PANTIP.COM : L5311543 เข้าโปรแกรม Fast-5 แล้วล่ะค่า [คลับลดความอ้วน]

ความคิดเห็นที่ 8

สวัสดีค่ะ เพิ่งจะเคยโพสความคิดเห็นในห้องนี้เป็นครั้งแรก
แต่แอบอ่านบ่อยๆอะค่ะ เหอๆ

คือ เราตั้งใจว่าจะขอเข้าโปรแกรม Fast-5 ด้วยคนนะคะ ^^

เพิ่งจะอ่านเจอเรื่อง Fast-5 เมื่อวานนี้ ตอนนี้เริ่มทำวันแรกแล้วล่ะค่ะ
เพราะว่า คิดว่า วิธีแบบนี้ น่าจะเข้ากับวิถีชีวิตเรามากที่สุดแล้ว หลังจากเคยลองมาหลายอย่าง

ก็เลยมีพื้นหลังจะมาแชร์ให้ฟังนิดหน่อย

จขกท.ก็สูงเท่าเราเลยค่ะ 163 แต่ว่าตอนนี้เราหนัก 55
มันดูเหมือนจะไม่อ้วนมากนะคะ ถ้าดูแต่น้ำหนัก
แต่ว่ามันเป็น 55 กิโลที่มีแต่พุงอะค่ะ -*-
เพราะเราเป้นคนกระดูกเล็กด้วย เลยดูอ้วนเพราะเห็นแต่เนื้อ
เสื้อผ้าก็ใส่ไม่ได้ ตั้งใจว่าปิดเทอมนี้จะลดแบบจริงๆจังๆแล้วล่ะค่ะ

ที่ผ่านมา เราเป็นคนที่ไม่ทานข้าวเช้าประจำอยู่แล้ว
เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม เลยค่ะ เพราะไม่มีอะไรจะทาน และก็ไม่มีเวลาด้วย
(ต้องฝ่ารถติดไปเรียนตั้งแต่เด็กๆอะค่ะ)

ทีนี้พอมาช่วงม.ต้น เราพยายามกินข้าวให้ครบ 3 มื้อ ตามแบบคนทั่วๆไป
เพราะคิดว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเด็กกำลังโตอะค่ะ ถึงไม่หิวก็ต้องกิน ให้ครบ
ปรากฎว่า น้ำหนักขึ้นจาก 46 มาเป็น 52 ภายในเวลาไม่นานเลยล่ะค่ะ

พอเข้าม.ปลาย โรงเรียนที่เราไปอยู่ เค้าบังคับให้อยู่หอ แล้วมีเรียนพละ เต้นแอโรบิคตอนเช้า 6 โมง ทุกวัน จันทร์กับศุกร์

ข้าวเช้าเรากินได้น้อยมากค่ะ เพราะว่าเราไม่ค่อยได้กินมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงจะออกกำลังกายจนหิว แต่ทานทีไรก็จะต้องท้องอืดทุกที ก็เลยไม่กินบ้างกินบ้าง

แต่เราเป็นคนชอบกินขนมหวานมากๆ กินทีไรก็จะลืมตัวทุกที กินจุบจิบมากๆ

ส่วนข้าวกลางวันเราก็กินตามปกติ ส่วนข้าวเย็นไม่มีเวลากินเท่าไหร่ค่ะ เพราะเรียนหนัก

สรุปแล้วคือ เราไม่รู้สึกฝืนกับวิถีชีวิตแบบนี้เท่าไหร่
(เราว่าการกินแบบนี้มันคล้ายๆ Fast-5 เลยนะคะ แค่ว่าช่วงอด ไม่ได้อดจริงๆจังๆเท่านั้นเอง มีกินขนมบ้าง)

ผลก็คือ จากน้ำหนักประมาณ 53 เราก็หนักประมาณ 51 ในเวลาไม่นาน แต่ดูผอมลง จนเพื่อนทักเลยอะค่ะ
(แต่ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นคนผอมนะคะ เพราะชอบกินขนม แล้วก็ไม่ได้สร้างกล้ามเนื้อเลย มันเลยดูเหลวๆ ที่ผอมลง คิดว่าเป็นเพราะ คาร์ดิโอมากกว่า ทั้งแอโรบิค ทั้งเดินเรียนทั้งวันเลยค่ะ )

พออยู่ม.5 มีเพื่อนมาชวนถือศีล 8
( อันนี้เราว่ามันเหมือนFast-5 มากๆเลย เพราะห้ามกินอะไรหลังเที่ยง แล้วรวมๆเวลาการกิน ก็ได้ประมาณ 5 ชั่วโมงพอดี)
ตอนนั้นน้ำหนักเราลดเหลือ 48 เองค่ะ ไม่เพลีย ไม่หิวด้วย
ทั้งๆที่เราแทบจะกินแต่ข้าวเที่ยงมื้อเดียว
(แต่เรากับเพื่อนถือแบบไม่เคร่งอะค่ะ คือขยายเวลากินถึงบ่าย 2 ชดเชยที่ไม่ได้กินข้าวเช้า แล้วบางวันพักเที่ยงช้า)

แต่พอมาช่วงม.6 ไม่ได้ถือศีล 8 แล้ว
(เพื่อนคนนั้นไปอเมริกา พอไม่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์มันทำได้ยากค่ะ -*-)
เราหันไปกินตามสมัยนิยม คือ กิน 3 มื้อ
(แต่ข้าวเช้าไม่กิน ไปกินข้าวบ่าย กับขนมดึกแทน -*-)
ก็เลยอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ล่ะค่ะ (อายุ 20)

จากเมื่อก่อน ไม่ว่าจะกินเยอะยังไง ก็จะไม่หนักเกิน 53 เด็ดขาด แต่ตอนนี้เป็น 55 แล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแค่นี้ -*-

ก็เลยกะว่า จะลดแล้วค่ะ แล้วจะใช้ Fast-5 เนี่ยแหละ

เราเคยโลคาร์บมาแล้ว มันก็ทำไม่ได้ตลอดอะค่ะ
เพราะบางวันมันเหนื่อย มันหิว ก็ต้องกินอะค่ะ
(ช่วงโลคาร์บหนัก 52 นะคะ)
กินแต่ผักก็ไม่มีความสุข ออกนอกบ้านก็หาทานยาก วุ่นวายมากๆเลยค่ะ

แล้วปกติ เราเป็นคนกินไม่ได้มากอยู่แล้ว ช้าวเช้าก็ไม่ได้กิน (อย่างมากก็ฝืนกินนม เพื่อให้มันเป็นข้าวเช้า ซึ่งมักจะทำให้ท้องเสียตอนสายๆ ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน )

ข้าวเที่ยงก็ไม่ค่อยชอบกินข้าวนอกบ้านอะค่ะ โดยเพาะที่มหาลัย
(เพราะเราเป็นคนชอบกินของอร่อยเท่านั้นอะค่ะ อะไรไม่อร่อยก็จะแทบไม่แตะเลย นิสัยเสียอะค่ะ )

เลยไปเน้น กินข้าวเย็น กินขนม กินต่อเนื่อง ไปจนดึกๆตี1-2 เลยอะค่ะ

พอมาเจอแนวคิดนี้ก็เลยคิดได้อะค่ะ ว่ามันน่าจะจริง
เราคิดมาตลอดเลย ว่าข้าวเช้า ไม่ได้จำเป็นถึงขนาดที่ว่าต้องกิน
ที่ผ่านมาเราอ้วน เพราะเรากินมากเกินไป ( พยายามกินครบ 3 มื้อ) ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต่อการใช้พลังงานเลย (ไม่หิวก็กิน ให้มันครบจะได้สุขภาพดี)

แล้วพอเรากินทั้งๆที่ไม่ได้หิว (กินนม กินผลไม้ไปเรื่อยเปื่อย เพิ่มน้ำตาลซะเปล่าๆ)
แต่ตอนเราหิวจริงๆ กลับไม่ได้กิน (เพราะไดเอท ด้วยการควบคุมอาหาร )

ร่างกายมันเลย แปรปรวนตลอด ปรับตัวไม่ได้ซักที
เพราะเราเข้าใจผิดว่า ถ้าเราไม่กินให้ครบ มันจะอยู่ในภาวะจำศีล ทำให้เราไม่เผาผลาญพลังงาน

เราคอนเฟิร์มเลยค่ะ ว่าไม่กินข้าวเช้า ไม่ได้ทำให้หน้ามืด ไม่มีพลังงานแต่อย่างใด (สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นข้าวเย็น) เพราะเราก็ไม่ได้กินมาเป็น 10 ปี วันไหนที่กิน กลับรู้สึกไม่ค่อยดีซะมากกว่า

ที่สำคัญคือ เราไม่เคยเป็นโรคกระเพาะเลยค่ะ ระบบทางเดินอาหารปกติดีทุกประการ

วิถีชีวิตแบบ Fast-5 ก็น่าจะเหมาะกับชีวิตเรามากกว่า
และเราก็น่าจะทำไปได้ตลอดชีวิต โดยเพิ่มการออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อ

แล้วมันก็จะทำให้เราไม่กลับไปอ้วนอีก เราเข้าใจถูกมั้ยคะ ?

ถ้าเราเข้าใจอะไรผิดไป ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ ทุกๆท่าน

จากคุณ : มันโฉบไปแล้ว - [ 12 เม.ย. 50 18:06:10 ]