มาแล้วคะ
raw food ก็คืออาหารที่ไม่ผ่านความร้อนเกิืน 48'c
ฺฉะนั้นอาหารหลักก็จะเป็น
- ผักสด แห้ง แช่แ็ข็ง
- ผลไม้สด แห้ง แช่แ็ข็ง
- เห็ดต่าง ๆ
- ถั่ว และ เมล็ดธัญพืชต่างๆ
การรับประทานผักและผลไม้สดจะได้สารอาหาร (nutrient)
ที่หลากหลาย
และเราได้รับคุณค่าอาหารมากกว่าอาหารที่ทำให้สุกแล้วหลายเท่านัก
และในผักผลไม้สดนั้นยังมีเอนไซม์มากกว่า หลายเท่า
ถ้าเราศึกษาดีๆจะพบ
ผักทั้งหลาย (มียกเว้นบางชนิด) ที่ผ่านการทำให้สุกแล้ว
เหลือคุณค่าทางและไวตามินแค่ 1/4
บางชนิดแทบไม่เหลือเลย
แต่กลับให้พลังงานเป็นเท่าตัวหลังจากสุก
แล้วเนื่องจากเปลี่ยนไปเป็น แป้งแทน
ขอหยิบยืมคำบางคำของคนที่เขาทำวิจัยมาฝากแล้วกัน นะคะ
เขาบอกว่า
คนเราหิวบ่อยเนื่องจากเรารับสารอาหารไม่เพียงพอ
ใน ข้าว แป้ง เนื้อสัตว์ ให้พลังงานเยอะ
ต่อให้เรากินมากแค่ไหนใน วันหนึ่งๆ ก็ไม่เพียง
สารอาหารที่ร่างกายเราต้องการ
ยิ่งถ้าเรากินมากเท่าไหร่ยิ่งมีแต่ผลเสียแถมอ้วนอีก
และอีกอย่างคือ ลดการกินเนื้อสัตว์ไปในตัว
ได้รับฮอร์โมนจากเนื้อสัตว์น้อยลงไปด้วย
แถมได้หลีกเลี่ยงอาหาร กินเล่น
เครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ อาหารกระป๋อง
หลังจากเราเองเปลี่ยนมาเป็น raw food 60-70%
ได้พักใหญ่ๆแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมาก
ผิวพรรณแวววาว ผมมันเป็นประกาย ทั้ง 2
อ้นนี้คนอื่นทักมามากคะ
ทั้งที่ไม่บ้ากิน อาหารเสริม หรือ ใช้ คสอ
เหมือนสมัยก่อน ^_^
ตอนนี้ที่ทำงานเขาบอกว่าเราเหมือน อายุ 22-23 ทั้งที่เรา
35 ผิดกับตอนอยู่เมืองไทย
อายุไม่ถึง 30 หาว่าเรา อายุ 35 เวงกรรม
ผลพลอยได้มากมายหลายอย่าง ทั้งภายนอก และภายในคะ
จากการที่ ศึกษา ทานและปรับเปลี่ยน มาหลายแบบ ไม่ว่า
จะเป็น ชีวจิตร แมคโครไบโอติค
เราว่า raw ง่ายและก็ประหยัดตังค์
และเวลาแถมเห็นผลชัดที่สุด
เราขอยกอย่างการกินของเราเองให้ดูแล้วกัน และก็จะให้
เวบไปศึกษาด้วยคะ
เพื่อนๆสามารถปรับแบลงตามชอบ ที่ยกตัวอย่างของเราเอง
เพียงแต่อยากให้ภาพแค่นั้น
จากคุณ :
nokdove
- [
12 ก.พ. 50 04:20:00
]