ความคิดเห็นที่ 1 กลับmodeผู้ชายต่อ คุณบลูเรย์ครับ ผมขอแจงไว้เลยครับว่าผมไม่ได้มีอคติกับคุณ ผมพยายามใช้เหตุและผล เรื่องการแพทย์แผนจีน 1. "ใช้ยาสมุนไพรจีน เพียง เกีย อึ้ง บรรเทาได้ครับ " ประโยคนี้คุณตอบในเรื่องมะเร็งต่อมน้ำเหลืองว่าสมุนไพรช่วยบรรเทาได้ ผมไม่ชอบเพราะมันไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน ถ้ามีเอามาให้ดูหน่อยครับ 2. ฝังเข็ม แก้ภูมิแพ้ได้ทุกชนิด หลักฐานล่ะครับ กล่าวเกินจริงไปไหม 3. "แพทย์แผนจีนดูองค์รวม แพทย์แผนปัจจุบันสนใจแต่อวัยวะไม่มีการดูองค์รวม" เป็นเทคนิกของแพทย์แผนจีนบางคน ที่ผมเกลียดมาก ถ้ามีฝีมือจริง ใยต้องกล่าวหาคนอื่น แพทย์แผนปัจจุบันในสมัยนี้ไม่มีใครdiscreditแพทย์แผนจีนนะครับ เราพูดกันตามเหตุตามผล อันไหนที่มีหลักฐานว่าหาย ก็ต้องให้คำแนะนำว่าหาย โรคใดการแพทย์แผนปัจจุบันมีหลักฐานว่าได้ผลดีก็ต้องบอก........ แพทย์แผนจีนทำไมไม่รักษาโรคทางศัลยกรรมที่เห็นอย่างเด่นชัด ไม่มีการรักษาโรคทางตา ไม่มีรักษาโรคไตวาย เพราะอะไรคุณบลูเรย์ตอบหน่อยครับ มีต่อ จากคุณ : หมอแมว - [ 8 มี.ค. 50 23:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในกระทู้อาหารเสริม คำกล่าวของคุณคือ "คนเรากินอาหารไม่ได้สารอาหารครบถ้วนให้แก่ร่างกาย เช่น อา หารขยะ(ฟาสต์ฟูต) ซึ่งไม่มีสารอาหาารอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีแต่่ให้ แป้งและไขมันที่เกินความจำเป็น" -ประโยคแรกบอกว่าอาหารfastfood ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ .... ก็เห็นด้วยครับ แฮมเบอร์เกอร์ ข้าวมันไก่ อาหารจานด่วนพวกนี้ก็มีอันตรายกับเราเหมือนกัน อีกข้อความนึง "นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมเราต้อง กินอาหารเสริม เนื่องจากอาหารในระดับปรกติยังให้คุณค่าสารอาหารไม่พอ ไงละ" - ประโยคนี้ คุณบ่งบอกไว้ว่า อาหารเสริมจำเป็น เพราะว่าอาหารตามปกติไม่เพียงพอ กระทู้เต็ม http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5202260/L5202260.html ........................ ผมเห็นด้วยบางส่วนนะครับ กับการใช้ชีวิตที่ดี กินอาหารไม่ใช่สักแต่ว่ากิน5หมู่แต่ต้องกินให้ถูกสัดส่วน อันนี้เป็นหลักของแพทย์แผนปัจจุบัน / ไทย / จีน ในสมัยนี้ทั้งนั้น ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคที่คุณพยายามอ้างว่านำบทความมาจากหนังสือ ถ้าเอาบทความมาอ้าง ก็เป็นความรับผิดชอบของคุณครับ สุดท้าย การที่คุณกล่าวหาคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณว่าอคติ หรือมีเอี่ยว เสียผลประโยชน์ ผมว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพเลยครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 8 มี.ค. 50 23:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แวะอ่านด้วยคะ จากคุณ : แพรวขวัญ - [ 8 มี.ค. 50 23:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คห.1 ถ้าคุณอยากได้หลักฐาน หรือ เปเปอร์ สามารถขอดูได้ที่ รพ.หัวเฉี่ยว การที่ผมเข้ามานำเสนอได้ประมาณ 10 เดือนก็เพราะอยากแบ่งปันประสบการณ์ให้คนทั่วไปได้รับทราบ ไม่ได้อยากดีเด่นหรือเอาชนะคละคลานแต่อย่าง ใด ไม่ได้บอกว่า อันนี้ดี/อันโนน้ไม่ดี เพียงแต่บอกว่าหลีกเลี่ยงได้ก็ดี การรักษาโรคทางไหนก็ได้ที่รักษาหายได้อย่างยั่งยืน คห.2 คำว่า "ตาสว่างได้แล้ว" หรือ "อคติ" หรือ "มั่ว" ผมไม่ได้พูด แต่ผมถูกกล่าวหา ซึ่งสิ่งที่ผมพูดนั้นไม่ได้เจาะจงใครหรือ ยี่ห้อไหน หรือ โจมตีใคร ก็เพียงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม จึงนำเสนอ แต่ไม่ได้บอกว่า คุณต้องทำอย่างนี้ หรืออย่างนั้น ประเทศเสรี การฟังความคิดที่หลากหลาย ต่างจากเราเป็นเรื่องดี แต่จะเชื่อหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ไม่มีใครบังคับได้ ถ้า การนำเสนอบทความสาธรณะแล้วต้องรับผิดชอบ ผมคิดว่าต่อไปคงไม่มีใคร อยากหาเหาใส่หัว พูดมากก็ผิดมาก ไม่พูดเลยไม่ผิด ครับ ปล.ผมดูกระทู้ต่างๆ ที่ผ่านมาส่วนมากจะเป็นเรื่องเฮฮามากกว่า สนุกไปวันๆ    ไม่มีใครใส่ใจ พูดแล้วๆกัน ผมน่าจะเปลี่ยนจุดยืนบ้าง เผื่อจะได้ไม่เป็น    เป้านิ่ง ถูกโจมตีโดยไม่มีแม้คำขอบคุณ จากคุณ : บลูเรย์ - [ 9 มี.ค. 50 00:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พีหมอแมวครับ ด้วยความเคารพครับ ผมไม่ได้มาทะเลาะนะ มา discuss อะ "แพทย์แผนปัจจุบันในสมัยนี้ไม่มีใครdiscreditแพทย์แผนจีนนะครับ" เยอะแยะมากมายเลยครับ     ไม่มีประโยชน์       เปลืองเงินเปล่าๆ มีสเตียรอยด์มั้ย       หลอกลวง     มีสารปนเปื้อน        มีสารก่อมะเร็ง ไหนผลวิจัยมีมั้ย      ไหนมีสารอะไร ยาหม้อ  โดนดูถูกมากมาย (ตอนเด็ก อาม่าต้มให้กินทุกที ที่ไม่สบาย หายเป็นส่วนมาก ถ้าไม่หายก็ต้องไปฉีดยา) ไม่เฉพาะแพทย์นะ บุคลากรสายงานอื่นๆด้วย   แต่ "แพทย์แผนจีนดูองค์รวม แพทย์แผนปัจจุบันสนใจแต่อวัยวะไม่มีการดูองค์รวม" เป็นเทคนิกของแพทย์แผนจีนบางคน ที่ผมเกลียดมาก ก็คงมีคนพูดจริง แต่ผมว่าน้อยมาก เพราะแพทย์แผนจีน เหลือน้อยมาก ในเมืองไทย ผมเป็น ริดซี่ มานาน(7 ปี)  รักษาด้วยวิธีรัด มา 2 ครั้ง ไม่หายขาด   วันหนึ่ง ทานยาสมุนไพร(แผนจีน)  3  อาทิตย์ ฝ่อ ยุบไปเลย  ที่สังเกตุได้คือ การขับถ่ายดีขึ้นมาก   2 ปีแล้ว ผมไม่กลับไปเป็นอีก ไม่ต้องศัลยกรรม (ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องบล๊อกหลัง) ไม่ต้องลางาน (แค่รัดก้น ผมยังต้องลางาน 2 วันเลย ทรมาน) ไม่ต้องเหน็บยา ไม่ต้องทานยา Daflon ที่กินเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย เคยคุยกับน้องพยาบาล สาว สวย(สไตล์สาวอีสาน) อายุ 22   หุหุ  เธอไม่เชื่อ  เธอขอดูหลักฐาน  .....   ที่ก้นผม    ที่บ้านเธอ  หุหุ   แต่มีคนเต็มบ้านเลย  เธอบอกเธอชิน เพราะช่วยหมอทุกวัน    เฮ้อ !!  แล้วผมจะชินด้วยมั้ยเนี่ย ตกลงว่าผมไม่ได้ให้ดูนะ  ... ผมอายยย จากคุณ : paoasa - [ 9 มี.ค. 50 01:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เทคโนโลยีของแผนปัจจุบัน การตรวจ การรักษาต่างๆ ดีมากๆๆ   แต่ผลการรักษา บางครั้งก็ ไม่ดีนัก (ที่ได้ผลก็มีมาก) แผนโบราณ ไม่มีเทคโนโลยี  หลักฐานประกอบก็มีน้อย  แต่บางครั้งผลลัพท์  ดีกว่า  (ที่ไม่ได้ผลก็มี) มาร่วมกันดีมั้ย  มา join กัน  ร่วมกันคิด ร่วมกันทดลอง ผลเสีย - ไม่มี ผลดี  -  คนไข้มีทางเลือกในการรักษาที่เปิดกว้าง และผลลัพท์น่าจะดีกว่าใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง พี่ บลูเรย์ ท่านได้เสนอสาระ ที่เป็นประโยชน์ ถ้าเราเปิดกว้างสักหน่อย สังคมจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน แต่บางคน ก็มาแรงเกิน(ไม่ใช่พี่หมอแมวนะครับ) กลัวจะไม่มีสาระแบบนี้ให้อ่านอีก จากคุณ : paoasa - [ 9 มี.ค. 50 01:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องอคติกับแพทย์แผนจีนที่คุณpaoasaบอก ผมว่าไม่ใช่ครับ ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง อย่างที่คุณบอก ว่าแพทย์แผนจีนจริงๆมีอยู่น้อยมาก เป็นไปได้ไหมว่าส่วนใหญ่ที่แอบอ้างมาทำให้เสียชื่อ ที่รพ.ผมเองมีผู้ป่วยหลายรายที่ถามผมว่า รักษาแผนโบราณได้ไหม กินยาหม้อยาลูกกลอนยาพระดีไหม ส่วนใหญ่ผมจะบอกไปทำนองว่าผมไม่รู้ว่าจะได้ไหม ขึ้นกับความน่าเชื่อถือ หมอพระหลายรายในจังหวัดที่ผมอยู่ ผมกระซิบบอกคนไข้ได้เลยว่าน่าจะมีการใส่สเตียรอยด์ในสมุนไพร เพราะคนไข้ที่ไปหลายคนกลับมามีอาการแบบโดนสเตียรอยด์ ... แต่ถ้าคนไหนไม่มีข้อมูล ผมก็ปล่อยๆไป ให้คนไข้เลือกเอง ถ้าเป็นมะเร็งระยะแรกๆ ผมและหมออีกหลายๆท่าน ก็บอกคนไข้เหมือนๆกันว่าไม่รู้ว่ารักษาแผนโบราณจะหายไหม แต่ถ้าไม่หาย คุณอาจจะเปลี่ยนstageและรักษาด้วยแผนปัจจุบันไม่หาย...... ที่ผ่านมา มีคนไข้เป็นสิบราย ที่เสียเงินไปรักษามะเร็งระยะเริ่ม้นกับหมอพระหมอจีนหมอชาวบ้าน กลับมาเป็นstage3-4 คนไข้เบาหวาน หายไปจากนัด กลับมาอีกทีด้วยอาการน้ำตาลสูงแบบHHNKซักไปซักมา เธอไปรักษากับหมอจีนที่จังหวัดข้างเคียง หมอจีนสั่งให้เลิกยาMFM โดยบอกว่าทำให้โรคเป็นมากขึ้น หมอจีนแบบนี้ ผมว่าเป็นตัวการทำให้หมอจีนดีๆเสียหาย ........ ส่วนคนไข้คนไหนมาขอไปรพ.หัวเฉียว จะไปรักษาแผนจีน.... ถามว่าไปได้ไหม ผมก็ตอบคนไข้ได้ว่า "ไปได้" เพราะที่นั่นเขาทำงานเป็นระบบมีหลักการมีหลักฐาน ขอไปทำฝังเข็มด้วยเรื่องปวดกล้ามเนื้อ โรคกระดูกทับเส้นประสาท หรือกลุ่มโรคทางortho ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ ผมไม่เคยขัด(เช่นเดียวกับแพทย์หลายๆท่านก็ไม่ค่อยขัด) ของพวกนี้ขึ้นกับหลักฐานครับ ถามว่าร่วมมือกันดีไหม ตอบได้ว่าดี เพราะโรคหลายอย่างการแพทย์แผนปัจจุบันรักษาได้ผลไม่ดีจริงๆ แต่ที่เป็นอยู่นี่มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ร่วมกันยากถ้าไม่ทำเป็นสถาบันขึ้นมา ------------------------------------------------------------------------------ ตอนนี้ ในจังหวัด อำเภอที่ผมอยู่ มีหมอชาวบ้านพอสมควร ที่เก่งก็มี(แต่น้อย) ที่ไม่เก่งก็มี แต่ทั้งเก่งทั้งไม่เก่งบางคนบอกชาวบ้านเหมือนกันว่า อย่าไปรักษากับแพทย์ในโรงพยาบาลเลย เห็นมั้ยฉีดยาแล้วตาย หายช้า รักษากับเค้าหายเร็วกว่า คนไข้ที่หายก็มี ที่ตายก็เยอะ พิการก็แยะ แต่จนปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ใช่คนไข้ที่ไปเจอฤทธิ์เดชการรักษาแบบนี้ก็มักจะบอกประมาณว่าถ้าผมไม่รู้จักแพทย์แผนไทยก็อย่าไปว่าเขา ดังนั้นรายใหม่ๆที่ไม่รู้ก็ยังไปรักษาเรื่อยๆ ............ ผลสำรวจเรื่องสเตียรอยด์ครั้งหลังๆที่ผมรู้มา ก็เจอสเตียรอยด์ปนในยาโบราณยาหม้อยาลูกกลอนมากกว่า90%ของตัวอย่างสุ่มตรวจ ที่น่าสังเกต ตัวอย่างยาจำนวนมาก อ้างว่าไม่มีสเตียรอยด์ และหลายตำรับคนขายจะใช้คำประมาณว่า แพทย์ชอบดูถูกหาว่าผสมสเตียรอยด์(ซึ่งมันก็ผสมจริงๆ) นั่นคือสถานการณ์แบบไทยๆ ถ้ามีใครถามผมว่าแพทย์แผนไทยดีไหม ผมตอบได้ว่าดี แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คือเราเจอแต่ของปลอมเพราะไม่มีการควบคุม แพทย์แผนปัจจุบันบางราย ถ้าไปอยู่ในที่ไกลๆไม่มีการควบคุมที่ดี ก็ออกมาในแนวการรักษาแปลกๆ การตรวจพิสดาร   แล้วเมื่อมองในแง่แพทย์แผนจีนล่ะ มีการควบคุมกันดีไหม การตรวจรักษาได้ผลดีไหม ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม(นี่คือเหตุผลที่ผมต้องถามหาหลักฐาน เมื่อมีการบอกว่ามียาที่บรรเทาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ ... ส่วนนึงเพราะอยากรู้ว่ามันบรรเทาแค่อาการ หรือมันไปเปลี่ยนmorbid mortality rate) ความฝันของผมสมัยเริ่มมาเรียนแพทย์ใหม่ๆ คืออยากอยู่ในโรงพยาบาลที่มีทั้งการแพทย์แผนตะวันตก แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ไม่มีการแบ่งว่าแพทย์แผนตะวันตกเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน แล้วอันที่เหลือเป็นแผนโบราณ อยากให้แพทย์ชาวบ้านที่ดีๆสามารถทำงานได้ในพื้นที่ อยากให้มีการเผยแพร่หลักการรักษาสุขภาพในแบบแผนไทย การกินอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพตามหลักธาตุ การรักษาโรคเบื้องต้นด้วยตนเองในแบบไทยๆที่ประยุกต์ใช้กับวิถีชีวิตของคนไทยได้จริง แต่ปัจจุบัน มันไม่ใช่อย่างนั้น.... มีหลายสำนักหลายเจ้าโผล่ขึ้นมาจนไม่รู้จะเชื่อใคร ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้ในยุคนี้ก็คือ การถามหาหลักฐานครับ การแพทย์ปัจจุบันก็เน้นevidence base แพทย์แผนไทย ก็มีลักษณะแนวทางวิธีการรักษา แพทย์แผนจีนก็น่าจะมี ..... อยากให้อธิบายด้วย เพราะมิฉะนั้นการออกมาให้ความรู้ของคุณอาจกลายเป็นช่องทางที่ทำให้คนไข้บางคนต้องเสียโอกาส และเป็นช่องทางทำเงินให้คนไม่ดีบางคน ปล. ถ้ามีอะไรทำให้คุณบลูเรย์ต้องขุ่นข้อง ผมก็ต้องขออภัยด้วยครับ ตอนนี้ผมรู้ถึงจุดยืนของคุณแล้วก็คิดว่าต่อไปคงจะปรับทางให้เข้ากันได้ครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 05:32:28 จากคุณ : หมอแมว - [ 9 มี.ค. 50 04:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับคุณ paoasa และคุณหมอแมว (บางส่วน) และก็คุณบลูเรย์ (บางส่วน) นะครับ บางทีการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย แต่ไปรักษาแผนจีนกลับหาย แบบนี้มันก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะเหตุใดกัน?? แต่ก็มีมากที่รักษาแผนจีนไม่หาย แต่รักษาแผนปัจจุบันหายก็มีมาก ซึ่งสามารถอธิบายได้ตามหลักการวิทยาศาสตร์ทั่วไป (ผมไม่ได้ bias นะ) และที่เห็นด้วยกับคุณหมอแมวก็คือ คนที่นำบทความมาโพสท์ ก็น่าจะต้องรับผิดชอบด้วย จะต้องกลั่นกรองสิ่งที่คิดว่าถูกต้องมากที่สุด แล้วนำมาเผยแพร่ต่อประชาชน ไม่ใช่ว่าเอามาได้จากหนังสือนั้นหนังสือนี้แล้วก็เอามาโพสท์ แบบนี้คนที่อ่านเค้าไม่รู้ไปด้วยกับคุณเค้าก็คิดว่าถูกแล้วเอาไปปฏิบัติตาม ทั้งๆที่จริงๆแล้วบทความมันอาจจะผิดตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ นอกจากถ้าเป็นประสบการณ์ตรง ก็จะเป็นการดีมากถ้านำมาแชร์กัน จะได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าคนที่จะนำไปใช้ต้องมีวิจารณญาณด้วยเช่นกัน ผมไม่ได้บอกว่าการฝังเข็มไม่ดีนะ ถ้าปวดเมื่อยหรือมัน spasm มากๆ ก็อาจจะไปฝังเข็มมันก็อาจจะช่วยได้ เพราะว่ามันอาจจะไปลด threshold ของความเจ็บปวด หรืออาจจะ mechanism ไหนที่สามารถอธิบายได้ก็ว่ากันไป ก็ดูมีเหตุผลดี แต่ว่า ไอ้เรื่องข้อเสื่อม หรือโรคภูมิแพ้ แล้วฝังเข็มแล้วหายเนี่ย ผมดูแล้วมันไม่มี pathway ของการฝังเข็มที่มันจะไปรักษาโรคพวกนี้ได้เลย หรืออาจจะเป็น pathway ที่ยังไม่ถูกค้นพบก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้แหละครับที่ผมรู้สึกขัดๆกับคุณบลูเรย์ อะไรๆก็ฝังเข็ม ถ้าสามารถอธิบายได้แบบแพทย์แผนปัจจุบันล่ะก็ ผมจะเชื่อครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 08:03:02 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น - [ 9 มี.ค. 50 07:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ คห.5-6-7-8 ที่ยังเห็นประโยชน์ของแพทย์จีน แต่มีบางคนอคติจริงๆ โดยเฉพาะคุณ เอ็ม ถึงขนาดยื่นเปเปอร์บอกว่าสิ่งที่เขาเชื่อถูกต้อง(เรื่องน้ำอัด ลม) ซื่งในความจริง หมอแมว(ขออภัย)ก็รู้ว่ามันมีแต่โทษ หาประโยชน์ไม่ได้ ผมจะเล่าเรื่องนึงให้ฟังซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงที่เมกา 2-3 ปีก่อนมีชายคนนึงที่เมกา เรียกร้องให้ทางการออกมาบอกประชาชนถึงพิษภัยของอาหารฟาทร์ฟู๊ด+น้ำอัด ลมแต่ไม่มีใครสนใจ เขาจึงลงทุนเอาตัวเอง(เป็นนักกีฬา)ทดลองในเรื่องนี้ ก่อนทำ ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด(ทุกอย่างปรกติ)แล้วไปกินฟาทร์ฟู๊ดยี่ห้อนึง วันละ 3 มื้อเป็นเวลา 30 วันเต็มๆ หลังจากนั้นเขากลับไปตรวจร่างกายใหม่ ปรากฎว่าอ้วนขึ้นมาก ความดัน/ไขมัน/น้ำตาลสูงหมด เขาต้องใ้เวลา 2 ปี เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิม เรื่องนี้เป็นความจริง แต่ต้องหาจาก ข่าวย้อนหลัง 2-3 ปี นี้แสดงถึงพิษภัยของอาหารเหล่านี้ แต่คนทั่วไปไม่ สนใจและบ.อาหารเหล่านี้ไม่ต้องการให้เป็นข่าว จึงเงียบไป ใน ตปท.อย่าง ที่ แคนาดา ผมไปอยู่ 5 เดือน คนของเขาน้อยมากที่กินอาหารเหล่านี้ ส่วน ใหญ่จะไปฟู๊ดเซ็นเตอร์ ซึ่งมีสารพัดอาหารจากทั่วโลกมาทำขาย คนเยอะมาก นี้แสดงว่า คนของเขารู้ดีถึงพิษภัยเหล่านี้ แต่เป็นเขาเลือกที่จะไม่กิน เพราะ เป็นประเทศเสรีนิยม ยังมีอีกหลายตัวอย่างที่ไม่สามารถบอกให้ที่นี้เพราะเรื่อง มันยาว อีกอย่าง บ.เหล่านี้ก็มีอิทธิพลต่อทุกรัฐบาลของประเทศนั้นๆที่เขาเข้าไป เป็นการยากที่จะบอกเล่าแก่คนทั่วไปที่เข้าไม่ถึงแหล่งข้อมูล คนบ้านเราเข้า ใจผิดเอามากินเป็นอาหารหลัก ซึ่งไม่ถูกต้อง ทางการบ้านเราก็ไม่อยากเข้า ไปแหย่ บ.ยักษ์ใหญ่ อย่างว่า ใส่เกียร์ว่างดีกว่า ฉนั้นในเมื่อทุกคนไม่ใส่ใจ ผลเสียตกอยู่กับใคร คนรุ่นใหม่สนใจแต่เฮฮาไปวันๆ จะดื่มกินก็เอาความสะ ดวกเข้าว่า หาเงินมากินใช้เที่ยว แบบไม่มีคุณภาพ สังเกตุเด็กเดี๋ยวนี้อายุน้อยๆ ก็เป็นเบาหวานแล้ว เพราะสื่อต่างๆโดยเฉพาะเช้าวันหยุดจะเต็มไปด้วยโฆษณา ขนมขบเคี้ยวเต็มจอ นี่คือที่มาของโรคอ้วนและถ้าอ้วนแต่เล็กโตขึ้นจะอ้วนถา วร เพราะไขมัยเข้าไปในเซลย์ เรียกว่าเซลย์อ้วน ลด นน.ยังไงก็ลดไม่ลง สำหรับทางแพทย์แผนจีนก็มีข้อเสีย(ไม่ได้ดีไปหมด)คนที่ไม่ผ่านการสอบใบ อนุญาติตามต่างจังหวัดก็ไช้ช่องกฏหมายลักลอบทำยาเองโดยใส่สเตรียลอยร์ ยังมีอีกมาก ซึ่งคนจำนวนมากยังไม่รู้กินจนกระดูกผุ ไตวาย ก็เยอะ  สรุปคือแพทยทั้ง 2 แผนถ้าผสมผสานกันได้เหมือนที่เมืองจีนทำอยู่จะเป็น การดี อย่างไรก็ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับผู้ที่สนับสนุน/ผู้ที่คัดค้าน(อย่าง มีเหตุผล)ถ้าไม่มีการถกปัญหากันก็จะไม่รู้ว่าสังคมคิดอย่างไรกับหมอจีน ครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 22:42:29 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 08:00:07 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 07:58:23 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 07:56:58 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : บลูเรย์ - [ 9 มี.ค. 50 07:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกคน ผมเองก็เป็นคนนึงที่รักษาทั้งหมอจีนและหมอปัจจุบันครับ จากคุณ : ASH - [ 9 มี.ค. 50 08:21:06 A:203.155.83.253 X: TicketID:128509 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นานๆ จะเห็นคุณหมออกความเห็นคนละข้าง(เดียวกัน) พูดง่าย ๆ ก็คือเห็นคุณหมอเถียงกัน เป็นเรื่องดีครับ ไม่ใช่ดีที่เถียงกัน แต่ดีที่ทุกคนมีความหวังดี ต่อคนอื่น ผมอยากให้เถียงกันเพื่อคนอื่นครับ อย่างเถียงกันเพื่อตัวเอง ว่าง ๆ คุณหมอหาDVD ภาพยนต์เรื่อง Deep... อะไรซักอย่างเกี่ยวกับเรืองดำน้ำ ที่มี เดนเซล วอชิงตัน แสดง มาดูครับ เขาเถียงกันจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็ดีกัน อยากให้คนไทยเป็นอย่างนั้นบ้าง หวังว่าคุณบลูเรย์ (ที่ผมเคารพ) คุณหมอแมว (ที่ผมยกย่อง)จะดีกัน จากคุณ : คนเคย (mintdec65) - [ 9 มี.ค. 50 10:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าเราดึงข้อดีของแต่ละแบบแผนมารวมมาเสริมกันดีไหมครับ ส่วนข้อเสียเราค่อยมาถกกันด้วยหลักฐานและเหตุผล จากคุณ : Kato_nd - [ 9 มี.ค. 50 10:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องอาหารฟาสฟู๊ดไม่ดี แล้วมีคนทดลองแบบที่คุณบลูเรย์บอก ก็เคยอ่านเจอค่ะ จากคุณ : 123.. - [ 9 มี.ค. 50 10:33:58 A:203.188.10.201 X: TicketID:106624 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณบลูเรย์และหมอแมว เคยดูสารคดีที่คุณบลูเรย์บอกแล้วก็เห็นแต่อันตรายดังที่ว่าจริงๆ ก็อยากให้การแพทย์ปัจจุบันกับแพทย์จีนร่วมมือกันเพื่อให้ได้ประโยชน์ มากที่สุดต่อคนไข้ครับ แล้วก็รู้สึกดีที่มีการโต้แย้งเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ แก่คนทั่วไปครับ จากคุณ : jswppy - [ 9 มี.ค. 50 11:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 -"-  อืม มันเป็นอย่างนี้นี่เอง จากคุณ : Monod - [ 9 มี.ค. 50 11:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึง  ขอโหวต จากคุณ : paoasa - [ 9 มี.ค. 50 12:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ''แต่มีบางคนอคติจริงๆ โดยเฉพาะคุณ เอ็ม ถึงขนาดยื่นเปเปอร์บอกว่าสิ่งที่เขาเชื่อถูกต้อง''จากคุณ : บลูเรย์  - [ 9 มี.ค. 50 07:56:03 ] ^^ อ่านกระทู้ต้นเรื่องและกทนี้ ตั้งแต่วานนี้  จนถึงวันนี้สมควรที่จะพิจารณาตัวเองบ้างนะคุณเอ็ม เคยเจอเหมือนกันคนนี้เก่งจริง รู้จริงแต่ ....เกินปกติ เราเลิกตอบ กท เกี่ยวกับสุขภาพไปแล้ว  ทำใจเสียเถิดค่ะ ....ของตัวเองมองไม่เห็น ได้แต่ว่าผู้อื่น คนหนอคน ดีใจที่ีคนเก่งและรู้จริงตอบ กท อย่างคุณเอ็ม แต่เสียดายโลกทรรศน์ที่เค้าใช้กล่าวถึงคนอื่น เห็นด้วยกับที่ตอบถูก แต่ประโยคปิดท้าย รู้จริง แต่ทัศนะแคบ วันนี้ขอตรงๆในกท นี้ ถ้าคุณเอ็มมาอ่านหวังว่าจะนำไปคิดบ้าง คุณเก่งและีรู้จริง เรายกย่องในส่วนนั้นแต่ระวังภาษาที่ว่าคนอื่นบ้าง ความดีที่คุณเอ็มช่วยตอบ กท มีประโยชน์มากมาย แต่อย่าไปดูถูกคนอื่นมากนัก อย่าเก่งแต่วิชาการแต่ไ่ม่คิดถึงใจเขาใจเราื จำไว้ในซีรีบรัมบ้างนะ จากคุณ : law of nature - [ 9 มี.ค. 50 22:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จริงๆเคยชื่นชมมาตลอด ปัจจุับันก้ยังชื่นชมคุณเอ็ม แต่เริ่มอ่านเจอหลายประโยคที่บอกถึงวิสัยทรรศน์ของท่านนี้และเจอมากับตัวเอง ขณะพิมพ์ไม่ได้โกรธหรืออารมณ์เสียกับคุณเอ็ม เรื่องของเราจบแล้วและหวังว่าคุณเอ็มจะเอาไปตรึกตรองดูสักนิด วันข้างหน้่าคุณจะได้มีความสุขกับสังคมเพิ่มขึ้น ถ้าคุณจะเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างเหมือนความรู้ของคุณที่มีมากและกว้างขวางจริง ยินดีที่ได้เจอคนเก่งแต่ขออยู่ห่างๆ ดีกว่า หึึหึหึ จากคุณ : law of nature - [ 9 มี.ค. 50 22:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขออนุญาต จขกท โพสต์นะคะ เสร็จแล้วจะเซฟกระทู้เก็บไว้เป็นที่ระลึก คุณ จขกท ได้เขียนประโยคนี้ถึงคุณเอ็ม.... ''คุณจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่อย่ากระแนะกระแหนแบบนี้ แสดงว่ายังไม่โตพอ''.... เดี๋ยวเอาซีนหลากหลายอารมณ์ที่หาได้และบางอันขอเก็บไว้อ่านคนเดียว อิอิ อ่านแล้วยิ้ม สนุกสนานกันจังค่ะ ขอใช้คุณเอ็มตามที่คุณบลูเรย์อ้างถึง ขำกร๊่ากกกกกกก ยังมีมากกว่านี้อีก คุณเอ็มขา มาอ่านแย้วสนุกจริงๆ มาทำสกุ๊ปคุณเอ็มยอดยอมยุทธแต่วุฒิภาวะ และมุมมอง สุดยอด 1) อันนี้อารมณ์อยากล้อเล่นใช่เปล่า หรือ กระแหนะกระแหนดีเจ้าค่ะ +++น้ำอัดลมไม่สามารถทำให้กระดูกพรุนได้จริงครับ เลิกมั่วกันเสียที......<b>จากคุณ : M</b> ----ไม่ได้มั่วครับ จากประสบการณ์ญาติกัน ดื่มน้ำโซดาตลอด(น้ำเปล่า ดื่มไม่เป็น)พออายุมากขึ้น เริ่มเดินไม่ได้ ในที่สุดต้องนั่งรถเข็น กรณีนี้ยืนยันได้ ....จากคุณ : บลูเรย์ ูู^ ^ +++ถ้าอย่างนั้นผมแนะนำให้คุณระวังการดื่มน้ำหลังกินข้าวนะครับ เพราะผมมีเพื่อนที่เป้นมะเร็งและเขาดื่มน้ำหลังกินข้าวทุกมื้อเลย.....<b>จากคุณ : M</b> 2) ท่านอื่นอาจจะไม่ทราบข้อมูลเท่าคุณเอ็มผู้รอบรู้ แน่ใจหรือเจ้าคะว่าคุณเอ็มถูกจริงเปล่า ^^'' แล้วคุณเอ็มก้อโต้แบบนี้ โดยท่านแรกไม่ได้วิจารณ์อะไรเกี่ยวกับคุณเอ็ม ----ฝรั่งเขาไม่กินผงชูรสกันมั๊ง เขาเลยไม่รู้จะไปทำวิจัยหา ... อะไร ข้อสำคัญ ไม่มีใครให้ทุนวิจัยครับ....จากคุณ : Oh-deh ^ +++อย่ามั่ว เขาเลิกวิจัยกันไปเกือบ 40 ปีแล้วครับ ซึ่งผลสรุปออกมาว่า ไม่มีอันตรายครับ ไม่ใช่ไม่มีใครทำ ....<b>จากคุณ : M</b> <Me> เอาแค่ข้อมูลเล็กน้อยมาให้ดู เค้ายังทำวิจัยเกียวกับผงชูรส ยังไม่ได้เลิกไปเกือบ 40 ที่คุณเอ็มเขียนเจ้าค่ะ เพราะยังเห็นนักวิจัยที่รู้จักยังทำและตีพิมพ์ไม่กี่ปีมานี้เอง แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่หนูทดลองเจ้าค่ะ Performing your original search, monosodium glutamate research, in PubMed will retrieve 810 citations.   Involvement of ERK and CREB signaling pathways in the protective effect of PACAP in monosodium glutamate-induced retinal lesion. Ann N Y Acad Sci. 2006 Jul;1070:507-11. อ้อแล้วอย่ามาว่า ''เราอ่านไม่รู้เรื่องอีกนะคุณเอ็มขา'' จริงๆมีหลายร้อยงานวิจัยในช่วง 40 ปี ก่อนหน้านี้ค่ะ ไม่ได้ยกมาให้หมดน่ะ หุหุหุึ จากคุณ : law of nature - [ 10 มี.ค. 50 07:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่อง fastfood ก็เขียนไว้ชัดเจนแล้วครับ ว่ามันอยู่ที่การเลือกกิน ไม่ได้ขึ้นกับชนิดของร้านอาหาร ถ้าวันหนึ่งเกิดมีคนทำการทดลองอย่างในคคห.9 แต่เขาเลือกกินแต่สลัดผัก จนผลการทดลองออกมาตรงข้าม คุณจะเขียนว่า fastfood เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือ?? และถ้ามีคนกินขนมหวานไทยมากๆจนเกิดอันตราย คุณจะเขียนว่าอาหารไทยมีอันตรายมากมั้ยครับ?? จากคุณ : Marquez - [ 11 มี.ค. 50 15:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนเรื่องการรักษา ไม่ว่าจะเป้นแพทย์แผนไทย แผนโบราณ แผนจีน แผนปัจจุบัน ฯลฯ ขอแค่มันมีหลักฐานรับรอง หมอแผนปัจจุบันและนักวิทยาศาสตร์พร้อมที่จะให้ความร่วมมือได้ ไม่ใช่แค่มาอคติกับคำว่าแผนใหม่ แผนเก่า เมื่อเดือนที่แล้ว ผมยังแนะนำให้ผู้หญิงท้องไปฝังเข็มรักษาอาการไมเกรน เพราะมันมีรายงานว่าช่วยได้จริง และหลีกเลี่ยงการใช้ยาในผู้หญิงท้องได้ (แค่ไม่ใช่ฝังเข็มรักษาทุกโรค) ซึ่งจุดสำคัญที่สุดคือ หากคุณมาพูดโดยไม่มีข้อมูลจริง แล้วเกิดมีคนเชื่อนำไปทำตาม ถ้าหายก็ดีไป แต่ถ้าเขาเกิดความผิดปกติ แล้วคุณตามไปรักษาความผิดปกติที่เกิดกับเขามั้ยครับ คุณไปรับผิดชอบกับเงินของเขามั้ยครับ คุณไปช่วยเรื่องการเสียโอกาสในการรักษาของเขามั้ยครับ อยากให้ทุกคนระวังกันให้มากหน่อยครับ จากคุณ : Marquez - [ 11 มี.ค. 50 15:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบคคห.คุณ law เรื่องของสุขภาพ จะมาอ้างเรื่องของความเชื่อ โลกทัศน์หรือทรรศนะกันไม่ได้ครับ มันต้องพูดกันที่ข้อมูล+หลักฐานที่น่าเชื่อถือ คุณอาจจะกล่าวว่ามีคนหนึ่งคน กินน้ำอัดลมแล้วกระดูกพรุนได้ แต่คุณไม่สามารถนำมาสรุปได้ว่าน้ำอัดลมทำให้กระดูกพรุน จนกว่าจะได้ทำการทดลองนี้กับคนอื่นๆด้วย ส่วนเรื่องการทดลองที่จะนำมาให้ผลจริงๆนั้น ผมนับเฉพาะในคนครับ ดังนั้นไม่แปลกที่จะมีการทดลองที่ไม่ได้ทำในคนอยู่ (จริงๆน่าจะแค่ 30 ปี) จากคุณ : Marquez - [ 11 มี.ค. 50 15:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่ M  มาแว้ววววว จากคุณ : paoasa - [ 11 มี.ค. 50 23:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Marquez : เรื่องของสุขภาพ จะมาอ้างเรื่องของความเชื่อ โลกทัศน์หรือทรรศนะกันไม่ได้ครับ มันต้องพูดกันที่ข้อมูล+หลักฐานที่น่าเชื่อถือ ---โลกทัศน์ที่เขียนหมายถึง มุมมอง ความคิด ความเชื่อ ของแต่ละบุคคล  ของคุณนี่จัดว่า ''.... เพราะคิดเอาตัวเองเป็นหลักมากเกินไป อีโก้สูงไปหรือเปล่าคะ'' เช่น 1. เพราะคุณคิดแค่ต้องมีหลักฐาน งานวิจัย เปเปอร์มายืนยันเท่านั้น เพราะในความจริง วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เพียงบางอย่าง และอาจเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ้าในอนาคตมีหลักฐานที่ดีกว่ามายืนยัน 2.  ''เรื่องสุขภาพ'' ถ้าคนนั้นพิจารณาด้วยหลักเหตุผล หรือเหตุใดก็ตาม.... และเลือกวิธีนั้นรักษา โดยไม่มีหลักฐานและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ แต่เค้าเลือกแล้วที่รักษาด้วยวิธีนั้น หรือเลือกจะเชื่อแบบนั้น .....เราคิดว่าเป็นเรื่องความคิดเห็นส่วนบุคคล .....คุณควรจะเคารพความคิดเห็นผู้อื่นบ้าง ''ไม่ใช่มาว่า  มั่วบ้าง ให้ตาสว่าง หรือ มีิอคติ ''... 3. '' โลกทัศน์ไม่เพียงแค่เรื่องสุขภาพอย่างเดียว แต่รวมถึง เจตนคติที่คุณกล่าวถึงผู้อื่นด้วยค่ะ '' คงจำกรณีกระทู้ ''กับดักสุขภาพสิบประการ ของคุณหมอบรรจบ'' และคุณวิจารณ์บทความของท่าน  ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย แต่ประโยคหลังๆ คุณบอกว่า ....เพราะคุณเห็นว่าเป็นบทความของหมอท่านนี้ ทำให้คุณคิดว่าไม่น่าเชื่อถือทั้งหมด นั่นคือตัวอย่างโลกทัศน์ ของคุณค่ะ ดังนั้นคนที่คิดต่าง มีความเชื่อต่าง แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน คุณไม่ควรจะใช้ข้อความก้าวร้าว ดูถูกผู้อื่น Marquez : คุณอาจจะกล่าวว่ามีคนหนึ่งคน กินน้ำอัดลมแล้วกระดูกพรุนได้ แต่คุณไม่สามารถนำมาสรุปได้ว่าน้ำอัดลมทำให้กระดูกพรุน จนกว่าจะได้ทำการทดลองนี้กับคนอื่นๆด้วย -----เรื่องนี้เราไม่เกี่ยวด้วย... แต่คุณเขียนกระแนะกระแหน ไม่ได้ใช้เหตุผลค่ะ Marquez :1) ''อย่ามั่ว เขาเลิกวิจัยกันไปเกือบ 40 ปีแล้วครับ ซึ่งผลสรุปออกมาว่า ไม่มีอันตรายครับ ไม่ใช่ไม่มีใครทำ'' 2) ''ส่วนเรื่องการทดลองที่จะนำมาให้ผลจริงๆนั้น ผมนับเฉพาะในคนครับ ดังนั้นไม่แปลกที่จะมีการทดลองที่ไม่ได้ทำในคนอยู่ (จริงๆน่าจะแค่ 30 ปี)'' ---- มาดูกันอีกที คุณเขียนสองครั้งมันสื่ออะไรบ้าง 1. ผลสรุปที่คุณเขียนว่า ''ไม่มีอันตราย''... ควรมายืนยันตามที่คุณสรุป คุณชอบขอเปเปอร์คนอื่น คราวนี้เราขอบ้าง ....อยากรู้ว่าที่สรุป ปริมาณที่ใช้เท่าไร ทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิตอะไร คุณอ่านมาจากไหนคะ 2. นักวิจัยยังไม่เลิกวิจัยค่ะ ''คุณอ้างว่าคุณคิดแค่งานวิจัยที่ทำในคนเท่านั้น'' คุณมองภาพงานวิจัยคลาดเคลื่อนแล้วค่ะ ....ถึงจะิทำกับสัตว์ทดลอง เช่น หนู ไก่ เซลล์ และอื่นๆ  '''จัดว่าเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวกับสารนั้น '' ...เพราะจะต้องทำกับสิ่งชีวิตชั้นต่ำก่อน จึงจะทำการทดลองกับคนได้ ดังนั้นข้อความของคุณมันคือการเลี่ยงประเด็น การวิจัยว่ามีการทำหรือไม่?  และเพราะผงชูรสน่าจะมีอันตราย นักวิจัยจึงคิดทำการวิจัยจนถึงทุกวันนี้   อ่านความคิดเห็นนี้ คิดว่าคงเข้าใจมากขึ้นนะคะ คงจะสะกิดอีโก้ หรือ self-centred  คุณลงมาได้บ้าง ''เราเพียงแค่คนโง่คนหนึ่ง ยังต้องฟังผู้อื่นที่คิดต่าง เพื่อหวังจะฉลาดขึ้น และได้ความรู้ใหม่ๆ เข้ามาประดับสติปัญญา''... ไม่เคยยึดที่เปเปอร์อย่างเดียวค่ะ เพราะวิทยาศาตร์ที่พิสูจน์ได้ยังแค่ส่วนเล็ก ในส่วนใหญ่ที่ัยังเหลือสิ่งที่รอการพิสูจน์ค่ะ จากคุณ : law of nature - [ 12 มี.ค. 50 05:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มารวบรวมความคิดเห็นบางท่านได้เกี่ยวกับคุณในบางกระทู้ เพื่อจะได้มองจากมุมมองของท่านอื่นบ้าง และ''เพียงส่วนหนึ่งเพราะกระทู้บางส่วนก็หายไปแล้วค่ะ'' หลังจากคุณแสดงความคิดเห็น จึงเกิดความคิดเห็นนี้ คาดว่าจะหมายถึงคุณ(1) 1) เบื่อพวกใจแคบมากๆเลย เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยอย่าวิ่งมาหาสมุนไพรหรืออาหารเสริมกินล่ะ จากคุณ : เซ็งพวกอีโก้สูงไม่เข้าท่า - [ 8 มี.ค. 50 16:40:14 A:202.57.179.129 X: TicketID:137229 ] 2) ขอโทษนะคะคุณ Marquez เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ ดิฉันเห็นคุณจะต้องคอยเข้ามาแย้งอยู่เรื่อยเลยอะคะ ต่างคน ต่างสำนัก ต่างความคิดนะคะ ลองเปิดใจรับฟังผู้อื่นบ้างสิคะแล้วคุรจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นเป็นกอง จากคุณ : ลองดูนะ - [ 14 ก.พ. 50 18:04:18 A:202.57.178.75 X: TicketID:137229 ] 3) กินยาผิดขวดอีกแล้ว คุณ Marquez จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม 4) ผมขอตีความว่าคุณ Marquez อาจไม่เห็นดวยกะบางเรื่องไม่ว่ากันนะครับ แต่ขออย่าได้กล่าวลอยลอย บอกมาเลยว่าเรื่องไหน ประโยคไหน แล้วเอาข้อมูลมายันกันทางวิชาการ แบบนี้ถึงจะได้องค์ความรู้นะครับ จากคุณ : stevyboy26 ----คุณกล่าวถึงยาสมุนไพร และอ้างผลทางวิยาศาสตร์ แต่ทางกลับกันท่านอื่นขอเหตุผล หลักฐานของคุณบ้างค่ะ คุณเคยให้มากน้อยเพียงใดคะั แล้วไม่ลองไปดูบ้างล่ะครับ ว่าไอ้ที่รอดมาน่ะ มันอัตราส่วนเท่าไหร่ แล้วที่ไม่รอดน่ะอัตราส่วนเท่าไหร่ ส่วนไอ้ที่บอกว่ายาแผนปัจจุบันมันมีผลเสียอย่างโน้นอย่างนี้ เป้นเพราะยามันจะต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์รับรอง และบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจน ในขณะที่การใช้ยาแบบโบราณ หลายๆแบบ ไม่มีการบันทึกอย่างมีระบบ มันเลยดูเหมือนปลอดภัย ทั้งที่จริงๆแล้วอาจจะไม่ปลอดภัย หรือไม่มีประโยชน์เลยก็ได้ จากคุณ : Marquez 5) มันเลยดูเหมือนปลอดภัย ทั้งที่จริงๆแล้วอาจจะไม่ปลอดภัย หรือไม่มีประโยชน์เลยก็ได้ >>>>>>>>ตกลง คุณว่ามันแค่ "อาจจะ" หรือมันไม่ปลอดภัย จริงๆ ละครับ พิสุจน์ซิครับ เอาแบบที่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ไปเลย ทดสอบทวนซ้ำให้ได้ผลออกมายืนยันว่า มันไม่ปลอดภัย คุณมีปัญญาทำไหม หรือได้แค่จินตนาการคาดเดาเอาเองว่า "อาจจะ" ดูข้อมูลของผมซิครับ ผมอ้างหลักฐานวิทยาศาสตร์ pure ๆ ยาแผนปัจจุบันที่ผมเอ่ยถึง เช่น TZD และ Statin นั่นมันมีรายงานวิทยาศาสตร์บันทึกเป็นหลักฐาน ไหมครับ ?? ผมไม่ได้ซี้ซั้ว พูดว่า อาจจะ ซะหน่อย จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม @@แค่ีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น หวังว่าคงจะมองได้มุมใหม่ๆ ขึ้นมาบ้างค่ะ จากคุณ : law of nature - [ 12 มี.ค. 50 05:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ ทุก กท.ที่เข้ามาแจม ได้ความรู้ใหม่อีกเยอะ พูดขึ้นมา ผมยัง ใหม่กับห้องนี้ ยังไม่คุ้นกับการโพ๊สข้อความนัก การใช้คำพูดอาจเถรตรงไป หน่อย แต่ไม่มีเจตนาร้ายต่อทุกคำถาม รู้ก็ตอบให้ ไม่รู้ก็๋บอกไม่รู้ คนเราไม่ได้ รู้ไปทุกเรื่อง ศาสตร์ทุกศาสตร์ก็มีข้อดี/ข้อด้อยในตัวเอง เมื่อก่อนยังไม่มีอินเตอร์ เน็ท อยากรู้อะไรต้องไปค้นในห้องสมุด หรือ ซื้อหนังสือเฉพาะเรื่องมาอ่าน เดี๋ยวนี้ดี ขึ้น สามารถถามจากผู้รู้โดยตรง อย่างคุณ เอ็ม ผมว่าคุณรู้เยอะนะ แต่บางที คุณอาจสื่อได้เถรตรงเกินไป คำพูดก็เลยฟังไม่รื่นหู ถ้าคุณลดความร้อนแรง ลงได้บ้าง ผมเชื่อว่าหลายคนคงเทคะแนนให้คุณหมด คุณว่าไม๊ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 50 21:29:04 จากคุณ : บลูเรย์ - [ 12 มี.ค. 50 12:55:18 ]