Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    The Fast-5 Diet ดีจริงๆหรือ?!? อดอาหาร 19 ชม ต่อวัน???

    ฟาสต์ไฟว์ (The Fast-5 Diet) และวิถีชีวิตแบบฟาสต์ไฟว์ (The Fast-5 Lifestyle) คือวิธีการลดและควบคุมน้ำหนักทางเลือกใหม่ที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ฟาสต์ไฟว์ใช้หลักการพื้นฐานเดียวกับ Atkins และ South Beach คือ ควบคุมระดับฮอร์โมนอินซูลินเพื่อให้ร่างกายนำไขมันที่เก็บสะสมไว้ไปเผาผลาญใช้เป็นพลังงานหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน แต่ต่างกันที่ฟาสต์ไฟว์ไม่ใช้วิธีจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตแบบรุนแรง แต่ใช้วิธีที่ง่ายกว่าโดยการขยายช่วงเวลาการอดอาหารประจำวันของเราออกไปแทน วิธีปฏิบัติของฟาสต์ไฟว์นั้นง่ายมาก ง่ายจนคุณสามาถทำได้ไปตลอดชีวิตเพื่อการควบคุมน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ ฟาสต์ไฟว์ไม่มีการจำกัดปริมาณและประเภทของอาหาร คุณสามารถกินอะไรก็ได้ที่ต้องการจนอิ่มเต็มที่ ไม่มีการนับแคลอรี ไม่มีการชั่งตวงวัดปริมาณอาหาร ไม่มีการใช้ยา ไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิก ไม่ต้องซื้ออาหารเสริม ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหักโหม

    แนวคิดของฟาสต์ไฟว์มาจากหลักการพื้นฐานง่ายๆ นั่นก็คือ หากเราต้องการให้เซลล์ไขมันปลดปล่อยไขมันที่เก็บสะสมไว้เพื่อให้ร่างกายนำไปเผาผลาญใช้เป็นพลังงาน เราก็จำเป็นต้องปิดสัญญาณพื้นฐานที่บอกให้เซลล์ไขมันเก็บสะสมไขมัน สัญญาณที่ว่านั้นก็คือฮอร์โมนอินซูลินนั่นเอง วิธีการลดและควบคุมน้ำหนักอย่าง Atkins และ South Beach ลดระดับอินซูลินโดยการจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหารอย่างรุนแรง แต่ฟาสต์ไฟว์ทำได้โดยการขยายช่วงเวลาการอดอาหารประจำวันออกไปด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ ทำได้ง่ายและสะดวกอย่างไม่น่าเชื่อ ฟาสต์ไฟว์แก้ไขที่ต้นตอของปัญหาอย่างแท้จริง นั่นก็คือ การช่วยฟื้นฟูและนำระบบพลังงานสมดุลย์ตามธรรมชาติของร่างกายกลับมาใช้ใหม่ ทำให้กลไกการเผาผลาญไขมันของร่างกายเพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักได้ทำงานและยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง

    วิธีปฏิบัติ

    เรื่องใหญ่เรื่องเดียวที่ฟาสต์ไฟว์ขอให้คุณทำก็คือ ให้ขยายช่วงเวลาการอดอาหารประจำวันออกไปเป็นเวลา 19 ชั่วโมง คุณอย่าเพิ่งตกใจเมื่อเห็นคำว่าต้องอดอาหารเป็นเวลานานถึง 19 ชั่วโมง เพราะโดยปกติคนเราจะมีช่วงเวลาการอดอาหารประจำวันกันทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นช่วงเวลากลางคืน โดยเริ่มนับตั้งแต่เวลาที่อาหารเย็นที่มีแคลอรีคำสุดท้ายตกถึงท้อง บวกกับเวลาที่นอนหลับ และไปสิ้นสุดเมื่อเวลาที่อาหารเช้าที่มีแคลอรีคำแรกตกถึงท้องในเช้าวันรุ่งขึ้น

    ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณกินอาหารเย็นที่มีแคลอรีคำสุดท้ายตอน 1 ทุ่ม แล้วหลังจากนั้นคุณก็ไม่ได้กินอาหารที่มีแคลอรีอีกเลยจนเข้านอน (ยกเว้นน้ำเปล่าและเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี) และเมื่อตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณกินอาหารเช้าที่มีแคลอรีคำแรกตอน 7 โมงเช้า รวมช่วงเวลาการอดอาหารประจำวันได้ 12 ชั่วโมง ฟาสต์ไฟว์ขอให้คุณขยายช่วงเวลาการอดอาหารดังกล่าวออกไปเป็น 19 ชั่วโมง ซึ่งก็หมายความว่า คุณจะสามารถกินอาหารเช้าที่มีแคลอรีคำแรกได้ตอนบ่าย 2 โมงของวันรุ่งขึ้น โดยช่วงเวลาการอดอาหาร 19 ชั่วโมงนี้ยาวนานเพียงพอที่จะทำให้กลไกการเผาผลาญไขมันของร่างกายเพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักในการดำรงชีวิตประจำวันได้ทำงานและยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันช่วงเวลา 19 โมงนี้ก็ไม่ยาวนานเกินไปจนเข้าขั้นสุดโต่ง

    เมื่อนำเอาหลักการที่กล่าวไปมาสร้างเป็นตารางเวลาที่แน่นอนเพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติ เราก็จะได้สูตรฟาสต์ไฟว์ที่ทำได้ง่าย 2 ข้อดังนี้

    1. ใน 1 วันที่มี 24 ชั่วโมง ให้คุณกินอาหารได้แค่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้น เริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม เป็นเวลา 5 ชั่วโมง
    2. อีก 19 ชั่วโมงที่เหลือ เริ่มตั้งแต่ 4 ทุ่มของวันนี้จนถึง 5 โมงเย็นของวันพรุ่งนี้ ให้คุณงดอาหารทุกชนิดโดยเด็ดขาด ดื่มได้แค่เฉพาะน้ำเปล่าและเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรีเช่น ชา กาแฟดำ เท่านั้น

    ถามว่าทำไมต้องกินอาหารเฉพาะตอน 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม คำตอบคือ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษในช่วง 5 ชั่วโมงนี้ แต่เนื่องจากเวลาตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เลิกงาน เลิกเรียน หมดสิ้นจากภาระหน้าที่การงานประจำวัน ดังนั้นนี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีในการกินอาหาร การพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่สิ่งสำคัญที่สุดของฟาสต์ไฟว์ก็คือ ช่วงเวลาการอดอาหาร 19 ชั่วโมงที่คุณต้องอดจริงๆ ห้ามกินอาหารที่มีแคลอรีอย่างเด็ดขาด จึงจะได้ผล

    อนึ่ง เมื่อพูดถึงการอดอาหาร (Fasting) เราก็มักจะคิดไปถึงการทรมานตนและความสุดโต่งรุนแรง แต่การอดอาหารแบบฟาสต์ไฟว์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการทรมานตนและความสุดโต่งรุนแรง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความเชื่อในเรื่องศาสนาและจิตวิญญาณ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิธีลดน้ำหนักที่เน้นให้อดแต่อาหาร (Starvation Diet) เพราะเมื่อถึงเวลากิน คุณก็สามารถกินอาหารได้จนอิ่มเต็มที่ แต่หากการอดอาหารแบบฟาสต์ไฟว์มีพื้นฐานมาจากผลการทดลองของวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ในเรื่อง Calorie Restriction (CR) และ Intermittent Fasting (IF) และความรู้ทางด้านมานุษยวิทยา เมื่อร่างกายคุณเริ่มปรับตัวได้และกลไกการเผาผลาญไขมันของร่างกาย (Fat-Burning Machinery) เริ่มทำงานและยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของคุณจะได้รับพลังงานจากไขมันอย่างสม่ำเสมอ ช่วยบรรเทาความรู้สึกหิวให้น้อยลงๆ จนปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบฟาสต์ไฟว์ได้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด

    บทความเต็มๆที่หมดจาก link นี้ค่ะ บทความโดยคุณเอค่ะ

    http://www.siamfitness.com/webboard/show.php?Category=excersize&No=10109

    เราอ่านเจอแล้วคิดว่าแปลกดี เพื่อนๆลองไปอ่านดูนะคะ โดยส่วนตัวเราแล้วบอกตามตรงว่ามันขัดกับความเชื่อของเราจริงๆ เลยอยากเอามาถามเพื่อนๆชาวสวนลุมว่า ถ้าอดอาหาร 19 ชม ต่อวันแบบนี้ ไม่ได้กินอาหารเช้า สมอง+ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารในเวลาที่ต้องการแบบนี้ มันจะไม่มีผลเสียกับร่างกายเหรอคะ แล้วยิ่งผลในระยะยาวแล้วด้วย

    ปล. โดยส่วนตัวแล้ว เราเองก็ไม่เชื่อวิธีนี้เหมือนกันค่ะ เพราะตัวเราเองก็อาศัยหลักกินอาหาร 3-5 มื้อครบ 5 หมู่กินในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วออกกกำลังกาย จนลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการไปแล้ว แต่เพื่อนตัวดี(ที่ชอบอะไรวิธีลัด ชวนออกกำลังกายทีไรมีเหตุผลอ้าง 108) อ่านแล้วมันอยากลองทำตามเลยนะซิ เราเลยอยากให้เพื่อนๆชาวสวนลุม ช่วยเราคิดเหตุผลที่จะเตือนมันหน่อยอะค่ะ - -* ยิ่งเหตุผลแบบตามหลักวิทยศาสตร์ ทางการแพทย์ และวิชาการยิ่งดีค่ะ

    จากคุณ : Gembu - [ 26 มี.ค. 50 04:20:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom