ความคิดเห็นที่ 1 ลองปรึกษาคุณหมออีกครั้งก่อนวันที่ 12 สิคะ เผื่อคุณหมอจะแนะวิธีดีๆเกลี้ยกล่อมคนไข้ ขอให้กำลังใจค่ะ ยังมีทางรักษานี่คะ เข้มแข็งไว้นะคะ  เตรียมจัดของ เสิร์ชข้อมูลการดูแลคนป่วยโรคมะเร็ง อาหารการกิน  คุณหญิงหมอพรทิพย์ท่านก็เป็น ยังเข้มแข็งมีกำลังใจและดูแลตัวเองดี ระหว่างนี้ต้องผลัดกันเฝ้า เก็บอุปกรณ์มีคม ยาทุกชนิด ไม่ให้ท่านทำอะไรชั่ววูบนะคะ กำลังใจและความเข้มแข็งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 50 21:40:51 จากคุณ : amitambien - [ 7 มิ.ย. 50 21:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1. ต้องให้กำลังใจท่านมาก ๆ บอกว่า คนเป็นโรคนี้หายได้ถ้ารักษาก่อนที่โรคจะลุกลาม 2. ขอถ่ายผลการตรวจชิ้นเนื้อคุณหมอ แล้วไปที่สถาบันวิจับโรคมะเร็ง รพ.รามา ลองปรึกษาคุณหมอท่านอื่นดู เผื่อมีหนทางการรักษาที่แตกต่างออกไป และอาจเหมาะสมทำให้คุณแม่คุณสบายใจขึ้น 3. ช่วงนี้ต้องควบคุมอาหารที่มีไขมันต่ำก็จะดีมาก 4. พาออกกำลังกาย และไปพักผ่อนสถานที่อื่นให้คลายกังวล พยายามอยู่เคียงข้างท่านมาก ๆ ด้วยความรัก ความรักจะช่วยให้คุณและท่านผ่านพ้นโรคร้ายนี้ไปได้ เข้มแข็งนะคนดี จากคุณ : เอาใจช่วย - [ 7 มิ.ย. 50 21:48:18 A:203.118.85.162 X: TicketID:144472 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามะเร็งยังไม่แพร่กระจาย  โอกาสหายขาดเกือบ 100 % ครับ คงต้องขอรายละเอียดต่างๆ เช่น staging ของโรค  ซึ่งจขกท. สามารถถามจากหมอเจ้าของไข้ได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับให้คำแนะนำครับ จากคุณ : ส.มโนมัย - [ 7 มิ.ย. 50 21:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็ต้องคอยให้กำลังใจคุณแม่นะครับ ผมเองก้เสียคุณแม่ไปเพราะโรคมะเร็งแต่เราก็อยุ่ได้ด้วยการให้กำลังใจกันตลอดเวลา มะเร็งถึงเป็นแล้วจะรักษาไม่หายก็ใช่ว่าเราจะตายจากโรคนี้ทันที เรายังรู้ว่าเราจะไปเมื่อไหร่ มีเวลาเตรียมพร้อมเพื่อการจากไปอย่างสงบ สำคัญที่สุดคือกำลังใจอย่าให้ท่านอยู่คนเดียว พยายามพาท่านไปพักผ่อนบ้าง ให้ผ่อนคลาย การเข้าหาธรรมะก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ควรทำ แม่ผมเข้าเคมีบำบัดท่านเหนื่อยเพลียมาก ตอนแรกท่านร้องให้ตลอดเวลาที่รู้ว่าเป็น ผมเองก็เป็นพยาบาล รู้อาการของแม่ตอลดเวลาทำให้ทุกข์ใจมาก หลังจากนั้นท่านไปทำบุญที่วัดแล้วก็สบายใจขึ้น ตอนแรกที่ไปตรวจหมอบอกว่าอยุ่ได้ไม่เกิน 6 เดือนลูกๆทรมานใจมาก เราพยายามหายาที่คิดว่าดีที่สุด ก็ช่วยแค่บำรุงร่างกายท่าน แต่จิตใจนี่สำคัญมาก ทำให้เราพ่อแม่ลูกได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น เพราะต้องดูแลท่าน ส่วนเรื่องของการรักษาก็ต้องตัดสินใจกันเอง เพราะคนที่สำคัญคือคนที่ต้องได้รับการรักษาถ้าท่านไม่ยอมก็อย่าไปฝืนใจเลย จะทำให้ท่านหมดกำลังใจไป ขอให้คุณและครอบครัวต่อสู้กับวิกฤตินี้ให้ได้นะครับ ผมเอากำลังใจช่วย จากคุณ : เช่ - [ 7 มิ.ย. 50 21:54:59 A:203.153.175.205 X: TicketID:147400 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจให้นะครับ      คิดในแง่ดีเข้าไว้ งดทานเนื้อสัตว์ได้ก็ดีนะครับ ควรทานพวกผัก(ปลอดสารพิษ) เยอะ ๆ จะดีกว่า อาหารพวก ปิ้ง ย่าง ทอด งดไปเลยยิ่งดี จากคุณ : อาตี๋_น่ารัก - [ 7 มิ.ย. 50 22:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไมบอกแม่นะ ไม่ผ่า่ตัดได้ตายแน่ แต่ถ้าผ่าตัดโอกาสหายมีแน่...และต้องอดทนกับ คีโม่ หรืออาจจะโดนฉายแสงต่อด้วย.... ผ่าตัดแล้วไปซื้อยา เพียงเจียอี้ ที่ร้านเวชพงศ์โอสถ กล่องละ 9 พันกว่า กินด้วย คนแถวบ้านเพิ่งไปผ่ามา ตอนนี้รับคีโมอยู่ แต่ไม่ถึงขึ้นต้องฉายแสงด้วย เราแนะนำให้กินยานี้ไปด้วย ร่างกายแข็งแรงดี แพ้คีโมไม่มาก เค้าบอกว่าน่าจะเป็นเพราะยาที่แนะนำไป สามีเขาก็รู้จักยานี้ด้วย มันเป็นยาที่คนจีนนิยมกินหลังผ่าตัดอ่ะ ปล. ฝากบอกคุณแม่คุณด้วยว่า ยังดีมีโอกาสได้ผ่าตัด แต่แม่เราไม่มีโอกาสได้ผ่าตัด วิ่งหาระดับอาจารย์หมอ 3 รพ. โดนปฏิเสธทุกรพ. เพราะว่าผลที่ได้ไม่คุ้ม ตรวจพบในระยะที่ 4 มีโอกาสแค่ 1 เดือน อย่างเก่ง 3 เดือน (มารู้จากปากหมอหลังแม่ตาย) แต่เรากับแม่ อดทนกันไปได้ถึง 8 เดือน แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 50 22:09:23 จากคุณ : DeE dEe - [ 7 มิ.ย. 50 22:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าตัดนี่มาระยะกลางค่อนข้างท้ายแล้ว แต่มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่รักษาได้ไม่ยาก และได้ผลดีกว่ามะเร็งอื่น ถ้าตัดออกก็โอกาสรอดสูงมาก ถ้าไม่ตัดโอกาสตายในระยะใกล้ๆ ก็สูงเช่นกัน ตอนนี้สภาพวะจิตใจต้องรักษาก่อนมะเร็งครับ ก่อนที่จิตใจจะเสียหาย เพราะตอนนี้กระบวนการคิดเริ่มไม่ปกติแล้ว (เช่นอยากฆ่าตัวตาย เพราะกลัวว่าจะตายเนื่องจากเป็นมะเร็ง) รีบพาไปพบจิตแพทย์ ด่วนที่สุด มะเร็งว่ากันอาทิตย์หน้า แต่จิตแพทย์ ไปหาพรุ่งนี้เลย การรักษามะเร็งไม่มีออปชั่นให้เลือกมากนัก แนวทางที่หมอแนะนำเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ตัวเลขงานวิจัยที่ผมมีอยู่ในมือตอนนี้ คือการรักษาด้วยการผ่าตัด ตามด้วยเคมีบำบัด ให้ตัวเลขการรอดชีวิตที่5 ปีสูงราวๆ 80% คนที่ไม่มีโรคกำเริบเลยในรอบ 5 ปี มีราวๆ 70% มีส่วนน้อยเท่านั้น ที่โรคจะกำเริบกลับมาอีกในระยะ 5 ปีและรักษาไม่หาย จัดว่าเป็นตัวเลขที่สวยงามมาก ถ้าเทียบกับมะเร็งในอวัยวะอื่นๆ อย่างมะเร็งปอด ที่โอกาสรอดชีวิตถึง 1 ปี มีแค่ไม่ถึงครึ่ง จากคุณ : อะธีลาส - [ 7 มิ.ย. 50 22:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากที่เราเรียนมานะ ... ถ้าตัดออกแล้วเนี่ย มันสามารถหายขาดได้นะ ถ้ามันไม่ได้ลามไปที่อื่นแล้วนะ ลองไปปรึกษาคุณหมอก่อนไหมคะ เพราะ คุณหมอจะบอกรายละเอียดได้มากกว่า ว่า success rate หลังจากตัดเต้านมเป็นเท่าไหร่ ในระยะมะเร็งที่คุณแม่ จขบ เป็น เราเห็นคนไข้ที่เป็นมะเร็งเต้านมมาหลายคนแล้ว เค้าก็ Happy นะคะ เค้าอาจช๊อคตกใจในตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แต่ภายหลังการรักษา เค้าก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ บางทีเราต้องเสียบางสิ่ง เพื่อรักษาอีกสิ่ง   เราว่า คุณแม่คุณโชคดีแล้วค่ะที่เป็นมะเร็งเต้านม ที่สามารถรักษาได้ บางคนโชคร้ายกว่านั้นที่ทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งที่รุนแรง ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ และได้แต่รอเวลาลมหายใจสุดท้ายว่าเมื่อไหร่ ขอให้ได้รับข่าวดีจากคุณหมอค่ะ ว่า เป็น ระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เป็นกำลังใจอย่างมากค่ะ คุณต้องเข้มแข็งให้มากๆนะคะ ขอให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดีค่ะ จากคุณ : *..Dora_Mashi..* - [ 7 มิ.ย. 50 22:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ....    / \ ! ....  " มาให้กำลังใจครับ " .... จากคุณ : Mr.Swat_D - [ 7 มิ.ย. 50 22:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา อาหาร การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ คุณเจ้าของกระทู้คงได้รับไปบ้างแล้ว ขอแนะนำในเรื่องการสั่งจิตใต้สำนึกเข้าช่วยอีกทางนึงค่ะ ที่เมืองไทยอาจจะยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่นัก แต่เป็นอีกช่องทางนึง ที่จะช่วยยกระดับกำลังใจขึ้นมาอย่างเร่งด่วน เมื่อจิตใต้สำนึกถูกโปรแกรมขึ้นใหม่ว่ามีสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติมากขึ้น มากขึ้น ถ้าเชื่อเรื่องพลังจิตพิชิตทุกโรค ก็ลองดูนะคะ แนะนำไปดูที่เว็บนี้ค่ะ http://www.thaihypno.com มีเกี่ยวกับเรื่องชนะมะเร็งด้วยหัวใจสู้ด้วยค่ะ มะเร็งเต้านมก็มีโอกาสรอดเหมือนกันค่ะ อย่าเพิ่งท้อ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : พลังใจรักษากาย (It's Raining) - [ 7 มิ.ย. 50 22:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราเคยไปตรวจเต้านมที่สถาบันมะเร็ง นั่งรอนานมากสักพักหมอมา พร้อมกับพาคนไข้ผู้หญิงเป็นป้าอ้วนๆ มาแล้วแนะนำให้คนไข้คนอื่นฟังว่า คนไข้คนนี้ เป็นโรคมะเร็งระยะ 3 แล้วตอนนี้เซลล์มะเร็งได้หายไปแล้วหลังจากทำการรักษา เป็นเวลาเกือบ 6 ปี ค่ะ แล้วก็คุยอะไรอีกหลายๆอย่างคนไข้ในนั้นก็ปรบมือให้คุณป้าท่านนั้นและคุณหมอ รวมทั้งเราด้วย เท่าที่จับใจความได้คืออยู่ที่การดูแลตัวเอง กำลังใจ และปรับเปลี่ยนอาหารค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : น้องผักอ้วน - [ 7 มิ.ย. 50 22:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอเป็นกำลังให้ครับ จากคุณ : skyby - [ 7 มิ.ย. 50 23:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อะ เรามาให้กำลังใจคะ ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับมะเร็งเลย แต่เราแค่อยากให้คุณ คุณแม่ของคุณ และทุกๆคนในครอบครัวเข้มแข็ง เราว่ายาที่ดีที่สุดคือ กำลังใจนะคะ  ทุกคนในครอบครัวต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อย่าทำให้คุณแม่รู้สึกว่าท่านเป็นโรคที่ร้ายแรงหรืออันตราย ควรช่วยกันปลอบและให้กำลังใจ ให้คุณแม่ทำตามที่หมอบอก ไปผ่าตัดหรือทำยังงัยเราก็ไม่ทราบอะคะ แต่ต้องให้คุณแม่ปฏิบัติต่ามที่หมอให้คำแนะนำทุกประการนะคะ แล้วอีกเรื่องของทอดอะคะ พวกใช้น้ำมันเก่าๆหรือของทอดๆพวกนี้พยายามเลี่ยงนะคะ ไม่ดีแถมโทษเยอะด้วย ยังงัยเราขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆนะอย่าท้อ และอย่าลืมนะคะจขกท ว่าไม่มียาไหนในโลกที่จะดีไปกว่ากำลังใจแล้วค่ะ คุณแม่คุณต้องหายแน่นอนคะ ชาวสวนลุมทุกคนเป็นกำลังให้นะคะ จากคุณ : viava (viava) - [ 7 มิ.ย. 50 23:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าหมอเค้าเลือกวิธีผ่าตัด ก็แสดงว่ายังระยะไม่มากนัก ยังไม่ทันลุกลามไปไกล จากคุณ : หมอก้อนหิน - [ 8 มิ.ย. 50 00:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต้นปีที่แล้ว แม่ผมผ่าตัดก้อนเมร็งเต้านม ออกไป รักษาจนหาย เมื่อต้นปีนี้ เช็คเจอเมร็งไขกระดูกสันหลัง (ซีเรียสกว่า เคสเมร็งเต้านม) ปัจจุบัน ยังมีสุขภาพดีอยู่ ไม่ทรุดเลยครับ เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดของคนที่เป็นเมร็งคือ "ห้ามเครียดครับ" -- เครียดเมื่อไร ทรุดเมื่อนั้น แม่ผมเป็นคนที่น่าเอาตัวอย่างครับ เพราะทั้งสองเคส แม่ผมไม่เคยเครียดเลย ผ่าตัดเต้านมเสร็จ ยังเปิดเอาแผลผ่าตัดให้ดูเล่นๆ เลย หวังว่าแม่คุณคงโชคดี แบบแม่ผมครับ จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 8 มิ.ย. 50 00:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แนะนำให้เลิกทานเนื้อหมูเนื้อไก่เลยค่ะ ให้ทานแต่เนื้อปลา และก็พวกอาหารธรรมชาติ อย่างผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง อาหารชีวจิต แล้วก็ แม่ของเพื่อนเราก็เป็นมะเร็งค่ะ แล้วเพื่อนเล่าว่า หมอบอกให้ทานไข่ขาววันละ 2-3 ฟองเลย (แยกไข่แดงออก) ป.ล เป็นมะเร็งห้ามเครียดค่ะ ถ้าเครียดจะทรุดเร็วมากๆ พยายามให้คุณแม่ทำอารมณ์ให้แจ่มใสไว้ แล้วก็ ออกกำลังกายด้วยนะคะ ซักอาทิตย์ละ 3 วัน ขอให้คุณแม่จขกท.หายไวๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ จากคุณ : หนมปังช้อกโก้ (หนมปังช็อกโก้) - [ 8 มิ.ย. 50 07:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาให้กำลังใจค่ะ อ่านแล้วอยากร้องไห้แทน จากคุณ : pook_poggy - [ 8 มิ.ย. 50 08:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 บอกแม่สิคะ ว่าท่านสำคัญสำหรับคุณมากแค่ไหน ท่านเป้นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของลูก ตามที่คุณๆ ข้างบนเขาบอกมา แสดงว่า คุณแม่คุณยังมีโอกาสหายได้ค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : กระพรวนน้อยเสียงใส - [ 8 มิ.ย. 50 08:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แม่เพื่อนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่หมอก็รักษาจนหายนะครับ โดนตัดลำไส้ออกไปส่วนนึง ตอนนี้ต้องถ่ายออกทางหน้าท้อง หมอสมัยนี้เก่งครับ บอกแม่คุณว่าอย่าเพิ่งกลัวไปก่อน อ่อ เค้าว่าอย่ากินเนื้อสัตว์ หรือโปรตีนมาก มันไปเร่งมะเร็ง ไม่รู้จริงป่าวนะ แต่แม่เพื่อนที่ผมเล่า เค้าไม่กินหมูไก่เลย กินแต่ปลา จากคุณ : ศาสตร์ - [ 8 มิ.ย. 50 09:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลองหันมาทานอาหารแบบชีวจิตดูค่ะ งดพวกเนื้อสัตว์ แล้วก็ทานผักผลไม้ให้มากๆค่ะ จากคุณ : เปื่อยยุ่ย - [ 8 มิ.ย. 50 10:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เราไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้เลย  แต่ก็เข้ามาให้กำลังใจนะคะ ขอให้คุณแม่คุณหายจากโรคนี้ไวๆนะคะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : see_her (see_her) - [ 8 มิ.ย. 50 10:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บอกแม่ว่าตัดออกก็หายแล้ว ไม่เป็นไรแล้วหละ มีคนรู้จักเค้าเป็น เค้าตัดออกทั้งเต้า ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องไปหาหมอหรือกินยาไรเลยอ่ะ เค้าน่าจะเป็นมากกว่าแม่คุณอีกนะ จากคุณ : ... - [ 8 มิ.ย. 50 10:53:30 A:203.113.37.12 X: TicketID:063883 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาให้กำลังใจค่ะ ได้สูตรมาทางกระทู้ สูตรน้ำผลไม้จากข้าหลวงประจำพระองค์ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เป็นสูตรที่ในวังนิยมทานกันมาก ในหลวงทรงเสวยทุวันช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีผิดพรรณสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคมะเร็งจะดีมากค่ะ ส่วนประกอบ แอปเปิ้ล 1 ลูก แครอท 1 ลูก ผักสลัด (ผักกาดแก้ว) 3 ใบ ตั้งโอ๋ 2 ก้าน มะนาว 1 ลูก น้ำเสาวรส 1/2 แก้ว (แบบกระป๋องก็ได้) น้ำผึ้งแท้ 1/2 แก้ว น้ำเปล่า 1-2 แก้ว แล้วแต่ความชอบ ฝรั่ง 1 ผล มะเขือเทศสีดา (ลูกเล็กๆ) 5 ลูก น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ ปั่นทุกอย่างรวมกันจะได้ประมาณ 1 ลิตร คนป่วยให้ทานวันละ 1 ลิตร ได้ผลอย่างไรก็บอกกันได้นะคะ เป็นห่วงค่ะ จากคุณ : น้องตุ๊ก - [ 8 มิ.ย. 50 11:04:30 A:127.0.0.1 X:61.91.242.2 TicketID:128788 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ป้าผมก็เคยเป็นครับ ตัดเต้านม1ข้างออกเหมือนกัน อย่าไปเสียดายครับ ชีวิตสำคัญที่สุด จากคุณ : MJ_Creek - [ 8 มิ.ย. 50 11:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มะเร็งไม่น่ากลัวครับ ยังไงลองอ่านเรื่องดูนะครับ เผื่อว่าอาจจะมีประโยชน์บ้าง คือพ่อผมก็เป็นมะเร็งครับแต่ท่านเป็นลูคิเมียอ่ะครับ แรก ๆ ท่านก็กลุ้มใจเหมือนกันยิ้มไม่ค่อยได้ ท่านไม่กลัวตายหรือว่ากลัวเจ็บหรอก แต่ท่านกลัวพวกผมที่เป็นลูก ๆ กับแม่จะลำบากเพราะเงินเก็บทั้งหมดโดนดึงออกจนแทบหมดบ้านเพื่อมารักษาท่านเหมือนเบี้ยหัวแตกเพราะเราไม่มีเงินจะไปปลูกถ่ายไขสันหลังได้ และจังหวะก็ประจวบเหมาะกับตอนที่ธุรกิจของบ้านเราประสบปัญหาหนักพอดี และผมก็ต้องหยุดเรียนกลางคันเพื่อออกทำงาน ให้พอกับค่าใช้จ่าย ทุกวันนี้พ่อผมแม้จะขับรถแท็กซี่แทนแล้ว แต่ก็ยังคงสู้กับโรคอยู่ครับ ท่านไม่เคยรู้สึกต้อยต่ำที่ท่านเคยเป็นถึงผู้บริหารแต่ตอนนี้ต้องมาขับแท็กซี่ ทุกวันนี้ท่านยิ้มได้มากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ท่านยังคงมีอาการของโรคอยู่บ้างแม้จะเบาบางลงมากกว่าเมื่อก่อนก็ตาม ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงานอยู่ แม้จะรู้สึกน้อยใจบ้างที่เพื่อน ๆ เราตอนนี้ยังมีชีวิตสนุกสนานกับการเป็นนักศึกษาปีสามอยู่ แต่เราก็ภูมิใจที่ได้ช่วยครอบครัว และอย่างน้อยตอนนี้เราก็ก้าวหน้าข้ามเพื่อน ๆ เราแล้ว สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ พ่อของผมซึ่งป่วยด้วยโรคที่โอกาสหายแทบไม่มีเพราะการที่จะหาไขสันหลังที่สามารถเข้ากับพ่อผมได้นั้นยากมาก ประกอบกับอายุของท่านที่ค่อนข้างมากแล้ว และค่ารักษาก็สุดโหด แต่พ่อผมก็ยังคงสู้ต่อไปด้วยความยินดี มาเกือบ 3 ปีและท่านก็ยังมีความสุขดี พวกผมที่เป็นลูก ๆ ก็ได้แต่ให้กำลังใจ และพร้อมจะสู้ไปกับท่านด้วย สิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งคือกำลังใจครับ คุณในฐานะของลูกจะต้องแสดงออกถึงความพร้อมที่สู้ไปพร้อม ๆ กับคุณแม่ของคุณ ไม่ใช่ในฐานะของเพื่อนร่วมโลก หรือในฐานะของลูกกตัญญู แต่ในฐานะของลูกที่พร้อมจะไปทุกที่และพร้อมจะปรากฎตัวทันทีที่แม่คุณต้องการ เพราะเมื่อแม่คุณเห็นคุณค่าของความห่วงไยของคุณแล้ว ท่านไม่มีทางยอมให้มันเสียเปล่าแน่นอนครับ สู้ ๆ ครับ มะเร็งเต้านมจริงอยู่แค่ตัดออกก็จบแล้ว.........แต่ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผู้ป่วยว่าจะสู้กับส่วนที่ขาดไปหรือเปล่า จากคุณ : คนชอบเล่นเกม (Tung2002) - [ 8 มิ.ย. 50 11:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณทุกท่านทุกๆกำลังใจและคำแนะนำยังไงหนูก็จะพยายาม เกลี้ยกล่อมให้คุณแม่ไปผ่าตัดให้ได้ ตอนนี้แม่ยังไม่มีกำลังใจทำอะไรเลยคะ แต่หน้าที่ของลูกจะไม่ยอมให้แม่เป็นอะไรไปแน่นอนคะ จากคุณ : หนูรักแม่คะ - [ 8 มิ.ย. 50 12:18:54 A:124.121.80.249 X: TicketID:147397 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้าใจความรู้สึกคุณแม่ของคุณเจ้าของ กท ค่ะ พยายามให้กำลังใจท่าน  พูดคุยให้ท่านเข้าใจว่า โรคนี้อาจไม่ร้ายแรงอย่างที่ท่านคิด พยายามต่อสู้กับมัน ถ้าเป็นในระยะต้น โรคนี้รักษาให้หายได้ค่ะ แต่แม้จะเป็นในระยะที่หลังๆ ก็สารถรักษาให้หายได้เหมือนกันค่ะ เคยเจอกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้เป็นขั้นที่สามแล้ว รักษาไปรักษามาจนวันนึงหมอบอกว่าคุณไม่มีเชื้อมะเร็งแล้ว เป็นกำลังใจค่ะ ขอให้พระศรีรัตนไตย คุ้มครองคุณแม่ของเจ้ากระทู้นะคะ ท่านท่านหายป่วยไวๆ จากคุณ : JinMingTian - [ 8 มิ.ย. 50 13:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นกำลังใจให้คะ จากคุณ : แพนดาร์ตาหวาน - [ 8 มิ.ย. 50 16:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอถามค่ะ ... อาการเจ็บจี๊ด ๆ ที่หน้าอก จำเป็นจะต้องเกิดจากเพราะเป็นมะเร็งอย่างเดียวเหรอคะ ... จากคุณ : cherrytoday - [ 8 มิ.ย. 50 16:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลองไปหาอาจารย์หมอ วีรภัทร ซิครับ เค้ารักษามะเร็งลำไส้ พ่อตาผมหายนะครับ ทีแรกบอกว่าอาจจะอยู่ได้ 6 เดือน ตอนนี้อยู่มา 3ปีแล้วครับ ยังแข็งแรงดีอยู่ อันที่หนึ่งต้องไม่เครียดครับ พ่อตาผมเค้าไม่เครียด ไม่กลัว อันนี้มีผลเยอะครับ ถ้ายิ่งเครียด ยิ่งกังวล มะเร็งก็อาจจะลุกลามเร็ว แต่ถ้าทำใจให้สบาย พักผ่อนเยอะๆ ออกกำลังกาย ทานอาหารตามที่หมอแนะนำ รับรองอยู่ได้นานครับ แต่ถ้าเป็นแค่ขั้นแรก โอกาสหาย 100% ครับ  สองกำลังใจจากครอบครัวครับ สำคัญมาก คือคุณแม่อยากไปเที่ยวไหนก็พาไปครับ ให้ท่านได้พักผ่อนหย่อนใจ ใช้ชีวิตตามปกติ อย่ากังวล พ่อตาผมทำแบบนี้ครับ ท่านทำเหมือนกับว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง ท่านก็เลยอยู่ได้นานกว่าที่หมอวินิจฉัยไว้ครับ พ่อตาผมเป็นขึ้นสามแล้วครับ ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : chaita - [ 8 มิ.ย. 50 17:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สู้ๆนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณกับคุณแม่ พยายามให้กำลังใจท่านบ่อยๆนะครับ คุณต้องอดทนและเข้มแข็งให้มากๆนะครับ การดูแลและเป็นกำลังใจให้คนไข้ซึ่งรู้สึกท้อใจ เป็นงานที่หนักและต้องใช้ความอดทนบวกกำลังใจอย่างมากมาย เข้มแข็งไว้นะครับ   ขอให้คุณแม่คุณหายไวๆครับ จากคุณ : หงส์น้อยแซ่เล็ก - [ 8 มิ.ย. 50 19:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณ จขกท. นะครับ จากคุณ : digging - [ 8 มิ.ย. 50 19:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นกำลังใจให้นะคะ  แม่เราก็เป็นมะเร็งแต่เป็นที่หลังโพรงจมูก  ผ่าตัดไม่ได้ ตอนพบหมอครั้งแรก หมอบอกว่าแม่จะอยู่ได้ไม่ถึง 1 ปีแต่แม่เรากำลัีงใจดีมากๆ ค่ะ แม่ต่อสู้กับมะเร็งเป็นเวลาเกือบ 5 ปีก่อนจะจากไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว  แต่แม่ไม่เคยจากไปจากใจเรากับคนในครอบครัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่มะเร็งเต้านมผ่าตัดได้และมีโอกาสหายสูง  ยังไงขอให้แม่เจ้าของกระทู้หายเร็วๆนะคะ สู้ สู้นะคะ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 21:16:29 จากคุณ : westie (westie) - [ 8 มิ.ย. 50 21:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าใจว่าคุณแม่คุณคงกลัวที่ต่อไปจะไม่มีหน้าอก ผมว่า เท่าเหรียญ 10 คงไม่ได้ตัดออกไปทั้งหน้าอกนี่ครับ ขอให้ท่านหายไวๆ นะครับ --------------------------------------------------- อาผมก็เสียไปเพราะ มะเร็งเต้านมเช่นกัน ด้วยความที่เป็นสาว มัวแต่อายหมอ สุดท้ายทนไม่ไหว ไปรักษาก็ไม่ทันเสียแล้ว จากคุณ : อิฐมอญ - [ 8 มิ.ย. 50 21:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้าใจเหมือนคห.35 ลองปรึกษาคุณหมอดูนะ ว่าสามารถผ่าตัดแบบเก็บเต้านมเอาไว้ได้หรือไม่ ปรึกษาคุณหมอหลายๆท่าน/หลายๆที่ก็ได้ ตัวเราเองก็ตัดเฉพาะก้อนเนื้อออกไปเช่นกัน ขอให้หายไวๆค่ะ จากคุณ : no - [ 8 มิ.ย. 50 21:49:35 A:203.114.123.195 X: TicketID:126784 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็นที่ 34 คะ อยากให้ช่วยเล่าเกี่ยวกับวิธีการรักษา และระยะที่เป็นตอนที่คุณแม่ทราบครั้งแรกได้มั้ยคะ พอดีเป็นมะเร็งแบบเดียวกับที่เพื่อนเป็นเลยค่ะ แต่เห็นคุณหมอบอกว่าสามารถรักษาหายได้ จากคุณ : krittiya_st (krittiya_st) - [ 8 มิ.ย. 50 22:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เคยไปเป็นนักเรียนฝึกหัดอยู่ที่ โรงพยาบาลค่ะ แล้วได้ไปอยู่แผนกศัลยกรรมผู้ป่วยหญิง(ห้องรวม)พอดี มีโอกาสได้พบกับคุณป้าคนนึงซึ่งเขาเป็นมะเร็งเต้านม และก็มาทำการรักษา ป้าเขาจะตัดหน้าอกออกไปน่ะค่ะ แต่ก็ยังดูร่าเริงแจ่มใส  เขาเองก็บอกไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอก  เราเองก็ได้เห็นบาดแผล ป้าเขาก็บอกต้องคอยดูแลนะ มะเร็งเกิดกับใครก็ได้ เราไม่รู้หรอก แต่ถ้าเป็นแล้วก็ต้องรักษา ตอนนั้นเราถึงได้รู้ว่า มะเร็งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด  ใครที่บอกว่าเป็นแล้ว ตายแน่ๆ อาจจะเพราะคิดแต่ไม่ดีอยู่ ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าเป็นในระยะที่ยังรักษาได้ ก็ย่อมมีสิทธิหาย  อย่างน้อยก็เชื่อมั่นเอาไว้ว่าต้องหาย ดีกว่าปล่อยชีวิตที่เหลือไปกับความสิ้นหวัง ภาพของป้าเขาที่ผ่าเอาหน้าอกออกไปแล้ว แม้จะต้องเจ็บ แม้จะสูญเสียหน้าอกไปเพราะมะเร็ง  แต่ในช่วงเวลานั้นป้าเขาก็ได้เห็นว่า ลูกหลานรักเขามากแค่ไหน มีคนที่ใส่ใจเขาอยู่ขนาดนี้  คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ป้าเขาไม่ท้อและยอมแพ้ให้กับมะเร็ง จนเอาชนะได้น่ะ ปล. ดูแลคนในครอบครัวให้ดีนะค่ะ  เพราะตอนที่ไปฝึกงาน บางครั้งก็เห็นคนที่ป่วยอยู่จะเหงาและดูเศร้าๆน่ะ  บางคนต่อต้านไม่ยอมทานอาหาร บางคนก็เหงาไม่ยอมคุยกับใคร แต่บางคนก็ร่าเริงเหมือนมีเพื่อน(เตียงข้างๆ)คุยด้วยทั้งวัน  สิ่งที่เราช่วยได้ตอนนั้นก็มีเพียงนั่งอ่านหนังสือให้ฟัง หรือซื้ออาหารที่อยากทานให้ ถ้าลูกหลานของเขายังไม่มา จากคุณ : ทาสรักลูกแยม - [ 9 มิ.ย. 50 04:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อวานดูทีวีเจอรายการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย นำเสนอเรื่องผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายหลายราย รอดชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้ แม้แต่ตัวคุณหมอเองก็อยู่รอดมาได้ จากที่ว่าจองวัดได้เลย แต่แล้วก็อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้อย่างแข็งแรงมีความสุข วิธีเผชิญกับชะตากรรมแบบนี้ต้องทำอย่างไร ลองโทรสอบถามได้น่ะครับ ที่ หมอเจน ขจรศิลป์ 037-326-376-7 จากคุณ : ขอให้โชคดี - [ 9 มิ.ย. 50 16:09:21 A:124.120.163.213 X: TicketID:019895 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แม่เราเครียด ไม่ว่าจะพูดยังงัย ช่วยยังงัยก็ไม่ดีขึ้น เริ่มเป็นเดือนเมย. พค.เข้า รพ.ทั้งเดือน สิ้นเดือน พค. มาอยู่บ้าน 2 อาทิตย์ก็เสียค่ะ ขอบอกว่ากลำงใจสำคัญมาก กำลังของคนป่วยเองนะค่ะ ใครก็ช่วยเค้าไม่ได้ อยู่ที่ตัวของเค้าเองจริงๆ เราช่วยได้แค่ให้กำลังใจเค้า และดูแลเค้าให้ดีที่สุด มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ตัวเราทำทุกอย่าง ปั่นน้ำผัก อ่านหนังสือทุกเล่ม ทำอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ดูแลเค้า อ่านหนังสือพระ ให้เค้านั่งสมาธิ สวดมนต์ พาเค้าไปดีท็อกซ์ ทุกอย่างเท่าที่จะนึกออก และทำได้ค่ะ แต่ตัวแม่เราเค้าเครียดเองค่ะ เค้าไม่สามารถทำใจได้ จากคุณ : เม่หลิง - [ 9 มิ.ย. 50 16:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เจอตั้งแต่เริ่มต้นโอกาสหายเกือบ100% ถ้าทิ้งไว้แล้วมันกระจายจะแย่เอานะคะ แนะนำให้ทำตามคุณหมอดีกว่าค่ะ จากคุณ : "มะลิยามเช้า" - [ 9 มิ.ย. 50 17:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาให้กำลังใจจขกท...สู้ๆๆนะคะ จากคุณ : หมีโคล่า - [ 10 มิ.ย. 50 00:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความเห็นจากประสบการณ์ 1.หาหมอรักษาทันที 2.บอกคุณแม่ว่าโรคนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด 3.เปลี่ยนอาหาร-งดนม/เนื้อสัตว์ทุกชนิด เว้นปลาหรือไข่ขาว แต่ไม่ต้องมาก/งดน้ำตาล/เกลือ แต่ให้แต่งรสอาหารด้วยน้าผึ้ง-มะนาว งดเคมีภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารทุกชนิด 4.ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน 5.หัดให้คุณแม่ร้องพลง 6.***อันนี้ข้อมูลใหม่มาก*** อ่านจากบทความของ คุณหมอบรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ในหนังสือมติชนรายสัปดาห์ประจำอาทิตย์หน้านี้ ไปหาอ่านโดยด่วน เรื่องการใช้ความร้อนรักษามะเร็ง จากคุณ : ชัยบาล - [ 10 มิ.ย. 50 08:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ณ ตอนนี้แม่ยังยืนยันไม่ยอมไปหาหมอเพื่อตัดเต้านมทิ้ง แต่แม่จะไปหายาสมุนไพรต่างๆ มาทานแทน (คนที่เค้าบอกว่าเคยเป็นแนะนำให้ทาน) ตอนนี้คนที่เครียดแทนแม่คงเป็นหนูเอง เพราะกลัวว่ามันจะลามจนเกินจะแก้ไข เคยมีญาตของใครที่เคยรอดตายจากการไม่ผ่าตัดบ้างไหมคะ ตอนนี้ดูๆแล้วแม่มีกำลังใจขึ้นมาก ที่ได้ไปคุยกับคนที่เค้าบอกว่าเป็นแล้วไม่ต้องผ่าตัด อาศัยทานยาสมุนไพรต่างๆ (อาการเขาเหล่านั้นดีขึ้นโดยไม่ผ่า) ถ้าหากหนูพูดเรื่องให้แม่ไปผ่าตัดเมื่อไหร่ แม่จะน้ำตาไหลทันที.. แล้วจะมีอาการเครียดมากๆ ตอนนี้ก็คงได้แต่ทำบุญมากขึ้นเผื่อผลบุญจะช่วยอะไรแม่ได้บ้างไม่มากก็น้อย แล้วก็ให้แม่ทานแต่ผักปลา งดอาหารที่เสี่ยงต่อการกระตุ้นเซลล์มะเร็ง สิ่งศักดิ์มีจริงขอให้แม่อยู่กับหนูไปอีกนานเท่านานเถอะนะคะ จากคุณ : หนูรักแม่คะ - [ 10 มิ.ย. 50 18:32:36 A:124.121.83.249 X: TicketID:147397 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตามคห.36 ลองปรึกษาคุณหมอดูหรือยังว่าสามารถผ่าตัดแบบเก็บเต้านมเอาไว้ได้หรือไม่ หายไวๆนะคะ จากคุณ : no - [ 10 มิ.ย. 50 21:34:41 A:203.188.10.50 X: TicketID:126784 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แม่สามี ผ่าตัดเต้านมเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ..กลับไปตรวจทุกปี ไม่มีมะเร็งมากล้ำกรายค่ะ ทราบมาว่า บางคนเค้าเป็นข้างเดียว แต่ตอนผ่าตัด เค้าขอให้หมอเอาออกทั้งสองข้าง เพื่อที่ว่า จะได้ไม่ต้องกังวลกับอีกหนึ่งข้างที่ยังเหลืออยู่ คุณนายดอกไม้เอง เคยต่อสู้ด้วยโรคมะเร็งมาก่อน ทั้งให้คีโม ผ่าตัด และฉายแสง พร้อมๆกับรักษาโรคเส้นเลือดตีบตัน ด้วยการฉีดยาให้ตัวเองทุกวัน ในระยะเวลาปีกว่า ...ฉีดจนขาและท้องพรุนค่ะ สิ่งที่ทำให้เราต้องสู้ ก็คือชีวิตน้อยๆสามชีวิต และสามีที่พยายามทุกวิถีทางที่จะเยื้อชีวิตเราเอาไว้ ขอเป็นกำลังใจ ให้คุณแม่ทำใจยอมรับ และพร้อมที่จะต่อสู้นะคะ จากคุณ : คุณนายดอกไม้ - [ 11 มิ.ย. 50 01:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อปี 47 ดิฉันก็เป็น ไปรักษาที่ศิริราช ดิฉันไม่ตัดเต้านมออกหมดนะคะ ตัดเฉพาะก้อนที่เป็น ทำคีโมแล้วก็ฉายแสงจนครบทุกขั้นตอน ทุกวันนี้ก็ไปหาหมอตรวจเช็คทุก3เดือน6เดือน แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ เป็นมะเร็งรักษาได้ค่ะ ลองไปคุยกับหมอดูให้ละเอียดเถอะค่ะ คุณหมอจะแนะนำสิ่งที่ดีๆให้ จากคุณ : nink (kanink) - [ 11 มิ.ย. 50 09:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เพิ่มเติมค่ะ ไม่ได้กินยาหม้อ ยาไทย ยาจีนใดๆทั้งสิ้นก็หายได้ค่ะ มีเพื่อนเป็นมะเร็งกระเพาะ เค้าก็รักษารพ.จุฬา ก็หายดีค่ะ ไม่ได้กินยาพิเศษอะไรเลย ทำตามที่หมอบอกเท่านั้น จากคุณ : nink (kanink) - [ 11 มิ.ย. 50 09:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ให้กำลังใจคุณแม่เยอะๆนะครับแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย เป็นกำลังใจใหุ้นะึครับ จากคุณ : Di'jon - [ 12 มิ.ย. 50 11:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาให้กำลังใจด้วยครับ จากคุณ : ... (คนรักบอล) - [ 12 มิ.ย. 50 17:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาให้กำลังใจนะคะ สู้ๆค่ะ คนเป็นมะเร็งตั้งเยอะ อยู่ได้นานมากๆ จากคุณ : production - [ 14 มิ.ย. 50 07:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณอา 2 ท่านเป็นมะเร็งเต้านมขั้น 2 คะ ท่านแรก กำลังใจดีร่าเริงแจ่มใส่ หงุดหงิดนิดหน่อยที่แก่แล้วกำลังสบาย งานการไม่ต้องทำแล้วต้องมาเจอโรคร้ายและต้องรักษา ลูกชายท่านเป็นหมอคะ แนะนำให้ท่านผ่าเต้านมบางส่วนออกคะ ทำคีโม และฉายรังสี ช่วงทำคีโมดืมน้ำมากๆ ทานให้เยอะๆเพื่อให้มีพลังงานและให้ร่างการสร้างเม็ดเลือดได้มากๆ ดืมหญ้าปักกิ่ง 2 ซองตอนเช้าทุกวันคะ ท่านอยู่มาได้ 10 กว่าปีแล้วคะ ตรวจทุกปีไม่มีอะไรผิดปกติ คุณอาอีกท่าน เป็นเหมือนกันคะแต่ขั้น 3 น้องดิฉันที่เป็นหมอคนเดิมติดต่อคุณหมอท่านเดิมให้ คุณหมอแนะนำให้ผ่าทั้งเต้า แต่ท่านเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้ายที่กำลังเข้าห้องผ่าตัดว่าต้องการต้ดแค่บางส่วนเท่านั้น คุณหมอต้องทำตามคนไข้คะ คุณอาท่านนี้ทำทุกอย่างเหมือนคุณอาท่านแรกคะ แต่ ...... ท่านมีปัญหาเรื่องครอบครัวทำให้ท่านเครียดตลอดเวลา สุดท้ายท่านก็เอาชนะไม่ได้คะ ตอนนี้ ดิฉันมีลูกอายุ 1 ขวบ 5 เดือนกำลังน่ารักมากคะ ดิฉันพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งขั้นที่ 2 ผ่าต้ดโดยตัดเฉพาะเต้านมบางส่วนออกคะ แต่ที่ดูไม่ดีคือมะเร็งตัวนี้ค่อนข้างร้ายและติดเข้าไปที่เส้นเลือด 1 เส้นคะ ดิฉันได้รับการแนะนำจากคุณหมอว่าควรต้องให้คีโม (คนไข้ต้องยอมรับเองนะคะ หมอไม่มีสิทธิ์บังคับคะ) และฉายรังสี (กรณีที่เลือกการผ่าตัดเต้านมบางส่วนออก คุณต้องฉายรังสีด้วย แต่ก็แล้วแต่สมัครใจเหมือนกันคะ) คีโมที่ให้เป็นตัวที่แรงเกือบที่สุดคะ คุณหมอบอกว่าให้คิดถึงลูกไว้คะ ดิฉันกำลังใจดีคะ ไปรักษาแบบทางเลือกด้วยคะ งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด กินน้ำผลไม้แยกกาก และข้าวกล้องเป็นประจำ ทานวิตามินเพิ่มเพื่อเสริมภูมิ สวนกาแฟเอาพิษออกจากร่างกาย (ศึกษาจากแพทย์ทางเลือก และอ่านหนังสือที่เขียนโดยบุคคลที่เอาชนะมะเร็งด้วยแพทย์แผนทางเลือกอย่างเดียวหลายท่านคะ แล้วจะวิจารนญานของแต่ละบุคคลนะคะ อยากให้อ่านและศึกษาให้ดีก่อนคะ) คุณอาอีกท่านสั่งจักรยานออกกำลังกายไว้ให้ เพื่อให้ดิฉันได้ออกกำลังการบ้างรวมถึงซื้อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งและการทำจิตใจให้สงบ รวมถึงหนังสือธรรมะ คุณอาที่เคยเป็นมะเร็งซื้อหญ้าปักกิ่งมาให้ทานคะ สามีดีคะ คุณพ่อคุณแม่มาจากต่างจังหวัด(ทั้งที่มีกิจการที่ทำรายได้ค่อนข้างดี)ช่วยเลี้ยงหลานคะ กำลังใจรอบข้างดีมากๆคะ สำคัญมากๆ แต่ยอมรับคะว่ายังคงเป็นกังวลเรื่องลูก และคิดมากบ้าง ซึ่งเป็นปกติของคนป่วยคะ หลังการผ่าตัดดิฉันพักไมถึงอาทิตย์ก็กลับไปทำงานคะ อยู่บ้านไม่มีอะไรทำคะ หาอะไรทำจะได้ไม่คิดมากคะ สุดท้าย อยากเข้ามาให้กำลังใจกับทุกๆท่านคะ รักษาแบบแผนและทางเลือกควบคู่ไปด้วยกันนะคะ ทุกอย่างยังแก้ไขได้คะ แต่ใจต้องสู้ก่อนนะคะ เป็นกำลังใจคะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 14 มิ.ย. 50 09:16:43 A:203.144.130.176 X: TicketID:147806 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนนึงครับ จากคุณ : Hematite (Hematite) - [ 14 มิ.ย. 50 10:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เริ่มจากปรับตัวเองก่อนนะคะ ห้ามกินของที่มีไขมันเลย กินผัก ผลไม้ ถ้าสนใจยาไทย แนะนำร้านยาไทยแถวสน.ดุสิตดูคะ จากคุณ : ako - [ 19 มิ.ย. 50 18:55:07 A:172.16.16.3 X:203.146.85.142 TicketID:030508 ]