ความคิดเห็นที่ 1
การเขียน Nursing Diagnosis แบ่งปัญหาออกเป็นสามระดับใหญ่ๆอ่ะค่ะ 1 Actual problem ปัญหาที่มีข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจน และกำลังมีอยู่ อาจจะรุนแรง หรือไม่รุนแรงก็แล้วแต่ case ซึ่งบางทีอาจจะไม่ใช้ปัญหาที่เร่งด่วนก็ได้ แต่เป้นปัญหาหลักๆหล่ะเพราะว่า ข้อมูลที่สนับสนุนต้องชัด อยย่างกรณี case หนู ถ้าจะบอกว่าการหายใจไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าเป็น actual problrm จะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน เช่น อัตราการหายใจเร็ว กว่าปกติ , ออกซิเจน saturation ต่ำ มีลักษณะการหายใจปิดปกติเช่น ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องช่วยในการหายใจหรือไม่ ถ้าในเด็กก็มีปีกจมูกบาน หรือมีเสียงหายใจผิดปกติเช่น grunting ,wheezing,crepitation ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้จะพบในโรคที่แตกต่างกัน อย่างกรณี plural effusion จะพบเสียงแบบไหน เป็นต้น ถ้าจะเซตเป็นปัญหาแบบนี้ เน้นคือข้อมูลสนับสนุต้องชัดเจน
2 Risk problem ภาวะเสี่ยง คือยังไม่เกิดแต่มีแนวโน้มน่าจะเกิด ข้อมูลสนับสนุนประเภทนี้อาจมีบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากพอที่จะระบุว่าเป็นแบบชนิดแรก เช่นถ้าผู้ป่วยมีอาการชัดเจน 1 2 3 และ 4 ถึงจะเรียกว่า actual problem แต่ว่าตอนนี้พบแค่ 1 แต่ 2 และ 3 เริ่มมี 4 ยังไม่มีแวว ยังไม่เกิดเป็นต้น การตั้งปัญหาเช่นนี้ก็เช่น เสี่ยงต้อภาวะหายใจล้มเหลว หรือเสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจนจากการหายใจเร็ว เนื่องมาจากมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดเป็นต้น ข้อมุลสนับสนุนเราก็อาจเช่นมี film xray ยืนยันผล ฟัง lung มี crrpitation อาจเคาะปอดแล้วมีเสียงทึบเป็นต้น
การพยาบาลจะเป็นการลดปัญหา 1 ที่มี ป้องกันปัญหาที่กำลังจะเกิด อ่ะค่ะ
3 ปัญหาที่เกี่ยวข้องในระยะยาวหรือปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่ เช่นตอนนี้คนไข้เป็นอัมพาต การดูแลของเราก็จะเน้นเป็น supportive และ Prevention ภาวะแทรกซ้อนอ่ะค่ะ
ก็ต้องมาดูเอาว่า จากากรที่ดูประวัติ ดูอาการ ถามญาติ ทั้ง subjective data, objective data ผลแลป ที่ได้จากคนไข้ ควรจะเอาไปตั้งหรือสนับสนุนในปัญหาประเภทใด
ส่วนการเรียงลำดับหรือจัด priority ในการพยาบาล เราจะเน้นเรื่องของอะไรที่เร่งด่วนและเสี่ยงต้อชีวิตคนไข้ที่สุดเป็นหลักค่ะ บางครั้ง risk problem อาจจะต้องช่วยก่อนก็ได้ ถ้าปัญหานั้นเสี่ยงต่อชีวิตคนไข้ เราคงไม่ปล่อยให้คนไข้ที่กำลังจะหยุดหายใจหยุดหายใจไปก่อน ให้ครบ 1 2 3 และ 4 อาการ เป็น actual แล้วค่อยมาแก้อ่ะค่ะ มันไม่ดี
จากคุณ :
นางฟ้าของมารี
- [
30 พ.ย. 49 07:58:41
]
|
|
|