ความคิดเห็นที่ 1 ในความคิดเห็นนะค่ะ ต้องคุยกันค่ะ ถ้าคิดจะอยู่ด้วยกันมันต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ข้อตกลงที่ทำได้คือ พบกันคนละครึ่งทาง อย่าเสียความเป็นตัวเองไปค่ะ ไม่รู้จะช่วยได้บ้างหรือป่าวนะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Angelina Jolie - [ 12 ม.ค. 50 15:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของเราไม่ขนาดคุณยังแทบจะไม่ไหวเลยอ่ะ บ้านแฟนเราอยู่ตจว. เราอยู่กรุงเทพมาตั้งแต่เด็กจนเรียกว่าเป็นคนกรุงเทพไปแล้ว ตอนแรกๆ คบกันเค้าก็บอกว่า เนี่ยเดี๋ยวแต่งงานจะปลูกบ้านใหม่ จะเอาแบบไหนบอกมาเลยนะ เอาสระว่ายน้ำมั๊ย บลาๆๆ แต่พอคบกันนานๆ เข้า เริ่มบอกว่า คงแยกบ้านไม่ได้หรอก พ่อแม่เค้าแก่แล้ว ต้องอยู่ดูแล เป็นห่วง บลาๆๆ กว่าจะแต่งกันได้ ทะเลาะกันตั้งหลายครั้ง เรื่องต้องมาอยู่บ้านเค้านี่แหละ แต่สุดท้ายก็ตกลงแต่งงานกัน เพราะคิดว่าไม่เป็นไร...เรารักกัน ตอนนี้เรามีปัญหานะ ต้องตื่นแต่เช้า ทั้งๆ ที่เราเป็นคนนอนตื่นสาย เพราะเราทำงาน freelance ต้องปอกผลไม้ให้พ่อแม่เค้ากินเช้ากลางวันเย็น ต้องกินข้าวเย็นกับพ่อแม่เค้าที่บ้าน ต้องนั่งคุย ซื้อของเข้าบ้านต้องไปช่วยถือ อยู่นอกบ้านถ้าพ่อแม่โทรมาตามต้องรีบแจ้นกลับบ้าน บลาๆๆ แฟนเราบอกว่าเนี่ยแม่เค้าลดมาตรฐานลูกสะไภ้ลงไปเยอะแล้วนะ ตอนแรกเค้าเคยบอกว่าลูกสะไภ้เค้าต้องตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าว ทำโน่นทำนี่ ต้องย้ายมาอยู่ตจว. ถาวร ชอโบวก...ว่าแม่เค้านะจู้จี้ เรื่องมากไม่มีใครเกิน แต่เราไม่ทำหรอก เพราะแฟนเราก็ไม่ได้บังคับไม่ได้อะไร เค้าเข้าใจเรามากเลย เนี่ยยังจะให้เราไปหาหมอปรึกษาเรื่องมีลูกด้วยนะ ไม่ถามเราซักคำว่าเราอยากมีรึเปล่า เฮ้อ เบื่อ คือเรายังไม่มีความสุขกับชีวิตคู่เต็มที่เลยอ่ะ ตอนนี้มันเหมือนชีวิตหมู่มากกว่า ถ้ามีลูกเรามิต้องติดคุกอยู่ที่นี่เลยเหรอ แต่ท่าทางคุณจะมีความอดทนมากกว่าเรานะ ข้อตกลงที่ว่ามาเป็นสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะขอก่อนแต่งงาน แต่เราพลาดไปเอง ข้อตกลงแรกเลย ขอบ้านค่ะ บ้านของคุณ 2 คนน่ะ จะได้เป็นส่วนตัว อยู่บ้านเค้ามันก็อึดอัด เข้าใจมั๊ยคะ แต่ถ้าคุณอยู่ได้ก็โอเคนะ แล้วแต่อ่ะ ตอนคุณไม่อยู่พวกเค้าซักผ้ากันยังไงอ่ะ แล้วพี่น้องเค้าไม่มีมือเหรอ นี่มันสมัยไหนแล้ว ลูกสะไภ้ไม่ใช่ขี้ข้านะคะ อย่าคิดว่าไม่เป็นไรๆ ถ้าปรับตัวไม่ได้ แต่งไปแล้วจะมีปัญหาแล้วคุณจะเสียใจเหมือนเรา อยากได้อะไรบอกเลย ไม่ต้องกลัว เรานะก่อนแต่งไม่กล้าพูดอะไร เกรงใจเค้า เพราะแฟนเราเป็นคนดีมากๆๆๆ ตอนนี้เหรอ เราพูดจาแรงมากขึ้นเยอะเลยอ่ะ จนเค้าบอกว่าเราเปลี่ยนไป (ก็เปลี่ยนเพราะพ่อแม่แกแหละ) ไม่ว่าคุณจะมีข้อตกลงอะไร คิดให้รัดกุม ขอให้หมด ไม่ต้องเหนียม แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 50 15:32:32 จากคุณ : hiphopchic (hiphopchic) - [ 12 ม.ค. 50 15:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าคุณไม่ขี้เกียจหรอกค่ะ ... เราว่าทำเท่าที่จะทำได้ดีกว่า งานนอกบ้านก็ต้องทำ แล้วยังจะงานในบ้านอีก ... หนักเกินไปค่ะ ถ้าเฉพาะคุณกับแฟนก็ยังโอเค พอไหว แต่นี่ต้องทำให้ทุกคนในบ้านเลยเนี่ย ไม่ไหวค่ะ น้องเค้าไม่มีมือทำเองเลยเหรอคะ คุณแต่งงานกับเค้า เพื่อเข้าไปเป็นสะใภ้ ไม่ใช่คนใช้นะคะ ... คิดดูดีๆ หรือไม่ก็เสนอแฟนคุณไปเลย ว่าให้จ้างแม่บ้านไว้ทำงานบ้าน ยอมจ่ายเงินนิดหน่อยดีกว่าค่ะ เราว่านะ ... ลองปรึกษากันดูค่ะ จากคุณ : สีชอล์ก - [ 12 ม.ค. 50 15:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณต้องซักผ้ารีดผ้าให้กับทุกคนในบ้าน! ขอโทษเถอะ บ้าหรือเปล่าคะ นี่มันยุคไหนแล้ว แค่คุณทำในส่วนของคุณกับสามีก็พอแล้ว ถ้าต้องทำให้ทุกคนก็ไม่ต่างอะไรกับแจ๋วแล้วหล่ะ แบบนี้เหมือนแต่งคุณเข้ามาเป็นคนรับใช้มากกว่านะ จากคุณ : Loveable - [ 12 ม.ค. 50 15:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณขา....แต่งงานเข้าไปเป็น "สะใภ้" ไม่ใช่ "คนรับใช้" นะคะ ถ้าเค้าจะให้คุณทำงานบ้าน...เค้าต้องหาเลี้ยงคุณทั้งหมดให้กินดีอยู่ดีค่ะ...(แต่คิดดีๆนะคะ...คนเคยทำงาน...จะให้ไปอยู่บ้านทำงานบ้าน...มันก็ไม่ใช่วิสัย มันดูใช้ชีวิตอย่างคุณค่าไปรึเปล่า?) ฮู้ย....อ่านแล้วลมขึ้นค่ะ...เรื่องแต่งงานเอาลูกสะใภ้เข้าบ้านไปเป็นคนรับใช้เนี่ยะ...รับไม่ได้จริงๆ เค้าเคยทำกันยังไงก็ให้เค้าทำกันแบบนั้นต่อไปสิคะ ทำยังกับว่าเอาเราเข้าบ้านไปรองมือรองเท้าเค้ายังงั้นแหละ จากคุณ : อย่ายอมค่ะ - [ 12 ม.ค. 50 15:34:28 A:203.98.70.42 X: TicketID:125685 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับความเห็นของคุณ  Loveable ค่ะ เราว่ามันไม่ควรนะคะ ไหนงานนอกบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้วกลับไปทำอีกแทนที่จะได้พักผ่อน ทำในส่วนที่คิดว่าทำได้นะคะ แล้วลองคุยกับแฟนคุณดู เพราะในความคิดเรา เราว่ามันหนักไปค่ะสำหรับคนที่ต้องทำงานนอกบ้านด้วย จากคุณ : หมีดำ&หมีขาว - [ 12 ม.ค. 50 15:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ ไม่ใช่ขี้ข้าใครนะคะ คิดดูดีดี แต่ถ้าเป็นเรา เราจะไม่ทำให้ใคร ยกเว้นของสามี เคยทำอย่างงัย ก็จงทำกันต่อไป ไม่ใช่คนรับใช้ อยากจะเตือนสักนิดคือ คุณแต่งไปอยู่บ้านเค้า นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งนะ ยังเตรียมจะใช้งานคุณขนาดนี้ ถ้าเกิดทะเลาะกันขึ้นมา คุณจะไม่เป็นหัวเดียวกระเทียมลีบในบ้านเหรอค่ะ รักแฟนก็รักนะ แต่ต้องรักตัวเองมากที่สุด จากคุณ : Scooterella - [ 12 ม.ค. 50 15:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหว บ้าไปแล้วอ่ะ ยุคนี้ แค่บ้านเราคุณฝาชียังต้องช่วยเลยค่า.......ไม่งั้นชั้นก็ไม่ทำ 50-50 ผู้หญิงไม่ใช่คนใช้ ท่องไว้ๆ ไม่งั้นคุณก็ต้องทำไปตลอดชีวิตอ่ะถ้ายอมตั้งแต่แรก จากคุณ : Jeban - [ 12 ม.ค. 50 15:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยังไม่จบค่ะ คุณต้องเด็ดขาดตั้งแต่แรกนะคะ....ถ้าเข้าไปทำให้เค้าแล้ว...มันเลิกไม่ได้...เป็นเรื่องแน่ๆ เดี๋ยวจะมีปัญหามาว่าคุณอิดออดอะไรอีก...ไม่ได้ว่างั้นงี๊...บ้านแฟนคุณในด้านลบแบบนั้นนะคะ...แต่ถ้าเริ่มแล้วมันเลิกยาก...เพราะฉนั้นอย่าไปเริ่มค่ะ คุยกับแฟนคุณให้รู้เรื่องค่ะ ไม่ใช่ว่าคนหัวเก่าอะไรนะ....ยกตัวอย่าง รุ่นพ่อกะแม่เรา อายุ 50กว่าแล้ว....เค้ายังไม่โยนภาระให้ผู้หญิงแบบนี้เลย ทำงานด้วยกันทั้งคู่ เค้าก็ดูแลเรื่องในบ้านแบ่งๆกันไป เสื้อผ้าของแม่ เค้าหวงเค้ารีดเอง...เสื้อผ้าพ่อ เอาไปจ้างซักรีด...แม่ดูแลเรื่องความสะอาดบ้าน...แต่พ่อเป็นคน จ่ายตลาดและทำกับข้าว ยังไม่มีประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องนี้เองนะคะ...เลยได้แต่ยกเรื่องคุณพ่อกับคุณแม่มาประกอบ.... แต่ถึงคราวเรา ก็คงไม่ยอมอ้ะ จากคุณ : อย่ายอมค่ะ(ภาคต่อ) - [ 12 ม.ค. 50 15:47:48 A:203.98.70.42 X: TicketID:125685 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ ขนาดนั้นเลยเหรอ เป็นเราเราจะบอกไปเลยว่า คงทำไม่ได้หรอก เราจะทำให้สามีเราคนเดียว คนอื่นเราไม่ทำเด็ดขาด ไม่ใช่ขี้ข้านี่นา อ่านแล้วลมขึ้นด้วยคน จากคุณ : ลิลลี่(•ิ_•ิ) - [ 12 ม.ค. 50 15:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ อย่าไปทำนะคะ ที่ถูกคุณทำให้ว่าที่สามีกับตัวเองพอ ห้องหับที่หลับที่นอนก็ทำแต่ห้องเรา เดาได้เลยอีกหน่อยเค้าคงให้คุณถูบ้านล้างส้วมวันหยุดด้วยเป็นแน่ บอกเลยค่ะว่าไม่มีเวลาย่ะ ถ้าให้ทำก็ทำของส่วนตัวเท่านั้น แต่จะช่วยบ้างเป็นบางทีถ้าว่างก็จะทำให้บ้างเท่านั้น ก็พูดไปงั้นแต่จริงๆ ก็ไม่ต้องไปยุ่งส่วนของเค้าหรอกค่ะ งานหน้าที่แบบคุณนี่ถ้าหากว่าออกเวรเช้ามืดนี่ไม่ต้องกลับมาซักผ้าต่อหรือ แทนที่จะได้นอน ทำไม่ได้หรอกค่ะแบบนั้น จากคุณ : Cobie - [ 12 ม.ค. 50 15:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่งงานเข้าบ้านทรายทองหรือเป่าคะเนี๊ย... ?? แต่งเมียนะคะ ไม่ใช่ นางทาส..ทำงานนอกบ้านแล้วยังต้องมารับใช้คนในบ้านอีก..มากไปหน่อยคะ.. จากคุณ : Phychexxx - [ 12 ม.ค. 50 16:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โหคุณคะดิฉันคิดว่ากำลังดูละครหลังข่าวซะอีก เป็นเมียนะคะไม่ใช่คนใช้ ต้องทำให้ทุกอย่างทุกคนในครอบครัวอะ คุณคิดว่าคูณทำได้รึเปล่าล่ะคะ และคุณยอมได้มั้ยถ้าเกิดว่าคุณต้องทำแบบนี้ไปตลอด ถ้าหากว่าคุณทำไม่ได้ก็รีบบอกเค้าไปเถอะค่ะ เสนอข้อตกลงกันไม่งั้นคุณจะไม่มีโอกาสได้เสนอในครั้งต่อไปนะต้องทำไปตลอดอะ อย่างที่คุณซันบอกแหละค่ะถ้าช่วยเป็นครั้งคราวอะได้ แต่ถ้าให้ทำตลอดคงไม่ไหวหรอกค่ะ แต่ทั้งหมดที่ทุกคนพูดมามันก็ขึ้นอยู่ที่คุณแหละว่าจะยอมตกลงตามที่เค้าเสนอรึเปล่า จากคุณ : ไผ่ไร้กอ - [ 12 ม.ค. 50 16:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าเป็นเราจะซักให้เฉพาะ สามี + พ่อแม่สามี (ถือว่าหยวนๆ เค้าแก่แล้ว) แต่คนอื่นไม่ทำเด็ดขาด  เนื่องจากเค้าใส่ก็ต้องดูแลของตัวเองสิ   อย่างบ้านเรานะ  แม่เราจะซักผ้าให้ทุกคน (ใช้เครื่อง)  ทีนี้น้องชายเราแต่งงานเอาสะใภ้เข้าบ้าน เค้าก็น่าจะซักให้น้องเรา (สามีเค้า) ใช่ป่าว  แต่แม่เราใจดีมาก  บอกว่าเค้าทำงานนอกบ้าน แม่ทำให้เอง 555  ดูดิแม่ฉานนน   น้องสะใภ้เลยสบายเลย  อิอิ... จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 12 ม.ค. 50 16:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกะทู๊กความเห็น...อ่านไปอ่านมาเจอของป้าจีน อ้าววว...ป้าจีนแต่งงานแย้วหรอค๊า!!! จากคุณ : *~น.ส.ชบา หน้าร้อน~* - [ 12 ม.ค. 50 16:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหลูกสะใภ้หรือว่าคนรับใช้เนี่ย จากคุณ : YaiJomZon - [ 12 ม.ค. 50 16:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับทุก ความเห็นเลยค่ะ แต่งลูกสะใภ้เข้าบ้านนะคะ ไม่ใช่จ้างคนใช้ใหม่เข้าบ้าน เราว่าควรจะคุยกับแฟนอย่างด่วนเลยค่ะ ถ้าเค้ายังยืนกรานจะให้เราทำแบบนั้น ก็เสนอเค้าว่าให้จ้างลูกจ้างคนนึงมาทำหน้าที่นี้แทน เพราะตัวเราเองก็ทำงานนอกบ้าน   ไม่ใช่ว่าเราขี้เกียจ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งทำเอง ถ้าเค้าไม่ยอมให้จ้างลูกจ้าง  ยังอยากจะให้เราทำเอง อย่างนี้ก็คงต้องคุยกันนานหน่อยน่ะค่ะ จากคุณ : จอมโจรข้าวกล่อง - [ 12 ม.ค. 50 17:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกะทุกคนค่ะ ถ้าแต่งไปแล้วต้องลำบากยังงี้สู้อยู่คนเดียวดีกว่า จากคุณ : Do-Wah-Diddy - [ 12 ม.ค. 50 17:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ^^ ^^ โดนใจค่ะ บางครั้งยังรู้สึกเลยว่า ถ้าแต่งแล้วเหนื่อยกรูอยู่คนเดียวดีฟ่า ฉนั้น เมื่อรู้สึกแย่ สามีต้องชดเชยตรงอื่นให้ด่วน เลยทำให้ยังอยู่ได้   ป้าจีนเมื่อไรมีน้องค่ะ จากคุณ : @คนบ้านไหน@ - [ 12 ม.ค. 50 17:38:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท น่าจะตัดสินใจได้พอสมควรแล้วนะคะเนี่ย .. อย่างที่หลาย ๆ คนบอกค่ะ ... ชีวิตครอบครัว ที่ต้องสร้างใหม่ มันไม่ได้รวมคนรอบข้างเป็นกลุ่มก้อนแบบนั้นนะคะ เราไปดูแลบ้านเค้า .... แล้วบ้านเรา ใครดูแลคะ ???? ถามเค้าไปเลย แฟร์ ๆ .... แล้วพ่อ แม่ชั้น ใครจะดูแล ??? ในเมื่อ ต่างฝ่ายต่างก็มีพ่อ แม่ที่ต้องดูแล  .. แล้วตกลงกันไม่ได้   สมควรจะครึ่งทางมั้ย ... ออกมาอยุ่ด้วยกันต่างหากดีกว่า .... เชื่อเถอะค่ะ คุณแต่งเข้าไปแล้วไม่มีความสุขหรอก  ... ถ้ามันกดดันกันแต่แรกซะแบบนี้ ... จากคุณ : raccoon_n - [ 12 ม.ค. 50 17:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ้อ อีกนิดนะคะ ..... อย่าให้ความรักมาทำให้คุณตาบอดนะคะ อย่าคิดแต่เพียงว่า  ...  เรารักเค้า เราทนได้ .... อันนี้เรียกว่ากำลังเดินเข้าสู่หายนะ ด้วยตัวเองเลยนะคะ ต่อให้เค้าดีกะเราแค่ไหน แต่เรื่องแบบนี้ มันละเอียดเกินกว่าที่จะต้องเอา ญาติพี่น้องมาเกี่ยวข้องค่ะ ถ้าเค้าบอก พ่อแม่ แก่แล้วต้องดูแล  หรือ ออกอาการลูกที่ดีสุดแสน .... งั้นบอกเค้า .... อยู่ทดแทนคุณพ่อแม่ ไปอีกนาน ๆ ก่อนดีกว่ามั้ย  .... รอให้คุณมีจิตสำนึกและ รู้สึกพร้อมที่ "จะต้องรับผิดชอบ " ผู้ ญ คนหนึ่งในฐานะ " เมีย"  มากกว่านี้ ก่อนดีกว่ามั้ย ... เค้าควรต้องดูแลเราค่ะ   ไม่ใช่ยกภาระทุกอย่างมาให้เรา !! จากคุณ : raccoon_n - [ 12 ม.ค. 50 18:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ของเรานี่ บอกไอ่แฟนไว้เลยว่า งานซักผ้ารีดผ้า ไม่ทำอ่ะ ทุกวันนี้เราจ้างร้านซักรีดแถวที่ทำงาน สะอาด สะดวก ไว้ใจได้ สมัยนี้มีเยอะแยะค่ะ หาๆ ดู ราคาก็ไม่แพง ประหยัดไฟ ประหยัดแรงด้วย เอาแรงไปทำลูกดีกว่า จากคุณ : discharas - [ 12 ม.ค. 50 18:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับทุกคนค่ะ โดยเฉพาะที่คุณจีนบอกว่าถ้ายอมตั้งแต่แรก คุณก็มีแนวโน้มที่จะต้องทำตลอดไปค่ะ แรกๆอาจจะรู้สึกเหมือนทำไหว แต่อยู่ๆไปมันไม่ไหวขึ้นมาจะลำบากนะคะ ทางที่ดีคุยกันก่อนดีกว่าค่ะ แต่ส่วนตัวเราว่าถ้าขอกันยังงี้ตั้งแต่ยังไม่ทันจะแต่งเข้าบ้านเนี่ย ก็น่าหวั่นใจเหมือนกันนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : squirt - [ 12 ม.ค. 50 18:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณอยากเป็นแบบ ศรีทนด้ายยย  ในโฆษณาเปล่าครับ  !^_^  ก็จับเข่าคุยกัน (กึ่งๆ serious ไปเลยนะครับ) ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ผมว่าทำงานบ้านให้คู่ครอง กับให้บุพการีของคู่ครอง ช่วยเสริมความสัมพันธ์ของคนในครอบครับได้ไม่น้อยนะ เหมือนๆกับว่าเราเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ของคนอื่นอย่าไปทำให้ครับ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องรักกันแค่ไหน เราไม่ใช่ขี้ข้าของใคร ถ้าใครเอามาทำให้ แสดงว่าเป็นพวกไม่มีมารยาท คนอื่นๆให้ทำกันเองครับ จากคุณ : Start now - [ 12 ม.ค. 50 19:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วทุกวันนี้ใครซักผ้ารีดผ้าให้แฟนคุณ พ่อแม่พี่น้องของคุณล่ะคะ ก็ให้เค้าทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ส่วนงานบ้านแม่เค้าก้ทำทุกวันอยู่แล้ว  คุณช่วยทำแค่วันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันที่คุณม่ได้ทำงานก็พอแล้วค่ะ  อีกอย่างเสื้อผ้าที่ไหนเค้าซัก-รีดกันทุกวันคะ  อาทิตย์ละหนก็พอแล้ว คุยกันให้เคลียร์นะคะ หากเค้าไม่ยอมหรือไม่สามารถเคลียร์กับที่บ้านได้ คุณลองคิดดูดีๆ เพราะหลังแต่งงานมีปัญหาแน่นอนค่ะ เพราะเค้าจะไม่สามารถปกป้องคุณได้ และคุณก็จะไม่มีความสุขในชีวิตคู่เลยค่ะ จากคุณ : เอแคลร์ก้อนกลมโต - [ 12 ม.ค. 50 19:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แม่เราเริ่มสอนตั้งแต่เราเป็นสาวแล้วนะ บอกถ้าคบผู้ชายคนไหน แล้วเค้าจะให้แต่งเข้า แม่ไม่ยกให้เด็ดขาด ไม่ต้องคิดไปคบให้เสียเวลา แต่งกับผู้ชายคนเดียวหนิคะ ไม่แต่สมรสหมู่ อย่าไปยอมตั้งแต่แรกจะดีที่สุดค่ะ ไม่งั้นเราจะไม่มีปากมีเสียงอีกเลยนะ รักตัวเองที่สุดดีกว่า จากคุณ : creme_bouquet - [ 12 ม.ค. 50 19:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลมขึ้นเหมือนกันคะ สมัยไหนไม่สนใจนะคะ  แต่คุณจขกท ทำงานนอกบ้านด้วยนะคะ จะให้ไปซักผ้าให้ทุกคนในบ้านฝ่ายชาย  ฝันไปเถอะ นี่แต่งกับแฟน หรือแต่งกับครอบครัวแฟนคะ ลูกสะไภ้ไม่ใช่ขี้ข้านะคะ  -   บอกแฟนคุณ คุณกับทางโน้นด้วย ถ้าคุณทำมีหวังสุขภาพแย่ๆแน่ๆคะ   ไม่ใช่ร่างกายนะคะ  แต่ที่จิตใจ   ซักผ้านี่ยังพอโอเค เดี๋ยวนี้ใช้เครื่องกันเยอะแยะ แต่รีดผ้าเนี่ยสิ  โหไม่อยากจะคิด สมัยนี้ 50-50 ดีกว่าคะ   แหมผู้ชายเนอะ ให้ผู้หญิงทำให้ทั้งครอบครัว  แหมอยากจะถามกลับ มาทำให้ครอบฝ่ายหญิงทั้งครอบครัวบ้าไหม  ผลัดกัน แต่เลือกความสุขของคุณดีกว่านะคะ จากคุณ : ฟู่หยกน้อย - [ 12 ม.ค. 50 20:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โห เป็นเรา เราไม่ทำให้อะคะ ลำพังจะทำงานหาเงิน งานจะหนักหรือเบาไม่รู้ รู้แค่ว่าต้องออกจากบ้านเดินทางไปทำงานก้อเหนื่อยจะแย่แล้วคะ จะให้กลับมาทำนั่น นี้ นู้นอีก เหอะ ไม่ทำอะคะ บางทีจะทำให้ตัวเองยังไม่ค่อยมีแรงเลย นี่จะให้ไปทำให้กับคนทั้งบ้าน พอเหอะ พอกันที ไม่ทำอะคะ ยอมขึ้นคานอะคะ จากคุณ : ph'BushY - [ 12 ม.ค. 50 20:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เหอ ๆๆๆๆ อ่านแล้วจะกรี๊ดดดดดด คุยกันให้เคลียร์นะคะ เป็นเมียนะคะ ไม่ใช่ขี้ข้า รักแฟนไม่ว่า แต่ขอให้รักตัวเองก่อนนะคะ เป็นเราถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ตงไม่แต่งมันละค่ะ เหอ ๆ จากคุณ : บวบน้อย - [ 12 ม.ค. 50 20:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อีกนิด " อ้อ อีกนิดนะคะ ..... อย่าให้ความรักมาทำให้คุณตาบอดนะคะ อย่าคิดแต่เพียงว่า  ...  เรารักเค้า เราทนได้ .... อันนี้เรียกว่ากำลังเดินเข้าสู่หายนะ ด้วยตัวเองเลยนะคะ ต่อให้เค้าดีกะเราแค่ไหน แต่เรื่องแบบนี้ มันละเอียดเกินกว่าที่จะต้องเอา ญาติพี่น้องมาเกี่ยวข้องค่ะ ถ้าเค้าบอก พ่อแม่ แก่แล้วต้องดูแล  หรือ ออกอาการลูกที่ดีสุดแสน .... งั้นบอกเค้า .... อยู่ทดแทนคุณพ่อแม่ ไปอีกนาน ๆ ก่อนดีกว่ามั้ย  .... รอให้คุณมีจิตสำนึกและ รู้สึกพร้อมที่ "จะต้องรับผิดชอบ " ผู้ ญ คนหนึ่งในฐานะ " เมีย"  มากกว่านี้ ก่อนดีกว่ามั้ย ... เค้าควรต้องดูแลเราค่ะ   ไม่ใช่ยกภาระทุกอย่างมาให้เรา !! " คำพูดนี้โดนใจมาก ๆๆ จากคุณ : บวบน้อย - [ 12 ม.ค. 50 21:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ก่อนแต่งงานเราไม่ได้ตกลงอะไรกับสามีเกี่ยวกับเรื่องในบ้านของเขาเลย ก็มีคุยบ้างแต่ไม่จริงจังอะไร แต่ก่อนเราทำงานนอกบ้าน เงินเดือนดี ตำแหน่งดีมากด้วย แต่หลังแต่งงานต้องออกจากงาน อยู่บ้านเป้นแม่บ้านอย่างเดียว โชคดีที่บ้านสามีมีคนทำงานบ้าน แต่เขาก็มาช่วงเช้า งานเสร็จก็กลับ หลังจากนั้นก็งานของเราหมดเลย ต้องเตรียมอาหาร จัดโต๊ะอาหาร ชงชาวันละไม่ตำกว่า 5 ครั้งให้ทุกคนในบ้าน (ชอบดื่มชากันมาก ๆ ) ล้างแก้ว จานชามนิดหน่อยตอนที่คนทำงานบ้านไม่อยู่ แขกมาต้องช่วยต้อนรับ อยากได้โน่นนี่ก็เราตลอด ไปไหนก็ต้องขออนุญาต อีกอย่างบ้านเขามีอาณาเขตกว้างมาก ๆ ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่ก็เหนื่อยสุด ๆ แล้ว บ้านเขามีสมาชิกทั้งหมด 6 คนอ่ะคิดดู (พ่อสามี แม่สามี น้องชาย พี่สาวที่หย่าแล้วกับสูกสาว และสามีเรา) และไม่มีใครดีกับเราเลย ยกเว้นสามี มีปัญหากับคนในบ้านเขาประจำ โดยเฉพาะพี่สาวเขานี่เคยร้ายกับเรามาก ๆ ตอนแรกเรานอนร้องไห้เกือบทุกวัน แต่ด้วยความที่สามีเป็นคนดีมาก และดีกับเรามาก ๆ ด้วย บางครั้งเขาก็บอกว่าจะพาแยกบ้านออกไปอยู่ข้างนอก แต่เราเห้นว่าครอบครัวเขามีเขาคนเดียวที่พึ่งได้ ถ้าเขาออกไปจากบ้านปัญหามากมายก็จะตามมา เราจึงยอมทน  ทั้ง ๆ ที่ตอนยังอยู่บ้านพ่อแม่แก้วสักใบยังไม่เคยล้างเลย ได้แต่ทน ทน และทน จนเพื่อนเราและคนรู้จักทุกคนนี่งงไปเลย ว่าทำไมเราเปลี่ยนได้ขนาดนี้ หลังจากนั้น มันก็ชินไปเอง เหลือเชื่อแต่เรื่องจริงค่ะ ทุกคนที่เคยเย็นชากับเรามาก่อนก็รักและเกรงใจเรามากขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือเลย ไม่เรียกใช้เราอีกต่อไป พยายามทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะพ่อแม่ของเขาที่ตอนนี้สามีบอกว่ารักเรามากกว่าตัวเขาเองเสียอีก ตอนนี้ก็ยังงง ๆ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้บอกให้คุณทนเหมือนเรานะ สิ่งที่คุณควรทำ และดีที่สุดสำหรับคุณนั้น เราเชื่อว่าคุณมีคำตอบอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถประนีประนอมได้ก็ทำไปเถอะค่ะ แต่เรื่องของคุณอาจจะหนักกว่าเรา เพราะคุณต้องทำงานนอกบ้านด้วย และแถมยังจะต้องทำงานในบ้านอีก ถ้าอย่างนั้นลองตกลงกับเขาดูว่าคุณจะทำให้เฉพาะกับแฟนของคุณและพ่อแม่ของเขาเท่านั้น (พ่อแม่แฟนหยวน ๆ ไปเถอะค่ะ) งานบ้านส่วนพี่น้องของเขาควรทำเอง ยิ่งถ้ายังเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาอยู่นี่ยิ่งต้องช่วยงานบ้านคุณบ้างค่ะ หาเครื่องทุ่นแรง อย่างเครื่องซักผ้า ที่ดูดฝุ่น หรือจ้างคนทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ คงไม่สิ้นเปลืองสักเท่าไหร่ เรื่องไหนที่คุณคิดว่ายอมรับไม่ได้ก็ตกลงไปเลยให้ชัดเจนก่อนแต่ง เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของชีวิตค่ะ ดูทีท่าของแฟนด้วยว่าตัวเขาเองยอมให้คุณบ้างหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าจะให้คุณปรับเข้าหาครอบครัวเขาฝ่ายเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้น เวลาคุณมีปัญหากับครอบครัวเขา คุณจะลำบากค่ะ จากคุณ : ดุจดาว (ดุจดาว) - [ 12 ม.ค. 50 21:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเรายังไม่แต่งงานเราอาจจะมองความรักเป็นสีชมพู คิดว่าตัวเองต้องทนได้ หรือเค๊าอาจจะเห็นใจเราบ้างนะ เพราะอย่างน้อยเราก็ทำงานหาเงินเอง แต่เคยฟังจากเพื่อนหลายครอบครัว ถ้าอยู่ครอบครัวใหญ่ก็มีปัญหาจุกจิกกวนใจกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะเอามาเป็นสาระแค่ไหน หรือนิสัยคนในบ้านเข้ากับเราได้มากแค่ไหนค่ะ อ่านของคุณดุจดาวแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยนิดๆ พี่ที่เรารู้จักคนนีงก็ประมาณนี้ค่ะ เอาชนะใจคนในครอบครัวเค๊าได้ แต่กว่าจะถึงเวลาที่แม่เค๊ายอมรับก็ 10 ปีค่ะ (เป็นเราจะทนไหวมั๊ยเนี่ย !!) เราว่าคุณยังดีที่คิดได้ก่อน(ไหวตัวทัน) ว่าควรตกลงกันยังไง ดีกว่ายอมทุกอย่าง  แล้วคุณจะทนไม่ได้เป็นปัญหาครอบครัวทีหลังค่ะ ^^ เราแนะนำแบบกลางๆ เพราะไม่รู้ว่านิสัยคนในบ้านแฟนคุณเป็นยังไงค่ะ เห็นด้วยกับหลายๆ คนว่า ถ้าคุณยอมทำทุกอย่างตั้งแต่แรก คุณต้องทำตลอดไปค่ะ ถ้าคุณต้องทำงานนอกบ้านด้วย งานในบ้านด้วย ลองคุยกับแฟนคุณว่า - จ้างแม่บ้านช่วยงานได้ไหม เราช่วยออกค่าใช้จ่ายบ้าง เผื่อเค๊าจะว่า ทีเมื่อก่อนเค๊ายังไม่ต้องจ้าง ฯลฯ - ให้พี่น้องเค๊าทำเอง คุณทำเฉพาะของคุณกับแฟนได้ไหม อนาคตถ้ามีลูกคุณยังต้องทำให้ลูกด้วยนะคะ - หาซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวก เท่าที่สามารถจะมีได้ เช่น เครื่องซักผ้า, รีดผ้า ฯลฯ - จัดเวลาการทำงานบ้าน บางอย่างต้องทำทุกวัน แต่บางอย่างเช่น รีดผ้า อาทิตย์ละครั้งได้ไหม ฯลฯ (เห็นปริมาณคนแล้วก็ไม่รู้จะทันไหมเนอะ) - outsource งานบ้านบางอย่าง เช่น ซัก-รีดผ้า ไปจ้างร้านซัก-รีดได้ไหม หรือถ้าต้องทำความสะอาดบ้านที่มากกว่าการกวาด ถู จ้างคนมาทำเป็นครั้งคราว เช่น อาทิตย์ละครั้งได้ไหม อ่านหลายๆ ความคิด แล้วลองวิเคราะห์ดูว่า ครอบครัวแฟนคุณ หรือแฟนคุณเข้าข่ายที่จะยอมรับข้อเสนอแบบไหนบ้างนะคะ ขอให้โชคดี มีความสุขกับชีวิตครอบครัว (ในอนาคต) ค่ะ ^^ จากคุณ : SS.. (@My DeSirE) - [ 12 ม.ค. 50 22:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วโมโหอย่างแรง รับไม่ได้มากๆ คิดว่าคุณคงตัดสินใจได้แล้วนะคะจากคำแนะนำของหลายๆคน  คุณรักเค้ามากกว่าตัวเองหรือปล่าว เราเป็นคนนอกจะรู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่แฟนคุณบอกนั้นเป็นการเห็นแก่ตัวและครอบครัวของเค้าฝ่ายเดียวมากๆ ถามตัวเองว่าตอนคุณยังไม่แต่งงานกับเค้าคุณสบายขนาดไหน หาเลี้ยงตัวเองได้ พอแต่งงานแล้วเป็นแบบนั้น ถ้างั้นแสดงว่าการแต่งงานเป็นการทำให้ชีวิตแย่ลงหรือ แล้วพ่อแม่คุณคุณทำให้ขนาดที่จะต้องไปทำให้ครอบครัวเค้ามั้ย พ่อแม่เราเองมีแต่กลัวลูกจะเหนื่อย แต่นี่อะไรจะให้ไปรับใช่พ่อแม่คนอื่น ไม่ได้ให้กำเนิดสักนิด (ขอโทษที่แรงไปหน่อย ความจริงอยากพูดให้ตรงกว่านี้ด้วยซ้ำ รับไม่ได้จริงๆค่ะ) จากคุณ : หญิงงามตามตำรา - [ 12 ม.ค. 50 23:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วเห็นใจคุณในกรณีที่ว่า มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบนอกบ้าน และยังต้องมารับผิดชอบเรื่องในบ้านอีกหลายๆ อย่าง เดาว่าตัวคุณ เต็มใจทำเพื่อสามีและครอบครัวได้ แต่คงไม่ได้อยากรับผิดชอบเยอะขนาดที่ว่าที่สามีตั้งความหวังเอาไว้ ต้องหาเวลาเหมาะๆ และคุยกับแฟนแล้วค่ะ แฟนคุณเขาตัดสินใจบอกมุมมองเขามาตรงๆแล้วว่าเขาอยากได้แบบไหน คุณเองก็แสดงมุมมองคุณกลับไปแบบเปิดใจคุยกันค่ะ แต่คุยกันดีๆ อย่าให้เคืองกันลับหลังนะ บอกกับแฟนไปตามตรงเลยนี่แหละ ว่าตัวคุณอ่ะมีทัศนคติการใช้ชีวิตหลังแต่งงานยังไง ไอ้ที่แฟนอยากให้ทำเนี่ยคิดว่าตัวเองทำไหวไหม เต็มใจทำให้แค่ไหน ถ้าคิดว่าไม่ไหวจะประณีประณอมอย่างไรได้บ้าง ( หลายความเห็นด้านบนเสนอทางเลือกอื่นไว้เยอะเลย) ถ้าอิงจากนิสัยของลียะ ลียะยังมีความเป็นผู้หญิงหัวเก่าปนอยู่ อ่ะค่ะ .. การดูแลงานบ้าน ทำบ้านให้เป็นบ้าน ทำให้คนในครอบครัวสบายใจ มีความสุขและสบายยามอยู่บ้าน มันเป็นอะไรที่เป็นเรื่องปกติที่ควรจะต้องทำ เรื่องงานนอกบ้าน เป็นงานรองที่ทำเพื่อให้เราพอมีสังคมและไม่ให้เอียนชีวิตแม่บ้าน เรียกว่ายอมตัดความสุขตัวเองได้ในระดับนึง ดูแลสามีแล้ว ต้อง รัก เคารพ และ มีน้ำใจดูแล ครอบครัวสามี รวมไปถึงญาติๆ ของครอบครัวด้วย  เพราะเราแต่งงานกับลูกชายเขาก็จริง แต่จะให้ไม่ดูดำดูดีครอบครัวสามีเลยมันก็ทำไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นน้ำใจของคนที่ถือว่า ดองกันแล้ว มาเป็นครอบครัวเดียวกันตระกูลเดียวกัน พ่อแม่เราและ พ่อแม่สามีนับวันท่านก็แก่ตัวลงทุกทีๆ คนแก่ต้องการความเอาใจใส่และความรักนะคะ ถ้าอีกหน่อยลียะแต่งงานไป ยังไงก็ได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานกะสามีไปอีก40-50 ปี มีเวลาเอาใจสามีตัวเองไปอีกนาน รวมถึงลุกๆ ด้วย เลยขอเอาเวลาช่วงนี้ที่พ่อแม่ท่านยังมีชีวิตอยู่ คอยดูแลดีกว่าค่ะ ยังไงเขาก็คือ บุพการีของคนที่เรารักมากที่สุด แต่ แน่นอนว่า ลียะยังอยากมีอิสระทำอะไรอยู่ ไม่อยากเจอครอบครัวสามีสวมกรอบทุกอย่าง ยังขอมีอำนาจมีอิสระในการตัดสินใจได้บ้างในบางเรื่องเหมือนกันนะ  ถึงเวลานั้นก็จะคุยกับแฟนตัวเองถึงทัศนคติแบบนี้ให้เขารู้เหมือนกัน จากคุณ : อาราลียะ - [ 12 ม.ค. 50 23:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แต่งงานมันยากอย่างนี้นี่เอง คนชอบอะไรง่ายๆแบบเรา เลยยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งแบบใครๆเขาสักที ส่วนเรื่องความเห็น no comment ดีกว่าค่ะ life style แต่ละคนไม่เหมือนกัน เลือกอันที่เหมาะกับคุณแต่ไม่ขัดกับทางของแฟนคุณมากจนเกินไปก็แล้วกัน เพราะยังไงซะการแต่งงานก็คือ two becomes one อยู่แล้วเนอะ ขอให้จขกท.หาทางสายกลางให้เจอแล้วกันค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : สะพานดาว - [ 13 ม.ค. 50 01:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ฮืม ครอบครัวคนจีนรึเปล่าคะ ถ้าแยกบ้านได้ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีค่ะ เเต่ถ้าแยกไม่ได้ เราว่าข้อตกลงที่ว่าทีสามีคุณพูดมามันเกินไปนิดนึงน่ะค่ะ ลูกผู้หญิงมีหน้าที่ดูเเละสามีเเละเรื่องในบ้านก็จริง เเต่ผู้หญิงสมัยใหม่ก็มีหน้าทีหาเงินเข้ามาจุนเจือบ้าน่นเดียวกัน ไมได้นั่งให้เค้าเลี้ยงอยู่เฉยๆนะคะ ด้านการจัดการเสื้อผ้าของสามีกับพ่อแม่ของสามีนี่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ลูกสะใภ้ที่ดีควรกระทำค่ะ ก็คิดซะว่าเหมือนๆพ่อแม่เรา   เเต่อาจจะตกลงว่าคุณมีเวลาทำให้เเค่อาทิตย์ละครั้งนะ ก็รวบรวมไว้ทำให้อาทิตยืละครั้งฟังๆดูมันน่าจะโอเคนะคะ เเต่เรื่องของคนอื่นๆในบ้านนี่มันไม่ใช่หน้าที่คุณค่ะ  โตๆกันเเล้วเค้าก็น่าจะรับผิดชอบตัวเองกันได้ ด้านงานบ้าน คุณจะเป็นคนทำคนเดียวคิดว่าไหวรึเปล่าคะ ถ่าคิดว่าไหวก็ตกลงกันซะ ถ้าไม่ไหวก็จ้างคนทำความสะอาดบ้านดีมั๊ยเอ่ย หรืออาจจะจ้างซักรีดอย่างเดียวก็ได้ค่ะ เลือกเอาอันใดอันหนึ่ง อีกอันคุณทำเอง  คุณเองก็ยังมีพ่อเเม่ที่ต้องดูเเละเหมือนกัน จะให้มาทำให้ทางนี้หมดก็คงไม่ไหวล่ะมั้งคะ ถ้าว่าที่สามีคุณเห็นใจคุณและเข้าใจตรงนี้บ้าง  ทุกอย่างก็น่าจะไปได้สวยค่ะ   เป้นกำลังใจให้ค่ะ ^^ จากคุณ : น้องหมาปลาเซียว - [ 13 ม.ค. 50 03:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 nooooooo ด้วยคนค่ะ เราแต่งงานกันเพื่ออะไรเนี่ยชักสงสัย??? เพื่อเข้าบ้านไปเป็นคนรับใช้เค้าหรอคะ เราไม่ได้ไปขอเงินสามีกินใช่ไหมคะ เราก็มีงานทำ มีเงินของเราเอง แล้วทำไมเราจะต้องไปทำงานให้เขาด้วย? ทำงานแทนค่าเช่าที่ไปอยู่บ้านเค้าหรอคะ?? บ้านเราก็มีอยู่แล้วสบายใจกว่าเยอะถ้าจะต้องไปเช่าที่บ้านเค้าด้วยการแต่งงานเข้าบ้าน เพื่ออยู่กับสามีที่เรารัก โดยค่าเช่าคือการทำงานบ้านให้ทุกคน คุณคิดว่ามันคุ้มหรือเปล่าล่ะคะ ถ้าคุ้มก็แล้วไป แต่อยากบอกเหมือนกับที่เคยเกิดกับอีกหลายคนว่า เข้าไปอยู่บ้านสามีแล้ว ต้องมีเรื่องให้รู้สึกแย่ๆ บาดหมางกับครอบครัวเขาอีกเยอะแน่ๆ ค่ะ ยิ่งถ้าเรามาเป็นลักษณะคนรับใช้แบบนี้ คงอยู่กันได้อย่างไม่สบายใจแน่ๆ อีกเรื่องที่อยากให้นึกถึงคือ พอเราไปอยู่ทางสามีแล้ว ต้องเอาเวลาทั้งหมดไปลงกับทางนู้น เราจะแทบไม่มีเวลาดูแลบุพการีของเราเองเลย อาจจะต้องมาเสียใจภายหลังถ้าถึงวันที่พวกเค้าจากไปโดยที่เรายังไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณเลย (อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของแม่เรา) ใครสำคัญกว่ากันล่ะคะ พ่อแม่เรา แฟนเรา และพ่อแม่แฟนเรา ก็ลองชั่งน้ำหนักดู แต่ยังไงดูภาพรวมของข้อตกลงแล้ว เราก็ยังคิดว่าไม่แฟร์อย่างแรงค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแล้วล่ะ ...ถ้าเรามีแฟนที่ดีตามใจมาตลอด จนหลุดคำนี้ออกมา คงรู้สึกว่า ไอ้นี่มันมาลงทุนลงแรงช่วงจีบกันเพื่อหวังเอาเราไปเป็นคนรับใช้ตลอดชีวิตแน่เลยอ่ะ - -' เจอแบบนี้ถ้าเป็นเราไม่แต่งเข้าบ้านแน่ ไม่เข้าบ้านเด็ดๆ!! จากคุณ : Nutjung - [ 13 ม.ค. 50 03:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามประสบการณ์นะ เราบอกกับแฟนเราว่า ถ้าแต่งงานกัน เราต้องอยู่เองนะ คนสองคน จะปรับตัวเข้าหากัน ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันมากอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องเอาเรื่องคนอื่นมายุ่งเลย จิง ๆ นะ ขนาดเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรายังรำคาญแม่สามีจะตาย บางที อยากจะมาก็มา ไม่มีการบอกกล่าวกันก่อน เราทะเลาะกันจนเลิกทะเลาะไปแร้วอ่ะ ต้องทำเหมือนมองไม่เห็น บอกเขา ว่า เราก็หาเงินเข้าบ้านเหมือนกัน ไม่ได้นั่งกระดิกเท้าอยู่บ้าน ก็ต้องช่วย ๆ กันสิ ถ้าไม่ได้ทำงาน ขอเงินขอข้าวเขากิน ก็อีกเรื่อง นี่มันปี 2007 แล้วนะ ไม่ได้อยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง หรือซ่งนะเฟ้ย อีกเรื่องนึง คุยกันเรื่องจะเก็บเงินยังไงด้วยนะ ว่าจะใช้จ่ายร่วมกัน เปิดปัญชีร่วมกัน หรือแยกกันใช้ ถ้าเขาเอาเงินเดือนให้ญาติพี่น้องยืมหมด อันนี้ ถ้าเกิดขึ้นจะทำยังไง เป็นต้น เพราะว่า เห็นมีหลายคู่มีปัญหาเรื่องนี้น่ะค่ะ เลยตกลงกันก่อนแต่งจะดีที่สุดนะ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 50 06:27:20 จากคุณ : RaBBitMay - [ 13 ม.ค. 50 06:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นใจคุณ จขกท.อ่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นเรา  ม่ายอาววววววววว.. แค่ของตัวเองยังไม่อยากจะทำ  สมมติเกิดไปตกปากรับคำเข้า  ซวยแน่ๆ -__-'' งานนี้ได้แก้ผ้าเดินกันทั้งครอบครัว แป่วววว.. จากคุณ : roypimz - [ 13 ม.ค. 50 08:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วอึ้ง เหมือนเพื่อนๆ หลายคนค่ะ ที่ จขกท บอกว่า ...เราก็รู้ว่าต้องทำงานบ้านอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้หญิง... ยิ่งรู้สึกเหมือนสังคมยุคโบราณเลย ถ้าไม่ทำงานนอกบ้านเนี่ย ให้ทำงานในบ้านคงไม่มีปัญหา นี่ทั้งสองอย่าง แถมเยอะขนาดนั้น ไม่ไหวอ่ะค่ะ ถ้าเป็นตัวเองเจอข้อเสนอแบบนี้คงด่าเช็ดและเลิกเลยล่ะ พริ้นท์กระทู้นี้และความเห็นเพื่อนๆ ให้แฟนอ่านดีกว่ามั้งคะ ก่อนที่จะตกเป็นคุณแจ๋วในบ้านสามี จากคุณ : ร้อยบุปผา - [ 13 ม.ค. 50 11:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่ทำแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เราต้องไปทำไห้คนนั้นคนนี้นี่ค่ะ ดูแลเรื่องเล้กๆน้อยทำได้ ช่วยเหลือกันบ้างตามประสาคนอยู่ด้วยกัน แต่จะไห้แบบทำเป็นหน้าที่เลยอย่าฝันค่ะ เหอๆๆ เรื่องอะไรอ่ะตอนยังโสดก้อยังเป็นสาวทำงานอยู่ดีๆ แต่งงานไปแล้วสถานะกลับกลายเป็นไม่ต่างจากกระเหรี่ยงรับใช้ซะงั้น จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon - [ 13 ม.ค. 50 15:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆนะคะ เราซาบซึ้งกับทุกข้อความมากๆค่ะ จริงๆแล้วเราก็อยากแยกบ้านออกมา แต่ดูแล้วท่าจะยาก เพราะตอนแรก พ่อแม่เค้า ตั้งใจจะยกร้านให้พี่เค้า และบอกให้พี่เค้าแต่งงานมีครอบครัว แล้วมาอยู่ด้วยกันที่บ้านนั้น แต่พี่เค้ายังไม่ยอมแต่ง จะต่อโท ต่อเอก ตอนแรกแฟนเราก็ตั้งใจว่าถ้าพี่แต่งงานแล้วอยู่บ้านนี้เค้าก็จะย้ายออก แต่เหมือนพี่เค้าก็ไม่อยากแต่งผู้หญิงเข้าบ้าน ก็เลยยังไม่แต่ง เราอาจจะต้องคุยกับแฟนก่อนแต่งอย่างที่ทุกคนบอก ถ้าไม่ได้ตามที่เราคิดว่าน่าจะได้ ก็อาจจะยังไม่แต่งดีกว่า จากคุณ : vanila - [ 13 ม.ค. 50 15:40:04 A:124.120.137.141 X: TicketID:020748 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หาคนแต่งด้วยคนใหม่เลยดีกว่ามั้ยค่ะ จากคุณ : PrincssPussy - [ 13 ม.ค. 50 15:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วจี๊ดค่ะ ขนาดที่บ้านเรายังจ้างเค้าซักเลยค่ะ (บ้านอยู่กัน 4 คน ทั้งแม่ คุณตา คุณยาย แล้วก็เรา) ส่วนของส่วนตัวก็รับผิดชอบกันเองค่ะ เฮ้อ...คิดแล้วเหนื่อยแทน จากคุณ : srininja - [ 13 ม.ค. 50 17:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แต่งเมียนะคะ ไม่ใช่ นางทาส.. คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ ป้าดร้า จากคุณ : หนูนุ่นKa - [ 13 ม.ค. 50 18:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ประสาทมาก ขนาดพ่อแม่เรายังไม่ค่อยได้ทำให้เลยอ่ะ สามีเรา บางทีเค้าก็ซักเอง ถ้าเราซักไม่หมด เราไม่ชอบรีดผ้าที่สุด ร้อนจะตายชัก พ่อแม่เค้าก็ยังว่านะ พอทำให้ได้ แต่เราไม่อยากทำให้หรอก ไม่ใช่พ่อใช่แม่เราอ่ะ บอกตรงๆ เรารังเกียจ ไม่ได้กระแดะอ่ะ แต่ไม่ชอบมากๆ  ยิ่งรวมพี่น้องเค้าด้วย ยิ่งบ้าไปใหญ่ แล้วน้องเค้า ญ หรือ ช ถ้า ญ จะทุเรศมากๆ ทำไมไม่ทำให้พ่อแม่ตัวเอง คิดดูสิ ถ้าต้องซักกางเกงพ่อสามี พี่สามี ที่เป็นผู้ชายอ่ะ เพี๊ยนเปล่า ไม่สมควรเลย แล้วมีกกน.ด้วยเปล่าเนี่ย พ่อแม่เค้า พี่ น้องสองคน ซักเครื่องก็ไม่ไหวหรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องทำไหวไม่ไหว แต่เป็นเรื่องเหมาะสมหรือเปล่านะ จากคุณ : ประยงค์สตูดิโอ - [ 14 ม.ค. 50 04:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เราว่ามากไปนะคะ  งานซักรีดให้คน  5-6 คน(หรือเปล่า)  ให้คนเดียวทำมันหนักไปค่ะ ..  เราเคยทำที่บ้านเราเองก็เหนื่อยมาก ลองคิดดู เสื้อผ้าของคน 5 คนต่อวัน ก็เยอะนะ  ..(ถ้าทำทุกวัน) แล้วถ้า 2-3 วันทำที ..กองเท่าภูเขาเลย ขอบอก จากคุณ : tasteless water - [ 14 ม.ค. 50 17:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอ่อ ขอโพสอีกทีนะ . ไม่มีผู้ชายมาตอบเลยหรอ  55 จากคุณ : tasteless water - [ 14 ม.ค. 50 17:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นเรามีเรื่องแน่ๆค่ะ   ไม่ได้รังเกียจที่จะรับใช้แม่สามี  แต่งานบ้านมันก็ต้องช่วยกัน  ซักผ้ารีดผ้าให้ทั้งครอบครัวนี่นะ  เราว่าทำให้ตัวเองกับสามีก็พอแล้ว  ห้องที่อยู่ก็ทำเอง ที่ใครที่มัน  ถ้าว่างๆหรือวันไหนผ้าน้อยก็ช่วยซักช่วยรีดของคนในบ้านบ้างเป็นน้ำใจส่วนตัวแต่ไม่ใช้รับซักให้ทั้งบ้านเป็นหน้าที่หลัก  ถ้าพ่อแม่แก่มากก็โอเค แต่พี่น้องนี่ไม่ไหวนะคะ  แล้วคุณสามีก็ทำงานที่บ้านเวลาน่าจะเยอะ ไม่คิดจะซักผ้ารีดผ้าให้พ่อแม่ตัวเองบ้างหรือไง ตัวเราเองแต่งงานเอาสามีเข้าบ้าน  ก็เป็นแจ๋วเหมือนกันค่ะ  ทำให้สามีทุกอย่าง เห็นใจด้วยว่าบ้านเราไกลที่ทำงานเค้ามาก(แต่ใกล้ที่ทำงานเรา)  ส่วนของพ่อแม่เราเค้าก็ซักเองเอาลงเครื่องแล้วตาก ไม่ลำบากอะไร จะรีดก็จ้างเค้ารีด  จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดอาทิตย์ละวัน  ถ้าเราไปอยู่บ้านสามีแล้วให้ทำทุกอย่างมีเรื่องๆแน่  สมัยนี้ไม่ได้แต่งสามีไปเกาะสามีกินนะ ไม่ได้เกาะพ่อแม่สามีกินด้วย แค่พอคิดจะแต่งครอบครัวแฟนก็คิดจะให้งานในบ้านซะแล้ว  แล้วดิฉันทำงานบ้านมาเยอะ รู้เลยว่างานซักผ้ารีดผ้าน่ะเหนื่อยสุดแล้วแล้วปล่อยปละละเลยก็ไม่ได้ ถูบ้านขัดห้องน้ำเค้าทำอาทิตย์ละครั้ง บางทีสองอาทิตย์ครั้งยังไม่สกปรกเลย แต่ซักผ้านี่ถ้าหลายคนแล้วนานๆซักทีละอ่วม กว่าจะรีดให้เรียบอีก ตายพอดี  แล้วถ้ามีลูกล่ะ  นรกดีๆนี่เอง จะให้ดีเปลี่ยนเป็นให้แม่หรือน้องสามีซักผ้ารีดผ้า แล้วคุณถูบ้านแทนน่าจะดีกว่านะ จากคุณ : Leika - [ 14 ม.ค. 50 17:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ทำไม ต้องมีคำว่า...เราต้องทำงานบ้านอยู่แล้ว..เพราะเป็นผู้หญิง..เราเกลียดคำนี้มากเลย..ทำไมล่ะ เพราะเป็นผู้หญิง จึงต้องเป็นคนรับใช้เหรอ..แล้วในทางกลับกันทำไม ผู้หญิง ต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วยล่ะ   ใช่ไหมคะ...จะโยนภาระมาให้แบบนี้  สงสัยรอมานาน  ใครมาทำแทนชั้นที  แล้วให้ทำทุกวันด้วยนะ  จะบ้าเหรอ.. นี่ไม่ใช่ยุดโบราณ  ที่ผู้ชายเลี้ยงดูภรรยาให้อยู่บ้านทั้งวัน นั่นก็อีกเรื่องนึง แต่ถึงอย่างไรก็เกินไปอยู่ดี จริงๆ อยู่หลายคนแบบนี้ ควรแบ่งหน้าที่ให้ช่วยกันทำ ไม่ใช่มาโยนภาระ แม่สามีเรา...เคยโดนมาก่อนเพราะเป็นสะใภ้คนจีน..ทนไม่ไหว ออกมาอยู่เอง แล้วเขาก็บอกกับเราว่า เขาจะไม่มีวันทำอย่างนั้นกับลูกสะใภ้เด็ดขาด เพราะเขาโดนมาก่อน ไม่อยากให้ต้องมาทนเหมือนกัน จากคุณ : makeup - [ 15 ม.ค. 50 09:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อย่าไปยอมมมมค้า ถ้าแต่งไปแล้วต้องลำบากกว่าตอนยังไม่แต่ง อย่าไปเลยคะ  ของเราก็ต้องแต่งเข้าบ้านผู้ชาย แต่ดีนะที่มีคนใช้ ช่วงตอนคนใช้ไม่มีเราเอาเสื้อผ้ากลับไปให้คนใช้ที่บ้านพ่อแม่ซักคะ จะได้ไม่เป็นภาระแม่สามี อิอิ อายจัง แต่งงานมาไม่ต้องทำไรเลย แม่สามีทำกับข้าวคะ ส่วนคนใช้ทำความสะอาดซักผ้ารีดผ้า จากคุณ : ohshopaholic - [ 15 ม.ค. 50 12:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยนะคะที่ว่า... แต่งงานไปแล้ว ชีวิตเราต้องลำบากกว่าเดิม ก็ converse กันเลยดีกว่า (แรงไปไม๊เนี่ยะ - -" ) คือ  ดีกว่ามานั่งร้องเพลง "รักไม่ช่วยอะไร" ในภายหลังนะคะ เราว่า.. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณคือคนที่จะตัดสินใจได้ดีที่สุด มองอย่างเป็นกลางนะคะ ขอให้ชีวิตสดใสจ้ะ ^^~ จากคุณ : Sea Robot - [ 15 ม.ค. 50 13:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อย่่างนี้อย่าแต่งค่ะ เชื่อเหอะ เพราะขนาดเราว่าหลังแต่งงานเราไม่ได้อยู่กะพ่อแม่สามี แต่อยู่กะน้องสามี 2 คน  น้องเขย 1 คน ขนาดเราไม่ได้ซักผ้าให้น้องสามีกะน้องเขย  (แต่ซักให้สามี และน้องสามีที่เป็นโสด) เรายังแย่ ไม่ได้ทำงานนะเนี่ย ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้ง วันหยุดเค้าจะช่วยกันทำอีกครั้ง รีดเสื้อทำงานสามีเท่านั้น 5 ตัว กางเกง 1ตัว (จำได้แม่น ขนาด 6ปีมาแล้ว อิอิ) ปีแรก เราร้องไห้บ่อยมาก ถามตัวเองว่าแต่งมาทำไมอ่ะ อยู่บ้านมีคนทำงานบ้าน ทำกับข้าว ทำทุกอย่าง แต่พอเเต่งงานแล้วชีวิตเปลี่ยนอ่ะ แต่นี่ขนาดสามีเราช่วยเราทำโน่นนี่เมื่อกลับมาบ้าน น้องสามีก็เกรงใจเราน่ะ แต่มันไม่สนุกเลยขอบอก งานบ้าน มันไม่มีวันหมด แล้วถ้าคุณเจอ perfectionist คุณคงจะเครียดมาก แล้วถ้าอยู่กันเยอะๆ คุณจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย  แล้วจะคิดถึงตอนยังไม่แต่งอ่ะ (อ้อ เราแต่งแล้วย้ายตามสามีมาต่างแดน ไม่งั้นเราคงเผ่นกลับ บ้านทุกอาทิตย์อ่ะ) ตอนนี้ น้องๆแยกย้ายกันไปมีบ้่านตัวเอง เราก็ย้ายมาบ้านใหม่ ก็อ่ะนะ เตือนๆกันนะ แล้วแต่จะตัดสินใจนะคะ จากคุณ : sivalee - [ 16 ม.ค. 50 17:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แล้วคุณสามีทำอะไรบ้างคะ นอกจาก "งานนอกบ้าน" จากคุณ : Phoebe Buffay - [ 17 ม.ค. 50 07:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คำตอบในใจคุณเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเรา เราไม่แต่งเด็ดขาด จากคุณ : sass girl - [ 17 ม.ค. 50 13:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โห ต้องซักผ้ารีดผ้าให้คนทั้งบ้านเลยเหรอค่ะ หนักอยู่เหมือนกันนะคะ เอ..แล้วทำไมพี่เค้าน้องเค้าไม่ทำเองล่ะค่ะ ของเราตกลงกันก่อนเลยว่างานบ้านต้องช่วยกันทำถ้าตราบใดที่เราก้อยังทำงานของเราอยู่ แต่ถ้าให้เราออกมาเป็นแม่บ้านเราจะทำให้ทุกอย่าง (เราอยู่กัน 2 คนค่ะ) ตอนนี้ก้อเลยได้เป็นแม่บ้านเลย เราก้อทำทุกอย่าง อย่างที่เคยพูดไว้ค่ะ จขกท.คิดดูดีดีนะคะ เป็นห่วงว่าจะมีปัญหาที่หลังคุยกันให้เคลียร์ก่อนค่ะ จากคุณ : kaajibjib - [ 19 ม.ค. 50 08:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คิดดีๆนะคะ .. อย่าให้ความรักบังตาคะคุณ .. แต่งงานเข้าบ้านที่ยังมีความคิดแบบนี้ มันก้อไม่ต่างอะไรกับ .. เข้าคุกเลย -__-" ภรรยา .. นะคะ .. ไม่ใช่คนใช้ของครอบครัวสามีคุณ !!! ปล. ถามเหมือนคนอื่นค่ะ .. ว่าแล้วก่อนหน้านี้คนในครอบครัวของแฟนคุณ จขกท. เค้าอยู่กันยังไง ซักผ้ายังไง รีดผ้ายังไงกันเหรอคะ ทำไมถ้าแต่งงานแล้วแล้วคุณต้องทำด้วยอะ ไม่เข้าใจ ??? บ้าไปแล้ว ??? อย่ายอมค่ะคุณ อย่ายอมเด็ดขาด คุยให้รู้เรื่องก่อน ถ้าไม่รู้เรื่องก้ออย่าเพิ่งแต่งค่ะ ผช ไม่ไร้เท่าใบพุทรา ถ้าเค้ารักเรา เข้าใจในมุมของเราบ้าง เค้าควรมีทางออกที่ดีกว่านี้ค่ะ ถ้าเค้ายืนยันตามเดิม ก้อให้เค้าอยู่ซักผ้าให้ที่บ้านเค้าไป ตามสบาย จากคุณ : มูมู่โปลิโอ - [ 9 ก.พ. 50 22:14:09 ]