ความคิดเห็นที่ 1 Hydroquinone ตัวนี้เป็นที่ศึกษากันมานานแล้วว่าเป็นตัวยาที่ป้องกันการผลิตเมลานินอย่างได้ผล โดยในสหรัฐฯ มีทั้งแบบความเข้มข้น .5%-2% ในเครื่องสำอาง และความเข้มข้นไปถึง 4% ที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ โดย hydroquinone ไม่ได้ทำการ bleach ผิวแต่จะป้องกันการสร้างเม็ดสีของผิว เพราะฉะนั้นเมื่อเซลล์ผิวทำการผลิตผิวใหม่ขึ้นมาชั้นบน ผิวชั้นบนนั้น จะมีเมลานินน้อยลง และลดรอยดำลงไปได้ ข้อควรระวัง : ถึงแม้จะเป็นตัว block การสร้างเม็ดสีที่มีประสิทธิภาพ แต่ hydroquinone ก็มีผลข้างเคียงอย่างมาก อย่างเบา ๆ ก็ระคายเคืองต่อผิว ทำให้เกิดโรคผิวหนังง่ายขึ้น ลดปริมาณ collagen และ elastic fiber ของผิว พร้อมเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง อ้อ อีกอย่าง hydroquinone นี่ไม่เสถียรอย่างมาก เก็บไม่ดีจะเสื่อมจากแดดได้ค่ะ สารตัวนี้ในหลายประเทศก็มีการสั่งห้ามใช้หรือให้ควบคุมการใช้เฉพาะแพทย์ค่ะ arbutin ตัว arbutin นั้นเป็นทางเลือกอื่นของ hydroquinone ค่ะ โดยเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีสาร hydroquinone ผสมอยู่ค่ะ โดยได้มาจาก bearberry, cranberry, mulberry or blueberry รวมถึงลูกแพร์ค่ะ เนื่องจาก arbutin มีเจ้า hydroquinone อยู่ ก็จะช่วย block การสร้างเม็ดสีได้ แต่ยังไม่มีงานวิจัยแน่ชัดในเรื่องประสิทธิภาพของ arbutin นะคะ หรือว่าต้องมีความเ้ข้มข้นขนาดไหนถึงจะมีผลต่อการยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้จริง แแต่ข้อดีของมันก็คือ ผลข้างเคียงที่อันตรายต่อผิวอย่างที่ hydroquinone มีนั้น แทบจะไม่พบใน arbutin ค่ะ แล้วบางงานวิจัยยังเชื่อว่า เจ้า arbutin จะช่วยเป็น anti-aging และกรองรังสี UVB ได้ด้วยค่ะ โดย arbutin นั้นเป็นที่นิยมใช้ใน skincare ของทางญี่ปุ่นด้วยค่ะ ตัวที่มีความเข้มข้นค่อนข้างสูงก็ได้แก่คือประมาณ 5% Shiseido Whitess Intensive Skin Brightener, Shiseido's Luminizing Night Essence  และ Cle de Peau line The Cream เดี๋ยวจะหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกมาเพิ่มให้อีกครั้งนะคะ ขอเขียนให้จบก่อน จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 21:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Tretinoin เจ้าตัวนี้ก็คือกรดวิตามินเอค่ะ มีงานศึกษาพบว่าเจ้า tretinoin มีผลช่วยในเรื่องรอยดำได้ค่ะ แต่ผลที่ใช้ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและใช้เวลานาน โดยผลมักปรากฏในเวลามากกว่า 6 เดือนค่ะ และถ้าจะให้ได้ผลในการลดรอยดำนั้น ควรจะใช้ควบคู่ไปกับตัวยาอื่นเช่น hydroquinone และต้องใช้สารกันแดดควบคู่ไปด้วยค่ะ แต่ tretinoin จะมีผลดีในการช่วยการฟื้นฟูของเซลล์ผิวและผลิต collagen ค่ะ (ก็แนวประโยชน์ของวิตามินเอ) แต่การใช้นั้น จะทำให้ผิว sensitive ต่อแดด ได้ และระคายเคืองผิวนะคะ เจ้าตัวนี้ที่รู้จักกันดีก็ retin-A นอกจากนี้ยังมีอนุพันธ์วิตามินเออื่น ๆ อย่าง retinol (Vitamin A alcohol), retinal (Vitamin A aldehyde) ที่ทาง skincare ในหลายยี่ห้อเลยเอามาใช้ใส่เข้าไปโดย claim ว่าเป็น anti-aging เนื่องจากเจ้าวิตามินเอมันช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวและสร้าง collagen skincare พวกนี้ลองดูมีเยอะมากค่ะ เดี๋ยวนี้ฮิตใส่เหลือเกิน retinol เนี่ย อย่างที่เราเอามาลองเล่นตอนนี้ก็เป็นของ vichy ที่เป็น vit c + retinol แล้วก็ HR power A extra แต่ทางเลือกอื่นก็มีเยอะค่ะ มีกันเกือบทุกยี่ห้อ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 21:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มารออ่านค่ะ ชอบอ่านรีวิวของคุณ จขกท อ่ะค่ะ จากคุณ : น้องพิมใจ - [ 16 ม.ค. 50 21:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Alpha Hydroxy Acids ตัวนี้หลายคนรู้จักกันดีค่ะ AHA ที่หลายคนใช้นั่นเอง โดยฟอร์มของ AHA ที่นักวิจัยเชื่อว่าได้ผลดีที่สุดคือ glycolid acid ค่ะ ลองลงมาก็คือ lactic acid อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่า AHA 4%-10% นั้น ไม่ได้มีผลในการทำให้สีผิวจางลงหรือทำให้รอยดำหายไปได้นะคะ แต่จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายหรือผิดปกติไป นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบอีกว่า การใช้ AHA ร่วมกับการรักษาแบบอื่นเช่นการใช้เลเซอร์ การใช้ hydroquinone หรือ azelaic acid ร่วมกับการใช้สารกันแดด จะมีผลให้สีผิวจางลง ลดรอยดำได้เร็วขึ้นค่ะ ข้อดีของ AHA ที่สำคัญคือการที่มันจะผลัดเอาเซลล์ผิวที่ถูกแสงแดดทำลายออกไป ส่วน AHA ที่ได้ผลในการลดรอยดำ จะต้องเป็นการ peeling ด้วย AHA เข้มข้น 50% ขึ้นไปค่ะ เอาล่ะค่ะ ข้อควรระวัง glycolid acid อาจระคายเคืองผิวได้ค่ะ ถ้าผิวระคายเคือง แพ้ง่าย เลี่ยงใช้ lactic acid จะดีกว่าค่ะ แต่ทั้งคู่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิว bright ขึ้นและลด fine lines ได้ค่ะ เป็นส่วนผสมที่ดีมากค่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มี ห้องนี้คงรู้จักกันดี ไม่ว่าจะ maxskin, neostrata, skinceutical, DDF, MD Formulation etc. ก็เลือกใช้ตามความชอบและเท่าที่จะหาได้ แต่อย่าลืมว่า AHA ทำงานดีในค่า pH ต่ำ ๆ นะคะ คือไม่ควรเกิน 3.5 ค่ะ น่าเสียดายที่ส่วนมาก cosmetics ไม่แจ้งค่า pH ไว้ ก็ต้องลองสังเกตดูเอาเองอ่ะค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 21:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : ph'BushY - [ 16 ม.ค. 50 22:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Kojic Acid เจ้าตัวนี้เป็นผลพลอยได้จากการหมักบ่มของข้าวในกระบวนการทำเหล้าสาเกค่ะ  ซึ่งมีการทดลองทั้งจากในหลอดทดลอง และการทดลองกับสิ่งมีชีวิตจริง ๆ ที่พบว่า เจ้า kojic acid มีผลช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินได้ โดยทางการแพทย์พบว่า การใช้ kojic acid ควบคู่กับ glycolid acid จะช่วยรักษาฝ้าได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมเราไม่ค่อยได้เห็นเจ้า kojic acid ในเครื่องสำอาง สาเหตุก็เพราะว่า มันไม่เสถียรอย่างมาก สลายตัวได้เร็วค่ะ อย่างเวลาเราได้ kojic acid มาจากหมอนี่ ต้องแช่ตู้เย็นตลอดเลยค่ะ ทีนี้พวกบริษัทเครื่องสำอางเลยใช้ kojic dipalmitate แทนซึ่ง stable กว่า แต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่า kojic acid และบางแห่งถึงกับ claim ว่าเจ้า kojic dipalmitate มันทำได้แค่เป็น antioxidant ค่ะ ข้อควรระวัง มีงานวิจัยบางอันที่เริ่มบ่งชี้ว่า เจ้า kojic acid อาจเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ในบางแห่ง เท่าที่ได้ยินอย่างประเทศญี่ปุ่น มีการห้ามใช้สารนี้แล้วค่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มี kojic acid เอาเท่าที่จำได้ตอนนี้ก็ peter thomas roth ค่ะ เดี๋ยวจะมาเพิ่มรายละเอียดให้อีกที Azelaic acid เจ้า  Azelaic acid  นี้พบในเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ เช่น wheat, rye, barley ซึ่งจะได้ผลเวลาทาด้วยความเข้มข้นประมาณ 20% ค่ะซึ่งปกติจะใช้กับการรักษาสิว แต่ก็มีผลในการรักษารอยดำเช่นกัน ซึ่งเจ้า azelaic acid นี่ไ่ม่มีผลข้างเคียงรุนแรงเหมือนกับที่ hydroquinone มี โดยช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม azelaic acid จะระคายเคืองต่อผิวมากกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 50 22:32:22 จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Vitamin C รูปแบบต่าง ๆ ของวิตามินซีหรืออนุพันธ์วิตามินซี อย่าง Magnesium ascorbyl phosphate, L-ascorbic acid, ascorbyl glucosamine, และ ascorbic acid จะเป็น antioxidant ที่ดีแน่นอน นอกจากนั้น ascorbic acid หรือ L-ascorbic ที่เข้มเพียงพอ คือมากกว่า 10% ขึ้นไปจะกระตุ้นการสร้าง collagen นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยบางอันพบว่า การใช้วิตามินซีความเข้มข้นสูงเกินกว่า 5% จะช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน และช่วยในการลดรอยดำลงได้ค่ะ ปัญหาคือ ที่มีใน cosmetic ส่วนมาก ความเข้มข้นไม่มากพอ ส่วน MAP นี่งานวิจัยพบว่า ต้องใช้ความเข้มข้นถึง 10% จึงจะมีผลในการยับยั้งการผลิตเมลานินนะคะ เอาล่ะ เจ้า skincare ที่มีวิตามินซีที่ดัง ๆ ห้องนี้คงรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็น TBS intensive night repair, skinceutical, cellex-c, LRP จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รออ่านอยู่ค่ะ จากคุณ : Po!SoN - [ 16 ม.ค. 50 22:35:44 A:58.8.23.113 X: TicketID:135877 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Licorice Extract licorice เป็นพืชที่มีประโยชน์หลาย ๆ อย่างมากกับผิวค่ะ องค์ประกอบที่ช่วยในเรื่อง whitening ได้แก่ glabridin ซึ่งจะยับยั้งการก่อตัวของฝ้ากระที่เกิดจาก UVB และผื่นแดงจากการติดเชื้อได้เมื่อใช้ในความเข้มข้น 0.5% ขึ้นไป นอกจากนี้ licorice ยังมีคุณสมบัติลดการอักเสบของผิวด้วยค่ะ และก็ทำให้ผิว bright ขึ้นนะคะ skincare หลายตัวมีส่วนผสมของตัวนี้ค่ะ เท่าที่เราจำได้ตอนนี้ก็คือ whitening source ของ SKII กับ vichy bi-white ไว้เราหาตัวอื่นเจอเราจะมาเพิ่มอีกทีค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Niacinamide เจ้าตัววิตามิน B3 นี่ หลายที่ claim ว่ามีผลในการช่วยรักษาสิวและป้องกันการอักเสบของผิว บางงานวิจัยชี้ว่ามันจะช่วยยับยั้งการส่งผ่าน melanosome จาก melanocytes ไปยัง keratinocytes ได้ ซึ่งน่าจะช่วยทำให้ผิวดู bright ขึ้น ลดรอยดำ แต่โดยสรุป ยังไม่มีผลยืนยันแน่ชัดนะคะ แล้วก็ที่วิจัยมา ผลจะได้เห็นจริง ๆ ก็ต่อเมื่อ ใช้กับ ingredient ตัวอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ Niacinamide หาได้ตามผลิตภัณฑ์ในเครือ P&G ทั้งหลายแหล่ค่ะ ตั้งแต่ olay ยัน SKII Lemon Juice Extract น้ำมะนาวจะช่วย bleach สีผิวได้ค่ะ แต่ข้อเสียคือ มันระคายเคืองผิวเอามาก ๆ และทำให้ผิวแห้งมากถ้าใ้ช้ตรง ๆ ต้องใช้แบบความเข้มข้นน้อยจัด Emblica เจ้าตัว emblica สกัดมาจากพืชชื่อ Phyllanthus emblica ซึ่งเป็นสาร antioxidant ค่ะ แต่มีงานวิจัยไม่นานมานี้ เชื่อว่ามันจะช่วยทำให้ผิวสีจางลงได้หากใช้ในความเข้มข้นมากพอ แต่ผลการวิจัยยังอยู่ในระยะเริ่มแรกค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Melanostat melanostat เป็น peptide ที่สังเคราะห์ได้จาก amino acid ค่ะ เจ้าตัวนี้เป็น skin bleaching agent ซึ่งทำงานบน melanin cell receptors เลย เป็นชนิดเดียวนะคะ ที่ bleach บน melanin cell และหยุดการทำงานของเซลล์พวกนั้น (แค่ฟังก็น่ากลัวแล้ว อี๋)ซึ่งจะทำให้ผิวขาวขึ้นค่ะ (ก็แน่นอนล่ะ) แต่การศึกษายังพบว่าเจ้า melanostat ทำงานได้ดีบนหลอดทดลองมากกว่าเอามาใช้กันจริง ๆ ค่ะ เจ้าตัวนี้คิดว่าอยู่ใน process การทดลองอยู่ค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาล่ะค่ะ พอแค่นี้ก่อน อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.cosmeticscop.com/learn/article.asp?PAGETYPE=ART&REFER=SKIN&ID=25 http://answers.google.com/answers/threadview?id=737014 http://www.medidermlab.com/white.html http://www.whiterskin.com/skin-lightening-ingredients.html พรุ่งนี้เราจะลองรวบรวมผลิัตภัณฑ์บางส่วนที่มีสารพวกนี้ดูค่ะ ก็เราอ่านจากบทความต่าง ๆ แล้วรวม ๆ สรุปมา ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 16 ม.ค. 50 22:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Kojic Acid  คุ้น ๆ ว่าจะมีในบางตัวของ vichy นะ เอ แล้ว lactic acid หล่ะ ช่วยเรื่องของ whitening หรือเปล่า เพราะมันก็มีคุณสมบัติแบบ AHA ด้วยหนิ จากคุณ : Dabadee - [ 16 ม.ค. 50 23:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จำได้ว่า Biotherm ก็มีตัวนึงที่มี kojic acid อ่ะค่ะ เพราะเคยได้ sample มาอ่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับข้อมูล จากคุณ : เป๋อเหวอ - [ 16 ม.ค. 50 23:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Licorice Extract ก็ผสมในประปุกแดงด้วยไงครับ  ^_^ จากคุณ : Start now - [ 16 ม.ค. 50 23:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สุดยอดเลยง่า จากคุณ : Alovera - [ 17 ม.ค. 50 00:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบค่ะ ได้ความรู้ดีค่ะ จากคุณ : creme_bouquet - [ 17 ม.ค. 50 02:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ดา Kojic acid เคยอยู่ใน vichy bi white รุ่นก่อน ตอนนี้ปรับสูตรใหม่เป็น licorice extract แทนแล้ว ไ่ม่ใส่ kojic acid แล้วค่ะ เพราะว่ามันมีข้อถกเถียงเรื่องสารก่อมะเร็งนี่ล่ะ ขอบคุณค้าบ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มี ใครนึกออกก็บอกอีกเน้อ เย็นนี้จะได้มาทำกระทู้ร่วมรวมอีกที Lactic acid ก็เป็น AHA อ่ะค่ะ มีประสิทธิภาพเรื่องให้ขาวถ้าใช้ร่วมกับตัวอื่น หลักของการใช้ AHA ร่วมกับตัวอื่นคืองี้ค่ะ พวก whitening ingredients ส่วนมากจะไป block melanin ค่ะ ซึ่งก็คือ เวลาผิวเราสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาด้านบน ก็จะมีสีอ่อนค่ะ เพราะงั้นพวกรอยดำจะลดลง (ถ้าทาเฉพาะรอย) หรือว่าผิวเราก็จะสีขาวขึ้นมาเพราะเซลล์ใหม่ ๆ ที่ขาวขึ้นเหล่านี้ ถ้าเราใช้ร่วมกับ AHA การผลัดเซลล์จะเร็วขึ้นงัยคะ แต่ก็จะทำให้การระคายเคืองผิวมากขึ้นนะคะ อันนี้ต้องระวังด้วย แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 07:37:27 จากคุณ : vamos_ferrero - [ 17 ม.ค. 50 07:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาต่อค่ะจากข้างบนค่ะ ลืมพูดเรื่อง laser treatment สำหรับกรณีของการรักษารอยดำ(เช่นจากแผลเป็นสิว) หรือจากฝ้ากระ ก็ยังมีวิธีการทำ laser อีกค่ะ ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น vbeam, ipl, aurora (new generation ของ IPL), long pulse Nd-Yag (เข้าไปใต้ผิวลึกกว่าแบบอื่น ๆ) แต่ทั้งนี้การทำเลเซอร์นั้น มีประสิทธิภาพแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นแผลเกินนานแค่ไหน และสีผิวค่ะ ถ้าผิวเดิมสีเข้ม เลเซอร์จะให้ผลน้อยกว่าผิวสีอ่อนค่ะ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายยังแพงด้วยค่ะ จากคุณ : vamos_ferrero - [ 17 ม.ค. 50 07:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาขอบคุณสำหรับกระทู้คุณภาพ(อีกแล้วครับท่านนน) ขอบคุณคุณ vamos_ferrero มากสำหรับข้อมูลนะคะ คุณ vamos_ferrero  น่ารักมากเลย อุตส่าห์ตอบคำถามให้หมดเลย ^ ^ ตอนนี้เราแอบใช้รองพื้น sisley ได้อย่างสบายใจและแอบเมินใส่ RMK ไปเล็กๆแล้วค่ะ 555 จากคุณ : RUBIS - [ 18 ม.ค. 50 10:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาอ่านและตอบได้แว้ววว หลังจากพันทิปกีดกันอยู่นานมาก   พูดถึง Niacinamide ที่ว่าช่วยป้องกันเรื่องสิวได้ มีน้องคนนึงเคยแนะนำว่าให้ใช้ olay รุ่นลดริ้วรอย 7 ประการ บอกว่าใช้แล้วหน้าจะขาวใส  แต่พี่ใช้แล้วสิวขึ้นเพียบเลยอ้ะ   หรือเพราะว่ามีตัวอื่นที่ทำให้แพ้ จากคุณ : so-coke - [ 21 ม.ค. 50 21:27:09 ]