่งสวยๆแล้วอยากจะได้เป็นแฟน อยากกอด อยาก... อ่ะครับ สงสัยเริ่มอันตรายแล้วเรา ความคิดเห็นที่ 24: ครับผมเข้าใจครับ เพราะเมื่อก่อนผมก็ยังรับพวกเกย์ไม่ได้ ความคิดเห็นที่ 25: ผมก็อยากลองไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จะไปหาที่ไหน ค่าใช้จ่ายแพงมั้ย ขอคำแนะนำด้วยครับ ความคิดเห็นที่ 26: ครับผมก็แต่งออกไปแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว สำหรับภรรยาคงไม่บอกเธอครับ เพราะเธอรับไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้ารักษาหายแล้วอาจจะบอก ความคิดเห็นที่ 27: หนังเรื่องนั้นเป็นหนังขาวดำใช่มั้ยครับ เคยเห็นแว้บๆแต่ยังไม่ได้โหลดมาดู ความคิดเห็นที่ 28: ความจริงแล้วก็คือสังคมไืทยไม่ยอมรับครับ ความคิดเห็นที่ 29: ความจริงผมไม่เคยแทนตัวเองว่าฉันมาก่อนเลย เพิ่งมาใช้ตอนมาเขียนเรื่องนี้แหล่ะครับ กะว่าจะให้เข้ากับเนื้อหาน่ะครับ ปกติก็ใช้\"ผม\" เผื่อมีใครอยากเห็นว่าชายแต่งหญิงแล้วดูเป็นไง ลองไปตามลิงค์นี้นะครับ เป็นรูปของผมเอง[อยากโชว์:อันนี้ก็เป็นพัฒนาการของจิตอย่างหนึ่ง lol] คำเตือน: โปรดเตรียมถุงหรือกระโถนไว้ด้วย เด็ก สตรีมีคัน คนขวัญอ่อน โปรดหลีกเลี่ยง เนื่องจากเป็นภาพที่ไม่ผ่านกระบวนการเซนเซอร์ http://www.thailadyboyz.net/webboard/viewtopic.php?t=4287 จากคุณ : CrossDresser - [ วันสาธารณสุขแห่งชาติ 15:13:55 A:213.186.33.54 X: TicketID:132626 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วเห็นใจคุณจริงๆคะ แต่เลิกได้ควรเลิกซะเถอะค่ะอย่ารอเวลาเลย คามลับไม่มีในโลกนะคะอย่ารอให้มันสายจนเกินแก้ โชคดีเป็นกำลังใจค่ะ จากคุณ : Mikaza_Za - [ 29 พ.ย. 49 11:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คงไม่ว่าอะไรนะคะ ถ้าจะบอกว่า...รู้สึกสงสารคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ...เคยคิดนะคะ ว่าถึงใครจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ถ้าไม่ทำความเดือดร้อนให้สังคม ก็เพียงพอแล้ว....แต่บางทีมันก็เป็นอย่างที่ใจเราคิดไม่ได้....เท่าที่อ่านมาทั้งหมด มันก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ...จริงอยู่ที่คุณไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน...แต่คุณก็มีภรรยาที่รัก...ถ้าวันหนึ่งเกิดรู้เข้า แล้วไม่เข้าใจมันก็ต้องเจ็บปวดกันทั้งสองฝ่าย คุณลองเปิดใจคุยกับภรรยาดูดีกว่าไหม๊คะ...เพราะจะได้ช่วยกันหาหนทางแก้ไข...ถ้าคุณเองก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น...จะได้ช่วยกันหาทางรักษานะคะ...อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปนะคะ...รีบปรึกษาหมอเถอะค่ะ......อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่ในสังคมนี้เพียงคนเดียว วันหนึ่งคุณต้องมีลูก...ลองคิดดูสิคะ...ว่าคนที่คุณต้องแคร์จะต้องมีมากกว่าตัวคุณเอง.... จากคุณ : คนเลวที่แสนดี - [ 29 พ.ย. 49 15:48:33 A:58.9.111.115 X: TicketID:131796 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อืม เชียร์ให้ไปหาหมอด้วยคน ผมก้อยังไม่เคยได้ยินเคสอย่างคุณนะคับ แต่คิดว่า ปรึกษาจิตแพทย์ดีกว่าคับ รพ.ไรอ่ะหรอคับ   อืม ไม่รุเหมือนกันอ่าคับ  แต่พอจารุจัก สถาบันกัลยานครินทร์มั้ง ถ้าจำไม่ผิด แถวสายสี่อ่ะคับ เปนหน่วยจิตเวชมั้ง  ไม่แน่ใจ ลองดูคับ หรือจาลองสายด่วนออนไลน์ของกรมสุขภาพจิตอ่ะ แต่จำเบอร์ไม่ได้ 1667 อ่ะป่าวไม่รุ ลองดูนะคับ เอาใจช่วย จากคุณ : DekChaiDam - [ 1 ธ.ค. 49 21:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบอกว่าไม่รังเกียจเลยซักนิด อยากให้แฟนเราเป้นแบบคุณอีกต่างหาก จะได้มาช่วยกันแต่งตัว น่ารักดีออก จากคุณ : chaneex (chaneex) - [ 3 ธ.ค. 49 01:13:00 ]