ความคิดเห็นที่ 1 > < อย่าเพิ่งท้อนะคะ กินครบ 3 มื้อ แต่ก็ต้องดูด้วยนะคะ ว่ากินอะไรบ้าง (แต่เราว่า จขกท คงจะระวังอยู่แล้ว?) สาเหตุคงต้องรอให้คนอื่นมาตอบนะคะ เข้ามาให้กำลังใจคะ สู้ๆๆๆๆๆๆ สู้!สู้! ^____^ จากคุณ : satomajung - [ 6 พ.ค. 50 21:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้คุณกำลังอยู่บนที่ราบสูง (Hit the plateau) ครับ ร่างกายมันปรับตัวกับลักษณะการดำรงชีวิตได้ในระดับนี้แล้ว คุณต้องปรับการออกกำลังกายนิดนึงครับ เช่นตอนนี้อาจจะเปลี่ยนวิธีออกกำลังจากเล่น eliptical มาเป็นปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือลู่วิ่ง  หรือเพิ่มความหนักหน่วงในการเล่นให้มากขึ้น หรือเพิ่มเวลาให้มากขึ้น  ก็อาจจะช่วยได้ อย่างไรก็ตามอย่าท้อใจครับ ตอนนี้ถึงน้ำหนักไม่ลดแต่ปริมาณกล้ามเนื้อ(กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน 7 เท่าครับ)และสุขภาพของคุณดีกว่าตอนไม่ออกกำลังแน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆครับ จากคุณ : Free as the wind - [ 6 พ.ค. 50 21:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 163/64 ยังลดได้อีกพอใช้ได้เลย อย่างคุณ Free as the wind ว่าไว้ล่ะครับร่างกายคนเรามักจะปรับตัวเสมอๆ จริงๆ ถ้าเราทำตัวสม่ำเสมอ น่าจะดูเรื่องสัดส่วน ความสมส่วน มากกว่าน้ำหนัก ^-^ จากคุณ : atheist - [ 6 พ.ค. 50 21:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พี่รู้ว่า...พี่อาจไม่ได้เขียนตอบในสิ่งที่น้องอยากอ่าน เป็นว่า...พี่ขอเขียนสิ่งที่พี่อยากเขียนแทนก็แล้วกันนะครับ ^ ^ พี่อายุ 32 ปี ผ่านเรื่องราวต่างๆในชีวิตมามากมาย อายุก็มากขึ้นทุกวัน สุขภาพก็คงจะต้องเสื่อมถอยลงไปเป็นธรรมดา ใครหล่ะที่จะอยู่ยั่งยืนตลอดไป พี่เคยประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก และเคยได้มีโอกาสเขียนหนังสือเรื่อง "90 วัน(กับเป้าหมายที่มากกว่าคำว่าลดน้ำหนัก)" อะไรนะที่คือ เป้าหมายที่มากกว่าคำว่าลดน้ำหนัก? ทั้งๆที่พี่เคยตอบเอาไว้แล้วในหนังสือ แต่พี่ก็ยังคงถามตัวเองซ้ำๆอยู่แบบนั้น วันเวลาที่ผ่านไป อายุที่มากขึ้น ประสบการณ์ต่างๆ ทำให้คำตอบของพี่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ถามว่า "พี่ดีใจไหมที่ลดน้ำหนักได้?" คำตอบคือ "ดีใจครับ"  แต่ไม่ได้ดีใจมากไปกว่าการที่ได้รับความรักจากคนพิเศษ และคุณพ่อคุณแม่ของพี่เลย ถามว่า "พี่มีความสุขไหมที่ลดน้ำหนักได้?" คำตอบคือ "มีความสุขครับ" แต่ไม่ได้มีความสุขมากไปกว่า การได้ทานอาหารที่คนที่เรารักตั้งใจทำให้เราทานด้วยความตั้งใจ การลดน้ำหนักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพี่แล้วหล่ะจ๊ะ วันนี้ตื่นสาย ตื่นมาก็ 11 โมงแล้ว พี่พาแฟนไปทานร้านห่านท่าดินแดง สั่งห่านพะโล้กับต้มจึดผักอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นร้านที่แฟนพี่ชอบและทานมาตั้งแต่เด็ก ความรักในปัจจุบันเดินทางมาเจอความจำในวัยเยาว์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ พอตกเย็น พี่พาแฟนไปทานข้าวกับที่บ้านของพี่ ก็มีคุณพ่อ ,คุณแม่ และน้องสาวของพี่ รวมเป็นทั้งหมด 5 คน ไปก้อดึกๆหน่อยแล้วหล่ะครับ ไปทานกันที่ ร้านหัวปลาหม้อไฟ ปิ่นเกล้า คนเยอะและอร่อยสมคำร่ำลือ เมนูที่สั่งก็เป็นปลา และผัดผักและเต้าหู้มากมาย น้ำก็ดื่มแต่น้ำเปล่าครับผม ^ ^ ทุกวันนี้ พี่สูง 177 ซม. หนัก 70 กก. ซิกโพ่ง ซิกเพ็คอะไร ไม่มีกับเค้าหรอกนะครับ มีแต่พุงน้อยๆ ที่อาจจะดูขัดตาตัวเองซักหน่อย แต่ถ้าถามคนข้างๆหล่ะก้อ เค้าจะตอบว่า... "พี่อ๋องอย่าอ้วนไปกว่านี้นะ จะได้สุขภาพดีๆ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ แต่พี่อ๋องก็อย่าผอมไปกว่านี้มากนะ เพราะแบบนี้อ่ะ เวลากอดแล้วนุ่มดีอ่ะ ชอบ..."   ^ ^ พรุ่งนี้...ก็คงหาเวลาไปออกกำลังกายอ่ะนะครับ แล้วก็คงจะเดินหาซื้ออะไรตามห้างฯนิดหน่อย เพราะตกเย็นมีนัดอ่ะนะครับ ล่าสุดนี้ ผมไปที่โรงพยาบาลมา 2 - 3 ครั้ง 2 ครั้งแรก ไปเยี่ยมพี่ที่ลดน้ำหนักจนเข้าโรงพยาบาล ส่วนครั้งสุดท้าย พาแฟนส่งโรงพยบาลเพราะว่าน้องเค้าแพ้อาหารอ่ะนะครับ การเข้าโรงพยบาล ทำให้เห็นอะไรได้มากมาย และรู้สึกปลงกับสิ่งรอบข้าง ไม่รู้จะอธิบายออกมาได้อย่างไร แต่อยากบอกว่า "อย่าหมดกำลังใจ" เลยนะครับ พยายาม "ทำ"....ในสิ่งที่ควรทำ พยายาม "หลีกเลี่ยง"....ในสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง และทำให้ดีที่สุด แค่นั้นก็เพียงพอแล้วหล่ะครับ ^ ^ "ความจำ" อาจสั้น  แต่ "ความฝัน" นั้นยาว "กำลังกาย" อาจมีวันหมด แต่ "กำลังใจ" มันจะอยู่กับเราตลอดไปนะครับ จากคุณ : พี่กวิน&มารน้อยฯ (Again-With-Love) - [ 7 พ.ค. 50 01:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เยี่ยมมากเลยครับ ดูการทำในแต่ละวัน ผมมีทริกผมใช้ได้ผลด้วยครับ เราต้องหรอกกระบวนการทางร่างกาย ลองหยุดพักออกกำลังกายซัก1อาทิตย์แต่ก็กินแบบควบคุมอาหารเหมือนเดิมนะ แล้ววันสุดท้าย กินแบบให้เยอะนิดนึง มันจะไปกระตุ้นการเผาผลาญให้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะร่างกายเรามันฉลาดครับ เราออกกำลังกายมาก กินน้อยมันรู้ครับ มันก็เข้าสู่โหมดการทำงานน้อยลง คือเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อให้ร่างกายเราอยู่ได้ พอหมด1อาทิตย์ก็ทำเหมือนก่อนหยุด เหมือนที่คุณทำครับ เราหยุดไปอาทิตย์นึงไม่อ้วนหรอกครับ เรามีกล้ามเนื้อเป็นเตาเผาเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ^ ^ ไม่รู้ใช้ได้เปล่าครับ เป็นทางเลือกละกัน ของทอดเลี่ยงได้เลี่ยงครับ อาหารจานเดียวเลี่ยงได้เลี่ยงครับ เวลาเลี้ยงเราเลือกกินได้นิครับ ลองลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อดูครับ หมายถึงจำนวนแป้งครับแต่อย่าอด ขนมกินเปล่าครับ น้ำอัดลม กินได้นะแต่แป๊บซี่แม็ก อาหารบางอย่าง จำนวนน้อยแต่แคลเยอะ ลองดูให้ดีๆนะครับ เบื่อลองไปวิ่งจริงๆไหมครับ เจอผู้คนด้วย เราจะมีกำลังใจเพียบเลย อะไรออกแล้วเราไม่ชอบก็ไม่ต้องไปทำครับ "ไม่มีอะไรที่เราได้มาอย่างง่ายๆ แล้วอยู่กับเราไปตลอด ไปบนโลกใบนี้" จากคุณ : ขอจงโชคดีครับ (จิลาร์ดิโน่11) - [ 7 พ.ค. 50 03:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Hit the plateau ด้วยคนครับ การแก้ไข 1.เปลี่ยน ลักษณะการออกกำลังกาย แบบที่คุณ Free as the wind แนะนำครับ ผมแนะนำเพิ่มให้ประยุกต์แบบ Interval เข้าไปด้วยนะครับ เพราะว่ามี After Burn ที่ยาวนานกว่า 2.หลอกร่างกายแบบที่คุณ จิลาร์ดิโน่11 แนะนำครับ  ผมเข้าใจว่าเป็นวิธีหนึ่งในหลาย ๆ วิธีของ ZigZag Diet นะครับ ซึ่งประยุกต์ได้หลายแบบ ผมเคยอ่านเจอเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่อง ZigZag Diet เพื่อทะลุผ่าน สภาวะ Hit the plateau และมีคนกล่าวถึงบ่อยๆ เหมือนกัน ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการป้องกันมิให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับการกินของเรา เทคนิดนี้ Make Sense และปลอดภัยพอสมควรนะครับ สูตรการกิน หรือ แม้กระทั่งการออกกำลังกาย สามารถปรับไปได้เรื่อยๆ และปรับได้หลายแบบ หากพื้นฐานเรื่อง Balance Diet และการเปลี่ยนแปลงพลังงานต่าง ๆ ในร่างกายของคุณดี คุณก็สามารถออกแบบสูตรต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับตัวคุณได้ (หากพื้นฐานไม่ดี ก็อาจจะต้องยืมสูตรชาวบ้านเข้ามาใช้ก่อนครับ) ตัวอย่าง เช่น หากคุณเคยกินวันละ 2000 Kcal ทุกวัน ก็ลองปรับใหม่เป็น วันนี้กินแค่ 1000 พรุ่งนี้กิน 3000 Kcal แทน (ไม่ใช่สูตรนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเฉย ๆ คุณต้องไปศึกษาเพิ่มเติมนะครับว่ามันเป็นแบบไหนกันแน่) ทำแบบนี้การคือหลอกร่างกายแบบที่ คุณจิลาร์โน่11 ได้กล่าวไปแล้วนะครับ สำหรับ Key Word ที่ใช้ใน Google ก็คือ "Hit the plateau ZigZag Diet" (ผมไม่เคยเจอภาษาไทยนะครับ) ผมไม่กล้าแนะนำมากนะครับ เพราะศึกษายังไม่ดีพอครับ และไม่ต้องถามผมต่อนะครับเกี่ยวกับ ZigZag Diet ผมรู้แค่นี้แหละครับ ยังไงลองศึกษาเพิ่มเติมนะครับ คำเตือนของผมอย่างเดียวก็ คือ หากคุณไปศึกษาเพิ่มเติมแล้วไปพบ ZigZag Diet ในรูปแบบของ No-Carb สลับกับ High-Carb อันนี้ "ห้ามทำ" เด็ดขาดนะครับหากคุณไม่รู้จริงเกี่ยวกับ Low-Carb Diet ผมบอกเลยว่าอันตรายมาก ๆ สำหรับคนทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่อง Low-Carb โดยละเอียด ผมแนะนำให้  Control Carb ได้อย่างเดียวนะครับ แต่ห้าม Low หรือ No Carb เด็ดขาด 3. ลองงด "คาเฟอิน" ทุกชนิด ดูซิครับ เคยอ่านเจอแวบ ๆ ว่าช่วยได้ในบางรายส่วนน้อย (ผมไม่ได้ศึกษาศึกษาแบบละเอียดนะครับ แค่ผ่านตาหลาย ๆ ครั้ง และอธิบายเหตุผลไม่ได้ แต่ลองดูเถอะครับ ไม่มีผลเสีย แน่นอน) Cheer!!! แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 50 10:02:15 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 50 09:26:53 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 50 09:01:58 จากคุณ : Jackson5 - [ 7 พ.ค. 50 07:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามารับความรู้เรื่อง Hit the plateau + ZigZag Diet ขอบคุณนะคะ ^^ จากคุณ : satomajung - [ 7 พ.ค. 50 08:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อีกเรื่องครับ เล่นโยคะมากไปหรือเปล่าครับ เน้นกิจกรรม Cardio ให้มากกว่านี้ดีกว่ามั้งครับ โดยทำครั้งละไม่ต่ำกว่า 0.5 ชม ติดต่อกัน คือผมเข้าใจว่า เล่น โยคะ 1 ชม ตามด้วย เครื่องวิ่งไร้แรงต้านอีกนิดหน่อย นะครับ แต่หากภายใน 1 ชม เล่นโยคะ 0.5 ชม และ เครื่องวิ่งไร้แรงต้านอีก 0.5 ชม แบบนี้ โอเค ครับ แต่ให้ดีที่สุดควรจะเล่นโยคะ 1 วัน สลับกับ Cardio (ผสม Interval ลงไปด้วย) อีก 1 วัน ครับ อ้อ..ออกกำลังกายหนัก ๆ ติดกัน 3 ชม นั้นนานไปนะครับ ร่างกายคุณจะละลายกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานนะครับ สูตรทั่ว ๆ ไป คือ 60-75 นาทีนะครับ หากคุณมีประสบการณ์มาก หรืออาหารการกินก่อนออกกำลังกายนั้นดีพอ อาจทำได้นานกว่านี้นิดหน่อยนะครับ คุณเท่านั้นที่รู้นะครับว่าจะทำต่อได้นานแค่ไหน หากเกิดอาการ "ล้า" (ไม่ใช่เหนื่อยนะครับ) ก็ห้ามฝืนนะครับ  (ถึงแม้ว่าประสบการณ์มาก อาหารการกินก่อนการออกกำลังกายจะดีแค่ไหนก็ตาม ผมก็ยังมองว่าไม่น่าออกกำลังกายที่หนัก ๆ เกิน 2 ชม นะครับ ผลร้ายจะมากกว่าผลดี) แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 50 11:18:41 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 50 08:34:34 จากคุณ : Jackson5 - [ 7 พ.ค. 50 08:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เห็นบอกเลย  ว่าทานอาหารอะไรไปบ้าง  เลยแนะนำไม่ได้เจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 7 พ.ค. 50 09:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นช่วง "หิดปลาทู"( Hit the plateau ) อย่างที่หลายๆคนบอกน่ะแหล่ะค่ะ ใครๆก็เจอกันทั้งนั้นค่ะ ไม่ต้องตกใจ ช่วงหิดปลาทู เป็นเหมือนช่วงทดสอบจิตใจ บางคนเกิดท้อแท้กลางทาง ก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่บางคนอดทน ทำมันต่อไป แม้จะนานแค่ไหน ก็จะถึงจุดหมายปลายทางค่ะ อิชั้นเองก็เคยเจอหิดปลาทูเช่นกัน ขอแนะนำในสิ่งที่ตัวเองทำในตอนนั้นนิดนึงนะคะ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ ที่เราเคยทำอะไรเดิมๆค่ะ คุณอาจจะต้องเพิ่มการออกกำลังให้หนักขึ้นแบบเน้นคาร์ดิโอ และ กินให้น้อยลง หรือ กินให้มากขึ้นกว่าเดิมหน่อย แบบให้นน.เพิ่มขึ้นซัก โล แล้วออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการเปรับเปลี่ยนระบบเผาผลาญร่างกาย ให้มีความเปลี่ยนแปลง ร่างกายเราฉลาดค่ะ มันเกิดความเคยชิน ลองทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงดูบ้างนะคะ ร่างกายก็จะปรับตัวค่ะ ที่แนะนำแบบนี้ ไม่ใช่ไม่เคยทำนะคะ  เคยทำแล้ว และมันก็ได้ผลดี  ลองดูได้นะคะ ปล.บางคนเจอช่วงหิดปลาทูนานหลายเดือนหรือเกือบปี แต่บางคนก็อยู่ในช่วงนี้ไม่นานค่ะ  แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน ^^ จากคุณ : SwEeT_CaKe - [ 7 พ.ค. 50 11:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พี่กวินเขียนน่าอ่านมากครับ จากคุณ : L-Nets - [ 7 พ.ค. 50 13:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตลกคุณ SwEeT_CaKe "หิดปลาทู"( Hit the plateau ) ^^ จากคุณ : satomajung - [ 7 พ.ค. 50 15:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านคะ ได้ความรู้มากๆๆ สำหรับ ขนม ไม่ค่อยทาน น้ำอัดลม ก็นานๆๆทานทีคะไม่บ่อยปกติจะติดทานน้ำเปล่าวันละ 2-3 ลิตร หลังจากที่ลงกระทู้ เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากคะ ขอบคุณนะคะ ปล.เมื่อวานลองไปเอาเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้เมื่อ 5 ปีที่แล้วมาใส่ ดีใจ กลับมาใส่ได้อีกแล้ว จากคุณ : แก้วน้ำสีแดง (แก้วน้ำสีแดง) - [ 8 พ.ค. 50 13:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ด้วยสมองอันน้อยนิดของผม ถ้าหากคุณทำตามที่คุณบอกมาแล้วน้ำหนักยังไม่ลง ผมคาดว่าน่าจะเป็นเพราะคุณไม่ได้ฝึกกล้ามเนื้อของคุณด้วยการฝึกเล่นเวทเลยครับ ลองเพิ่มการเล่นเวทอาทิตย์ละ3วันดูนะคัรบ อาจจะช่วยได้ไม่น้อยเลยครับ จากคุณ : Siniza - [ 9 พ.ค. 50 20:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบที่คุณagain-with-loveเขียนมากๆ  "พี่อ๋องอย่าอ้วนไปกว่านี้นะ จะได้สุขภาพดีๆ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ แต่พี่อ๋องก็อย่าผอมไปกว่านี้มากนะ เพราะแบบนี้อ่ะ เวลากอดแล้วนุ่มดีอ่ะ ชอบ..."   ^ ^ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หน้ากากแสงจันทร์ - [ 12 พ.ค. 50 18:18:41 ]