Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    หมอให้ยาผิด...หรือเปล่า

    เมื่อ1สัปดาห์ก่อน ในPantip.com มีผู้ไปโพสกระทู้ในหลายๆโต๊ะว่า หมอให้ยาผิดจนเป็นสาเหตุให้ญาติสนิทของเจ้าของกระทู้ตาย เมื่ออ่านกระทู้ไปก็พบว่าญาติของเจ้าของกระทู้เป็นโรคหัวใจชนิดหนึ่งโดยห้องหัวใจไม่ทำงานไปหนึ่งห้อง และแพทย์ก็ได้ปรับยาโดยให้ยาไวอากร้าเพื่อรักษาโดยบอกว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้ว ซึ่งต่อมาผู้ป่วยก็เสียชีวิต
    เจ้าของกระทู้มีความเชื่อว่า การที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเกิดจากการได้ยาไวอากร้าจนทำให้เกิดการกระตุ้นจนหัวใจเต้นเร็วและเสียชีวิต ซึ่งหลังจากเจ้าของกระทู้โพสกระทู้แล้ว ก็มีคนหลายคนได้ไปให้ความเห็นในทำนองเห็นด้วย บางคนบอกว่ายาตัวนี้ห้ามให้อย่างเด็ดขาดในคนที่เป็นโรคหัวใจ(มีบางคนใช้usernameเป็นพยาบาลด้วยซ้ำ) บางคนก็บอกในเชิงว่าให้รีบดำเนินเรื่องเพราะดูทีวีเรื่องแพทย์ อาจจะมีการทำลายหรือแก้ไขเวชระเบียน.........
    จนกระทั่งมีเภสัชกรคนหนึ่ง(และต่อๆมาอีกหลายคน)ได้มาบอกว่า ยาไวอากร้านี้ใช้รักษาโรคที่เรียกว่า Pulmonary Hypertensionได้ ซึ่งอาการที่เจ้าของกระทู้ว่ามา ก็เป็นอาการของโรคที่ว่านี้ทั้งสิ้น ... ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นจะบอกว่าหมอให้ยาผิดหรือถูกก็ต้องดูว่าจริงๆแล้วโรคที่เป็นคือโรคอะไร
    เรื่องนี้บอกอะไรเราบ้าง
    เรื่องนี้บอกให้เรารู้ว่าคนไทยยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ยาอยู่มากโดยเข้าใจไปว่ายาตัวหนึ่งๆ สามารถใช้รักษาโรคได้เพียงโรคเดียว ... นอกจากนี้ จากกระทู้ดังกล่าวยังได้เห็นลักษณะที่เจอได้บ่อยคือ ญาติหรือตัวผู้ป่วยเองบ่อยครั้งที่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร ซึ่งเหตุเกิดจากการที่ไม่ได้ถาม
    และที่สำคัญที่สุดก็คือ... สงสัยอะไรแล้วไม่กล้าถาม พอไม่เข้าใจก็ไปเล่าให้ผู้อื่นฟังหรือไปบ่นว่าในอินเตอร์เนทว่าหมอไม่ยอมตอบข้อสงสัย(ที่ตนไม่ได้ถามหมอ)

    เนื่องจากเล็งเห็นว่าปัญหาความเข้าใจผิดเรื่องยาและโรคนั้นมีมากและพบได้บ่อย ... และเห็นว่าคนส่วนใหญ่มักเก็บความสงสัยไว้กับตัวโดยไม่ถาม... ผมจึงใคร่ขอเล่าเรื่องยาที่เข้าใจผิดได้บ่อยๆให้ชาวMthaiได้ฟังกันครับ
    1. Viagra (Sildenafil)
    แม้คงจะไม่ได้เป็นยาที่เจอบ่อย แต่ความเข้าใจผิดต่อยาตัวนี้ค่อนข้างสูงทีเดียวเพราะว่าในบ้านเรามีแต่คนรู้จักมันในฐานะยาปลุกเซ็กส์ (ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้ปลุกเซ็กส์เพียงแค่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น) โดยแรกเริ่มเดิมทีตอนที่มีการสร้างยาตัวนี้ขึ้นมา วงการเภสัชกรรมผลิตยามุ่งหวังที่จะใช้ยาตัวนี้ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคPulmonary Hypertension หรือกลุ่มโรคเส้นเลือดปอดตีบ (ซึ่งเป็นโรคที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจทำงานหนักจนกลายเป็นหัวใจโตและหัวใจวาย )แต่หลังจากทำการทดลองในคนได้ระยะหนึ่งปรากฎว่าเกิดมีผู้ป่วยบางคนที่ใช้ยามากกว่าที่ทางแพทย์กำหนดไว้ ... เมื่อสืบไปสืบมาจึงได้พบว่า ยาตัวนี้ก่อผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยมากคือทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว
    แทนที่บริษัทผู้ผลิตจะล้มเลิกการผลิตยาตัวนี้จากการที่มีผลข้างเคียงที่พบบ่อยมากคือทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว... บริษัทยาก็เปลี่ยนเป็นใช้ยาตัวนี้รักษาภาวะนกเขาไม่ขันแทน
    ดังนั้นยานี้จึงไม่ได้เป็นแค่ยาปลุกเซ็กส์

    2. Propanolol
    เคยมีผู้ที่ได้ยานี้ไปเพื่อรักษาภาวะ Essential tremorหรืออาการสั่น หลังจากกินมานานและไม่มีอาการอีกกลับมีคนไปบอกให้หยุดกินเพราะว่าเป็นยารักษาความดันถ้ากินมากๆจะช๊อค ผู้ป่วยก็รีบกลับมาว่าหมอหาว่าให้ยาผิด
    ยาตัวนี้เป็นยาในกลุ่ม BetaBlocker ซึ่งออกฤทธิ์ที่ส่วนของร่างกายที่เรียกว่า Beta receptor ซึ่งมีอยู่ในหลายๆส่วนในร่างกาย ทำให้เกิดผลคือหัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ฯลฯ ... กลไกเป็นอย่างไรช่างมันเถอะครับ แต่โดยรวมแล้ว มันสามารถใช้รักษาภาวะหรือโรคหลายอย่าง ทำให้มันมีที่ใช้ในการรักษาโรคหัวใจบางชนิด โรคความดันโลหิตสูง ใจสั่นจากการเป็นธัยรอยด์เป็นพิษ โรคEssential tremor ป้องกันการกำเริบของไมเกรน ป้องกันเลือดออกในกระเพาะ(ในคนที่เป็นตับแข็ง) ฯลฯ
    ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่ยาความดันครับ แต่ยังรักษาโรคได้อีกหลายชนิด

    3. ยากลุ่ม ACE inhibitor (ตัวที่เจอบ่อยคือEnalapril )
    ยาตัวนี้ส่วนมากจะใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง แต่ภายหลังวงการสาธารณสุขได้ค้นพบคุณประโยชน์อันวิเศษของมันในการรักษาโรคหลายโรค ทำให้ถูกนำไปใช้ในการรักษาหลายอย่างเช่น รักษาโรคหัวใจวายHeart Failure ใช้ในคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันภาวะไตวายจากเบาหวาน
    ดังนั้นในจึงไม่แปลกใจที่บางคนซึ่งไม่ได้เป็นโรคความดันโลหิตสูงจะได้ยาตัวนี้ครับ

    4. Cyproheptadine
    เป็นยาที่อยู่ในกลุ่มAntihistamine หรือที่รู้จักกันว่าเป็นยาแก้แพ้ แต่มันมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการหิวข้าวอยากอาหาร ดังนั้นยาตัวนี้จึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในชื่อ "ยากินข้าวได้" "ยาเจริญอาหาร"
    เรื่องที่หมอจะเอามาใช้ในการแก้แพ้นั้นมักไม่มีปัญหาเพราะหมอมักจะสั่งยาแก้แพ้ตัวอื่นให้ แต่มีปัญหาว่าในบางตำราใช้ยาตัวนี้ในการรักษาโรคไมเกรน ดังนั้นอาจจะมีผู้ป่วยไมเกรนบางรายที่งงว่าทำไมตนเองถึงได้ยาเจริญอาหารมากกิน

    5. Chlorpheniramine CPM
    ยาตัวนี้เป็นยากลุ่ม antihistamine หรือที่รู้จักกันดีในชื่อยาแก้แพ้ ... ดังนั้นจึงใช้ในการรักษาโรคที่มีสาเหตุจากการแพ้ต่างๆ ปัญหาอยู่ที่ว่าหลายๆคนไม่ทราบว่าอาการที่ตนเองเป็นอยู่นั้นเป็นอาการที่เกิดจากอาการแพ้ อย่างเช่น อาการไอเรื้อรัง อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ตาแดง ผื่นคันเรื้อรัง หอบหืด  ดังนั้นปัญหาที่พบในยานี้คือบางครั้งให้ไปแล้ว ถึงแม้จะบอกว่าเป็นยาที่ใช้เพื่อแก้อาการที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
    อีกที่ใช้นึงก็คือการใช้เพื่อช่วยนอนหลับในรายที่แพทย์ไม่ต้องการให้ยานอนหลับ

    6. Flunarizine
    ในบางที่นิยมใช้ในการรักษาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนอันเนื่องมาจากหูชั้นในผิดปกติ บางที่ก็ใช้ในการป้องกันไมเกรน

    7. Diclofenac
    ชื่อนี้อาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าโวลทาเรน หลายๆคนอาจจะร้องอ๋อ (ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ) ปกติยาตัวนี้ถูกใช้บ่อยในฐานะยารักษาอาการอักเสบปวดกล้ามเนื้อ โดยอยู่ในกลุ่ม NSAIDs
    ในกระบวนการของยากลุ่มNSAIDsจะมีการทำงานเกี่ยวข้องกับกลไกที่ชื่อ Cox-1 และ Cox-2 และ Prostaglandin
    บังเอิญว่ามีโรคกลุ่มที่เป็นโรคนิ่วในท่อไต ซึ่งเมื่อมีอาการกำเริบจะเกิดอาการปวดท้องอย่างมาก(มากมาก) ซึ่งการปวดท้องจากนิ่วนี้จะปวดโดยผ่านกลไกที่ได้กล่าวไป
    ดังนั้นยาตัวนี้จึงถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการจากนิ่วได้..... แต่เนื่องจากโรคนิ่วในท่อไตนี้เจอน้อยกว่าโรคปวดกล้ามเนื้อ บางครั้งพอผมสั่งยาไปแล้วก็จะเกิดบทสนทนาว่า
    หมอแมว "ยาตัวนี้ใช้แก้อาการปวดจากนิ่วได้ครับ"
    ผู้ป่วย "ไม่จริงหรอกหมอ ยาตัวนี้ผมเคยใช้แก้ปวดกษัยเส้น"
    หมอแมว "แต่มันมีฤทธิ์แก้ปวดจากนิ่วด้วยครับ"
    ผู้ป่วย "ตลกแล้วหมอ ไปเอามาจากไหน"
    ยืนยันว่าใช้แก้ปวดจากนิ่วได้ครับ เพียงแต่ว่าเรื่องนิ่วพอหายปวดแล้วต้องไปรักษาต่ออยู่ดี

    8. Hydroxyzine
    ยาตัวนี้หลายคนรู้จักในชื่อ Atarax .... ที่ใช้ที่พบได้บ่อยคือในกรณีที่มีอาการแพ้หรือมีผื่นคัน ... และเนื่องจากถูกใช้ในเรื่องแพ้และคันมาก บางคนก็เลยอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วยาตัวนี้ก็มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ ...
    ดังนั้นบางครั้งมีอาการอื่นที่ไม่ใช่อาการแพ้ แต่ก็อาจได้ยาตัวนี้ได้
    (ยาตัวนี้มีความหลัง... เคยหน้าแตกตอนไปซื้อยาโดยบอกชื่อว่า "Hydroxyzine" ปรากฎว่าคนขายไม่รู้จัก พอดีเหลือบไปเห็นเข้าก็เลยชี้เข้า เลยโดนคนขายสอนว่า "ทีหลังให้บอกว่าต้องการAtarax บอกว่า Hydroxyzineใครจะไปรู้จัก" ..... วิธีการของผมคือ เปลี่ยนร้านครับ รู้สึกว่าคนขายต้องไม่ใช่เภสัชแน่ๆ)

    จากคุณ : หมอแมว - [ 11 เม.ย. 50 22:38:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom