ความคิดเห็นที่ 1 ต้องรอคุณ Atheis ผู้เชี่ยวชาญมาตอบครับ :) แต่ขอเมนท์นิดนึงนะครับว่าต้องใจเย็นๆ คุณเพิ่งเริ่มได้ 4 วันเองครับ จะให้ผอมแบบเห็นได้ชัดคงเป็นไปไม่ได้ครับไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหนก็ตาม เป็นกำลังใจให้ สู้ๆครับ จากคุณ : Free as the wind - [ 24 เม.ย. 50 12:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พูดตรงๆนะ เราว่าคุณเปลี่ยน eating window แบบสุดขั้วบ่อยเกินไป ทำให้ร่างกายปรับตัวยาก แถมทำแบบนี้ยังเสี่ยงกับโรคกระเพาะอีก ถ้าขืนเป็นยังงี้ต่อไปอีก ยิ่งคุณเป็นคนวิตกจริต ใจร้อนด้วยแล้ว เราว่าคุณคงไม่ประสบความสำเร็จกับ Fast-5 หรอก ทำไมคุณไม่หาเวลาว่างๆ จากงานสำหรับ eating window ล่ะ ตอนเย็นก็ได้ ตอนกลางคืนก็ได้ เราว่าสำหรับคนทำงาน 5pm-10pm เหมาะสมสุดแล้ว เราก็ใช้ช่วงนี้เหมือนกัน ไม่มีปัญหาเลย คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าทานตอนเย็นมากๆ แล้วน้ำหนักจะไม่ลด เพราะ Fast-5 ทำงานไม่เหมือนกับวิธีลดน้ำหนักอื่นๆ คุณทานตอนไหนก็ได้ ทานตอน 3  ทุ่มแล้วอีกชั่วโมงนอนเลยน้ำหนักมันก็ลด ถ้าคุณอดแบบไร้แคลอรี่ได้ตลอด 19 ชั่วโมงจริงๆ เราแนะนำให้คุณอ่านตำรา Fast-5 ของนายแพทย์ Bert Herring ให้เข้าใจแบบจริงๆ ก่อน จะได้เข้าใจว่า Fast-5 มันทำงานยังไง จะได้เลิกวิตกกังวล และใจเย็นๆ กว่านี้ ถ้าเอาคำตอบแบบเร่งด่วนก็อ่านกระทู้ที่คุณเอตอบไว้ในบอร์ด siamfitness ตามนี้ เราเองก็ค่อยๆ ศึกษาจากที่นี่แหล่ะ http://www.siamfitness.com/webboard/show.php?Category=excersize&No=10479 http://www.siamfitness.com/webboard/show.php?Category=excersize&No=10464 http://www.siamfitness.com/webboard/show.php?Category=excersize&No=10393 จากคุณ : Xoop - [ 24 เม.ย. 50 13:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เว็บโหลดตำรา Fast-5 ของ นายแพทย์ Bert Herring http://www.fast-5.com/ บอร์ดของ Fast-5 มีความรู้นอกตำรา มีตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จกับ Fast-5 ให้ศึกษาเยอะ บางคำถามที่เป็นแนวการแพทย์มากๆ นายแพทย์ Bert Herring ก็จะมาตอบเองด้วย http://health.groups.yahoo.com/group/fast5/ จากคุณ : Xoop - [ 24 เม.ย. 50 13:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณกำลังทำผิดวิธีและอาจทำร้ายตัวเองด้วย การที่คุณจะเริ่ม Fast-5 คุณจะต้องค่อยๆ ปรับตัว โดยการเลื่อนมื้อแรกขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ใช้เวลา 10 วันในการปรับตัว เพื่อป้องกันอันตรายจากการที่ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และชั่วโมงที่คุณจะใช้เป็นช่วงในการกิน ควรจะตรงกันทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเริ่มๆ คุณอาจจะเลื่อนเวลากินบ้าง หากจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ให้กลับมาใช้เวลาเดิมตลอด เมื่อหมดธุระแล้ว การปรับตัวไม่ใช่ปรับแบบที่คุณทำนะครับ ปรับแบบนั้นจะสับสนเปล่าๆ ดังนั้น คุณต้องหาเวลาที่เหมาะสมกับตัวคุณจริงๆ ตัวอย่างการปรับตัว เช่น คุณต้องการกินช่วง 10.00-15.00 คุณก็ควรกินมื้อเช้าตามปกติในวันแรกในปริมาณปกติ และเลื่อนให้สายขึ้นเรื่อยๆ จนถึง10.00 น. โดยอาจจะเลื่อนวันละครึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งชั่วโมง ส่วนมื้อเย็นนั้น หากหิวมากๆ ให้กินได้ แต่ให้ลดลงมาเรื่อยๆ แต่ถ้าหากเราเปนคนที่ปกติไม่กินมื้อเช้าก็ให้เริ่มมื้อแรกที่ 10.00 ได้ตั้งแต่วันแรก แต่มื้อเย็นให้กินตามปกติในวันแรก แล้วลดลงเรื่อยๆ ถ้ารู้สึกว่าอดได้เร็ว จะลดเร็วๆหน่อยก็ได้ แต่อย่าฝืนตัวเอง เมื่อถึงจุดที่เราสามารถกินในกรอบเวลาได้แล้ว ห้ามกินนอกกรอบเวลาเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ยกเว้นช่วงแรกๆที่เพิ่งเข้าสู่ระยะปรับตัวได้ ถ้าหิวจริงๆ ให้กินได้ เพราะนี่ไม่ใช่การอดอาหารทรมานตนเอง แต่เมื่อผ่านไปสักพัก เราจะไม่หิวอะไรเลย นอกช่วงเวลา ณ จุดนี้ เราควรจะรักษาระเบียบอย่างเคร่งครัด จะกินก็ต่อเมื่อ เจ็บไข้ไม่สบาย หรือติดงานที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น (แต่ถ้าหิวจริงๆ หิวจากร่างกายสั่ง ก็กินสักนิดเถอะครับ แต่ปกติมันจะไม่หิวแล้วนะ ถ้าใครหิวแสดงว่าระยะปรับตัวทำได้ไม่สมบูรณ์ หรือรีบเกินไป) และถ้าจำเป็นต้องกิน ในกรณีที่ไม่ได้ป่วย ให้พยายามกินพลังงานให้น้อยที่สุด และวันรุ่งขึ้น ให้กลับมากินในเวลาตามกรอบเหมือนเดิม ทำแบบนี้ ดีที่สุด ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณมีธุระบ่อยเหลือเกินที่ต้องกิน แสดงว่านั่นไม่ใช่เวลาที่เหมาะกับคุณ ให้เปลี่ยนเป็นเวลาที่ว่างที่สุดจะดีกว่า และผมรับรอง ว่าเราอดได้จริงๆ โดยไม่หิว และไม่ทำร้ายร่างกายตัวเอง แค่ทำตามขั้นตอน เราอาจใช้เวลาตั้งแต่ 10วัน ถึง 1 เดือนในการปรับตัว ถ้าคุณปรับตัวไว ก็เข้าสู่ระยะจริงได้ไว ถ้าปรับตัวช้าก็ใจเย็นๆ ช้าหน่อย แต่คุ้มแน่ๆ และควรอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วน ตามกระทู้ข้างล่างที่ผมตอบไว้เยอะ ในเวบsiamfitness ที่คุณเอตอบไว้ และในเวบของ Fast-5 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 50 20:59:26 จากคุณ : atheist - [ 24 เม.ย. 50 20:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ้อแล้ว 4 วันนี่กะลดเลยเหรอครับ  - -* ไม่ต้องรีบครับ ถ้าปรับตัวเร็ว เดือนแรกจะลดประมาณ2-3 กิโลกรัม หรือมากกว่านั้นถ้าอ้วนมากๆ แต่อาจลดได้น้อยกว่านี้ แล้วแต่คนครับ แต่จะเริ่มลดอย่างน้อยก็ใช้เวลา10วันขึ้นไปครับ เดือนหลังๆ จะลดเฉลี่ยๆ ประมาณ 2 กิโลกรัมต่อเดือน แต่อย่าชั่งน้ำหนักเปนรายวันครับ เอาเปนรายสัปดาห์ดีกว่า เพราะรายวันมันขึ้นๆ ลงๆ จากคุณ : atheist - [ 24 เม.ย. 50 20:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สรุป... ในช่วงฝึกฝน เราคิดว่า คุณต้องเปลี่ยน eating window ไปตอนช่วงที่คุณว่างจากการทำงาน ว่างมากที่สุด เช่น 5 pm-10 pm แล้วทานอาหารในช่วงนี้ตลอด ห้ามเปลี่ยน จากคุณ : Xoop - [ 25 เม.ย. 50 09:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ แล้วก็อย่าลืมการปรับตัวครับ เน้นว่าสำคัญจริงๆ ย้ายเวลาแบบหักดิบเลย ผมไม่รับประกันความปลอดภัย จากคุณ : atheist - [ 25 เม.ย. 50 10:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไม่ไหวก็อย่าอดแบบหักดิบนะ บางคนอาจทำได้ แต่บางคนก็ทำไมไ่ด้ อันตรายอยู่ ต้องดูตัวเองด้วย ค่อยๆ ทำ เราเอาวิธีฝึกหัดอดจากบอร์ด siamfitness มาฝาก อันนี้สำหรับคนที่จะใช้ eating window ช่วง 5 pm-10 pm นะ เราเองก็ใช้ช่วงนี้ แต่เราเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทานอาหารเช้ามานานมาก เลยไปฝึกอดช่วงหลังอาหารกลางวันจนถึง 5 pm แทน อาทิตย์แรกพอหิวมากๆ จนหน้ามืดตอนใกล้ 5 pm เราก็ทานแซนด์วิช อาทิตย์ที่สองก็ดีขึ้นเราเลยอดแบบเต็มสูบเลย หิวก็อัดน้ำเปล่าและกาแฟดำเข้าไป ตอนนี้เริ่มชินแล้ว ถ้าช่วงอด 19 ชั่วโมงรู้สึกหน้ามืด อ่อนเพลียมาก ให้เพิ่มอาหาร โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ร่างกายเอาไปเก็บไว้เป็น glycogen ร่างกายและสมองจะได้มีน้ำตาล glucose ใช้ได้อย่างเพียงพอ ----------------------------------------------------------------------- ช่วงปรับตัวไปสู่วิถีชีวิตแบบ Fast-5 อันนี้คือวิธีฝึกเพื่ออดอาหาร 19 ชั่วโมงในแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เพื่อปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีชีวิตแบบ Fast-5 ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือ The Fast-5 Diet and the Fast-5 Lifestyle ในบทที่ 3 Adjustment ผมได้พยายามเรียบเรียงเป็นภาษาให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ วิธีฝึกอดอาหารจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ A และ แบบ B โดยในแบบ A นั้นสำหรับคนที่กินอาหารวันละ 3 มื้อปกติคือ มื้อเช้า กลาง วัน เย็น หรือแบบ 6-8 มื้อย่อย ส่วนแบบ B นั้นสำหรับคนที่ไม่ค่อยกินอาหารเช้า หรือไม่กินอาหารเช้าเลย กินแค่วันละ 2 มื้อใหญ่ คือ กลางวัน กับ เย็น แบบ A - ถ้าคุณเป็นพวกแบบ B ให้ข้ามบทนี้ไปเลยนะครับ วิธีการฝึกอดก็คือ ให้เลื่อนเวลากินอาหารเช้าจากเวลาปกติออกไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และแทนที่อาหารเช้าแบบปกติด้วยอาหารที่กินง่าย เบาๆ พกพาง่าย เช่น นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง ตัวอย่างเช่น จากเดิมที่คุณเคยกินอาหารเช้าปกติหนักๆ อย่างพวก ข้าวต้ม ต้มเลือดหมู ข้าวแกง ตอน 7 โมง คุณก็เลื่อนเวลาออกไปเป็น 7.30 หรือ 8.00 แล้วกินของเบาๆ อย่าง นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง แทนอาการเช้าตามปกติ ทำแบบนี้ 2 วัน ถ้าทำได้ อีก 2 วันต่อมาก็เลื่อนเป็น 8.00 และ 9.00 ตามลำดับ ถ้าทำได้ อีก 2 วันก็เลื่อนเป็น 8.30 และ 10.00 ตามลำดับ จนไปถึงเที่ยง ก็ให้กินอาหารเที่ยงตามปกติ ถ้าทำไม่ได้ ก็ทำซ้ำๆ จนกว่าจะได้ แต่อย่าลืมว่า ห้ามกินหรือดื่มอะไรที่มีแคลอรีอย่างเด็ดขาด นับตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาอาหารเช้า แบบ B เมื่อคุณสามารถฝึกอดจนถึงเวลาอาหารเที่ยงได้แล้ว (จากแบบ A) ถึงตอนนี้จะไม่มีอาหารเช้าอีกต่อไป แต่จะเป็นการเลื่อนเวลาอาหารกลางวันออกไปแทน วิธีก็ทำแบบเดีียวกันคือ ให้เลื่อนเวลากินอาหารกลางวันจากเวลาปกติออกไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง (หากทำได้) แล้วให้แทนที่อาหารกลางวันแบบปกติด้วยอาหารที่กินง่าย เบาๆ พกพาง่าย เช่น นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง ตัวอย่างเช่น จากเดิมที่คุณเคยกินอาหารกลางวันปกติหนักๆ อย่างพวก ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ตอน 12.00 คุณก็เลื่อนเวลาออกไปเป็น 12.30 หรือ 13.00 หรือ 14.00 แล้วกินของเบาๆ อย่าง นมกล่อง กาแฟปกติ แซนด์วิช ขนมปัง แทนอาหารกลางวันตามปกติ ทำแบบนี้ 2 วัน ถ้าทำได้ อีก 2 วันต่อมาก็เลื่อนเป็น 13.00 และ 14.00 และ 16.00 ตามลำดับ จนกระทั่งสามารถอดได้ถึง 5 โมงเย็น ถ้าทำไม่ได้ ก็ทำซ้ำๆ จนกว่าจะได้ แต่อย่าลืมว่า ห้ามกินหรือดื่มอะไรที่มีแคลอรีอย่างเด็ดขาด นับตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาอาหารกลางวัน กินได้แค่น้ำเปล่า กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแคลอรี หากใครสามารถอดทีเดียวแบบหักดิบได้ หรือเลื่อนออกไปทีเดียว 5-6 ชั่วโมง ก็ทำได้เลยครับ ถ้าหิวก็กินได้น้ำเปล่า กาแฟดำ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแคลอรี ได้มากเท่าที่ต้องการ และหลัง 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม คุณก็สามารถกินอะไรก็ได้ กินมากเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะพบว่าตัวเอง กินแบบสวาปาม กินแหลก กินมากกว่าอาหาร 3 มื้อรวมกันในคราวเดียว ก็อย่าตกใจ เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติครับ อย่าไปฝืนมัน แต่พอนานๆไป เมื่อคุณเริ่มปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบ Fast-5 ได้ คุณจะกินน้อยลงกว่าในตอนแรกเอง และอย่าเพิ่งคาดหวังว่าน้ำหนักจะลดแบบฮวบๆ ในช่วง 1 เดือนแรกนะครับ เพราะน้ำหนักจะลดจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณเริ่มปรับตัวได้แล้ว คือสามารถอดได้นาน 19 ชั่วโมงโดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ อย่าลืมว่า ทุกๆ วันของวิถีชีวิตแบบ Fast-5 จะจบแบบ happy ending ครับ คือเป็นอิสระ ไม่ต้องเก็บกด จะกินอะไรก็ได้ จะกินมากเท่าไหร่ก็ได้ (แต่พยายามเลี่ยงพวกอาหารขยะ) คุณจะได้พักผ่อน ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันอย่างแท้จริง ที่มา - http://www.siamfitness.com/webboard/show.php?Category=excersize&No=10109 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 11:12:14 จากคุณ : Xoop - [ 25 เม.ย. 50 10:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณนะคะคุณ Xoop  คุณ atheist และคุณFree as the wind  เราจะตั้งใจทำอีกทีค่ะ  จะพยายามให้เวลาที่ทานได้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันตลอด  ขอบคุณจริง ๆนะคะ  สู้ ๆๆ ค่ะ จากคุณ : iamporja - [ 25 เม.ย. 50 12:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ศึกษาหลักการให้เข้าใจก่อนนะครับ ว่ามันทำงานอย่างไรผมแนะนำให้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเลยครับ (ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ก็ต้อง เปิด Dictionary ครับ ผมก็เปิดเหมือนกัน) ใจเย็นครับ ไปช้า ๆ แต่ ปลอดภัย พร้อมกันนั้นพยายามปรับปรุงการกินของเราไปด้วย ผมลดลงประมาณเดือนละ 1 กก. เท่านั้นนะครับ เพราะตามใจปากมากไปหน่อย แต่ก็ลดนะครับ แบบไม่กดดันด้วย จากคุณ : Jackson5 - [ 25 เม.ย. 50 14:06:01 ]