ความคิดเห็นที่ 1 ได้เลยท่าน เพื่อประโยชน์แก่ท่านอื่นๆในห้องนี้และห้องอื่นๆ ยาวหน่อย แต่ว่าจะตัดย่อหน้าให้ง่ายแล้วกันนะ สำหรับไกด์ไม่เก่าเองแล้ว เมื่อทราบว่าตัวเองมีก้อนแข็งๆที่กกหู ก็ไปตรวจกับหมอและตรวจด้วยการดูดเอาเซลล์ข้างใน ซึ่งเมื่อดูดแล้ว พบว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นอยู่ 2 โรค คือโรคแรก โรค "คิมุระ" คือใบหน้าจะเบี้ยวๆไปบ้าง แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต กับอีกโรคคือมะเร็ง หมอก็ถามว่าจะเอาไง อย่างแรก ดูอาการไปก่อน หรือตัดชิ้นเนื้อพิสูจน์ ไกด์ไม่เก่าก็เลือกตัดชิ้นเนื้อ พบว่าเป็นมะเร็ง ( ซวยเช็ด ) จากนั้นก็เริ่มการเตรียมตัวรักษาเลย ขั้นแรกไปทำ CT Scan เพื่อดูตำแหน่งของโรค และจากนั้น ก็เอาฟิล์มนี้ไปให้หมอคนเดิมดู เพื่อดูระยะ พบว่าเป็นราวๆกลางๆระยะแรก ยังไม่มีการกระจาย ตอนแรกก็เตรียมผ่าตัด แต่ว่าบริเวณน้น มันใกล้เส้นประสาท ถ้าผ่าไปตอนที่เป็นก้อน อาจจะทำให้เส้นประสาทขาดได้ คราวนี้ มีผลกับหน้าแน่ๆ เช่นยิ้มได้ข้างเดียว หมอเลยให้ไปทำคีโมก่อน ( คีโมคือการรักษาด้วยเคมีบำบัด โดยฉีดเข้าไปทางสายน้ำเกลือ ) จากนั้น ไปหาหมอแผนกรังสีรักษา เพื่อวางแผนการฉายรังสี โดยจะมีหน้ากากที่ทำจากพวกพลาสติก เพื่อล้อคหน้าเราไว้กับเตียงขณะฉายรังสี โดยหน้ากากนี้ จะนึ่งก่อน ตอนแรกจะเป็นแผนแข็งๆ และเอามาทาบกับหน้าเพื่อกดให้มีขนาดพอดีหน้าเราพอดี และเริ่มการฉายรังสีเมื่อพร้อม ไม่ว่าตัวไกด์ไม่เก่าเอง(ซึ่งพร้อมเสมอ) และตำแหน่งมะเร็ง ซึ่งของไกด์ไม่เก่าราวๆ 5 ซ.ม. ไกด์ไม่เก่าทราบว่าป่วยเป็นโรคเวรนี่ตอน 22 มิ.ย. 2549 และทราบกำหนดการทำคีโมตอน 23 ก.ค. 2549 จึงมาเวลา 1 เดือนไปเตรียมตัว้วยการว่ายน้ำ เดินออกกำลังกาย และกินอาหารดีๆ หมายถึงกินอาหารที่เหมาะโดยหาหนังสือมาอ่านว่าอะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน โดยเริ่มการฉายรังสีไปก่อนล่วงหน้า (การฉายรังสี ราวๆวันละ 1 นาที จ - ศ ไม่นับ ส - อา) ขั้นแรกเอาไว้ที่ 25 ครั้งก่อน เมื่อถึงวันทำคีโม ไกด์ไม่เก่าเข้าโรงพยาบาล และรับคีโม ซึ่งตอนแรกก่อนฉีดคีโม จะมีการฉีดยาแก้อาเจียน และยาอีกตัวเรียกว่า แด๊กซ่า ( ถ้าจำไม่ผิด ) ทั้ง 2 ตัว ฉีกเข้าทางสายน้ำเกลือ โดยยาแก้อาเจียน จะเป้นขวดเล็กๆ ไม่กี่นาทีก็หมอ ห้อยขวดแบบขวดน้ำเกลือแหละ จากนั้นก็เริ่มเลย โดยเริ่มให้คีโมบ่ายๆวันที่ 2 ที่เข้าโรงหมอ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 7 มิ.ย. 50 22:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อให้เสร็จ ( คีโมหมดขวด ) ก็จะราวๆบ่ายๆของอีกวันนึง ซึ่งยังไม่มีผลอะไร แต่ก็ยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ต้องรอให้น้ำเกลือขวดสุดท้ายหมดก่อน จนอีกวัน ( หลังคืนที่ 3 ผ่านไป ) ออกโรงพยาบาล จำได้ว่าตอนนั้น ตาสู้แสงไม่ได้เลย แดดร้อนมากๆ แสบตา ไม่มีแรง และเริ่มสะอึกแบบหยุดไม่ได้เลย ต้องกินยาแก้สะอึก และอมน้ำแข็งไว้ ผ่านไปอีก 1 คืน จะเริ่มหมดแรงลงไป กินไม่ค่อยลง แต่ต้องกิน เอาอะไรที่กินง่ายๆเช่นซุป โจ๊ก ฯลฯ  บางครั้งก็ไม่สบายท้อง ฉี่บ่อย แต่ก็กินน้ำมากๆเพื่อเคลียร์คีโมที่ค้างในร่างกาย โดยจะรู้สึกร้อนในตัว และมีอาการแบบนี้ราวๆไม่เกิน 3 วัน ทุกครั้งที่โดนคีโม จะอ้วก 1 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่อ้วก ไกด์ไม่เก่าบอกตัวเองว่า แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อย ซึ่งก็จริงดังว่า มันค่อยๆดีขึ้นเรือยๆ จนเรี่ยวแรงกลับมาหลังจากนั้นราวๆ 3 วัน รังสีที่ฉาย ก็เริ่มส่งผลคือ น้ำลายแห้ง กินข้าวเริ่มไม่รู้รส แพ้อาหารรสจัด เผ็ดนิดหน่อยนี่ ไม่ได้เลย ก็เลยต้องเอาฟันอีกข้างเคี้ยว เพราะเป็นด้านขวา ข้างซ้าย พอรับรสได้ แต่ก็ต้องฉายต่อ อาหารหลักคือกล้วยและนมสด ( กินได้แค่ครึ่งลูกและครึ่งแก้ว ก็ไปนอนดีกว่า ) ทำคีโมไป 3 ครั้ง เสร็จราวๆกลางเดือนกันยายน เว้นระยะราวๆ 2 - 3 อาทิตย์ต่อครั้งที่ทำคีโม และที่หน้าเริ่มมีแผลจากรงสี มีสะเก็ดแผล เลือดออก ต้องเอาโลชั่นแก้ผิวแตกทาประทังไว้ จนเสร็จทุกอย่าง ก็ไปทำ CT Scan อีกครั้งราวๆปลายๆกันยายน ก็พบว่ามะเร็ง ขนาดราวๆ 2 ซ.ม. จาก 5 ซ.ม. ก็ถามหมอว่า ยังไงต่อไปดี หมอบอกว่า เดือนธันวาคม Scan มาอีกครั้ง เพราะคีโม อยู่ในตัวเราแค่ 3 - 4 วัน แต่รังสี อยู่เป็น 3 เดือน ( แต่ต้องมาหาหมอทุกเดือน ) และเมื่อเดือน พ.ย. คลำด้วยมือ ไม่พบก้อนเนื้อใดๆ ธันวาคม ไป Scan ก็พบว่า ไม่มีมะเร็งแล้ว ถือว่าเป็นการ "หาย" จากโรค ในวันมะเร็งแห่งชาติพอดี แต่หมอก็บอกว่ายังต้องมาทุกเดือนต่อไปในปีแรกนี้ เพราะมันอาจจะกลับมาได้อีกเมื่อไรก็ได้ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 7 มิ.ย. 50 22:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากที่กินอะไรไม่รู้รส ก็เริ่มดีขึ้น เริ่มรู้รสมากขึ้นเรื่อยๆจนกินอร่อยขึ้นเรื่อยราวๆเดือน ต.ค. จากนั้น ไกด์ไม่เก่าก็ CT Scan อีกครั้งเมื่อ มี.ค. และหมอก็แนะให้ทำ MRI เพราะนี่คือเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการ Scan รูปแบบนี้ ก็ไม่พบมะเร็งอีก จากนั้น ก็ดูแลตัวเองมาแบบนี้แหละ เรื่องของใจที่มี ไกด์ไม่เก่าเป็นคนอารมณ์ดี ถ้าใครทำให้โกรธได้ แปลว่าซวยที่สุดแล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เราหายจากโรคนี้ได้ ไกด์ไม่เก่าไม่หมดกำลังใจ แต่ยอมรับว่า เซ็งได้ แต่อย่าหมดใจจะสู้ และรักษาวินัย ไม่หนีจากหมอไปกลางคัน เพราะการรักษามะเร็งนี้ มันต้องอาศัยเวลาและระยะโรคในการรักษา การรักษาที่ดี มันไม่มีโอกาสบ่อย เวลาที่ดรคเป็นอย่างนี้ เหมาะกับการรักาแบบนี้ที่จะหาย อาจจะมีไม่มาก ถ้าปล่อยใหผ่านไปโดยไม่ทำอะไร ก็แปลว่าหมดโอกาส ต้องทำใจให้สนุกๆสบายๆ หนังสือที่ ไม่แนะให้อ่านเลยคือ มองชีวิตผ่านมะเร็ง ของ ดร.วรฑา อ่านแล้วหมดไฟ อย่าไปอ่านเรื่องใครที่ตายเพราะมะเร็ง แต่ถ้าจะอ่าน เอาเรืองของ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ดีกว่า เพราะแกรอดจากมะเร็งได้ หลายๆท่านแม้คนที่ไกด์ไม่เก่าเจอมา มักกลัวการรักษา เช่นกลัวรังสี บอกว่าทำให้ทรุดลง กลัวคีโม ทำให้ไม่สบาย ให้ไปรักษาแบบชีวจิต อยากบอกว่าไกด์ไม่เก่าไม่ได้ต่อต้านชีวจิต แต่ว่าการรักษาตนเองวิธีนั้น คือผู้ช่วยที่ดีเท่านั้น อย่าเอามาเป็นวิธีหลัก เพราะว่าการรักษาที่หาย ก้คือการรักษาด้วยวิธีปัจจุบันเท่านั้น อาหารการกิน กินได้หมดเลย ไม่ต้องไปอดขนาดนั้นเลย เช่นไข่ ผัก เนื้อก็ได้นะ แต่อย่ามาก มันฝรั่ง แครอท ทำให้อร่อยๆ เช่นสตูว์ ราดหน้าก็ได้ อร่อยดี  ใครที่กินเหล้า สูบบุหรี่ ขอให้งดเลย ( โชคดีที่ไกด์ไม่เก่าไม่กินไม่สูบ ) นี่ก็เป็น "คร่าวๆ" ที่ไกด์ไม่เก่าเป็นและวิธีการเผชิญหน้ากับมะเร็งนะ ไม่รู้มีรายละอียดอะไรที่ต้องการอีกไหม เอาว่าถ้า จขกท มีอะไรเพิ่ม ก้ถามมาดูนะ และหวังว่ามันคงเป็นประโยชน์กับผู้เป็นมะเร็งและผู้ที่มีคนรู้จักเป็นมะเร็งได้ไม่มากก็น้อย ป.ล. เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง ไกด์ไม่เก่าต้องไปตรวจร่างกายดังนี้ 1. ตรวจโพรงจมูก ว่ามีมะเร็งอะไรไหม 2. ตรวจฟัน ถ้ามีผุ อุดให้เรียบร้อย 3. ตรวจเลือด Anti HIVถ้าเราบอกเค้าว่าเราบริสุทธิ์ เดค้าจะตรวจอยู่ไหม 4. ตรวจเลือดเพื่อหาค่าต่างๆว่ารับการรักษาได้ไหม โดยเฉพาะ "ไต" 5. ตรวจปอด จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 7 มิ.ย. 50 22:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอขอบคุณ.. 1. หมอพิชิต สิทธิไตรย์ เจ้าของไข้ 2. หมออิ่มใจ ชิตาพนารักษ์ หมอรังสี 3. หมอวลัยพร พลอยเทศน์ หมอแผนกหูคอจมูก และขอบคุณหมอและท่านอื่นๆที่ไม่ได้บอกมา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 7 มิ.ย. 50 22:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ไกด์ไม่เก่าปูนนี้แล้วยังซิงอยู่อีกเหรอ จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม - [ 7 มิ.ย. 50 23:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณที่คุณไกด์เอามาถ่ายทอดกัน ดีใจด้วยนะครับ ที่รักษาจนหาย ดูแลสุขภาพดีๆนะครับ จากคุณ : ศาสตร์ - [ 8 มิ.ย. 50 09:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เออเนอะ เผื่อบอกเค้าว่าซิงไง หน้างี้เค้าจะเชื่อไหมนะ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 8 มิ.ย. 50 09:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง เผื่อใครจะอยากทราบเป็นประโยชน์ จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 8 มิ.ย. 50 10:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 thanks & vote ka จากคุณ : LoLLiLiLy (lollilily) - [ 8 มิ.ย. 50 10:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รู้สึกจะลืมบอกว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำลาย ไม่ค่อยเจอมากหรอกท่าน จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 8 มิ.ย. 50 10:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะคะ ขอโหวตเก็บเข้าคลังกระทู้ค่ะ จากคุณ : @# k[A]tty #@ - [ 8 มิ.ย. 50 11:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถามหน่อยค่ะ แร้วตลอดเวลาของการรักษาอ่ะ คะ ค่ารักษาของคุณไกด์ไม่เก่าตกอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะ ... แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 50 09:22:16 จากคุณ : cherrytoday - [ 8 มิ.ย. 50 16:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ถ้ามีสิทธิบัตรทองอยู่ก็ใช้สิทธิบัตรทองได้ครับ ^^" จากคุณ : สตอเบอร์รี่นมเขย่า (<Strawberry Milk Shake>) - [ 8 มิ.ย. 50 19:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 vote ka  and very thanks for your kind  writing your own story ka จากคุณ : hit on me - [ 8 มิ.ย. 50 20:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถามหน่อยนะคะ วันที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง ตอนนั้นอยู่ในระยะที่เท่าไหร่คะ เข้าใจว่ารักษาตัวที่เชียงใหม่ ใช่หรือเปล่าคะดูจากชื่อคุณหมอที่รักษา จากคุณ : krittiya_st - [ 8 มิ.ย. 50 23:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ระยะแรก จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า - [ 9 มิ.ย. 50 14:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Hematite - [ 14 มิ.ย. 50 10:21:03 ]