ความคิดเห็นที่ 1 เพียงแต่..ต้องเข้าใจ และละไว้ว่า มันยังไม่สมบูรณ์.. แต่มันพอเพียงสำหรับ การดำเนินชีวิต ในสังคมให้เป็นผู้มีความสุขได้ ประโยชน์สุขในขั้นที่ 1 เรามักอิงจากผู้อื่น จากวัตถุเรื่องราวภายนอก ประโยชน์สุขในขั้นที่ 2 เราก็อิงจากคุณธรรม จากความดีภายในของตนเอง และเพราะเจ้าความสุข ที่มันยังต้องไปอิง ไปอาศัยที่อยู่ มันจึงเป็นความสุขที่ไม่เป็นอิสระ ต้องไปขึ้นอยู่กับอะไรต่ออะไรมากมาย จิตใจเรา สุข หรือ ทุกข์จาก ปฏิกริยาต่างๆที่ตอบสนองเรา ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ ไม่คงทนถาวร..แต่เราก็ไปติดกับดักความสุข อยากให้มันสุขเช่นนี้ไปตลอด แล้วบางทีมันก็สวนกับธรรมชาติ นี่เองจึงเกิดเป็นที่มา ของความคาดหวัง..และความผิดหวัง (ผมขอยกเรื่อง "คาดหวังอย่างไร จึงจะเป็นอิสระจากความทุกข์" ไปไว้กระทู้หน้านะครับ พอดี ตอนนี้ต้องออกไปติดต่องานแล้ว ^^'') และสุดท้าย 3.ประโยชน์สุขในขั้นโลกุตระ เป็นประโยชน์ที่อยู่เหนือโลกธรรม เป็นผู้มีใจเป็นอิสระจาก ความสุข และทุกข์ ไม่หวั่นไหวไปกับกระแสที่มากระทบจากทางโลก เข้าใจความเป็นไปของเหตุ-ปัจจัย ทั้งทางวัตถุ และจิตใจ ความทุกข์ ก็เป็นทุกข์จากธรรมชาติของมัน ไม่ส่งผลถึงจิตใจเรา เป็นผู้มีความสุขได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องอ้างอิง อาศัยสิ่งอื่นใด (ซึ่งผมขอ งดแจกแจงชี้แนะในระดับขั้นนี้ เพราะผมเองก็ ไปไม่ถึง และยังไม่ถึงพร้อมที่จะเพียรข้ามไป เฉกเช่นเพื่อนๆทุกคน ^^) ข้อเขียนนี้ เป็นการรวมรวมศึกษาบางส่วนบางตอน จากหลักธรรม และจากเทศนาธรรมของพระสงฆ์ และนำมาสรุปเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ถึงหลักการดำเนินชีวิตอย่างมีประโยชน์สุขในทางธรรม + ชาติ หวังว่าเพื่อนๆที่สนใจ ได้เข้ามาอ่าน และอาจได้ข้อคิดอะไรบ้าง สำหรับการดำเนินชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข อย่างรู้จัก และรู้ทันความสุข บุญรักษาครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 11:22:38 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 11:14:48 จากคุณ : แสนฤทธา - [ 22 มี.ค. 50 11:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สุขแบบที่เราคนในโลกๆ กันพอจะเข้าใจได้ก็คงแค่ระดับ 1 และ 2 เท่านั้น ส่วนสุขในแบบที่ 3 ไม่อาจจะหาถ้อยคำใดมาบรรยายให้รู้ซึ้งถึงสภาวะที่จิตทรงความสุขแบบนั้นได้เลย จากคุณ : เจโตปริยญาณ (=SILVER EYE=) - [ 22 มี.ค. 50 11:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราไม่รู้ว่าเมื่อไหรจะพอเพียง แต่สำหรับเราแล้วเรายังหามันต่อไปเรื่อยๆ เมื่อไหรที่เราทุกข์เราจะมีความสุขเพราะเราเชื่อว่าเมื่อมีทุกข์ต่อไปก็ต้องสุข เพราะชีวิตคนเราไม่มีใครทุกข์ตลอดหรือสุขตลอดไป แต่ความสุขของเราหาได้ง่ายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆบางเรื่องก็ทำให้เราสุขแบบหัวใจพองโตได้ จากคุณ : ## Mademoiselle Air ## - [ 22 มี.ค. 50 11:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบแค่ หัวข้อ สุขแค่ไหน แค่ความต้องการของเราคะ จขกท. แค่ไหน ก๊แค่นั้นนนนน  มันอยู่ที่ใจๆๆ ๆ คะ จากคุณ : แพรวขวัญ - [ 22 มี.ค. 50 12:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วันก่อนผมนั่งคุยกับแฟนว่า ถ้าไฟดับสัก 10 วัน จะมีคนตายมั้ย ไม่ได้ตายเพราะอาชญากรรมนะครับ ตายเพราะทนไม่ได้ที่ไฟมันดับ ผมว่าไม่ตายหรอก แต่ทุรนทุราย จากคุณ : sirnifti - [ 22 มี.ค. 50 12:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช้หนีฯ ว่าใช้หนีฯ สุขอย่างพอดีแล้วค่ะ สุขอย่าง มี "สติ" ด้วยล่ะ คือหมายถึง เวลาสุข ก็จะสุขแต่พอประมาณ เตรียมพร้อมไว้รับกับความทุกข์ หรือปัญหาที่อาจเกิด เมื่อปัญหาเกิด ทุกข์เกิด ก็จะใช้ความสุขที่เคยมี มาลบล้าง ความทุกข์ แม้ได้ไม่มากมาย แต่ก็เพียงพอค่ะ ใช้หนีฯเลยเป็นคนที่ไม่ค่อยสุข หรือทุกข์ กับใคร...ปลดปล่อยชีวิตไปตามครรลอง จากคุณ : ใช้หนีราชการเท่านั้น - [ 22 มี.ค. 50 12:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยได้รับหลังมายยยยจากสาวน่ารักคนนึงในห้องนี้ เธอถามว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร เราตอบไปว่าคนอื่นเราไม่รู้ เรารู้แค่เราเกิดมาเพื่อหาความสุข   แสดงว่าเราตอบไม่ผิดเนาะ เพียงแต่สุขของเรามันแค่ระดับทางโลกเท่านั้นเอง จากคุณ : KHIMM - [ 22 มี.ค. 50 12:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สุขเท่าที่สุขค่ะ  ^ ^ จากคุณ : ลูกเกาลัด - [ 22 มี.ค. 50 13:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาเรียนด้วยคน...ผมสายตาสั้นมองไม่เห็นกระดาน คุณ Israel ขอลอกหน่อยได้มั้ยครับ ต่อจากเจ้คิม......^.^ คนเราเกิดมาเพื่ออะไร บ้างก็บอกว่าเกิดมาเพื่อนคนที่คุณรัก บ้างก็บอกว่าเกิดมาเพราะพ่อแม่สั่งให้มาเกิด จริงๆแล้วคนเราเกิมาเพื่ออาไรนั้น จริงๆแล้วมันไม่มีคำตอบ... เอเมน.... จากคุณ : เฉิ่มศักดิ์ - [ 22 มี.ค. 50 13:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...สุขเท่าที่ใจเรามี แบบนี้ก้เรียกว่า มีความสุข   :)  ... ...... จากคุณ : 2boo - [ 22 มี.ค. 50 14:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การที่เราจะมีความสุขแบบง่ายๆนี่ ต้องอ่านอะไรที่มันยากๆอย่างงี๊ด้วยหรือเนี่ยะแปลกดี ^ ^"  แซวเล่นนะครับ  เป็นข้อเขียนที่ดีครับขอบคุณ จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า - [ 22 มี.ค. 50 14:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่รู้นะครับว่า จะสุขได้อย่างไร แต่ความสุขทั้งทาง วัตถุ ทั้งทางใจ มันหาความพอดียากจริงๆ ตัวแปรมันเยอะเหลือเกิน ที่เป็นปัญหากัน สุขยาก ทุกข์ง่าย ผมว่านอกจาก อย่างไร แล้ว น่าจะมาจาก เท่าไหร่ ด้วย " เท่าไหร่ถึงจะพอดี " + " อย่างไรจึงจะพอดี " มันไม่เหมือนกินข้าว กินแค่ไหนถึงอิ่ม เรารู้ดี แต่วัตถุ แต่จิตใจ นี่สิ.. เหมือนที่เฮียว่าไว้ ไฟดับ 10 วัน ไม่ตายหรอก แต่ทุรนทุราย ลองให้ดับสัก 10 ปี ถึงตอนนั้นชาวโลกคงชินกับการใช้ตะเกียง ใช้เตาหุงข้าว และไม่ทุรนทุรายอีกต่อไป แต่ แต่ว่า.. จะมีคนที่คิดหาวิธีทำให้ไฟฟ้ามาอีกแน่นอน ที่ตลกก็คือ ชาวโลกที่พอใจ พอดี กับชิวิตใต้แสงเทียน จะเต็มใจยอมรับรูปแบบเดิมๆ ถ้ามันกลับมา.. ถ้ามนุษย์ทุกคนรู้ว่า เท่าไหร่จึงจะพอดี สำหรับตัวเอง จะอย่างไร ก็คงไม่ใช่ปัญหาหนักหนามากนัก แต่เท่าที่เห็น ลุงก็รู้ๆ เหอๆๆ .. ถ้าทุกคนทำได้ทั้ง " เท่าไหร่ อย่างไร " รับรองโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเลยแหละ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 14:36:53 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 14:35:58 จากคุณ : crazy_joey - [ 22 มี.ค. 50 14:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณที่นำสิ่งดีมีสาระ มานำเสนอ ชอบที่มีอะไรดีๆแบบนี้ให้อ่านครับ จากคุณ : แอบมาซุ่ม - [ 22 มี.ค. 50 17:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าเสียดายที่บางที คนเราดิ้นรนมากมาย เพื่อความสุข ที่ไม่ยั่งยืน น่าเวทนานัก ถ้าเพียงแค่ได้สัมผัสความสุขทางจิตใจ ก็ทำให้ชีวิตมีความหมายขึ้นมากมายแล้ว แต่จะมีคนสามารถทำได้ สักกี่คน หากมีคนทำได้เช่นนั้น เพิ่มอีกสักคน ทุกๆวัน คนในโลกคงมีความสุขขึ้นอีกมาก จากคุณ : หลิงน้อย (หวงหลิง) - [ 22 มี.ค. 50 17:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะ ขออนุโมทนาด้วยคะ เราคยอ่านหนังสือของอจ. สนอง วรอุไร เรื่องสุขเมื่อจิตเป็นอิสระ อะไรปะมาณนี อ่านแลวโดน เลยอยากมา แชร์ค่ะ บอกว่า ความสุขแบ่งป็น 3 ระดับ 1 กามสุข สุขชนิดนี้ เมื่อมีแล้วจะต้อง มีทุกข์มาดวยกันเสมอ อาจมาก่อนเช่น อยากได้กระเป๋าแบรนด์ ต้องทำงานเก็บเงินซื้อ ก่อนจึงจะได้เชยชมกระป๋า หรือ สุข่ก่อนแล้วมีทุกข์ตามมา เช่นการมีแฟน การแต่งงานเป็นต้น 2 ความสุขเมือจิตสงบ ช่น จากการเจริญสติ ภาวนา สังเกตได้เวลาเรานั่งสมาธิ สุขชนิดนี้ดีหน่อยคือไม่เกิดทุกข์ร่วมด้วย แต่ก็ไม่ถาวรเช่นกัน 3 ความสุขเมื่อจิตเป็นอิสระ ป็นสุขสุดยอดยิ่งกว่าสุขใดๆ เป็นสุขที่แท้จริง จากคุณ : cardiogenic - [ 22 มี.ค. 50 18:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ฆารวาสแบบเราๆ สุขทางกายกับสุขทางใจก็มักมาคู่กันบ่อยๆ สุขแบบไหนคือสุขที่แท้ น่าจะเป็นความสุขที่ทำให้เราได้พัก สุขที่ทำให้เราว่าง เป็นสุขที่ไม่สร้างความทุกข์ขึ้นมาภายหลัง และเป็นสุขที่เรามีสติอยู่กับมันตลอดเวลา... จากคุณ : อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที - [ 22 มี.ค. 50 18:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความสุขในความคิดของผมคือสงบ และอิสระ จากคุณ : Pupaman - [ 22 มี.ค. 50 20:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านข้อคิดดีๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ... เราซึ่งเป็นปุถุชนคนธรรมดา ก็ยังคงได้รับประโยชน์สุขจากวัตถุภายนอก และความดีภายในตนเอง บางทีการปล่อยวาง อาจเป็นคำตอบที่ดีของการที่เราจะมีความสุข โดยละจากความยึดติดนั้นก็ได้ เพราะในโลกนี้ แม้แต่ตัวเราเอง ยังไม่ใช่เจ้าของตัวเองเลย จากคุณ : ทิ้งไว้เป็นปริศนา - [ 22 มี.ค. 50 20:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความสุขในทัศนคติของเราพบกันฯ นั้นง่ายมาก          "ความสุข คือ ความพอของใจ" จากคุณ : C U @ Samed (เราพบกันที่เกาะเสม็ด) - [ 22 มี.ค. 50 21:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปล.1 ขอบคุณครับคุณ =SILVER EYE= ด้วยเสมอมา ผมจึงไม่เคยแจกแจง และเลี่ยงที่จะให้ความเห็นใดๆเลย ในขั้นนั้น ปล.2 ขอบคุณครับคุณ## Mademoiselle Air ##   บางครั้งความสุขมันชอบไปอิงกับสิ่งต่างๆน่ะครับ เหมือนวิ่งไล่ตามเงาตนเอง ถ้ามีความสุขได้ด้วยตนเองแล้ว บางทีเรื่องเล็กๆน้อย อย่างเช่น เดินจูงมือคนแก่ข้ามถนน ใจเราก็อาจจะอิ่มเอิ่มเสียยิ่งกว่า เสียสตางค์ไปดูหนังซัก 1 เรื่องก็ได*-*้ ปล.3. ขอบคุณครับคุณแพรวขวัญ ความสุขนั้น อยู่ที่ใจ จริงๆครับ ถ้าใจเป็นอิสระจากทุกข์ ที่เป็นเรื่องของธรรมชาติได้บ้าง ทุเลาลงได้บ้าง มองสรรพสิ่งตามเหตุปัจจัย ความสุขทางใจ ทางกายนั้นอยู่ไม่ไกลตัวเรานี่เองครับ ^^ ปล.4 ขอบคุณครับเฮียเฟิร์ส ใช่เลยครับ อันที่จริงแล้ว ความสุขทางกายที่เรามีนั่น มันก็สำคัญนะครับ อย่างไฟดับ น้ำไม่ไหล มันเป็นเรื่องของปัจจัยที่ช่วยเกื้อหนุนเรา ถามว่าขาดได้ไหม อย่างที่ว่า ก็ขาดได้ครับ แต่พอขาดไป ปัจจัยพื้นฐานมันก็น้อยลง ทำให้ต่อ ยอดทางใจได้ยาก พุทธศาสนา จึงมีหมวดของ ปัจจัย 4 เข้ามาเป็นหนึ่งในสาระสำคัญ ^^ ปล.5 ขอบคุณครับป้าใช้ฯ สุขอย่างมีสติ นี่สำคัญเลยครับ เพราะมันเป็นจุดเริ่ม ของการมีความสุขทางธรรม มีสติ เป็นเครื่องมือ คอยพิจารณา เหตุการณ์ที่เผชิญตรงหน้า ว่ามีที่มาอย่างไร ที่ไปอย่างไร แล้วอารมณ์เรา อยู่ตรงไหน มาก หรือ น้อยอย่างไร ^^ ปล.6 คุณ KHIMM คือจริงๆผมว่า คนเราเกิดมาเพื่ออะไร บางทีมันตอบยากนะ แต่ถามว่า เกิดมาแล้ว ควรทำอย่างไร อาจจะตอบง่ายกว่า เกิดมาแล้ว ก็ควรแสวงหาความดี เป็นที่ตั้ง เกิดมาแล้ว ก็ควรดำเนินชีวิตให้ดี รู้จักพัฒนา ขัดเกลาจิตใจให้ละเอียดขึ้น ไม่ปล่อยไปตามกิเลส จนหลงมัวเมา ก่อเกิดโทษต่อ ตัวเราเองและผู้อื่น ปล.7 บุญรักษาครับ คุณเกาลัด ^^ จากคุณ : แสนฤทธา - [ 22 มี.ค. 50 22:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ปล.8 คุณ Miss อย่าเรียกว่า เลตเชอร์เลยครับ ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้น เรียกว่าแบ่งปันสิ่งที่ศึกษาต่อกันจะดีกว่า เพราะ สิ่งที่ผมอ่าน ที่เข้าใจ ที่ได้เรียนรู้และปฏิบัตินั้น บางทีอาจมีแง่มุม ที่ไม่ถูกต้อง หรือยังมองไม่เห็นก็เป็นได้ครับ ^^' สำหรับ แผ่นใสโลกุตระ มีแต่หัวข้อครับ ^^ เพราะผมเอง อ่านพอเข้าใจ แต่ไม่สามารถรับรู้ รู้ซึ้งถึงสภาวะแห่งที่สุดของพุทธศาสนา แถมยังไม่ถึงพร้อมที่จะเพียรศึกษา&ปฏิบัติให้ได้ตามนั้น ^^'' ปล.9 อย่างที่ว่าอ่ะครับ คุณ เฉิ่มศักดิ์ ^^ คำถามแบบนี้ตอบยาก เพราะไม่รู้จะอ้างอิงหลักอะไรมาตอบ แต่คนเราต่างเกิดมาแล้ว กระทำสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น พัฒนาตนเองทั้ง กาย และใจได้ก่อน ก็คงจะดีมากครับ ^^ ปล.10 ขอบคุณครับ คุณ 2boo ความสุขจริงๆแล้วก็ คือ ความพอใจ แล้วความพอใจ ก็อยู่ที่ใจ จริงๆครับ ปล.11 ขออภัยจริงๆครับคุณอะไรฯ ผมได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ที่จะ ขยายความออกมาเป็นภาษาพูด เพื่อให้อ่านได้ง่ายๆ แต่ไม่ปิดกั้นจินตนาการ ตามภูมิหลังของแต่ละท่านที่เข้ามาอ่าน ^^'' จะพยายาม เขียนให้เข้าใจง่ายมากขึ้น และใช้ ศัพท์ที่เป็นภาษาบาลี สันสกฤตให้น้อยลงนะครับ ^^'' ปล.12 ขอบคุณครับลุงโจ ^^ พูดถึงเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของ ปัจจัยพื้นฐาน อ่ะครับ ต้องพยายามมองมันอย่างปัจจัยอ่ะครับ เป็นพื้นฐานความสุขในระดับขั้นที่ 1 คำว่า เท่าไหร่ หรืออย่างไร นั้นสำคัญมากครับ เพราะเป็นส่วนสำคัญ ของกระบวนการคิด ตามเหตุ - ปัจจัย และจริงๆแล้ว คำว่า อย่างไร ก็เกี่ยวกับ คำว่า อย่างไรจึงจะพอดี จะพอเพียง คำว่า พอเพียง หรือพอดีนั้น มิใช่ไม่แสวงหาเพิ่มเติม หรือไม่ยอมพัฒนาค้นคว้าต่อยอด หยุดอยู่แค่ไหนก็แค่นั้น แต่เป็นการหาภาวะที่เหมาะสมกับตน คนมีเงินมาก กับคนมีเงินน้อย หากตัดทอนออกมาเป็น รูปธรรม อาจเห็นความต่างกัน ของวัตถุ แต่ความสุขทางใจนั้น นับว่าสุขได้เท่าเทียมกัน พอเข้าใจอย่างนี้ แต่ละคน ก็สามารถสมดุลแห่งชีวิตได้เหมือนๆกัน (ผมจะยกไปพูดในกระทู้หน้าอยู่พอดี ^^) ปล.13 ขอบคุณครับ คุณ แอบมาซุ่ม บุญรักษาเช่นกันครับ ^^ ปล.14 ขอบคุณครับคุณหวงหลิง บางครั้งคนเรา ไม่ทันหยุดคิดพิจาณาตนเองอ่ะครับ มักจะมองไปข้างนอก มองออกจากตัว มองคนนั้นคนนี้ ดีไม่ดีอย่างไร ถูกผิดอย่างไร (แต่เอาตัวเองเป็นกรอบ) (เป็นเรื่อง ถัดไปที่ผมจะตั้งกระทู้พอดี ติดไว้ 2 เรื่องแล้ว ^^'') จึงมักละเลย การมองตนเอง ไม่พยายามสร้าง ความสุขที่ด้วยตนเอง แต่ติดยึดกับการได้รับ ได้สิ่งอื่นๆ ได้ครอบครองสิ่งอื่นๆ ชีวิตก็เลยร้อนรุ่มไปด้วยไฟแห่งกิเลส (ผมเองก็เป็นนะ บางครั้ง เราก็ไม่ทันจริงๆ แต่สำคัญ คือ พยายามตักเตือนตนเองไว้มากๆ ขอเพียงลดความอยากลงซัก 1 ครั้ง ก็มีความสุขเพิ่มขึ้นอีก 1 ครั้งแล้วครับ *-*) ปล.15 อ่า ขอบคุณมากครับคุณ cardiogenic ที่ยกมานั้น เป็นหลักเดียวกันเลยครับ หัวใจของเรื่องราวเดียวกัน เพียงแต่ มอง หรือขยายความต่างกันเล็กน้อย ^^ จากคุณ : แสนฤทธา - [ 22 มี.ค. 50 22:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปล.16 ขอบคุณครับคุณอยากลองเป็นสับปะรดดูสักที ^^'' (จากชื่อนี่ จะได้เป็นสับปะรดกับเขาบ้างหรือครับ ^^) ถูกเลยครับ ที่จริงแล้ว คนเราประกอบด้วย กาย กับใจ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลยครับ (ว่ากันตามหลักพุทธนะครับ มิใช่วิทยาศาสตร์สมัยเดิม) สุขที่เป็นอิสระจากความทุกข์ ที่ว่าละครับ นับเป็นความสุขที่ อยู่ในโลกุตระธรรม ปล.17 ขอบคุณครับคุณ Pupaman ความสุขจากความสงบ ท่านอ. พุทธทาส ได้เปรียบ ศีล สมาธิ และปัญาไว้ว่า อธิบายได้ เข้าใกล้กับ 3 คำดังนี้คือ สะอาด สว่าง สงบ ความสงบ นับเป็นขั้นสุดท้าย ที่กระจ่างได้จากใจ ^^ ปล.18 ขอบคุณครับคุณทิ้งไว้เป็นปริศนา ใช่เลยครับ เรียนรู้ ถึงความเป็นไป รู้จักปล่อยวางบ้าง มันจะเป็นอิสระจากความทุกข์ขึ้นมากเลยครับ ร่างกายของเรา จริงๆแล้ว เราเองสามารถบังคับได้ เพียงบางส่วนเท่านั้นเอง มีอีกหลายส่วนมากๆที่เราไม่สามารถบังคับมัน โดยเฉพาะเรื่องราวของระบบชีวิต..บุญรักษาครับ ^^ ปล.19 ขอบคุณครับกคุณเราพบกันที่เกาะเสม็ด นั่นคือ หัวใจของความสุขเลยครับ และข้อเขียนที่ผมพยายามอธิบาย ก็คือ หลัก และกระบวนการคิด เพื่อให้เรียนรู้ที่จะหาความพอดี สมดุลของชีวิต ของตัวเราแต่ละคน *-* จากคุณ : แสนฤทธา - [ 22 มี.ค. 50 22:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห.10 ผมว่าคำตอบ บางทีอาจเกิดขึ้นในใจคุณแล้วก็ได้นะ ว่าตัวคุณเองเกิดมาเพื่ออะไร ต้องทำอะไร เพราะคนเราเกิดมาต้องรู้จักตัวเอง รู้จักหน้าที่ตัวเอง... จากคุณ : Pupaman - [ 22 มี.ค. 50 22:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สุขแบบรู้เท่าทันมั่งครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ขอให้มีความสุขทุกคนครับ จากคุณ : นายไวรัส - [ 22 มี.ค. 50 23:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ชอบที่คุณแสนเอามาเขียนค่ะ... จากคุณ : ฟากฟ้าฝั่งฝัน - [ 23 มี.ค. 50 00:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บุญรักษาเช่นกันค่ะ  ^ ^ จากคุณ : ตัวแสบมาเยือน - [ 23 มี.ค. 50 00:46:18 ]