ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ ขอความกรุณาโหวตเป็นกระทู้แนะนำได้ไหมคะ อยากให้ทุกท่านที่คิดจะบริจาคเลือดได้อ่าน ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 12 ก.พ. 50 08:18:39 A:192.165.213.18 X: TicketID:062425 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ยักรู้ มีคนคิดแบบนี้ด้วย เห๊นพี่ชายเรา จะไปบริจาคเลือด ตั้งแต่เดือนมกรา ปีนี้ งานเขาเยอะ พักผ่อนน้อย เขายังไมไปเรยย ย เอ ..รึว่า บางคนมีความคิดแบบนี้ คงไม่มั่งคะ จขกท. มองโลกในแง่ดี เนอะ!! โหวด 1 เสียงคะ เป๊นกำลังน๊าๆๆ ๆ จากคุณ : แพรวขวัญ - [ 12 ก.พ. 50 08:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านกระทู้แล้ว ต้องรำพึงว่า "เออจริง" ผมก็ชอบบริจากโลหิตนะ จนที่สุดก็ได้ภรรยาเป็นพยาบาลที่มารับบริจากโลหิต 555 / ขอยืนยันว่า มีหลายคนเหมือนกันนะ ที่เค้าไปบริจากโลหิตเพื่อจะได้ทราบว่า ตัวเองติด AIDS หรือเปล่า   .. ถ้าคุณอยู่ในภาวะเสี่ยงขอให้งดบริจากนะครับ เพราะ ระยะเชื้อฟักตัวมีโอกาสที่จะตรวจไม่เจอโรคเหมือนกัน แทนที่จะได้บุญ ก็กลายเป็นทำบาป จากคุณ : แว่น (รังสิตปทุม) - [ 12 ก.พ. 50 09:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีประโยชน์เป็นที่สุด ขอโหวตให้ 1 เสียงคับ จิง ๆ ผมก้อเป็นคนหนึ่งนะที่ชอบการบริจาคโลหิตแต่ไม่เห็นได้แฟนแบบ คห.3 เลยแต่เป็นนักบัญชีแทน (อิอิ) ถ้าคิดจะตรวจหาโรคร้ายผมว่าไปโรงพยาบาลตรวจจะดีกว่านะครับเพราะว่าคุณจะเสียเลือดน้อยกว่าการบริจาคนะครับ จากคุณ : nongsab - [ 12 ก.พ. 50 09:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยครับ ผมจัดว่าคนพวกนี้ "เลว" ครับ ไม่ได้เลวที่สำส่อน แต่เลวที่มักง่ายกับชีวิตคน ตัวผมเองกิน Allopurinol ซึ่งเป็นหนึ่งในยาที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่ายติดต่อกันมาหลายปี แม้ว่ายาต้ัวนี้จะไม่เป็นพิษอะไร ผมยังไม่กล้าที่จะบริจาคเลือดเลย เพราะถ้ามีคนบังเอิญแพ้ขึ้นมาพอดี โชคร้ายถึงตายได้ จากคุณ : Epinephrine - [ 12 ก.พ. 50 09:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตๆๆ เราก็เพิ่งรู้นะนี่ ว่ามีคนอยากบริจาคเลือด เพื่อต้องการตรวจเอดส์ เวลาเห็นข่าวคนที่ไปรับบริจาคเลือด แล้วได้รับเชื้อเอดส์มาด้วยเนี่ยมันรู้สึกสงสารคนได้รับเชื้อจริงๆ จากคุณ : เจ้าหญิงจอมเปิ่น - [ 12 ก.พ. 50 09:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คนบริจาคหลายๆคนอาจจะไม่รู้มั้งครับ ว่าถ้าอยู่ในระยะฟักตัวจะทำให้ตรวจไม่พบ แล้วอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อนในภายหลัง ผมเชื่อว่าถ้าหลายๆคนที่คิดจะตรวจเอดส์โดยวิธีนี้ได้รู้ข้อมูลในส่วนนี้ เขาอาจเปลี่ยนใจไปตรวจที่อื่นที่ไม่ใช่จุดรับบริจาคเลือดก็ได้ครับ แต่ถ้ารู้แล้วยังทำก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว.. จากคุณ : kinslayer - [ 12 ก.พ. 50 10:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาช่วยโหวตให้ค่ะ จากคุณ : กาเมไรด้า - [ 12 ก.พ. 50 10:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนคิดแบบนี้...สะเทือนใจงะ คิสบริจาคเลือดปีละครั้ง(ร่างกายไม่แข็งแรงงะคะ ได้แค่นี้จริงๆ) และก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครเจตนาแบบนั้น โหวตให้นะคะ จากคุณ : หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal) - [ 12 ก.พ. 50 10:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ? ถ้าสงสัยว่าเป็นทำไมไม่ไปตรวจเป็นเรื่องเป็นราวเลยล่ะคะ ทำไมต้องทำมาเป็นบริจาคเลือดด้วยอะ? จากคุณ : เห็บหมา - [ 12 ก.พ. 50 11:32:03 A:124.120.161.31 X: TicketID:136862 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โหวดให้ค่ะ จากคุณ : คนรับใช้ในบ้าน - [ 12 ก.พ. 50 11:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตรวจคัดกรองเลือดที่บริจาคในประเทศไทยคือตรวจ Antigen แต่ก็ยังมี window period ที่วินิจฉัยไม่ได้หลังติดเชื้อ 16 วัน ความแม่นยำก็คงไม่ถึง 100% อยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีเลือดหลุดรอดที่ตรวจไม่พบ สักหลักหมื่น หลักแสน ก็พบได้ ไม่รู้กี่เปอร์เซ็นต์ แค่นี้คนที่ต้องรับเลือดก็อกสั่นขวัญแขวน ว่าจะโชคร้าย ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งหรือเปล่า คนที่จะลดความเสี่ยงตรงนี้ได้คือผู้บริจาคต้องคัดกรองตัวเองให้ดี ถ้ามีความเสี่ยงก็ไม่ควรไปบริจาค การซักประวัติเขามีอยู่แล้ว ตอบตามความจริง จะได้ทำบุญ ไม่ใช่ทำบาป คนที่บริจาคหวังตรวจเอดส์นี่เลวร้ายเทียบเท่าอาชญากรผู้ร้ายฆ่าคนเลยทีเดียว จากคุณ : ZtahC - [ 12 ก.พ. 50 11:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาช่วยโหวตค่ะ จากคุณ : เสือสาวเขย่าโลก - [ 12 ก.พ. 50 12:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราก็เป็นคนที่ชอบบริจาคเลือดมาตั้งแต่ ม.5 แล้วค่ะ แต่ช่วง 2-3 ปีมานี้ เราโลหิตจางตลอด เลยไม่สามารถไปบริจาคได้ เสียดายมากๆ แฟนเก่าเรา ตัวใหญ่โตแข็งแรง อยากให้เค้าไปบริจาคหน่อย แต่เค้าบอก "กลัวเข็ม" สำหรับเรื่องเอดส์ คือถ้าคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง ก็ไม่ควรบริจาคอยู่แล้วค่ะ ถ้าอยากตรวจเอดส์ไปโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ 300 บาทเอง เพื่อนเราก็ไปตรวจมา จากคุณ : yingcs - [ 12 ก.พ. 50 12:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น้ำหนักไม่ถึงจ้า อยากบริจาคเหมือนกัน แม้ว่าจะกลัวเข็ม จากคุณ : Papayahanaga - [ 12 ก.พ. 50 13:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านแล้วรู้สึก แย่ กับคนที่ทำแบบนี้จริงๆ จากคุณ : succubus - [ 12 ก.พ. 50 13:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตค่ะ... คนคิดแบบนี้นี่ มักง่ายและเห็นแก่ตัวจริงๆเลย จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 12 ก.พ. 50 14:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตค่ะ เราเชื่อว่ามีคนคิดอย่างนั้นเยอะค่ะ เพราะว่าคงกลัวที่จะไปตรวจกะสถานที่แล้วรอฟังผล กลับตรงกันข้ามไปบริจาค ถ้าเค้าไม่แจ้งกลับมา แสดงว่าเลือดโอเค แต่อย่าคิดอย่างนี้กันเลยนะคะ เราอ่านข่าวที่ภรรยาท้องแล้วคลอดลูกแล้วขาดเลือด แล้วได้รับเลือดของคนที่เป็นน่ะ เรารู้สึกเสียใจ และรู้สึกว่าทางโรงพยาบาลไม่มีความรอบคอบเลย และคนที่คิดว่าตัวเองเข้าข่าย ควรจะดูแลตัวเองดีกว่า ไปทำกรรมเพิ่มเนอะ จากคุณ : Cutekate79 - [ 12 ก.พ. 50 14:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 vote kaab จากคุณ : ถ้วยกลม - [ 12 ก.พ. 50 14:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยงก็ไม่ควรแม้แต่จะคิดไปบริจาคครับ จากคุณ : Marquez - [ 12 ก.พ. 50 14:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขาประจำธ.เลือดมาช่วยโหวตครับ แต่งงานแล้วไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงบริจาคทุก3เดือนครับ(ถ้าไม่ลืม)เมื่อเช้าเพิ่งบริจาคมาเลือดหกใส่ จนท.ด้วยเธอไม่กลัวเลยครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 50 15:10:01 จากคุณ : อันดา อันดามัน - [ 12 ก.พ. 50 15:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อกี้ภาพใหญ่ไปเอาไหม่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : อันดา อันดามัน - [ 12 ก.พ. 50 15:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่น่าเชื่อว่ามีคนที่เจตนาแบบนี้ด้วย โหวตค่ะ จากคุณ : asp_ash - [ 12 ก.พ. 50 15:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เอาเป็นว่าก่อนไปบริจาคขอให้ชัวร์ก่อนว่า ไม่มีเชื้อhiv แน่ๆนะ จากคุณ : บีโกะ - [ 12 ก.พ. 50 15:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Vote..... จากคุณ : Tanaporn - [ 12 ก.พ. 50 16:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วเหวอ ปรกติเราบริจาคเลือดปีละ 3 ครั้งได้ ไม่นึกว่าจะมีคนบริจาคเลือดเพราะอยากตรวจ HIV นะนี่ คิดได้ไงนี่ จากคุณ : la-la-bell - [ 12 ก.พ. 50 16:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาช่วย  Vote   ค่ะ จากคุณ : นู๋นุ้ยอยากทำอาหารอร่อย (nui_kiku) - [ 12 ก.พ. 50 17:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สมมตินะครับ สมมติ คือถ้าคนไข้ติด aids จริง แล้วพิสูจน์ได้ว่า ติดจากเลือดที่รับบริจาค เผอินระบุถุงเลือดได้ซะด้วย ( สมมติ ให้เหมือนนิทานไว้ก่อน ) ใครผิดล่ะ ความรับผิดชอบอยู่ที่ใคร 1. ผู้บริจาคเลือด 2. หน่วยรับบริจาคเลือด 3. lab ตรวจเลือด 4. ธนาคารเลือด 5. หมอผู้รักษา 6. โรงพยาบาลผู้รักษา ผมว่าคงมีเคสติดเชื้อ aids แบบนี้มาแล้ว แต่คงก้มหน้ารับเคราะห์กันไป โทษชะตากรรมตัวเอง แต่ผมว่าคนไข้ ควรได้รับความคุ้มครอง มากกว่าก้มหน้ารับกรรม ...................................................................... จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 12 ก.พ. 50 17:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองแข็งแรง ก็ขออย่าไปบริจาคเลยค่ะ ได้โปรด เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุ ได้รับเลือดที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบมาด้วย นี่ก็เกือบสิบปีแล้ว ที่ต้องหาหมอเช็คตับ กินยา และดูแลตัวเองตลอด จากคุณ : ยุ้ย - [ 12 ก.พ. 50 17:57:14 A:77.123.158.109 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นั่นสิคะ  เห็้นด้วยเลย  พ่อเราก็ได้รับเลือดที่ไวรัสตับอักเสบมาค่ะ แต่นี่เป็นเรื่องเมื่อหลายสิบปีก่อน(ถึงจะไม่ใช่เอดส์ก็เถอะ  แย่มากๆเลยนะคะ  ตอนนี้พ่อเราก็เสียไปแล้ว  เพราะเป็นมะเร็งตับ จากคุณ : La Sirene - [ 12 ก.พ. 50 18:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตให้นะคะ ไม่น่าเชื่อว่ามีคนคิดเเบบนี้จริงๆด้วย จากคุณ : น้องหมาปลาเซียว - [ 12 ก.พ. 50 18:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวต ด้วยคนค่ะ จากคุณ : ฉุกละหุก - [ 12 ก.พ. 50 18:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พึ่งรู้ว่ามีคนคิดอย่านี้ด้วย น่ากลัวจัง จากคุณ : tamiflu - [ 12 ก.พ. 50 20:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันคงไม่ใช่คน จากคุณ : Blue Tang - [ 12 ก.พ. 50 21:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อยากบริจาคมาก ๆ เห็นคนตามหาขอรับบริจาคเลือดหลายที่แล้ว แต่น้ำหนักไม่ถึง ไม่เคยได้บริจาคซักที พยาบาลบอกว่าต้อง 45 up จริงรึป่าวคะ ป้าหนัก 42 เค้าจะให้บริจาคบ้างรึเปล่า แบบว่าไปขอ ๆ เค้าอ่ะ เค้าจะให้มั้ย?? อยากบริจาคจริง ๆ นะ ไม่กลัวเข็มด้วยเอ้อ... จากคุณ : ป้าจะอิ๊บ (jipnaja) - [ 12 ก.พ. 50 21:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาโหวตให้ค่ะ ปล.ป้าจะอิ๊บเป็นเหมือนเราเลยค่ะ น้ำหนักไม่เคยถึง แต่สุดท้ายเราได้บริจาคแล้วนะคะ หลังจากฟิตร่างกายมาเต็มที่ ไม่ได้ี่ 45 เป๊ะ แต่ใกล้เคียง คุณพยาบาลก็บอกว่า นน. ค่อนข้างน้อยนะ แต่เค้าก็ให้บริจาคค่ะ แต่สำหรับคุณป้าจะอิ๊บอาจจะน้อยไปหน่อยอะค่ะ ได้บริจาคแล้วรู้สึกดีมากเลยจริงจริง :) จากคุณ : Windchime - [ 12 ก.พ. 50 21:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาบอกด้วยคนว่า การบริจาคโลหิตนั้น ทางพุทธศาสนา นับได้ว่า เป็นการทำบุญในขั้น อุปบารมี คือ...การบริจาคส่วนหนึ่งในร่างกายเพื่อต่อชีวิตอีกผู้หนึ่ง ฉะนั้น ก่อนบริจาคควรตั้งมั่นในใจว่าเราจะทำบุญเพื่อต่อชีวิตผู้อื่น ขณะบริจาค ควรกำหนดจิตว่า ขอให้ผู้ที่ได้รับโลหิตเรานั้น มีชีวิตรอดปลอดภัย ก่อนการรับบริจาค ทางสถานที่รับบริจาค จะต้องสอบถาม ผู้บริจาคอย่างละเอียดทุกครั้ง ผู้ตอบ..จึงควรตอบไปตามความเป็นจริง การปกปิดส่วนที่เป็นอันตรายต่อคนไข้... คิดว่าน่าจะเป็นตราบาปในใจผู้คนเหล่านั้นนะคะ ขณะนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ก็ได้เปิดรับบริจาคโลหิตอย่างเต็มความสามารถในการรับ ขออนุโมทนาบุญแด่ท่านผู้บริจาคโลหิตทุกท่าน จากคุณ : BLOOD (@NBC) - [ 12 ก.พ. 50 21:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไม่แน่ใจเรื่องไวรัสตับ ผมว่าเขาน่าจะ screen ได้อยู่แล้ว ทำไมเล็ดรอดมาได้? และคนเป็นไวรัสตับส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมพันธ์ เป็นมานานแล้ว น่าจะตรวจได้? อย่างเช่นผม เมื่อ 5 ปีก่อนไปกับกลุ่มจักรยานเพื่อจะไปบริจาคเลือดเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 48 ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นไวรัสตับด้วย เนื่องจากร่างกายแข็งแรงไม่มีอาการอะไร กาชาดยังตรวจเจอ ไม่รับเลือดและส่งใบแจ้งมาให้ทราบ รับรองผมไม่ใช่คนส่ำส่อนแน่ๆ สาเหตุที่ไม่บริจาคก่อนหน้านั้น เนื่องจากตอนหนุ่มๆ ผมความดันต่ำและผอมเกินไปครับ พยาบาลเขาวัดแล้วว่าไม่ผ่านเกณท์ พอแก่แข็งแรงความดันปกติ ก็ไม่สามารถบริจาคเลือดได้อีก เฮ้อ เวลาตรวจเลือดประจำปี ตรวจแค่ basic เท่านั้น เขาไม่เห็นตรวจเรื่องไวรัสเลย สงสัยต้องการประหยัดเงินมั้ง? จากคุณ : K.Senior - [ 12 ก.พ. 50 22:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อย่าทำเช่นนั้นเลยค่ะ คนที่ทำอย่างนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าคุณได้ทำอะไรลงไปบ้าง การตรวจเลือดสำหรับผู้บริจาคนั้น ต้องใช้เงินมากนะคะ ค่าถุงใส่เลือดก็แพง ค่าตรวจไม่ใช่ถูกๆ อุปกรณ์เอย น้ำยาตรวจเอย ต้องนำเข้ามาทั้งนั้น ย้ำ..ไทยทำเองไม่ได้นะคะ ถ้าเลือดคุณบวก เขาต้องทิ้งเลือดคุณ แต่เขาก็ตรวจเลือดคุณแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เกิดขึ้นแล้ว และเงินนี้มาจากเงินบริจาคด้วยนะคะ การที่ใครคิดบริจาคเลือดด้วยสาเหตุอยากตรวจ AIDS ล่ะก็ เลิกเถอะค่ะ ที่ตรวจที่อื่นมีถมไป ไม่เบียดเบียนใครด้วย จากคุณ : ... (yhumo) - [ 12 ก.พ. 50 22:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 --- ช่วงนี้โลหิตขาดแคลนครับ  ขอเชิญร่วมช่วยบริจาคโลหิตกันนะครับ ^o^ เรื่องการบริึจาคโลหิต ข้อมูลที่ต้องกรอก มีความสำคัญมากครับ  ต้องให้ตามความเป็นจริงทุกอย่าง ระบบการคัดกรองเลือดของสภากาชาดไทย มาตรฐานระดับโลกครับผม...แต่คนบริจาคต้องให้ข้อมูลจริง เหตุการณ์ที่ผู้รับบริจาค จะมีโอกาสได้รับเชื้อ ...  คือ อุบัติเหตุฉุกเฉิน แล้วต้องการเลือดด่วนในทันที และเลือดในคลังโรงพยาบาลมีไม่พอ ... เช่น การผ่าตัดช่วยชีวิต  รับบริจาคเลือดทันที กรณีแบบนี้ มีความเสี่ยงสูงกว่าบริจาคแบบปกติครับผม ยืนยันว่า  การบริจาคเลือดเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ครับ... จากคุณ : เหมียวหล่อ (myth) - [ 12 ก.พ. 50 22:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โหวตค่ะ ช่วงนี้พักผ่อนน้อย   ขอนอนเตมที่ ซักสามวัน  จะไปบริจาคนะคะ ^^ จากคุณ : ladywitch - [ 12 ก.พ. 50 22:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตให้นะครับ เพิ่งทราบว่ามีคนคิดแบบนี้ เศร้าจริง ผมไม่เคยบริจาคเลยครับ เพราะต้องใช้ Isotretinoin ตลอดเลยอ่ะ -*- จากคุณ : toh TH - [ 12 ก.พ. 50 23:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กำลังพยายามรวบรวมความกล้าไปบริจาคเลือดค่ะ ทั้งที่ตัวเองกลัวเข็มมาก ๆๆๆ ( ฉีดยาแต่ละครั้งแทบจะกราบกรานหมอว่ามียากินมั๊ยค่ะ คิดดูสิอายุ 22 ไปฉีดยาแล้วร้องลั่นโรงพยาบาลนี่รู้สึกละอายใจค่ะ )  การบริจาคเลือดเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่เราอยากจะทำให้ได้ก่อนตาย เมื่อไหร่ที่ร่างกายพร้อม จิตใจพร้อมเราจะดำเนินการทันทีค่ะ และไม่เห็นด้วยกับคนที่อยากบริจาคเลือดเพียงเพราะว่าต้องการจะตรวจหาเชื้อต่าง ๆ ถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาอยากให้ลองคิดดูสักนิดว่าคุณทำบาปขนาดไหน คนที่เค้ารับเชื้อจากคุณไปก็เท่ากับเค้าตายทั้งเป็น จากคุณ : หนูปิว (Accountant_Girl) - [ 13 ก.พ. 50 00:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วขนลุกอ่ะ รู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนทำแบบนี้ ใจร้ายมากๆ เลย ที่เล่นเอาชีวิตของคนอื่นมาเสี่ยงกับตัวเองด้วย หวังว่าคนที่คิดจะทำแบบนี้คงจะเลิกคิดที่จะทำนะคะ โหวตให้อีกหนึ่งคนค่ะ จากคุณ : แมวจอมกวน - [ 13 ก.พ. 50 02:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องแบบนี้มีจริงๆครับที่อยากตรวจเอดส์ด้วยการบริจาคเลือด ผมว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้เลยควรใจกล้าไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่า จากคุณ : changiam - [ 13 ก.พ. 50 05:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มาโหวตด้วยค่ะ เห็นด้วยอย่างแรง จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน - [ 13 ก.พ. 50 08:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 น่าเศร้านะคะ ไม่สบายแล้วยังจะต้องเสี่ยงกับเอดส์ที่คนอื่นหยิบยื่นมาให้อีก ใครที่คิดจะบริจาค ให้มั่นใจดีกว่านะคะว่าจะเป็นการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่ไปทำร้ายหรือซ้ำเติมคนที่ต้องการเลือดไปต่อชีวิต พวกที่มีพฤติกรรมเสี่ยงน่ะ ถ้าเคยตรวจแต่นานมากแล้ว ก้อไปทำบุญวิธีอื่นเถอะนะคะ เพราะถ้ามันอยู่ในระยะเพาะเชื้อ โชคร้ายจะอยู่ที่คนรับค่ะ ปล.พรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก มามอบความรักแก่กันโดยการไปบริจาคเลือดดีกว่า เราก้อจะไปเหมือนกัน เท่าที่รู้พรุ่งนี้จะมีมารับบริจาคที่ ตึก GMM อโศก และที่ สาธรซิตี้ ถ.สาทร นะเจ้าคะ จากคุณ : January_Diva - [ 13 ก.พ. 50 10:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โหวตค่ะ จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 13 ก.พ. 50 11:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 การบริจาคโลหิต ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด (ได้รับอนุญาต จากเจ้าของภาพให้เผยแพร่แล้ว) จากคุณ : BLOOD (@NBC) - [ 13 ก.พ. 50 11:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 บริจาคล่าสุด เมื่อ 08/02/2550 หวังว่าในอนาคตอันใกล้ คงจะมีกระบวนการที่ทำให้เลือดที่รับบริจาคปลอดเชื้อ 100 % หรือสามารถตรวจแล้วทราบผลได้เลยนะครับ จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 13 ก.พ. 50 13:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สะเทือนอารมณ์ จากคุณ : popodyssey - [ 13 ก.พ. 50 14:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ที่จริงต้องขอว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขอโรคนี้อย่าบริจาคเลือดเลยดีกว่าค่ะ เพราะเพื่อนเราที่เป็นพยาบาลบอกว่า เอดส์บางทีต้องรอ3-4ปีกว่าจะตรวจเจอว่าเป็นแหน่ะค่ะ จากคุณ : ลิง - [ 13 ก.พ. 50 14:55:52 A:124.120.75.86 X: TicketID:131985 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ปกติกลุ่มเสี่ยง เค้ามีแบบสำรวจเบื้องต้นอยู่ด้านหลัง ก่อนทำการบริจาค ถ้ารู้ว่าอยู่กลุ่มเสี่ยงก็ไม่น่าบริจาค เคยพาเพื่อนไปบริจาค ปรากฎว่า เมื่อเดือนก่อน ดันไปหิ้วสาวเที่ยวมา คนที่รับบริจาคเค้าบอกว่า อย่างน้อยอีก 3 เดือน ค่อยมาใหม่นะคะ หุหุ จากคุณ : โคอาล่าน้อย - [ 13 ก.พ. 50 16:24:53 A:10.131.65.25 X:202.183.233.12 TicketID:097882 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้าใจว่าพวกที่ทำทีไปบริจาคเลือด แต่จุดประสงค์หลักคือเพื่อตรวจหาเอดส์หรือเชื้อโรคอื่นๆนั้น เพราะว่าการบริจาคเลือดไม่เสียค่าใช้จ่ายไงคะ (ผลพลอยได้จากการบริจาคเลือดคือ การตรวจหาเชื้อโรคต่างๆในเลือดฟรีไงคะ) ซึ่งถ้าให้พวกเค้าไปตรวจที่สถานตรวจแบบทางการ (เช่น คลีนิคนิรนาม) หรือตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็จะมีค่าตรวจเกิดขึ้น จากคุณ : The White Rider - [ 13 ก.พ. 50 16:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมพยายามบริจาคมให้ได้ทุก 3เดือน ที่ทำก็เพราะสุขใจ ไม่ได้เดือดร้อนหรือลำบากอะไร และยังเป็นการทำบุญที่ มีค่ายิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ  และอย่างน้อยก็ทำให้ผมพยายามดูแลตนเอง ให้พร้อมที่จะบริจาคเสมอ    ไม่เคยคิดที่จะบริจาพเพื่อไปตรวจโรคอะไรทั้งสิ้น เพราะเราก็รู้แก่ใจกว่าไม่ได้มีความเสี่ยงต่อโรคนั้นเลย จากคุณ : หนง (หาดขนง) - [ 13 ก.พ. 50 17:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมมีคนใกล้ตัวต้องไปรับเลือดทุกเดือน ทุกครั้งต้องภาวนาอย่าได้เจอพวก Window period เลย คุณ ๆ ที่อยุในกลุ่มเสี่ยง อย่าบริจาคเลยครับ ผลที่จะตาม มากับผู้รับเลือดนั้นมากมายเหลือเกิน ผมเองบริจาคทุก 3 เดือน การให้ที่ยิ่งใหญ่คือให้ชีวิตครับ จากคุณ : Aeg-Un - [ 13 ก.พ. 50 18:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาโหวตด้วยค่ะ เห็นด้วย....... จากคุณ : law of nature - [ 13 ก.พ. 50 21:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 59 โหวต ค่า จากคุณ : ขวันค่ะ - [ 13 ก.พ. 50 21:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ก่อนการบริจาคจะมีแบบสอบถาม 2ชุดให้ตอบ จากเจ้าหน้าที่ก็จะมาถามอีกครั้งว่า มีพฤติกรรมเสี่ยงรึเปล่า เช่น เที่ยวผู้หญิงมามั๊ย กินยาแก้อักเสบในรอบ 7วันรึเปล่า น้ำหนักลดผิดปกติรึเปล่า เมื่อคืนนอนถึง 6ชั่วโมงรึเปล่า ถึงจะเจาะเลือดเรา ....แต่ -----ถ้าเราเป็นขาประจำ(ไปบริจาคประจำ)  >บางครั้ง< ก็จะถูกเจาะไปถามไป เดินขึ้นเตียงโดยข้ามขั้นตอนดังกล่าวไป แบบสอบถามไม่ตอบตามความจริงก็ได้/-*/ ------ เคยถามพี่ๆที่เป็นนักเทคนิคการแพทย์ว่า ถ้าติดเชื้อเร็วแค่ไหนถึงจะตรวจพบได้ คำตอบคือ  2สัปดาห์ - 6 เดือน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3เดือน //ข้อมูลนี้ถ้าท่านใดทราบตัวเลขที่แท้จริงช่วยยืนยันด้วยครับ  ผมไม่มั่นใจในตัวเลขข้างต้น -----อ้าว งั้นถ้าผมเป็นผู้บริจาคเกร็ดเลือด(ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว) ซึ่งสามารถบริจาคได้ประจำทุกเดือน การบริจาคแต่ละครั้งสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยได้ 6-8 คน ก็แสดงว่าจะมีผู้ติดเชื้อจากผม 18-24คน**แย่จัง**// -----เท่าที่ทราบ แต่จะปีมีผู้ติดเชื้อจากการรับเลือดไม่น้อย แต่ไม่ค่อยเป็นข่าว //**// ขอขอบคุณ จขกท. ที่ช่วยตั้งกระทู้นี้ //--// โหวตครับ จากคุณ : pooly_a - [ 13 ก.พ. 50 21:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เออเน๊อะ   สงสัยอยู่เหมือนกัน งั้นมาโหวตค่ะ จากคุณ : bubblebaba - [ 13 ก.พ. 50 22:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คงไม่มีคนคิดอย่างนั้น แต่ในกรณีที่มีโรคเอดส์ติดไปกับเลือดได้ คงเพราะตอนกรอกใบบริจาคเลือด เค้ากรอกไม่ตามความจริงมากกว่า เห็นด้วยกะ คห. 60 ค่ะ จากคุณ : pankee - [ 13 ก.พ. 50 23:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมว่าเรื่องแบบนี้ ต้องไห้ทางที่รับบริจาคเลือด เป็นหน้าที่ของเขานะ ไม่ใช่ของประชาชนที่จะบริจาค ยังงี้คนที่อยากบริจาคก็กลัวว่าตัวเองจะเป็นเอดส์รึเปร่า สู้ไม่บริจาคดีกว่า พอดีไม่มีเลือดพอดี ทางโรงพยาบาลนน่าจะมีทางป้องกันเอง ก่อนจะเอาเลือกไปไห้ผู้ป่วย จากคุณ : aerun - [ 14 ก.พ. 50 04:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แปลกใจว่าทางกาชาดหรือรพ.ต่างๆไม่เห็นปัญหานี้หรือคะ ถึงไม่รณรงค์อะไรเลย เรื่อง window period น่ะค่ะ อันตรายออก ถ้าผู้ป่วยที่เคยรับเลือดติดเชื้อไป แล้วเอาไปติดคนที่บ้าน ติดเด็กที่ไม่รู้อะไรด้วยเลย ประเทศเราจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ น่ากลัวมากๆค่ะ จากคุณ : amitambien - [ 14 ก.พ. 50 06:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมบริจากทุก3เดือนคับ ไม่มีความเสี่ยงและไม่อยากเสี่ยง มีจริงครับเพื่อนผมมันทํามันบอกว่าอายถ้าไปคลีนิก  แต่เวลาทําอย่างนั้นไม่อาย จากคุณ : ta_sri - [ 14 ก.พ. 50 08:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถึง คห. ที่ 63 ทางกาชาดเค้าก็ตรวจนะคะ แต่มันจะมีช่วงที่เรียกว่า Window Period คือ ช่วงที่เพิ่งเป็น เค้าจะตรวจหาเชื้อเอดส์ไม่พบค่ะ แล้วถ้ามีคนแบบนี้จริง ผู้รับก็ซวยไปแหละค่ะ แล้วคนทำก็บาปมากๆ เพราะเท่ากับเป็นการฆ่าคนทางอ้อมเลยนะเนี่ย จากคุณ : ginjung - [ 14 ก.พ. 50 10:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 67 โหวตค่ะ !!! เห็นด้วยกะหลายๆ คห. นะคะ  ถ้าคุณมีความเสี่ยงไม่ว่าทางใดก็ไม่ควรไปบริจาคค่ะ จากคุณ : ก็อยากเป็นคนน่ารักอยู่หรอก - [ 14 ก.พ. 50 10:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 โหวตค่ะ จากคุณ : ลัดดา - [ 14 ก.พ. 50 14:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โหวตให้ค่ะ วันนี้ได้คุยกับพี่ๆ ที่ lab เรื่องนี้พอดีเลย ว่าจะทำยังไงถ้าตรวจ HIV แล้วมันอยู่ในช่วง window period  ซึ่งเชื้อมันจะมีโอกาสที่จะตรวจเจอต่ำมาก ซึ่งการตรวจหา HIV ในถุงเลือดที่ได้รับบริจาคนั้น เราจะตรวจ HIVAg และ Anti-HIV ซึ่งเราจะตรวจด้วยกัน 3 วิธีการทดสอบ ถึงจะออกผลได้ว่าเป็น Negative or Positive(ซึ่งความจริงแล้วจะออกผล Reactive or Non reactive คือเกิดปฏิกิริยา หรือไม่เกิดปฏิริยา) และเรารับรองผลเฉพาะเลือดถุงที่เราตรวจเท่านั้น ขนาดเราใช้วิธีการตรวจที่ดีที่สุด(เท่าที่ตรวจจับ HIV ได้) ก็ยังมีช่วง window period ของเชื้อ ที่จะตรวจไม่เจอเชื้อ ซึ่งมันก็จะหลุดรอดไปให้กับผู้ป่วย อย่างที่มีเรื่องให้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ทาง lab ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ขอร้องผู้ที่มาบริจาคโลหิต เหมือนอย่างที่ จขกท. บอก ถ้าคิดจะตรวจหา HIV ไปตรวจที่ คลินิกนิรนามหรือตาม รพ.ต่างๆก็ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นสิทธิผู้ป่วย ทางรพ.จะไม่ไปป่าวประกาศหรอกว่าท่านมีเชื้อ HIV และที่สำคัญ ถ้าท่านติดเชื้อจริงก็จะได้รับการรักษา ซึ่งจะมีโครงการอยู่ ท่านจะได้ทานยาต้านไวรัสฟรีทุกเดือน ถ้าท่านคิดจะบริจาคเลือดเพราะอยากตรวจ HIV ท่านก็จะบาปมาก บาปที่ 1.ท่านได้ฆ่าผู้ป่วยที่ได้รับเลือดทั้งเป็น ทั้งๆที่ผู้ป่วยเองก็อ่อนแออยู่แล้ว บาปที่ 2.ท่านก็ได้ทำลายชีวิตของหมอคนหนึ่งให้ตายทั้งเป็น บาปที่ 3.ท่านได้ฆ่านักเทคนิคการแพทย์คนหนึ่งให้ตายทั้งเป็นตลอดชีวิต  ด้วยความรู้สึกผิดในวิชาชีพของตัวเอง เพราะฉะนั้น อย่าทำเลยค่ะ จากคุณ : นักเทคนิคการแพทย์คนหนึ่ง (hyejin) - [ 14 ก.พ. 50 15:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยว่า ควรให้ความรู้เกี่ยวกับช่วง window period ของเชื้อ HIV ควบคู่กับสามัญสำนึก จากคุณ : BLOOD (@NBC) - [ 14 ก.พ. 50 16:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อสองปีก่อน ผมเคยคิดนะครับ ว่าจะใช้วิธีนั้น แต่สุดท้ายก็ไปคลีนิคตรวจเรียบร้อย แล้วก็ไปบริจาคเลือด สบายใจดีครับ แต่ครั้งล่าสุด ปีที่แล้ว ผมได้รับจดหมาย ว่า เลือดมีปัญหา ใช้ไม่ได้ มีไขมันมากเกินไป คือก่อนไปบริจาค ผมดันกินข้าวมันไก่ซะเต็มที่เลย คิดว่า วันสองวันนี้ จะไปบริจาคอีก เตรียมตัวให้เต็มที่ กรุ๊ป B ขาดแคลน จากคุณ : micawber - [ 14 ก.พ. 50 16:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ....จริงครับ  ผมเพิ่งคิดได้นะเนี่ย จากคุณ : bootsarin (bootsarin) - [ 14 ก.พ. 50 23:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ช่วยโหวตครับ บางคนก็คงไม่ทราบจริงๆ ว่ามันทำให้เกิดผลเสียร้ายแรง พออ่านแล้วจะได้ระวังครับ จากคุณ : หงั่ก - [ 15 ก.พ. 50 01:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 74 บางทีผู้บริจาคอาจไม่รู้ตัวจริงๆ ก็ได้นะคะ จากคุณ : นางฟ้าชาลี - [ 15 ก.พ. 50 13:43:12 A:203.146.244.1 X: TicketID:137246 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ ก็ถ้าเสี่ยง หมายถึง มี พสพ  ไม่ว่ากับใครก็ตาม แม้แต่แฟนก็เหอะ  โดยที่ไม่สวมถุงยาง  ก็จัดว่าเสี่ยง ทั้งนั้นนะคะ   เพราะฉนั้น ใครที่มี พสพ โดยไม่สวมถุงยาง  ก็ไม่ควร บริจาค เลือด หลังจาก พสพ โดยไม่สวมถุงยาง เป็นเวลา อย่างน้อย 6 เดือน  น่าจะชัวร์สุดคะ เห็นด้วยที่จะให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงเรื่องนี้นะคะ  เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดอ่าคะ แล้วคนที่ไปบริจาคเลือดเพื่อตรวจเอดส์ มีเยอะ ด้วยนะคะ ขอโบกๆๆ จากคุณ : :+: ข้ า ว ปั้ น ก ล ม ๆ :+: - [ 15 ก.พ. 50 19:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาโหวตให้อีกหนึ่งเสียงค่ะ window period เป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วงนี้มันไม่มีทางตรวจหาเจอ ถ้าใครสักคนคิดจะใช้การบริจาคเลือดเพื่อตรวจหา HIV โปรดคิดใหม่ด้วย จากคุณ : ชิวเทียน - [ 15 ก.พ. 50 21:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 แล้วทางหน่วยงานที่รับบริจาคเลือดนี่ หลังหกเดือน เขาไม่นำเลือดไปตรวจอีกรอบเหรอคะ แบบเซฟๆไว้เผื่อช่วง window period อะไรนั่นแหละ ตรวจสอบคุณสมบัติของเลือดต่างๆให้เรียบร้อยแล้วถึงจะนำไปใช้กับผู้ป่วยจริงๆ เราว่าเค้าน่าจะมีตรวจแบบนี้น้า ไม่น่าจะตรวจแค่ก่อนเจาะแล้วนำไปใช้เลย แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 50 23:05:53 จากคุณ : fur elisez - [ 15 ก.พ. 50 22:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ^ ^ เลือดเก็บไม่ได้นานขนาดนั้นหรอกค่ะ.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 15 ก.พ. 50 23:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ตอบทาง คห. 77 เลือดที่ได้รับบริจาคมาเนี่ย อยู่ได้ไม่ถึง 6 เดือนหรอกค่ะ เลือดก็จะหมดอายุ ใช้ไม่ได้ และที่สำคัญ ได้เลือดมาก็ต้องใช้ไม่ทันได้เก็บหรอกค่ะ  คนไข้ที่ต้องให้เลือดนี่มีทุกวัน จากคุณ : hyejin - [ 15 ก.พ. 50 23:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อืม แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าจะบริจาคทั้งที ก็ให้มันมั่นใจก่อนจะดีกว่านะ จะได้ชัวร์ ๆ ครับ :) จากคุณ : gerrard_KU60 - [ 16 ก.พ. 50 01:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 16 ก.พ. 50 08:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แล้วถ้าบริจาคเพื่อสะสม จำนวนครั้งนี่ผิดรึเปล่า จากคุณ : narok master - [ 16 ก.พ. 50 10:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ..... เอาใจช่วยทั้งผู้บริจาค และผู้ป่วยนะคะ จากคุณ : ka-jiap - [ 16 ก.พ. 50 11:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 84 หนึ่งโหวตเลยอ่ะ อยากไปบริจาคเลือดเหมือนกัน เพราะเป็นกรุ๊ป AB Positive หมอบอก เลือดหายาก แต่เราพักผ่อนไม่เพียงพออ่ะ เลยไม่ได้ไปสักที แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 50 12:43:43 จากคุณ : fantasy - [ 16 ก.พ. 50 12:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ช่วย โหวตให้ด้วยค่ะ เพราะมีคนคิดแบบนี้จริง ๆ และก็มีคนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำเช่นนี้แล้วจริง ๆ ด้วย จากคุณ : MadameLEE - [ 16 ก.พ. 50 13:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่องบริจาคเลือดเพื่อตรวจเอดส์  ขอแนะนำให้ไปที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์สภากาชาดไทย (คลินิกนิรนาม) ตอนนี้เปิดโอกาสให้ตรวจฟรี โทร.สอบถามก่อนก็ได้นิ..02-256-4107-9 ในเวลาราชการนะจ๊ะ รับรองไม่พลาด เร็ว ๆ ๆนิดนะ ดวยความหวังดีจ๊ะ จากคุณ : ดอกหญ้าคา - [ 16 ก.พ. 50 13:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นด้วยอย่างมากครับ...เพราะผมเป็นคนนึงที่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องรับเลือด....หมอเคยบอกว่า โอกาสที่จะเจอแจ๊คพอต มันก๊มี......ตอนนั้นกลัวมากๆครับ ยังไงๆก็มีวิธีตรวจเอดส์ที่ดีกว่านี้คับ จากคุณ : vkopz - [ 16 ก.พ. 50 21:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 88 โหวตๆ มาช้าดีกว่าไม่มา จริงๆ - -* เคยได้ยินเรื่องนี้นานละ หลายๆคนไม่กลัวจะทำตัวเสี่ยง แต่กลัวไปหาหมอตรวจเลือด มันน่านักครับ จากคุณ : atheist - [ 17 ก.พ. 50 00:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โหวตแล้วค่ะ เอาใจช่วยกับความเห็น 84 ด้วยค่ะ กรุ๊ปหายากจริง ๆ พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ จากคุณ : พีน่า - [ 17 ก.พ. 50 13:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ผู้ที่ไปบริจาคเพราะมีเจตนาตรวจหาเชื้อต่างๆ ด้วยเพราะอายหรือไม่อยากเสียตังค์ก็ตาม นับว่าเห็นแก่ตัวและไม่น่าให้อภํยเลย แต่ถ้าผู้บริจาคที่ได้รับเชื้อมาแบบไม่รู้ตัวล่ะคะ เขาอาจไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงและสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด อันนี้น่าคิดนะคะ เราจะมีใครหรือหน่วยงานใดมารับผิดชอบเรื่องนี้บ้าง มีวิธีป้องกันและแก้ปัญหาแบบนี้อย่างไร สงสัยว่าในเมืองนอกเขาใช้วิธีใด ถามในฐานะผู้บริจาคและผู้ที่เคยได้รับบริจาคมาแล้วและมีโอกาสที่อาจได้รับการบริจาคอีก กังวลมากๆค่ะ จากคุณ : Nadelle - [ 17 ก.พ. 50 14:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ก็ถือว่า เป็นการเตือนก่อนละกันครับ เพราะมี คนหลายคน ที่ต้องการตรวจเอดส์ โดยไปบริจาคเลือด ทาง สภากาชาด และ ทางโรงพยาบาลเอง  ก็ต้อง เข้มงวดในเรื่องนี้มากขึ้น เรา ควบคุมมาตรฐานการตรวจเลือดได้ แต่เราควบคุมคนที่มาตรวจเลือดไม่ได้ อยากให้ระวังไว้ครับ จากคุณ : คนหัวฟู - [ 17 ก.พ. 50 16:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ตอนแรกเคยคิด แต่อยู่โสดมาสามปีคงไม่มีอะไรกับเขามั้งเลยบริจาคเพราะอยากรู้กรุฟเลือดอะ โหวตด้วย จากคุณ : Kura Kuri - [ 17 ก.พ. 50 20:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 93 จาก คห 29  มีเรื่องจริงยิ่งกว่านิยายนะคะ   มันเกิดขึ้นจริง  .... เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน ตอนที่เราเป็น นักศึกษาคณะเกี่ยวกับสายการแพทย์  เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีโรงพยาบาลอยู่  ...แล้วบังเอิญ  ไปเยี่ยมน้องของรูมเมท ที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมารักษาตัวที่ รพ.แทบทุกวัน ...     แล้วเจอชายหนุ่ม คิดว่ารุ่นราวคราวเดียวกัน   ไปหลายครั้งก็เจอหลายครั้ง..จนมีโอกาสได้พูดคุยกัน  แบบว่าก็คุยกันจนสนิทกันเป็นเพื่อนกัน (เราไปกันป็นแก๊งค์ประมาณ 4 คน  เขาจะอยู่กัน 2 คน)  ก็พูดคุย  จนรู้จักกันดีค่อนข้างสนิทกัน     จึงทราบว่า เขาเป็น ลูคีเมีย  และต้องมาถ่ายเลือดเป็นประจำทุกเดือน  และถ้าเดือนไหนแย่หน่อย เป็นหนักหน่อย ก็ต้องมาบ่อยขึ้น  นอนนานขึ้น  แต่เขาจะโทรบอกเราตลอด  เราก็ไปเยี่ยมไปพูดคุยกะเขาตลอด  เขาบอกว่ารู้สึกดีที่มีเพื่อนเพิ่มขึ้น  (อีกตั้ง 4 คน)  เพราะเขาต้องมาให้เลือดตั้งแต่เด็ก  เลยมา รพ คนเดียวทุกครั้ง     มีพวกเราไปเยี่ยม ไปอยู่เป็นเพื่อน เขาก็มีกำลังใจขึ้น.. เขาไปให้เลือด บ่อย จนแขนข้างหนึ่งของเขาลีบงอ แล้ว  แต่ใจเขาก็ยังสู้ๆๆ  และเป็นคนที่มีความคิด +กำลังใจดีมาก   แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี เรายังติดต่อกันตลอด      เราก็มีเพื่อนคนนึง เป็น นศพ  บังเอิญเขาได้ไปศึกษา case นี้  ซึ่งเพื่อนคนนี้เขาก็รู้เรื่อง และก็เคยไปเยี่ยมชายคนนี้กะเราบ่อยๆๆเหมือนกัน   ...วันหนึ่ง นศพ เพื่อนเรา  เขามาบอกเราว่า ..." เออ  เรามีไรจะบอก  แต่อย่าไปบอกให้ ... (เขา) รู้นะ ว่าพวกแก (แก๊งค์เรา ) รู้   (เขาขอร้องเพื่อนเรา)   ว่าเขา ติดเชื้อ  HIV  จากการรับบริจาคเลือด  (เพื่อน  นศพ  เราเขารู้ว่าพวกเรารับได้ เลยเล่าให้ฟัง )    เราและเพื่อน  น้ำตาซึมทันที  ทำไมนะ เขาเป็นโรคนี้ ก็แย่อยู่แล้ว  ทำไม เคราะห์กรรมต้องมาซ้ำเติมเขาด้วยนะ   ที่เขาไม่อยากให้พวกเรารู้  เขาคงกลัวว่าพวกเราจะรังเกียจเขา  แต่ไม่เลย  ...เราไม่รังเกียจ ไม่กลัว  ...ยังเห็นเขาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม .....ตอนนั้นเราโกรธมาก  อยากจะฟ้อง รพ อยากจะทำไรซักอย่าง  แต่ก็ได้แค่คิด่อะ เพราะตัวเขาเองก็ปลงแล้ว  ยังไงเขาก็ต้องมาให้เลือดที่นี่อยู่ประจำ  ก็คงปล่อยเลยตามเลย  เราก็ทำตัวปกติ เหมือนไม่เคยรับรู้อะไร  แต่มันอดไม่ได้ที่มองเขาแล้ว  น้ำตาซึม  จนต้องขอมายืนนอกระเบียง ...   ครอบครัวเขาน่าสงสารมาก  เขามีน้องชายอีกคน  ก็เป็นเหมือนเขา แต่รู้สึกจะหนักว่า...      ที่พิมพ์มายาวๆนี้  เพื่อเป็นอุทาหรณ์  และเตือนความทรงจำของเราเองด้วยว่า  เราเคยมีเพื่อนคนนี้อยู่  เพราะตั้งแต่เรียนจบ  กลับมาทำงาน  ประมาณ 5 ปี แล้วที่ไม่ได้ติดต่อ หรือได้ข่าวเขาอีกเลย ...   **เขาอาจจะเรียนจบแล้ว  (เขาลงเรียน มสธ  ในช่วงที่รักษาตัว)   **เขาอาจจะแข็งแรงขึ้น  ได้ทำงานสร้างฐานะ หรือ  เขาอาจจะไม่อยู่บนโลก  นี้แล้ว  ... เราอยากบอกเขาว่า  เรายังคิดถึงและเป็นกำลังใจให้เขาเสมอนะ เพื่อน  อยากได้ข่าวเขาอีก  ( อืม  อย่างนี้ต้องสืบแล้ว)   ขอโทษด้วย  ยาวไปหน่อย ... แต่มันคือเรื่องจริง จากคุณ : nanuty - [ 17 ก.พ. 50 21:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอประนามคนที่คิดแบบนี้ครับ แล้วก็ขอบอกว่า คนประเภทนี้มีเยอะซะด้วยสิ คือไม่กล้าไปตรวจเลือด แต่เสี่ยงด้วยการไปบริจาคเลือดแล้ว กะว่า ถ้าตัวเองติดเชื้อ คงมีจดหมายแจ้งมาเอง ถ้าไม่มีก็แปลว่าตัวเองรอด ทั้งๆที่เขาลืมไปว่า ถ้าเขาติดเชื้อในช่วงวินโดว์ จะตรวจเช็คไม่ได้ แต่คนที่ได้รับเลือดไป คือตายทั้งเป็นครับ จึงอยากจะขอย้ำอีกครั้ง ถ้าคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง อย่าไปบริจาคเลือดเลยครับ มันบาป ระวังความซวยจะตกกับญาติพี่น้องหรือคนที่คุณรักครับ http://pandagroup.pantown.com/ จากคุณ : joblovenuk - [ 18 ก.พ. 50 00:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยกับทุกท่านครับว่าผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่ควรจะไปบริจาคเลือด แต่เนื่องด้วยการตรวจ HIV ในสมัยนี้ทำได้สามวิธีด้วยกัน ซึ่งศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดทำทั้งสามวิธีได้แก่ ๑.การตรวจแอนติบอดี (Anti-HIV) ๒.การตรวจแอนติเจน (p24 antigen) ๓. การตรวจด้วยวิธีอณูชีววิทยา ลองดูจากรูปนะครับ ถ้าลูกศรซ้ายมือสุดได้แสดงให้เห็นว่าเป็นจุดที่ผู้บริจาคโลหิตรับเชื้อ ปริมาณ HIV จะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ช่วงแรกจะมีปริมาณน้อยมาก ต้องตรวจวิธีทางอณูชีววิทยา ต่อมาเมื่อปริมาณ HIV เพิ่มมากขึ้นแล้ว เราสามารถตรวจการติดเชื้อได้โดยการวิเคราะห์แอนติเจน ในระยะนี้แอนติบอดียังไม่ขึ้น (เรียกระยะที่แอนติบอดียังไม่ขึ้น แต่มีไวรัสในกระแสเลือดแล้วว่า window period) หลังจากพ้นระยะนี้แล้ว แอนติบอดีก็จะขึ้น ทำให้สามารถวิเคราะห์การติดเชื้อได้โดยการวิเคราะห์แอนติบอดี (ไม่รู้ว่าทำอย่างไรให้ภาพใหญ่ ผมพยายามวาดภาพเพื่อให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น ลองคลิกดูกันเองตามใจชอบแล้วกันนะครับ) แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 50 02:17:01 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 50 02:15:06 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ยาหม่อง - [ 18 ก.พ. 50 02:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 96 มาทำภาพให้ คุณ หมอ ยาหม่อง ครับ ;-) อ้อ อ่านแล้ว เบื่อๆ มาก ครับ ตรง ที่ พอเกิดเหตุ ทางการแพทย์ ต่างๆ เหล่านี้ แล้ว จะมีบางคนเข้ามา หา ว่า ทางรพ. ผิด ,  หมอ ผิด , พยาบาลผิด , นักเทคนิคการแทพย์ ผิด ขี้เกียจ อธิบาย  หรือ ปรับความเข้าใจ ถ้าใครๆ ก็ตาม  ตำรวจ  ศาล ฯลฯ พวกเขาทำอย่างเต็มที่แล้ว , เกิดเหตุขึ้น   พวกเขาไม่ผิด ครับ มันเป็นสิ่งที่สุดวิสัย ถ้าเขาประมาท ไม่ทำตามขั้นตอน ถ้าเขา ทราบ แต่ยังจงใจปล่อยให้เกิด , อย่างนี้จึงจะผิด สั้นๆแค่นี้ นะครับ จากคุณ : บางคนที่เบื่อๆจะอธิบาย (lexusman) - [ 18 ก.พ. 50 08:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เวลาบริจาคเลือดที่แคนาดา ขั้นตอนสุดท้าย(เวลาตรวจและกรอกแบบสอบถาม) พยาบาลจะส่งสติ๊กเกอร์ให้แบบเป็นบาร์โค้ด สติ๊กเกอร์จะมีสองอัน คือ อันหนึ่งยืนยันว่าเอาเลือดไปใช้ได้ อันที่สองจะเป็นอันที่ไม่อนุญาตให้นำเลือดไปใช้ หลังจากส่งสติ๊กเกอร์ให้แล้ว พยาบาลจะเดินออกไปเตรียมของ ให้เราเลือกสติ๊กเกอร์อันใดอันหนึงแปะลงที่ฟอร์ม ไม่ว่าจะเลือกอะไร พยาบาลจะไม่มีโอกาสรู้เลย (นอกจากห้องตรวจจะแสกนเจอ) เราเคยสงสัยว่าทำไปเพื่ออะไร คือมาถึงขั้นนี้แล้ว บริจาคเลือดถุงนึงแต่ติดสติ๊กเกอร์ไม่ให้เอาไปใช้??? พยาบาลจึงอธิบายว่า บางคน เค้ามากับเพื่อนๆ กลัวว่าเพื่อนจะรู้ว่าเป็นอะไรคืออายเพื่อน ถ้ากรอกแบบสอบถามแล้วไม่ได้บริจาคก็อาจจะโดนมองแบบสงสัย แต่ถ้าบริจาคไปก็รู้สึกไม่ดีเพราะตัวเองย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเลือดที่ได้ไปจะใช้ได้มั้ย เค้าเลยใช้วิธีนี้ คนที่มาบริจาค(ไม่ว่าจะมาเพราะเกรงใจเพื่อน หรือว่าอยากบริจาคแค่ตรวจเลือดเฉยๆ) ก็ยังสามารถบริจาคได้เหมือนคนอื่นๆแต่แปะสติ๊กเกอร์ว่าไม่ให้นำไปใช้ พยาบาลก็จะทำตามขั้นตอนเหมือนคนบริจาคทั่วไป แต่ถึงเวลาจะใช้ เค้าก็ไม่ใช้ คนไข้ที่ต้องการเลือดก็ได้แต่เลือดที่คนบริจาคมั่นใจ แล้วเพื่อนๆคนที่ไปบริจาคก็ไม่สงสัย ไม่รู้เมืองไทยมีวิธีนี้ไหม แต่ถ้ามีก็ดี จะได้ลดปัญหารับเลือดที่ไม่มั่นใจว่าใช้ได้ จากคุณ : {P}a{T}t{Y} - [ 18 ก.พ. 50 13:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณ คุณ lexusman ครับ จากคุณ : ยาหม่อง - [ 18 ก.พ. 50 14:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ใช้อะไรคิดเนี่ย บริจาคเลือดเพื่อตรวจหาเอดส์ ต่างๆนาๆนะคนเรา เฮ้อ.. จากคุณ : ปุ้ม หญิง - [ 18 ก.พ. 50 19:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 100 โหวตค่ะ จากคุณ : GreenPepper - [ 18 ก.พ. 50 21:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โหวตค่ะ ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้ว ถ้าต้องผ่าท้องคลอด จะขอแบ่งเลือดจากสามีแทน (จะได้ไม่ต้องเสี่ยงเลือดโรงพยาบาล) หุหุ จากคุณ : น้ำผึ้งหยดเดียว - [ 19 ก.พ. 50 10:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เราทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เคยมีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้เรื่อง HIV ที่ที่ำทำงาน ที่นี่ ใครบริจาคเลือดแล้วเขาพบเชื้อ HIV จะโดนข้อหา attempt to murder-พยายามฆ่า เลยนะคะ โทษร้ายแรงมาก ถือว่าคนคนนั้นจงใจทำร้ายคนอื่น ดังนั้นคนที่จะบริจาคได้ ต้องมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่งแล้วค่ะ ตอนอยู่เมืองไทย ที่ทำงานเก่าจะมีกาชาดมารับบริจาคทุก 3 เดือน ตอนนั้นเราเองก็บริจาคอยู่นะคะ ตอนนี้ไ่ม่ได้บริจาคเลย เสียดายเหมือนกัน ถามว่ากลัวเข็มไหม ก็แหม...ให้ได้ค่ะ แต่ไม่ดูนะ..แหะแหะ จากคุณ : Nung+Ning+ - [ 19 ก.พ. 50 13:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ถ้ามีแผนจะผ่าตัด  เอาเลือดตัวเองเก็บไว้ล่วงหน้าได้ครับ แต่ผ่าท้องคลอด ไม่รู้ได้หรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 13:22:30 จากคุณ : ZtahC - [ 19 ก.พ. 50 13:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เป็นหนึ่งในคนที่บริจาคเลือดเพืิ่อที่จะตรวจเอดส์เหมือนกัน เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ........ อย่าด่าว่าเลวได้ไหมครับ ขอให้เข้าใจด้วยครับ ว่าที่ทำไปเพราะไม่รู้ ว่ามันมีช่วง Window period เพราะจากความรู้ที่ได้รับมาตลอด คือสภากาชาดไทยเคยให้ความมั่นใจแก่ผู้รับเลือดบริจาคว่า....ตรวจสอบเลือดที่มาบริจาคทุกถุง ว่าพบเชื้อหรือไม่ ช่วงนั้นไม่เคยทราบเลย ว่ามีช่วง Window period ที่จะไม่สามารถตรวจพบเชื้อในเวลาฟักตัวได้ แทนที่จะด่าคนบริจาคที่หมายจะตรวจเอดส์ว่าเลว....มาแก้ปัญหาด้วยการช่วยกันรณรงค์และให้ความรู้แก่ผู้บริจาคเลือดดีกว่าไหมครับ ถ้าสมัยนั้นผมรู้ว่ามันมีัช่วงที่ไม่สามารถตรวจพบได้ ผมก็คงไม่บริจาคหรอกครับ และช่วยรณรงค์ด้วยว่า คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอยู่เสมอ ควรจะงดบริจาคเลือดไปเสียเลย อ้อ...เลือดถุงนั้นที่ผมไปบริจาค ไม่มีเชื้อเอดส์แน่ๆครับ เพราะผมเคยไปตรวจเอดส์ภายหลังแล้ว แต่ขอร้อง อย่ามาประนามกันว่าเลวเลย ทำไปเพราะไม่รู้ เพราะสภากาชาดไทยเมื่อสิบปีก่อน ยืนยันนักหนาเองนี่ครับ ว่าทุกถุงที่ให้เลือด ไม่มีเชื้อเอดส์ ถ้ารู้ ผมไม่ทำหรอก จากคุณ : lb'sN - [ 19 ก.พ. 50 22:38:15 A:125.26.139.61 X: TicketID:137941 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ถามว่าทำไม ว่าถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยง แล้วทำไมไม่ไปตรวจเอดส์ดีๆ ยอมรับครับ ว่าช่วงที่บริจาคเลือดใจปลาซิว คือไม่กล้าที่จะสู้กับความรู้สึก เวลานั่งรอผลตรวจเลือด เลยใช้วิธีบริจาคเลือดแทน จะด่ายังไงก็เอาเหอะ แต่อยากให้เข้าใจไว้ด้วย ว่าทำไปเพราะความไม่รู้ อยากให้ทางสภากาชาดไทย รณรงค์เรื่องนี้ให้มากๆ เพื่อให้ความรู้กับประชาชน จากคุณ : lb'sN - [ 19 ก.พ. 50 22:43:56 A:125.26.139.61 X: TicketID:137941 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ด่าเฉพาะคนที่รู้แล้วยังทำครับ ถ้าไม่รู้ก็บอกกันได้   10 ปี ก่อนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ เขามีการซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อคัดกรอง ซึ่งคนเลวจะโกหกเพื่อให้ตัวเองได้เข้าบริจาคเลือด เพื่อตรวจเลือดฟรี ๆ หากตอบข้อมูลตามความจริง ไม่มีใครเขาว่ากันหรอก เพราะระบบป้องกันมันดีอยู่แล้ว  แต่อยู่ที่ความซื่อสัตย์ของผู้บริจาค โปรดเข้าใจ จากคุณ : ZtahC - [ 20 ก.พ. 50 09:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณทุกๆ ท่านจากใจนะคะ ที่ช่วยโหวตกระทู้นี้จนได้ขึ้นกระทู้แนะนำ และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ขอให้ทุกๆ ท่านและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะคะ สำหรับคนชั่วๆ ที่ใช้วิธีนี้ตรวจเลือดฟรี ชีวิตนี้ก็คงไม่มีวันเจริญหรอกค่ะ กรรมชั่วก็คงส่งผลให้ชีวิตฉิบหายไม่ช้าก็เร็ว (เกิดมาไม่เคยแช่งใคร คราวนี้ขอซะทีเถอะค่ะ) ถ้าทุกท่านมีโอกาสได้พูดคุยกับใครในเรื่องนี้ รบกวนฝากบอกต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากมายค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 20 ก.พ. 50 10:15:02 A:192.165.213.18 X: TicketID:062425 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ทำบาปทำกรรมให้แก่ตัวเองก็แย่พออยู่แล้ว กรุณาอย่าไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปด้วยเลย ได้โปรด... จากคุณ : viee - [ 20 ก.พ. 50 14:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตามมาให้กำลังใจกระทู้ดีๆ เช่นนี้ให้อยู่ได้นานๆ เมื่อวานมีผู้มาบริจาคที่ศูนย์บริการโลหิตได้จำนวน  1,081 คน อนุโมทนาบุญด้วย จากคุณ : BLOOD (@NBC) - [ 20 ก.พ. 50 15:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คห.95 ผมอ่านแล้วมีคำถามครับ " เห็นด้วยกับทุกท่านครับว่าผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่ ควรจะไปบริจาคเลือด แต่เนื่องด้วยการตรวจ HIV ในสมัยนี้ทำได้สามวิธีด้วยกัน ซึ่งศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดทำทั้งสามวิธีได้แก่... " 1. ตกลงเลือดจากสภากาชาด แต่ละถุงใช้ทั้งสามวิธี หรือสุ่มเอา ว่าถุงนี้ใช้วิธีตรวจแบบไหน ? 2. หากไม่มีการสุ่มตรวจ ทำไมไม่เลือกวิธีตรวจที่ครอบคลุม window period (การตรวจด้วยวิธีอณูชีววิทยา) วิธีเดียวไปเลย ยกเลิกการตรวจวีธีอื่นๆ ไป    หรือหากโดนบังคับทางต้นทุน อย่างนี้ก็ควรมีการแบ่งเกรดเลือดไปเลยนะครับ ว่าถุงนี้เกรด A (ตรวจด้วยวิธีอณูชีววิทยา) ถุงอื่นเกรด B, C ก็ว่าไป ปล. ในคห.29 ผมไม่ได้จะโทษหมอนะครับ ผมแค่บอกว่าคนไข้ควรได้รับความคุ้มครองเท่านั้น ไม่มีใครอยากเป็นคนไข้หรอกครับ ในทางตรงกันข้ามหมอเอง ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นคนไข้เองเหมือนกัน และหากหมอต้องมาเป็นคนไข้รับถ่ายเลือด พวกคุณไม่กลัวกันเหรอครับ หรือได้รับสิทธิพิเศษคัดเฉพาะเลือดเกรด A จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 20 ก.พ. 50 16:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มาดูค่ะ เพิ่งจะรู้ว่ามีwindow period ด้วย จากคุณ : ลาฟฟี่ - [ 20 ก.พ. 50 19:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ตามมาตรฐานการตรวจ 1. จะได้รับการตรวจ Anti-HIV ทุกถุง  ไม่ว่าจะตรวจวิธีอื่นด้วยหรือไม่ มีความแม่นยำสูงที่สุด  window period ประมาณ 22 วัน  ตามที่มีกล่าวมาข้างต้น แน่ใจ 100%ที่ 3 เดือน 2. และตามมาตรฐานโลก ในประเทศไทย จะมีการตรวจ p24 antigen หรือภาษาไทยคือตรวจแอนติเจนที่กล่าวไปแล้ว window period  16 วัน   หากไม่ใช่กรณีเร่งด่วนฉุกเฉินที่ต้องบริจาคและใช้ในทันที ก็จะได้ตรวจทุกถุง 3.Nucleic acid-amplification testing (NAT) ใช้ในหลายประเทศแล้ว  window period 11 วัน  ประเทศไทยเริ่มใช้ในบางที่ ที่เลือกวิธี 2 - 3 ก็คือจะลดจำนวนเลือดที่มีโอกาสพบเชื้อ HIV ทำให้โอกาสที่คนจะติดโรคจากการรับเลือดลดลง  ซึ่งไม่มีทางจะ 100% แน่นอน เช่น ลดจาก 1 ใน 1.5 ล้าน เป็น 1 ใน 2 ล้าน เป็นต้น http://www.aidsaccess.com/webboard/question.asp?QID=3834 แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 50 10:32:43 จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 10:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ไม่มีการแบ่งเกรดในการตรวจเลือดแต่อย่างใด แต่งบประมาณไม่เพียงพอ สถานที่ตรวจอาจไปไม่ถึงทั่วประเทศ หากต้องการการตรวจด้วยวิธี NAT เพิ่มความปลอดภัย ก็เพิ่มได้ ตาม link หมอไม่ได้สิทธิพิเศษ  แต่หมอได้เปรียบที่มีความรู้มากกว่า เกรดมีการแบ่งครับ  แต่เป็นเกรดที่คนบริจาค เลือดเกรดดี คือเลือดที่คนบริจาคประวัติดี บริจาคสม่ำเสมอ เชื่อถือได้ครับ ถ้าเป็นเกร็ดเลือด ปรกติจะรวม ๆ หลายถุง แต่เกร็ดเลือดเกรดดี ก็จะได้จาก คนบริจาคคนเดียวมาเก็บหลายครั้ง ทำให้ลดความเสี่ยงไปได้มาก เรียกว่า Single Donor Platelets จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 10:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เรื่องปัญหาความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการรับเลือดที่บริจาค เป็นความจริงที่โหดร้าย ทั่วโลก ไม่มีทางจะทำได้ให้ 100%  แต่ลดได้มากๆๆๆๆ ที่สุดแล้ว ตามมาตรฐาน คนที่โชคร้าย ก็ยิ่งกว่าถูกรางวัลแจ๊คพอตหวยบนดิน ความคุ้มครองให้ไม่ได้ ให้ได้คือการชดเชย เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น ไปฟ้องโรงพยาบาลก็เปล่าประโยชน์ เช่น ให้เงินค่าชดเชย   สนับสนุนยารักษา จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 10:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ส่วนบุคคลากรทางการแพทย์ มีความเสี่ยงในการติดเชื้อกันถ้วนหน้าอยู่แล้วครับ จากการรักษาพยาบาล ยิ่งกว่าการรับเลือด  มาก ๆๆๆๆ นัก ซึ่งหากเกิดขึ้นก็ได้รับการชดเชยเช่นกัน จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 10:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 116 นั่นคือ สรุปว่า การตรวจ Anti-HIV ที่ใช้มีความไวสูงที่สุดแล้ว วิธีอื่นเข้ามาซ้อนทำให้ลดความเสี่ยงไปได้มากในช่วง window period จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 11:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 117 และสรุปของสรุปนั่นคือ   ผู้บริจาคเลือดเอง เป็นผู้ที่จะทำให้เลือดปลอดภัยสูงที่สุด จากคุณ : ZtahC - [ 21 ก.พ. 50 11:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 118 มาโหวตด้วยคนคะ จากคุณ : hippi_hippy - [ 21 ก.พ. 50 11:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 119 บริจาคเลือดมาทั้งหมด 49 ครั้งแล้ว  ยิ่งบริจาคทำให้เราต้องระวัง ดูแลสุขภาพตัวเราให้ดี  ปัจจุบัน หนัก 84 kg สูง 180 ซม.  ทุกครั้งที่เจอหมอที่รับ บริจาค เค้าจะแนะนำดีมากในการดูแลสุขภาพ  เช่นคนเราทุกคนจำเป็นที่ต้องออกกำลังกาย ถ้าไม่สบายตัวเอง ก็หยุดบริจาค การบริจาคเลือดเมื่อก่อนเค้าจะใช้เข็มเล็กๆฉีดยาชาหรือใช้ยาพ่น เพื่อลดอาการเจ็บก่อน แล้วค่อยใส่เข็มใหญ่ถ่ายเลือด   ปัจจุบันนี้ไม่มียาชาให้ฉีดให้พ่นแล้วครับ เจาะกันสดๆ ก็เจ็บ แต่ความตั้งใจ จิตที่อยากบริจาค ทำบุญก็ทำให้ลืมเจ็บไปได้   เจ็บประมาณมดแดงกัดครับ  ไม่ได้น่ากลัวเลย คนที่อยากบริจาค แต่ยังไม่กล้า ไม่ต้องกลัวเจ็บครับ  ตอนไปบริจาคเค้าจะมีแบบ ฟอร์มเพื่อ สกรีนเรา  เราก็ต้องตอบ ตรงไปตรงมา   มี อยู่ครั้งหนึ่งทานยาแก้อักเสบมา ก็ กาที่กินยาแก้อักเสบ เค้าก็ไม่ให้บริจาค อีกครั้งพึ่งบริจาคไปครั้งก่อน 2 เดือน กว่าๆ ยังไม่ครบ 3 เดือน เค้าก็งด รับบริจาค มีอยู่ครั้งหนึ่งหาเส้นโลหิตไม่เจอ หรือว่าเราถามเค้ามากไปหน่อยยังงัยไม่รู้  เค้าก็ควานเข็มเจาะหลายรอบ ผลปรากฎ วันรุ่งขึ้น แขน เป็นรอยจ้ำเลือดไปหมด ไม่อยากตำหนิอะไร  เพราะใจเราเป็นกุศลคิดอยากบริจาคแล้ว เดี๋ยวไม่ได้บุญ ตอนไปรับเข็ม ได้มีโอกาสพูดคุย กับคนที่บริจาค 100 กว่าครั้ง  ทุกคนเป็นคนจิตใจดีมาก จากคุณ : Kow (Kapow) - [ 21 ก.พ. 50 12:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 120 http://www.ingentaconnect.com/content/ben/cpd/2002/00000008/00000008/art00006 จากคุณ : น้องหมาตัวนั้น - [ 22 ก.พ. 50 00:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ยืนยันว่าเพื่อนผู้ชายของเราเป็นหนึ่งในคนเลวๆกลุ่มนั้นค่ะ มันบริจาคเลือดบ่อยๆ  เวลาเค้าส่งจดหมายกลับมามันก็จะลุ้นตลอด - -* ไอ้นี่มันเลวโคด มั่ว+สำส่อน จากคุณ : พยายามสวย~* - [ 22 ก.พ. 50 08:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ตอบ คุณ : พยายามสวย~* ค่ะ รบกวนคราวหน้าถ้าเจอไอ้เลวโคดตัวนั้น ฝากช่วย print กระทู้นี้ไปไห้มันอ่านด้วยนะคะ ถามมันว่าถ้าคนที่รับเลือดมันไปเป็นคนในครอบครัวที่มันรัก มันจะรู้สึกยังงัย จากคุณ : จขกท - [ 22 ก.พ. 50 09:38:41 A:10.42.35.99 X:192.165.214.193 TicketID:062425 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เห็นด้วยจ้ะ มาช่วยโหวตนะจ๊ะ จากคุณ : ลูกแม่ดอกบัว - [ 22 ก.พ. 50 10:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอโทษครับที่ตอบช้าเพราะไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน ขอบคุณ คุณZtahC ที่ตอบแทนนะครับ ตกลงทำสามวิธีนะครับ แต่ละวิธีก็มีจุดดี จุดด้อยแตกต่างกัน การทำทั้งสามวิธีช่วยปิดจุดด้อย และเสริมจุดเด่นกันและกัน 1. การตรวจแอนติบอดี (anti-HIV) นอกจากระยะแรกๆแล้ว การทดสอบวิธีนี้มีความไว และความจำเพาะสูงมาก 2. การตรวจแอนติเจน (p24 antigen) ช่วยวิเคราะห์การติดเชื้อช่วง Window period ที่แอนติบอดียังไม่ขึ้น แต่การตรวจแอนติเจนมีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีนักในระยะหลังของการติดเชื้อ 3. การตรวจด้วยวิธีอณูชีววิทยา (NAT) ทำให้การตรวจพบไวรัสในช่วงแรกไวมากขึ้นไปอีก ทั้งสามวิธีบวกกับแบบสอบถาม และถ้าผู้บริจาคมีความมั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง จะทำให้ผู้รับเลือดไปมีความปลอดภัยสูงสุดครับ จากคุณ : ยาหม่อง - [ 22 ก.พ. 50 20:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ผมบริจากโลหิตมา 52 ครั้งแล้วรู้สึกเป็นสุขใจที่ได้ช่วยชีวิตคนที่เจ็บป่วยทุกข์ทรมานให้หายได้ ไม่ตอ้งการอะไร ตอบแทนจากเขา ตั้งใจจะบริจาคไปจนถึงอายุ61ปีตอนนี้ อายุ57ปีแล้วอยากให้คนร่วมบริจากกันเพื่อชายชีวิตคนที่ กำลังเจ็บป่วย จากคุณ : คน ชล (c3333) - [ 22 ก.พ. 50 23:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ไม่ต้องมีเงิน ไม่ต้องมีทอง ไม่ต้องกราบพระ ไม่ต้องให้เงินขอทาน คุณก็ทำความดีได้ ดีขนาดไหน ถ้าหากเลือดคุณ ช่วยคนที่จะตายให้รอดตายได้ ถุงนั้นอาจจะเป็นเลือดของคุณ .........มันมากกว่า การทำบุญ ใดๆ ในโลกนี้ จากคุณ : โกอ้วน - [ 24 ก.พ. 50 19:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ผมงงนะ ว่าทำไมคนที่เสี่ยง แต่อยากรู้ว่าตัวเองติดเชื้อ HIV หรือเปล่า ทำไมไปใช้วิธีบริจาค เพื่อจะได้ตรวจว่า ติดเชื้อหรือไม่ติด การตรวจด้วยวิธีนี้ หากผลเป็นบวก ก็เท่ากับเป็นการบันทึกประวัติของตัวเอง (ประกาศว่า คุณติดเชื้อ) ลงในสารบบการแพทย์เลยนะนั่น ถ้าอยากจะตรวจหา HIV แต่ไม่ต้องการให้มีการบันทึกชื่อ-นามสกุล หรือประวัติใดๆ ที่เกี่ยวกับตัวเราก็ตาม ไปตรวจที่คลีนิคนิรนามสิครับ ผลจากการตรวจที่นี่จะไม่มีใครสามารถสืบหรือรู้ได้เลยว่า ติดหรือไม่ติดเชื้อ นอกจากตัวเราเองเท่านั้น เพราะที่นี่จะไม่มีการบันทึกประวัติของตัวเราใดๆ ทั้งสิ้น เค้าจะใช้วิธีให้บัตรเหลืองกับเรามา บนบัตรเหลืองก็จะมีเบอร์ไว้อ้างอิงระหว่างเลือดกับผลเลือด ทุกครั้งที่จะตรวจก็ต้องเอาบัตรเหลืองของเรามา การแจ้งผลก็จะแจ้งผลโดยปากเปล่า ถ้าคุณลืมเอาบัตรมา (หรือจงใจทิ้งไปก็ตาม) เวลามาตรวจครั้งใหม่ ก็ขอบัตรเหลืองใหม่ เบอร์ใหม่ก็ได้ครับ ปล. 1. คลีนิคนิรนามในกทม. อยู่บนถนนราชดำริ ตรงข้ามกับสวนลุมพินี (ตรงสามแยกเข้าถนนสารสิน) 2. ถ้าอยากรู้ผลเร็ว ค่าตรวจ 200 บาท รู้ภายใน 1 ชั่วโมง 3. การลุ้นรอผลต่อหน้า แต่ไม่บันทึกประวัติแบบนี้ ดีกว่าตรวจด้วยการบริจาคเลือดเยอะเลย จากคุณ : คนเคยไปคลีนิคนิรนามมาแล้ว - [ 26 ก.พ. 50 17:39:04 A:172.31.86.54 X:203.130.145.67 TicketID:137371 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เห็นด้วยเลยค่ะ ทราบมาว่ามีคนทำแบบนี้เยอะ ที่จริงถ้าไปตรวจเลือดที่คลีนิคนิรนาม ก็ราคาถูก ทั้งจะมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวด้วย จากคุณ : pornyupa - [ 26 ก.พ. 50 21:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 129 โหวตให้ครับ จากคุณ : อกอุ่น - [ 27 ก.พ. 50 04:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 130 1 เสียงค่ะ จากคุณ : มาดามก่งก๊ง - [ 27 ก.พ. 50 21:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 131 อ่านแล้วเห็นด้วยครับ กด 1 โหวต จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา - [ 2 มี.ค. 50 12:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 132 คนทีไ่ปบริจาคเลือดเพื่อตรวจเอดส์เนี่ย ไม่ได้บุญหรอกครับ แต่จะได้บาปกลับมาเป็นของแถม จากคุณ : ก้อนหินละเมอ_V2007 - [ 2 มี.ค. 50 12:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เพิ่งรู้ว่ามีช่วงนี้ด้วย  ตะก่อนเราเคยบริจาคบ่อย ๆ ตะก่อนโสด  เดี๋ยวนี้อยากบริจาคนะ  แต่อยู่ในภาวะเสี่ยงมีสามีน่ะ เคยชวนเค้าไปบริจาคเหมือนกัน  แต่แฟนบอกว่าต้องไม่มี พสพ อย่างน้อย 3 เดือน  เราเลยไม่ไปบริจาค  กลัวลากคนอื่นเค้ามาเสี่ยงกับเรา เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่าแฟนเราไปแอบนอนกับใครมาหรือปล่าว เพราะเคยจับได้ว่าไปนอนกับผู้หญิงมาถามก็บอกว่าใส่ถุงยางน่า  แต่เชื่อได้เหรอ  เฮ้อ จากคุณ : jura_air - [ 2 มี.ค. 50 18:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 134 อืม....อ่านะ จากคุณ : คุณชายอ่านะ - [ 2 มี.ค. 50 23:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ใบที่กรอกก่อนบริจาคนั่นถ้ากรอกตามจริงก็น่าจะรัดกุมพอนี่นา ยกเว้นคนกรอกมันกรอกมั่ว จากคุณ : โลหการ4 - [ 4 มี.ค. 50 03:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 136 มองอีกด้านหนึ่ง ...ก่อนที่สภากาชาดจะนำเลือดไปให้กับคนไข้รายไหน ก็สมควรจะตรวจเลือดที่ได้รับบริจาคมาอีกครั้งนะคะ ว่ามีเชื้ออะไรหรือเปล่า จากคุณ : ริมขอบฟ้า - [ 4 มี.ค. 50 14:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ปกติเขาต้องตรวจเลือดก่อนไม่ใช่หรือค่ะ เพราะเคยบริจาคและถามตอนพยาบาลเอาเลือดแบ่งใส่หลอดไป 5 หลอด ว่าไปทำไม พยาบาลสาวสวยก็บอกว่าเอาไปตรวจโรคติดต่อ 5 โรค(จำบ่ได้ว่าโรคไรบ้าง) แต่มีไวรัสตับ เอดส์ พวกนี้อยุ่ด้วย มันไม่น่าจะหลุดไปได้นะ แต่ถ้าเลือดมีเชื้อหลุดไปก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เคยมีเคสติดเชื้อแบบนี้อยู่บ้าง(ตามข่าว) แต่เชื่อในมาตรฐานของสภากาชาดนะว่าคัดกรองได้.... ถ้า...ผู้บริจาคไม่มั่วเอง จากคุณ : น้อมเกล้า - [ 5 มี.ค. 50 12:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ผู้บริจาคเป็นขั้นตอนหนึ่งในการคัดกรอง อย่าเอาความเสี่ยงของเราไปให้คนอื่นเสี่ยงด้วยเลย แต่ว่าบริจาคเพราะอยากกินหนมเนี่ยผิดป่าว ก็ของเค้ากร๊อบกรอบ ซื้อกินเองยังไม่เหมือนเลย กินมาสิบกว่ารอบแล้วเนี่ย จากคุณ : ไข่เจียวมิชิลิน - [ 8 มี.ค. 50 11:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 139 มาโหวตกระทู้นี้ด้วยคนค่ะ ควรจะให้ความรู้เรื่องนี้มากๆ จากคุณ : เกี๊ยวซ่า (Gyoza) - [ 10 มี.ค. 50 12:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอโทษนะคะ ล่าลุด พึ่งดูรายการ คลับX มาไม่กี่วันมานี้ มีคุณหมอคนนึงเค้า มาพูดเรื่อง วัยรุ่นกับการอยู่ร่วมกันเป็นคู่ชายหญิง เค้า บอกว่า ถ้าอยากรู้ว่า อีกคนเป้นโรคติดต่ออะไรรึป่าว ให้ทำเป็นชวนไปบริจาคเลือดค่ะ!! ทีนี้จะได้รู้ว่าอีกคนเป็นโรคติดต่ออะไรรึป่าว คือ อ่านกระทู้นี้แล้วมาเจอหมอพูดแบบนี้ งงรับประทานค่ะ จากคุณ : Battlestar Scralatchtica - [ 10 มี.ค. 50 15:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอโหวตให้กับกระทู้ดีๆ ครับ จากคุณ : muteking - [ 10 มี.ค. 50 19:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 142 มาโหวตด้วยคนค่ะ จากคุณ : SweetYorkie - [ 10 มี.ค. 50 23:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 143 โหวตค่ะ จากคุณ : Pook-ก้า - [ 11 มี.ค. 50 11:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 144 วันนั้นดูรายการคลับ x เหมือนกัน  ทำมัยหมอพูดอย่างนั้น แถมบอกอีกว่าเป็นทริกที่เนียนๆ จากคุณ : vertical limit - [ 11 มี.ค. 50 16:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ให้อีกหนึ่งเสียงครับท่าน......... จากคุณ : NFL (NFL) - [ 12 มี.ค. 50 10:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 146 โหวตด้วยอีก 1 เสียงค่ะ ... อยากบริจาคเหมือนกัน แต่บริจาคไม่ได้ เพราะกินยาภูมิแพ้อยู่อ่ะ จากคุณ : AdOrA - [ 12 มี.ค. 50 19:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 147 โหวตด้วยเหมือนกันครับ ผมเองบริจาคมา 9 ครั้งแล้ว และอยากบริจาคไปตลอดชีวิต ไม่เห็นด้วยกับการบริจาคเลือดเพียงเพราะอยากตรวจหาเชื้อ HIV ครับ จากคุณ : Mint@da{-"-} - [ 13 มี.ค. 50 10:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 148 เนื้อหากระทู้มันดูขัดกันอ่ะครับ "เพราะถ้าคุณอยู่ในช่วงวินโดว์ พีเรียด ทางรพ.อาจตรวจไม่พบ " <-- ผมเชื่อว่าคนที่บริจาคเลือดเพื่อที่จะตรวจเอดส์เค้าไม่รู้เรื่องนี้แน่ สมมุติในกรณีที่เค้ารู้ เค้าคงไม่เลือกวิธีนี้ เค้าอาจไม่ได้เป็นคนดี ถึงขนาดที่เป็นห่วงคนอื่น แต่ถ้าเค้าเป็นห่วงตัวเอง หรือถ้าเค้าเลวจริง เค้าจะไม่เลือกวิธีนี้ครับ แล้วเรื่องนี้ผมคิดว่า ประชากรไทยมากกว่าร้อยละ 80 ไม่รู้ครับ "สำหรับคนชั่วๆ ที่ใช้วิธีนี้ตรวจเลือดฟรี ชีวิตนี้ก็คงไม่มีวันเจริญหรอกค่ะ กรรมชั่วก็คงส่งผลให้ชีวิตฉิบหายไม่ช้าก็เร็ว (เกิดมาไม่เคยแช่งใคร คราวนี้ขอซะทีเถอะค่ะ)" ผมคิดว่าคุณ จขกท กำลังแช่งคนที่บริจาคเลือด ที่มีอยู่ไม่น้อยเลยแหละ ผมไม่ได้มีพฤติกรรมสำส่อนนะแต่ตอนนั้น คุณพ่อของเพื่อนเข้าโรงพยาบาล ก็ไปบริจาค ข้อมูลก็กรอกตามความเป็นจริงนะ แต่พอตอนที่เค้าสูบเลือดเราไปเค้าบอกมันใช้ไม่ได้ เพราะว่ามันจางไปหรือไงเนี่ย ตอนนั้นรู้สึกเสียฟอร์มแล้วก็รู้ศึกเศร้าที่แบบให้เค้าสูบเลือดไปแล้วแต่ช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้ แต่พอมาอ่านกระทู้นี้แล้ว กลับรู้สึกดีใจที่เลือดเราใช้ไม่ได้ เพราะถ้าเค้าเอาไปใช้จริงมันอาจเป็นเรื่องเศร้าก็ได้ ผมไม่แน่ใจนะแต่เคยมีคนบอกว่า ถ้าเรามีแผลที่แขน แล้ว เราไปโดนแผลของคนเป็นเอดส์เราสามารถติดเชื้อได้ อันนี้ไม่รู้จริงเปล่า (เพื่อนไม่ได้เป็นหมอ เป็นแค่คนธรรมดาครับ) แต่ผมกลัวเรื่องแบบนี้มากกว่า เรื่องสำส่อน จากคุณ : Oak - [ 13 มี.ค. 50 12:30:04 A:58.136.99.200 X: TicketID:062405 ]

ความคิดเห็นที่ 149 อีกอย่างหนึ่งสงสัยคำว่าชั่วในที่นี้หมายถึงอะไร อ้างอิงจากศาสนาอะไร ตอนที่ผมเป็นเด็กคนที่ให้คนอื่นลอกข้อสอบเพื่อนถือเป็นคนดีครับ ทั้งๆที่เป็นความผิด ผมก็แปลกใจว่า อย่างนี้นะเรียกว่าดี ตอนที่ผมโตมาถึงได้รู้ว่า ดี กับ ชั่ว เนี่ยหลายครั้งเลย ก็ไม่ได้อ้างอิงกับศาสนา จริยธรรม คุณธรรม จากคุณ : Oak - [ 13 มี.ค. 50 12:34:47 A:58.136.99.200 X: TicketID:062405 ]

ความคิดเห็นที่ 150 มีเพื่อนที่เคยคิดแบบนี้พอดีเลยค่ะ แต่เค้าไม่รู้ว่ามีช่วงที่ตรวจไม่พบ ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ จะได้ไปบอกเค้าค่ะ จากคุณ : เด็กน้อย ตัวนิด - [ 13 มี.ค. 50 13:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เลือดทุกถุงที่กาชาดหรือโรงพยาบาลรัฐรับบริจาค จะต้องถูกนำไปตรวจหาเชื้อต่างๆ ถามว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ก็มาจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา หรือเงินภาษีของเราๆ ท่านๆ นี่แหละ ถ้าคุณรักสนุก ไปเสี่ยงเอดส์มา (หรือบางคนก็อยากตรวจไวรัสตับอักเสบ) ถามว่าเงินแค่นี้คุณจ่ายค่าตรวจเองไม่ได้เหรอ หรือกลัวที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ? ตอนสนุกไม่คิด ทีตอนนี้กลัว หรืออายหรือคะ? ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่ว่าคุณรู้เรื่องวินโดวส์พีเรียดหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าทำไมคุณคิดที่จะใช้การบริจาคเลือดบังหน้าต่างหาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าจุดประสงค์ของการบริจาคเลือดก็เพื่อช่วยชีวิตคน รบกวนคุณ Oak อย่าเปลี่ยนประเด็นของกระทู้นี้ ดิฉันไม่เคยพาดพิงไปถึงคนที่อาจติดเอดส์มาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ดิฉันกำลังพูดถึงคนที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเสี่ยง ก็ยังมักง่ายกับชีวิตคนอื่น อยากให้ทุกท่านลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ แล้วถ้าวันนึงคุณต้องรับเลือด คุณจะเข้าใจ จากคุณ : จขกท - [ 13 มี.ค. 50 15:48:42 A:10.42.35.99 X:192.165.214.193 TicketID:062425 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ  อาจจะกลัวเกินกว่าเหตุก็ได้  แต่อ่านมาตั้งแต่ต้นแล้วกลัวจังค่ะ  เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีคนในครอบครัวมีเลือดกรุ๊บเดียวกัน  เวลาเป็นอะไรถ้าจะใช้เลือด  อ่านกระทู้นี้แล้วยอมรับว่าค่อนข้างหลอนเลยค่ะ ขอถามนะคะ  ยาที่ทางโรงพยาบาลมี  ที่มีไว้สำหรับคนที่มีโอกาสเสี่ยงจะได้รับเชื้อ  ที่ให้กินหลังจากคาดว่าได้รับเชื้อภายใน 72 ชั่วโมงเนี่ย  สามารถนำมาใช้ร่วมกับการบริจาคเลือดได้รึเปล่าคะ  หรือว่าปริมาณเลือดที่ได้รับมันเยอะเกินกว่าจะป้องกันด้วยยาตัวนี้ได้  หรือร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอเกินไปที่จะได้รับยาตัวนี้คะ  เพราะถ้าสามารถฆ่าเชื้อ HIV จากการเสี่ยงในการรับเลือดที่บริจาคมา  เราทานยาตัวนี้ดักไว้ทุกครั้งที่รับเลือดบริจาคได้รึเปล่าคะ  แหะๆๆ  อยากมีความรู้สึกอุ่นใจในชีวิตน่ะค่ะ  เพราะบางครั้งเราห้ามสำนึกของคนไม่ได้  รบกวนถามทีนะคะ  และอยากรู้ชื่อยาตัวนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : beamberry - [ 16 มี.ค. 50 02:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 153 เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว (อายุก็ประมาณยังไม่ 20 ดี) เราไปเยี่ยมญาติที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในภาคอีสานตอนบน (ไม่อยากบอกว่าเป็นรพ.อะไร ป่านนี้เขาคงพัฒนาไปแล้วหล่ะ) เราได้บริจาคเลือดให้กับเด็กคนหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นอะไรนะ (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอุบัติเหตุน่ะ) ได้ยินประชาสัมพันธ์เขาประกาศขอบริจาคเลือดกรุ๊ป A ด่วน พอได้ยินประกาศ แล้วก็อ่ะ...เราก็กรุ๊ป A นี่หว่า...ไม่เคยบริจาคเลย....ในใจตอนนั้นคิดว่า ทำไมไม่สภากาชาดว่ะ....แต่ก็...เอาก็เอา...ไปหาประชาสัมพันธ์ เขาก็พาเราไปที่ห้องฉุกเฉิน (มันไม่เห็นมีใครมาบริจาคเลยว่ะ) เราก็บริจาคเลือดไป ถามว่าทำไมไม่รอจากสภากาชาดหรือจากโรงพยาบาลของรัฐ เขาบอกว่ากรุ๊ป A หายาก และถ้ารอต้องรออีกหลายวันกว่าจะมา เด็กคงไม่รอดแน่ แต่คุณเชื่อมะ...ว่าเขาไม่ตรวจหาอะไรเลย...แต่เรามั่นใจว่าไม่มีโรคอะไรแน่นอน แต่ไอ้โรคทางพันธุกรรมเราไม่รู้น่ะ...เราถามต่อไปว่า...ไม่ต้องตรวจหาอะไรเลยเหรอ...คำตอบที่ตอบกลับมาคืออะไรรู้ไหม... "ถ้าหากตรวจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะรู้ผลที่ละเอียด (ไอ้คำว่าละเอียดในสมัยนั้นมันมีกี่อย่างก็ไม่รู้) เดี๋ยวเด็กไม่รอด".... พอเรามาอ่านกระทู้นี้ เราเลยไม่รู้ว่าคุณคนนั้นทำผิดหรือทำถูก (ร่วมทั้งเราด้วย) อ้อ...ทุกวันนี้เราไม่สามารถที่จะบริจาคเลือดได้ เพราะเลือดเรามีปัญหา (แต่ไม่เคยไปบริจาคที่สภากาชาดนะ) ที่เรารู้ก็เพราะว่า ที่ทำงานเราเขาจะมีตรวจสุขภาพทุกปี (เราทำงานที่นี่มา 8 ปี) แต่ทุกปีเลือดเราก็จะเป็นแบบนี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตรวจซิฟิลิสปรากฎว่ามีแต่ไม่ชัดเจน (ไม่เข้าใจมันเป็นยังงัย????) เขาก็แนะนำว่าให้ไปตรวจแบบเจาะลึกลงไปอีก แบบอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้ เอ้า....เพื่อหมดปัญหาก็ไปเสียตังค์ตรวจเองก็ได้ฟะ... ปรากฎว่ามันไม่ได้เป็นซิฟิลิส มันไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ผลเลือดมันบวก งง....... ไม่รู้ว่ามันจะมีผลย้อนหลังไปถึง 10 ปีที่แล้วหรือเปล่า.... ถ้าเป็นเช่นนั้น.....พี่อยากจะบอกน้องคนนั้นว่าพี่ขอโทษ...มันเกิดจากความโง่ที่บริสุทธิ์ของพี่เอง..... แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 50 17:21:56 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 50 17:20:08 จากคุณ : maun06 - [ 17 มี.ค. 50 17:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ฝันมานานแล้วว่าจะมีกระทู้อย่างนี้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำบ้าง การติดเอดส์จากการบริจาคเลือด ในปัจจุบันคงไมใช่ความรับผิดชอบของโรงพยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังขึ้นกับสำนึกของผู้บริจาคด้วย หวังว่าผู้บริจาคที่ไม่รู้เรื่องความเสียงนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริจาตของคุณด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 50 16:24:53 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 50 16:23:28 จากคุณ : Dr_wor - [ 18 มี.ค. 50 16:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 155 โห.....กระทู้นี้ ขึ้นแนะนำ มาเดือนกว่าๆ แล้วนะนี่.... สุดยอดจริงๆ จากคุณ : นักเทคนิคการแพทย์ - [ 18 มี.ค. 50 17:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 156 อืม .. มีคนคิดแบบนี้ด้วยเหรอ น่ากลัวจังเลยนะ แต่บางคนไม่นึกถึงภาวะเสี่ยงของตนเองก็ได้กระมัง หรือไม่ก็อาจไม่รู้ตัวจริงๆ มองสิ่งดีดีกันดีกว่านะ เพราะค่าตรวจน่ะ แค่ 200 บาทเอง แต่ระยะที่เรียกว่า window period ก็นานนะ เด็กยังต้องใช้ระยะเวลาติดตาม 5 ปีเลยในกรณีที่คลอดจากมารดาที่เป็น AIDS จากคุณ : ฟ้าเดียวดาย - [ 19 มี.ค. 50 22:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน มาช่วยแสดงความคิดเห็นนะคะ ดีใจมากๆ ที่อย่างน้องก็มีคนรับรู้ถึงวินโดวส์พีเรียดมากขึ้น หวังว่าซักวัน มนุษย์คงสามารถคิดค้นวิธีตรวจเอดส์ได้ทันทีที่ได้รับเชื้อมา หรือเอดส์กลายเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ก็คงต้องได้แต่หวังว่าผู้บริจาคเลือดทุกคนจะ screen ตัวเองก่อนมาบริจาค และเลิกใช้การบริจาคเลือดเพื่อตรวจเอดส์ซะที จากคุณ : จขกท - [ 22 มี.ค. 50 16:45:59 A:10.42.35.99 X:192.165.214.193 TicketID:062425 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ขอระบายหน่อยหน่วยบริจาค+โรงพยาบาลทำงานนี้    เหมือนเป็นหน้าที้ เอาคนไม่เป็นมาทำงาน ถูกเข็มแทง  สอง-สามครั้ง หรือแทงถูกเส้นประสาทปวดแขนไปหลาย  วัน!!! บางทีไปให้ที่ ร,พ,ให้เรากรอกเอกสารเองไปนอน  รอตั้งนาน ไม่ค่อยสนใจผู้บริจาคเท่าไร เหมือนเราไปกวน  ใจเขาสะงั้น!!!  แถมหาที่จอดรภก็ลำบากต้องเดินเป็น  กิโล! น่าจะมีที่จอดรถสำหรับผู้บริจาคโลหิต อีกเรื่องหนึ่ง  ขนมไข่ที่แจกเก่ามีกลิ่นเหม็นหืนด้วย!!! เจ้าหน้าที่เอามา  ตั้งไว้ที่โต๊ะ ให้หากินเอง แล้วก็เชิญออกไปเอง!!! จากคุณ : คน บริจาค (c3333) - [ 25 มี.ค. 50 23:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ถ้าอายที่จะตรวจตรง ๆ ผมก็ลงทุนตรวจสุขภาพแบบก่อนแต่ง ได้ตรวจอย่างอื่นแถมมาอีกเยอะเลย จากคุณ : Mr. M - [ วันอนามัยโลก 13:54:38 ]