ความคิดเห็นที่ 1 . จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วอีกอย่างคือ อิฉันทำไว้เป็น 2 เวอร์ชั่นนะคะ คือในกระทู้ และใน blog – อ่านจากที่ใดที่หนึ่งก็ได้ แต่ใน blog จะลูกบ้า + มีรูปปลากรอบมากกว่านิดหน่อยค่ะ (เพิ่มเติม: อยู่ใต้หัวข้อ LASIK Diary นะคะ) เริ่มเลยนะคะ ... แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 50 01:47:55 จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปคร่าวๆค่ะ * สายตาสั้น 200 กว่าๆ เอียง 100 กว่าๆ แต่ถ้าไม่ใส่แว่นจะเวียนหัวมาก * ทำงานในสถานที่ที่ห้ามใส่แว่น * แพ้ contact lens ========================= ใส่แว่นก็ไม่ได้ (เค้าห้าม) .. ใส่ lens ก็ไม่ได้ (หมอห้าม) ก็เหลืออยู่ทางเลือกเดียวแล้วล่ะ ... LASIK ! คิดได้ดั่งนั้น .. จึ่งทำการหาข้อมูลเปนการใหญ่ ทั้ง search จาก net .. ทั้งโทรไปปรึกษา ใช้เวลาทั้งสิ้น ... 3 วัน (กรั่กกก) บางที่ ชื่อเสียงโด่งดัง .. ราคาก็โด่งพอกัน บางที่ ชื่อเสียงมีมานาน แถมผ่อนชำระ 0% ได้ตั้ง 2-3 ปีอีกแหน่ะ บางที่ เป็นของรัฐบาล ราคาถูกว่าเอกชนครึ่ง-ครึ่ง หลายที่ ลดราคาช่วง ธ.ค. พอดิบพอดี (โฮ่ๆ) ในที่สุดก็ตัดสินใจจากปัจจัยเหล่านี้ 1. ราคาปานกลาง ไม่ถูก -ไม่แพงจนเกินไป 2. สถานที่สะดวกต่อการเดินทาง เพราะต้องไปหลายรอบนิ .. ตรวจตาก็วันนึง ผ่าก็วันนึง เช็คครบ 1 วัน / 1 สัปดาห์ / 1 เดือน / 3 เดือน / 1 ปี .. เพียบเลย 3. Technology .. อันนี้สำคัญ เพราะอ่านแล้วต้องแยกแยะให้ได้ ว่าอันไหนโฆษณาชวนเชื่อ อันไหนของจริง แล้วอีกอย่าง รุ่นใหม่ๆ มันก็ควรต้องดีกว่ารุ่นเก่าใช่มะคะ .. จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ได้สถานที่เรียบร้อย .. ราคาโอเค, ใกล้บ้าน, Technology ใหม่พอตัว .. แถมยังมี offer ห้องพักให้คืนนึงอีกตะหาก .. แจ่มสุดๆ !! ว่าแล้วก็ .. โทรนัดซะเรยยยย นัดตรวจตา อันนี้จำเป็นมาก เพราะเค้าจะดูความพร้อมของลูกกะตาเราก่อน ว่าสามารถทำการรักษาได้ไม๊ การเตรียมตัวมาตรวจ  จะมีการขยายม่านตา เพื่อตรวจประสาทตา ซึ่งจะมีผลให้การมองเห็น และสู้แสงจ้าไม่ได้ ควรเตรียมแว่นกันแดดและนำเพื่อนหรือญาติมาด้วย อย่าขับรถเองเพราะหลังการตรวจ ตาจะมัวขับรถไม่ได้  สำหรับคอนแทคเลนส์ จำเป็นต้องถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อน คอนแทคเลนส์แบบนิ่ม ต้อง ถอดติดต่อกัน อย่างน้อย 7 วันก่อนมาตรวจ ถ้าไม่ถึง 7 วัน วันที่มาทำการผ่าตัดต้องมีการ ตรวจวัดความหนาของกระจกตาใหม่อีกครั้ง  คอนแทคเลนส์แบบกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม และแบบ แข็ง ต้องถอดติดต่อกัน อย่างน้อย 14 วัน ถ้าไม่ถึง 14 วัน วันที่มาทำการผ่าตัดต้องมีการ ตรวจวัดความหนาของกระจกตาใหม่อีกครั้ง  วัตถุประสงค์ของการตรวจตา คือ เพื่อประเมินว่าท่านเป็นบุคคลที่มีสภาพตาสมบูรณ์ และ สามารถแก้ไขสายตาสั้น ยาว เอียง ด้วงแสงเลเซอร์ได้ด้วยความปลอดภัย (ขอบคุณ: ข้อมูลจาก web site รพ. ตาหูคอจมูก) แต่ที่ๆเราไป เค้าให้ตรวจ HIV ด้วยหง่ะ (-_- )? จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วันมาตรวจสภาพสายตา (ใช้เวลาในการตรวจ 2-3 ชั่วโมง) • ตรวจวัดระดับการมองเห็น • วัดค่าความผิดปกติของสายตา • ตรวจวัดความหนา และความโค้งของกระจกตา • ขยายม่านตาเพื่อตรวจจอประสาทตา จะทำให้การมองใกล้ไม่ชัดเจนและตาสู้แสงได้น้อยลง เป็นอยู่ประมาณ 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นผู้เข้ารับการตรวจไม่ควรขับรถมาเอง และควรนำแว่นกันแดดมาด้วย • พบแพทย์ เพื่อสรุปผลการตรวจถึงโอกาส และความสำเร็จในการผ่าตัด (ขอบคุณ: ข้อมูลจาก web site รพ. รามาฯ) ก็ไปกับมารดา เพราะเค้าห้ามขับรถกลับเอง ถึงปุ๊บ พยาบาลเรียกปั๊บ แต่เราขอต่อรอง หยิบเมนูสปาขึ้นมาอ่านก่อน ตัดสินใจได้แล้วก็ยัดเงินใส่มือคุณพยาบาล ให้ช่วยพามารดาไปนวดรอซัก 2 ชั่วโมงก่อน ... ไม่ชอบให้ใครรอ .. เกรงจายยยย ตอนแรก เค้าก็พาเราไปที่เครื่องวัดสายตาแบบตามร้านแว่นทั่วๆไป เบิ่งตาจ้องบ้านหลังน้อยบนทุ่งกว้างซักพัก ก็หยอดยาขยายม่านตา แล้วเปลี่ยนไปเป็นเครื่องใหญ่โต มโหฬาร .. ละเอียดยิบ เบิ่งตานานมั่กส์ๆ .. แถมมีบางช่วงให้เบิ่งแบบ non-stop ห้ามกระพริบอีกตะหาก จนเค้า print ผลการตรวจออกมาประมาณนี้แหละ จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 .. ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้อย่างเดียวว่า ไอ่สีแดงๆอ่ะ คือภาวะตาแห้ง เสร็จก็ไปอีกห้องนึง ให้อ่านตัวเลขจาก chart รอบแรก แบบใส่แว่นของตัวเอง รอบสอง แบบถอดแว่น (จะเห็นอะไรล่ะนั่น!) รอบสาม ถึงรอบที่ห้าร้อย ก็ใส่แว่นที่เค้าเปลี่ยนเลนส์ให้ไปเรื่อยๆ มีข้อแม้ว่า เวลาเปรียบเทียบ 1 กับ 2 นั้น .. อันไหนชัดกว่า หรือรู้สึกสบายตากว่า ก็ขอให้ตอบอันนั้น ไม่รู้อย่ามั่ว .. งง ก็ตอบว่า งง เบลอ ก็ตอบว่า เบลอ .. อย่ามาฟอร์ม เพราะมันสำมะคัญมากตรงที่ว่า .. แว่นที่เราใส่ในวันนี้ ก็คือสายตาใหม่ของเราที่เค้าจะทำให้ใกล้เคียงที่สุดนั่นแล ... บางครั้ง 1 ชัดกว่า 2 เยอะมาก .. มากกกกกจนทนไม่ไหว ชัดเกิน .. ปวดลูกกะตา ก็ขอให้เค้าปรับให้ได้ กรุณาอย่าเกรงใจนะคะ ขอบอกกก ... เพราะค่ารักษาก็ไม่ใช่ถูกๆ แถมเรายังมีลูกกะตาแค่คู่เดียวนะคะ .. spend as much time as you like เลยค่ะ ปวดตาก็ขอพักก่อนได้ค่ะ เอาให้เหมาะที่สุด สบายตาที่สุด โอเค๊?? จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสร็จเค้าก็พาไปฟังหมอขู่ถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ตาติดเชื้อ ตาแห้งถาวร บลา บลา บลา หรือกรณีเจี๋ยนกระจกตาไม่เรียบเพราะเครื่องสะดุด .. ก็จะหยุด แล้วปิดทันที อีกครึ่งปี มาคุยกันใหม่ .. เป็นต้น แล้วก็ให้หัดจ้องไปจุดใดจุดหนึงนิ่งๆ เพราะถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้เครื่องจะพัฒนาไปถึงขั้นล็อคเป้าหมายก่อนยิงขีปนาวุธได้แล้ว .. แต่ถ้าเป้าหมายอยู่นิ่งๆ มันก็ช่วยให้ง่ายกว่าอ่ะนะ .. แถมท้ายด้วยการส่องดูความสมบูรณ์ของจอประสาทตา สรุป ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า .. มารดานวดเสร็จพอดี จ่ายเงินไป 1 พันบาทถ้วน แล้วคุณพยาบาลก็พาไปเจาะเลือดเพื่อตรวจ HIV จ่ายไปอีกกี่ร้อยมะรู้ .. จำไม่ได้ แต่ไม่ต้องรอผล ให้มารับวันรุ่งขึ้นได้เลย ( อืมมม.. ถ้าคนมีเชื้อ HIV เค้าจะรักษาให้ไม๊น๊า ?? ) ****** ออกมานอกตึก จ๊ากกกกกกกกกส์ โลกทำไมมันจึงสว่างไสวเยี่ยงนี้ ลืมตาไม่ขึ้นค่ะพี่น้อง .. ใส่แว่นดำแล้วก็ยังแสบตา แก้ปัญหาโดยการเอาเสื้อ jacket มาคลุมหัว .. หลับซะเลย ตื่นก็ตอนถึงบ้านนี่ล่ะ .. แล้วก็มองไม่ชัดไปอีกจนเย็นเลยทีเดียวเชียว .. จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขึ้นเขียง ขั้นตอนการเตรียมตัวในวันผ่าตัดเลสิค 1. อาบน้ำ สระผม และใส่เสื้อที่ผ่าด้านหน้า เช่น เสื้อเชิ้ตที่มีกระดุมด้านหน้า 2. ห้ามแต่งหน้า ทาแป้ง ฉีดสเปรย์ ใส่น้ำหอม และเครื่องประทินโฉมทุกชนิดที่มีกลิ่นเพราะมีผลต่อเครื่องเลเซอร์ (ขอบคุณ: ข้อมูลจาก web site รพ. รามาฯ) อิฉันก็ใส่เสื้อเชิ้ตผ่าหน้าไป ถึงปุ๊บเค้าก็เรียกไป “เก้าอี้เตรียมใจ” ลักษณะเป็นเก้าอี้ปรับเอนได้ เพื่อหยอดยาขยายม่านตาระลอกแรก พร้อมทั้งเปิด VDO เรื่อง LASIK ให้ชม .. อีก 10 นาทีก็หยอดซ้ำอีกครั้ง อีก 5 นาทีก็หยอดยาชา อีก 5 นาทีก็หยอดยาฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งแจกยา (อะไรหว่า) มา 2 เม็ด ใส่เสื้อคลุม ใส่หมวกคลุมผม ใส่รองเท้าแตะ ... ได้เวลาแล้ว !! คุณพยาบาลพาไปส่งหน้าห้อง Air Shower ซึ่งเป็นห้องที่ใช้ระบบสูญญากาศกำจัดฝุ่นละออง สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.001 ไมครอน ซึ่งสามารถกำจัดเชื้อแบคที่เรียได้ .. พร้อมทั้งกำชับว่าให้หลับตาปี๋ .. ก้าวเท้าออกมาจากห้อง ก็มีคุณพยาบาลอีกคนรอรับอยู่ จูงไม้จูงมืออิฉันไปขึ้นเขียง พอนอนได้ตรงพิกัด เค้าก็สอดของนิ่มๆใส่มืออิฉันข้างละชิ้น “นี่เป็นตุ๊กตาหมีนะคะ เอาไว้บีบให้ผ่อนคลายค่ะ” ใจอยากก้มลงไปดู .. เพราะสงสัยว่า หมีจริงรึเปล่า .. แล้วจะหน้าตาเหมือนตุ๊กตาของ Mr. Bean ไม๊ .. แต่ก็ต้องระงับใจ ด้วยรู้ว่า มันผิดกาละ  555+ ทีนี้ เค้าก็ปิดหน้าอิฉันให้โผล่ออกมาแต่ตา แถมยังให้ลืมตาทีละข้างอีกตะหาก ข้างที่ยังไม่ได้ทำก็ถูกปกคลุมด้วยวัสดุบางอย่างจนมืดตื๋อ .. ส่วนข้างที่จะโดนยิงก่อน ก็จะต้องทำการเก็บขนตา โดยใช้เทปแปะไว้ เสร็จ ก็มาถึงขั้นตอนการถ่างตา ... เจ็บง่า~~~~~~~~~ จากความรู้สึกนะ (เพราะมองมิเห็น) เหมือนเค้าเอาอะไรกลมๆมาครอบลูกกะตาไว้ให้มันโปนๆหง่ะ เจ็บบบบบบบ T^T .. เหมือนหางตาจะฉีกเรย ทีนี้ เค้าก็เลื่อนยานแม่มาอยู่บนหัวอิฉัน พร้อมทั้งให้ตั้งอกตั้งใจจ้องไอ่จุดแดงๆอย่างสุดชีวิต แต่ดีอย่าง ตรงที่คุณหมอเค้าจะพูดอธิบายทุกขั้นตอนเลยอ่ะ เช่น “เดี๋ยวหมอจะเปิดกระจกตาแล้วนะคะ ให้มองไฟสีแดงไว้นิ่งๆนะคะ พอทุกอย่างมืดสนิทแล้วให้บอกนะคะ หมอจะได้หยุด” กว๊ากกกกกกกส์ ... ได้ยินเสียง กึ่ดๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วอยู่ดีๆ ทั้งทีตาเราเบิกโพลงอยู่ .. โลกก็มืดมิด !!.. “มืดแล้วค่ะ” (เสียงสั่นด้วยความต๊กกะใจ) จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 “โอเคค่ะ ทีนี้พอเห็นไฟสีแดงอีกครั้ง บอกหมอแล้วจ้องนิ่งๆเลยนะคะ พยายามอย่ากระพริบตา” ซักพัก ไอ่ไฟแดงๆก็กลับมา เราก็จ้องสู้กะมัน ได้ยินเสียงเฟี้ยวฟ้าวประหนึ่ง Star Wars Episode I (เวอร์ละๆ 55+) .. เป็นแป๊บเดียวที่นานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ เอ่อ .. ไส้ตุ๊กตาทะลักหรือยังเนี่ย ?!?!? “เสร็จแล้วค่ะ” ... เฮ่อออออ ปวดหนึบๆตอนเค้าเอาที่ถ่างตาออก ... เพื่อไปครอบอีกข้าง ??? ( ยืนยันตรงนี้เลย ว่านี่คือกระบวนการที่เจ็บที่สุดแล้ว ) .. หางตาจะฉีกอีกรอบ! ทีนี้ ไม่รู้เป็นไรอ่ะ พอเค้าจะเริ่มยิง อิฉันดันควบคุมลูกกะตาตัวเองไม่ได้ มันกลอกไปกลอกมา “อ้าว .. หนีทำไมล่ะคะ จ้องนิ่งๆสิคะ” นิ่งได้แว๊บเดียว เหมือนกล้ามเนื้อมันหมดแรง กลอกหนีอีกแล้ว “เอ้า งั้นพักก่อนละกัน” เอ่อ .. ให้พักนานมากกกก .. ประมาณ 15 วิ นั่นแหละ .. ในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์ทั้ง 2 ข้าง จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... แล้วหมอก็เอาตาแมลงวันมาแปะ พันเทปฟื้ดๆๆๆ แล้วก็มีคุณพยาบาลจูงมือกลับไปนั่งเก้าอี้ “พักใจ” พร้อมเสิร์ฟโอวัลตินร้อน 1 แก้ว แล้วก็กำชับว่า วันนี้ให้นอนเยอะๆ ดึกๆอาจจะแสบตา น้ำตาไหล มีขี้ตาเกรอะกรัง ก็อย่าไปสนใจ .. ห้ามแตะต้องลูกกะตาไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น วิธีการปฏิบัติตัวหลังจากทำเลสิค 1. หลังผ่าตัดจะมีอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล อาการดังกล่าว จะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละคน และจะปิดฝาครอบตัวไว้ทั้งคืน วันรุ่งขึ้นให้มาเปิดฝาครอบตาออกที่ห้องเลสิค และตรวจดูสภาพตาหลังจากทำเลสิค หลังจากทำเลสิคแล้วควรจะมาตรวจสภาพตาหลังการทำดังนี้ 1 วัน, 1 สัปดาห์, 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากถ้าแพทย์สั่งยา 2. ฝาครอบตาให้ครอบตาก่อนนอน 1 สัปดาห์ 3. ห้ามล้างหน้า และแต่งหน้า 1 สัปดาห์ ให้ใช้สำลี หรือผ้าสะอาด ชุบน้ำอุ่นเช็ดหน้า 4. ให้ใช้แว่นตากันแดดเวลาออกนอกบ้าน 1 เดือน 5. ห้ามว่ายน้ำ 2 สัปดาห์ 6. ห้ามดำน้ำ 1 เดือน ประมาณ 10 นาทีได้มั๊ง บุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกันเก้าอี้รถเข็น 1 ตัว เพื่อเข็นเอาอิฉันไปเก็บ (55+) แล้วก็นอน น๊อนนนนน นอน พยาบาลเอายานอนหลับมาให้ 2 เม็ด ไม่ได้แตะเลย หลับสบาย ปวดตาหนึบๆเล็กน้อย ไม่มากมายอะไร น้ำตาก็ไม่ไหล ตาก็ไม่แสบ .. สบายแฮ (มีแอบดูทีวีนิดหน่อย ผ่านรูของตาแมลงวัน) จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อุปกรณ์ยังชีพ.. ประกอบไปด้วย น้ำตาเทียม / ที่ครอบตา / ยาหยอดตาฆ่าเชื้อ/ สำลี / เทป / ยาแก้ปวด / ยานอนหลับ จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วันแรกหลังทำ LASIK 10 โมงมีพยาบาลมารับไปหาหมอ หมอแกะที่ครอบตาออก ทำความสะอาดให้ แล้วบอกว่าเรียบร้อยดีมาก ไม่พบปัญหาอะไรเลย กลับบ้านได้ โห ... ชัดครับพี่น้อง!!  เห็นไปโน่นนนนนนน นั่งๆนอนๆอยู่บ้าน ตกดึกก็ใช้โลชั่นเช็ดหน้าแล้วครอบตาก่อนนอน โดยไม่ลืมที่จะหยอดน้ำตาเทียมเป็นระยะๆทั้งวัน วันที่สอง ขับรถไปห้างแถวบ้าน เพื่อไปตัดแว่นไว้ใส่ขับรถ คืออิฉันตาแพ้แสง .. เวลาขับรถตอนกลางคืนแล้วมีรถวิ่งสวนเลนมา จะปวดกระบอกตามั่กๆ ตอนใส่แว่น แว่นมัน multi-coat ก็ช่วยได้เยอะ นี่ไม่ต้องใส่แล้ว กลัวตาเพียวๆมันจะสู้ไม่ไหว ตกลงเสร็จสรรพ .. อีก 4 วันเสร็จ แล้วเค้าจะส่ง EMS มาให้ ขับกลับบ้าน ใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะมันจะทุ่มแล้ว .. กลัวปวดลูกกะตา .. จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปรากฏว่า ... จ๊อดดด มันยอดมากกกก คือ คุณหมอเค้าก็บอกไว้แล้วแหละ ว่าเค้าปรับให้บ้างแล้ว เราจะเห็นภาพตอนกลางคืนแปลกไปจากเดิม อาจเห็นแสงไฟแบบขอบเบลอๆ (คนละอย่างกับ noise นะคะ - นั่นมันเครื่องรุ่นเก่า) แต่นี่มันออกแนวแบบ .. ใช้ PhotoShop ทำ Feather ค่าซัก 20 น่ะ ชอบมากกกกๆๆ .. แสงไฟกลายเป็นอะไรที่นวลตามากๆ จ้องได้สบายบรื๋อเลย ! แจ่มๆๆ (พลางคิดในใจว่า .. เสียดายตังค์ค่าแว่นตะกี๊จังเรยวุ๊ย..) อยู่บ้านต่ออีกวันก็ต้องไปทำงานละ วันที่สี่ ไปถึง office เพื่อนก็ทวงเลยว่าแปลงานเสร็จยัง .. ต้องทำ press kit แจกสื่อแล้ว เอ่อ .. สู้ตายว๊อยยยยย เปิดไฟล์อ่านไป พิมพ์แปลไป ... ผ่านไป 10 นาที .. โอ๊ยยยยยยยย รู้สึกเหมือนจอทีวีล้มอ่ะ ตัวหนังสือตีกันยุ่งไปหมด .. ปวดตาสุดๆ ทำงานต่อไม่ได้ โทรหาพยาบาลที่ดูแลเราด่วน.. เค้าบอกว่า ช่วงนี้ตาจะ focus อะไรใกล้ๆไม่ค่อยได้ ให้ทำงาน 20 นาที พัก 5 นาที สลับกันไปเรื่อยๆ + หยอดน้ำตาเทียมเยอะๆ .. ก็นั่งทำงานต่อไปด้วยความทรมาน.. เที่ยง เดินลงไปกินข้าวกับเพื่อน .. ไม่ได้ใส่แว่นกันแดด แสบตาสุดๆ เย็น หลังเลิกงาน แวะสระผมที่ร้านใต้ตึก จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 01:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วันที่ห้า ทำงานตามปกติ ตกดึก .. ไม่ไหวแล้ววววว คนมันเคยสระผมทุกวันมาเป็นสิบๆปี คืนนี้เป็นไงเป็นกัน! แหงนหน้าจนคอตั้งบ่า .. หลับตาปี๋ .. สระผมด้วยตัวเอง ฮ่า! นอนตายตาหลับ จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วันที่หก แว่น 3,300 บาท มาแล้ว.. แถมโดนเพื่อนล้อว่าเป็นต๊ะ บอยเสก๊าต์อีก (เวงง) ครอบตาก่อนนอนเป็นวันสุดท้าย .. เย่! จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ครบ 1 อาทิตย์ อ่านตัวเลขจาก chart เหมือนเดิม คราวนี้เห็นถึงบรรทัดก่อนสุดท้ายแหน่ะ แต่พี่คนที่ตรวจเค้าก็บอกว่า ตอนนี้ผลยังไม่คงที่ อาจมีขึ้นมีลงได้ ต้อง 3 เดือนขึ้นไปโน่นถึงจะรู้ค่าสายตาที่แท้จริง หมอตรวจดูแผลที่กระจกตา บอกว่า OK ไม่ติดเชื้อ ไม่แห้ง ปรกติดีทุกอย่าง ... เย่ ! (อ้อ ตอนนี้ ถ้าหลับตาแล้วบังเอิญไปแตะโดนเปลือกตา มันก็เจ็บอยู่นา) หมอบอกด้วยว่า ล้างหน้าแล้วห้ามลูบเลือกตาเด็ดขาด (ให้นึกว่าเราใส่ lens อยู่น่ะ) .. ให้ซับๆเอาเท่านั้น (กระจกตาเลื่อนล่ะซรวยอย่างมิต้องสงสัย..) ช่วงเดือนแรก ตื่นสายมากไปก็ไม่ได้นะ .. ไม่งั้นตาจะฝืดมากๆ กระพริบแทบไม่ได้ จะนอนกินบ้านกินเมืองยังไงๆก็ต้องตื่นมาหยอดตาก่อนอ่ะ ช่วงนี้ ถือเป็น prime time .. ไปทำงานไม่ต้องแต่งหน้า .. สวรรค์แต๊ๆ ยิ้มระรื่นบอกนาย บอกเพื่อน “หมอให้งดแต่งหน้า ทาแป้งเดือนนึงค่ะ” ฮิ้วววววววววว จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .. ลืมเอารูปตอนครอบตาให้ดูค่ะ จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ครบเดือน ไปหาหมออีกครั้ง ตรวจดูความเรียบร้อยของแผลแป๊บเดียวก็กลับบ้านได้ (หมอไม่ได้บังคับขายน้ำตาเทียมอ่ะ อิฉันเลยไปซื้อที่อื่นแทน) เดือนที่สอง ไม่มีอะไรผิดปกตินะ หยอดตาวันเว้นวันมั่ง แล้วแต่แห้งมากแห้งน้อย นายรู้แกว บอกครบเดือนแล้วนี่ .. แต่งหน้าได้แล้ว .. หง่ะ! ครบสามเดือน จริงๆเค้านัดไปตรวจ แต่ไม่ว่างอ่ะ พอว่าง โทรไปนัด เค้าก็ปิดสงกรานต์ เดี๋ยวไปตรวจแล้วมีความคืบหน้ายังไง จะมา update ให้ฟังนะคร๊า~~~ สุดท้ายนี้ หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ที่อิฉันนั่งพิมพ์หลายชั่วโมงม้วนเดียวจบนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่กำลังหาข้อมูลอยู่ไม่มากก็น้อยนะค๊า May the sight be with you (( ฮ่าๆ )) จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ..ตอนนี้ผมอายุ 17 สายตาสั้น 600 >.< กะว่าเดี๋ยวอายุถึงก็จะไปทำ LASIK อ่ะครับ  ^^ จากคุณ : >>*ไอติม & นมปั่น*<< - [ 17 เม.ย. 50 02:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 .. ยินดีค่ะ ^^ จากคุณ : blessed - [ 17 เม.ย. 50 02:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณจกขท ข้อมูลละเอียดยิบจริงๆ จากคุณ : แม่ตะวัน - [ 17 เม.ย. 50 08:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเคยมีอุบัติเหตุนิดหน่อยช่วงเป็นนักเรียนร่ม แล้วส่งผลให้สายตาผมเริ่มสั้น (แต่ตอนนี้สั้นแล้วจริง ๆ ขับรถกลาง คืนนี่ขาดแว่นสายตาไม่ได้เลยเชียว) สนใจเรื่องเลสิคเหมือนกัน ขอบคุณ จขกท. นะครับ ^^ save save save จากคุณ : ชิต บางปะกง - [ 17 เม.ย. 50 09:14:03 A:203.113.80.141 X: TicketID:050077 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เจ้าของกระทู้ สายตาสั้น 200 นิดๆ กับเอียง 100 หน่อยๆ ยังทำเลซิกเลย ผม สั้น 700 แต่เดชะบุญไม่เอียง กำลังคิดจะทำอยู่ครับ เงินพร้อม ร่างกายพร้อม แต่หาข้อมูลอยู่ อีกอย่าง เสียดายเงินอะ เหอๆๆๆ จากคุณ : Beloved_ - [ 17 เม.ย. 50 12:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยากไปทำด้วยแต่กัวเจ็บมากๆๆๆ ทนเจ็บไม่หวายย กัวๆๆ สั้นตั้ง 800 แน่ะ จากคุณ : ployie - [ 17 เม.ย. 50 14:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากทำบ้างจัง แต่เสียวตรงเหมือนหางตาจะฉีกอะค่ะ เราสั้น 300 เอียง 200 ค่ะ จากคุณ : Expensive - [ 17 เม.ย. 50 16:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันเดียวก็เปิดตาได้แล้วหรอครับ คิดว่าต้องปิดไปเป็นอาทิตย์ซะอีก ตอนนี้ถ้าจะทำคงติดปัญหาที่ว่า ต้องใส่แว่นก่อนจะไปตรวจ ครึ่งเดือนเลยหรอคับ (ปกติใส่คอนแทคอยู่) จากคุณ : M_Nobita - [ 18 เม.ย. 50 10:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ จขกท ที่เอาเรื่องดีๆมาฝากค่ะ เราสั้น 650 และ 700 อยากทำมากกกกก เก็บเงินไว้ พอทำกับ รพ.รัฐ ได้แล้ว แต่ กลัวมันไม่หายสนิท คือเหลือสัก 100 อะไรงี้.. แว่น ไม่ได้ใส่มา 7-8 ปีแล้วค่ะ จากคุณ : cosmo lady - [ 18 เม.ย. 50 15:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่าแล้วเสียวมาก ตอนหางตาจะฉีก(น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอครับ = =) เท่าที่ฟังมามีแต่คนบอกไม่ค่อยน่ากลัว (แต่มาอ่านแล้วสงสัยละเอียด เลยกลัวไปเลย) ผมสั้นเกือบ 500 แล้วครับ ชอบใส่แว่น คอมแทคเลนส์ก็ใส่บ้างบางครั้ง(ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันจุกจิก) ในอนาคตก็อาจจะทำเลสิกเหมือนกันครับ ... ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆนะครับ ขออนุญาติเซฟไว้ละกันครับ จากคุณ : หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง - [ 18 เม.ย. 50 16:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 I know you did your LASIK at Vibhavadi hospital. I did mine there too probably with the same doctor. The air shower and the one night stay give me the clues. I did mine last year for Bt49,000. I would recommend it to anyone. จากคุณ : Flatnose - [ 19 เม.ย. 50 00:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พึ่งมาทำแล้วเหมือนกันครับ .. สั้น ข้างละ 300 เอียง 50 สงสัยทำที่เดียวกันเลย อิอิ ... ช่วงี้ ไทย พานิช ลด 25% ลองไปหาๆ ดูครับ .. เจ็บแค่ตอน ถ่างตานั้นแหละครับ เพราะผมเป็นคนตาเล็ก หมอบอกเจ็บกว่าคนอื่น นิดหน่อย .. ขั้นคอนทุกอย่าง ตามข้างบนเลย แม่นมากๆ ... เหมือนได้เกิดใหม่ จริงๆครับ !!! จากคุณ : earthgreezi - [ 22 เม.ย. 50 06:24:42 A:202.91.18.192 X: TicketID:063022 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตให้กั๊บ ได้ความรู้ดี จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง - [ 25 เม.ย. 50 15:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ ไม่ต้องนอนโรงบาลก็ได้ครับ .. จากคุณ : พึ่งกลับจากดาวอังคาร - [ 30 เม.ย. 50 02:13:24 ]