ความคิดเห็นที่ 1 ค่ะ จากคุณ : NICE130 - [ 7 ธ.ค. 49 09:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โดยทั่วไปแล้ว  ร้านขายยาต้องมีชื่อเภสัชกรประจำตามข้อ กำหนดของกฎหมายค่ะ  และถ้าสามารถอยู่ได้ตามเวลาที่ระบุ ในป้ายก็จะดีมาก  แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ที่ร้านจะต้องมีเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล  เช่น  พยาบาล  ผู้ช่วยพยาบาล ที่มีความรู้เรื่องยาพอสมควร  อยู่ประจำร้านนะคะ  และทาง หน่วยงานที่อนุมัติให้ร้านนั้น ๆ เปิดทำการได้  จะมีการสุ่มตรวจ ร้านเหล่านี้อยู่เป็นประจำค่ะ  ดังนั้น  การที่คุณจะแจ้ง สคบ ดังกล่าว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนะคะว่าร้านนั้นเป็นร้านเถื่อน ถ้าไม่เช่นนั้น  คุณหน้าแตกแน่ค่ะ จากคุณ : Fuyuko - [ 7 ธ.ค. 49 09:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 555 ตามมาโหวต มันโดนใจ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 7 ธ.ค. 49 09:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเภสัชกรไม่อยู่ตามเวลาที่ป้ายระบุ ถือว่ามีความผิด ให้ใครปฏิบัติหน้าที่แทนไม่ได้ นอกเสียจากว่า จะมีเภสัชกรปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ไม่ใช่บุคคลอื่นที่แค่มีความรู้เรื่องยา ซึ่งตามหลักจะต้องมีการแจ้งไปที่ สสจ หรือ อย.ว่าใครมาปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าในขณะไม่มีเภสัชกรจะสามารถขายได้ก็เพียงแต่ยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น แต่ที่ทุกวันนี้ อยู่กันมาได้เพราะไม่มีคนร้องเรียน และส่วนใหญ่ก็ทำเนียน ทำให้คนบุคคลอื่นดูว่าใช่เภสัชกรโดยการใส่เสื้อกราวด์ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 7 ธ.ค. 49 09:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หึหึ เริ่มเห็นแล้วว่าใครเป็นใคร " แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ที่ร้านจะต้องมีเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล  เช่น  พยาบาล  ผู้ช่วยพยาบาล ที่มีความรู้เรื่องยาพอสมควร  อยู่ประจำร้านนะคะ  " การจำหน่ายยาอันตราย ตาม พรบ.ยา2510 กำหนดไว้ชัดเจนครับว่าเภสัชกรเท่านั้นที่ทำได้ แต่ไม่เป็นไร เราไม่เล่นข้อนี้ก็ได้ เรามาเล่นกันตรงที่ว่า "การโฆษณาอันเป็นเท็จ"กันดีกว่า ร้านฟาส์ทฟู้ดแห่งหนึ่งโดนเล่นงานตามกฎหมายข้อนี้เพียงเพราะว่ารูปไก่ที่ขายจริงเล็กกว่าขนาดที่แสดงไว้บนป้ายในร้าน นี่แค่ไก่ไม่ได้ขนาดนะครับเค้ายังฟ้องกันเลย ประสาอะไรกับการที่บอกว่ามี เภสัชกรอยู่ประจำตามเวลานี้ แต่ไม่มี ให้ใครไม่รู้มาขายยาอันตรายให้เรา ยอมได้ยังไงครับ จากคุณ : apotheker - [ 7 ธ.ค. 49 10:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตครับ..โหวต จากคุณ : zalazit (zalazit) - [ 7 ธ.ค. 49 10:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปั่นโหวตครับ 5555 ร้านยาตามห้าง พวกห้างเล็กๆ เช่น xxx express ที่บ. เชนทั้งหลายชอบเข้าไปทำ ตัวแสบเลยน่ะ...ไม่มีสักที่ที่มีเภสัชกร ย้ำครับ ไม่มีสักที่ที่มีเภสัชกร ผมไม่เข้าใจว่ากล้าทำได้อย่างไร ตามที่พี่ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน บอกครับ การให้เภสัชกรอื่นมาแทน ต้องแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่เคยคุยกะสสจ. แล้วครับ ถ้าเป็นเภสัชกรแล้ว อนุโลมไม่ต้องแจ้งครับ อย่าให้เจอละกันว่าไม่ใช่ ส่วนยาที่ขายได้นี่ ขายยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายได้ด้วยนี่ครับ?? หรือจำผิดเอ่ย อย่าลืมเรื่องร้านยามาตรฐานนะครับ ถ้าเป็นไปได้ก็ติดรูปเภสัชกรประจำวันด้วย เภสัชกรต้องสร้างมาตรฐานวิชาชีพ ที่มากกว่าการใส่เสื้อกาวน์ ผู้บริโภคต้องเรียกร้องสิทธิของตัวเอง คิดถึงความปลอดภัยมากกว่าความสบาย แล้วมาตรฐานร้านยาจะสูงขึ้นเองครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 7 ธ.ค. 49 10:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามที่น้อง Epinephrine ว่าค่ะ ถ้าเภสัชไม่อยู่ขายได้แต่ยา สามัญประจำบ้านและยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตราย แต่ที่ไม่เขียนอันท้ายเพราะว่า มันยากมากที่จะพูดแยกกัน ขนาดทิฟฟี่ ยังทิฟฟี่บางสูตรที่ขายได้เลย คะ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 7 ธ.ค. 49 10:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทำงี้แล้วผมจะไปซื้อยาที่เค้าห้ามจำหน่ายได้ไงนี่ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 7 ธ.ค. 49 10:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 DG อยากได้อะไร จิ้ม อมยิ้มมา แต่ไม่มีให้นะ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 7 ธ.ค. 49 10:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราจะทราบได้ยังไง ว่าเภสัชแนะนำยาที่เหมาะสมกับโรคที่เราเป็น เพราะเคยได้ยินว่าเภสัชได้ค่าเปอร์เซ็นต์จากการขายยาบางตัวด้วย จากคุณ : Blubber - [ 7 ธ.ค. 49 10:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณBlubber พูดถูกต้องครับ คนค้าขายย่อมต้องมีผลกำไรทั้งนั้นไม่ว่าจะขายอะไร แต่การขายยาโดยดูแต่ส่วนแบ่ง%กำไรไม่คำนึงถึงความเหมาะสมของยา ก็เท่ากับทำลายตัวเอง และอย่างน้อยเภสัชกรก็ได้รับการปลูกฝังในเรื่องจริยธรรมในการเลือกใช้ยามาตลอดเวลาที่เรียน ผมเชื่อว่านอกเหนือจากความผิดพลาดในเชิงวิชาการซึ่งเราย่อมเหนือกว่าคนขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกรอยู่แล้ว ในเชิงจริยธรรม เราก็ไม่ด้อยกว่าเช่นกัน จากคุณ : apotheker - [ 7 ธ.ค. 49 10:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ DG ครับ ยาห้ามจำหน่ายขนาดไหนล่ะ..... ถ้าเค้าห้ามขาย ก็ขอสิครับ ไม่ต้องซื้อ จากคุณ : Epinephrine - [ 7 ธ.ค. 49 10:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #12 ได้% จากการขายยาคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆค่ะ แต่ถ้าอาหารเสริม อาจจะเป็นไปได้ และที่ได้ ไม่ใช่ร้านขายยาเดี่ยวแน่นอนที่มีการได้% จากการขายอาหารเสริม ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายยาเชน โดยปกติ เภสัชกรหรือบุคลากรทางการแพทย์ จะเลือกรักษาหรือการให้ยากับคนไข้ โดยที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่คนไข้จะได้รับอยู่แล้ว คำว่าไม่เหมาะสมกับโรค คือให้ยาไม่ตรงโรค คนไข้จะหายเหรอคะ? ถ้าไม่หายก็ไม่ยิ่งแย่เสียชื่อและหมดความเชื่อถือไปกันใหญ่ มันไม่คุ้มเลย แต่ถ้าสมมติว่า คนไข้ไอ มีเสมหะ เภสัชบางคนอาจจะจ่าย ไบโซวอน เพราะทางบริษัทให้ ค่าหยิบ ให้% ส่วนแถม แทนที่จะหยิบยาแก้ไอ ละลายเสมหะตัวอื่น อันนี้ถือว่าจ่ายยาเหมาะสม ตรงอาการนะคะ เหมือนกันกับเวลาเราไปซื้อนม นมก็มีหลายยี่ห้อ แต่ทำไมบางร้านถึงเลือก ที่จะเน้นบางยี่ห้อมากกว่า เพราะเค้าอาจจะได้ส่วนแถมมากกว่า ต้นทุนต่ำกว่า แต่ไมได้หมายความว่านมตัวนั้น คุณภาพไม่ดี หรือมีประโยชน์น้อยกว่า เภสัชกรชุมชน หรือเภสัชกรร้านขายยา พวกเราไม่ได้ต้องการขายยา เพื่อหวังร่ำรวย แต่มันก็ต้องทำให้เราอยู่รอดได้ เชื่อเถอะคะว่า ยังมีเภสัชกรร้านขายยา คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไข้ เยอะมากๆ นอกจากพวกนอกรีต ที่มันต้องมีอยู่ทุกอาชีพ วิชาชีพ ที่เห็นแก่ตัวและหวังเอาแต่ได้ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 49 11:13:22 จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 7 ธ.ค. 49 11:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ผมเองเวลาไม่สบาย ถ้าไม่ไปพบแพทย์ก็จะไปร้านขายยาอยู่ร้านนึงล่ะครับ มีเภสัชกรประจำอยู่ ไม่ไปร้านอื่นหรอก ผมล่ะไม่ไว้ใจเลย พวกหมอตี๋เนี่ย จากคุณ : Mr.DogGie - [ 7 ธ.ค. 49 11:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จิ้มโหวตไปหนึ่งที ขอบคุณความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : cha_ame - [ 7 ธ.ค. 49 13:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เคยเจอคุณลุง คนนึง ( ไม่คุ้นหน้าเลย) มาซื้อยาหยอดตาร้านเรา มาถึงก็บอกว่าเอายาหยอดตา ( ยื่นขวดตัวอย่างให้) ปากก็พูดออกมาว่า... ปกติลุงซื้ออยู่ร้านโน้น ( อีกร้านนึง) คนขายเค้าสวยดี ลุงชอบ สวยกว่าหนูอีกนะ ( คนขายร้านโน้นไม่ใช่เภสัชกร ชอบแต่งตัววับๆแวมๆ มาขายยา ) เราก็ยิ้มๆ ในใจอยากจะด่าซักตั้ง ว่า " ตกลงจะซื้อยาหรือซื้อคนขาย แถมมาหาว่าเราสวยน้อยอีก ) ต่อไปถ้ามาซื้ออีก จะจ่าย bisacodyl ให้ไปกินจะให้เข็ด 555 จากคุณ : ร้านขายยา - [ 7 ธ.ค. 49 13:28:59 A:58.9.123.181 X: TicketID:123333 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านคห 18 แล้วฮาแตกค่ะ... ขืนมีลูกค้าแบบนี้เยอะๆ ร้านเราเจ๊งแน่ๆเลย โหวตค่ะ... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 7 ธ.ค. 49 13:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รับทราบจะปฏิบัติครับกระผม ขอบคุณครับ จากคุณ : ZiaZa - [ 7 ธ.ค. 49 14:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าอยากรู้ว่า ทำไมต้องมีเภสัชกรในร้านยา ตามไป อ่านกระทู้เดิมได้ที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4877843/L4877843.html จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 7 ธ.ค. 49 15:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 งั้นถ้ามีอย่างคห. 18 จริง ร้านผมขายดีดิ่ 5555 ล้อเล่นครับล้อเล่น ------------------------------------------------------------------ มาต่ออีกนิดนึงนะครับ ประเด็นสำคัญคือผู้มารับบริการต้องการความสบายครับ แก้อักเสบ แผงนึง ร้านยา A (ไม่มีเภสัชกร) - หยิบ amoxycillin ส่งให้ไป บอก 40 บาท ร้านยา B (มีเภสัชกร) - ซักประวัติ เป็นอะไรมา ทำไมถึงใช้ มีอาการอย่างอื่นหรือเปล่า เขียนซองและใส่ยา ร้านยา A คนเข้าแน่น เพราะบริการเร็ว แต่ร้านยา B คนไข้บ่น เพราะซักประวัติวุ่นวาย นี่คือความจริงที่ยากจะปฏิเสธครับ แต่ถ้าเภสัชกรยังมักง่ายเอง ไม่ยึดมาตรฐานวิชาชีพ ทำแบบร้าน A หมด ก็น่าเหนื่อยนะครับ จากคุณ : Epinephrine - [ 7 ธ.ค. 49 16:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใครบอกว่า ไม่มี มีนะคะ มีคนใส่ชุดคลุมขาวคลับคล้ายคลับคลา(ว่าใช่) สรรพคุณยา(เวลาเราอยากรู้) เป็นยังไง --ไม่แน่ใจค่ะ เอ่อ ลองอ่านในฉลากดูนะคะ (อ้าว งั้นกลับไปอ่านเองไม่ดีกว่าเรอะ) ถ้านึกไม่ออกก็บอกว่า -- หมด   หรือ ถ้านึกไม่ออก(เดี๋ยวเสียฟอร์ม) หันไปถามเพื่อนๆว่า --ยาอะไรนะ( ทำหน้างง คิดในใจ ก็ร้านเขาจ้างกรูมาใส่เสื้อนี้ กะเฝ้าร้านไม่ให้ของหาย) แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 49 10:19:46 จากคุณ : มนเกรซ - [ 7 ธ.ค. 49 16:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าร้านยา   อย่าลืม!ถามหาเภสัชกร จากคุณ : เพ่ยเพ่ย - [ 7 ธ.ค. 49 17:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีแต่คนอ้างสิทธิ ไม่เห็นมีใครอ้างเรื่องหน้าที่บ้างครับ ถึงมีเภสัชกร ถ้าคุณไม่ฟังที่เขาอธิบาย ฟังนะครับ ไม่ใช่ได้ยิน ก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนคนที่ไปซื้อยาร้าน A ใน #22 ไม่รู้จักหน้าที่คนซื้อ "คุณเป็นคนที่ฟัง หรือรอที่จะพูด?" - จากหนังเรื่อง Pulp Fiction จากคุณ : preedas (preedas) - [ 7 ธ.ค. 49 21:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังไม่ได้เปิดร้านขายยานะคะ แต่ฝากไว้ สำหรับเภสัชคนอื่นๆละกัน เห็นเยอะเหมือนกันค่ะ บางคนที่ชอบเอาป้ายไปแขวนตามร้านขายยาน่ะค่ะ เห็นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีนะค่ะ ที่คนร่วมวิชาชีพ ยอมเอาศักดิ์ศรีวิชาชีพของตนเองไปแลกกับเงินแค่ไม่กี่พัน ฝากไว้แค่ตรงนี้น่ะค่ะ ส่วนเรื่องร้านขายยา ถ้ามีเภสัชกร มั่นใจอยู่แล้วค่ะ ว่าทุกๆท่านจะยึดหลักวิชาการ จรรยาบรรณ วิชาชีพมาก่อนอยู่แล้วนะค่ะ จากคุณ : วัฌชา - [ 8 ธ.ค. 49 00:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามายิ้มตอนเช้าๆ กับกระทู้นี้อีกที "มีปัญหาเรื่องยาปรึกษา เภสัชกร" จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 8 ธ.ค. 49 07:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาเช้าด้วยคนครับ :) จากคุณ : Epinephrine - [ 8 ธ.ค. 49 07:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาโหวตค่ะ จากคุณ : จากดอยสู่เล (จากดอยสู่เล) - [ 8 ธ.ค. 49 08:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 "....โดยโทรไปแจ้ง ที่สำนักงานสาธารณสุขของจังหวัดท่าน หรือ โทรสายด่วน อย.1556....." พอแจ้ง แล้ว ทางนั้น จะมี มาตรการอะไร บ้างเหรอครับ บทลงโทษ ทั้ง ร้านยา และ ตัวเภสัช ที่แขวนป้าย มีอะไรบ้าง ที่สำคัญที่สุด มีการใช้ บทลงโทษกันจริงจังแค่ไหนครับ มี สถิติ การลงโทษปีที่ผ่านๆมาไหมครับ หลายๆเรื่อง กฎหมายดี แต่ ผู้รักษากฎหมายเป็นคนละเลย ซะเอง น่ะสิครับ จากคุณ : A.sativa - [ 8 ธ.ค. 49 16:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาโหวตด้วยคนค่ะ... จากคุณ : หนูเล็กนิดเดียว - [ 8 ธ.ค. 49 16:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความเห็นที่30พูดถูกต้องครับ ที่ผ่านมามันเป็นเช่นนั้น แต่เท่าที่เห็นเดี๋ยวนี้ผมเห็นการทำงานคุ้มครองผู้บริโภคทำได้ดีขึ้น จึงลองกระตุ้นดู ถ้าพวกเราช่วยกันร้องเรียน มีเรื่องเข้าไปมากๆ ผมว่าต้องมีผลบ้างไม่มากก็น้อยครับ จากคุณ : apotheker - [ 8 ธ.ค. 49 17:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คิดเหมือนคห.30 จากคุณ : ซซ - [ 8 ธ.ค. 49 21:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้วของสังคมไทย ที่เราต้องร่วมมือกันแก้ไข   แต่อยากจะบอกว่าการเรียนการสอนในคณะเภสัชศาสตร์ก็เน้นเรื่องของจริยธรรม และจรรยาบันในวิชาชีพมากเหมือนกันนะคะ เราคิดว่าที่การแขวนป้ายยังเกิดขึ้นอยู่ก็เพราะว่าโลภเกิดขึ้นนั่นเอง อีกอย่างก็คือการที่กฏหมายยังไม่เอาจริงด้วยซึ่งผู้บริโภคก็ต้องเรียกร้องสิทธิของตนเองค่ะ ปล บางทีกฏหมายที่ใช้ควบคุมการขายยาบางตัวก็แอบงงนะ  อย่างยาแก้ไอน้ำดำ ขนาด180มล ถ้ามีคนซื้อต้องจดชื่อที่อยู่ไว้  แต่ถ้าซื้อขนาด60 มล ก็ไม่ต้องจด  เคยลองถามพี่เภสัชฯ ว่าถ้าซื้อ ยาแก้ไอน้ำดำ60 มล 3ขวดล่ะ พี่เค้าก็บอกว่าจะซื้อขนาด60 มล เป็นสิบขวดก็ไม่ต้องจด เอ๊ะหรือว่าเป็นแค่ยาแก้ไอเลยไม่สำคัญ ปล อีกที ลบไปแล้วนะคะที่ให้รายละเอียดผิดไป พอดีอ่านแล้วจำผิดค่ะ... แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 49 17:28:47 จากคุณ : PhArMaRAnGeR - [ 9 ธ.ค. 49 00:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มิน่า.... ตอนไปซื้อจากร้านขายยา เจ้าของร้านเลยให้ซื้อขวดเล็กแทน-_-' จากคุณ : หมอแมว - [ 9 ธ.ค. 49 05:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านะ  บางที่ไม่มีเภสัชกรยังไม่เท่าไหร่ แต่ประเภทจดไปแล้วนะว่าจะเอายาอะไร แล้วยังอุตส่าห์หยิบมาให้ผิดอีกเนี่ย  -"-   จะเอา norgesic  หยิบ norfloxacin 400 mg มาเฉยเลย จากคุณ : ลูกหมูยอ - [ 9 ธ.ค. 49 10:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 #35 เห็นไหม คุณหมอแมว ยัง งง นี่แหละกฏหมายบ้านเรา ตลกดีไหม 555 ขายขวด 60 ml 3ขวดไม่เป็นไร แต่ห้ามขาย 180 ml ถ้าจะขายต้องขออนุญาตการขายอีกแบบ และต้องลงบัญชีการซื้อขาย เป็นเรื่องเป็นราว เภสัชกรเองแทบขายอะไรไม่ได้เลย ยังมียาอีกหลายตัวที่ออกกฏ มาห้ามร้านขายยา ขายทั้งๆที่เราสามารถ และมีความรู้พอที่จะจ่ายยาเหล่านั้นได้ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับคนไข้ แต่ในขณะที่ร้านใครก็ไม่รู้ขาย อยากขายอะไรก็ขาย แล้วแถมไม่มีใครเอาผิด เค้าทำได้โดยไม่ได้กลัวอะไรเลย ในขณะที่ร้านเภสัชกรเอง ไม่กล้าที่จะทำ เพราะต้องยึดมั่นในกฏ สำนึกผิดชอบ ไปขายข้าวมันไก่ ดีกว่า มีรุ่นพี่คนนึงชอบพูด จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 9 ธ.ค. 49 12:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อดีต (ย้ำอดีต) เพื่อนเราเป็นหมออ่ะ เปิดคลีนิคแล้วให้ใครไม่รู้มาอยู่ตรวจคนไข้ ถ้าเป็นไข้ไอจามก็ให้ยาไป ถ้าเป็นอย่างอิ่นก็ให้โทรมาถาม ถ้าเป็นมากก็ให้บอกคนไข้ว่าไม่มีเครื่องมือ ให้ไปโรงพยาบาล คลีนิคยังทำได้ ร้านขายยาอ่ะจิ๊บๆ จากคุณ : proudtobethai - [ 9 ธ.ค. 49 14:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คำว่าอยู่ประจำร้านนี่ นอนอยู่ชั้นบนก็อยู่ใช่ไหม ดูทีวีอยู่หลังบ้านก็อยู่ใช่ไหม ทำไมกฏหมายไม่ใช้คำว่า คอยให้บริการแนะนำ ควบคุม กำกับดูแลการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาตามหลักวิชาการ...ทำนองนี้ จากคุณ : แฮ่ม - [ 9 ธ.ค. 49 16:50:12 A:61.90.247.108 X: TicketID:101872 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอยกตัวอย่าซักนิดนึงงนะ ที่บ้านเค้าเปิดร้านขายยา เค้าก็ผลักดันลูกสาวให้ไปเรียนจนจบเภสัช เพื่อจะได้ไม่ต้องจ้างเภสัชมาประจำร้าน ตัวลูกสาวก็มาเรียนต่ออยู่ต่างประเทศ (สาขาอื่น) แต่ว่าอาศัยว่ามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของลูกสาวอยู่ โดยไม่มีเภสัชประจำอยู่จริงๆ พอใกล้ๆปีใหม่ เค้าก็จะต้องกลับเมืองไทยเพื่อไปต่อใบอนุญาต เราเองก็อึดอัดใจ และรู้สึกไม่ดี แต่ไม่รู้จะพูดยังไงอ่ะ เพื่อนๆว่าจะพูดยังไงดีล่ะ จากคุณ : อึดอัด (pongpop) - [ วันรัฐธรรมนูญ 08:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อย่างความเห็นที่40 มีแบบนี้มากมายในสังคมครับ ไม่อยากโทษตัวเภสัชที่ต้องแสดงบท"ลูกกตัญญู" ไม่อยากโทษเจ้าของร้านยาที่ทำมาหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่ต้องโทษ ความไม่เอาจริงเอาจังของผู้มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าเพียงเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ไม่ต้องพยายามออก พรบ.ใหม่ ไม่ต้องพยายามซื้อเวลาโดยการสร้าง"ร้านยาคุณภาพ" ไม่ต้องพยายามอ้างเรื่องนี้เผื่อผลิตเภสัชกรเพิ่มโดยให้สิทธิพิเศษกับลูกหลานร้านยา(แล้วก็มาแขวนป้ายมากขึ้นเหมือนคุณปองภพ) ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความไม่เอาไหนของผู้มีหน้าที่ เหล่านี้นี่เอง ถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนรักษากฎหมายไม่เอาจริงเอาจัง คนที่ทำตามกฎหมาย ก็จะกลายเป็นเพียง "ไอ้งั่ง" จากคุณ : apotheker - [ วันรัฐธรรมนูญ 10:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความเห็นที่ 41 ของคุณ apotheker อ่านแล้วโดนมากๆเลยค่ะ จากคุณ : หนูเล็กนิดเดียว - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ^ สงสัยจะมีไอ้งั่งอยู่ยั๊วเยี๊ยเต็มไปหมดในประเทศนี้... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าเราบอกว่าเภสัชอยู่มั้ยจะถามอะไรหน่อย คนขายบอกว่า ผมเองแหละครับ มีปัญหาอะไรสอบถามหรือครับ แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไงว่าใช่หรือเปล่า ถึงกับต้องขอดูบัตรเลยหรือเปล่า จากคุณ : PalmIIIc - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:28:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ดีจังที่มีกระทู้นี้ อยากให้ประชาชนเข้ามาอ่านกันเยอะๆจัง ปล.คุณ epinephrine คห.22 แสดงว่าคนขายเป็นเภสัชคนอื่นที่ไม่ใช่ epineprine แน่เลย ล้อเล่นนะ จากคุณ : ถั่วงอกดุ๊กดิ๊ก - [ 11 ธ.ค. 49 00:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #44 จริงๆถ้าคนที่หน้าไม่ด้านจริง คงไม่กล้าอ้างว่าตัวเองเป็นเภสัชกร แต่ถ้าหน้าตาหรือท่าทางและการให้คำแนะนำดูไม่ได้เรื่อง ไม่เข้าที เรียกขอดูใบอนุญาตหรือบัตรประจำตัวของเภสัชกรได้เลยค่ะ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 11 ธ.ค. 49 09:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เมื่อเภสัชซักประวัติต่าง ๆ เช่น มีโรคประจำตัวไหม มีอาการอะไรบ้าง แล้วลูกค้าบอกว่า จะเอาตัวนี้ ๆๆๆ กินแล้วถูกกับโรค แต่เภสัชยืนยันว่ากินแล้วไม่ปลอดภัย ผู้ซื้อจึงไม่ซื้อ และไปซื้อร้านที่ไม่ซักประวัติอะไรมากนัก ซึ่งอาจจะไม่ใช่เภสัชเป็นผู้ขาย.... ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะคะ จากคุณ : honeynut - [ 11 ธ.ค. 49 13:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เช่นเดียวกับกรณีที่ผมยกไว้ในคห. 22 ครับ เราต้องมองในสองข้อหลักคือ 1. ถ้าเรายังตามใจผู้บริโภค โดยปล่อยให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเลือก นอกจากจะทำให้เภสัชกรเป็นแค่คนขายยาแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคเกิดความคิดผิดๆ อีกด้วย 2. ประเด็นสำคัญคืออย. เองก็ไม่ได้เข้มงวดกวดขันในการเอาผิดร้านที่ไม่ใช่เภสัชกร และแม้ว่าร้านจะมีเภสัชกรเอง ก็ไม่ได้เข้มงวดกับบทบาทของตน ดังนั้น การแก้ ต้องแก้ที่ผู้ใช้อำนาจครับ จะมาแก้ที่ปลายทางอย่างทีเ่ป็นอยู่ไม่ได้ มันไม่มีประโยชน์ จากคุณ : Epinephrine - [ 11 ธ.ค. 49 16:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราเองเวลาต้องไปซื้อยาที่ร้าน  ก็ชอบสอบถามคนขายยาค่ะ   ถามเรื่องยาว่าแก้อะไร  ใช้ยังไง มีผลข้างเคียงยังไง  แพ้ยาอื่นใช้ยาตัวนี้ได้มั้ย   หรือไม่ก็ขอให้อธิบายวิธีการใช้ยาโดยละเอียด  ถ้าเป็นเภสัชตัวจริงมักจะยินดีอธิบาย  แล้วก็ได้เรื่องได้ราวดี  แบบว่าหนีบเอาหมอไปด้วยนะ  จะได้รู้ว่าเภสัช(จริง) อธิบายถูกรึเปล่าด้วย  แต่ไม่ให้เค้ารู้ว่าเราเอาหมอไปด้วยนะ  ถ้าร้านไหนเข้าท่าก็จะเป็นขาประจำกันค่ะ จากคุณ : หนูน้ำหวาน - [ 11 ธ.ค. 49 17:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #47 นี่ไงคะ ถึงได้อยากให้เรียกร้องสิทธิ์ของผู้ป่วย ให้ถูกเรื่อง มันเป็นสิทธิ์ของคนไข้เองที่จะเรียกรับอะไร จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 12 ธ.ค. 49 07:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 *** ตอบความเห็นที่ 30 *** เรื่องบทลงโทษสำหรับเภสัชกรที่ลงเวลาปฏิบัติงานไว้แล้ว  ไม่มาปฏิบัติงานที่ร้านยาถ้าทาง อย.ตรวจสอบพบหรือรับแจ้งจากประชาชนก็ไปตรวจสอบ  หากไปตรวจสอบแล้วไม่พบเภสัชกร  ก็จะส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาจรรยาบรรณ  ซึ่งก็โดนพิจารณาพักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน ซึ่งในส่วนของปี 49 ก็มีเภสัชกรถูกพักใช้ใบอนุญาตหลายคน เนื่องจากไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ลงเวลาไว้กับทาง อย.  ส่วนในปี 50 ที่จะถึงนี้  กำลังจะโดนพิจารณาจรรยาบรรณอีกประมาณ 450 คน   หวังว่าคงจะเป็นแนวทางที่ให้เภสัชกรที่กำลังแขวนป้ายที่ร้านยา  ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามเวลาที่ลงไว้  ตอนนี้ทาง อย.และสภาเภสัชกรรม  กำลังร่วมมือกันเพื่อพัฒนาร้านยาให้มีคุณภาพมาตฐานให้เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคให้มากที่สุด   ส่วนในตัวเภสัชกรเองที่โดนพักใช้ใบอนุญาต  พวกนี้ก็จะมีรายชื่ออยู่ในจดหมายข่าวสภาเภสัชกรรม  ว่าได้โดนพักใช้ใบอนุญาตเนื่องจากแขวนป้ายร้านยา  เมื่อเภสัชกรคนอื่นที่ได้อ่านจดหมายข่าวสภาเภสัชกรรมและทราบว่าตอนนี้เภสัชกรที่แขวนป้ายร้านยาถูกพักใช้ใบอนุญาต 3 เดือน  น่าจะช่วยกระตุ้นให้เภสัชกรไปคุมร้านยาได้ไม่มากก็น้อย จากคุณ : แมวควัก - [ 12 ธ.ค. 49 11:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากครับ คุณแมวควัก ต้องเริ่มกันเอาจริง จาก กม ที่มี อยู่นี่ล่ะ อย่าซื้อเวลา อย่ารอเวลา ถ้าทำจริงจัง ปัญหาคงบรรเทาไปเยอะครับ สงสัยต่ออีกหน่อยว่า่ วิธีการ พิจารณา ว่า คนนั้นตั้งใจแขวน หรือ ดวงแตก ไม่มาวันที่เค้ามาตรวจพอดี หรือ อาจโดนกลั่นแกล้งเนี่ย ใช้บรรทัดฐานไหนหรือครับ เพราะคนที่สภา คงไม่ได้ ลงพื้นที่มาดูเองได้ทุกราย แน่ๆ ปล แล้ว โดนจับได้ ครั้งที่สอง นี่ มีใบแดง ไหมครับ อิิอิ จากคุณ : A.sativa - [ 12 ธ.ค. 49 13:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 *** ตอบความเห็น 52 **** ใช่ครับที่ว่าสภาเภสัชกรรมไม่ได้เป็นคนลงไปตรวจสอบเองเพราะว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จากทาง อย. ลงพื้นที่ตรวจสอบครับ   และการตรวจสอบร้านยานั้นๆว่าทำผิดกฎหมายอะไรบ้างหรือเปล่า เช่นการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ  การจำหน่ายยาลดความอ้วน  การจำหน่ายยาหมดอายุยาเสื่อมคุณภาพ  การอยู่ปฏิบัติการของเภสัชกร   ถ้าวันที่ไปตรวจอาจจะไม่เจอเภสัชกรที่ประจำร้านยาก็จะทำการสอบถามทางเจ้าของร้านครับว่าเภสัชกรไปไหนเพราะว่าคนเรามันมีธุระกันได้นิครับ  และอาจจะตักเตือนพร้อมทั้งจดบันทึกไว้ว่ามาตรวจแล้วไม่พบ  และถ้าเกิดวันหน้ามาตรวจสอบอีกไม่พบเภสัชกรอีกก็ส่งเรื่องมาที่สภาเภสัชกรรม  เพื่อทำการพิจารณาจรรยาบรรณต่อไป  เมื่อคณะกรรมการพิจารณาจรรยาบรรณตรวจสอบพบว่ามีมูลความผิด  ก็จะส่งต่อไปคณะอนุกรรมการสอบสวนเพื่อเรียกเภสัชกรมาสอบสวนเพื่อหามูลความผิดต่อไป  และถ้าเกิดมีความผิดจริงที่ได้ทำการแขวนป้ายร้านยา  ก็จะลงโทษทางจรรยาบรรณ ซึ่งมีโทษตั้งแต่  ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์  จนถึงพักใช้ใบอนุญาต โดยพิจารณาเป็นคดีๆไป   *** การไม่อยู่ปฏิบัติการตามเวลาที่ได้แจ้งไว้  มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม  มาตรา 39 ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการต้องอยู่ประจำ ณ สถานที่ขายยาแผนปัจจุบันตลอดเวลาทำการ *** จากคุณ : แมวควัก - [ 12 ธ.ค. 49 16:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โห คิดได้ไงอ่ะ เก่งจริงๆ ผมสนับสนุนด้วยอย่างแรง จากคุณ : thaiMBA - [ 12 ธ.ค. 49 20:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เคยซื้อยาที่ร้านขายยาชื่อดังแถวโรงเรียนแห่งนึง ร้านใหญ่มาก ขายยาเป็นทั้งครอบครัว(มองแง่ดี อาจจะเป็นเภสัชทั้งผัว-เมีย-แม่-ญาติ) เด็กรับใช้ในร้านยังขายได้เลยอ่ะ ได้ยามาถูกต้องด้วย ตอนไปซื้อเป็นไข้หนาวสั่น พอกินยาแล้วเหงื่อออกเสื้อเปียกเลย พอยาหมดฤทธิ์ ก็หนาวสั่นเหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นก็ลาขาด จากคุณ : penn's - [ 12 ธ.ค. 49 23:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ดีใจ รบกวนช่วยๆกันรักษาสิทธิ์ นะคะ ยาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แล้วใช้ไม่ถูกมันก่อให้เกิดอันตรายได้มากๆ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 13 ธ.ค. 49 10:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ปี 49 ก็มีเภสัชกรถูกพักใช้ใบอนุญาตหลายคน เนื่องจากไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ลงเวลาไว้กับทาง อย.  ส่วนในปี 50 ที่จะถึงนี้  กำลังจะโดนพิจารณาจรรยาบรรณอีกประมาณ 450 คน จากคุณ : apotheker - [ 13 ธ.ค. 49 14:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าเภสัชไม่อยู่ร้าน แต่ให้หมออยู่แทน ผิดไหมครับ บังเอิญหมอคนนั้นแฟนเป็นเภสัช ว่างๆ ก็มาช่วยกันเฝ้าร้าน... จากคุณ : อังเงียวอนชิ - [ 13 ธ.ค. 49 19:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอนอนปูเสื่อฟังในฐานะเภสัชกรที่เพิ่งจบไม่นาน(ตามที่คิดเข้าข้างตัวเอง..) คห 58 คะ เป็นหมอที่เป็นแฟนกะเภสัชมาช่วยขายก็ยังดี ข้างๆบ้านคุณแม่ของดิฉันเอง เภสัชเป็นแฟนกะตำรวจ ตำรวจยังมาขายยาเองเลยค่ะ เหอะๆ รักวิชาชีพนี้อยุ่ค่ะ ยังอยากได้ยินคำว่า "มีปัญหาเรื่องยา ปรึกษาเภสัชกร" ไม่ใช่ "มีปัญหาเรื่องยา ปรึกษาตำรวจ, คนเฝ้าร้านยา,คนสวย(ตาม คห 18) etc." จากคุณ : Baccadi Lemon - [ 14 ธ.ค. 49 01:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เคยครั้งนึงค่ะ ในห้างที่มีคนสวย ๆ ใส่เสื้อกาวน์อยู่ 2 คนประจำตรงขายยาเนี่ย ถามเธอไปว่า อุณหภูมิปกติของคนที่ไม่มีไข้ต้องเป็นเท่าไร ลูกอะฮั้นวัดได้ 38 นี่ปกติรึเปล่าเธอถามกันไปถามกันมา ไม่รู้ทั้งคู่เลย โอ้ย ชั้นไม่ซื้อยาจากเธอตรงนี้แน่เลยละย่ะ จากคุณ : ท (ทิวากาล) - [ 14 ธ.ค. 49 09:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาอ่านครับ ^^ จากคุณ : toh TH - [ 14 ธ.ค. 49 12:57:44 ]