ความคิดเห็นที่ 1 โรคช๊อกโกแลตซีส (chocolate cyst :  one having dark, syrupy contents, resulting from collection of hemosiderin following local) http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/backissue/january2.html  พบแพทย์ศิริราช โดย ผศ.นพ.สุวิทย์ ศุภภิญโญพงศ์ 1. คำจำกัดความของโรคช๊อกโกแลตซีส ช๊อกโกแลตซีส หมายถึง ''ถุงน้ำที่มีสารของเหลวสีคล้ายกับช๊อกโกแลตอยู่ภายใน'' ความรุนแรงมากพอสมควร --การเรียกตามลักษณะที่เห็นความจริงแล้ว คำเต็มก็คือ..... ''โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ เอ็นโดเมทริโอซิส ''** ปกติตัวเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก ควรจะอยู่เฉพาะภายในโพรงมดลูกเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่ตัวเยื่อบุโพรงมดลูกนี้กระจายออกนอกตัวโพรงมดลูกไปเกาะอยู่ที่ใดก็ตามก็จะเป็นโรคของตำแหน่งนั้นเกิดขึ้น 2. ในปัจจุบันพบผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มากน้อยแค่ไหน โรคนี้พบได้บ่อยขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย --เราจะพบมากที่สุดก็คือ พบได้ 10- 20% ในกลุ่มของผู้ที่อยู่ในวัยที่มีประจำเดือน --กลุ่มคนลูกยากจะเป็น 30-45% คำว่าผู้ป่วยที่มีลูกยากก็คือ คู่สมรสที่แต่งงานเกิน 1 ปี มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เอง 3. กลไกที่ก่อให้เกิดโรค ---ปัจจุบันนี้เรายังไม่ทราบกลไกที่ทำให้เกิดโรคที่แท้จริง แต่มีทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อถือคือ ทฤษฎีของแซมซัน จะมีเลือดประจำเดือนส่วนน้อยส่วนหนึ่งไหลกลับเข้าไปในช่องท้อง โดยผ่านท่อรังนำไข่ เลือดประจำเดือนที่ไหลเข้าสู่ช่องท้องก็จะนำเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกไปด้วย แต่ตำแหน่งของเซลล์นี้ถ้าไปฝังตัวอยู่ที่อวัยวะไหนก็จะทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นในอวัยวะนั้น ส่วนมากเราจะพบมากในบริเวณรังไข่ 4. นอกจากนั้นยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคอีกหรือไม่ ผู้หญิงปกติทุกคนจะมีการไหลย้อนกลับของเลือดประจำเดือน แต่บางคนเป็นโรค, บางคนไม่เป็นโรคขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยง คือ 4.1 มีประวัติครอบครัว โดยเฉพาะทางมารดาหรือว่าพี่สาว, น้องสาวของผู้ป่วย ถ้าเกิดเป็นโรคนี้ตัวผู้ป่วยจะมีโอกาสเป็นโรคที่สูงขึ้นมากกว่าคนทั่วไป 3-10 เท่า 4.2 กลุ่มผู้ป่วยที่มีการทำงานของรังไข่นาน ๆ รังไข่ทำงานนานในกรณีที่เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อยหรือประจำเดือนรอบสั้น เดือนหนึ่งมีมากกว่า 2 ครั้ง หรือออกมากหรือออกนานมากกว่า 7 วัน 4.3 กลุ่มที่มีความผิดปกติโดยกำเนิด ของทางออกของประจำเดือน กรณีนี้เราจะเจอได้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาเยื่อพรหมจารีปิด 5. ปัจจัยลดความเสี่ยงของโรคอยู่ 3 ปัจจัย คือ 5.1 การตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์หลายครั้งโอกาสเป็นโรคก็จะน้อยลง การตั้งครรภ์ผู้หญิงจะไม่มีภาวะของการมีประจำเดือนไปเป็นเวลา 9-10 เดือน  หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด ซึ่งยาคุมกำเนิดจะมีฮอร์โมนที่มีชื่อว่า โปเตสเซอโรน 5.2 การออกกำลังกายมาก ๆ โดยเฉพาะการออกกำลังตั้งแต่วัยรุ่นจะต้องออกกำลังกายมากกว่าสัปดาห์ละ 7 ชม. อันนี้จะเป็นการลดฮอร์โมนเอสโตเจน เป็นผลทำให้เกิดโรคน้อยลง 5.3 การสูบบุหรี่ จะทำให้เกิดเอสโตนเจนน้อยลง โอกาสการเกิดโรคก็จะน้อยลง แต่ที่กล่าวมาก็ไม่ ได้หมายความว่าจะสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนต้องสูบบุหรี่ 6. ลักษณะอาการผิดปกติเบื้องต้นเป็นอย่างไร พบได้เป็นส่วนสำคัญมีอยู่ 3 อย่าง คือ 6.1 คนไข้จะมีอาการปวดประจำเดือนทุกเดือน แต่อาการปวดประจำเดือนก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคนี้ ซึ่งลักษณะอาการปวด คือ มีอาการปวดอย่างรุนแรงและจะปวดมากขึ้นมากขึ้นทุกเดือน เป็นอย่างนี้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ 6.2 มีอาการเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ 6.3 ผู้ป่วยจะมีบุตรยาก ึ7. เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ อาศัยจากประวัติก่อนทำการตรวจร่างกายคนไข้ และจะมีการช่วยวินิจฉัยหลายอย่าง เช่น ....การทำอัลตราซาวด์ ส่องกล้อง ตรวจภายในอุ้งเชิงกราน การเจาะเลือดตรวจทูเมอร์ .... ---การวินิจฉัยโรค ถ้าเกินเราอัลตราซาวด์แล้วเราเห็นก้อนชัด ๆ ก็จะสามารถบอกได้ทันที แต่ในกลุ่มที่คนไข้ที่มีผลการตรวจคนไข้ไม่ชัดเจน กลุ่มนี้เรามักจะต้องใช้วิธีส่องกล้องตรวจภายในอุ้งเชิงกราน 8. วิธีการรักษาในปัจจุบัน วิธีการรักษาในปัจจุบันมีหลายแบบ 1. การใช้ยา   2. การผ่าตัด   3. ใช้ยาร่วมกับการผ่าตัด จะคำนึงถึงอาการของผู้ป่วย ความต้องการในการมีลูกและความรุนแรงของอาการ ---การใช้ยารักษา มีอยู่ 2 กลุ่ม ....แพทย์จะต้องให้คนไข้อยู่ในภาวะไม่มีประจำเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการไหลย้อนกลับของเลือดประจำเดือนเข้าไปในช่องท้อง เป็นยาที่ทำให้คนไข้หมดประจำเดือน ---เหมือนคนในวัยทอง ---หรือเหมือนหญิงตั้งครรภ์ ---ส่วนการผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ตัวโรครุนแรง ชนิดที่ 1 การผ่าตัดออกหมด ผลการผ่าตัดทำให้คนไข้หายจากโรค แต่คนไข้ก็จะไม่สามารถมีบุตรได้อีก ชนิดที่ 2 ก็คือ การผ่าตัดเพื่อเอาตำแหน่งของพยาธิสภาพออก ข้อดีของการผ่าตัดนี้ก็คือ ผู้ป่วยสามารถมีบุตรได้อีก แต่ข้อเสียก็คือ ตัวโรคสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีก 9. ผลจากการใช้ยาที่ทำให้คนไข้หมดประจำเดือน จะมีผลแทรกซ้อนอย่างไรเกิดขึ้นบ้าง ---หลักการจะทำให้คนไข้ไม่มีประจำเดือนประมาณ 6-9 เดือน จริง ๆ เป็นระยะที่สั้น ถ้าใช้ยาทำให้ไม่มีประจำเดือนเหมือนวัยทอง ...จะมีอาการหงุดหงิด ชาปลายมือ ปลายเท้า 10. จะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีกหรือไม่ --- ในกรณีที่เราผ่าตัดเอาเฉพาะพยาธิสภาพออก โดยที่เก็บตัวมดลูกและรังไข่ไว้คนไข้ ก็จะมีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีก 11. อันตรายของโรคนี้มากน้อยแค่ไหน ---ในกรณีที่เป็นมาก ๆ คนไข้ก็จะมีพังพืดเกิดขึ้นในอุ้งเชิงกราน ผังพืดที่เกิดขึ้นมีการรัดอวัยวะที่สำคัญหลายอย่าง เพราะฉะนั้นการผ่าตัดจำเป็นต้องอาศัยฝีมือขอศัลยแพทย์ที่ดี ---พอประจำเดือนมาครั้งต่อไป ตัวโรคก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นหากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ก้อนช๊อกโกแลตซีสเกิดแตก สารของเหลวที่อยู่ภายในก็จะออกมากระตุ้นเยื่อบุช่องท้อง ทำให้คนไข้มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน 12. การป้องกันควรทำอย่างไร 12.1 เพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของเลือดประจำเดือน ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการตรวจภายใน หรือ มีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีประจำเดือน 12.2 ในหญิงกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ เราอาจพิจารณณาให้การป้องกันด้วยการกินยาคุมกำเนิด เริ่มตั้งแต่วัยเริ่มมีประจำเดือนและหยุดยาต่อเมื่อมีบุตร 12.3 ขอแนะนำให้ผู้หญิงที่แต่งงาน ตั้งครรภ์เร็ว ๆ 13. ข้อแนะนำ ท่านที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีบุตรยาก ถ้าเกิดไม่แน่ใจในอาการควรจะได้รับการปรึกษาและการตรวจจากแพทย์โดยเร็ว แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 49 00:43:04 จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 19:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไงลองมองแพทย์ทางเลือกไว้มั่ง เช่นหมอจีน มีกรณีศึกษาพบว่า การฝังเข็ม+กินยาจีน สามารถสลายซีดให้เป็นเลือดคล้าย ปจด.ได้โดยไม่ต้อง ผ่าตัด และมีบุตรต่อได้ ครับ จากคุณ : บลูเรย์ - [ 28 ธ.ค. 49 19:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขออภัยนะคะ law of nature  ดึกๆจะเข้ามาโพสต์ใหม่ และแก้ไขความคิดเห็นที่ 1 เล็กน้อย ตอนนี้โพสต์ข้อความยาวๆแล้วหายหมด มีรูปภาพประกอบด้วยค่ะ จากคุณ : law of nature (law of nature) - [ 28 ธ.ค. 49 19:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : หวานเย็นน้ำแดง - [ 28 ธ.ค. 49 20:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะเป็น endometriosis นะจ๊ะ จากคุณ : บุรุษเบื้องหลัง (บุรุษเบื้องหลัง) - [ 28 ธ.ค. 49 20:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ พี่ที่ออฟฟิศ แต่งงานมาแล้วหลายปี ไม่มีบุตรทั้งๆที่ไม่ได้คุมอะไร...โทรมาบอกว่า เป็นสองอย่าง คือเนื้องอก กับ ซีสต์...ท่าทางแกเครียดมากหาหมอถึง 4 หมอ ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ แต่ต้องมั่นใจจริงๆ ว่าจะแก้ไขปัญหายังไง เพราะสองสามรายแรกวินิจฉัย ใกล้เคียงกันแต่วิธีรักษาคนละเรื่องค่ะ บางคนบอกว่าให้กินยา บอกคนบอกว่าให้ผ่าตัด เหตุผลก็แตกต่างกัน... แกไม่ทราบว่าจะทำยังไง จนสุดท้าย หมอก็บอกว่า ให้รอร่างกายแข็งแรงก็จะนัดวันผ่าตัดค่ะ...แกบอกว่าอยู่รพ.เมื่อไหร่จะโทรมารายงานเดี๋ยวขออนุญาติ copy ข้อความส่งเมลไปให้แกหน่อยนะคะ จากคุณ : Ex-TeRMinaToR - [ 28 ธ.ค. 49 22:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอโพสต์เพิ่มเท่าที่เน็ตพันทิปจะให้เล่นวันนี้ อิอิ ความคิดเห็นที่ 1 พยายามเข้าไปแก้ไขแต่ว่าระบบ error  มีคำที่เราคิดว่าพิมพ์ผิด เช่น คือ ''โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ  ''(เม็นโดเมสโตโลซิส '': ) '' มาจากเว็ปไซค์ดังกล่าว เรามาอ่านเจอแต่ยังไม่ได้แก้ และ ภาษาอังกฤษ '' endometriosis'' ภาษาไทยควรเป็น ''เอ็นโดเมสโตโลซิส'' ? สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากหลายแหล่งดังนี้ จาก forward mail ในหลายเว็ปจะมีข้อมูลเดียวกัน เช่น  http://www.thaihealth.info/health41.htm "ช็อกโกแลตซีส (cyst) โรคภายในของผู้หญิงที่มีโอกาสเป็นได้ทุกคน... โรคที่ทางการแพทย์เรียกว่า "เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิด" (endometriosis) ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สมชาย สุวจนกรณ์แพทย์ จากภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวช วิทยาคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตอบไว้หลายประเด็น 1. ทำไมหญิงยุคใหม่เป็นโรคนี้กันมากขึ้น ? ---"ถ้าดูในเรื่องงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกเติบโตผิดที่พบว่า ถ้านำผู้หญิง 100 คนมาทำการส่องกล้องเข้าไปดูในขณะที่มีประจำเดือน ผู้หญิงเกือบทั้ง 100 คน จะมีภาวะลือดระดูไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้องทุกคน" 2. ทำไมบางคนเกิดอาการเป็นถุงน้ำซึ่งทำให้ เกิดความเจ็บปวดมากมาย แต่บางคนไม่เป็น ? ---คนไข้กลุ่มที่เป็นถุงน้ำมักจะมีปัญหาในเรื่องภูมิคุ้มกันบางอย่างบกพร่องซึ่งไม่สามารถจะทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เติบโตผิดที่นี้ได้ ในขณะที่ผู้หญิงปกติทั่วไปจะมีภูมิคุ้มกันซึ่งสามารถทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตผิดที่ได้ "ส่วนที่ดูเหมือนกับว่าผู้หญิงในปัจจุบันเป็นโรคนี้กันมาก ก็เพราะความเจริญก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยี 3. อาการที่น่าสงสัยว่า จะเป็นถุงน้ำช็อกโกแลตเกี่ยวกับเรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ --- ผู้หญิงที่เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ จะมีอาการปวดท้องมากเวลาที่มีประจำเดือน "การที่จะแยกว่าอาการปวดท้องเมื่อมีประจำเดือนจะเป็นอาการที่บ่งบอกว่าสิ่งแรกท ี่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องอายุ นั่นคือถ้าอายุยังไม่มาก แล้วปวดท้องเวลาที่มีประจำเดือน ส่วนใหญ่จะเป็นอาการปวดท้องธรรมดา แต่กรณีที่ไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อน พออายุ 30 ปีขึ้นไปอยู่ๆ ก็มีอาการปวดประจำเดือนขึ้นมา และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือนที่ผ่านไป อาการดังกล่าวค่อนข้างบ่งชี้ว่าน่าจะเป็น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่" 4. ถุงน้ำช็อกโกแลตเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ? --ผู้หญิงหลายคนที่เป็นโรคถุงน้ำช็อกโกแลตได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเอาถุงน้ำออกและหลายๆกรณีแพทย์บางคนผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกไปด้วยในคราวเดียวกันด้วย ..... to be continued.... จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 23:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รวบรวมเว็ปที่น่าสนใจ ท่านใดสนใจก็เข้าหาความรู้เพิ่มเติมได้ค่ะ http://www.femalehealthmadesimple.com/FileSevenFinal.html   http://www.memfert.com/endo.htm http://www.healthsquare.com/fgwh/wh1ch09b.htm http://www.ovarian-cysts-pcos.com/ovarian-cysts.html http://www.webmd.com/hw/health_guide_atoz/sto167462.asp http://www.endo-resolved.com/endometriosis.html http://www.drmalpani.com/book/chapter18.html ขอเพิ่มเติมข้อมูลที่เราสนใจสนใจจากเว็ปข้างต้น I )การป้องกัน 1. Improve the quality of your diet. 2. Increase your exercise. 3. Control chronic stress. 4. Use bio-identical hormones, supplements and herbs to help balance your hormonal system. 5. Improve your overall health. II) เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้ Currently, health care providers use a number of tests for endometriosis. Sometimes, they will use imaging tests to produce a "picture" of the inside of the body, which allows them to locate larger endometriosis areas, such as nodules or cysts. The two most common imaging tests are ultrasound, a machine that uses sound waves to make the picture, and magnetic resonance imaging (MRI), a machine that uses magnets and radio waves to make the picture. III) ขนาดของ chocolate cysts Endometriomas (also called endometrial or "chocolate" cysts) typically range in size from 0.4 in.(1 cm) to 4 in.(10.2 cm). IV) รูปภาพของ chocolate cysts รวบรวมจากที่เราสนใจนะคะ ภาพที่ 1. Laparoscopy, showing minimal endometriosis, in the form of " powder-burn" deposits. ภาพที่ 2.Laparoscopy, showing a small chocolate cyst in the left ovary. This can be very easy to miss, so a careful multiple puncture laparoscopy is essential to make an accurate diagnosis of endometriosis. (มีต่อค่ะ) จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 23:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพที่ 1. Laparoscopy, showing minimal endometriosis, in the form of " powder-burn" deposits.(ในภาพนี้จะเห็นเป็นจุดเล็กๆ เรียกว่า powder-burn) จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 23:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพที่ 2.Laparoscopy, showing a small chocolate cyst in the left ovary. This can be very easy to miss, so a careful multiple puncture laparoscopy is essential to make an accurate diagnosis of endometriosis. (ในภาพนี้จะเริ่มเห็นเป็นก้อนเล็กของซี้สชนิดนี้แล้วจึงสามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องเพิ่มขึ้นค่ะ) จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 23:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพที่ 3.  Endometriosis ที่เห็นชัดเจนเช่นกันค่ัะ จากคุณ : law of nature - [ 28 ธ.ค. 49 23:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพที่ 4. แสดงตำแหน่งการเกิด chocolate cysts จากคุณ : law of nature - [ 29 ธ.ค. 49 00:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.emedicine.com/radio/topic250.htm จะให้ข้อมูงที่ละเอียดของโรคนี้และมีภาพการตรวจด้วย Endovaginal ultrasound of an endometrioma. MRI of an endometrioma ์Note ::::: ขอแก้ไขความคิดเห็นที่ 7 ::::  endometriosis = เอ็นโดเมทริโอซิส  ภาษาไทยไปค้นแล้วว่าเขียนแบบนี้จึงจะถูกค่ะ O_O'' ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : law of nature - [ 29 ธ.ค. 49 00:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นส่วนตัว::: ---๊Ultrasound ที่ตรวจสามารถขอตรวจจากบริเวณท้องน้อย ไม่โป้นะคะ อิอิ จึงอยากฝากสาวๆ ที่ปวดท้องรุนแรงขณะมีรอบเดือน โดยเฉพาะท่านที่มีรอบเดือนมาหลายปีแล้วค่ะ ---เรื่องรักษาคงอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ถ้าไม่มั่นใจก็ลองหาข้อมูลแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ---ส่วนเรื่องการใช้สมุนไพร โดยส่วนตัว คิดว่าอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าได้ผลเพียงใด ถ้าดูที่''การป้องกัน''ความคิดเห็นที่ 8 น่าจะได้ผลตรงนี้ค่ะ 4. Use bio-identical hormones, supplements and herbs to help balance your hormonal system เราเองเคยปวดท้องมากแต่พอทานสมุนไพรบางชนิดจากหมอจีนที่คิดว่า ได้มาตรฐานการรักษาพอควรในความคิดเห็นส่วนตัว อาการของเราก็ดีขึ้น แต่ว่าเราไม่ได้เป็น chocolate cysts เพราะเราตรวจไม่เจอ จึงบอกข้อมูลให้ทราบตามจริงค่ะ ---การดูแลสุขภาพ อาหาร การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงความเครียด และการมีเพศสัมพันธุ์ขณะมีรอบเดือน จะป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ได้ จากคุณ : law of nature - [ 29 ธ.ค. 49 01:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อือหือ ข้อมูลเพียบ ไว้กลับมาอ่านอีกที แต่ดูรูปประกอบแล้วน่ากลัวจังเลย จากคุณ : Appreciator - [ 29 ธ.ค. 49 02:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้อ่านค่ะ น่ากลัวเหมือนกันนะคะ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว - [ 29 ธ.ค. 49 05:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ค่ะ โชคดีที่ป้ามดพ้นวัยมาแล้ว จากคุณ : ป้ามด - [ 29 ธ.ค. 49 07:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชื่อโรค นึกว่าเป็นการติดช๊อกโกแลต จากคุณ : BaracuZ - [ 29 ธ.ค. 49 07:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพื่อนเราก็เป็นค่ะ ยังสาวๆนี่แหละตรวจอัลตร้าซาวน์ เพื่อนเรามันปวดท้องประจำเดือนมากๆเลย ตั้งแต่ ม.ปลาย ถ้าใครมีอาการก็รีบไปตรวจนะคะ ตอนนี้หมอฉีดยาคุมให้เพื่อนเราอยู่ เฮ้อ อ่านแล้วสงสารเพื่อนจัง แต่มันดันบอกว่าแห้งสบายดีมากๆๆ จากคุณ : Pinky piglet ^@^ - [ 29 ธ.ค. 49 10:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห้อยิ่งดู ยิ่งไม่กล้าไปหาหมอ กลัวหมอจับ check in ยาว จากคุณ : น้าสือสาว (โสมรัศมี) - [ 29 ธ.ค. 49 10:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีข้อมูลดีๆมาฝากกันเรื่อยเลยนะคะ พี่ law of nature...ขอบคุณนะคะ ปกติปวดประจำเดือนทุกเดือนเลยค่ะ  ต้องทานยาประจำ  ไม่งั้นต้องนอนแต่บนเตียงค่ะ  เพราะปวดมาก แต่ไม่มีอาการ ท้องเสีย คลื่นไส้ อา้เจียน ส่วนใหญ่จะ  ท้องเสีย คลื่นไส้  เฉพาะเวลาเครียด คิดว่าไม่น่าจะเป็นโรคนี้  เพราะอ่านๆดูแล้ว  ความเสี่ยงต่ำมากเลย :P เห็นรูปแล้วก้อสยองเล็กน้อยเหมือนกันนะคะเนี่ย จากคุณ : babyPooh - [ 29 ธ.ค. 49 10:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฟังอาการ กับเห็นรูปแล้วน่ากลัวจังเลย แต่คำแนะนำให้แต่งงานเร็วๆ มีท้องเร็วๆ มันทำยากจัง จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 29 ธ.ค. 49 10:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่ law ขออนุญาตเอาไป ออกที่ web weddingsquare นะคะ จากคุณ : แพนด้าหน้าแป้น - [ 29 ธ.ค. 49 10:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหย อ่านแล้ว กลัวเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ส่งข่าวให้เข้ามาอ่าน เดี๋ยวนะคะ ว่าจะบุ้คหมากไว้ เข้ามาอ่านดีๆ อีกรอบนึง จะตามลิ้งค์ไปให้หมดเลยค่ะ สนใจจริงๆ นะคะ เพราะอายุก็ไม่น้อยแล้ว กลัวจังเลยค่ะ จากคุณ : Second impact - [ 29 ธ.ค. 49 13:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตค่ะ     จากคุณ : pipim - [ 29 ธ.ค. 49 16:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นโรคที่ฮิตในยุคนี้จริงๆ ด้วยสิคะ ที่ทำงานเรา ก็เป็นโรคนี้กันเยอะ ต้องเข้าผ่าตัดไป 4 รายแล้ว จนเกิดการประกวดแผลผ่าตัด ว่าหมอที่ไหนผ่าและเย็บแผลสวยกว่ากัน หุหุ โหวตค่ะ จากคุณ : Eros(CH) - [ 29 ธ.ค. 49 19:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ จขบ. ที่แนะนำให้มาอ่านนะครับ ไม่มีความรู้เลยอ่ะนะ แต่ว่า ... ดูรูปแล้วหวาดเสียวครับ จากคุณ : สะเทื้อน - [ 29 ธ.ค. 49 19:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วน่ากลัวจังเลย  ที่ทำงานเรา ก็มี 1  คนที่เป็นโรคนี้ต้องพักรักษาตัวนานเลย  ดังนั้น  ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  ขอให้เพื่อนมีสุขภาพที่แข็งแรง  ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน  สุขกายและสุขใจกันทุกคน  นะค่ะ จากคุณ : vimam - [ 29 ธ.ค. 49 21:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณที่ชวนมาอ่านนะคะ โหวตให้ค่ะ ^^ จากคุณ : วัฌชา - [ 29 ธ.ค. 49 22:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ และแสดงความคิดเห็นร่วมกันค่ะ ฉันเองก็เคยสงสัยอาการตัวเอง กลัวจะเป็นซีสหรือโรคร้ายอื่นๆ เพราะเพื่อนสนิทต้องถูกผ่าตัดเพราะซีส ...เพือนอีกท่านหนึ่งต้องเอามดลูกออก..... ญาติของเพื่อนสนิทผ่าตัดเพราะผังผืด ทุกท่านมักทีอาการปวดท้องตอนเป็นรอบเดือนมากกว่าปกติแต่ไม่ได้ตรวจรักษามาก่อน จนกระทั่งเป็นมากแล้ว ผลกระทบจึงสูงมาก ยินดีที่จะมีการส่งต่อข้อมูลไปยังที่อื่น เพราะข้อมูลที่มาโพสต์ก็รวมๆมาจากหลายเว็ป ซึ่งบางท่านอาจเคยได้เห็นข้อมูลบางส่วนมาก่อน คิดว่ามาอ่านอีกครั้งก็จะดีไม่ใช่น้อย เพราะอาจเลือนๆกันไปบ้างแล้วนะคะ มากระตุ้นเตือนกันอีกครั้ง!! นอกจากนี้ความคิดเห็นหลายๆ ท่านที่แสดงในกระทู้นี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นค่ะ  ...เช่น คุณบลูเรย์ ซึ่งเปิดประเด็นเรื่องสมุนไพรน่าสนใจมากค่ะ รวมถึงท่านอื่นๆ ที่กรุณาเล่าถึงเพื่อน ญาติ คนรู้จักที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน หรือบางท่านเพียงได้เข้ามาอ่าน ก็ดีใจที่มีคนอ่าน O_O'' จากคุณ : law of nature - [ 29 ธ.ค. 49 22:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เล่นเอาไม่อยากนึกถึงช็อกโกแล็ตชิพเลย เจ๊เอ๊ยยยย จากคุณ : ดำรงเฮฮา - [ 29 ธ.ค. 49 23:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : pp..jajar - [ 30 ธ.ค. 49 02:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับบความดี ดี ค่ะ เราก็เคยผ่าช็อคโกแลตซีสที่รังไข่ หมอใจดีถ่ายรูปเก็บไว้ให้ดูอีกต่างหาก ซีสโตประมาณผลสัม น่ากลัวดี จากคุณ : ahoy - [ 30 ธ.ค. 49 05:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 33 ขนาดใหญ่มากเลยนะคะ เราก็กลัวจะเป็นเหมือนกัน แต่ก็ระวังเรื่องต่างๆ ยินดีด้วยที่คุณหายแล้วค่ะ PS รูปภาพอาจจะน่ากลัวนิด  พยายามเลือกรูปที่เห็นระยะต่างๆได้ชัดเจนที่สุดค่ะ แต่หวังว่าคงไม่ทำให้ไม่อยากกินช็อกโกแลตนะคะ.....ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : law of nature (law of nature) - [ 30 ธ.ค. 49 07:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีประโยชน์มากๆเลยค่ะคุณ law  เข้าบล็อกยังไม่ได้เหรอคะ ไม่ต้องเครียดนะคะ  ขอให้มีความสุขในเทศกาลปีใหม่ค่ะ                        .....    ...... จากคุณ : pipim - [ 30 ธ.ค. 49 15:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พี่ law คะ ขอนุญาต โพสเพิ่มที่บ้านคุณแม่นะคะ จากคุณ : แพนด้าหน้าแป้น - [ 30 ธ.ค. 49 16:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องราวของผู้หญิงที่ควรรู้จริงๆค่ะ จากคุณ : หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท - [ 30 ธ.ค. 49 22:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5006989/L5006989.html มาฝากกระทู้คู่แฝดแห่งการส่งท้ายปีเก่า เพราะน้องผู้ชายบอกว่าอยากได้เรื่องชายๆบ้าง ....ผู้หญิงก็อ่านดีนะคะ เพราะในอนาคตถ้ามีครอบครัวจะได้เข้าใจผู้ชายมากขึ้นค่ะ จะเอาไปเผยแพร่ที่ไหนก็เอาไปเถอะค่ะ ยินดีให้ข้อมูลค่ะ ถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป อิอิ จากคุณ : law of nature - [ วันสิ้นปี 02:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เหมือนความเห็น 26 เลยค่ะ เป็นโรคฮิตของที่ทำงานเหมือนกัน ที่ผ่าแล้วน่ะ 5 คน ยังไม่ผ่าอีก 2 คน จากคุณ : HoneyLemonSoda - [ วันปีใหม่ 19:33:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ความคิดเห็นที่ 39~~ 26  เนื่องจากหลายท่านเป็นกันเยอะ แต่กว่าจะรู้ก็มักจะมีอาการของโรครุนแรงพอควร เราคิดว่าถ้าพยายามจะป้องกันไว้แต่ต้น หรือถ้าทราบว่าตัวเองมีความผิดปกติควรรีบตรวจก่อนที่โรคจะรุนแรง จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ O_O'' ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 50 04:10:27 จากคุณ : law of nature - [ วันปีใหม่ 20:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อะไรไม่รู้ครับ .. แต่ชื่อโรคน่ารักจัง จากคุณ : คลิกที่นี่เพื่อส่งข้อความ - [ 2 ม.ค. 50 04:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ชื่อโรค น่าหม่ำ ..แต่อาการของโรคน่ากลัว ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ จากคุณ : ยายเมี้ยน - [ 2 ม.ค. 50 11:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เราก็เป็นโรคนี้ค่ะ  โชคดีที่ตอนนั้นรีบมีลูกเลยได้มา 1 คน  หลังจากนั้นพอปล่อย ผ่านมา 5 ปีแล้วก็ไม่มี   แล้วปวดปจด.มากๆๆๆๆๆปวดร้าวไปทางรูทวารด้วยเพราะพังผืดมันลามไปเกาะลำไส้ใหญ่    ตอนนี้เราผ่าตัดจี้ช็อคซีสต์  เลาะพังผืด   เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผ่านมา 3 เดือนแล้วยังไม่ท้องเลยค่ะ   แต่เดือนนี้กำลังลุ้นอยู่ค่ะ   หมอบอกให้เลี่ยงเนื้อไก่ค่ะ    ปีใหม่แล้วขอให้ทุกคนโชคดีไม่เป็นโรคนี้น่ะค่ะ   ประกันบางที่ไม่รักษาโรคนี้เลยค่ะ   รักษาไม่หายขาดนอกจากจะตัดทิ้งอย่างเดียว จากคุณ : อาเดียร์ - [ 2 ม.ค. 50 19:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนแรกนึกว่าเป็นแบบ ชอบช็อคโกแลต กับชีสมาก พอเข้ามาดูซีดเลยครับ จากคุณ : crayfish - [ 2 ม.ค. 50 22:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณที่หาข้อมูลมาแชร์กันนะคะ หนึ่งโหวตค่ะ จากคุณ : ...hamster... - [ 3 ม.ค. 50 01:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 46: ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โชคดีที่คุณมีบุตรได้แล้วหนึ่งคนและขอให้มีบุตรได้อีกคนนะคะ   ความคิดเห็นที่ 41, 47 : เห็นชื่อแล้วนึกถึงของกินเหมือนกันค่ะ ความคิดเห็นที่  43, 48 : ด้วยความยินดีค่ะ ต้องขอบคุณทุกเว็ปและบุคคลผู้ให้ข้อมูลทุกท่าน ถ้าจะเป็นประโยชน์กับผู้หญิงเพราะสามารถป้องกันได้พอควร เช่น ไม่ควรมีเพศสัมพันธุ์ขณะทีรอบเดือน ไม่เครียด ดูแลร่างกายให้แข็งแรง ถ้ามีอาการปวดท้องตอนเป็นรอบเดือนมาก ควรจะไปตรวจอุลตร้าซาวต์ในกรณีที่เป็นรอบเดือนมาหลายปีแต่ยังปวดเพิ่มขึ้น จากคุณ : law of nature - [ 3 ม.ค. 50 01:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสําหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ ปล ดูรุปแล้วน่ากลัวจัง จากคุณ : วิสกี้โซดา - [ 3 ม.ค. 50 09:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาให้ความรู้ดีๆ จ้า หนึ่งโหวต จากคุณ : หนูหลอด(*__*) - [ 3 ม.ค. 50 09:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นอยู่เหมือนกัน ไปผ่าเรียบร้อยแว แต่ก้อต้องกินยาต่อ เพื่อคุมโรคเอาไว้ ม่ายง้านเป็นอีกได้ เซ็งจิงๆ หนับหนุนข้อมูลเลยจ้า ตรงมากๆ เพราะเก๋ก้อเป็นที่รังไข่ มีประจำเดือนที 7 วันขึ้น จากคุณ : supergaye (supergaye) - [ 3 ม.ค. 50 10:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เคยส่องกล้องเลาะมารอบนึงละ ได้วีดีโอมาดูม้วนนึง วิธีการสยองใช้ได้เลย แบบว่าคุณหมอเค้าก็คีบๆเครื่องในของเราขึ้นมา แล้วใช้ไฟฟ้าจี้ๆพวกพังผืดออกไป มีผลต่อการมีบุตรยากแน่ๆสำหรับเรา ทำ IVF มาสี่ครั้งแล้วอ่ะ เฮ้อ.....เซ็ง จากคุณ : เด็กเอบวก - [ 3 ม.ค. 50 11:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เราก็ปวดประจำเดือนทุกเดือนเหมือนกันค่ะ เคยคิดจะไปตรวจ แต่ลองคุยกับหมอแล้ว หมอบอกว่า อาการเราไม่น่าใช่ ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ก็ยะงระวังตัวอยู่เลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า จากคุณ : i am tabo - [ 3 ม.ค. 50 12:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับความรู้นะค่ะ กระทู้ดีๆอย่างนี้โหวตโลด จากคุณ : Akane:-) - [ 3 ม.ค. 50 14:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากเลยนะคะ ปล* โหวตให้ค่ะ จากคุณ : a r i t s u m e m o o n - [ 3 ม.ค. 50 18:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณจ้า จากคุณ : bubblebaba - [ 4 ม.ค. 50 13:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 58 @ ความคิดเห็น 50 51 ยินดีค่ะที่แวะเข้ามาอ่านด้วยกัน @ ความคิดเห็นที่ 52 คงต้องเฝ้าระวังแต่ขอให้คุณไม่เป็นอีกนะคะ ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสยการณ์ค่ะ @ความคิดเห็นที่ 53 การมีบุตรลองปรึกษาคุณหมอ อาจยังพอมีหวังค่ะ @ ความคิดเห็นที่ 54, 55, 56, 57 ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ จากคุณ : law of nature - [ 4 ม.ค. 50 22:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ดิฉันตรวจเมื่อ ก.ค.49 ว่าเป็นแต่ยังไม่ได้ผ่าเพราะคุณหมอบอกว่าไม่อยากให้ผ่าให้ฉีดยาคุมรักษาดูก่อนและก็ใกล้วัยหมดประจำเดือนแล้วด้วยค่ะจึงไม่อยากผ่าให้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆคุณหมอจะยังไม่ผ่าให้เพราะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกช่วงนี้ดิฉันจึงพยายามหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และพยายามรักษาสุขภาพออกกำลังกายอย่ค่ะ จากคุณ : แม่น้องเหมียว (แม่น้องเหมียว) - [ 5 ม.ค. 50 11:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เราคนหนึ่งเคยตรวจเจอ ซีสนะ ขนาด แปด ซม เมือต้นปีที่แล้วนะ แล้วพอหมอ บอกว่าลองกินยาคุมกำเนิดเพื่อจะยุบ ลงกินไปได้ หนึ่งเดือน ไปตรวจอีกรอบ ก็เล้กลงจริงๆ เหลือ สี่ ซม แล้วเราก้อกินมาเรื่อยๆ จน กลางปีไปตรวจอีกรอบ แต่ที่ประเทศเดนมาร์ค หมอบอกว่ามันหายไปแล้วเรายังไม่นิ่งนอนใจนะ เพราะเราปวดท้องประจำเดือนทุกเดือนแล้วเราลองสังกตุ มันก้อข้างเดียวที่เรามีซีส นั้นหละ เราจะไปตรวจอีกรอบเพื่อความรอบครอบ เราไม่อยากผ่าตัดแบบเอา รังไข่ไปทั้งยวง อะ อยากมีลูกก่อน จากคุณ : takom - [ 5 ม.ค. 50 16:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณ จขกท มากๆครับ ได้ความรู้เหมือนกัน จากคุณ : supercc - [ 5 ม.ค. 50 16:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 62 พึ่งอายุ 20 ต้นๆเองค่ะ แต่มี 2 ถุงเลย อยู่ข้างซ้ายกับข้างขวา ช่วง 1-2 ปีที่แล้ว ปวดมาก ทรมานสุดๆ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ออกกำลังกายเยอะๆ โดยเฉพาะโยคะ เวลาปวดช่วยได้มากเลยค่ะ แล้วก็กินยาจีนที่เป็นยาบำรุงมดลูก ตอนนี้ไม่ค่อยปวดแล้วค่ะ แต่ก็ต้องกินยาบำรุงไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่ให้กลับมาปวดอีก แต่มันก็ไม่หายขาดซักที เฮ้อออ จากคุณ : อินเทรนด์นะเนี่ย - [ 5 ม.ค. 50 20:37:40 A:58.9.170.216 X: TicketID:084748 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าคนที่ปวดท้องประจำเดือนจะเสี่ยงใช่ไหมคะ แล้วคนที่ไม่ปวดท้องล่ะคะ เสี่ยงมากไหม   คือปกติเป็นคนไม่ค่อยปวดท้องอ่ะค่ะ  จะเป็นไมเกรนแทน  น่ากลัวอยู่เหมือนกัน จากคุณ : ตัวเล็กแต่กินจุ - [ 5 ม.ค. 50 23:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ได้ความรู้มากเลย อ่านเเล้วนึกถึงน้องของตัวเอง...ปวดท้องเวลามีประจำเดือนเกือบทุกครั้งเลย บางทีเดือนนึงมีรอบเดือน 2 ครั้ง แต่ที่บ้าน ญาติๆไม่มีใครเป็น...... จะให้ไปตรวจก็ลำบากเพราะเรียนอยู่ออสเตรเลีย จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 6 ม.ค. 50 01:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 @ ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณที่มาแชร์ข้อมูล เห็นด้วยค่ะ ว่าสามารถเป็นได้อีก และคุณหมอก็ให้เหตุผลไว้ดีมากค่ะ @ความคิดเห็นที่ 60 ควรติดตามผลการตรวจเรื่อยๆ อยากให้มีลูกจะได้ไม่มีรอบเดือน และถ้าขนาดซีสไม่มีปัญหาควรจะรีบมีบุตรนะคะ @ ความคิดเห็นที่ 61 ยินดีค่ัะ @ ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยทั้งหมดที่คุณเขียนนะคะ โยคะ ออกกำลังกาย ดูแลเรื่ิองอาหาร ไม่เครียด ช่วยได้เยอะค่ะ ส่วนสมุนไพรเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ควรทานจากร้านหรือหมอจีนที่น่าเชื่อถือเท่านั้นค่ะ @ ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าไม่ปวดท้องขณะเป็นประจำเดือน โอกาสน้ิอยมากที่จะเป็นโรคนี้ เพราะถ้าประจำเดือนไหลย้อนกลับทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้ปวดท้อง และถ้าเป้นซีสหรือผังผืดเกิดขึ้น อาการปวดจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณไม่ปวดท้องรอบเดือน โอกาสจึงเกิดโรคนี้ต่ำค่ะ @ ความคิดเห็นที่ 64 ถ้ากลับมาแล้วค่อยตรวจก็ได้ค่ะ หรือติดต่อขอตรวจที่นั่นได้แต่ก็คิดว่าอยากพอควร เรื่องการตรวจถ้าไม่ปวดท้องและอาการหนักจริงๆ จะไม่ค่อยตรวจให้ค่ะ จากคุณ : law of nature (law of nature) - [ 6 ม.ค. 50 04:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นโรคนี้เมื่อตอนอายุ19 ตอนนี้เกือบจะ22แล้ว ยังต้องไปหาหมอสม่ำเสมอ ทานฮอร์โมนตลอด ตอนนั้นที่ทราบเป็นเพราะว่าปวดท้องมากๆ ไปโรงพยาบาลปรากฏว่า ซีสต์แตก ต้องผ่าตัดด่วน ซีสต์มีขนาด 10ซม. และได้กินรังไข่ไปข้างนึง จึงจำเป็นต้องตัดออก ตอนนี้พยายามเตือนเพื่อนๆทุกคนให้หมั่นไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มเติมข้อความค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 50 10:03:22 จากคุณ : Piga_Pooh - [ 7 ม.ค. 50 10:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณสําหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ โหวดค่ะ จากคุณ : กล่องทิชชู่ - [ 8 ม.ค. 50 00:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 @ ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วยค่ะ ว่าถ้าปวดท้องมากๆ มีปัจจัยเสี่ยงควรตรวจค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่เข้ามาแชร์ค่ะ @ ความคิดเห็นที่ 67 ยินดีค่ะ .... จากคุณ : law of nature - [ 9 ม.ค. 50 03:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เราเป็น"ถุงน้ำที่รังไข่" Ovarian cyst ค่ะ เราไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการมีประจำเดือนเลย ปกติมาทุกเดือน ปวดท้องแค่วันแรกที่ประจำเดือนมา ไม่เคยกินยาคุมหรือว่าฮอร์โมนเลย อาการคือปวดท้องน้อยด้านซ้ายค่ะ ปวดเหมือนตอนเป็นประจำเดือน เวลาปวดจะนอนราบ หรือยืนตรงๆไม่ได้ ถ้านั่งจะสบายกว่า พอไปตรวจอัลตราซาวน์ถึงรู้ว่ามีถุงน้ำขนาด 10 x 5 cm ที่ช่องท้องด้านซ้าย ก็ถือว่าใหญ่เหมือนกันนะคะ นี่ก็เพิ่งผ่าตัดเอาออกไปเมื่อช่วงปีใหม่เอง เพราะเราปวดท้องมากๆ อยากให้สาวๆสังเกตุตัวเอง ถ้ามีอาการปวดผิดปกติให้ไปเช็คสุขภาพบ้าง เราไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเป็น อายุก็ 25 กลัวมีลูกไม่ได้จังค่ะ เพราะต้องตัดรังไข่ไปข้างนึง กลัวจะเป็นอีกข้างจัง ต้องรักษาสุขภาพนะคะ จากคุณ : มุบมิบจัง - [ 9 ม.ค. 50 16:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เราไม่เคยปวดประจำเดือนเลยนะคะ ถึงปวดนิดหน่อยก็ไม่เคยถึงขนาดที่ต้องทานยา แต่เราก็เป็นพังผืดค่ะ ที่ส่องกล้องออกไปเป็นระยะสองด้วย จากคุณ : เด็กเอบวก - [ 10 ม.ค. 50 03:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สืบเนื่องจากความคิดเห็นที่ 70  ค่ะ เอ่อ  เราก็ไม่ปวดเลยเหมือนกันน่ะคะ  ต้องไปตรวจหรือปล่าวนี่ แล้วจะรู้อาการเบื้องต้นได้ยังไงคะถ้าไม่ปวดประจำเดือน อืมๆ  ยังงั้นบำรุงมดลูกโดยการกินยาสตรีแบบหมอมีหรือเบนโล เพื่อช่วยในการขับเลือดจะดีมั้ยคะ  หรือจะกินยาคุมดีคะ เราอายุ  22  ค่ะ  ควรจะเริ่มตรวจภายในรึยังอ่ะคะ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 50 14:36:44 จากคุณ : หวั่นๆอยู่เหมือนกัน (ออราเล่) - [ 10 ม.ค. 50 14:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 72 . แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 50 15:04:49 จากคุณ : น้องต๋าว - [ 10 ม.ค. 50 15:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ ก็ไม่ถึงขนาดต้องตรวจภายในหรอกค่ะ ยิ่งเป็นสาวๆอยู่อายุน้อยๆ เค้าก็มักจะเลี่ยงไม่ตรวจค่ะ ส่วนจะไปตรวจเมื่อไหร่นั้น ก็ให้สังเกตุตัวเองค่ะ ถ้ามีอะไรที่ไม่ปกติ เช่น ปวดท้องน้อยทั้งๆที่ไม่มีประจำเดือนบ่อยๆ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด หรือคลำเจอก้อนบริเวณท้องน้อย ก็ให้รีบไปปรึกษาแพทย์นะคะ เรามันเป็นพวกไปหาหมอยากไงคะ คิดว่าตัวเองแข็งแรง พอเป็นไรก็กินยาเอา พอรู้ว่าเป็นอีกทีเลยเป็นเยอะแล้ว อยากให้เพื่อนๆสังเกตุอาการตัวเองบ่อยๆนะคะ จากคุณ : มุบมิบจัง - [ 10 ม.ค. 50 16:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยกับคุณ : มุบมิบจัง อายุน้อย ...ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์... ไม่ปวดท้องมากขณะมีรอบเืดือนหรือไม่มีอาการผิดปกติอย่างอื่น... ไม่ควรตรวจภายใน ถ้าสงสัยอยากตวรจอาจแ่ค่ Ultrasound ภายนอกก็ได้่่ค่ะึ จากคุณ : law of nature - [ 10 ม.ค. 50 18:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนแรกที่อ่านเจอ รู้สึกจะในหนังสือพิมพ์นะ แล้วประกอบกับเราปวดท้องเวลามีประจำเดือนบ่อยมาก แรกๆ ก็คิดว่าคงเป็นเพราะระดับฮอโมนปรกติ หลัง ๆเข้าเริ่มปวดทุกเดือน จนต้องไปหาหมอ ก็ปรึกษาหมอเกี่ยวกับชอคโกแลตซีสต์นี่เหมือนกัน หมอไม่ค่อยได้อธิบายมากมายนัก เพียงแต่แค่บอกว่า เราไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสเป็น ตอนนั้น ยังนึกโมโหหมออยู่เลย ว่าทำไมไม่อธิบายซักนิด แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ เลยรู้เลยจ้ะ ว่าไมได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจริงๆ TKS นะจ๊ะ จากคุณ : ป้าแมงฯ - [ 11 ม.ค. 50 07:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คุณแม่ก็เป็นค่ะ ตัดมดลูกทิ้งเลย ทรุดอยู่หลายปีทีเดียว นี่ก็เสี่ยงที่ตัวเองจะเป็นอยู่ รึเปล่าเพราะโอกาสก็เยอะ แต่ก็ไม่มีอาการปวดท้องน้อยเพราะไม่มีประจำเดือน =_=" เคยไปรักษาแต่หมอว่าฮอร์โมนไม่ครบ ให้กินฮอร์โมนกระตุ้นก็แรงไป หมอเลยบอกว่าไว้แต่งงานแล้วอยากมีลูกค่อยมาใหม่แล้วกัน เหอๆ จากคุณ : บางเวลา - [ 11 ม.ค. 50 09:51:22 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ได้ความรู้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ  1  โหวตค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : ออราเล่ - [ 11 ม.ค. 50 10:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 78 จาก #70 ที่เราทราบว่าเราเป็นพังผืดขั้นที่สองเพราะเราผ่าตัดส่องกล้องค่ะ ที่ต้องทำก็เพราะว่าเป็นข้อวินิจฉัยของแพทย์ที่รักษา เพราะว่าเราแต่งงานมาสามปีแล้วก็ไม่สามารถตั้งครรภ์เองตามธรรมชาติได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีอาการอะไรที่บ่งบอกเลยค่ะว่าร่างกายมีความผิดปกติ แพทย์บอกว่าพังผืดที่เป็นจะสร้างฮอร์โมนบางอย่างไปทำให้ไข่ของเราคุณภาพลดลง เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้มีบุตรยากค่ะ จากคุณ : เด็กเอบวก - [ 11 ม.ค. 50 11:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ต่อจาก คห.46 น่ะค่ะ  ตอนนี้เดียร์ท้องแล้วค่ะ  ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงจะต้องเสียเงิน    เสียเวลา   แถมด้วยเจ็บตัวอีกแน่ๆเพราะหมอที่รักษาบอกว่ามีลูกยากมากๆ   แผนต่อไปคือกินยากระตุ้นไข่ตก   แต่เราก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย   นอกจากวิธีธรรมชาติ    จึงแจ้งข่าวว่าถ้าเป็นโรคนี้เราก็ยังพอมีหวังที่จะมีลูกได้น่ะค่ะ   ขอให้คนที่เป็นแล้วรักษาด้วยวิธีผ่าตัดแบบนี้โชคดีเหมือนเราน่ะค่ะ จากคุณ : อาเดียร์ - [ 11 ม.ค. 50 15:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เราก็เพิ่งไปส่องกล้องเลาะออกมาเมื่อวันจันทร์นี้เอง ได้มาสองรู มันร้ายกาจมากบังอาจเชื่อมมดลูกเรากับลำไส้ให้ใกล้ชิดติดกันเชียว ถึงว่าปวดท้องมากๆเวลาขับถ่าย ยิ่งช่วงใกล้ ปจด จะมาโหย แทบตายน๊ะ หมอใจดีเลาะออกให้แล้วและเร่งให้รีบไปมีลูกซะให้พอใจ จากนั้นในภายภาคหน้าหมอแนะนำให้หยุดมี ปจด.ไปเลย หรือตัดมดลูกทิ้ง เพราะมันจะมาอีก เศร้า จากคุณ : babilonny - [ 11 ม.ค. 50 17:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 81 @ คุณ : ป้าแมงฯ ยินดีด้วยค่ะ ที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง @ คุณ : บางเวลา ขอให้ดูแลตัวเองนิดนะคะ เพราะถ้าไม่ค่อยมีประจำเดือนต้องรักษาสุขภาพและทำตามคำแนะนำของหมอค่ะ น้องคนหนึ่งก็ไม่เป็นรอบเดือนเหมือนกัน อายุมากพอควรแต่มีรอบเดือนปีละครั้งค่ะ แต่ยังไม่มีอาการของโรคนี้นะคะ @ คุณ : ออราเล่ ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ @ คุณ : เด็กเอบวก ขอบคุณที่แวะมาให้รายละเอียดเพิ่มค่ะ  สามปีไม่มีบุตรหลังจากพยายามแล้วจึงจัดในกลุ่มเสี่ยงค่ะ แต่คุณก็เจอเร็วเพราะ เพื่อนเรากว่าจะเจอผังผืด ก็ต้องเอามดลูกออกด้วย @ คุณ : อาเดียร์ ดีใจจัง มาช่วยให้ข้อมูลเพิ่มค่ะ ขอบคุณค่ะ @ คุณ : babilonny เล่าได้เห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ร่วมกันค่ะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ จากคุณ : law of nature - [ 13 ม.ค. 50 06:18:39 ]