มีเรื่องความรักของเราอยากมาระบายค่ะ T^T เราทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากมีชีวิตอยู่แบบนี้เลย..
อาจจะยาวสักหน่อย ก็ขอให้ช่วยรับฟังบ้างสักนิดนะคะ
เราได้รู้จักเค้าผ่านทางเพื่อนของเค้าอีกทีบนโลกอินเตอร์เนตในช่วงที่เรายังเรียนปริญญาตรี
แต่ในตอนแรกๆที่รู้จักกันนั้น ไม่มีอะไรเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนเลย และในช่วงนั้นเราก็คบอยู่กับแฟนเก่าอยู่ด้วย
จนในเวลาต่อมาก็ห่างๆกันไปตามทางชีวิตของตัวเอง(เป็นช่วงเรียนจบ แล้วก็รับงานพอดี)
แล้วในวันหนึ่งหลังจากที่ห่างหายไปนานพอสมควร เป็นช่วงที่เรารอเรียนต่อปริญญาโท และเขาก็กำลังเรียนจบ
รอสอบเข้าทำงาน เราก็ได้เจอกันอย่างบังเอิญอีกในmsn จากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมาด้วยความรุ้สึกดีๆ
แต่ก็ยังไม่เกินคำว่าเพื่อนเลย...
คงจะเป็นช่วงที่ต่างคนต่างเหงา ต้องการใครสักคน(เป็นช่วงที่เราเลิกกับแฟน ส่วนเขาก็คงมีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน)
และเป็นช่วงเวลาที่เราว่างๆ เราก็เลยมีเวลาได้มองคนๆนี้ในมุมมองที่ต่างไปจากเพื่อนคนเดิม ทำให้เราคิดว่า
ผู้ชายคนนี้ก็น่ารักดี น่าจีบเป็นแฟนจังเลย ส่วนทางเขาก็ไม่ค่อยมีคำพูดอะไร แต่ท่าทีของเขาก็ดูเหมือนจะมีใจให้เรา
ต่างคนต่างแกล้งทำท่าจีบกัน เรียกตะเอง เรียกเค้า โทรคุยโทรตามกันทุกวัน ทุกวันก็มีความสุขเล็กน้อยดีตรงที่
เราต่างมีใครให้พูดคุยให้คิดถึง...
เราเองก็รู้สึกดีๆกับเค้า จนเริ่มแอบชอบเค้าไปทีละนิด แต่ใจหนึ่งก็เตือนตัวเองว่า เรายังไม่เคยพบเจอตัวเค้าจริงๆ
ที่ไม่ใช่ในโลกอินเตอร์เนตเลย ก็เลยยังยั้งใจทีละนิด คิดซะว่าคบกันเล่นขำๆ ท่าทางเค้าก็ดูมีความคิดคล้ายๆเรา
ในตอนนี้เค้าเองอยู่ในช่วงกำลังจะเข้าทำงานเป็นวิศวกรแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนเราก็กำลังเริ่มเรียนต่อปริญญาโท
ในสาขาที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม...
จนกระทั้งวันหนึ่งเรามีปัญหาต้องการให้เค้าช่วยบางอย่าง ก็เลยได้โอกาสนัดเจอนัดพบกันในที่แห่งหนึ่งกลางเมืองกรุงเทพฯ
วันนั้น เราก็ยังจำได้ดี...ถึงการได้พบกับตัวตนของกันและกัน
เค้าเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาออกตี๋ๆหน่อย ผมเผ้าและการแต่งตัวดูยังไงก็เด็กเรียนดีๆนี่เอง...
ส่วนเรา เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาก็ออกโทรมๆหน่อยใส่แว่นดูแก่ๆ(แต่พอถอดแว่นนี่หน้าตาดูดีคนละเรื่องเลย)แต่งตัวง่ายๆพอดูได้
เพราะไม่ค่อยอยากแต่งตัว..
แต่การพบกันในวันนั้นก็น่าประทับใจ หลังการทำธุระของเราจนเรียบร้อยแล้ว เราก็ชวนกันไปเที่ยวห้องที่คอนโดของเรา(กล้าจริงๆ - -)
และเขาเองก็บอกว่าวันรุ่งขึ้นจะไปทำงานวันอาทิตย์ คืนนั้นเราก็ไมได้คิดอะไรมาก เค้าเป็นคนที่ดูนิ่งเฉยๆไม่ค่อยตอบโต้
กับการแกล้งของเราที่ปั่นปวนให้เค้าไม่ได้นอนเลยเกือบทั้งคืน(ชวนคุย จั้กจี้ตัวแบบเพื่อนเล่นกัน..แค่นั้น)
และก่อนนอนหลับสนิทในคืนนั้น...เราก็เกิดนึกสนุก ไปจูบที่ปากเค้าเบาๆ เค้าก็ดูสะดุ้งๆแต่จากนั้นเราก็หลับไปกันทั้งคู่
จนในตอนเช้าเราก็โดนเค้าแกล้งคืน โดนแกล้งลวนลามไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกันมากมาย และคืนวันถัดมา เค้าก็เปลี่ยนใจอยู่กับเรา
(ไม่ได้ทำอะไรกัน)และออกไปทำงานตอนเช้ามืด
หลังจากวันนั้น เราก็ยังคงติดต่อกันโดยตลอด นัดเจอกันไปเที่ยว ไปดูหนัง มานอนค้างที่ห้องเราบ้าง ในตอนนั้นเราทั้งคู่รู้สึกสับสน
ในบางครั้งเราเองก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะคบกับเค้าเป็นแฟนดีไหม ส่วนเค้าบางครั้งเองก็ท่าทางลังเล..
แต่ในเวลาต่อมา เราก็เปิดอกคุยกัน และก็ตกลงเป็นแฟนกัน และคบกันได้หลายเดือนพอสมควรเราก็มีอะไรกัน น่าแปลกที่เรารู้สึกว่า
sexที่เกิดจากความรักของทั้งสองคน(ตามที่เราเข้าใจ)มันมีความสุขมากมายจริงๆ
(ตอนคบกับแฟนเก่าโดนบังคับเรื่องนี้ เลยไม่มีความสุขและเลิกกันต่อมา จนเราตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีอะไรกับใครจนกว่าแน่ใจว่าจะแต่งงานกัน)
เรากับเค้าไปมาหาสู่กันเรื่อยมา แต่ส่วนใหญ่เค้าจะมาหาเรา ส่วนเรื่องในอดีตเราตกลงกันว่าถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องเล่า แต่เราก็เล่าให้เค้าฟังบ้าง
เพราะไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิด ส่วนเค้าดูลังเลไม่อยากจะเล่าให้ฟังเลยไม่ได้พูดถึงอีก
เราคบกันเป็นแฟนอย่างเปิดเผย แม้ว่าเราไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน ส่วนใหญ่เค้าจะมานอนค้างห้องเราในวันหยุด เรามีความทรงจำมากมายหลายอย่าง
ร่วมกัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาบ้าง ทั้งงานรับปริญญาของเค้า พาเค้าไปตัดผมแต่งตัวให้ดูดี ดูแลเค้าในยามป่วย และเค้าเองก็พยายามให้เราเปิดตัวเอง
ให้รู้จักกล้าแต่งตัวให้ดูดี ให้รู้จักกล้าตัดสินใจ ตั้งใจเรียนและพยายามดูแลให้เราเป็นคนมีควารับผิดชอบต่อตัวเองในหลายๆเรื่อง(ออกแนวเป็นพ่อ - -)
และในทุกเดือนๆก็ช่วยออกค่าใช้จ่ายทั้งที่เราไม่ได้ขอ เราทั้งคู่ต่างเป็นตัวของตัวเองและยอมรับซึ่งกันและกัน คบกันมาตอนนี้ก็ราวๆ1ปีครึ่งแล้ว
เราเคยถามกันว่าอยู่ด้วยกันมีความสุขไหม และเค้าก็ยังบอกรักเราเสมอ.. เรามีความสุขมากมายจนน่ากลัว เวลาที่ได้อยูใกล้กัน เป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่เรารู้สึกว่าเรามีคนๆนี้แล้ว ก็เหมือนกับเรามีทุกอย่าง เรามีกำลังใจที่จะทำอะไรมากมายๆ อยากทำเพื่ออนาคตของเรา อยากทำให้เค้าภูมิใจ..
จนวันเสาร์ที่ผ่านมา เราทะเลาะกันเล็กน้อย เกี่ยวกับปัญหาเรื่องเพื่อนของเค้าแต่ก็เคลียร์แล้ว ไม่มีอะไรติดใจกัน แต่ใน2-3วันที่ผ่านมา..เค้าก็
เงียบหายไป ไม่ยอมติดต่อมา..ไม่ยอมรับโทรศัพท์(เปิดเครื่องไว้แต่ปิดเสียง)ทั้งที่ห้องพักและมือถือ ทำให้เรากังวลร้อนใจมากว่าเราไปทำอะไร
ให้เค้าคิดมากหรือเปล่า จนกระทั่งเมื่อวาน เค้าก็ติดต่อมา..และพอถามถึงสาเหตุที่เงียบหายไป เค้าก็ตอบว่า มีเรื่องของเราให้คิด
เค้าเองก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ใช้ความคิดตลอด2-3วันที่ผ่านมา ในนาทีนั้น ใจเรารู้สึกกระตุกวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...แล้วเราก็ได้คุยกันสักพัก
เค้าบอกเราว่า...คนรักเก่าของเค้ากลับมาหาเค้าแล้วหลังจากที่จากกันไป ราวๆ 2ปีกว่า กลับมาได้สักระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้บอกเราให้รู้
และหลังจากทีเค้าได้พูดคุยกันกับคนๆคนนั้น ได้ไปพบกัน ทำให้เค้าต้องเก็บไปคิดว่าจะเลือกใครดี ซึ่งเค้าได้บอกกับเราว่า "เค้ายังคงรักคนเก่าอยู่
คนรักเก่าของเค้าคือคนที่เค้าเลือกแล้วว่าถ้าอยู่ด้วยแล้วเค้าจะมีความสุขมากที่สุด เค้าได้ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้แล้ว" ในตอนนั้นเรารู้สึกชาไปทั้ง
ตัว หัวใจเราเจ็บแปลบ รู้สึกจุกในอก ร้องไห้ไม่ออก...
ในชีวิตเราที่ผ่านมานั้น ไม่เคยเจ็บปวดอะไรเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย....
เค้าบอกเราว่า เค้ายอมรับว่าเค้าเห็นแก่ตัว เค้ายังรักเราอยู่ เวลาที่ผ่านมายอมรับว่ารักเรา แต่เค้าก็ยังคงรักคนระกเก่าของเค้า
เค้ารู้ว่าเราจะต้องเจ็บปวดเสียใจมาก แต่เค้าก็คิดพิจารณาดีแล้วจึงเลือกเดินเส้นทางนี้ ขอโทษที่รักษาสัญญาที่จะทำร่วมกันในอนาคตไม่ได้
จากนี้ไปขอให้เราดูแลรักษาตัวให้ดี ให้ทำเพื่อตัวเอง ในอนาคตถ้าเจอใครที่ดีๆผ่านเข้ามาก็ไม่ต้องรอเค้า อย่าปิดกั้นตัวเอง อย่าคิดสั้น
เรื่องของเราให้จบลงแค่นี้...ขอให้โชคดี
เราพยายามยื้อให้เค้ามาพบเราเป็นครั้งสุดท้าย แต่เค้าก็ปฏิเสธทุกทางที่จะมาพบเรา เค้าบอกไม่อยากให้เราเจ็บมากไปกว่านี้ ...
ส่วรเราในตอนนี้ยอมรับว่า แค่นี้ก็เจ็บมากอยู่แล้ว มันทรมานมากจริงๆ มีชีวิตอย่างซังกะตาย หัวใจเจ็บแปลบตลอดเวลาในชีวิตนี้เพิ่งจะเคยรู้ว่า
"ตกนรกทั้งเป็นมันเป็นยังไง..." พยายามกินข้าว พยามนอนหลับแต่ก็ทำไม่ได้ สมองสั่งให้เราทำใจ พยายามลุกขึ้นให้อยู่ด้วยตัวเองให้ได้
พึ่งตัวเองให้ได้ แต่เราในตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออกเลย ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไร ไม่อยากลืมความทรงจำดีๆแต่ก็ไม่อยากจะจดจำให้เจ็บปวด
ยังดีอยู่บ้างที่ในช่วงเวลานี้เรามีเพื่อนรอบๆตัวที่คอยเป็นห่วง และก่อนหน้านี้เราได้ตัดสินใจจะไปทำงานfreelanceที่ต่างจังหวัดหลายเดือน
แต่เราไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้..เราไม่มีใครให้รอที่ห้องเราอีกแล้ว..ในทุกที่ๆที่เราต้องผ่านไปตอนนี้ก็มีแต่ความทรงจำที่เรา
กับเค้าเคยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ความเจ็บปวดก็วนเวียนเข้ามาเสมอๆ ทั้งถนนที่เราทั้งคู่เคยเดินไปทะเลาะไป.. ร้านที่เคยไปซื้อของด้วยกัน..
หมอนใบเดียวที่เคยนอนด้วยกัน...มาม่าที่เคยกินชามเดียวกัน...มันมากมายเกินกว่าที่จะลืม เราทำใจไม่ได้จริงๆ
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมความรักที่ผ่านมา 1 ปีกว่าของเราถึงถูกตัดสินด้วยระยะเวลาเพียงเท่านี้ แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรล่ะ??
ไม่เข้าใจเลย...
จากนี้ไปฉันจะรักใครได้อีก
ในเมื่อหัวใจมันเคยเจ็บช้ำขนาดนี้..
ในตอนนี้มันยาก แม้แต่การพยายามจะรักตัวเอง
แม้จะก็เข้าใจว่าต้องลุกขึ้นสู้ให้ได้ก็ตามที
ใจหนึ่งก็อดริษยาอาฆาตไม่ได้
อยากให้เค้ากับคนรักต้องเลิกกัน
ต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเจ็บปวด เพื่อจะได้นึกเสียใจที่ทำอะไรกับเราไว้
แต่ทำไม...
มันก็คิดทำลายเค้าจริงจังไม่ได้สักที
คงเป็นเพราะเรารักเค้ามากเกินไป...
มากกว่าที่จะรักตัวเอง
ขอบคุณที่ช่วยอ่านจนจบและรับแชร์ประสบการณ์ของเราค่ะ TT_TT
จากคุณ :
คนแปลกหน้าที่รู้จักกันดี
- [
19 ม.ค. 50 18:00:04
A:58.9.145.111 X: TicketID:136677
]