จริงๆแล้วนักพรตเต๋าหรือแพทย์จีนสมัยโบราณก็สังเกตการณ์ว่า กินอะไรแล้วร่างกายเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร วิชาการใช้ยาสมุนไพรจึงเกิดขึ้นได้ และเมื่อพวกเขาทำสมาธิก็ยิ่งมองเห็นเส้นทางเดินเลือดลม ทำให้คิดวิชาแทงเข็มขึ้นมาได้อีกด้วย.........
เราเพียงแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่า ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในยุโรปมานาน 20 ปี และใช้ชีวิตกินอยู่แบบฝรั่งมา แต่เรากลับยังไม่มีน้ำย่อยที่จะย่อยนมวัวได้
จริงๆแล้วที่เราบอกว่า เราอยากกินโยเกิร์ตกับ cheese จนทนไม่ไหว (ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีพิษต่อร่างกายของเรา) แล้วเราซัดเข้าไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วนะ แล้วพอมันเข้าไปเน่าบูดในลำใส้เรา เราหยุดกินมัน 7 วันแล้วหายป่วย ที่หายป่วยเร็วขนาด 7 วัน (ตามที่เล่าให้ฟังใน #32) นั่นก็เพราะว่าเราดีท๊อกซ์ช่วยด้วย ม่ายงั้นนะโยเกิร์ตกับ cheese ที่เน่าอยู่ในลำใส้เราคงสร้างปัญหาอื่นๆ เช่นสิวขึ้น ท้องผูก ฯลฯ อีกนับไม่ถ้วนไปนานนับเดือน แล้วที่เล่าให้ฟังใน #32 ถึงเหตุการณ์ที่เรารำลึกได้ว่าเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษเมื่อหลายปีมาแล้ว ว่าเราสวาปามนมเข้าไปประมาณเกือบๆ 2 ลิตรเมื่อตอนตี 5 แต่หลังจากเดินเล่น (เดินไกลมากๆ) พูดคุยกับเพื่อนๆฝรั่งไป นั่งพักบ้าง แล้วก็เดินต่อไป หยอกล้อละเล่นกันไปตามประสาเด็กๆ ไปจนถึงบ่าย 3 โมงภายใต้อุณหภูมิ -1 ถึง 0 องศาเซลเซียสในประเทศอังกฤษนั้น ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรา ไม่ได้กินอย่างอื่นเข้าไปในวันนั้นเลย ขนาดที่มันหนาวถึงปานนี้ แล้วเราทำกิจกรรมเผาผลาญพลังงานตลอดวัน แต่นมก็ยังย่อยไม่ได้ในร่างของเรา...มันทำให้เราตกใจมากๆว่า ถ้าคนไทยกินนมวัวเข้าไปในอากาศร้อนๆแบบเมืองไทย จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายพวกเขา....???!!!
และเราก็เชื่อว่าคนไทยอีกหลายๆคนที่อยู่เมืองไทยมาตลอดชีวิตก็คงไม่มีน้ำย่อยที่จะย่อยนมวัวได้เช่นกัน
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:47:10
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:45:25
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:44:50
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:42:44
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:41:31
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:40:29
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 50 20:39:30