ขอโทดทุกๆคน ที่ให้รอนานเหลือเกิน
ภูมิใจมาก ที่เรื่องที่กะจะแค่เขียนเล่นๆ กลับมีคนติดตามมากมาย บางคนก็ว่ามันสนุก บ้างก็ว่ามันน่าติดตาม แต่ตัวผู้เขียนเอง กลับมีความคิดจะเลิกเขียนมันไปซะอย่างงั้น เลวจิงๆ
แม้จะรู้สึกไม่ดีทุกครั้ง เวลานึกถึงเรื่องเลวๆที่ผ่านมาในอดีต
แต่เรื่องนี้จะจบ
จบอย่างที่ฉัน ตั้งใจไว้แต่แรก
ขอได้รับการติดตามต่อไป
ขอบคุณค่ะ
เฟียซ
เลขาที่ว่างงานที่สุดในโลก..
*********************************************
"ชั่วโมงครึ่ง" นานไปไหมกับการขับรถมารับฉัน ห่างจากบ้านไม่ถึง 10 กิโล
ฉันปากเขียว และผิวหนังซีดและเหี่ยวย่นตามฝ่ามือ เพราะยืนตากฝนมาเป็น ชม.ๆ ตอนนี้สัมภาระที่เคยดูแลเอาไว้ให้ห่างสายฝน ถูกวางกองลงปลายเท้า เปียกโชกไปด้วยฝนที่สาดเข้ามาไม่หยุดหย่อน
"ปี๊นๆๆ" ไอ้เต้่บีบแตรเรียกในขณะที่ยังจอดรถไม่หยุดดีเสียด้วยซ้ำ
ไอ้เรื่องจะออกมาช่วยถือของน่ะหรอ ฝันไปได้เรย มันกดเปิดท้ายรถให้ฉัน แล้วตัวอิฉัน หญิงสาวแสนสวยและบอบบาง ก็ต้องหอบ everything ไปเทใส่หลังรถเอง แค่นั้นมันยังบ่นจะแย่
"โห เจ๊ รถผมเปียกหมดเรย พาเข้าคาร์แคร์ให้ด้วยเลยนะ เลอะเทอะไปหมด" ไอ้เต้ทำหน้าเบ้ ก่อนจะเบียดรถเข้าอีกเลน เพื่อรอเลี้ยวไปถนนอีกสายต่อไป
เชอะ.. ให้ช่วยแค่นี้ทำเป็นบ่น น้ำใจหายากจิงๆ ในเมืองใหญ่ๆ เนี่ย ฉันคิดค่อนขอด ในใจ หยดน้ำฉันหยดเต็มเบาะนั่งและไหลเปรอะไปยังพื้น ฉันหนาวจะแย่ แต่ไอ้เต้ กลับไม่มีทีท่าจะลดแอร์ลงซักนิด
"เป็นอะไรตัวสั่น" มันถามหน้าตาบ๊องแบ๊ว สาดด เป็นนางแมวขอฝนหล่ะม้าง พูดไม่คิด
"ขับๆ ไปเฮอะ" ฉันพูดอย่างอารมณ์เสีย ได้ยินเสียงมันหัวเราะหึๆ อยู่ข้างๆ ฉันแกล้งหลับตา เพราะไม่อยากจะสร้างสงครามประสาทกับเด็กไม่รู้จักโต
รถมันแล่นช้าได้ใจมาก เพราะฝนตกลงมาขังเป็นแอ่งเบ้อเริ่มกลางถนน ขับรถฝ่าไปก็ครึ่งคันได้แร่ะ มีบางคนเครื่องดับ ก็ต้องเข็นกันให้จ้าหล่ะหวั่น ใครขับมอเตอร์ไซด์ ก็ต้องเดินจูงกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูไอ้เต้ก็หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย นี่มันก็ดึกอยู่
"ทำไรอยู่หรือเปล่า" ฉันถามดีๆ
เต้ทำหน้างงๆ ก่อนหันมาตอบอย่างไม่รู้ว่าตั้งใจกวนหรือเปล่า
"อ้าว ก็ขับรถไง เจ๊ บ้าเปล่า" มันหันมาแว๊ดใส่ฉัน ฉันได้ทีเลยแกล้งเอาหัวโขกกระจกรถมันซะ 1 ที สม
"หมายถึงตอน จะมาน่ะ ทำอะไรค้างอยู่หรอ" ฉันอธิบายเพิ่มเติม มันถึงบางอ้อทันที
"ช่วยตัวเอง (จริงๆ มันพูดอีกคำนึง) อยู่เลย ตอนเจ๊ต๋องโทรอ่ะ อิอิ" ไอ้เต้พูดอย่างไม่อาย ไม่รู้ว่ามุขไหนของมัน
ฉันเบือนหน้าหนีเข้าหากระจกและมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม เบื่อไอ้เด็กบ้านี่ชะมัด
"โหยย เจ๊ เรื่องธรรมชาิติน่า คนไม่มีแฟน หุหุ" มันยังไม่เลิก ไม่พอเท่านั้นยังเอามือมาสะกิดตรงขาของฉันยิกๆ อี๊ ล้างมือมายังเนี่ย มือข้างไหนเนี่ย
"เจ๊ๆ แล้วเจ๊ไม่มีแฟน เจ๊ไม่เหงาหรอ" มันถาม ในขณะที่รถก็ยังติดแอ้งแม้งอยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้
"ทำไมต้องเหงา" ฉันเถียงสั้นๆ มันทำหน้าไม่เห็นด้วย
"อ้าว คนเราเกิดมาก็ต้องมีความรัก ต้องมีแฟนเป็นของธรรมดา มีอะไรจะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ อยู่คนเดียวไม่มีความสุขหรอก แน่ะ..ดูผมดิ ต้องช่วยตัวเอง สู้มีแฟนไม่ได้" ไอ้เต้พูด ความจริงมันก็หล่อดีนะ บ้านก็รวย แต่แหม พูดจาหมาไม่แด๊กมากๆ แล้วผู้หญิงที่ไหนเค้าจะเอาหล่ะเนี่ย
"แล้วทำไมไม่มีหล่ะ เป็นเกย์หรอไง" ฉันพูดอย่างรำคาญในใจ ทั้งหนาวแระก็เหนื่อย ซ้ำร้ายดูเหมือนจะไม่พ้นไข้แน่ๆ คืนนี้
"เย้ยย ไม่ใช่ ชายทั้งแท่งนะเพ่" มันรีบแก้ตัวโหย๋งๆ ร้อนตัวจิงๆ ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากฉัน มันก็ยิ่งชักสีหน้าไม่พอใจ คราวนี้เริ่มขับรถปาดไปปาดมาซะแระ กว่าจะมาถึงบ้านได้ อ๊วกแทบพลุ่ง
ฉันรีบกระโจนลงจากรถ และลากข้าวของหลบฝนไปหน้าห้อง โชคดีได้อยู่ชั้น 1 ไม่ต้องขึ้นกระไดให้ยากลำบาก
"อีต๋องง เปิดประตูหน่อย กรูหนาวว" ฉันเคาะประูตู สองสามครั้ง
อึดใจเดียวก็มีแสงสว่างเปิดขึ้นในห้อง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก
ฉันผลักเข้าไปในห้องและโยนข้าวของที่โชกไปด้วยน้ำลงพื้น
"หมด หมดกัน ของฝ่งของฝาก" ฉันบ่นอุบ ทุกอย่างเละตุ้มเป๊ะ ของกินไม่เป็นของกินเลยทีเนี้ยะ อุตส่าห์จะเอามาฝากคนป่วย ฉันทำท่าจะหัวเราะใส่อีต๋อง แต่..
"เมิงเป็นอะไร ของเมิง" ฉันถามและหายใจไม่ทั่วท้อง อีต๋องเอามือป้องปิดหน้าตาไว้ใหญ่ แต่สายไปแล้ว ฉันเห็นใบหน้าบวมปูด และจ้ำเขียวๆ แดงๆ เห็นได้ชัด ของมันอย่างชัีดเจน
....
จากคุณ :
พรหล้า ณ แจงแวง
- [
20 เม.ย. 50 17:05:08
]